More Related Content
Similar to รู้จักคนในชุมชนเมืองน่าน
Similar to รู้จักคนในชุมชนเมืองน่าน (20)
รู้จักคนในชุมชนเมืองน่าน
- 1. รู้ จักคน รู้ จักชุมชน ในจังหวัดน่ าน
รู้ จักคน รู้ จักชุ มชน น่านมีจานวนประชากร 514,688 คน ประกอบด้วยหลายชนเผ่าได้แก่
ไทยวน
ไทยวน เป็ นคนกลุ่มใหญ่ของเมืองน่าน ตั้งบ้านเรื อนบนที่ราบลุ่มริ มแม่น้ าน่าน ประกอบอาชีพเกษตรกรรม
นักวิชาการบางท่านสันนิษฐานว่าเป็ นบรรพบุรุษ ของคนเมืองน่านที่อพยพมาจากล้านช้างฝั่งซ้ายแม่น้ าโขง
- 2. ไทลือ
้
่
ไทลือ มีถิ่นฐานเดิมอยูบริ เวณชายแดนพื้นที่รอยต่อระหว่างสิ บสองปั นนาเชียงตุง ลาว และล้านนา อพยพเข้า
้
มาในประเทศไทยหลายครั้ง ทั้งจากเหตุผลทางการดารงชีพ การถูกกดขี่จากจีน และพม่า หรื อหนีภยสงคราม
ั
ช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครองในจีน บ้างก็อพยพตามสายเครื อญาติ และการค้าขาย วัฒนะธรรมไทลื้อกับ
ไทยวนมีความคล้ายคลึงกันทั้งภาษา ศาสนา การแต่งกาย อาหาร งานหัตถกรรม โดยเฉพาะวิถีการผลิตแบบ
"เอ็ดนาเมืองลุ่ม" หรื อทานาดา เอกลักษ์ทางวัฒนธรรมของชาวไทลื้อคือ ผ้าทอลายน้ าไหลและลายลื้อ โดยใช้
เทคนิควิธีที่เรี ยกว่า "เกา" หรื อ "ล้วง"
- 3. ลัวะ/ถิน
่
ลัวะ/ถิ่น เป็ นกลุ่มที่ต้ งถิ่นฐานมาดั้งเดิม รวมทั้งที่อพยพมาจากเมืองไชยบุรี สปป.ลาว ส่ วนคาว่า "ถิ่น" เป็ น
ั
ชื่อที่ทางการไทยเรี ยกกลุ่มชนดั้งเดิมกลุ่มนี้ในจังหวัดน่าน ลัวะมักตั้งบ้านเรื อนบนพื้นที่สูงระหว่าง 2,500-
3,000 ฟุต จากระดับน้ าทะเลปานกลาง บริ เวณลาน้ าสาขาแม่น้ าน่าน เช่น น้ าวาง น้ าว้า และน้ ามาง ดารงชีพ
ด้วยการปลูกข้าวไร่ และหาของป่ า มีฝีมือในการจักสานหญ้าสามเหลี่ยมเป็ นภาชนะต่างๆ หลายๆหมู่บาน ้
ั
ยังคงความเชื่อดั้งเดิมที่ผสัมพันธ์กบธรรมชาติ เช่น ผีป่า ผีน้ า ผีไร่ และผีบรรพบุรุษ งานพิธีใหญ่ที่สุดในรอบ
ี
ปี ได้แก่ พิธี "โสลด" (อ่าน สะโหลด) หรื อพิธี "กิ๋นดอกแดง" เพื่อเฉลิมฉลองผลผลิต และเพื่อเตรี ยมต้อนรับ
ฤดูการผลิตใหม่ ปั จจุบนลัวะตั้งถิ่นฐานมากที่สุดในอาเภอเฉลิมพระเกียรติ รองลงมาคือ ที่อาเภอบ่อเกลือ ปั ว
