SlideShare ist ein Scribd-Unternehmen logo
1 von 18
Downloaden Sie, um offline zu lesen
รายงาน
เรื่อง...อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายทีเ่ กียวข้ อง
                                              ่
                     จัดทาโดย
              นางสาวอรัญญา อังศุวริยะ
                                 ิ
                 ชั้นม.6/1 เลขที่ 21
                       เสนอ
               คุณครู จุฑารัตน์ ใจบุญ
คำนำ
         รายงานฉบับนี้ เป็ นส่ วนหนึ่งของรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี ซึ่งดิฉนได้รับมอบหมาย
                                                                               ั
ให้ไปศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับอาชญากรรมและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ ซึ่ งมีเนื้อหาเกี่ยวกับ
ความหมายของอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร อาชญากรรม 6 ประเภท ลักษณะของผูกระทาความผิดทาง
                                                                ้
คอมพิวเตอร์ และ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ ซึ่ งรายงานฉบับนี้จะเป็ นประโยชน์แก่ผที่สนใจใน
                                                                                       ู้
เรื่ องคอมพิวเตอร์ ไม่มากก็นอย หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่น้ ีดวย
                            ้                                          ้




                                                                                   ผูจดทา
                                                                                     ้ั

                                                                           นางสาว อรัญญา อังศุวิริยะ
สารบัญ

เนือเรื่อง
   ้                                              หน้ า
ความหมายของอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์                 1

อาชญากรรม 6 ประเภท                                 2

ลักษณะของผู้กระทาความผิดทางคอมพิวเตอร์             4

กฎหมายทีเ่ กี่ยวข้ องกับคอมพิวเตอร์                 5-12
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ประเภทต่ างๆ

อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ (Cyber-Crime) เป็ นการกระทาที่ผดกฎหมายโดยใช้วธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
                                                       ิ             ิ
                                         ่
เพื่อโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลที่อยูบนระบบดังกล่าว ส่ วนในมุมมองที่กว้างขึ้น “อาชญากรรมที่
เกี่ยวเนื่องกับคอมพิวเตอร์ ” หมายถึงการกระทาที่ผดกฎหมายใดๆ ซึ่ งอาศัยหรื อมีความเกี่ยวเนื่องกับระบบ
                                                ิ
คอมพิวเตอร์ หรื อเครื อข่าย อย่างไรก็ตาม อาชญากรรมประเภทนี้ไม่ถือเป็ นอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
โดยตรง
ในการประชุมสหประชาชาติครั้งที่ 10 ว่าด้วยการป้ องกันอาชญากรรมและการปฏิบติต่อผูกระทาผิด (The
                                                                       ั      ้
Tenth United Nations Congress on the Prevention of Crime and the Treatment of Offenders) ซึ่ งจัดขึ้นที่
กรุ งเวียนนา เมื่อวันที่ 10-17 เมษายน 2543 ได้มีการจาแนกประเภทของอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ โดย
แบ่งเป็ น 5 ประเภท คือ การเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุ ญาต, การสร้างความเสี ยหายแก่ขอมูลหรื อโปรแกรม
                                                                              ้
คอมพิวเตอร์ , การก่อกวนการทางานของระบบคอมพิวเตอร์ หรื อเครื อข่าย, การยับยั้งข้อมูลที่ส่งถึง/จากและ
ภายในระบบหรื อเครื อข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และการจารกรรมข้อมูลบนคอมพิวเตอร์
โครงการอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์และการโจรกรรมทรัพย์สินทางปัญญา (Cyber-Crime and
Intellectual Property Theft) พยายามที่จะเก็บรวบรวมและเผยแพร่ ขอมูล และค้นคว้าเกี่ยวกับอาชญากรรม
                                                              ้
ทางคอมพิวเตอร์ 6 ประเภท ที่ได้รับความนิยม ซึ่ งส่ งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนและผูบริ โภค
                                                                               ้
นอกจากนี้ยงทาหน้าที่เผยแพร่ ความรู ้เกี่ยวกับขอบเขตและความซับซ้อนของปั ญหา รวมถึงนโยบายปั จจุบน
          ั                                                                                   ั
และความพยายามในการปั ญหานี้


