More Related Content
Similar to วิจัยแบบเรียนสำเร็จรูป
Similar to วิจัยแบบเรียนสำเร็จรูป (20)
More from Wichai Likitponrak
More from Wichai Likitponrak (20)
วิจัยแบบเรียนสำเร็จรูป
- 1. รายงานการวิจัยในชั้นเรียน
เรื่อง
ผลการจัดกิจกรรมโดยใชแบบเรียนสําเร็จรูปและแนวการสอนแบบโครงงานรายวิชา
ชีววิทยา 1 (ว 31241) เรื่อง บทนําทางชีววิทยา ที่มีตอผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติ
ทางวิทยาศาสตรของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4 โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน
วิชัย ลิขิตพรรักษ
ตําแหนงครูผูชวย กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร
รายงานการวิจัยฉบับนี้ เปนสวนหนึ่งของการปฏิบัติงาน
โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร
ป พ.ศ. 2556
รายงานการวิจัยในชั้นเรียน
เรื่อง
ผลการจัดกิจกรรมโดยใชแบบเรียนสําเร็จรูปและแนวการสอนแบบโครงงานรายวิชา
ชีววิทยา 1 (ว 31241) เรื่อง บทนําทางชีววิทยา ที่มีตอผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติ
ทางวิทยาศาสตรของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4 โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน
วิชัย ลิขิตพรรักษ
ตําแหนงครูผูชวย กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร
รายงานการวิจัยฉบับนี้ เปนสวนหนึ่งของการปฏิบัติงาน
โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร
ป พ.ศ. 2556
รายงานการวิจัยในชั้นเรียน
เรื่อง
ผลการจัดกิจกรรมโดยใชแบบเรียนสําเร็จรูปและแนวการสอนแบบโครงงานรายวิชา
ชีววิทยา 1 (ว 31241) เรื่อง บทนําทางชีววิทยา ที่มีตอผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติ
ทางวิทยาศาสตรของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4 โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน
วิชัย ลิขิตพรรักษ
ตําแหนงครูผูชวย กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร
รายงานการวิจัยฉบับนี้ เปนสวนหนึ่งของการปฏิบัติงาน
โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร
ป พ.ศ. 2556
- 3. งานวิจัยในชั้นเรียน (Teacher research)
เรื่อง
ผลการจัดกิจกรรมโดยใชแบบเรียนสําเร็จรูปและแนวการสอนแบบโครงงานรายวิชาชีววิทยา 1
(ว 31241) เรื่อง บทนําทางชีววิทยา ที่มีตอผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติทางวิทยาศาสตร
ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4 โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน
บทคัดยอ :
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ของกลุมสาระการเรียนรู
วิทยาศาสตร ประกอบดวยสาระหลัก 8 สาระ ซึ่งมีเปาหมายใหผูเรียนทุกคนที่จะไดรับการพัฒนาทั้ง
ดานความรู กระบวนการคิด กระบวนการสืบเสาะหาความรู การแกปญหา ความสามารถในการ
สื่อสาร การตัดสินใจ การนําความรูไปใชในชีวิตประจําวัน ตลอดจนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค
คุณธรรมและคานิยมที่ถูกตองเหมาะสม โดยมุงเนนความเปนไทยควบคูกับสากลหรือ “เปนคนเกง
เปนคนดี และเปนคนที่มีความสุข” แตปจจุบันกลับพบวาผลสัมฤทิ์ทางการเรียนในรายวิชา
วิทยาศาสตรโดยสวนใหญไมผานเกณฑมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัด นอกจากนี้ยังพบวาเจตคติตอ
วิชาวิทยาศาสตรโดยภาพรวมของนักเรียนมีแนวโนมในทางที่ไมดีมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งผูวิจัยไดรับ
มอบหมายการสอนในรายวิชาชีววิทยา 1 (ว 31241) เรื่อง บทนําทางชีววิทยา ภาคเรียนที่ 2 ประจําป
การศึกษา 2555 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4 แผนการเรียนวิทยาศาสตร-คณิตศาสตร
โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน จึงมีความสนใจที่จะหาแนวทางในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจต
คติทางวิทยาศาสตรใหสูงขึ้นโดยนํานวัตกรรมแบบเรียนสําเร็จรูปที่จัดทําขึ้นเพื่อใชเปนเครื่องมือ
ประกอบการจัดการเรียนรูแบบโครงงานเพื่อกระตุนใหผูเรียนเกิดการเรียนรูอยางตอเนื่อง ผลปรากฏ
วา ผลคะแนนจากการทดสอบหลังการใชแบบเรียนสําเร็จรูปและแนวการสอนแบบโครงงาน ( X =
8.90 ,SD = 2.234) สูงกวาผลคะแนนจากการทดสอบกอนการใชแบบเรียนสําเร็จรูปและแนวการ
สอนแบบโครงงาน ( X = 7.37 ,SD = 1.771) อยางมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น .05 (t
= -4.015, sig = 0.000) และผลการทําแบบประเมินเจตคติตอวิทยาศาสตรของนักเรียนหลังใช
แบบเรียนสําเร็จรูปและแนวการสอนแบบโครงงาน พบวา นักเรียนมีคาเฉลี่ยเจตคติตอวิทยาศาสตร
หลังเรียนมากที่สุดในขอที่ 4 คือ ในชั่วโมงวิทยาศาสตรขาพเจาจะไมแอบอานหนังสือการตูน ( X
=3.80, SD = 0.459) และนอยที่สุดในขอที่ 19 คือ ชั่วโมงวิทยาศาสตรเปนชั่วโมงที่ขาพเจารอคอย (
X =2.51, SD = 0.746) ซึ่งผูวิจัยจะตองนําไปพัฒนาปรับปรุงแบบเรียนสําเร็จรูปและแนวการสอน
แบบโครงงานใหเหมาะสมกับการเรียนรูของผูเรียนอยางตอเนื่องตอไป
ข.
- 4. กิตติกรรมประกาศ
รายงานการวิจัยในชั้นเรียนฉบับนี้จะไมสบประความสําเร็จไดเลยถาขาดการเปดโอกาสจาก
โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน อีกทั้งการอํานวยความสะดวกในดานตางๆ โดยเฉพาะอยางยิ่งทาน
ผูอํานวยการโรงเรียนนายสกุล ทองเอียด, ทานรองผูอํานวยการสํานักบริหารวิชาการนายวิเชียร หรู
วิจิตรพงษและนางวนิดา เรียวไพศาลศักดา หัวหนากลุมสาระวิทยาศาสตรที่คอยชวยเหลือและ
สนับสนุนเปนอยางดีมาโดยตลอด
ขอขอบคุณครูอาจารยโรงเรียนศีลาจารพิพัฒนทุกทาน โดยเฉพาะอยางยิ่งกลุมสาระการ
เรียนรูวิทยาศาสตรที่ไดชวยเหลือแนะนําการทํางานดานตางๆ ทําใหไดเรียนรูและสั่งสมประสบการณ
เกี่ยวกับกระบวนการจัดการเรียนการสอนซึ่งทําใหการทํางานวิจัยครั้งนี้มีความถูกตองมากยิ่งขึ้น
ขอขอบคุณคณาจารยสาขาวิจัยการศึกษา ภาควิชาการประเมินและการวิจัย คณะ
ศึกษาศาสตร มหาวิทยาลัยรามคําแหงทุกทาน ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรูทางดานการวิจัยทาง
การศึกษา ทําใหผูวิจัยทํางานวิจัยครั้งนี้ไดสมบูรณตามหลักวิชาการดานการวิจัยทางการศึกษา
หากรายงานการวิจัยฉบับนี้ทําใหเกิดประโยชนแกครู อาจารย บุคลากรทางการศึกษาและ
ผูสนใจศึกษาหาความรูทั่วไป ขอมอบคุณงามความดีอันพึงมีในครั้งนี้แดครอบครัว ครูบาอาจารยและ
ผูเกี่ยวของทุกทานที่ไดอบรมเลี้ยงดูและประสิทธิ์ประสาทวิชาความรูตางๆแดผูวิจัย จนทําใหผูวิจัยมี
ความรูความสามารถที่จะดําเนินการวิจัยในครั้งนี้เปนผลสําเร็จ
วิชัย ลิขิตพรรักษ
ตําแหนงครูผูชวย กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร
โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน
ค.
