More Related Content
Similar to ใบความรู้ที่ 1 การวิเคราะห์งาน
Similar to ใบความรู้ที่ 1 การวิเคราะห์งาน (20)
ใบความรู้ที่ 1 การวิเคราะห์งาน
- 1. ใบความรูที่ 1
การวิเคราะหงาน
สาระการเรียนรู
1. ความหมายของการวิเคราะหงานหรือการวิเคราะหปญหา
2. หลักการวิเคราะหปญหา
3. การวิเคราะหสิ่งที่โจทยตองการ
4. การวิเคราะหขอมูลนําเขา
5. การวิเคราะหขอมูลออก
6. การวิเคราะหตัวแปรที่เกี่ยวของ
7. การวิเคราะหวิธีการประมวลผล
8. หลักการตั้งชื่อตัวแปร
จุดประสงคการเรียนรู
1. ทําความเขาใจกับปญหาและวิเคราะหสิ่งที่โจทยตองการได
2. อธิบายลักษณะขอมูลเขาได
3. อธิบายลักษณะขอมูลออกได
4. ทดลองแกไขปญหาดวยตนเองได
5. วิเคราะหตัวแปรที่ใชได
6. วิเคราะหวิธีการประมวลผลได
7. ทําการพัฒนาลําดับขั้นตอนวิธีการแกปญหาได
8. มีความสนใจใฝเรียนรู ตั้งใจเรียน
9. มีวินัย เขาเรียนทันเวลา ปฏิบัติตามกฎระเบียบของวิทยาลัยฯ
10. มีความรับผิดชอบงานที่ไดรับมอบหมาย
11. มีความคิดริเริ่มสรางสรรค มีความเชื่อมั่นกลาลองผิดลองถูก
12. มีความซื่อสัตยตอตนเองและผูอื่น
- 2. การวิเคราะหงาน
การวิเคราะหงาน หมายถึง การวิเคราะหปญหา เปนขั้นตอนที่สําคัญของการเขียนโปรแกรม เปนการ
วิเคราะหถึงลักษณะของงาน รายละเอียดปญหาของงานนั้น ๆ การวิเคราะหงานเปนขั้นตอนแรกที่ตองกระทํา
เมื่อตองการเขียนโปรแกรม และเปนขั้นตอนที่สําคัญที่สุด โดยจะตองกําหนดขอบเขตของงานหรือปญหา
รวบรวมรายละเอียดของปญหา วิเคราะหปญหาอยางละเอียด วาตองการใหคอมพิวเตอรทําอะไร ผลลัพธที่
ตองการเปนอยางไร รูปแบบของขอมูลที่จะปอนเขาเครื่องเปนอยางไร ถาตองการผลลัพธเชนนี้ การวิเคราะห
งานเปนการศึกษาผลลัพธ (Output) ขอมูลนาเขา (Input) วิธีการประมวลผล (Process) และการกําหนดชื่อ
ของตัวแปรที่จะใชในการเขียนโปรแกรม
หลักเกณฑในการวิเคราะหงาน
การวิเคราะหงานนับวาเปนหัวใจสําคัญที่สุดของการเขียนโปรแกรม เพื่อสั่งใหคอมพิวเตอรทํางาน ซึ่ง
มีหลักเกณฑการวิเคราะหงานตามลําดับ ดังนี้
1. การวิเคราะหสิ่งที่โจทยตองการ หมายถึง การพิจารณาอยางกวาง ๆ ถึงงานที่ตองการให
คอมพิวเตอรทํางาน งานแตละชนิดอาจตองการใหคอมพิวเตอรแสดงผลลัพธมากกวา 1 อยาง และควรจะ
เขียนใหชัดเจนเปนขอ ๆ ในการพิจารณาสิ่งที่ตองการอาจจะดูที่คําสั่งหรือโจทยของงานนั้น ๆ วาตองการใหทํา
อะไรบาง เปนการกําหนดวัตถุประสงคที่ตองการใหคอมพิวเตอรทํางาน เชน การคํานวณเงินรวมของสินคา ,
การคํานวณภาษี , การคํานวณหาคาคอมมิชชั่นหรือคานายหนา , การคํานวณหาคาแรง, การคํานวณหา
