SlideShare a Scribd company logo
1 of 7
Download to read offline
รู้ จักคน รู้ จักชุมชน ในจังหวัดน่ าน

รู้ จักคน รู้ จักชุ มชน น่านมีจานวนประชากร 514,688 คน ประกอบด้วยหลายชนเผ่าได้แก่


                                             ไทยวน

ไทยวน เป็ นคนกลุ่มใหญ่ของเมืองน่าน ตั้งบ้านเรื อนบนที่ราบลุ่มริ มแม่น้ าน่าน ประกอบอาชีพเกษตรกรรม
นักวิชาการบางท่านสันนิษฐานว่าเป็ นบรรพบุรุษ ของคนเมืองน่านที่อพยพมาจากล้านช้างฝั่งซ้ายแม่น้ าโขง
ไทลือ
                                                  ้

                          ่
ไทลือ มีถิ่นฐานเดิมอยูบริ เวณชายแดนพื้นที่รอยต่อระหว่างสิ บสองปั นนาเชียงตุง ลาว และล้านนา อพยพเข้า
     ้
มาในประเทศไทยหลายครั้ง ทั้งจากเหตุผลทางการดารงชีพ การถูกกดขี่จากจีน และพม่า หรื อหนีภยสงคราม
                                                                                           ั
ช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครองในจีน บ้างก็อพยพตามสายเครื อญาติ และการค้าขาย วัฒนะธรรมไทลื้อกับ
ไทยวนมีความคล้ายคลึงกันทั้งภาษา ศาสนา การแต่งกาย อาหาร งานหัตถกรรม โดยเฉพาะวิถีการผลิตแบบ
"เอ็ดนาเมืองลุ่ม" หรื อทานาดา เอกลักษ์ทางวัฒนธรรมของชาวไทลื้อคือ ผ้าทอลายน้ าไหลและลายลื้อ โดยใช้
เทคนิควิธีที่เรี ยกว่า "เกา" หรื อ "ล้วง"
ลัวะ/ถิน
                                                      ่

ลัวะ/ถิ่น เป็ นกลุ่มที่ต้ งถิ่นฐานมาดั้งเดิม รวมทั้งที่อพยพมาจากเมืองไชยบุรี สปป.ลาว ส่ วนคาว่า "ถิ่น" เป็ น
                          ั
ชื่อที่ทางการไทยเรี ยกกลุ่มชนดั้งเดิมกลุ่มนี้ในจังหวัดน่าน ลัวะมักตั้งบ้านเรื อนบนพื้นที่สูงระหว่าง 2,500-
3,000 ฟุต จากระดับน้ าทะเลปานกลาง บริ เวณลาน้ าสาขาแม่น้ าน่าน เช่น น้ าวาง น้ าว้า และน้ ามาง ดารงชีพ
ด้วยการปลูกข้าวไร่ และหาของป่ า มีฝีมือในการจักสานหญ้าสามเหลี่ยมเป็ นภาชนะต่างๆ หลายๆหมู่บาน           ้
                                    ั
ยังคงความเชื่อดั้งเดิมที่ผสัมพันธ์กบธรรมชาติ เช่น ผีป่า ผีน้ า ผีไร่ และผีบรรพบุรุษ งานพิธีใหญ่ที่สุดในรอบ
                              ี
ปี ได้แก่ พิธี "โสลด" (อ่าน สะโหลด) หรื อพิธี "กิ๋นดอกแดง" เพื่อเฉลิมฉลองผลผลิต และเพื่อเตรี ยมต้อนรับ
ฤดูการผลิตใหม่ ปั จจุบนลัวะตั้งถิ่นฐานมากที่สุดในอาเภอเฉลิมพระเกียรติ รองลงมาคือ ที่อาเภอบ่อเกลือ ปั ว
                            ั
ทุ่งช้าง และเชียงกลาง
ขมุ

ขมุ สันนิฐานว่าตั้งถิ่นฐานอยูตามหมู่บานชายแดนเมืองน่านและลาว เมื่อประมาณเกือบ 200 ปี ก่อน
                                ่          ้
สันนิษฐานว่าในปี พ.ศ.2373 ขมุถูกกวาดต้อนเพื่อเป็ นกาลังในการสร้างกาแพงเมืองเก่าน่าน เจมส์ เอฟ แม็ค
คาธี ร์ได้สารวจเพื่อทาแผนที่ทางภาคเหนือช่วงปี พ.ศ.2433-2436 กล่าวถึงขมุตามชายแดนเมืองน่านว่ามี 2
กลุ่ม คือ ขมุ (ลาว เรี ยกว่า ข่า) หรื อ "ข่าลาว" อยูใต้อานาจหลวงพระบางและขมุที่อยูใต้อานาจของน่าน เรี ยก
                                                    ่                                ่
"ข่าแคว้น"ชาวขมุได้ชื่อว่ามีฝีมือในการตีเหล็กเพื่อเป็ นเครื่ องมือ เช่น มีด ดาบ จอบ เสี ยม
ม้ ง (แม้ ว)