อาชญากรรม 6 ประเภทดังกล่าวได้ แก่

    1. การเงิน – อาชญากรรมที่ขดขวางความสามารถขององค์กรธุ รกิจในการทาธุ รกรรม อี-คอมเมิร์ซ
                              ั
         (หรื อพาณิ ชย์อิเล็กทรอนิกส์)

    2. การละเมิดลิขสิ ทธิ์ – การคัดลอกผลงานที่มีลิขสิ ทธิ์ ในปัจจุบนคอมพิวเตอร์ ส่วนบุคคลและ
                                                                   ั
         อินเทอร์ เน็ตถูกใช้เป็ นสื่ อในการก่ออาชญากรรม แบบเก่า โดยการโจรกรรมทางออนไลน์หมาย
         รวมถึง การละเมิดลิขสิ ทธิ์ ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อินเทอร์ เน็ตเพื่อจาหน่ายหรื อเผยแพร่ ผลงาน
         สร้างสรรค์ที่ได้รับการคุมครองลิขสิ ทธิ์
                                 ้
3. การเจาะระบบ – การให้ได้มาซึ่ งสิ ทธิ ในการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ หรื อเครื อข่ายโดยไม่ได้รับ
    อนุญาต และในบางกรณี อาจหมายถึงการใช้สิทธิ การเข้าถึงนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้การ
    เจาะระบบยังอาจรองรับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ในรู ปแบบอื่นๆ (เช่น การปลอมแปลง การ
    ก่อการร้าย ฯลฯ)


4. การก่อการร้ายทางคอมพิวเตอร์ – ผลสื บเนื่องจากการเจาะระบบ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความ
    หวาดกลัว เช่นเดียวกับการก่อการร้ายทัวไป โดยการกระทาที่เข้าข่าย การก่อการร้ายทาง
                                        ่
    อิเล็กทรอนิกส์ (e-terrorism) จะเกี่ยวข้องกับการเจาระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อก่อเหตุรุนแรงต่อบุคคล
    หรื อทรัพย์สิน หรื ออย่างน้อยก็มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความหวาดกลัว


5. ภาพอนาจารทางออนไลน์ – ตามข้อกาหนด 18 USC 2252 และ 18 USC 2252A การประมวลผล
    หรื อการเผยแพร่ ภาพอนาจารเด็กถือเป็ นการกระทาที่ผดกฎหมาย และตามข้อกาหนด 47 USC 223
                                                     ิ
    การเผยแพร่ ภาพลามกอนาจารในรู ปแบบใดๆ แก่เยาวชนถือเป็ นการกระทาที่ขดต่อกฎหมาย
                                                                      ั
    อินเทอร์ เน็ตเป็ นเพียงช่องทางใหม่สาหรับอาชญากรรม แบบเก่า อย่างไรก็ดี ประเด็นเรื่ องวิธีที่
    เหมาะสมที่สุดในการควบคุมช่องทางการสื่ อสารที่ครอบคลุมทัวโลกและเข้าถึงทุกกลุ่มอายุน้ ีได้
                                                           ่
    ก่อให้เกิดการถกเถียงและการโต้แย้งอย่างกว้างขวาง


                           ่
6. ภายในโรงเรี ยน – ถึงแม้วาอินเทอร์ เน็ตจะเป็ นแหล่งทรัพยากรสาหรับการศึกษาและสันทนาการ แต่
    เยาวชนจาเป็ นต้องได้รับทราบเกี่ยวกับวิธีการใช้งานเครื่ องมืออันทรงพลังนี้อย่างปลอดภัยและมี
    ความรับผิดชอบ โดยเป้ าหมายหลักของโครงการนี้คือ เพื่อกระตุนให้เด็กได้เรี ยนรู ้เกี่ยวกับ
                                                             ้
    ข้อกาหนดทางกฎหมาย สิ ทธิ ของตนเอง และวิธีท่ีเหมาะสมในการป้ องกันการใช้อินเทอร์ เน็ต
    ในทางที่ผด
             ิ
อาชญากรคอมพิวเตอร์ คือ ผูกระทาผิดกฎหมายโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เป็ นส่ วนสาคัญ
                                   ้
มีการจาแนกไว้ดงนี้
              ั

   1. พวกมือใหม่ (Novices) หรื อมือสมัครเล่น อยากทดลองความรู ้และส่ วนใหญ่จะมิใช่ผู ้ ที่เป็ นอาชญา
       กรโดยนิสย มิได้ดารงชีพโดยการกระทาผิด อาจหมายถึงพวกที่เพิ่งได้รับความไว้วางใจให้เข้าสู่
               ั
       ระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์

   2. Darnged person คือ พวกจิตวิปริ ต ผิดปกติ มีลกษณะเป็ นพวกชอบความรุ นแรง และอันตราย มัก
                                                  ั
                                                 ่
       เป็ นพวกที่ชอบทาลายทุกสิ่ งที่ขวางหน้าไม่วาจะเป็ นบุคคล สิ่ งของ หรื อสภาพแวดล้อม

   3. Organized Crime พวกนี้เป็ นกลุ่มอาชญากรที่ร่วมมือกันทาผิดในลักษณะขององค์กรใหญ่ๆ ที่มี
                                       ่
       ระบบ พวกเขาจะใช้คอมพิวเตอร์ ที่ตางกัน โดยส่ วนหนึ่งอาจใช้เป็ นเครื่ องหาข่าวสาร เหมือนองค์กร
       ธุ รกิจทัวไป อีกส่ วนหนึ่งก็จะใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็ นตัวประกอบสาคัญในการก่ออาชญากรรม หรื อ
                ่
       ใช้เทคโนโลยีกลบเกลื่อนร่ องร่ อย ให้รอดพ้นจากเจ้าหน้าที่

   4. Career Criminal พวกอาชญากรมืออาชีพ เป็ นกลุ่มอาชญากรคอมพิวเตอร์ ที่มีอยูมาก กลุ่มนี้น่าเป็ น
                                                                              ่
       ห่วงมากที่สุด เนื่ องจากนับวันจะทวีจานวนมากขึ้นเรื่ อยๆ โดยจับผิดแล้วจับผิดเล่า บ่อยครั้ง

   5. Com Artist คือพวกหัวพัฒนา เป็ นพวกที่ชอบความก้าวหน้าทางคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ได้มาซึ่ ง
       ผลประโยชน์ส่วนตน อาชญากรประเภทนี้จะใช้ความก้าวหน้า เกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ และ
       ความรู้ของตนเพื่อหาเงินมิชอบทางกฎหมาย

   6. Dreamer พวกบ้าลัทธิ เป็ นพวกที่คอยทาผิดเนื่องจากมีความเชื่อถือสิ่ งหนึ่งสิ่ งใดอย่างรุ่ นแรง

   7. Cracker หมายถึง ผูที่มีความรู ้และทักษะทางคอมพิวเตอร์ เป็ นอย่างดี จนสามารถลักลอบเข้าสู่ ระบบ
                        ้
       ได้ โดยมีวตถุประสงค์เข้าไปหาผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง มักเข้าไปทาลายหรื อลบไฟล์ หรื อ
                 ั
       ทาให้คอมพิวเตอร์ ใช้การไม่ได้ รวมถึงทาลายระบบปฏิบติการ
                                                        ั

   8. นักเจาะข้อมูล (Hacker) ผูที่ชอบเจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของผูอื่น พยายามหาความท้าทายทาง
                               ้                                 ้
       เทคโนโลยีเข้าไปในเครื อข่ายของผูอื่นโดยที่ตนเองไม่มีอานาจ
                                       ้

   9. อาชญากรในรู ปแบบเดิมที่ใช้เทคโนโลยีเป็ นเครื่ องมือ เช่นพวกลักเล็กขโมยน้อยที่ พยายามขโมย
       บัตร ATM ของผูอื่น
                     ้
10. อาชญากรมืออาชีพ คนพวกนี้จะดารงชีพจากการกระทาความผิด เช่นพวกที่มกจะใช้ ความรู ้ทาง
                                                                       ั
         เทคโนโลยีฉอโกงสถาบันการเงิน หรื อการจารกรรมข้อมูลไปขาย เป็ นต้น
                   ้