เงินเดือน เปนตน เพราะในการเขียนโปรแกรมจะตองทราบอยางชัดเจนวา ตองการใหคอมพิวเตอรทําอะไร
2. การวิเคราะหรูปแบบของผลลัพธ(Output) หมายถึง การวิเคราะหถึงลักษณะของผลลัพธหรือ
รายงาน หรือรูปแบบของผลลัพธที่เราตองการใหคอมพิวเตอรแสดงออกมา รายละเอียดที่ตองการในรายงาน
หรือผลลัพธนั้น ๆ เปนหนาที่ของผูเขียนโปรแกรมที่จะตองกําหนดรูปแบบวางานที่ตองการใหคอมพิวเตอรทํา
นั้น ควรจะมีรายละเอียดอะไร เพื่อความสะดวกของผูนําผลลัพธไปใช การวิเคราะหผลลัพธเปนสิ่งที่จําเปนและ
มีความสําคัญ และตองพิจารณาอยางละเอียด เพราะการวิเคราะหรายงานจะทําใหเราทราบจุดหมายที่ตองการ
หรือเปนการกําหนดขอบเขตของงานที่เราตองการจะทํานั่นเอง ในการออกแบบรายงานของผลลัพธจะ
ประกอบดวย 3 สวน ดังนี้
1. สวนหัวของรายงาน
2. สวนรายละเอียดของขอมูล
3. สวนทายของรายงาน
3. การวิเคราะหขอมูลนาเขา(Input) หมายถึง ขอมูลที่ปอนเขาไปในคอมพิวเตอร เพื่อทําการ
ประมวลผลใหไดผลลัพธออกมาตามรูปแบบที่ตองการ เปนขั้นตอนที่ตองทําตอจากการวิเคราะหผลลัพธ คือ
หลังจากที่เราไดลักษณะของรายงานแนนอนแลว เราก็มาพิจารณาวาลักษณะของผลลัพธนั้น จะตองมีขอมูล
นําเขาอะไรบาง เพื่อที่จะใหไดผลลัพธที่ตองการ
ในการพิจารณาขอมูลนําเขาเพื่อใหคอมพิวเตอรทํางานนั้น จะตองคํานึงถึงความสอดคลองของขอมูลกับโปรก
รม โดยจะมีการลําดับกอนหลัง กําหนดชนิดของขอมูลวาเปนชนิดอะไรบาง ถาเปนขอมูลชนิดตัวเลข จะ
กําหนดทศนิยมกี่หลัก เปนตน
- 3. 4. การวิเคราะหตัวแปรที่จะใช เปนการกําหนดชื่อแทนความหมายของขอมูลตาง ๆ เพื่อความ
สะดวกในการอางถึงขอมูล และการเขียนโปรแกรม การตั้งชื่อตัวแปรควรจะตั้งใหมีความหมายและเกี่ยวของ
กับขอมูล และควรตั้งชื่อตัวแปรใหเขากับหลักเกณฑของภาษาคอมพิวเตอรนั้น ๆ
5. การวิเคราะหวิธีการประมวลผล เปนขั้นตอนที่จะบอกถึงวิธีการคํานวณ หรือลําดับการทางาน
กอนหลังคํานวณเพื่อใหไดผลลัพธตามที่ผูใชตองการ ตั้งแตการสั่งใหเครื่องรับขอมูลเขาไปทาการประมวลผล
และแสดงผลลัพธออกมา ซึ่งเปนขั้นตอนที่จะตองแสดงการทํางานทุกอยางตามลําดับ จึงจําเปนจะตอง
จัดลําดับการทางานตามลําดับกอนหลังใหละเอียดและถูกตองทุกขั้นตอน เพราะในขั้นตอนนี้จะเปนการนําเอา
ลําดับขั้นตอนการทํางานที่ไดวิเคราะหแลว ไปเขียนโปรแกรมในคอมพิวเตอร ลําดับขั้นตอนการประมวลผล
เขียนได 2 รูปแบบ คือ
1. เขียนลําดับขั้นตอนการทํางานในรูปของการบรรยาย
2. เขียนลําดับขั้นตอนการทํางานในลักษณะของผังงาน (Flowcharting)
การพัฒนาขั้นตอนวิธีการประมวลผล (Algorithm Development)
ขั้นตอนของการพัฒนาลําดับขั้นตอนวิธีการแกปญหา เปนขั้นตอนที่สําคัญอีกขั้นตอนหนึ่ง เพราะเปน