ม้ ง (แม้ ว) ตานานของชนเผ่ากล่าวว่า อพยพมาจากที่ราบสู งทิเบต ไซบีเรี ย และมองโกเลียสู่ ประเทศจีน ลาว
และไทย เชื่อว่าม้งอพยพมาเมืองน่านราว พ.ศ. 2433-2442 มีความสามารถในด้านการค้า เลี้ยงสัตว์ ปลูกพืช
เศรษฐกิจ เช่น ลิ้นจี่ ลาไย และทาเครื่ องเงิน ชาวม้งมีความเชื่อว่าโลหะเงินเป็ นสัญลักษณ์ของความมังคัง
                                                                                                ่ ่
และมงคลแก่ชีวต   ิ
เย้ า (เมี่ยน)

                         ่
เย้า (เมี่ยน) ถิ่นเดิมอยูแถบมณฑลยูนนาน ฮุนหนา กวางสี กวางเจา และทางตะวันออกของประเทศจีน ตั้ง
               ่
บ้านเรื อนอยูสูงกว่าระดับน้ าทะเลกว่า 1,000 เมตร วัฒนธรรมของเมี่ยนจึงได้รับอิทธิ พลจากจีน เช่น ภาษา
การสื บสกุลทางฝ่ ายสามี การใช้แซ่ ประเพณี ปีใหม่ (ตรงกับเทศกาลตรุ ษจีน) สาวเมี่ยนมีฝีมือในการปักผ้า
                     ่
ปั จจุบนมีเมี่ยนอยูมากที่สุดที่อาเภอเมือง
        ั
มลาบรี (ผีตองเหลือง)

มลาบรี (ผีตองเหลือง) สันนิษฐานว่าเป็ นเผ่าผสมชนชาติละว้าที่หนีร่นกลุ่มชนไทไปอยูตามป่ าเขา ในแขวง
                                                                                      ่
ไชยบุรี สปป.ลาว เมื่อประมาณ 800 กว่าปี มาแล้ว เดิมดารงชีพด้วยการเก็บของป่ าล่าสัตว์ไม่ต้ งถิ่นฐานเป็ น
                                                                                           ั
หลักแหล่ง สร้างเพียงเพิงมุงใบตอง และจะย้ายถิ่นเมื่อใบตองเริ่ มแห้งคือเปลี่ยนเป็ นสี เหลือง ปั จจุบนมลาบรี
                                                                                                  ั
              ่
ตั้งถิ่นฐานอยูที่อาเภอเวียงสา วัฒนธรรมถูกกลืนกลายไปหมดแล้ว




 ทีมา http://www.lannatouring.com/Nan/Interesting-article/HuaiKoan-BorderCheckPoint-Nan%20.htm
   ่

More Related Content

Similar to รู้จักคนในชุมชนเมืองน่าน

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือtonsocial
 
งานสังคม ภาคเหนือ
งานสังคม ภาคเหนืองานสังคม ภาคเหนือ
งานสังคม ภาคเหนือtonsocial
 
#อารยธรรมอินเดีย
#อารยธรรมอินเดีย#อารยธรรมอินเดีย
#อารยธรรมอินเดียPpor Elf'ish
 
แหล่งภูมิปัญญาท้องถิ่นสำคัญในบางกอก
แหล่งภูมิปัญญาท้องถิ่นสำคัญในบางกอกแหล่งภูมิปัญญาท้องถิ่นสำคัญในบางกอก
แหล่งภูมิปัญญาท้องถิ่นสำคัญในบางกอกrever39
 
ภาคเหนือเจ้า3
ภาคเหนือเจ้า3ภาคเหนือเจ้า3
ภาคเหนือเจ้า3aoysumatta
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1rever39
 
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน1
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน1ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน1
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน1teacherhistory
 
2.2 อารยธรรมอินเดีย
2.2 อารยธรรมอินเดีย2.2 อารยธรรมอินเดีย
2.2 อารยธรรมอินเดียJitjaree Lertwilaiwittaya
 
5.2.2นครเงินยาง
5.2.2นครเงินยาง5.2.2นครเงินยาง
5.2.2นครเงินยางkuraek1530
 
บทความเรื่อง ดนตรีของกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่
บทความเรื่อง ดนตรีของกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่บทความเรื่อง ดนตรีของกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่
บทความเรื่อง ดนตรีของกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่kawla2012
 

