More Related Content Similar to กำไรสนองทั้งชีวิต Profit for life (20) More from maruay songtanin (20) กำไรสนองทั้งชีวิต Profit for life 2. Joseph H. Bragdon,
Society for Organizational Learning, 2006
ขอขอบคุณ พันเอกหญิง อังคณา สุเมธสิทธิกุล ที่กรุณาแนะนาหนังสือเล่มนี้มาศึกษา 3. มีผู้คนมากขึ้น ตระหนักถึงระบบทุนนิยมว่า ประสบความสาเร็จ ในด้านความมั่งคั่งทางการเงิน โดยไม่คานึงถึงการทาอันตรายต่อ ระบบที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ Joseph H. Bragdon อธิบายรูปแบบใหม่ของ การดูแลสินทรัพย์ที่ มีชีวิต (Living Asset Stewardship: LAS) และเสนอทางเลือกที่ ดีกว่าระบบทุนนิยม ที่คุกคามโลกของเราอยู่ในทุกวันนี้ การดูแลสินทรัพย์ที่มีชีวิต (LAS) คือ การดูแลเกี่ยวกับผู้คนและ สิ่งที่พวกเขาเอาใจใส่ (คน, สังคม, การตลาด และชีวมณฑล Society, Markets, and the Biosphere) 4. สินทรัพย์ที่มีชีวิต (Living Asset) หมายถึง ผู้คนและธรรมชาติ สินทรัพย์ที่ไม่มีชีวิต (Nonliving Asset) หมายถึง เงินทุน
สินทรัพย์ที่มีชีวิตมีความสาคัญกว่าสินทรัพย์ที่ไม่มีชีวิต และเป็น สิ่งที่ทาให้องค์กรเกิดความยั่งยืน เพราะสินทรัพย์ที่ไม่มีชีวิต ต้อง อาศัยสินทรัพย์ที่มีชีวิต เป็นแหล่งในการทาให้เกิดขึ้นมาได้ การดูแลสินทรัพย์ที่มีชีวิต (Living Asset Stewardship: LAS) คือ การดูแลเอาใจใส่ สิ่งที่เราให้คุณค่ามากที่สุด (ผู้คนและ ธรรมชาติ) 5. การดูแลเอาใจใส่ หมายถึง การมีวินัย อย่างเป็นระบบในการ ดูแลสุขภาวะของโลกที่เราอาศัยอยู่ ด้วยมุมมองที่กว้างขึ้น (ทาง สังคม, การตลาด และชีวมณฑล) LAS คือกระบวนการการบริหารจัดการอย่างมีคุณธรรม ในการ ดูแลเอาใจใส่บุคลากร ทั้งด้านสุขภาพ สวัสดิการ เคารพใน ศักดิ์ศรี และสร้างเสริมความสามารถด้านอาชีพการงาน
การดูแลเอาใจใส่บุคลากรให้ดี ผลตอบแทนจะกลับมาเป็นหลาย เท่าของการลงทุน 6. ผู้ประพันธ์รวบรวม 60 บริษัทชั้นนาที่มีผลประกอบการดีเป็น ระยะเวลายาวนาน และมีการจัดทาตัวชี้วัดกระบวนการ LAS เรียกว่า Global Living Asset Management Performance (LAMP Index)
เพื่อใช้ประโยชน์ในรายงานป้อนกลับ ของการประเมินบริษัท โดยเป็นตัวชี้วัดที่ใช้ในการเปรียบเทียบ เพื่อให้นักลงทุนใช้ ตัดสินใจในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ 7. พันธกิจ วิสัยทัศน์ และค่านิยม ที่สะท้อนถึงชีวิตและอุดมการณ์ที่ยั่งยืน
หลักการปฏิบัติการ ที่เคารพสิ่งแวดล้อม และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
องค์กรมีการกระจายอานาจและเครือข่าย ที่ให้อานาจในการตัดสินใจ
สถานที่ทางาน ที่พนักงานได้รับความเชื่อถือ เสริมสร้างพลังอานาจ และมี ความรับผิดชอบ
ผู้นา ที่ให้คาปรึกษาและช่วยเหลือ การเจริญเติบโตเป็นมืออาชีพของพนักงาน
วัฒนธรรม ที่สนับสนุนการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทางานร่วมกัน และ แบ่งปันความคิดร่วมกัน