ขั้นตอนที่จะนําไปใชสําหรับพัฒนาใหเปนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอรตอไป ขั้นตอนนี้เปนขั้นตอนที่นําเอา
วิธีการสําหรับการแกปญหา ที่ไดทําการเลือกจากขั้นตอนของการทดลองแกปญหาดวยตนเอง มาทําการเรียบ
เรียงเปนลําดับขั้นตอนวิธีการทํางาน โดยเขียนขั้นตอนวิธีการทํางานเปนขอตั้งแตขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอน
สุดทาย
ขั้นตอนวิธี (Algorithm) คือ การเขียนอธิบายถึงลาดับขั้นตอนการทางานของการแกปญหาในลักษณะ
ของขอความตั้งแตขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดทาย การพัฒนาลําดับขั้นตอนวิธีการแกปญหา มีวิธีการดังนี้
1. เขียนลําดับขั้นตอนวิธีการทํางานทั้งหมดอยางยอ เปนการเขียนการทํางานแตละขั้นตอนอยาง
ยอไมละเอียดมากนัก ตั้งแตขั้นตอนแรกถึงขั้นตอนสุดทาย เพื่อดูภาพรวมของการทํางานของขั้นตอนวิธีการ
แกปญหาทั้งหมด
2. เขียนลําดับขั้นตอนวิธีการทํางานทั้งหมดอยางละเอียด เปนการเขียนรายละเอียดของการทํางาน
ของแตละขั้นตอนที่ไดจากขอ 1 เพื่อใหสามารถทําการเปลี่ยนใหเปนคําสั่งเทียมและโปรแกรม
ภาษาคอมพิวเตอร
3. เขียนลาดับขั้นตอนวิธีการทางานแตละขอใหอยูในรูปของคาสั่งเทียม คําสั่งเทียม (Pseudo
Code) เปนภาษาที่ใกลเคียงกับภาษาคอมพิวเตอร สวนใหญนิยมเขียนเปนภาษาอังกฤษ เมื่อผูที่ทําการเขียน
โปรแกรมตองการนําขั้นตอนวิธีการทํางานที่ไดเรียบเรียงขึ้นมาทําการเขียนเปนโปรแกรมคอมพิวเตอร สามารถ
ทําไดโดยการเปลี่ยนจากคําสั่งเทียมใหเปนภาษาคอมพิวเตอรตามที่ตองการ
หลักในการตั้งชื่อตัวแปร
การตั้งชื่อตัวแปร เปนการกําหนดชื่อเพื่อเก็บคาของขอมูลที่รับเขามาหรือใชแทนความหมาย เก็บคาที่
ไดจากการประมวลผล การตั้งชื่อตัวแปรนั้นจะมีหลักในการตั้งชื่อที่แตกตางกันออกไปแลวแตโปรแกรม ในการ
ตั้งชื่อที่ดีนั้นจะตองตั้งชื่อตัวแปรใหมีความหมายใกลเคียงกับขอมูลมากที่สุด และอยูในกฎเกณฑของการตั้งชื่อ
ตัวแปรของภาษาคอมพิวเตอรที่ใชดวย ดังนี้
1. จะตองขึ้นตนดวยตัวอักษรภาษาอังกฤษ ตัวตอไปจะเปนตัวอักษรหรือตัวเลขก็ได ยกเวนชองวาง
หรือสัญลักษณพิเศษ เชน + , - , * , / , ฯลฯ แตสามารถใชเครื่องหมายขีดลางได
- 4. 2. ในการตั้งชื่อตัวแปรจะตั้งอยางไรก็ไดตามกฎเกณฑขอที่ 1 แตควรตั้งให สื่อความหมาย เพื่อให
ทราบวาตัวแปรนั้นเก็บขอมูลอะไร เชน
CODE ใชเก็บรหัสประจาตัวพนักงาน
SALARY ใชเก็บขอมูลเงินเดือน
TAX ใชเก็บขอมูลของภาษี
หลักการตั้งชื่อตัวแปรจะมีลักษณะคลายกันทุกภาษา โดยแบงตัวแปรออกเปน 3 ชนิด ดังนี้