Similar to รู้จักคนในชุมชนเมืองน่าน (20)

เล่าขานบ้านคำชะอี
เล่าขานบ้านคำชะอีเล่าขานบ้านคำชะอี
เล่าขานบ้านคำชะอี
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
 
บ้านจ๊างนัก1
บ้านจ๊างนัก1บ้านจ๊างนัก1
บ้านจ๊างนัก1
 
งานสังคม ภาคเหนือ
งานสังคม ภาคเหนืองานสังคม ภาคเหนือ
งานสังคม ภาคเหนือ
 
#อารยธรรมอินเดีย
#อารยธรรมอินเดีย#อารยธรรมอินเดีย
#อารยธรรมอินเดีย
 
แหล่งภูมิปัญญาท้องถิ่นสำคัญในบางกอก
แหล่งภูมิปัญญาท้องถิ่นสำคัญในบางกอกแหล่งภูมิปัญญาท้องถิ่นสำคัญในบางกอก
แหล่งภูมิปัญญาท้องถิ่นสำคัญในบางกอก
 
ภาคเหนือเจ้า3
ภาคเหนือเจ้า3ภาคเหนือเจ้า3
ภาคเหนือเจ้า3
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน1
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน1ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน1
ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอีสาน1
 
อารยธรรมจีน
อารยธรรมจีน อารยธรรมจีน
อารยธรรมจีน
 
File
FileFile
File
 
ประวัติศาสตร์ไทย
ประวัติศาสตร์ไทยประวัติศาสตร์ไทย
ประวัติศาสตร์ไทย
 
Amperpai
AmperpaiAmperpai
Amperpai
 
ลาว
ลาวลาว
ลาว
 
2.2 อารยธรรมอินเดีย
2.2 อารยธรรมอินเดีย2.2 อารยธรรมอินเดีย
2.2 อารยธรรมอินเดีย
 
ประเพณีและวัฒนธรรม 5 ภาค สีขาว
ประเพณีและวัฒนธรรม 5 ภาค สีขาวประเพณีและวัฒนธรรม 5 ภาค สีขาว
ประเพณีและวัฒนธรรม 5 ภาค สีขาว
 
3.4 อารยธรรมกร ก
3.4 อารยธรรมกร ก3.4 อารยธรรมกร ก
3.4 อารยธรรมกร ก
 
5.2.2นครเงินยาง
5.2.2นครเงินยาง5.2.2นครเงินยาง
5.2.2นครเงินยาง
 
ราชบุรี
ราชบุรีราชบุรี
ราชบุรี
 
บทความเรื่อง ดนตรีของกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่
บทความเรื่อง ดนตรีของกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่บทความเรื่อง ดนตรีของกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่
บทความเรื่อง ดนตรีของกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่
 

More from krunoony

โครงงาน น้ำตะไคร้
โครงงาน น้ำตะไคร้โครงงาน น้ำตะไคร้
โครงงาน น้ำตะไคร้krunoony
 
จุฬาชนบท
จุฬาชนบทจุฬาชนบท
จุฬาชนบทkrunoony
 
บางมด เลือกตรงประเภทเรียนดี
บางมด เลือกตรงประเภทเรียนดีบางมด เลือกตรงประเภทเรียนดี
บางมด เลือกตรงประเภทเรียนดีkrunoony
 
ศิลปากร
ศิลปากรศิลปากร
ศิลปากรkrunoony
 
Google docs[1]
Google docs[1]Google docs[1]
Google docs[1]krunoony
 
การใช้งาน Wordpress
การใช้งาน Wordpressการใช้งาน Wordpress
การใช้งาน Wordpresskrunoony
 
นุ่น ครูดอย
นุ่น ครูดอยนุ่น ครูดอย
นุ่น ครูดอยkrunoony
 
ปิดทองหลังพระของครู
ปิดทองหลังพระของครูปิดทองหลังพระของครู
ปิดทองหลังพระของครูkrunoony
 
งานนำเสนอ Pronoun pdf
งานนำเสนอ Pronoun pdfงานนำเสนอ Pronoun pdf
งานนำเสนอ Pronoun pdfkrunoony
 
งานนำเสนอ Pronoun
งานนำเสนอ Pronounงานนำเสนอ Pronoun
งานนำเสนอ Pronounkrunoony
 

More from krunoony (20)