นโยบายการเงิน ที่ออกแบบมาเพื่อรักษาความมั่นคงสาหรับชนรุ่นต่อไป และ สร้างประโยชน์สาหรับผู้มีส่วนได้เสีย
ระบบการจัดการเรื่องผลกาไร ที่หมายถึงการให้บริการที่มีคุณภาพที่สูงขึ้น มากกว่าที่จะเป็นจุดสิ้นสุด 8. ผู้บริหารสูงสุดและผู้บริหารระดับอาวุโส สนับสนุน LAS อย่างต่อเนื่องทั้ง คาพูดและการกระทา
ผู้บริหารและพนักงาน มีการประเมิน โดยใช้ความเข้าใจของพวกเขาใน หลักการ LAS และความก้าวหน้าของการปฏิบัติ
การพัฒนาอย่างยั่งยืนและความเคารพสาหรับชีวิต ที่ฝังตัวอยู่ในทุกการคิด เชิงกลยุทธ์ และการวางแผน
โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ สนับสนุนเครือข่ายที่แพร่หลาย ระหว่างพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สาคัญ
ระบบการรายงาน มีการเปิดเผย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ
ผลการตรวจสอบและประเมินผล เพื่อการเรียนรู้ เพื่อความก้าวหน้าอย่าง ต่อเนื่อง
การลงทุน มองไปที่ผลระยะยาว มากกว่าผลตอบแทนที่รวดเร็ว
การกู้ยืมมีจากัด แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด 9. การยกระดับ (leverage) ขององค์กร เกิดจากการประสานงาน ร่วมมือกัน ไม่ได้พึ่งพาการเงินเพียงอย่างเดียว
ผู้นายกระดับองค์กร ด้วยการทาให้บุคลากรเกิดแรงบันดาลใจ ร่วมมือกัน และเกื้อหนุนให้พวกเขาได้ก้าวหน้าด้านวิชาชีพ
ผู้นาทาให้องค์กรมีรายได้อย่างยั่งยืนหลายทศวรรษ ไม่มีการเลิก จ้างงาน โดยอาศัยวัฒนธรรมองค์กรคือ ความมีน้าใจ ความเป็น มืออาชีพ การมีมนุษยธรรม และการดูแลเอาใจใส่บุคลากร 10. ความคงทนขององค์กร เกิดจากวัฒนธรรม LAS ที่มีการปรับตัว ได้ดีกว่า เพราะบุคลากรมีความผูกพัน ทางานเป็นเครือข่าย ไม่ได้ทางานแบบลาดับชั้นการบังคับบัญชาที่ซับซ้อน องค์กร LAS สามารถมีการตอบสนองที่รวดเร็ว และมีการสร้าง นวัตกรรมที่ดีกว่า
การทางานเป็นระบบเครือข่าย ไม่ได้ขึ้นกับขนาดขององค์กร เป็น เพราะมีวัฒธรรมแบบชุมชน มีการดูแลเอาใจใส่กันและกัน และ รับผิดชอบร่วมกัน ผู้นาปฏิบัติตนเป็น ผู้นาแบบผู้รับใช้ (Servant Leadership) 11. ความทนทาน เกิดจาก บุคลากรมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ของ ข้อมูลข่าวสาร และความรู้
มีการเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงาน ทาให้บุคลากรที่ทางานร่วมกัน เป็นทีมมีความหลากหลาย (diversity) บุคลากรได้รับการส่งเสริมให้จัดตั้ง ชุมชนนักปฏิบัติ (Community of Practice: CoP) คือผู้ที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน ได้พบปะ กันแบบตัวจริงเสียงจริง และในระบบเสมือนจริง
บุคลากรผู้ที่สร้างผลงานดี ได้รับการยกย่องและให้รางวัล โดยไม่ จากัดสถานภาพ 12. สาหรับสถาบันนักลงทุน LAS เป็นแนวทางการสร้างคุณค่าในการ ลงทุน มากกว่าธุรกิจธรรมดา ถ้านักลงทุนมีความเข้าใจ LAS ว่ามีส่วนทาให้เกิดผลกาไรที่คุ้มค่า ก็จะเลือกลงทุนในบริษัทที่มี LAS อยู่ในรายงานผลการดาเนินการ ผู้ลงทุนเมื่อเลือกที่จะลงทุนในบริษัทที่มี LAS จะเป็นตัวเร่งให้ บริษัทต่าง ๆ หันมาทา LAS