1. ตัวแปรชนิดตัวเลข (Numeric Variable) เปนตัวแปรที่เก็บขอมูลที่เปนตัวเลข และสามารถนา
ไปคํานวณทางคณิตศาสตรได ทั้งจํานวนเต็มและทศนิยม ไดแก ขอมูล เงินเดือน, นาหนัก , สวนสูง , อายุ ,
ระยะทาง , ราคา เปนตน
ตัวอยางเชน Salary = 15000
Price = 2500
2. ตัวแปรชนิดตัวอักษร (Alphabetic Variable) เปนตัวแปรที่เก็บขอมูลที่เปนตัวอักษร คือ A –
Z และคาที่ไมสามารถนาไปคํานวณได ไดแก ชื่อ-สกุล, วุฒิการศึกษา, ภูมิลาเนา เปนตน
ตัวอยางเชน Name = Chulalak
Surname = Thachaila
3. ตัวแปรชนิดตัวเลขและตัวอักษร (Alphanumeric Variable) ประกอบดวยตัวเลขและ
ตัวอักษรปนกัน หรือสัญลักษณพิเศษอื่น ๆ แตไมสามารถนําไปคํานวณทางคณิตศาสตรได เชน ขอมูลที่อยู,
เบอรโทรศัพท เปนตน
ตัวอยางเชน Address = 211 Mahasarakham 44000
Adds = Dusit Bangkok
ตัวอยางการตั้งชื่อตัวแปรที่สอดคลองกับขอมูล
ชื่อตัวแปร ขอมูล
ID , CODE , NO,KEY,NUMBER
TOTAL , SUM , NET
COUNT
AVERAGE
SUM
NUM1
NUM2
AGE
HEIGHT
YEAR
RATE , INTEREST
SALARY,INCOME
VAT , TAX
รหัสประจําตัว , เลขประจําตัว ,เลขที่ ,หมายเลขสินคา ,รหัส
สิ่งของ
ผลรวม , จํานวนรวม , ยอดรวม
จํานวนนับตาง ๆ , จํานวนสิ่งของ
คะแนนเฉลี่ย, เงินเดือนเฉลี่ย , คาเฉลี่ยตาง ๆ
ผลบวกของจํานวนเลข , ผลรวมคาตาง ๆ
จํานวนเลขตัวที่ 1
จํานวนเลขตัวที่ 2
อายุ
ความสูง
จํานวนป , อายุงาน , ระยะเวลาทํางาน
อัตราดอกเบี้ย
เงินเดือน , คาแรง , คาจาง
ภาษีตาง ๆ
- 5. ชื่อตัวแปร ขอมูล
OT , EXTRA
ADDRERR , ADDR
TEL,PHONE,MOBILE
PRICE
PROFIT
COST
MONEY
BONUS,EXTRA
COMMISION
เงินคาลวงเวลา , เงินพิเศษ
ที่อยู , บานเลขที่
เบอรโทรศัพท
ราคาขายสินคา
กําไร
ราคาตนทุนสินคา
จํานวนเงิน , มูลคาของสิ่งของ
เงินโบนัสพิเศษ
คานายหนา
แกไขปญหาดวยตนเอง
เปนขั้นตอนที่ทดลองหาวิธีการแกปญหาดวยตนเอง โดยหาวิธีในการแกปญหานั้น ๆ วามีวิธีการแกไข
ปญหานั้นอยางไร ถึงจะถูกตองและรวดเร็วมากที่สุด ทั้งนี้ใหสมมติขอมูลขึ้นมา แลวหาวิธีการแกปญหาในแบบ
ตาง ๆ เพื่อหาวิธีที่ดีที่สุด และนําวิธีที่คิดไดไปใหเครื่องคอมพิวเตอรทําการแกไขตอไป เพราะเครื่อง
คอมพิวเตอรไมสามารถทํางานหรือสั่งการแกปญหาเองได ยังคงตองอาศัยการสั่งงานจากมนุษย และถาการ
แกไขปญหาที่คิดขึ้นถูกตอง ขอมูลผลลัพธที่ไดจากคอมพิวเตอรก็จะถูกตองเสมอ แตถาการแกปญหาไมถูกตอง
แลวสงปญหาใหเครื่องคอมพิวเตอรทํางานหาผลลัพธ ผลลัพธที่ไดออกมาก็จะไมถูกตองตลอด
ตัวอยาง ในการคํานวณหารายไดสุทธิของนักเขียนโปรแกรมในแตละเดือน นอกจากไดรับเงินเดือน