- 5. สารบัญ
หนา
ปก ก.
บทคัดยอ ข.
กิตติกรรมประกาศ ค.
สารบัญ ง.-จ.
บทที่ 1 : บทนํา 1-3
- ความเปนมาและความสําคัญของปญหา 1
- วัตถุประสงคของการวิจัย 2
- ขอบเขตของการวิจัย 2
- นิยามเชิงศัพท 2
- สมมติฐานของการวิจัย 3
- ขอจํากัดงานวิจัย 3
- ประโยชนที่ไดรับจากการวิจัย 3
บทที่ 2 : เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวของ 4-25
- ยุคสังคมแหลงการเรียนรู (learning –based society) 4
- หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 4-7
- คุณภาพของผูเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 7-8
- บทเรียนสําเร็จรูป 9-16
- การเรียนการสอนแบบโครงงาน 17-18
- ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร 19-20
- เจตคติทางวิทยาศาสตร 20-24
- กรอบความคิดในการศึกษาวิจัย 25
บทที่ 3 : วิธีดําเนินการวิจัย 26-29
- ขั้นตอนและวิธีการดําเนินการวิจัย 26
- ประชากรและกลุมตัวอยาง 26-27
- ตัวแปรในการศึกษาวิจัย 27
- ขอมูลที่ใชในการวิจัย 27
- เครื่องมือ 27-28
- การเก็บรวบรวมขอมูล 28-29
- การวิเคราะหขอมูล 29
ง.
- 6. หนา
- การนําเสนอขอมูล 29
บทที่ 4 : ผลการวิจัย 30-42
บทที่ 5 : สรุป อภิปราย และขอเสนอแนะ 43-46
- สรุปผลการวิจัย 43-44
- อภิปรายผลการวิจัย 44-45
- ขอเสนอแนะ 46
ภาคผนวก
บรรณานุกรม
ประวัติผูวิจัย
จ.
- 7. บทที่ 1 บทนํา
ความเปนมา และความสําคัญของปญหา
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ของกลุมสาระการ
เรียนรูวิทยาศาสตร ประกอบดวยสาระหลัก 8 สาระ ซึ่งมีเปาหมายใหผูเรียนทุกคนที่จะไดรับการ
พัฒนาทั้งดานความรู กระบวนการคิด กระบวนการสืบเสาะหาความรู การแกปญหา ความสามารถใน
การสื่อสาร การตัดสินใจ การนําความรูไปใชในชีวิตประจําวัน ตลอดจนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค
คุณธรรมและคานิยมที่ถูกตองเหมาะสม โดยมุงเนนความเปนไทยควบคูกับสากลหรือ “เปนคนเกง
เปนคนดี และเปนคนที่มีความสุข”
วิทยาศาสตรมีบทบาทสําคัญยิ่งตอการพัฒนาความคิดมนุษย ทําใหมนุษยมีความคิด
สรางสรรค คิดอยางมีเหตุผล เปนระบบมีแบบแผน สามารถวิเคราะหปญหาหรือสถานการณไดอยางถี่
ถวนรอบคอบ ชวยใหคาดการณ วางแผน ตัดสินใจแกปญหาและนําไปใชในชีวิตประจําวันไดอยาง
ถูกตองเหมาะสม นอกจากนี้วิทยาศาสตรยังเปนเครื่องมือในการศึกษาทางดาน เทคโนโลยีและศาสตร
อื่นๆอีกมากมาย วิทยาศาสตรจึงมีประโยชนตอการดําเนินชีวิต ชวยพัฒนาคุณภาพชีวิตใหดีขึ้น และ
สามารถอยูรวมกับคนอื่นไดอยางมีความสุข
ปจจุบันเมื่อทําการสํารวจผลการเรียนรายวิชาชีววิทยา 1 (ว 31241) เรื่อง บทนํา
ทางชีววิทยา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4 โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน โดยภาพรวมปรากฏวาต่ํา
กวาเกณฑมาตรฐานและมีแนวโนมลดลงอยางตอเนื่อง ซึ่งสวนหนึ่งอาจมาจากธรรมชาติของรายวิชาที่
ตองอาศัยกระบวนการจําเปนหลักและยากตอความเขาใจเพราะเนื้อหาวิชามีจํานวนมาก นอกจากนี้
ยังขึ้นอยูกับพื้นฐานความรูความเขาใจและความสามารถหรือความพรอมที่แตกตางกันของผูเรียนแต
ละคน อีกทั้ง เจตคติในทางลบตอวิชาวิทยาศาสตรยังเปนอุปสรรคตอการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการ
เรียนของผูเรียนโดยเฉพาะอยางยิ่งดานทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร ดังนั้น ผูวิจัยจึงเกิด
แนวคิดที่จะนํานวัตกรรมแบบเรียนสําเร็จรูปที่จัดทําขึ้นเพื่อใชเปนเครื่องมือในการจัดกิจกรรมการ
เรียนรูใหผูเรียนเรียนรูดวยตนเองตามขั้นตอนที่กําหนดไวพรอมกับแนวการจัดการเรียนรูแบบ
โครงงานเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรอันเปนการสงเสริมเจตคติที่ดีทางดาน
วิทยาศาสตร ก็นาจะชวยใหนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาชีววิทยา (ว 31241) เรื่อง บท
นําทางชีววิทยา เพิ่มขึ้นจากเดิมได
1.
- 8. วัตถุประสงค
1. เพื่อพัฒนาบทเรียนสําเร็จรูปและแนวการสอนแบบโครงงาน รายวิชาชีววิทยา
(ว 31241) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4 เรื่อง บทนําทางชีววิทยา
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติทางวิทยาศาสตร รายวิชาชีววิทยา
(ว 31241) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4 เรื่อง บทนําทางชีววิทยา ระหวางกอนและหลัง
การใชแบบเรียนสําเร็จรูปและแนวการสอนแบบโครงงาน
3. เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนโดยใชบทเรียน
สําเร็จรูปและแนวการสอนแบบโครงงาน รายวิชาชีววิทยา (ว 31241) ระดับชั้น
มัธยมศึกษาปที่ 4 เรื่อง บทนําทางชีววิทยา
ขอบเขตของการวิจัย
การวิจัยครั้งนี้เปนการวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4
แผนการเรียนวิทยาศาสตร-คณิตศาสตร ภาคเรียนที่ 2 รายวิชาชีววิทยา (ว 31241) เนื้อหาบทเรียน
เรื่อง บทนําทางชีววิทยา โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร
นิยามเชิงศัพท
บทเรียนสําเร็จรูป หมายถึง บทเรียนที่ผูสอนจัดทําขึ้นเพื่อใชเปนเครื่องมือในการจัดกิจกรรม
การเรียนรูใหผูเรียนเรียนรูดวยตนเอง ในแตละสาระการเรียนรูที่กําหนดไวในแตละบทเรียน โดยเริ่ม
จากเนื้อหาสาระที่งาย ๆ ไปสูเนื้อหาที่ยากขึ้นไปตามลําดับ เปนบทเรียนที่สรางขึ้นโดยกําหนด
วัตถุประสงค เนื้อหา วิธีการ และสื่อการเรียนการสอนไวลวงหนา ผูเรียนสามารถศึกษา คนควา และ
ประเมินผลการเรียนดวยตนเองตามขั้นตอนที่กําหนดไว
การเรียนการสอนแบบโครงงาน หมายถึง การจัดเรียนการสอนซึ่งเปดโอกาสใหผูเรียน เรียนรู
เรื่องใดเรื่องหนึ่งตามความสนใจของผูเรียนอยางลุมลึก โดยผานกระบวนการหลักคือกระบวนการ
แกปญหาโดยวิธีการทางวิทยาศาสตร ผูเรียนจะเปนผูลงมือปฏิบัติเพื่อคนหาคําตอบดวยตนเองและ
เรียนรูจากการไดมีประสบการณตรงจากแหลงเรียนรู
ผลสัมฤทธิ์การเรียนของผูเรียน หมายถึง ผลคะแนนที่ไดจากการทดสอบดวยเครื่องมือ
แบบทดสอบที่ครูผูสอนจัดทําขึ้นโดยยึดตามมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดในรายวิชาชีววิทยา (ว
31241) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4 แผนการเรียนวิทยาศาสตร-คณิตศาสตร เรื่อง บทนําทาง
ชีววิทยา
เจตคติทางวิทยาศาสตร หมายถึง อารมณหรือความรูสึกของผูเรียนตอรายวิชาวิทยาศาสตร
โดยเฉพาะอยางยิ่งชีววิทยา อันบังเกิดจากการรับรูตอสิ่งนั้นๆ โดยแสดงพฤติกรรมโนมเอียงอยางใด
อยางหนึ่งในรูปการประเมินเชน ชอบ – ไมชอบในการเรียนวิทยาศาสตร เปนตน
2.
