More Related Content
Similar to ตัวฉัน ปรับแล้ว 1
Similar to ตัวฉัน ปรับแล้ว 1 (18)
ตัวฉัน ปรับแล้ว 1
- 3. แรกเกิด เป็นเด็กผู้หญิง น้ำหนักแรกเกิด 2,980 กรัม ยาว 47 เซนติเมตร ฉันจะมีน้ำหนักน้อย ไม่ค่อยจะทานนม แต่เป็นเด็กแข็งแรง น้ำหนักและส่วนสูงไม่ค่อยจะเพิ่ม การพัฒนาการเป็นไปตามมาตรฐานของเด็กทั่วไป เด็กแรกเกิดจะได้รับการฉีดวัตซีน BCG ( วัณโรค ) , ตับอักเสบบี ทันที แม้ว่าในช่วงนี้ยัง ไม่มีฟันขึ้น หลังดูดนมแม่หรือนมขวด ก็จะตามด้วยน้ำทุกครั้ง เพื่อล้างคราบน้ำนม เมื่อมีฟันเริ่มขึ้น ก็จะเช็ดฟันด้วยผ้าสะอาด การรับประทานอาหารจะเป็นเวลา รับประทานอาหารได้ทุกชนิด หลังจากนั้นก็จะมีการฉีดวัตซีนตามเกณฑ์มาตราฐานที่กำหนดครบทุกเข็ม รับการหยอดโปลิโอ การใช้ฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุและนอกเหนือที่กำหนด เช่น วัตซีนโรคอีสุกอีใส ในช่วงดังกล่าวฉันมักมีน้ำตาเอ่อที่ดวงตา ทราบว่าเป็นอาการท่อน้ำตาตัน จึงมีการรักษาโดยเบี้องต้นให้ทำการคลึงบริเวณหัวตา พร้อมกับหยอดตา ในการรับประทานอาหารก็เป็นไปตามวัย ครบ 5 หมู่ รวมทั้งผักผลไม้ แต่ยังดื่มนมครบ 3 มื้อและก่อนนอน พร้อมทั้งวิ่งเล่นเพื่อเป็นการออกกำลังกายด้วย ฉันในอดีต
- 5. อายุ 1 – 2 ขวบ ช่วง 2541 – 2542 ร่ายกายเจริญเติมโตมากขึ้น มีน้ำหนัก ประมาณ 14 กิโลกรัม สูงประมาณ 80 เซนติเมตร ก้าวเดินได้คล่อง รับประทานอาหารได้มากขึ้นและทุกชนิด แต่จะเน้นกับข้าวมากกว่าข้าว เพื่อจะให้มีน้ำหนักบ้าง ตักอาหารรับประทานเองได้ นมก็ยังเป็นอาหารหลักเหมือนกัน และยังรับประทานผลไม้เป็นประจำเพื่อช่วยในการขับถ่าย สามารถบอกเมื่อปวดปัสสาวะ เป็นเด็กที่นอนง่ายไม่งอแง เริ่มพูดและเรียกคำว่าพ่อ คำว่าแม่ และลงบันไดได้เอง เป็นช่วงที่มีน้ำหนักมาก รู้จักแปรงฟันตอนเช้าและก่อนเข้านอน ต้องมีความระมัดระวังมากขึ้นเนื่องจากเดิน วิ่ง และซนมากขึ้น ช่วงนี้จะมีการหยิบจับของเล่นมากเพื่อจะได้ฝึกกล้ามเนื้อมือ การฉีดวัคซีนก็เป็นไปตามกำหนด สำหรับการรักษาท่อน้ำตาตันก็ยังใช้วิธีการเดิมตลอด สุขภาพอื่นแข็งแรงดี
- 7. อายุ 2 – 5 ขวบ ช่วง 2543 – 2546 น้ำหนักประมาณ 15 – 22 กิโลกกรัม สูงประมาณ 112 เซนติเมตร เข้าเรียนเตรียมอนุบาล จนถึงชั้นอนุบาล 3 รับประทานอาหารได้ทุกประเภท มีการฝึกกล้ามมือ โดยการขยำกระดาษและวาดรูประบายสี สุขภาพแข็งแรง แต่มักเป็นไข้หวัดบ่อยเนื่องจากเป็นภูมิแพ้ ซึ่งเป็นโรคประจำตัว วิ่งเล่นได้มากขึ้น แปรงฟันเอง ขึ้นลงบันไดสลับเท้าได้ และพูดเป็นประโยคได้ดี