แลวจะไดรับคาเขียนโปรแกรม ๆ ละ 1,200 บาท และหักภาษีของรายไดไวเดือนละ 1.5% โดยสมมติขอมูล
นําเขาดังนี้
1. เงินเดือน 20,000 บาท
2. จานวนโปรแกรม 5 โปรแกรม
ทดลองแกปญหาดวยตนเอง เพื่อหารายไดสุทธิในเดือนนี้
รายได = เงินเดือน + (จํานวนโปรแกรม * 1200)
ภาษี = รายได * 0.015
รายไดสุทธิ = รายได – ภาษี
จํานวนเงินที่ตองผอนชําระตอเดือน
รายได = 20000 + (5 * 1200) = 26000
ภาษี = 20000 * 0.015 = 300
รายไดสุทธิ = 26000 – 300 = 25700
- 6. ทดสอบลําดับขั้นตอน
การทดสอบและแกไขโปรแกรม (Program Testing) หลังจากเขียนโปรแกรมเสร็จเรียบรอยแลว
ตองทําการทดสอบโปรแกรมที่เขียนวาทํางานเรียบรอยดีหรือไม มีปญหาตรงจุดไหนบาง และตองทดสอบทุก
จุด ทุกขั้นตอนหลาย ๆ รูปแบบ หากพบขอผิดพลาดจะไดทําการแกไข ขอผิดพลาดที่ผูเขียนโปรแกรมมักพบ
บอยในการเขียนโปรแกรมสั่งใหคอมพิวเตอรทํางาน มี 2 แบบ คือ
1. ผิดหลักไวยากรณ (Syntax Error) หมายถึง การเขียนคําสั่งในภาษานั้นผิดพลาด ถาแกไขให
ถูกตองตามรูปแบบของภาษานั้น ก็สามารถแกไขขอผิดพลาดนี้ได
2. ผิดตรรกวิทยา (Logical Error) หมายถึง การเขียนคําสั่งในภาษานั้น ๆ ถูกตองตามหลัก
ไวยากรณ แตเมื่อสั่งใหโปรแกรมปฏิบัติงานตามคําสั่งของโปรแกรมนั้น ผลลัพธที่ไดอาจเกิดจากการคํานวณ
ผิดพลาด ใหผลลัพธไมตรงตามความตองการของผูใช
ตัวอยางการวิเคราะหงาน
ตัวอยางที่ 1 จงคํานวณหาจํานวนเงินที่ฝากธนาคาร เมื่อครบเวลา 1 ป โดยรับคาเงินตนที่ฝาก อัตราดอกเบี้ย
รอยละ 3 ตอป
วิธีทํา
สิ่งที่ตองการ
1. คํานวณเงินฝากพรอมดอกเบี้ยเมื่อครบ 1 ป
ผลลัพธที่ตองการ
1. หมายเลขบัญชี
2. ชื่อบัญชี
3. เงินตนพรอมดอกเบี้ยเมื่อครบ 1 ป
ขอมูลนําเขา
1. หมายเลขบัญชี
2. ชื่อบัญชี
3. เงินตนที่ฝาก
ตัวแปรที่ใช
1. หมายเลขบัญชี : No
2. ชื่อบัญชี : Name
3. เงินตนที่ฝาก : Money
วิธีการประมวลผล
1. เริ่มตนการทํางาน
2. อานคา No , Name , Money
3. คํานวณ Money = Money + (Money * 0.03)
4. พิมพ No , Name , Money
5. จบการทํางาน
- 7. ตัวอยางที่ 2 จงคํานวณหาคาเฉลี่ยของเลข 3 จํานวนที่รับเขามาทางแปนพิมพ
วิธีทํา
สิ่งที่ตองการ
1. คาเฉลี่ยของเลข 3 จํานวน
ผลลัพธที่ตองการ
1. หมายเลขจํานวนที่ 1
2. หมายเลขจํานวนที่ 2
3. หมายเลขจํานวนที่ 3
4. คาเฉลี่ยของเลข 3 จํานวน
ขอมูลนําเขา
1. หมายเลขจํานวนที่ 1
2. หมายเลขจํานวนที่ 2
3. หมายเลขจํานวนที่ 3
ตัวแปรที่ใช
1. หมายเลขจํานวนที่ 1 : Num1
2. หมายเลขจํานวนที่ 2 : Num2
3. หมายเลขจํานวนที่ 3 : Num3
4. คาเฉลี่ยของเลข 3 จํานวน : Aver
วิธีการประมวลผล
1. เริ่มตนการทํางาน