- 9. สมมติฐานการวิจัย
นักเรียนที่เรียนจากการจัดกิจกรรมโดยใชบทเรียนสําเร็จรูปและแนวการสอนแบบโครงงาน
รายวิชาชีววิทยา (ว 31241) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4 เรื่อง บทนําทางชีววิทยา มีผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนและเจตคติทางวิทยาศาสตรหลังเรียนสูงกวาผลคะแนนจากการทดสอบกอนเรียนอยางมี
นัยสําคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น .05
ขอจํากัดงานวิจัย
รายงานการวิจัยฉบับนี้เปนการพัฒนานวัตกรรมทางการศึกษาเฉพาะบทเรียนสําเร็จรูปและ
แนวการสอนแบบโครงงานพรอมเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหวางกอนเรียนและหลังเรียน
นอกจากนี้ยังใชแบบประเมินเจตคติทางวิทยาศาสตรโดยตัวนักเรียนเปนผูประเมินเอง ในรายวิชา
ชีววิทยา (ว 31241) เรื่อง บทนําทางชีววิทยา เทานั้น มิไดเปรียบเทียบทั้งปการศึกษาและทุกเนื้อหา
การเรียนรู ดังนั้น การศึกษาวิจัยในครั้งนี้จะเนนเฉพาะผลการเรียนรูในดานพุทธิพิสัยและดานจิตพิสัย
เทานั้นมิไดครอบคลุมดานทักษะพิสัย
ประโยชนที่ไดรับจากการวิจัย
1. เปนการประยุกตใชนวัตกรรมทางการศึกษาแบบเรียนสําเร็จรูปและแนวการสอนแบบ
โครงงานเพื่อยกระดับคุณภาพมาตรฐานการศึกษาของชาติ
2. เปนวิธีการหรือแบบอยางแกครู อาจารย หรือบุคลากรทางการศึกษาอื่นๆ สามารถนําไปใช
เพื่อพัฒนาการเรียนรูของผูเรียนตอไป
3. เปนการสงเสริมองคความรูและพื้นฐานความเขาใจของการวิจัยในชั้นเรียนทางดานการศึกษา
ผลการใชแบบเรียนสําเร็จรูปและแนวการสอนแบบโครงงาน
3.
- 10. บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวของ
ยุคสังคมแหลงการเรียนรู (learning –based society)
ในสังคมแหงการเรียนรู หรือในยุคปฏิรูปการเรียนรูนั้น การพัฒนาผูเรียนใหเปนผูเกง ดี มี
ความสุข คือ การพัฒนาดานตอไปนี้
1) พัฒนาดานปญญา คือ ใหผูเรียนมีความรู ความเขาใจในสาระมีทักษะการคิดและ
กระบวนการคิด รวมทั้งพัฒนาปญญาอยางหลากหลาย เชน ปญญาทางดนตรี ปญญาทางศิลปะ เปน
ตน
2) พัฒนาดานอารมณ คือ ใหผูเรียนมีอารมณรื่นเริง แจมใส มองโลกในแงดี เปนผูมีมนุษย
สัมพันธ มีสุขภาพจิตดี
3) พัฒนาทางดานสังคม คือ ใหผูเรียนมีการปรับตัวเขากับสังคมไดงาย ปรับตัวเขากับบุคคล
ในทุกระดับที่เกี่ยวของไดงาย มีปฏิสัมพันธกับบุคคลตางๆ สามารถทํางานรวมกับผูอื่น คือ ทํางานเปน
กลุม ทํางานเปนทีมไดอยางดี
4) พัฒนาดานรางกาย คือ ใหผูเรียนเปนผูที่มีการเจริญทางรางกายเปนไปตามพัฒนาการทาง
กาย มีสุขภาพกายแข็งแรง ไมเปนโรคและปลอดจากยาเสพติด
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 จัดทําขึ้นเพื่อใหเขตพื้นที่
การศึกษา หนวยงานระดับทองถิ่นและสถานศึกษาทุกสังกัดที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไดนําไปใช
เปนกรอบและทิศทางในการพัฒนาหลักสูตรและจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนไทย
ทุกคนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งมีการกําหนดวิสัยทัศน หลักการ จุดหมาย สมรรถนะสําคัญ
ของผูเรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค มาตรฐานการเรียนรูพรอมใหรายละเอียดในแตละกลุมสาระ
การเรียนรู ไดกําหนดมาตรฐานการเรียนรูเปนเปาหมายสําคัญของการพัฒนาคุณภาพผูเรียน
มาตรฐานการเรียนรูระบุสิ่งที่ผูเรียนพึงรูและปฏิบัติได มีคุณธรรม จริยธรรมและคานิยมที่พึง
ประสงค ที่ตองการใหเกิดแกผูเรียน เมื่อจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน นอกจากนั้น มาตรฐานการเรียนรู
ยังเปนกลไกสําคัญในการขับเคลื่อนพัฒนาการศึกษาทั้งระบบ เพราะมาตรฐานการเรียนรูจะสะทอน
ใหทราบวาตองการอะไร ตองสอนอะไร จะสอนอยางไร และประเมินอยางไร รวมทั้งเปนเครื่องมือ
ในการตรวจสอบเพื่อการประกันคุณภาพการศึกษา รวมถึงการกําหนดตัวชี้วัดระบุสิ่งที่ผูเรียนพึงรู
และปฏิบัติได รวมทั้งคุณลักษณะของผูเรียนในแตละระดับชั้น ซึ่งสะทอนถึงมาตรฐานการเรียนรู มี
ความเฉพาะเจาะจงและมีความเปนรูปธรรม นําไปใชในการกําหนดเนื้อหา จัดทําหนวยการเรียนรู
จัดการเรียนการสอน และเปนเกณฑสําคัญสําหรับการวัดและประเมินผล เพื่อตรวจสอบคุณภาพ
ผูเรียน
4.
- 11. 5.
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
2.
3. มีวินัย
4. ใฝ่เรียนรู้
5. อยู่อย่างพอเพียง
6.
7. รักความเป็นไทย
8. มีจิตสาธารณะ
สมรรถนะสําคัญของผู้เรียน
1.
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
จุดหมาย
1.
2. การใช้เทคโนโลยีและมี
ทักษะชีวิต
3.
4.
ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
5.
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
๑.กิจกรรมแนะแนว
๒.กิจกรรมนักเรียน
๓.
