More Related Content
Similar to 2562 final-project
Similar to 2562 final-project (20)
2562 final-project
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5
ปีการศึกษา 2562
ชื่อโครงงาน SLE(โรคพุ่มพวง,โรคแพ้ภูมิตัวเอง)
ชื่อผู้ทาโครงงาน
ชื่อ น.ส.อภิลดา กล้าแข็ง เลขที่ 9 ชั้น ม.6ห้อง 5
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 62
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม น.ส. อภิลดา กล้าแข็ง เลขที่ 9
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
โรคเอสแอลอีหรือโรคพุ่มพวง,โรคแพ้ภูมิตัวเอง
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Systemic lupus erythematosus, SLE
ประเภทโครงงาน ประเภทสารวจ
ชื่อผู้ทาโครงงาน น.ส. อภิลดา กล้าแข็ง
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน 3 ก.ย. 62 – 17 ก.ย. 62 ( 2สัปดาห์ )
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
SLE เป็นที่พบได้ค่อนข้างบ่อยในประเทศไทย และมักมีความรุนแรงมาก โดยเฉพาะเมื่อมีอาการทาง
ไตร่วม ด้วย โรคนี้มีอาการและอาการแสดง, การดาเนินโรค, การตอบสนองต่อการรักษาและการพยากรณ์โรคได้
หลากหลาย โรคนี้เกิดจากมีความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ทาให้มีการสร้างภูมิต่อต้านหลายชนิดต่อเซลล์และ
ส่วนประกอบต่าง ๆ ของเซลล์ของตนเอง มีผลทาให้
- 3. 3
เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ ทั่วตัว ผู้ป่วย
จึงมีอาการได้มากมายหลายอย่างเพราะระบบต่าง ๆ ทั่ว
ร่างกายเกิดความผิดปกติได้เกือบหมด แม้ว่าโรคแพ้
ภูมิคุ้มกันตัวเอง เอสแอลอี หรือลูปัส จะไมได้พบกันบ่อยๆ
แต่ก็พบได้เรื่อยๆ พบได้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ แม้ว่า
จะหาสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้ แต่ก็มีปัจจัยเสี่ยงที่
Cr:https://beezab.com/%E
ทาให้ภูมิคุ้มกันทางานผิดปกติอยู่หลายประการ ทาให้เกิด ความสนใจที่จะศึกษาว่า มีสาเหตุเกิดจากอะไร อาการ
เป็นอย่างไร บุคคลกลุ่มใดเสี่ยงต่อการเกิดโรค มีวิธีป้องกัน อย่างไร เมื่อเป็นโรคแล้ว จะมีวิธีรักษาทางการแพทย์
อย่างไร ผลข้างเคียงของยาที่ทานนั้นมีผลต่อร่างกายใน ระยะยาวอย่างไร มีวิธีดูแลรักษาหลังจากไม่ได้ทานยาแล้ว
อย่างไร
วัตถุประสงค์
1. เพื่อทราบสาเหตุ
2. เพื่อทราบอาการ
3. เพื่อทราบความเสี่ยงต่อการเกิดโรค
4. เพื่อทราบวิธีการดูแลรักษา และวิธีดูแลตัวเอง
ขอบเขตโครงงาน
1. ค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้
2. นาประสบการณ์มาให้ข้อมูลเสริมร่วมกับโครงงาน
- 4. 4
หลักการและทฤษฎี
โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง เป็นอย่างไร?
โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง SLE ลูปัส หรือโรคพุ่มพวง เป็นโรคที่เกิดจากภาวะที่ร่างกายสร้างสารภูมิคุ้มกันต้านทาน
ผิดปกติ โดยเข้าไปต่อต้านเนื้อเยื่อ หรืออวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เป็นผลทาให้เกิดการอักเสบเรื้อรังในบริเวณนั้น
ใครที่เสี่ยงเป็นโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง?
แม้ว่าโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง เอสแอลอี หรือลูปัส จะไมได้พบกันบ่อยๆ แต่ก็พบได้เรื่อยๆ พบได้ตั้งแต่เด็กไปจนถึง
ผู้สูงอายุ แม้ว่าจะหาสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้ แต่ก็มีปัจจัยเสี่ยงที่ท าให้ภูมิคุ้มกันทางานผิดปกติอยู่หลายประการ
- พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
- ความผิดปกติจากพันธุกรรม (ชนิดที่ถ่ายทอดได้)
- ติดเชื้อจากแบคทีเรีย หรือไวรัสบางชนิด – มีอาการแพ้กับสิ่งต่างๆ
- สูบบุหรี่
- ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาป้องกันการชัก ยาคุมกาเนิด ยาลดน้าหนักบางชนิด - เครียด ทางาน
หนัก ออกกาลังกายมากเกินไป
Cr: https://www.matichon.co.th/article/news_1209182
- 5. 5
อาการของโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง ?