2. อานคา Num1 , Num2 , Num3
3. คํานวณคาเฉลี่ย Aver = (Num1 + Num2 + Num3) / 3
4. พิมพ Num1 , Num2 , Num3 , Aver
5. จบการทํางาน
- 8. ตัวอยางที่ 3 จงคํานวณหาพื้นที่ของวงกลม จากสูตร ¶r2
วิธีทํา
สิ่งที่ตองการ
1. คํานวณพื้นที่วงกลม
ผลลัพธที่ตองการ
1. รัศมีวงกลม
2. พื้นที่วงกลม
ขอมูลนําเขา
1. รัศมีวงกลม
ตัวแปรที่ใช
1. รัศมีวงกลม : Radius
2. พื้นที่วงกลม : Area
วิธีการประมวลผล
1. เริ่มตนการทํางาน
2. อานคา Radius
3. คํานวณพื้นที่ Area = 22/7 * Radius2
4. พิมพ Radius , Area
5. จบการทางาน
ตัวอยางที่ 4 จงคํานวณหาเงินสวนลดและเงินคาสินคาสุทธิของรานคาการเกษตรแหงหนึ่ง โดยมีเงื่อนไข
ดังตอไปนี้
ถาซื้อสินคา > 10,000 บาท ใหสวนลด 10%
ถาซื้อสินคา 5,000 - 10,000 บาท ใหสวนลด 5%
ถาซื้อสินคา 1000 - 4999 บาท ใหสวนลด 3%
ถาซื้อสินคา < 1000 บาท ไมใหสวนลด
วิธีทํา
สิ่งที่ตองการ
1. คํานวณเงินสวนลดคาซื้อสินคา
2. คํานวณเงินคาสินคาสุทธิเมื่อหักสวนลดแลวที่ลูกคาจะตองจาย
ผลลัพธที่ตองการ
1. รหัสสินคา
2. ราคาสินคา
3. เงินสวนลด
4. เงินสุทธิที่ตองจาย
ขอมูลนําเขา
1. รหัสสินคา
2. ราคาสินคา
- 9. ตัวแปรที่ใช
1. รหัสสินคา : Code
2. ราคาสินคา : Price
3. เงินสวนลด : Discount
4. เงินสุทธิที่ตองจาย : Net
วิธีการประมวลผล
1. เริ่มตนการทํางาน
2. กําหนดคาของเงินสวนลดและเงินสุทธิใหเปน 0 (Discount ,Net ß 0)
3. อานคา Code , Price
4. ถา Price > 10000 ให Discount ß 0.10 แลวทําขอ 3
ถา Price > = 5000 ให Discount ß Price * 0.05 แลวทําขอ 3
ถา Price >= 1000 ให Discount ß Price * 0.03 แลวทําขอ 3
ถา Price < 1000 ให Discount ß 0
5. Net = Price – Discount
6. พิมพ Code, Price, Discount, Net
7. จบการทํางาน
ตัวอยางที่ 5 จงคํานวณหาคาคอมมิชชั่นจากการขายสินคาของพนักงานขาย โดยบริษัทมีเงื่อนไขดังนี้
ถาขายสินคาไดมากกวา 50,000 บาท ใหคอมมิชชั่น 10%
ถาขายสินคาได 20,000 - 50,000 บาท ใหคอมมิชชั่น 7 %
ถาขายสินคาไดนอยกวา 20,000 บาท ใหคอมมิชชั่น 5 %
วิธีทํา
สิ่งที่ตองการ
1. คํานวณหาคาคอมมิชชั่นจากการขายสินคาของพนักงาน
ผลลัพธที่ตองการ
1. รหัสพนักงาน
2. ชื่อพนักงานขาย
3. ยอดขายสินคา
4. คาคอมมิชชั่น
ขอมูลนําเขา
1. รหัสพนักงาน
2. ชื่อพนักงานขาย
3. ยอดขายสินคา
ตัวแปรที่ใช
1. ID = รหัสพนักงาน
2. NAME = ชื่อพนักงานขาย
- 10. 3. SALE = ยอดขายสินคา
4. COMMISSION = คาคอมมิชชั่น
วิธีการประมวลผล
1. เริ่มตนการทํางาน
2. พิมพหัวตาราง
3. กําหนดใหยอดรวมเปน 0 (COMMISSION =0 )