เรียกชื่อสิ่งของและรู้จักสีต่างๆ ได้ เนื่องจากการรักษาอาการท่อน้ำตันยังไม่หายขาด จึงต้องเข้ารับการผ่าตัด โดยวิธีการแยงท่อน้ำตาข้างซ้าย แต่ไม่นาน ก็ต้องรักษาข้างขวาต่อ การเจริญเติมโตเป็นไปตามการพัฒนาปกติ เป็นเด็กร่าเริง แต่จะเป็นหวัดง่าย เนื่องจากเป็นภูมิแพ้ชนิดเล็กน้อย มีการตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน ฉีดวัคซีนตามกำหนด กิจกรรมที่ชอบส่วนมากจะดูซีดีเพลงประกอบการศึกษาภาษาอังกฤษ คุยเก่งขึ้น ชอบการแสดง เคลื่อนไหวตามจังหวะดนตรี และมีการเข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับดนตรีในกีฬาสี เริ่มมีการทำกิจกรรมนอกโรงเรียนบ้าง เช่นการเข้าร่วมแข่งขันของผลิตภัณฑ์อะแลคต้า
- 9. อายุ 5 – 9 ขวบ ช่วง 2547 – 2549 กำลังศึกษาในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1- 3 น้ำหนักประมาณ 23 – 30 กิโลกรัม ส่วนสูง 116 - 127 เซนติเมตร สุขภาพแข็งแรง รู้จักรักษาร่างกายให้สะอาด ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร และหลังขับถ่าย ดูแลรักษาฟันให้แข็งแรงและแปรงฟันทุกวัน มีการตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน มีการออกกำลังกาย เช่นวิ่งเล่น ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ เป็นเด็กร่าเริงแจ่มใส ชอบช่วยเหลือผู้อื่น รับประทานอาหารครบทั้ง 3 มื้อ และยังดื่มนมอยู่เป็นประจำ ในระยะช่วงนี้มักเลือกรับประทานอาหารเฉพาะที่ตัวเองชอบเป็นส่วนใหญ่ ในช่วงปิดเทอมก็จะไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ คุณปู่ คุณย่า คุณตา และคุณยาย ฯลฯ รู้จักการ เป็นช่วงที่ให้ความสนใจกับสิ่งรอบตัว เป็นเด็กช่างซัก ช่างถาม อยากรู้อยากเห็น ในวัยนี้จะเริ่มมีเพื่อนมากขึ้น ชอบอ่านหนังสือมาก สามารถเข้าใจคำชี้แจงง่าย ๆ มีความสนใจในการเล่นต่าง ๆ สามารถแสดงละครง่าย ๆ ได้ สนใจการวาดภาพ ดูภาพยนตร์ โทรทัศน์ การ์ตูน ฟังวิทยุ และชอบนิทาน
- 11. อายุ 10 – 12 ขวบ ช่วง 2550 – 2552 กำลังศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4- 6 เป็นช่วงวัยรุ่น น้ำหนัก 34 – 40 กิโลกรัม ส่วนสูง ประมาณ 132 - 149 เซนติเมตร เป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายทุกระบบ ทั้งด้านร่างกายและด้านจิตใจ ตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน เริ่มมีการติดเพื่อน มีปัญหาด้านสิวเสี้ยน มีการเริ่มออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น เช่น กระโดดตบ ว่ายน้ำ ตีแบด เป็นช่วงระยะที่ต้องใช้สมองในการเรียนมากขึ้น