สาธารณประโยชน์
วิสัยทัศน์
ร
การศึกษาต่อ การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต โดย
สามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ
๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้
1. ภาษาไทย 2. คณิตศาสตร์ 3. วิทยาศาสตร์
4. สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 5. สุขศึกษาและพลศึกษา 6. ศิลปะ
7. การงานอาชีพและเทคโนโลยี 8. ภาษาต่างประเทศ
- 12. สาระและมาตรฐานการเรียนรูวิทยาศาสตร
สาระที่ 1 สิ่งมีชีวิตกับกระบวนการดํารงชีวิต
มาตรฐาน ว 1.1 เขาใจหนวยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต ความสัมพันธของโครงสรางและหนาที่ของระบบ
ตางๆของสิ่งมีชีวิตที่ทํางานสัมพันธกันมีกระบวนการสืบเสาะหาความรื่อสารสิ่งที่เรียนรูและนําความรู
ไปใชในการดํารงชีวิตของตนเองและดูแลสิ่งมีชีวิต
มาตรฐาน ว 1.2 เขาใจกระบวนการและความสําคัญของการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพ การใชเทคโนโลยีชีวภาพที่มีผลกระทบตอ
มนุษยและสิ่งแวดลอม มีกระบวนการสืบเสาะหาความรูและจิตวิทยาศาสร สื่อสารสิ่งที่เรียนรูและนํา
ความรูไปใชประโยชน
สาระที่ 2 ชีวิตกับสิ่งแวดลอม
มาตรฐาน ว 2.1 เขาใจสิ่งแวดลอมในทองถิ่น ความสัมพันธระหวางสิ่งแวดลอมกับสิ่งมีชีวิต
ความสัมพันธระหวางสิ่งมีชีวิตตางๆในระบบนิเวศ มีกระบวนการสืบเสาะหาความรูและจิตวิทยา
ศาสตร สื่อสารสิ่งที่เรียนรูและนําความรูไปใชประโยบชน
มาตรฐาน ว 2.2 เขใจความสําคัญของทรัพยากรธรรมชาติ การใชทรัพยากรธรรมชาติระดับทองถิ่น
ประเทศและโลก นําความรูไปใชในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในทองถิ่นอยาง
ยั่งยืน
สาระที่ 3 สารและสมบัติของสาร
มาตรฐาน ว 3.1 เขาใจสมบัติของสาร ความสัมพันธระหวางสมบัติของสารกับโครงสรางและแรงยึด
เหนี่ยวระหวางอนุภาค มีกระบวนการสืบเสาะหาความรูและจิตวิทยาศาสตรสื่อสารสิ่งที่เรียนรูและนํา
ความรูไปใชประโยชน
มาตรฐาน ว 3.2 เขาใจหลักการและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสาร การเกิด
สารละลาย การเกิดปฏิกิริยา มีกระบวนการสืบเสาะหาความรูและจิตวิทยาศาสตร สื่อสารสิ่งที่เรียนรู
และนําความรูไปใชประโยชน
สาระที่ 4 แรงและการเคลื่อนที่
มาตรฐาน ว 4.1 เขาใจธรรมชาติของแรงแมเหล็กไฟฟา แรงโนมถวง และแรงนิวเคลียร มีกระบวนการ
สืบเสาะหาความรู สื่อสารสิ่งที่เรียนรูและนําความรูไปใชประโยชนอยางถูกตองและมีคุณธรรม
มาตรฐาน ว 4.2 เขาใจลักษณะการเคลื่อนที่แบบตางๆของวัตถุในธรรมชาติ มีกระบวนการสืบเสาะหา
ความรูและจิตวิทยาศาสตร สื่อสารสิ่งที่เรียนรูและนําความรูไปใชประโยชน
สาระที่ 5 พลังงาน
มาตรฐาน 5.1 เขาใจความสัมพันธระหวางพลังงานกับการดํารงชีวิต การเปลี่ยนรูปพลังงาน
ปฏิสัมพันธระหวางสารและพลังงาน ผลของการใชพลังงานตอสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดลอม มีกระบวนการ
สืบเสาะหาความรู สื่อสารสิ่งที่เรียนรูและนําความรูไปใชประโยชน
สาระที่ 6 กระบวนการเปลี่ยนแปลงของโลก
6.
- 13. มาตรฐาน ว 6.1 เขาใจกระบวนการตางๆ ที่เกิดขึ้นบนผิวโลกและภายในโลก ความสัมพันธของ
กระบวนการตางๆ ที่มีผลตอการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ภูมิประเทศและสัณฐานของโลก มี
กระบวนการสืบเสาะหาความรูและจิตวิทยาศาสตร สื่อสารสิ่งที่เรียนรูและนําความรูไปใชประโยชน
สาระที่ 7 ดาราศาสตรและอวกาศ
มาตรฐาน ว.7.1 เขาใจวิวัฒนาการของระบบสุริยะ กาแล็กซี่และเอกภพ การปฏิสัมพันธภายในระบบ
สุริยะและผลตอสิ่งมีชีวิตบนโลก มีกระบวนการสืบเสาะหาความรูและจิตวิทยาศาสตร สื่อสารสิ่งที่
เรียนรูและนําความรูไปใชประโยชน
มาตรฐาน ว 7.2 เขาใจความสําคัญของเทคโนโลยีอวกาศที่นํามาใชในการสํารวจอวกาศและ
ทรัพยากรธรรมชาติ ดานเกษตรและการสื่อสาร มีกระบวนการสืบเสาะหาความรูและจิตวิทยาศาสตร
สื่อสารสิ่งที่เรียนรูและนําความรูไปใชประโยชนอยางมีคุณธรรมตอชีวิตและสิ่งแวดลอม
สาร
สาระที่ 8 ธรรมชาติของวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 8.1 ใชกระบวนการทางวิทยาศาสตรและจิตวิทยาศาสตรในการสืบเสาะหาความรู การ
แกปญหา รูวาปรากฏการณทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นสวนใหญมีรูปรางที่แนนอนสามารถอธิบายและ
ตรวจสอบไดภายใตขอมูลและเครื่องมือที่มีอยูในชวงเวลานั้นๆ เขาใจวาวิทยาศาสตร เทคโนโลยี
สังคมและสิ่งแวดลอมมีความเกี่ยวของสัมพันธกัน
คุณภาพของผูเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6
1. เขาใจการรักษาดุลยภาพของเซลลและกลไกการรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
2. เขาใจกระบวนการถายทอดสารพันธุกรรม การแปรผัน-มิวเทชัน วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ความ
หลากหลายของสิ่งมีชีวิตและปจจัยที่มีผลตอการอยูรอดของสิ่งมีชีวิตในสิ่งแวดลอมตางๆ
3. เขาใจกระบวนการ ความสําคัญและผลของเทคโนโลยีชีวภาพตอมนุษย สิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดลอม
4. เขาใจอนุภาคสําคัญที่เปนสวนประกอบในโครงสรางอะตอม การจัดเรียงธาตุในตารางธาตุ การ
เกิดปฏิกิริยาเคมีและเขียนสมการเคมี ปจจัยที่มีผลตออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
5. เขาใจชนิดแรงยึดเหนี่ยวระหวางอนุภาคและสมบัติตางๆของสารที่มีความสัมพันธกับแรงยึดเหนี่ยว
6. เขาใจการเกิดปโตรเลียม การแยกแกสธรรมชาติและการกลั่นลําดับสวนน้ํามันดิบ การนําผลิตภัณฑ
ปโตรเลียมไปใชประโยชนและผลตอสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดลอม
7. เขาใจชนิด สมบัติ ปฏิกิริยาที่สําคัญของพอลิเมอรและสารชีวโมเลกุล
8. เขาใจความสัมพันธระหวางปริมาณที่เกี่ยวกับการเคลื่อนที่แบบตางๆ สมบัติของคลื่นกล คุณภาพ
ของเสียงและการไดยิน สมบัติ ประโยชนและโทษของคลื่นแมเหล็กไฟฟา กัมมันตภาพรังสีและ
พลังงานนิวเคลียร
9. เขาใจกระบวนการเปลี่ยนแปลงของโลกและปรากฏการณทางธรณีที่มีผลตอสิ่งมีชีวิตและ
สิ่งแวดลอม
7.