    11. พวกหัวรุ นแรงคลังอุดมการณ์หรื อลัทธิ มักก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ เพื่อ อุดมการณ์ทาง
                        ่
         การเมือง เศรษฐกิจ ศาสนา หรื อสิ ทธิ มนุษย์ชน เป็ นต้น

ผู้กระทาความผิดทางคอมพิวเตอร์ มีลกษณะพิเศษดังต่ อไปนี้
                                 ั
1. ส่ วนใหญ่มกมีอายุนอย
             ั       ้
2. ส่ วนใหญ่เป็ นผูที่มีวชาชีพ
                   ้ ิ
3. ลักษณะส่ วนตัวเช่น
- มีแรงจูงใจและความทะยานอยากสู งในการที่จะเอาชนะและฉลาด
- ไม่ใช่อาชญากรโดยอาชีพ
- กลัวที่จะถูกจับได้ กลัวครอบครัว เพื่อนและเพื่อนร่ วมงานจะรู ้ถึงการกระทาความผิดของตน
กฏหมายที่เกียวข้ องกับคอมพิวเตอร์
                                               ่

         พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศ
ว่า โดยที่เป็ นการสมควรมีกฎหมาย ว่าด้วยการกระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จึงทรงพระกรุ ณาโปรด
เกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติข้ ึนไว้โดยคาแนะนาและยินยอมของสภานิ ติบญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
                                                                  ั
มาตรา ๑ พระราชบัญญัติน้ ีเรี ยกว่า “พระราชบัญญัติวาด้วยการกระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.
                                                  ่
๒๕๕๐”

มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ ีให้ใช้บงคับเมื่อพ้นกาหนดสามสิ บวันนับแต่วนประกาศในราชกิจจานุ เบกษา
                                ั                                 ั
เป็ นต้นไป

มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัติน้ ี “ระบบคอมพิวเตอร์ ” หมายความว่า อุปกรณ์หรื อชุดอุปกรณ์ของ
คอมพิวเตอร์ ที่เชื่ อมการทางานเข้าด้วยกัน โดยได้มีการกาหนดคาสั่ง ชุดคาสั่ง หรื อสิ่ งอื่นใด และแนวทาง
ปฏิบติงานให้อุปกรณ์หรื อชุดอุปกรณ์ทาหน้าที่ประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติ
    ั
                                                                                            ่
“ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ” หมายความว่า ข้อมูล ข้อความ คาสั่ง ชุดคาสั่ง หรื อสิ่ งอื่นใดบรรดาที่อยูในระบบ
คอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ และให้หมายความรวมถึงข้อมูล
อิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วยธุ รกรรมทางอิเล็กทรอนิ กส์ดวย
                                                         ้
“ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่ อสารของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่ง
แสดงถึงแหล่งกาเนิด ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริ มาณ ระยะเวลาชนิ ดของบริ การ หรื ออื่น ๆ ที่
เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่ อสารของระบบคอมพิวเตอร์ น้ น
                                                    ั
“ผูให้บริ การ” หมายความว่า
   ้
(๑) ผูให้บริ การแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่ อินเทอร์ เน็ต หรื อให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอื่น โดยผ่าน
      ้
                               ่
ทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ไม่วาจะเป็ นการให้บริ การในนามของตนเอง หรื อในนามหรื อเพื่อประโยชน์
ของบุคคลอื่น
(๒) ผูให้บริ การเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์ เพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น
      ้
“ผูใช้บริ การ” หมายความว่า ผูใช้บริ การของผูให้บริ การไม่วาต้องเสี ยค่าใช้บริ การหรื อไม่ก็ตาม
   ้                         ้              ้             ่
“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผูซ่ ึ งรัฐมนตรี แต่งตั้งให้ปฏิบติการตามพระราชบัญญัติน้ ี
                                   ้                             ั
“รัฐมนตรี ” หมายความว่า รัฐมนตรี ผรักษาการตามพระราชบัญญัติน้ ี
                                  ู้
่
มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรี วาการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสารรักษาการตามพระราชบัญญัติน้ ี
และให้มีอานาจออกกฎกระทรวง เพื่อปฏิบติการตามพระราชบัญญัติน้ ี กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศใน
                                   ั
ราชกิจจานุ เบกษาแล้วให้ใช้บงคับได้
                           ั