เพื่อให้เกิดความแพร่หลายมากขึ้น 13. เมื่อเปลี่ยนความคิด โลกก็เปลี่ยนไป เช่น การคิดว่าโลกกลมแทน ความคิดดั้งเดิมว่าโลกแบน ทาให้เกิดมีการสารวจโดยทางเรือ เพื่อค้นหาดินแดนใหม่ ๆ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะตกโลก LAS เกิดจากการมีมุมมอง เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรของโลกที่มี อยู่อย่างจากัด ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อชนรุ่นต่อไป
เครือข่ายบริษัทที่ตระหนักในเรื่องของชีวิตและสิ่งแวดล้อม จึงมี ความมุ่งมั่นในการส่งเสริม การดูแลทุนสิ่งที่มีชีวิต (Living Asset Stewardship: LAS) 15. คุณค่าของสินทรัพย์ที่มีชีวิต LAS เคารพในสิ่งมีชีวิตในทุกขั้นตอน มีสัมพันธภาพกับบุคลากร ลูกค้า ชุมชน ผู้ส่งมอบ พันธมิตร และสิ่งแวดล้อม LAS อยู่อย่างสอดคล้องกันกับผู้คนและธรรมชาติ ไม่ใช่พยายาม ควบคุมผู้คนและธรรมชาติ
องค์กรทาตนเสมือนกับสิ่งมีชีวิต ที่มีการติดต่อกับสิ่งแวดล้อม รอบตัวที่กว้างขวาง ของการตลาดที่เสรี สังคม และชีวมณฑล (ดู Table 1-1) 17. รูปแบบของ LAS
มี 3 คาถามหลักที่ตอบคุณลักษณะองค์กร LAS คือ 1.ทาไมจึงมีเราอยู่ (การมีอยู่ของตัวตน (Existential) คือการเป็น องค์กรที่มีชีวิต ดู Table 2-1 ) 2.เราปฏิบัติตนอย่างไร (หน้าที่ (Function) มีการกระจายอานาจ จากส่วนกลาง) 3.เรายึดถืออะไร (ค่านิยม (Values) คือเหตุผลของการเป็นอยู่ และเป็นพลังบันดาลใจ ) 19. หัวใจขององค์กร
ทาไมต้องเป็นหัวใจ เพราะหัวใจมีความรู้สึก มีอารมณ์ มีความ ซาบซึ้ง รู้จักการดูแลเอาใจใส่ และมีแรงบันดาลใจ
องค์กรที่มีหัวใจมีลักษณะดังนี้ 1.พันธกิจ วิสัยทัศน์ และค่านิยม ที่มีความซาบซึ้งใจ
2.การทางาน เป็นเครือข่ายที่มีความรับผิดชอบ
3.มีวัฒนธรรม ระบบผู้นาแบบผู้รับใช้ 4.มุ่งมั่นเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และการสร้างนวัตกรรม
5.บริหารการเงิน เพื่อความยั่งยืนของชนรุ่นต่อไป 22. ตัวชี้วัด LAMP Index เป็นตัววัดความสาเร็จขององค์กร หลักในการคัดเลือกบริษัทเข้ากลุ่มมี 8 ตัวชี้วัดคือ 1.มีความมุ่งมั่นอย่างเป็นระบบ หรือเป็นองค์รวม 2.มุ่งมั่นใน สิทธิมนุษยชน 3.มีความรู้สึกตนว่า เหตุใดจึงมีตนเองอยู่ 4. เคารพในบุคลากร 5.เคารพธรรมชาติ 6.เคารพลูกค้า 7.เคารพ ในพันธมิตรทางกลยุทธ์ และ 8.เคารพในชุมชนที่องค์กรตั้งอยู่ รวมมีทั้งหมด 60 บริษัทที่มีความเคารพในชีวิต (Respect for Life) ใช้ในการอ้างอิง 23. ทฤษฎีใหม่ของธุรกิจ
ไอน์สไตน์กล่าวว่า เราไม่อาจแก้ปัญหา โดยใช้ความคิดในระดับ เดียวกันกับปัญหาที่เกิดขึ้น (We can’t solve problems by using the same kind of thinking we used when we created them.) ดังนั้น แนวคิด LAS ที่เน้นมนุษย์และธรรมชาติ เป็นแนวคิดใหม่ ที่ต่างไปจากการบริหารธุรกิจแบบเดิม ๆ เพื่อความยั่งยืนของ องค์กร (ดู Table 6-1) 27. การเพิ่มผลผลิตในสถานที่ทางานที่เปิดกว้าง LAS คือรูปแบบความคิด (Mental Model) ที่คานึงถึงมนุษย์และ ธรรมชาติ ที่ทางานทาไมต้องเปิดกว้าง? เพราะระบบเครือข่าย (network) ต้องการการเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ เพื่อเกิดความหลากหลาย และการ ปรับตัวอย่างต่อเนื่อง มีการเปรียบเทียบที่ทางานแบบเปิดกว้างและแบบทั่วๆ ไป (ดู Table 7-1) ว่ามีการทางานต่างกันอย่างไร 31. ความสนิทสนมของลูกค้า LAS เน้นความสัมพันธ์กับลูกค้า มากกว่าขายสินค้าหรือบริการ (ดู Table 9-1)