- 14. 10. เขาใจการเกิดและวิวัฒนาการของระบบสุริยะ กาแล็กซี่ เอกภพ และความสําคัญของเทคโนโลยี
อวกาศ
11. เขาใจความสัมพันธของความรูวิทยาศาสตรที่มีผลตอการพัฒนาเทคโนโลยีประเภทตางๆและกร
พัฒนาเทคโนโลยีที่สงผลใหมีการคิดคนความรูทางวิทยาศาสตรที่กาวหนา ผลของเทคโนโลยีตอชีวิต
สังคมและสิ่งแวดลอม
12. ระบุปญหา ตั้งคําถามที่จะสํารวจตรวจสอบ โดยมีการกําหนดความสัมพันธระหวางตัวแปรตางๆ
สืบคนขอมูลจากหลายหลากแหลง ตั้งสมมติฐานที่เปนไปไดหลายแนวทาง ตัดสินใจเลือก ตรวจสอบ
สมมติฐานที่เปนไปได
13. วางแผนการสํารวจตรวจสอบเพื่อแกปญหาหรือตอบคําถาม วิเคราะห เชื่อมโยง ความสัมพันธ
ของตัวแปรตางๆ โดยใชสมการทางคณิตศาสตรหรือสรางแบบจําลองจากผลหรือความรูที่ไดรับจาก
การสํารวจตรวจสอบ
14. สื่อสารความคิด ความรูจากผลการสํารวจตรวจสอบโดยการพูด เขียน จัดแสดง หรือใชเทคโนโลยี
สารสนเทศ
15. ใชความรูและกระบวนการทางวิทยาศาสตรในการดํารงชีวิต การศึกษาหาความรูเพิ่มเติม ทํา
โครงงานหรือสรางชิ้นงานตามความสนใจ
16. แสดงถึงความสนใจ มุงมั่น รับผิดชอบ รอบคอบและซื่อสัตยในการสืบเสาะหาความรูโดยใช
เครื่องมือและวิธีการที่ใหไดผลถูกตองเชื่อถือได
17. ตระหนักถึงคุณคาของความรูวิทยาศาสตรและเทคโนโลยีที่ใชในชีวิตประจําวัน การประกอบ
อาชีพ แสดงถึงความชื่นชม ภูมิใจ ยกยอง อางอิงผลงาน ชิ้นงานที่เปนผลจากภูมิปญญาทองถิ่นและ
การพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัย
18. แสดงความซาบซึ้ง หวงใย มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการใชการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดลอมอยางรูคุณคา เสนอตัวเองรวมมือปฏิบัติกับชุมชนในการปองกัน ดูแลทรัพยากรธรรมชาติ
และสิ่งแวดลอมของทองถิ่น
19. แสดงถึงความพอใจและเห็นคุณคาในกรคนพบความรู พบคําตอบ หรือแกปญหาได
20. ทํางานรวมกับผูอื่นอยางสรางสรรคแสดงความคิดเห็นโดยมีขอมูลอางอิงและเหตุผลประกอบ
เกี่ยวกับผลของการพัฒนาและการใชวิทยาศาตรและเทคโนโลยีอยางมีคุณธรรมตอสังคมและ
สิ่งแวดลอม และยอมรับฟงความคิดเห็นของผูอื่น
8.
- 15. บทเรียนสําเร็จรูป
บทเรียนสําเร็จรูปเปนสื่อสําหรับเรียนดวยตนเอง อาจใชสําหรับศึกษาเปนรายบุคคล รายกลุม
ซึ่งอาจจะพบวามีชื่อเรียกแตกตางกันไป ตามลักษณะของการนําไปใช เชน บทเรียนสําเร็จรูป
แบบเรียนสําเร็จรูป บทเรียนโปรแกรม โปรแกรมการสอน แบบเรียนดวยตนเอง เปนตน ถึงแมจะมีชื่อ
เรียกแตกตางกัน แตลักษณะโดยทั่วไปของบทเรียนสําเร็จรูปมีความคลายคลึงกัน คือเปนวิธีการจัด
กระบวนการเรียนรูวิธีหนึ่ง
1. ความหมาย
บทเรียนสําเร็จรูป หมายถึง บทเรียนที่ผูสอนจัดทําขึ้นเพื่อใชเปนเครื่องมือในการจัด
กิจกรรมการเรียนรูใหผูเรียนเรียนรูดวยตนเอง ในแตละสาระการเรียนรูที่กําหนดไวในแตละบทเรียน
โดยเริ่มจากเนื้อหาสาระที่งาย ๆ ไปสูเนื้อหาที่ยากขึ้นไปตามลําดับ เปนบทเรียนที่สรางขึ้นโดยกําหนด
วัตถุประสงค เนื้อหา วิธีการ และสื่อการเรียนการสอนไวลวงหนา ผูเรียนสามารถศึกษา คนควา และ
ประเมินผลการเรียนดวยตนเองตามขั้นตอนที่กําหนดไว
2. จุดมุงหมายของบทเรียนสําเร็จรูป
1) เพื่อใหผูเรียนสามารถประกอบกิจกรรมการเรียนรูดวยตนเองอยางเต็มความสามารถ โดย
ครูคอยใหคําแนะนําชวยเหลือเมื่อผูเรียนมีปญหา
2) เพื่อใหผูเรียนไดเรียนรูไปตามลําดับขั้น จากงายไปหายาก
3) เพื่อใหผูเรียนสามารถประเมินตนเอง และทราบถึงพัฒนาการในการเรียนรูของตนเอง
4) เพื่อใหผูเรียนเกิดความภาคภูมิใจ เมื่อประสบความสําเร็จในการเรียนรู
3. หลักการเรียนรูดวยบทเรียนสําเร็จรูป
1) ผูเรียนไดปฏิบัติกิจกรรม หรือมีสวนรวมในการปฏิบัติกิจกรรม
2) ผูเรียนไดประเมินตนเอง และรูคําตอบไดทันที
3) มีการเสริมแรงใหผูเรียนเกิดความภาคภูมิใจเมื่อสามารถปฏิบัติไดถูกตอง และมีความ
พยายามที่จะแกไขสวนที่บกพรอง
4) ผูเรียนไดเรียนรูไปที่ละลําดับ จากงายไปยากตามศักยภาพและความสามารถของ แตละ
คน
9.