สัญญาณอันตรายที่เป็นอาการเริ่มต้นของโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง มีหลากหลายอาการขึ้นอยู่กับบริเวณที่เกิดความ
ผิดปกติจนมีอาการอักเสบในระยะแรก ไปจนถึงระยะเรื้อรังที่อาจเริ่มเกี่ยวพันกับอวัยวะส่วนอื่นๆ
1. อาการผิดปกติทั่วไปที่หาสาเหตุไม่ได้ เช่น ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ผอมลง
2. อาการทางผิวหนัง เช่น มีผื่นแดง มักขึ้นบริเวณใบหน้าช่วงตรงกลาง
และโหนกแก้มทั้งสองข้าง รูปร่าง คล้ายผีเสื้อ และอาจมีอาการผมร่วง
3. อาการปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ อาจไม่มีอาการบวมแดง แต่ปวดได้ทุก
ส่วนที่มีข้อ เช่น ข้อเข่า ข้อเท้า ข้อมือ ข้อนิ้ว
4. อาการทางปอด เช่น เจ็บหน้าอก ไอ ปอด เยื่อหุ้มปอดอักเสบ มีน้ าใน
ปอด เหนื่อยง่าย เยื่อหุ้มหัวใจ อักเสบ ไปจนถึงหัวใจเต้นผิดปกติ
5. อาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง เบื่อ
อาหาร
6. อาการทางไต ความดันโลหิตสูง เช่น ขาบวม จากการบวมน้า
7. อาการทางระบบโลหิต เช่น โลหิตจาง ภาวะซีด ความดันโลหิตต่า
เม็ดเลือดขาวต่า เกล็ดเลือดต่าหลอดเลือดอักเสบ อาจจะพบเป็นจุดแดงๆ
เล็กๆ ทั่วตัวคล้ายไข้เลือดออก
Cr: https://www.healthlabclinic.com
8. อาการทางระบบประสาท เช่น มีอาการชักโดยไม่ทราบสาเหตุ แขนขาอ่อนแรง ไม่มีสมาธิ เครียด นอนไม่หลับ
ซึมเศร้า วิตกกังวล มีปัญหาในการจ า สับสน เห็นภาพ หลอน โดยอาจเป็นผลข้างเคียงมาจากอาการเยื่อหุ้มสมอง
อักเสบอีกทีได้
Cr:https://www.sanook.com/health/7733/
- 7. 7
- ยากลุ่ม Nonsteroidal anti-inflammatorydrugs (NSAIDS; eg, ibuprofen, naproxen,diclofenac)
- ยากลุ่ม Corticosteroids (eg,methylprednisolone, prednisone)
- ยารักษามาลาเรีย Antimalarials (eg, hydroxychloroquine)
หลังจากวินิจฉัยโรคได้แล้วแพทย์จะท าการรักษาซึ่งอาจจะใช้แพทย์เปลือง เนื่องจากต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลาย
สาขา เช่น แพทย์โรคข้อrheumatologist แพทย์เชี่ยวชาญผิวหนังdermatologists แพทย์เชี่ยวชาญโรคไต
nephrologistsแพทย์เชี่ยวโรคภูมิคุ้มกันimmunologists การรักษาผู้ป่วย SLE ขึ้นกับผู้ป่วยแต่ละคนเนื่องจากแต่
ละคนเจ็บป่วยไม่เหมือนกัน
Cr:https://www.facebook.com/SLE.For.Thais/posts/1660392214018737/
- Nonsteroidal anti-inflammatory drugs (NSAIDs)เป็นยาลดการอักเสบใช้รักษาไข้ ข้ออักเสบ ปวด
ข้อ ข้อบวม อาจใช้ร่วมกับยาชนิดอื่น ผลข้างเคียงของยาคือ โรคกระเพาะอาหาร ท้องเสีย และบวม
- ยารักษามาลาเรีย มีการนายารักษามาลาเรียมาใช้รักษา SLE โดยเฉพาะรักษาอากรเพลีย ปวดข้อ ผื่น
และปอดอักเสบจาก SLE ได้แก่ยา hydrochloroquine, chloroquine (Aralen), and quinacrine
(Atabrine) ผลข้างเคียงคือแน่นท้อง ตามัวลง
- 8. 8
- Steroid อาจเป็นยากิน ยาทาหรือยาฉีดขึ้นกับความรุนแรงของโรค เนื่องจากยามีผลข้างเคียงจึงนิยมใช้ยาให้มี
ขนาดน้อยที่สุด ที่สามารถรักษาคนไข้ ผลข้างเคียงในระยะสั้นได้แก่ เจริญอาหาร บวม ไม่ควรหยุดยากลุ่มนี้ทันที
เพราะจะเกิดอันตราย หากกินยานี้เป็นเวลานานจะเกิดผลข้างเคียงคือ กระดูกพรุนความดันโลหิตสูง เบาหวาน ต้อ
กระจก ติดเชื้อได้ง่าย ผู้ป่วยที่ได้ยา steroid ควรได้รับ แคลเซี่ยมและวิตามินดีเสริมเพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุน
- immunosuppressive หากไม่สามารถควบคุมโรคได้แพทย์จะใช้ยากลุ่มนี้ เพื่อกดภูมิคุ้มกันได้แก่ยา
