Anzeige

Más contenido relacionado

Presentaciones para ti(20)

Anzeige

Último(20)

Anzeige

Work1 m33no22 23

  1. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนาเสนองาน ด.ช.นรบดี เสียงเสนาะ ม.3/3 เลขที่ 22 ด.ช. ภากร เกษมศรี ม.3/3 เลขทั่ 23
  2. การนาเสนอ (Presentation) เป็นวิธีการหรือเครื่องมือในการติดต่อสื่อสาร (Communication) ด้วย การถ่ายทอด(Delivery) ข้อมูล แผนงาน โครงการ ข้อเสนอ ฯลฯ จากผู้นาเสนอผลงาน กับผู้พิจารณา ผลงานหรือจากผู้นาเสนอ ไปสู่บุคคล กลุ่มเป้ าหมาย เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน ให้บุคคล กลุ่มเป้ าหมายหรือผู้รับสาร เห็นด้วย คล้อยตาม สนับสนุน อนุมัติ ให้ดาเนินการ
  3. วัตถุประสงค์ในการนาเสนอ การนาเสนองานเป็นการถ่ายทอดข้อมูล หรือความรู้จากผู้ส่งสาร หรือผู้พูดไปยังผู้รับสารหรือผู้ฟัง เพื่อให้ผู้รับสารทราบ ได้รับความรู้ หรือโน้มน้าวใจของผู้รับสารตามที่ผู้ส่งสารตั้งวัตถุประสงค์เอาไว้ โดยทั่วไปการนาเสนองานมีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้ 1.เพื่อให้ผู้รับสารทราบข้อมูล หรือความรู้ตามที่ผู้ส่งสารถ่ายทอด 2.เพื่อให้ผู้รับสารเกิดการเรียนรู้และเข้าใจ สิ่งที่ผู้ส่งสารถ่ายทอดหรือให้ความรู้ 3.เพื่อโน้มน้าวใจของผู้รับสารให้เกิดการยอมรับ ตามที่ผู้ส่งสารต้องการ
  4. ผู้ฟัง การฟัง เป็นทักษะที่มีความสาคัญในชีวิตประจาวันของมนุษย์ เพราะมนุษย์ต้องอาศัยการฟัง เพื่อการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และจาเป็นต้องใช้ ความคิดพิจารณาไตร่ตรอง และเอาใจใส่เป็นพิเศษ จึงจะช่วยให้การฟังหรือดูมีประสิทธิภาพ การฟังต้องมีจุดมุ่งหมาย ในการฟังเรื่องใด ๆ ก็ตาม ผู้ฟังควรตั้งจุดมุ่งหมาย ในการฟัง ซึ่งมีจุดมุ่งหมายหลัก 3 ประการ คือ 1) ฟังเพื่อความรู้ ได้แก่ การฟังเรื่องราวที่เป็นวิชาการ ข่าวสารและข้อแนะนาต่าง ๆ การฟังเพื่อความรู้ จาเป็นต้องฟังให้เข้าใจและ จดจาสาระสาคัญให้ได้ 2) ฟังเพื่อความเพลิดเพลิน คือ การฟังเรื่องราวที่สนุกสนานเพลิดเพลิน ทาให้ผ่อนคลายความตึงเครียดจากภารกิจการงานและ สิ่งแวดล้อม 3) ฟังเพื่อให้ได้รับคติหรือความจรรโลงใจ คือ การฟังเรื่องที่ทาให้เกิดแนวคิด และสติปัญญา เกิดวิจารณญาณ ขัดเกลาจิตใจให้มี คุณธรรม การฟังประเภทนี้ต้องรู้จักเลือกฟัง และเลือกเชื่อในสิ่งที่ถูกที่ควรซึ่งจะช่วยให้ผู้ฟัง มีคติในการดาเนินชีวิตไปในทางดีงาม และ รู้จักสร้างสรรค์ประโยชน์เพื่อสังคม
  5. ผู้นาเสนองาน ในการนาเสนอด้วยวาจา คุณสมบัติอันเป็นลักษณะประจาตัวของผู้นาเสนอ ถือได้ว่าเป็นส่วนสาคัญของความสาเร็จใน การนาเสนอ เพราะคุณสมบัติของผู้นาเสนอจะมีอิทธิพลต่อการโน้นน้าวชักจูงให้เกิดความสนใจ ความไว้วางใจ เชื่อถือ และ การยอมรับได้มาก เท่ากับหรือมากกว่าเนื้อหาที่นาเสนอ ผู้นาเสนอที่ประสพความสาเร็จส่วนใหญ่ จะมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ 1. มีบุคลิกดี 2. มีความรู้อย่างถ่องแท้ 3. มีความน่าเชื่อถือไว้วางใจ 4. มีความเชื่อมั่นในตนเอง 5. มีภาพลักษณ์ที่ดี 6. มีน้าเสียงชัดเจน 7. มีจิตวิทยาโน้นน้าวใจ 8. มีความสามารถในการใช้โสตทัศนอุปกรณ์ 9. มีความช่างสังเกต 10. มีไหวพริบปฏิภาณในการคาถามดี