- 16. 4. ลักษณะของบทเรียนสําเร็จรูป
ลักษณะสําคัญของบทเรียนสําเร็จรูป คือ การออกแบบการบรรจุเนื้อหาและสาระการเรียนรู
ออกเปน กรอบ (Frame) ซึ่งเนื้อหาและสาระการเรียนรูดังกลาวนั้นจะนํามาจัดทําเปนหนวยการ
เรียนรูยอย ๆ แลวบรรจุเนื้อหาสาระการเรียนรูหนวยยอย ๆ ดังกลาวลงไปในกรอบแตละกรอบใหมี
ความสัมพันธและเรียงลําดับเนื้อหาจากงายไปยาก กรอบสาระการเรียนรู (Frame) ในแตละกรอบ
ของบทเรียนสําเร็จรูปประกอบดวย
1) การอธิบายเนื้อหา
2) แบบประเมินผลกอนเรียน
3) เนื้อหาสาระและกิจกรรมการเรียนรู
4) คําถาม
5) เฉลยคําตอบ
6) แบบประเมินผลหลังเรียน
5. ชนิดของกรอบในบทเรียนสําเร็จรูป
กรอบสาระการเรียนรูในบทเรียนสําเร็จรูปกําหนดไว 4 ชนิด ดังนี้
1) กรอบตั้งตน (Set Frame) เปนกรอบที่เปนเสมือนกรอบนําเขาสูบทเรียน ในกรอบนี้จะ
เปนขอมูลการเรียนรูหลักการ ทฤษฎี และคําถามงาย ๆ ที่กําหนดใหผูเรียนตอบคําถามไดถูกตอง ทั้งนี้
เพื่อเปนการใหกําลังใจหรือเสริมแรงใหมีความสุขกับการเรียนรู
2) กรอบฝกหัด (Practice Frame) เปนกรอบที่ใหผูเรียนไดมีโอกาสฝกหัดทํากิจกรรมที่มี
เนื้อหาสาระเชื่อมโยงมาจากรอบตั้งตน ในกรอบฝกหัดนี้เปนกรอบสําหรับการฝกทักษะเชน การอาน
การคิด การวิเคราะห และการเขียน ซึ่งเนื้อหาสาระการเรียนรูจะเพิ่มมากขึ้นกวากรอบตั้งตน
3) กรอบรองกรอบสงทาย (Sub-Terminal Frame) เปนกรอบการเรียนรูกอนที่จะถึงกรอบ
การเรียนรู สรุป ที่ผูเรียนไดผานกิจกรรมการเรียนรูมาตามลําดับ โดยมีเนื้อหาสาระที่เขมขนขึ้นทั้งนี้
เพื่อใหผูเรียนใกลจะสรุปองคความรูที่สมบูรณที่ผานกระบวนการเรียนรูจากบทเรียนสําเร็จรูปไดอยาง
ชัดเจนถูกตอง
4) กรอบสงทาย (Terminal Frame) เปนกรอบสาระการเรียนรูสรุปสุดทาย หรือกรอบจบ
ของบทเรียนสําเร็จรูป เปนกรอบที่มีเนื้อหาสาระเขมขน และยากกวากรอบสาระการเรียนรูอื่นที่ผาน
มา
10.
- 17. 6. ชนิดของบทเรียนสําเร็จรูป
ในปจจุบันบทเรียนสําเร็จรูปที่ใชในการจัดกิจกรรมการเรียนรูมี 3 ชนิด ไดแก
1) บทเรียนสําเร็จรูปแบบเสนตรง (Linear Programme)
บทเรียนสําเร็จรูปแบบเสนตรงจะจัดทําเปนกรอบเนื้อหาสาระเรียงลําดับไวตั้งแตกรอบที่ 1-
2-3… จนถึงกรอบจบ ตามที่ผูสอนไดออกแบบไว ลักษณะกรอบเนื้อหาสาระสําหรับการเรียนรูจะมี
ลักษณะดังนี้
การเรียนรูตามบทเรียนสําเร็จรูปแบบเสนตรง ผูเรียนจะเริ่มตนกิจกรรมการเรียนรูในกรอบ
เนื้อหาสาระการเรียนรูที่ 1-2-3-4 หรือมากกวานี้ตามลําดับตอเนื่องกันไปจนถึงกรอบเนื้อหาสาระ
สุดทายซึ่งเปนกรอบจบ มีคําถามเสมอวาการเรียนรูตามบทเรียนสําเร็จรูปจะเรียนรูขามกรอบได
หรือไม คําตอบก็คือไมได เพราะผูสอนไดออกแบบเนื้อหาสาระการเรียนรูจากงายไปหายาก ซึ่งเนื้อหา
ทั้งหมดจะสานสัมพันธตอเนื่องกันไป ถาขามกรอบการเรียนรูใดกรอบการเรียนรูหนึ่ง เนื้อหาสาระจะ
ขาดหายไป การเรียนรูก็จะไมเปนไปตามวัตถุประสงคที่กําหนดไว ลักษณะเดนของบทเรียนสําเร็จรูป
แบบเสนตรงก็คือผูเรียนเกงจะเรียนรูไดเร็วและจบเร็ว การทําบทเรียนก็งาย เพราะแตละกรอบสาระ
การเรียนรูจะบรรจุเนื้อหาสาระไมมากนัก
2) บทเรียนสําเร็จรูปแบบสาขา (Branchine Programme)
บทเรียนสําเร็จรูปแบบสาขาเปนบทเรียนที่มีการจัดเนื้อหาสาระการเรียนรู เปน
กรอบการเรียนรูหลัก (กรอบยืน) เหมือนบทเรียนสําเร็จรูปแบบเสนตรง แตมีความแตกตางเพิ่มเติม
ตรงที่นอกจากจะมีกรอบสาระการเรียนรูหลักแลว จะมีกรอบสาระการเรียนรูสาขาเพิ่มเติมหรือกรอบ
สาระการเรียนรูสาขาเขามา
กรอบสาระการเรียนรูสาขาเปนกรอบที่มีเนื้อหาสาระการเรียนรูพื้นฐานเพิ่มเติมแกผูเรียนที่
ยังขาดความพรอมยังไมเขาใจเนื้อหาสาระหรือยังไมพรอมที่จะเรียนรูในกรอบตอไปในแตละกรอบ
สาระการเรียนรูหลัก จะมีกรอบสาขาการเรียนรู 1 หรือ 2 กรอบเสมอ ทั้งนี้เพื่อใหผูเรียนที่ตอบ
คําถามผิดพลาดไดมีโอกาสศึกษาเรียนรูเพิ่มเติมในกรอบสาระการเรียนรูสาขา
11.
6. ชนิดของบทเรียนสําเร็จรูป
ในปจจุบันบทเรียนสําเร็จรูปที่ใชในการจัดกิจกรรมการเรียนรูมี 3 ชนิด ไดแก
1) บทเรียนสําเร็จรูปแบบเสนตรง (Linear Programme)
บทเรียนสําเร็จรูปแบบเสนตรงจะจัดทําเปนกรอบเนื้อหาสาระเรียงลําดับไวตั้งแตกรอบที่ 1-
2-3… จนถึงกรอบจบ ตามที่ผูสอนไดออกแบบไว ลักษณะกรอบเนื้อหาสาระสําหรับการเรียนรูจะมี
ลักษณะดังนี้
การเรียนรูตามบทเรียนสําเร็จรูปแบบเสนตรง ผูเรียนจะเริ่มตนกิจกรรมการเรียนรูในกรอบ
เนื้อหาสาระการเรียนรูที่ 1-2-3-4 หรือมากกวานี้ตามลําดับตอเนื่องกันไปจนถึงกรอบเนื้อหาสาระ
สุดทายซึ่งเปนกรอบจบ มีคําถามเสมอวาการเรียนรูตามบทเรียนสําเร็จรูปจะเรียนรูขามกรอบได
หรือไม คําตอบก็คือไมได เพราะผูสอนไดออกแบบเนื้อหาสาระการเรียนรูจากงายไปหายาก ซึ่งเนื้อหา
ทั้งหมดจะสานสัมพันธตอเนื่องกันไป ถาขามกรอบการเรียนรูใดกรอบการเรียนรูหนึ่ง เนื้อหาสาระจะ
ขาดหายไป การเรียนรูก็จะไมเปนไปตามวัตถุประสงคที่กําหนดไว ลักษณะเดนของบทเรียนสําเร็จรูป
แบบเสนตรงก็คือผูเรียนเกงจะเรียนรูไดเร็วและจบเร็ว การทําบทเรียนก็งาย เพราะแตละกรอบสาระ
การเรียนรูจะบรรจุเนื้อหาสาระไมมากนัก
2) บทเรียนสําเร็จรูปแบบสาขา (Branchine Programme)
บทเรียนสําเร็จรูปแบบสาขาเปนบทเรียนที่มีการจัดเนื้อหาสาระการเรียนรู เปน
กรอบการเรียนรูหลัก (กรอบยืน) เหมือนบทเรียนสําเร็จรูปแบบเสนตรง แตมีความแตกตางเพิ่มเติม
ตรงที่นอกจากจะมีกรอบสาระการเรียนรูหลักแลว จะมีกรอบสาระการเรียนรูสาขาเพิ่มเติมหรือกรอบ
สาระการเรียนรูสาขาเขามา
กรอบสาระการเรียนรูสาขาเปนกรอบที่มีเนื้อหาสาระการเรียนรูพื้นฐานเพิ่มเติมแกผูเรียนที่
ยังขาดความพรอมยังไมเขาใจเนื้อหาสาระหรือยังไมพรอมที่จะเรียนรูในกรอบตอไปในแตละกรอบ
สาระการเรียนรูหลัก จะมีกรอบสาขาการเรียนรู 1 หรือ 2 กรอบเสมอ ทั้งนี้เพื่อใหผูเรียนที่ตอบ
คําถามผิดพลาดไดมีโอกาสศึกษาเรียนรูเพิ่มเติมในกรอบสาระการเรียนรูสาขา
11.