4. อานคา ID, NAME, SALE
5. ตรวจสอบยอดขายสินคา
ถา SALE > 50000 ให COMMISSION = SALE * 0.10 มิฉะนั้นแลว
ถา SALE >= 20000 ให COMMISSION = SALE * 0.07 มิฉะนั้นแลว
COMMISSION = SALE * 0.05
6. พิมพคา ID, NAME, SALE, COMMISSION
7. จบการทางาน
ตัวอยางที่ 6 จงวิเคราะหปญหา เพื่อคํานวณคะแนนเฉลี่ยจากการสอบวิชาหลักการเขียนโปรแกรมของ
นักศึกษา 30 คน
วิธีทํา
สิ่งที่ตองการ
1. คะแนนเฉลี่ยวิชาหลักการเขียนโปรแกรม นักศึกษา 30 คน
ผลลัพธที่ตองการ
1. ชื่อนักศึกษา
2. คะแนนสอบวิชาหลักการเขียนโปรแกรม
3. คะแนนรวมของนักศึกษาจานวน 30 คน
4. คะแนนเฉลี่ย
ขอมูลนําเขา
1. ชื่อนักศึกษา
2. คะแนนสอบวิชาหลักการเขียนโปรแกรม
ตัวแปรที่ใช
1. ชื่อนักศึกษา = NAME
2. คะแนนสอบวิชาหลักการเขียนโปรแกรม = SCORE
3. คะแนนรวมของนักศึกษาจานวน 30 คน = SUM
4. คะแนนเฉลี่ย = AVERAGE
5. จํานวนนักศึกษา = I
วิธีประมวลผล
1. เริ่มตนการทางาน
- 11. 2. กําหนดคา SUM = 0, AVERAGE = 0 , I=1
3. ในขณะที่ I <= 30 ใหทา
3.1 อานคา NAME , SCORE
3.2 คํานวณคะแนนรวม SUM = SUM + SCORE
3.3 พิมพ NAME , SCORE
3.4 เพิ่มคา I = I + 1
4. คํานวณคะแนนเฉลี่ย AVERAGE = SUM/30
5. พิมพ SUM , AVERAGE
6. จบการทํางาน
ตัวอยางที่ 7 จงวิเคราะหปญหาเพื่อคํานวณเงินสวนลดและราคาสุทธิ คาซื้อผาพื้นเมืองของกลุมแมบานแหง
หนึ่ง โดยทางกลุมตั้งราคาขาย และกําหนดเงื่อนไขการใหสวนลดดังนี้
1. ถาซื้อผา >= 1000 หลา ราคาหลาละ 80 บาท
ถาซื้อผา >= 500 หลา ราคาหลาละ 100 บาท
ถาซื้อผา < 500 หลา ราคาหลาละ 120 บาท
2. ถาราคาผา >= 100000 บาท ใหสวนลด 30%
ถาราคาผา >= 50000 บาท ใหสวนลด 20%
ถาราคาผา >= 10000 บาท ใหสวนลด 10%
ถาราคาผา < 100000 บาท ไมใหสวนลด
วิธีทํา
สิ่งที่ตองการ
เงินสวนลดและราคาสุทธิ คาซื้อผาพื้นเมือง
รูปแบบผลลัพธ
1. ชื่อลูกคา
2. จํานวนหลาที่ซื้อผา
3. ราคาผา
4. เงินสวนลด
5. ราคาผาสุทธิ
ขอมูลนาเขา
1. ชื่อลูกคา
2. จํานวนหลาที่ซื้อผา
ตัวแปรที่ใช
1. ชื่อลูกคา = NAME
2. จํานวนหลาที่ซื้อผา = YARD
3. ราคาผา = PRICE
4. เงินสวนลด = DISCOUNT
- 12. 5. ราคาผาสุทธิ = NET
วิธีประมวลผล
1. เริ่มตนการทางาน
2. กําหนดให PRICE , DISCOUNT , NET = 0
3. อานขอมูล NAME, YARD
4. คํานวณราคาผา จากเงื่อนไข
ถา YARD >= 1000 ให PRICE = YARD * 80 มิฉะนั้นแลว
ถา YARD >= 500 ให PRICE = YARD * 100 มิฉะนั้นแลว
ให PRICE = YARD * 120
5. คํานวณเงินสวนลด จากเงื่อนไข
ถา PRICE >= 100000 ให DISCOUNT = PRICE * 0.3 มิฉะนั้นแลว