  6. ข้อมูลที่ใช้ในการนาเสนอ ข้อมูลที่ใช้ในการนาเสนอ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1 ข้อมูลจากเอกสารหรือหลักฐานต่าง ๆ เป็นข้อมูลที่บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร เช่น หนังสือ บทความ วิทยานิพนธ์ รายงาน หนังสืออ้างอิง วารสาร นิตยสาร หนังสือพิมพ์ จุลสาร กฤตภาค จารึกและจดหมายเหตุ แผ่น ภาพโปสเตอร์ อินเทอร์เน็ต เป็นต้น 2 ข้อมูลภาคสนาม เป็นข้อมูลที่รวบรวมขึ้นจากการสารวจ การสังเกต การสัมภาษณ์ แบบสอบถาม หรือการ ทดลอง ข้อมูลที่นาเสนอนี้จะต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้องและคัดกรองมาแล้วเพื่อนในการนาเสนอจะไม่เกิดข้อผิดผลาดเช่นข้อมูลไม่ตรงกับความ จริง ขักกับหลักฐาน
  7. กระบวนการในการนาเสนอ การนาเสนอ ถือเป็นทักษะที่จาเป็นของคนทางานทั้งในสังคมธุรกิจ และงานราชการ ที่จะเป็นส่วนหนึ่งนาไปสู่ ความสาเร็จในหน้าที่การงาน การที่ จะประสบความสาเร็จในการนาเสนอที่ดี ผู้นาเสนอจะต้องมีความเข้าใจในความหมาย ความสาคัญของการนาเสนอ ต้องเป็นผู้ที่รู้รูปแบบ ขั้นตอน ของการนาเสนอ รู้ลักษณะของการนาเสนอที่ดี เสริมสร้างคุณสมบัติ ลักษณะของตัวตน รวมถึงพัฒนาทักษะที่เป็นตัวตนเป็นเอกลักษณ์ในการ นาเสนออย่างมีประสิทธิภาพ ลักษณะและรูปแบบการนาเสนอ รูปแบบการนาเสนอ(ที่นิยมใช้) มี 3 วิธีการ คือ 1. มี ผู้นาเสนอ และใช้เอกสารประกอบ(Handout)เป็นส่วนร่วมในการนาเสนอ 2. มี ผู้นาเสนอ ใช้วัสดุ-อุปกรณ์เครื่องฉาย เป็นสื่อ และมี เอกสารประกอบ เป็นส่วนร่วม 3. จัดเป็น Display ในรูปของนิทรรศการ ที่ใช้ Post line เป็นเส้นนาทาง และ(อาจ)มี เอกสารประกอบ เป็นส่วนร่วม
  8. หลักการนาเสนอที่ดี 1.ต้องก่อประโยชน์ทั้งต่อฝ่ายผู้นาเสนอและผู้รับการนาเสนอ 2. ต้องคานึงถึงผู้รับการนาเสนอเป็ นหลัก 3. ต้องมีจุดมุ่งหมายที่มีความเป็ นไปได้ 4.ต้องไม่กาหนดจุดมุ่งหมายมากหลากหลายจนคลุมเครือ 5. ต้องกาหนดจุดมุ่งหมายให้สอดคล้องกับสถานการณ์
  9. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนาเสนองาน จุดประสงค์การเรียนรู้ บอกความหมายและความสาคัญของการนาเสนอข้อมูลได้ อธิบายกระบวนการในการนาเสนอข้อมูลได้ อธิบายหลักการออกแบบและการนาเสนอที่ดีได้ เลือก Software สร้างงานนาเสนอได้เหมาะสมกับลักษณะการนาเสนอ เลือกใช้อุปกรณ์และเครื่องมือช่วยในการนาเสนอได้ สาระสาคัญ การนาเสนองาน เป็นการสื่อสารเพื่อนาเสนอข้อมูล ความรู้ ความคิดเห็น ความต้องการไปยังผู้ฟังหรือผู้รับสาร โดยใช้วิธีการ เทคนิคต่าง ๆ เพื่อให้ผู้รับสารเกิดความเข้าใจตามเจตนาหรือวัตถุประสงค์ของผู้ส่งสาร (ผู้นาเสนอ) และเนื่องจากในปัจจุบันเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีความ เจริญก้าวหน้า ทาให้รูปแบบการนาเสนองานในปัจจุบันมีความแตกต่างจากสมัยก่อน ผู้นาเสนองานจึงต้องเลือกรูปแบบการนาเสนอ เลือก ประเภทของซอฟต์แวร์เพื่อสร้างงานนาเสนอ รวมทั้งเลือกใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ช่วยในการนาเสนอ ปฏิบัติตามกระบวนการนาเสนอ อัน ประกอบด้วย 1) ทาความเข้าใจเกี่ยวกับประเด็นหรือเรื่องราวที่จะนาเสนอ 2) การเตรียมและรวบรวมข้อมูล 3) การจัดทาสื่อเพื่อนาเสนอ 4) การตรวจสอบและฝึกซ้อมการนาเสนอ 5) การนาเสนอ เพื่อนาไปสู่การนาเสนอที่ประสบความสาเร็จ
  10. อุปกรณ์และเครื่องมือช่วยในการนาเสนองาน 1. เครื่องเสียงและเครื่องขยายเสียง ใช้ในการบันทึกเสียงหรือกระจายเสียง ในการนาเสนอรูปแบบของการบรรยายเพื่อให้ผู้รับฟังได้ยินเสียงผู้บรรยายชัดเจนและ น่าสนใจ 2. เครื่องคอมพิวเตอร์ จัดเป็นเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว ซึ่งสามารถนามาใช้ในการนาเสนอได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพสูง สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้หลายรูปแบบ คอมพิวเตอร์จึงสามารถนาเสนอข้อมูลได้ทุกรูปแบบอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้ ซอฟต์แวร์ในการประมวลผล และนาเสนอผ่านอุปกรณ์แสดงผลและอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ 3. โปรเจ็คเตอร์(Projector) Projector เป็นอุปกรณ์ฉายภาพที่ใช้ในการนาเสนอ โดยสามารถรองรับสัญญาณภาพจากคอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นวีซีดี เครื่องเล่นดีวีดี และเครื่องกาเนิดภาพอื่น ๆ แล้วแสดงผล ขยายขนาดบนจอรับภาพ ช่วยให้มองเห็นได้ไกลขึ้น เหมาะสาหรับการนาเสนอ ข้อมูลในห้องประชุม เพื่อให้ผู้เข้าประชุมมองเห็นภาพหรือข้อความได้อย่างชัดเจน
  11. ซอฟต์แวร์ที่ใช้ ในการนาเสนองาน โปรแกรมที่ใช้ในการนาเสนอ ในปัจจุบันโปรแกรมที่ใช้ในการนาเสนอ มีให้เลือกใช้งานกันหลายโปรแกรม ส่วนช่องทางการนาเสนอผลงานมี 2 ช่องทาง คือ แบบออฟไลน์ (offline) โดยรวมใช้โปรแกรม PowerPoint นาเสนองานหรือโปรแกรมสร้างสื่อ CAI เป็นต้น และช่องทางแบบออนไลน์ (online) คือใช้เว็บไซต์ในการนาเสนองานดังตัวอย่างโปรแกรมต่อไปนี้ 1.Microsoft PowerPoint (ไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์)เป็นสุดยอดโปรแกรมนาเสนอข้อมูล(พรีเซนเตชั่น) ที่มีผู้ใช้มาก เพราะใช้งานได้ง่ายที่สุด 2.Macromedia Authorware เป็นโปรแกรมลักษณะ multimedia ที่ใช้สร้างบทเรียน CAI เพื่อช่วยในการเรียน การสอน 3.Swish 2.0 หรือ Swish 3D เป็นโปรแกรม Multimediaที่ใช้สร้างไฟล์ .swf หรือ Flash ในการนาเสนอผลงาน SPECIAL Effect เกี่ยวกับภาพและตัวหนังสือ
Anzeige