azathioprine (Imuran) and cyclophosphamide (Cytoxan) ,methotrexate
***เนื่องจากยามีผลข้างเคียงมากดั้งนั้นไม่ควรซื้อยารับประทานเอง หรือหยุดยาเองเพราะอาจเกิดผลเสียได้
การดูแลรักษาผู้ป่วย
นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคนี้ก็ควรปฏิบัติตนเองตามคาแนะนาของแพทย์อย่างเคร่งครัด และพบแพทย์ตามเวลา
ที่นัดหมายทุกครั้ง เพื่อให้การติดตามอาการ การควบคุมอาการของโรคเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
วิธีดาเนินงาน
Cr:https://www.siamhealth.net/public_html/Health/Photo_teaching/SLE/sle_treatment.h
Tm
Cr:https://health.campus-star.com/general/20248.html
- 9. 9
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจจะทา คือเรื่องโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง (โรคพุ่มพวง : SLE)
2.ศึกษาค้นคว้าและวางแผน โดยศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล รวมถึงการขอคาปรึกษาจาก
ผู้ทรงคุณวุฒิและจากผู้มีประสบการณ์ ช่วยให้ได้แนวคิดที่ใช้ในการกาหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้
เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น
3. จัดทาเค้าโครงของโครงงานที่จะทา โดยศึกษาค้นคว้าเอกสารอ้างอิง และรวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์และ
วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อกาหนดขอบเขตและลักษณะของโครงงาน
4. การลงมือทาโครงงาน ดาเนินการทาโครงงาน ตรวจสอบ ปรับปรุงแก้ไข เพื่อพัฒนาโครงงานเป็นระยะ ๆ เพื่อให้
แน่ใจว่าโครงงานนั้น ถูกต้องตรงกับความต้องการที่ระบุไว้ในเป้าหมาย
5.นาเสนองานต่ออาจารย์ที่ปรึกษา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1. คอมพิวเตอร์
2. เอกสารข้อมูลโรคพุ่มพวง
3. เครื่องมือสื่อสาร
Cr : http://0060415.blogspot.com/2016/12/mobile-phone.html
- 10. 10
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
ผู้ศึกษาได้รับความรู้เกี่ยวกับโรคพุ่มพวงทั้ง สาเหตุ การป้องกัน วิธีการรักษา วิธีดูแลตัวเองเมื่อป่วยเป็นโรคนี้
รวมถึงการปฎิบัติตัวเพื่อป้องกันความเสี่ยงของสาเหตุที่ทาเกิดโรค ซึ่งข้อมูลนี้สามารถเผยแพร่เพื่อให้ความรู้กับ
บุคคลที่สนใจหรือผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ได้
สถานที่ดาเนินการ
1. โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
2. ที่อยู่ปัจจุบัน (บ้าน)
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
1. สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
2. สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
- 11. 11
แหล่งอ้างอิง
- วิชัย เทียนถาวร.//(2561).//ข้อสันหลังอักเสบ และ SLE : โดย นพ.วิชัย เทียนถาวร.//สืบค้นเมื่อ 23
ตุลาคม 2562,/จาก/https://www.matichon.co.th/article/news_1209182
- Jurairat N..//(2561).//8 สัญญาณอันตราย “โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง SLE ลูปัส หรือโรคพุ่มพวง”.//
สืบค้นเมื่อ 23 ตุลาคม 2562,/จาก/https://www.sanook.com/health/7733/
- siamhealth.//(2562).//การรักษาโรคเอสแอลอี SLE.//สืบค้นเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2562,/จาก/
https://www.siamhealth.net/public_html/Health/Photo_teaching/SLE/sle_treatment.htm