ั
ทุ่งช้าง และเชียงกลาง
- 4. ขมุ
ขมุ สันนิฐานว่าตั้งถิ่นฐานอยูตามหมู่บานชายแดนเมืองน่านและลาว เมื่อประมาณเกือบ 200 ปี ก่อน
่ ้
สันนิษฐานว่าในปี พ.ศ.2373 ขมุถูกกวาดต้อนเพื่อเป็ นกาลังในการสร้างกาแพงเมืองเก่าน่าน เจมส์ เอฟ แม็ค
คาธี ร์ได้สารวจเพื่อทาแผนที่ทางภาคเหนือช่วงปี พ.ศ.2433-2436 กล่าวถึงขมุตามชายแดนเมืองน่านว่ามี 2
กลุ่ม คือ ขมุ (ลาว เรี ยกว่า ข่า) หรื อ "ข่าลาว" อยูใต้อานาจหลวงพระบางและขมุที่อยูใต้อานาจของน่าน เรี ยก
่ ่
"ข่าแคว้น"ชาวขมุได้ชื่อว่ามีฝีมือในการตีเหล็กเพื่อเป็ นเครื่ องมือ เช่น มีด ดาบ จอบ เสี ยม
- 5. ม้ ง (แม้ ว)
ม้ ง (แม้ ว) ตานานของชนเผ่ากล่าวว่า อพยพมาจากที่ราบสู งทิเบต ไซบีเรี ย และมองโกเลียสู่ ประเทศจีน ลาว
และไทย เชื่อว่าม้งอพยพมาเมืองน่านราว พ.ศ. 2433-2442 มีความสามารถในด้านการค้า เลี้ยงสัตว์ ปลูกพืช
เศรษฐกิจ เช่น ลิ้นจี่ ลาไย และทาเครื่ องเงิน ชาวม้งมีความเชื่อว่าโลหะเงินเป็ นสัญลักษณ์ของความมังคัง
่ ่
และมงคลแก่ชีวต ิ
- 6. เย้ า (เมี่ยน)
่
เย้า (เมี่ยน) ถิ่นเดิมอยูแถบมณฑลยูนนาน ฮุนหนา กวางสี กวางเจา และทางตะวันออกของประเทศจีน ตั้ง
่
บ้านเรื อนอยูสูงกว่าระดับน้ าทะเลกว่า 1,000 เมตร วัฒนธรรมของเมี่ยนจึงได้รับอิทธิ พลจากจีน เช่น ภาษา
การสื บสกุลทางฝ่ ายสามี การใช้แซ่ ประเพณี ปีใหม่ (ตรงกับเทศกาลตรุ ษจีน) สาวเมี่ยนมีฝีมือในการปักผ้า
่
ปั จจุบนมีเมี่ยนอยูมากที่สุดที่อาเภอเมือง
ั
- 7. มลาบรี (ผีตองเหลือง)
มลาบรี (ผีตองเหลือง) สันนิษฐานว่าเป็ นเผ่าผสมชนชาติละว้าที่หนีร่นกลุ่มชนไทไปอยูตามป่ าเขา ในแขวง
่
ไชยบุรี สปป.ลาว เมื่อประมาณ 800 กว่าปี มาแล้ว เดิมดารงชีพด้วยการเก็บของป่ าล่าสัตว์ไม่ต้ งถิ่นฐานเป็ น
ั
หลักแหล่ง สร้างเพียงเพิงมุงใบตอง และจะย้ายถิ่นเมื่อใบตองเริ่ มแห้งคือเปลี่ยนเป็ นสี เหลือง ปั จจุบนมลาบรี
ั
่
ตั้งถิ่นฐานอยูที่อาเภอเวียงสา วัฒนธรรมถูกกลืนกลายไปหมดแล้ว
ทีมา http://www.lannatouring.com/Nan/Interesting-article/HuaiKoan-BorderCheckPoint-Nan%20.htm
่