เป็นการทาให้ลูกค้ารู้สึกมีคุณค่า โดยการเอาใจใส่ ให้สิ่งที่ตรง กับความต้องการของเขา มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (ธรรมชาติไม่มีวันหยุด)
การดูแลบุคลากรให้ดี จะส่งผลให้บุคลากรดูแลลูกค้าได้ดี 33. การจัดการเครือข่ายผู้ส่งมอบ อย่างมีแรงบันดาลใจ เครือข่ายผู้ส่งมอบ (Supply Network) มีความสอดคล้องกับ องค์กรมากกว่าเป็นเพียงห่วงโซ่อุปทาน (ดู Table 10-1)
แนวทางการจัดการเครือข่ายผู้ส่งมอบคือ การจัดซื้อจัดจ้างแบบ พิทักษ์ธรรมชาติ (Green Procurement) คือมีคุณภาพได้มาตรฐาน ใช้วัสดุอย่างประหยัด และเป็นสินค้าอนุรักษ์ธรรมชาติ
เครือข่ายผู้ส่งมอบ เปรียบเสมือนกับพันธมิตรขององค์กร คือมี จรรยาบรรณ และมีคุณสมบัติที่เอื้อต่อสิ่งแวดล้อม 35. การดูแลทางการเงิน LAS มีแนวทางด้านการเงินในระยะยาว มากกว่าการเน้นระยะสั้น LAS มองแบบองค์รวม (Holistic View) ต่อความเสี่ยงด้านการเงิน
มีการปรับตัวโดยใช้ การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และการสร้าง นวัตกรรม
มีการประกาศพันธะสัญญาต่อบุคลากร ลูกค้า และผู้มีส่วนได้ ส่วนเสียว่า องค์กรมุ่งเน้นจะอยู่กับพวกเขาตลอดไปในอนาคต 39. การปรับเปลี่ยนคานิยามของ คุณค่า โดยดูจาก ค่านิยม (Values) ขององค์กร ว่าทาให้บุคลากรเกิดการเรียนรู้ และสร้างนวัตกรรมหรือไม่ พันธกิจและวิสัยทัศน์ (Mission & Vision) ขององค์กรสอดคล้อง กับค่านิยมขององค์กรหรือไม่
เครือข่ายในองค์กรมีประสิทธิผลหรือไม่
ประสิทธิภาพขององค์กร ในการส่งเสริมการเรียนรู้เป็นเช่นไร
ความโปร่งใสขององค์กร ในการสื่อสารกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เป็นอย่างไร 42. บริษัทที่อยู่เกินศตวรรษ บริษัทที่อยู่เกิน 100 ปีได้ ต้องเป็นองค์กรที่มีชีวิต มีเครือข่าย เช่นเดียวกับระบบของสิ่งมีชีวิต เน้นผู้คนและธรรมชาติมากกว่า เงินทอง บุคลากรมีความรับผิดชอบ และมีการคิดแบบองค์รวม
การมีแนวคิดที่ถูกต้อง เป็นการสร้างการเปลี่ยนแปลง นั่นคือ การดูแลผู้คน และให้ความเคารพในชีวิต (Caring about People and Respecting Life) 43. บทส่งท้าย Living Asset Stewardship (LAS) มี 2 หลักการคือ 1.กาไรเกิดขึ้น ได้เพราะสิ่งมีชีวิตเท่านั้น (Profit can arise only from life) และ 2. เพื่อโลกที่ดี กาไรต้องดูแลรับใช้สิ่งที่มีชีวิต (In a healthy world, profit must serve life)
การดูแลสิ่งมีชีวิตอย่างจริงจัง เป็นความหวังใหม่ เพื่ออนาคตที่ ดีกว่า และเป็นเพียงการเดินทางที่เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น