Bo..pass
Bo..passBo..pass
Bo..pass
 
Friend
FriendFriend
Friend
 
Chill
ChillChill
Chill
 
Chill
ChillChill
Chill
 
Chill
ChillChill
Chill
 
Chill
ChillChill
Chill
 
โครงงาน น้ำตะไคร้
โครงงาน น้ำตะไคร้โครงงาน น้ำตะไคร้
โครงงาน น้ำตะไคร้
 
Pat
PatPat
Pat
 
จุฬาชนบท
จุฬาชนบทจุฬาชนบท
จุฬาชนบท
 
Facebook
FacebookFacebook
Facebook
 
บางมด เลือกตรงประเภทเรียนดี
บางมด เลือกตรงประเภทเรียนดีบางมด เลือกตรงประเภทเรียนดี
บางมด เลือกตรงประเภทเรียนดี
 
ศิลปากร
ศิลปากรศิลปากร
ศิลปากร
 
Flickr
Flickr Flickr
Flickr
 
Google docs[1]
Google docs[1]Google docs[1]
Google docs[1]
 
การใช้งาน Wordpress
การใช้งาน Wordpressการใช้งาน Wordpress
การใช้งาน Wordpress
 
นุ่น ครูดอย
นุ่น ครูดอยนุ่น ครูดอย
นุ่น ครูดอย
 
5
55
5
 
ปิดทองหลังพระของครู
ปิดทองหลังพระของครูปิดทองหลังพระของครู
ปิดทองหลังพระของครู
 
งานนำเสนอ Pronoun pdf
งานนำเสนอ Pronoun pdfงานนำเสนอ Pronoun pdf
งานนำเสนอ Pronoun pdf
 