ถา PRICE >= 50000 บาท ให DISCOUNT = PRICE * 0.2 มิฉะนั้นแลว
ถา PRICE >= 10000 บาท ให DISCOUNT = PRICE * 0.1 มิฉะนั้นแลว
DISCOUNT = 0
6. คํานวณราคาผาสุทธิ NET = PRICE - DISCOUNT
7. พิมพคา NAME, YARD , PRICE, DISCOUNT, NET
8. จบการทํางาน
ตัวอยางที่ 8 จงวิเคราะหปญหาเพื่อคํานวณเงินโบนัสประจําปใหกับพนักงานของบริษัทจํานวน 30 คน และให
คํานวณหาจํานวนเงินโบนัสทั้งหมดที่บริษัทจะตองเตรียมไวเพื่อจายใหกับพนักงาน โดยบริษัทจะคํานวณโบนัส
จากอายุการทํางานตามเงื่อนไขดังนี้
ถาทํางาน >= 20 ป ใหโบนัส 5 เดือน
ถาทํางาน >= 10 ป ใหโบนัส 4 เดือน
ถาทํางาน >= 5 ป ใหโบนัส 3 เดือน
ถาทํางาน < 5 ป ใหโบนัส 2 เดือน
วิธีทํา
สิ่งที่ตองการ
เงินโบนัสของพนักงานแตละคน และเงินโบนัสรวมทั้งหมด
รูปแบบผลลัพธ
1. ชื่อพนักงาน
2. อายุการทํางาน
3. เงินเดือน
4. เงินโบนัส
5. เงินโบนัสรวมทั้งหมด
ขอมูลนําเขา
1. ชื่อพนักงาน
2. อายุการทํางาน
- 13. 3. เงินเดือน
ตัวแปรที่ใช
1. ชื่อพนักงาน : NAME
2. อายุการทํางาน : YEAR
3. เงินเดือน : SALARY
4. เงินโบนัส : BONUS
5. เงินโบนัสรวมทั้งหมด : TOTAL
6. จํานวนพนักงาน : I
วิธีประมวลผล
1. เริ่มตนการทํางาน
2. กําหนดให BONUS , TOTAL = 0
3. กําหนดให I = 1
4. ในขณะที่ I <= 30 ใหทํา
4.1 อานขอมูล NAME, YEAR , SALARY
4.2 คํานวณเงินโบนัส จากเงื่อนไข
4.2.1 ถา YEAR >= 20 ให BONUS = SARARY * 5 มิฉะนั้นแลว
4.2.2 ถา YEAR >= 10 ให BONUS = SARARY * 4 มิฉะนั้นแลว
4.2.3 ถา YEAR >= 5 ให BONUS = SARARY * 3 มิฉะนั้นแลว
4.2.4 BONUS = SARARY * 2
4.3 พิมพ NAME, YEAR , SALARY, BONUS
4.4 สะสมเงินโบนัส TOTAL = TOTAL + BONUS
4.5 นับจํานวนพนักงาน I = I + 1
5. พิมพเงินโบนัสรวมทั้งหมด TOTAL
6. จบการทํางาน
- 14. แบบฝกหัดที่ 1
1. จงวิเคราะหปญหาเพื่อคํานวณหาพื้นที่รูปสี่เหลี่ยมผืนผา
2. จงวิเคราะหปญหา เพื่อคํานวณความสูงเฉลี่ยของนักศึกษาจานวน 15 คน
3. จงวิเคราะหปญหา เพื่อคํานวณหาผลบวก , ผลคูณ และผลหาร ของเลขสองจานวนที่รับเขามาทาง
แปนพิมพ
4. จงวิเคราะหปญหาเพื่อคํานวณหารายไดสุทธิของพนักงาน โดยที่พนักงานมีรายไดประจาจาก
เงินเดือน,เงินลวงเวลาและเงินชวยเหลือบุตร ทุกเดือนจะถูกหักภาษี 2% จากเงินเดือนและเงินลวงเวลา
5. จงวิเคราะหปญหา เพื่อคํานวณรายไดสุทธิของพนักงานจํานวนทั้งหมด 20 คน โดยรายไดมาจาก
เงินเดือนและคาคอมมิชชั่นรอยละ 20 จากการขายสินคา พนักงานจะถูกหักเงินประกันสังคมเดือนละ 3%
จากรายได และใหคํานวณยอดรวมของคาคอมมิชชั่น, เงินประกันสังคม และรายไดสุทธิ