6. ชนิดของบทเรียนสําเร็จรูป
ในปจจุบันบทเรียนสําเร็จรูปที่ใชในการจัดกิจกรรมการเรียนรูมี 3 ชนิด ไดแก
1) บทเรียนสําเร็จรูปแบบเสนตรง (Linear Programme)
บทเรียนสําเร็จรูปแบบเสนตรงจะจัดทําเปนกรอบเนื้อหาสาระเรียงลําดับไวตั้งแตกรอบที่ 1-
2-3… จนถึงกรอบจบ ตามที่ผูสอนไดออกแบบไว ลักษณะกรอบเนื้อหาสาระสําหรับการเรียนรูจะมี
ลักษณะดังนี้
การเรียนรูตามบทเรียนสําเร็จรูปแบบเสนตรง ผูเรียนจะเริ่มตนกิจกรรมการเรียนรูในกรอบ
เนื้อหาสาระการเรียนรูที่ 1-2-3-4 หรือมากกวานี้ตามลําดับตอเนื่องกันไปจนถึงกรอบเนื้อหาสาระ
สุดทายซึ่งเปนกรอบจบ มีคําถามเสมอวาการเรียนรูตามบทเรียนสําเร็จรูปจะเรียนรูขามกรอบได
หรือไม คําตอบก็คือไมได เพราะผูสอนไดออกแบบเนื้อหาสาระการเรียนรูจากงายไปหายาก ซึ่งเนื้อหา
ทั้งหมดจะสานสัมพันธตอเนื่องกันไป ถาขามกรอบการเรียนรูใดกรอบการเรียนรูหนึ่ง เนื้อหาสาระจะ
ขาดหายไป การเรียนรูก็จะไมเปนไปตามวัตถุประสงคที่กําหนดไว ลักษณะเดนของบทเรียนสําเร็จรูป
แบบเสนตรงก็คือผูเรียนเกงจะเรียนรูไดเร็วและจบเร็ว การทําบทเรียนก็งาย เพราะแตละกรอบสาระ
การเรียนรูจะบรรจุเนื้อหาสาระไมมากนัก
2) บทเรียนสําเร็จรูปแบบสาขา (Branchine Programme)
บทเรียนสําเร็จรูปแบบสาขาเปนบทเรียนที่มีการจัดเนื้อหาสาระการเรียนรู เปน
กรอบการเรียนรูหลัก (กรอบยืน) เหมือนบทเรียนสําเร็จรูปแบบเสนตรง แตมีความแตกตางเพิ่มเติม
ตรงที่นอกจากจะมีกรอบสาระการเรียนรูหลักแลว จะมีกรอบสาระการเรียนรูสาขาเพิ่มเติมหรือกรอบ
สาระการเรียนรูสาขาเขามา
กรอบสาระการเรียนรูสาขาเปนกรอบที่มีเนื้อหาสาระการเรียนรูพื้นฐานเพิ่มเติมแกผูเรียนที่
ยังขาดความพรอมยังไมเขาใจเนื้อหาสาระหรือยังไมพรอมที่จะเรียนรูในกรอบตอไปในแตละกรอบ
สาระการเรียนรูหลัก จะมีกรอบสาขาการเรียนรู 1 หรือ 2 กรอบเสมอ ทั้งนี้เพื่อใหผูเรียนที่ตอบ
คําถามผิดพลาดไดมีโอกาสศึกษาเรียนรูเพิ่มเติมในกรอบสาระการเรียนรูสาขา
11.
- 18. บทเรียนสําเร็จรูปแบบสาขายังมีอีกหลายรูปแบบ ดังนี้
กรอบสาขาดังกลาวนี้เรียกวา Remedial Loops ถาผูเรียนไมสามารถตอบคําถามในกรอบ
สาระการเรียนรูหลักไดแลวจะตองเขาไปศึกษาเรียนรูเพิ่มเติมในกรอบสาระการเรียนรูสาขาที่แตก
แขนงออกมาตั้งแตสองสาขาขึ้นไป ศึกษาสาระการเรียนรูสาขาแรกแลวก็สามารถกลับไปศึกษาใน
กรอบสาระการเรียนรูหลักไดในทันที แตถายังไมผานก็ศึกษาในสาระการเรียนรูสาขาอื่น ๆ จนพรอม
12.
บทเรียนสําเร็จรูปแบบสาขายังมีอีกหลายรูปแบบ ดังนี้
กรอบสาขาดังกลาวนี้เรียกวา Remedial Loops ถาผูเรียนไมสามารถตอบคําถามในกรอบ
สาระการเรียนรูหลักไดแลวจะตองเขาไปศึกษาเรียนรูเพิ่มเติมในกรอบสาระการเรียนรูสาขาที่แตก
แขนงออกมาตั้งแตสองสาขาขึ้นไป ศึกษาสาระการเรียนรูสาขาแรกแลวก็สามารถกลับไปศึกษาใน
กรอบสาระการเรียนรูหลักไดในทันที แตถายังไมผานก็ศึกษาในสาระการเรียนรูสาขาอื่น ๆ จนพรอม
12.
บทเรียนสําเร็จรูปแบบสาขายังมีอีกหลายรูปแบบ ดังนี้
กรอบสาขาดังกลาวนี้เรียกวา Remedial Loops ถาผูเรียนไมสามารถตอบคําถามในกรอบ
สาระการเรียนรูหลักไดแลวจะตองเขาไปศึกษาเรียนรูเพิ่มเติมในกรอบสาระการเรียนรูสาขาที่แตก
แขนงออกมาตั้งแตสองสาขาขึ้นไป ศึกษาสาระการเรียนรูสาขาแรกแลวก็สามารถกลับไปศึกษาใน
กรอบสาระการเรียนรูหลักไดในทันที แตถายังไมผานก็ศึกษาในสาระการเรียนรูสาขาอื่น ๆ จนพรอม
12.
- 19. แลวจึงกลับไปศึกษาและทดสอบในกรอบสาระการเรียนรูหลักอีกครั้ง เมื่อผานแลวก็ศึกษาในกรอบฯ
ถัดไป
กรอบสาขาลักษณะนี้เรียกวา Secondary Tracks เมื่อผูเรียนศึกษาเรียนรูในกรอบสาระ
การเรียนรูที่ 1 และสามารถตอบคําถามไดก็ผานไปเรียนรูในกรอบฯ ที่ 2 ถาไมผานตองกลับไปศึกษา
ในกรอบฯ สาขา 1 ถาตอบไดถูกตองก็ไปเรียนในกรอบฯ ที่ 2 แตถาตอบผิดก็ตองไปเรียนในกรอบ
สาขาฯ 2 จนกวาจะผาน
13.
แลวจึงกลับไปศึกษาและทดสอบในกรอบสาระการเรียนรูหลักอีกครั้ง เมื่อผานแลวก็ศึกษาในกรอบฯ
ถัดไป
กรอบสาขาลักษณะนี้เรียกวา Secondary Tracks เมื่อผูเรียนศึกษาเรียนรูในกรอบสาระ
การเรียนรูที่ 1 และสามารถตอบคําถามไดก็ผานไปเรียนรูในกรอบฯ ที่ 2 ถาไมผานตองกลับไปศึกษา
ในกรอบฯ สาขา 1 ถาตอบไดถูกตองก็ไปเรียนในกรอบฯ ที่ 2 แตถาตอบผิดก็ตองไปเรียนในกรอบ
สาขาฯ 2 จนกวาจะผาน
13.