ทำกิจกรรมมาก การรับประทานยังมีการเลือกรับประทาน แต่ต้องดื่มนมอยู่เป็นประจำ คุณพ่อคุณแม่มักเอาใจใส่ดูแลเรื่องการรับประทานอาหารมากขึ้น ยิ่งในช่วง 12 ขวบ ต้องใช้สมองในการเตรียนมาก การพักผ่อนก็ไม่ค่อยจะเพียงพอ เพราะต้องเตรียมการสอบเลื่อนชั้น มักสนใจสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นพิเศษ รู้จักดูแลตัวเองมากขึ้น เริ่มเล่นและทำงานเป็นกลุ่ม มีน้ำใจให้เพื่อนอยู่เสมอ บางครั้งเป็นคนเจ้าอารมณ์บ้าง รู้จักการวิพากษ์วิจารณ์ กล้าแสดงออกมากขึ้น และจะมีความกังวล เริ่มเอาใจใส่การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ต้องการให้ผู้อื่นเข้าใจและยอมรับในการเปลี่ยนแปลงของตนด้วย และเริ่มมีประจำเดือน จึงต้องดูแลร่างกายมากเป็นพิเศษ Back
- 13. อายุ 13 ปี ช่วง พ . ศ .2553 ปัจจุบันฉันเรียนอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายทุกระบบ โดยจะมีความคิดหมกมุ่นกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ซึ่งจะส่งผลกระทบไปยังจิตใจ ทำให้อารมณ์หงุดหงิดและแปรปรวนง่าย ซึ่งพ่อแม่ก็เข้าใจฉันมากขึ้น ให้ฉันได้แสดงความคิดเห็น รู้จักการใช้เหตุผลมากขึ้น การรับประทานอาหารจะได้รับคำแนะนำให้ระมัดระวังมาก เพื่อที่จะได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ตามหลักโภชนบัญญัติ ด้านสุขภาพแข็งแรงมีภูมิต้านทานมากขึ้น ออกกำลังกายมากขึ้น จึงทำให้รับประทานอาหารได้ ด้านรูปร่างมีการเปลี่ยนแปลงดูผอมลง แต่น้ำหนักยังคงเดิม จึงต้องรับประทานวิตามินเสริมบ้าง มีการตรวจสุขภาพประจำปี จากศูนย์สุขภาพวิริยะอนามัยและการแพทย์ ซึ่งทางโรงเรียนจัดให้ ฉันในปัจจุบัน
- 14. ซึ่งผลตรวจถือว่าได้ตามเกณฑ์ ส่วนสูงและน้ำหนัก สมส่วน ค่อนข้างผอม สุภาพฟันก็ปกติ การตรวจปอดก็ปกติ ส่วนระบบร่างกายอื่นๆ ถือว่าปกติ ซึ่งดูตารางเปรียบเทียบน้ำหนักและส่วนสูงได้จากตางรางข้างล่างนี้ ที่ 2 150 42 ที่ 1 ส่วนสูง ( ซม .) น้ำหนัก ( กก .) ภาคเรียน 152.5 43.5 สัปดาห์ที่ 8 152 43.5 สัปดาห์ที่ 7 152 44 สัปดาห์ที่ 6 151 44 สัปดาห์ที่ 5 151 43 สัปดาห์ที่ 4 151 43 สัปดาห์ที่ 3 150 42 สัปดาห์ที่ 2 150 42.5 สัปดาห์ที่ 1 ส่วนสูง ( ซม .) น้ำหนัก ( กก .) ตารางเปรียบเทียบ น้ำหนัก ส่วนสูง ช่วงเวลา 8 สัปดาห์ ( 1 พย . – 31 ธค . 53)