งานนำเสนอ Pronoun
งานนำเสนอ Pronounงานนำเสนอ Pronoun
งานนำเสนอ Pronoun
 

รู้จักคนในชุมชนเมืองน่าน

  • 1. รู้ จักคน รู้ จักชุมชน ในจังหวัดน่ าน รู้ จักคน รู้ จักชุ มชน น่านมีจานวนประชากร 514,688 คน ประกอบด้วยหลายชนเผ่าได้แก่ ไทยวน ไทยวน เป็ นคนกลุ่มใหญ่ของเมืองน่าน ตั้งบ้านเรื อนบนที่ราบลุ่มริ มแม่น้ าน่าน ประกอบอาชีพเกษตรกรรม นักวิชาการบางท่านสันนิษฐานว่าเป็ นบรรพบุรุษ ของคนเมืองน่านที่อพยพมาจากล้านช้างฝั่งซ้ายแม่น้ าโขง
  • 2. ไทลือ ้ ่ ไทลือ มีถิ่นฐานเดิมอยูบริ เวณชายแดนพื้นที่รอยต่อระหว่างสิ บสองปั นนาเชียงตุง ลาว และล้านนา อพยพเข้า ้ มาในประเทศไทยหลายครั้ง ทั้งจากเหตุผลทางการดารงชีพ การถูกกดขี่จากจีน และพม่า หรื อหนีภยสงคราม ั ช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครองในจีน บ้างก็อพยพตามสายเครื อญาติ และการค้าขาย วัฒนะธรรมไทลื้อกับ ไทยวนมีความคล้ายคลึงกันทั้งภาษา ศาสนา การแต่งกาย อาหาร งานหัตถกรรม โดยเฉพาะวิถีการผลิตแบบ "เอ็ดนาเมืองลุ่ม" หรื อทานาดา เอกลักษ์ทางวัฒนธรรมของชาวไทลื้อคือ ผ้าทอลายน้ าไหลและลายลื้อ โดยใช้ เทคนิควิธีที่เรี ยกว่า "เกา" หรื อ "ล้วง"
  • 3. ลัวะ/ถิน ่ ลัวะ/ถิ่น เป็ นกลุ่มที่ต้ งถิ่นฐานมาดั้งเดิม รวมทั้งที่อพยพมาจากเมืองไชยบุรี สปป.ลาว ส่ วนคาว่า "ถิ่น" เป็ น ั ชื่อที่ทางการไทยเรี ยกกลุ่มชนดั้งเดิมกลุ่มนี้ในจังหวัดน่าน ลัวะมักตั้งบ้านเรื อนบนพื้นที่สูงระหว่าง 2,500- 3,000 ฟุต จากระดับน้ าทะเลปานกลาง บริ เวณลาน้ าสาขาแม่น้ าน่าน เช่น น้ าวาง น้ าว้า และน้ ามาง ดารงชีพ ด้วยการปลูกข้าวไร่ และหาของป่ า มีฝีมือในการจักสานหญ้าสามเหลี่ยมเป็ นภาชนะต่างๆ หลายๆหมู่บาน ้ ั ยังคงความเชื่อดั้งเดิมที่ผสัมพันธ์กบธรรมชาติ เช่น ผีป่า ผีน้ า ผีไร่ และผีบรรพบุรุษ งานพิธีใหญ่ที่สุดในรอบ ี ปี ได้แก่ พิธี "โสลด" (อ่าน สะโหลด) หรื อพิธี "กิ๋นดอกแดง" เพื่อเฉลิมฉลองผลผลิต และเพื่อเตรี ยมต้อนรับ ฤดูการผลิตใหม่ ปั จจุบนลัวะตั้งถิ่นฐานมากที่สุดในอาเภอเฉลิมพระเกียรติ รองลงมาคือ ที่อาเภอบ่อเกลือ ปั ว ั ทุ่งช้าง และเชียงกลาง
  • 4. ขมุ ขมุ สันนิฐานว่าตั้งถิ่นฐานอยูตามหมู่บานชายแดนเมืองน่านและลาว เมื่อประมาณเกือบ 200 ปี ก่อน ่ ้ สันนิษฐานว่าในปี พ.ศ.2373 ขมุถูกกวาดต้อนเพื่อเป็ นกาลังในการสร้างกาแพงเมืองเก่าน่าน เจมส์ เอฟ แม็ค คาธี ร์ได้สารวจเพื่อทาแผนที่ทางภาคเหนือช่วงปี พ.ศ.2433-2436 กล่าวถึงขมุตามชายแดนเมืองน่านว่ามี 2 กลุ่ม คือ ขมุ (ลาว เรี ยกว่า ข่า) หรื อ "ข่าลาว" อยูใต้อานาจหลวงพระบางและขมุที่อยูใต้อานาจของน่าน เรี ยก ่ ่ "ข่าแคว้น"ชาวขมุได้ชื่อว่ามีฝีมือในการตีเหล็กเพื่อเป็ นเครื่ องมือ เช่น มีด ดาบ จอบ เสี ยม
  • 5. ม้ ง (แม้ ว) ม้ ง (แม้ ว) ตานานของชนเผ่ากล่าวว่า อพยพมาจากที่ราบสู งทิเบต ไซบีเรี ย และมองโกเลียสู่ ประเทศจีน ลาว และไทย เชื่อว่าม้งอพยพมาเมืองน่านราว พ.ศ. 2433-2442 มีความสามารถในด้านการค้า เลี้ยงสัตว์ ปลูกพืช เศรษฐกิจ เช่น ลิ้นจี่ ลาไย และทาเครื่ องเงิน ชาวม้งมีความเชื่อว่าโลหะเงินเป็ นสัญลักษณ์ของความมังคัง ่ ่ และมงคลแก่ชีวต ิ
  • 6. เย้ า (เมี่ยน) ่ เย้า (เมี่ยน) ถิ่นเดิมอยูแถบมณฑลยูนนาน ฮุนหนา กวางสี กวางเจา และทางตะวันออกของประเทศจีน ตั้ง ่ บ้านเรื อนอยูสูงกว่าระดับน้ าทะเลกว่า 1,000 เมตร วัฒนธรรมของเมี่ยนจึงได้รับอิทธิ พลจากจีน เช่น ภาษา การสื บสกุลทางฝ่ ายสามี การใช้แซ่ ประเพณี ปีใหม่ (ตรงกับเทศกาลตรุ ษจีน) สาวเมี่ยนมีฝีมือในการปักผ้า ่ ปั จจุบนมีเมี่ยนอยูมากที่สุดที่อาเภอเมือง ั
  • 7. มลาบรี (ผีตองเหลือง) มลาบรี (ผีตองเหลือง) สันนิษฐานว่าเป็ นเผ่าผสมชนชาติละว้าที่หนีร่นกลุ่มชนไทไปอยูตามป่ าเขา ในแขวง ่ ไชยบุรี สปป.ลาว เมื่อประมาณ 800 กว่าปี มาแล้ว เดิมดารงชีพด้วยการเก็บของป่ าล่าสัตว์ไม่ต้ งถิ่นฐานเป็ น ั หลักแหล่ง สร้างเพียงเพิงมุงใบตอง และจะย้ายถิ่นเมื่อใบตองเริ่ มแห้งคือเปลี่ยนเป็ นสี เหลือง ปั จจุบนมลาบรี ั ่ ตั้งถิ่นฐานอยูที่อาเภอเวียงสา วัฒนธรรมถูกกลืนกลายไปหมดแล้ว ทีมา http://www.lannatouring.com/Nan/Interesting-article/HuaiKoan-BorderCheckPoint-Nan%20.htm ่