แลวจึงกลับไปศึกษาและทดสอบในกรอบสาระการเรียนรูหลักอีกครั้ง เมื่อผานแลวก็ศึกษาในกรอบฯ
ถัดไป
กรอบสาขาลักษณะนี้เรียกวา Secondary Tracks เมื่อผูเรียนศึกษาเรียนรูในกรอบสาระ
การเรียนรูที่ 1 และสามารถตอบคําถามไดก็ผานไปเรียนรูในกรอบฯ ที่ 2 ถาไมผานตองกลับไปศึกษา
ในกรอบฯ สาขา 1 ถาตอบไดถูกตองก็ไปเรียนในกรอบฯ ที่ 2 แตถาตอบผิดก็ตองไปเรียนในกรอบ
สาขาฯ 2 จนกวาจะผาน
13.
- 20. กรอบสาขาประเภทนี้เรียกวา Gate Frame เมื่อศึกษาในกรอบสาระการเรียนรู 1 แลว สามารถที่
จะขามกรอบฯ ไปขางหนาไดหลายกรอบ แตเมื่อขามกรอบฯ ไปแลวไมสามารถตอบคําถามในกรอบฯ
ที่ขามไดตองถอยกลับคืนไปกรอบฯ ที่ 1 เพื่อศึกษาเพิ่มเติมอีกครั้ง เปนตน
3) บทเรียนสําเร็จรูปแบบไมแยกกรอบ
บทเรียนสําเร็จรูปแบบไมแยกกรอบ เปนบทเรียนสําเร็จรูปที่มีการนําเสนอเนื้อหา
สาระเพิ่มขึ้นทีละนอยตามลําดับขั้น ในบทเรียนจะมีแบบทดสอบและแบบเฉลยใหตรวจสอบได
ในทันทีเหมือนบทเรียนสําเร็จรูปแบบที่ 1-2 หากแตการนําเสนอเนื้อหาสาระไมนําเสนอในรูปของ
กรอบ เนื้อหาที่นําเสนอตองตอเนื่องกัน เหมือนกับการเขียนตําราหรือบทความ
7. กระบวนการผลิตและพัฒนาบทเรียนสําเร็จรูป
ขั้นตอนการผลิตและพัฒนาบทเรียนสําเร็จรูปมี 4 ขั้นตอน
1) ขั้นวางแผน (Planning)
- ศึกษาหลักสูตร เพื่อใหทราบถึงเนื้อหาสาระที่จะนํามาจัดทําเปนบทเรียนสําเร็จรูป
- กําหนดเนื้อหาสาระที่จะนํามาจัดทําบทเรียน
- กําหนดมาตรฐานการเรียนรูและองคประกอบอื่น ๆ เชน
- จุดประสงคนําทาง จุดประสงคปลายทาง
- ผลการเรียนรูที่คาดหวังวา เมื่อผูเรียนปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรูจบแลว ผูเรียนไดเรียนรู
อะไรบาง
- วิเคราะหความยาก-งายของเนื้อหา
- เตรียมสรางแบบทดสอบทั้งกอนและหลังเรียนในแตละกรอบสาระการเรียนรูใหครอบคลุม
- ความรู (Knowledge)
- ทักษะ/กระบวนการ (Skills Practice/Process)
- เจตคติ (Attitude)
2) ขั้นการผลิต (Production)
(1) เขียนบทเรียนสําเร็จรูปประกอบดวย
- จุดประสงคของบทเรียนสําเร็จรูป
- ขอทดสอบกอนและหลังเรียน
- กิจกรรมการเรียนรูในแตละกรอบสาระการเรียนรูหลักและกรอบสาระการเรียนรูสาขา
- นําไปจัดกิจกรรมการเรียนรูตามที่วางแผนไว
- การวัดผลประเมินผล
14.
- 21. (2) สรางแผนการเรียนรู
- ศึกษาวิธีการสรางแผนการเรียนรู
- ศึกษาบทเรียนสําเร็จรูป
- เขียนแผนการเรียนรูตามเนื้อหา โดยพิจารณาความสอดคลองกับจุดประสงค เนื้อหาและ
เวลาที่ใชในการจัดกระบวนการเรียนรู
- นําแผนการเรียนรูใหผูเชี่ยวชาญตรวจสอบคุณภาพ
- ปรับปรุงแกไข ตามขอเสนอแนะของผูเชี่ยวชาญ
8. ขั้นการทดลองตนฉบับ (Prototype testing)
นําบทเรียนสําเร็จรูปตนฉบับไปทดลองกับกลุมทดลองที่ไมใชกลุมตัวอยาง ตามขั้นตอน
ดังตอไปนี้
ขั้นหนึ่งตอหนึ่ง นําบทเรียนสําเร็จรูปไปทดลองกับกลุมทดลองที่ยังไมเคยศึกษาเรื่องนั้น
มากอน เพื่อดูความถูกตองของเนื้อหา ขั้นตอนตาง ๆ ในการเรียนรู ความเหมาะสมของเวลาที่ใช
จากนั้นจึงนําผลและขอบทพรองที่พบ มาปรับปรุงแกไข เพื่อใชในการทดลองขั้นกลุมเล็กตอไป
ขั้นกลุมเล็ก นําบทเรียนสําเร็จรูปที่ผานการปรับปรุงแกไขในขั้นหนึ่งตอหนึ่งไปทดลอง
กับกลุมทดลองที่กําลังเรียนเนื้อหาวิชานั้น เพื่อตรวจสอบความบกพรองของบทเรียน และเพื่อหา
ประสิทธิภาพของบทเรียนสําเร็จรูปวาสามารถพัฒนาผูเรียนใหมีความรูตามเกณฑที่ตั้งไวหรือไม เมื่อ
ทดลองแลวพบวาประสิทธิภาพยังต่ํากวาเกณฑที่ตั้งไว จะตองปรับปรุงแกไขเนื้อหาของบทเรียน
สําเร็จรูป และปรับปรุงกิจกรรมตาง ๆ รวมทั้งแบบทดสอบใหมีความเหมาะสมยิ่งขึ้น
ขั้นกลุมใหญ นําบทเรียนสําเร็จรูปไปทดลองกับกลุมทดลองที่กําลังเรียนเนื้อหาวิชานั้น
และเปนกลุมทดลองที่มีลักษณะและคุณสมบัติใกลเคียงกับกลุมตัวอยางจริง ๆ วาสามารถพัฒนา
ผูเรียนใหมีความรูตามเกณฑที่ตั้งไวหรือไม เมื่อทดลองแลวพบวามีประสิทธิภาพตามเกณฑที่ตั้งไวก็
ดําเนินการจัดทําตนฉบับเพื่อนําไปใชกับกลุมตัวอยางตอไป
9. ขั้นทดลองใชจริง
การทดลองใชจริง เพื่อหาประสิทธิภาพบทเรียนสําเร็จรูป มีขั้นตอนในการดําเนินการดังนี้
1) การจัดกิจกรรมการเรียนรูดวยบทเรียนสําเร็จรูป
1.1 ใหผูเรียน ศึกษา และทําความเขาใจเกี่ยวกับขั้นตอนในการเรียนอยางละเอียด โดยอาน
จากคําชี้แจง/คําแนะนําในการศึกษาดวยบทเรียนสําเร็จรูป
1.2 ใหผูเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน (Pretest) ครูตรวจแบบทดสอบกอนเรียนและให
คะแนน
1.3 ผูเรียนทํากิจกรรมการเรียนที่ระบุไวในบทเรียนสําเร็จรูปครบถวนแลว ใหทําแบบฝกหัด
และตรวจตําตอบจากคําเฉลยที่ใหไว ทําเชนนี้ทุกหนวยการเรียนรูจนครบ
1.4 ครูตรวจสอบการตอบคําถามในแตละกรอบและการทําแบบฝกหัดของผูเรียนทุกหนวย
การเรียนรู
15.