- 17. ฉันในอนาคต ฉันฝันว่าในอนาคตต้องการเหมือน พิม - พิมประภา ตั้งประภาพร หรือพี่พิม มีรูปร่างสมส่วน สูงประมาณ 165 ซ . ม . เพราะพี่เขาเป็นคนที่มีบุคคลิกที่ดี หุ่นดีสุขภาพแข็งแรง มีความสามารถมากมาย เช่น ร้องเพลงเพราะ เต้นหรือแสดงละคร ฉันคิดว่าอยากเป็นแบบพี่พิม และเพื่อเป็นแบบนั้น ฉันต้องออกกำลังกายให้มากขึ้น รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และเลือกที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แล้วควรหมั่นดูแลรักษาและบำรุงผิวหน้าและผิวกายให้สะอาดอยู่เสมอ แม้จะอยู่ในวัยนี้ฉันคิดว่าก็ยังต้องดื่มนมอยู่เป็นประจำ เพื่อเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง Back
- 19. สุขภาพครอบครัวของฉัน สุขภาพของคนในครอบครัว ทุกคนดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน คุณพ่อฉันจะออกกำลังกายทุกวัน โดยการบริหารร่างกายประมาณอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง น้องฉันก็จะวิ่งเล่นหรือไม่เล่นตีแบดกับฉัน เล่นบาส ขี่จักรยาน เป็นเด็กที่แข็งแรงมาก ส่วนฉันแม้จะไม่ค่อยจะชอบการออกกำลังกาย แต่ก็ต้องปฏิบัติเกือบทุกวัน เพื่อให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรค ซึ่งช่วงนี้ฉันได้ว่ายน้ำทุกวันเสาร์ มีการออกกำลังกายบ้างในวันหยุดอื่นๆ ส่วนคุณแม่แม้จะไม่ได้ออกกำลังกายอย่างเต็มที่ ก็มีการบริหารร่างกายแบบเบาๆ โดยแกว่งแขน บริหารร่างกายด้วยท่าแอโรบิค ดูแลเรื่องอาหาร พยายามทำอาหารเอง เพื่อให้คนในครอบครัวได้รับประโยชน์จากสารอาหารที่ถูกสุขลักษณะและปลอดภัย เลือกอาหารที่มีประโยชน์ แนะนำความรู้เกี่ยวกับประเภทอาหารที่มีประโยชน์ และยังมีการตรวจสุขภาพประจำปีประจำทุกปีด้วย ในวันหยุดช่วงระยะเวลาหลายวัน ก็มักจะชวนกันไปพักผ่อนต่างจังหวัดชมธรรมชาติ รู้จักการให้ การทำทาน มีจิตสำนึกต่อส่วนร่วมเท่าที่ทำได้
- 20. ส่วนคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย ทุกคนมีสุขภาพดี เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ แม้ว่าอายุจะมากกันทุกคน คุณปู่ของฉันอดีตเป็นทหาร ทั้งยังเป็นนักกีฬา จึงชอบการออกกำลังกาย พยายามเดือนให้ลูกๆ หลานๆ ออกกำลังกายเป็นประจำ คุณย่า คุณยาย ก็ดูแลเรื่องอาหารเช่นกัน พยายามทำอาหารรับประทานเอง เพื่อให้เหมาะสมกับวัยของท่าน ทั้งยังมีการตรวจสุขภาพประจำปีเป็นประจำ ทุกคนจึงมีสุขภาพแข็งแรง แม้ว่าจะมีโรคประจำตัวกันบ้างตามอายุอันสมควร Back
- 22. 6.06 4 21 30 151.5 43 2/2553 6.22 0 23 27 150 44 1/2553 ( นาที ) ( ซ . ม .) ( ครั้ง ) ( ครั้ง ) ( ซ . ม .) ( ก . ก ) วิ่ง ความอ่อนตัว ดันพื้น ลุกนั่ง ส่วนสูง น้ำหนัก ภาคเรียน สมรรถภาพทางกาย ประจำปีการศึกษา 2553