หมวด ๑
ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

มาตรา ๕ ผูใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่ งระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีมาตรการป้ องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการ
          ้
นั้น มิได้มีไว้สาหรับตน ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหกเดือน หรื อปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรื อทั้งจาทั้ง
ปรับ

มาตรา ๖ ผูใดล่วงรู ้มาตรการป้ องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ที่ผอื่นจัดทาขึ้นเป็ นการเฉพาะถ้านา
          ้                                                      ู้
มาตรการดังกล่าวไปเปิ ดเผยโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสี ยหายแก่ผอื่น ต้องระวางโทษจาคุกไม่
                                                                      ู้
เกินหนึ่งปี หรื อปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ

มาตรา ๗ ผูใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่มีมาตรการป้ องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการ
          ้
นั้นมิได้มีไว้สาหรับตน ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสองปี หรื อปรับไม่เกินสี่ หมื่นบาทหรื อทั้งจาทั้งปรับ

มาตรา ๘ ผูใดกระทาด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับไว้ซ่ ึง
          ้
                       ้         ่
ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ของผูอื่นที่อยูระหว่างการส่ งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์ น้ นมิได้มีไว้
                                                                                         ั
เพื่อประโยชน์สาธารณะหรื อเพื่อให้บุคคลทัวไปใช้ประโยชน์ได้ตองระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรื อปรับ
                                        ่                 ้
ไม่เกินหกหมื่นบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ

          ้                                               ่        ่
มาตรา ๙ ผูใดทาให้เสี ยหาย ทาลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรื อเพิมเติมไม่วาทั้งหมดหรื อบางส่ วน ซึ่ ง
ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ของผูอื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินห้าปี หรื อปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรื อ
                       ้
ทั้งจาทั้งปรับ
มาตรา ๑๐ ผูใดกระทาด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทางานของระบบคอมพิวเตอร์ของผูอื่นถูกระงับ
           ้                                                                  ้
ชะลอ ขัดขวาง หรื อรบกวนจนไม่สามารถทางานตามปกติได้ตองระวางโทษจาคุกไม่เกินห้าปี หรื อปรับไม่
                                                  ้
เกินหนึ่งแสนบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ

มาตรา ๑๑ ผูใดส่ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรื อจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิ ดหรื อปลอมแปลง
           ้
แหล่งที่มาของการส่ งข้อมูลดังกล่าว อันเป็ นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข
ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

มาตรา ๑๒ ถ้าการกระทาความผิดตามมาตรา ๙ หรื อมาตรา ๑๐
                                         ่                                                       ่
(๑) ก่อให้เกิดความเสี ยหายแก่ประชาชน ไม่วาความเสี ยหายนั้นจะเกิดขึ้นในทันทีหรื อในภายหลัง และไม่วา
จะเกิดขึ้นพร้อมกันหรื อไม่ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสิ บปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท
(๒) เป็ นการกระทาโดยประการที่น่าจะเกิดความเสี ยหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรื อระบบคอมพิวเตอร์ ที่
เกี่ยวกับการรักษาความมันคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมันคงในทางเศรษฐกิจ
                       ่                                            ่
ของประเทศ หรื อการบริ การสาธารณะ หรื อเป็ นการกระทาต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรื อระบบคอมพิวเตอร์ที่มี
ไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ ต้องระวางโทษจาคุกตั้งแต่สามปี ถึงสิ บห้าปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสาม
แสนบาท
ถ้าการกระทาความผิดตาม (๒) เป็ นเหตุให้ผอื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจาคุกตั้งแต่สิบปี ถึงยีสิบปี
                                       ู้                                                   ่

มาตรา ๑๓ ผูใดจาหน่ายหรื อเผยแพร่ ชุดคาสั่งที่จดทาขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนาไปใช้เป็ นเครื่ องมือในการกระทา
           ้                                  ั
ความผิดตามมาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ หรื อมาตรา ๑๑ ต้องระวางโทษ
จาคุกไม่เกินหนึ่งปี หรื อปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ

มาตรา ๑๔ ผูใดกระทาความผิดที่ระบุไว้ดงต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินห้าปี หรื อปรับไม่เกินหนึ่ง
           ้                        ั
แสนบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ
(๑) นาเข้าสู่ ระบบคอมพิวเตอร์ ซ่ ึ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ปลอมไม่วาทั้งหมดหรื อบางส่ วน หรื อ
                                                              ่
ข้อมูลคอมพิวเตอร์ อนเป็ นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสี ยหายแก่ผอื่นหรื อประชาชน
                   ั                                               ู้
(๒) นาเข้าสู่ ระบบคอมพิวเตอร์ ซ่ ึ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ อนเป็ นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสี ยหายต่อ
                                                       ั
ความมันคงของประเทศหรื อก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
      ่
(๓) นาเข้าสู่ ระบบคอมพิวเตอร์ ซ่ ึ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ใด ๆ อันเป็ นความผิดเกี่ยวกับความมันคงแห่ง
                                                                                         ่
ราชอาณาจักรหรื อความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
(๔) นาเข้าสู่ ระบบคอมพิวเตอร์ ซ่ ึ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ใด ๆ ที่มีลกษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์ น้ น
                                                                 ั                                  ั
ประชาชนทัวไปอาจเข้าถึงได้
         ่
                                                         ่
(๕) เผยแพร่ หรื อส่ งต่อซึ่ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยรู ้อยูแล้วว่าเป็ นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (๑)(๒) (๓) หรื อ
(๔)

มาตรา ๑๕ ผูให้บริ การผูใดจงใจสนับสนุนหรื อยินยอมให้มีการกระทาความผิดตามมาตรา ๑๔ ในระบบ
           ้           ้
                  ่
คอมพิวเตอร์ ที่อยูในความควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผูกระทาความผิดตามมาตรา ๑๔
                                                              ้

มาตรา ๑๖ ผูใดนาเข้าสู่ ระบบคอมพิวเตอร์ ที่ประชาชนทัวไปอาจเข้าถึงได้ซ่ ึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็ น
           ้                                       ่
ภาพของผูอื่น และภาพนั้นเป็ นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรื อดัดแปลงด้วยวิธีการทาง
        ้
อิเล็กทรอนิกส์หรื อวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทาให้ผอื่นนั้นเสี ยชื่อเสี ยง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง
                                                                ู้
หรื อได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรื อ
ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ ถ้าการกระทาตามวรรคหนึ่ง เป็ นการนาเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์
โดยสุ จริ ต ผูกระทาไม่มีความผิด ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็ นความผิดอันยอมความได้ ถ้าผูเ้ สี ยหายใน
              ้
ความผิดตามวรรคหนึ่งตายเสี ยก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา คู่สมรส หรื อ บุตรของผูเ้ สี ยหายร้องทุกข์ได้
และให้ถือว่าเป็ นผูเ้ สี ยหาย

มาตรา ๑๗ ผูใดกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ีนอกราชอาณาจักรและ
           ้
(๑) ผูกระทาความผิดนั้นเป็ นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดขึ้นหรื อผูเ้ สี ยหายได้ร้องขอให้
      ้
ลงโทษ หรื อ
(๒) ผูกระทาความผิดนั้นเป็ นคนต่างด้าว และรัฐบาลไทยหรื อคนไทยเป็ นผูเ้ สี ยหายและผูเ้ สี ยหายได้ร้อง
      ้
ขอให้ลงโทษ
จะต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร

หมวด ๒
พนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา ๑๘ ภายใต้บงคับมาตรา ๑๙ เพื่อประโยชน์ในการสื บสวนและสอบสวนในกรณี ที่มีเหตุอนควรเชื่อได้
                ั                                                               ั
ว่ามีการกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอานาจอย่างหนึ่ งอย่างใด ดังต่อไปนี้
เฉพาะที่จาเป็ นเพื่อประโยชน์ในการใช้เป็ นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทาความผิดและหาตัวผูกระทาความผิด
                                                                                  ้
(๑) มีหนังสื อสอบถามหรื อเรี ยกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ีมาเพื่อให้
่
ถ้อยคา ส่ งคาชี้แจงเป็ นหนังสื อ หรื อส่ งเอกสาร ข้อมูล หรื อหลักฐานอื่นใดที่อยูในรู ปแบบที่สามารถเข้าใจได้
(๒) เรี ยกข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ จากผูให้บริ การเกี่ยวกับการติดต่อสื่ อสารผ่านระบบคอมพิวเตอร์ หรื อ
                                         ้
จากบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง
(๓) สั่งให้ผให้บริ การส่ งมอบข้อมูลเกี่ยวกับผูใช้บริ การที่ตองเก็บตามมาตรา ๒๖ หรื อที่อยูในความ
            ู้                                ้             ้                            ่
ครอบครองหรื อควบคุมของผูให้บริ การให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่
                        ้
(๔) ทาสาเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ จากระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีเหตุอนควรเชื่อได้
                                                                                    ั
                                                                                  ่
ว่ามีการกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี ในกรณี ที่ระบบคอมพิวเตอร์ น้ นยังมิได้อยูในความครอบครอง
                                                                      ั
ของพนักงานเจ้าหน้าที่
(๕) สั่งให้บุคคลซึ่ งครอบครองหรื อควบคุมข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรื ออุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ ส่ ง
มอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรื ออุปกรณ์ดงกล่าวให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่
                                  ั
(๖) ตรวจสอบหรื อเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์หรื ออุปกรณ์ที่
ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ ของบุคคลใด อันเป็ นหลักฐานหรื ออาจใช้เป็ นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทา
ความผิด หรื อเพื่อสื บสวนหาตัวผูกระทาความผิดและสั่งให้บุคคลนั้นส่ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ขอมูลจราจรทาง
                                ้                                                     ้
คอมพิวเตอร์ ที่เกี่ยวข้องเท่าที่จาเป็ นให้ดวยก็ได้
                                           ้
(๗) ถอดรหัสลับของข้อมูลคอมพิวเตอร์ ของบุคคลใด หรื อสั่งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเข้ารหัสลับของ
ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ทาการถอดรหัสลับ หรื อให้ความร่ วมมือกับพนักงานเจ้าหน้าที่ในการถอดรหัสลับ
ดังกล่าว
(๘) ยึดหรื ออายัดระบบคอมพิวเตอร์ เท่าที่จาเป็ นเฉพาะเพื่อประโยชน์ในการทราบรายละเอียดแห่งความผิด
และผูกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี
     ้

มาตรา ๑๙ การใช้อานาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ(๘) ให้พนักงาน
เจ้าหน้าที่ยนคาร้องต่อศาลที่มีเขตอานาจเพื่อมีคาสั่งอนุญาตให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดาเนิ นการตามคาร้อง ทั้งนี้
            ื่
                                 ่
คาร้องต้องระบุเหตุอนควรเชื่ อได้วาบุคคลใดกระทาหรื อกาลังจะกระทาการอย่างหนึ่งอย่างใดอันเป็ น
                   ั
ความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี เหตุที่ตองใช้อานาจ ลักษณะของการกระทาความผิด รายละเอียดเกี่ยวกับ
                                    ้
อุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทาความผิดและผูกระทาความผิด เท่าที่สามารถจะระบุได้ ประกอบคาร้องด้วยใน
                                   ้
การพิจารณาคาร้องให้ศาลพิจารณาคาร้องดังกล่าวโดยเร็ วเมื่อศาลมีคาสั่งอนุ ญาตแล้ว ก่อนดาเนินการตาม
คาสั่งของศาล ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งสาเนาบันทึกเหตุอนควรเชื่อที่ทาให้ตองใช้อานาจตามมาตรา ๑๘ (๔)
                                                     ั                 ้
(๕) (๖) (๗) และ (๘) มอบให้เจ้าของหรื อผูครอบครองระบบคอมพิวเตอร์ น้ นไว้เป็ นหลักฐาน แต่ถาไม่มี
                                        ้                          ั                    ้
เจ้าของหรื อผูครอบครองเครื่ องคอมพิวเตอร์ อยู่ ณ ที่น้ น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งมอบสาเนาบันทึกนั้นให้แก่
              ้                                        ั
เจ้าของหรื อผูครอบครองดังกล่าวในทันทีที่กระทาได้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผเู ้ ป็ นหัวหน้าในการดาเนินการ
              ้
ตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ(๘) ส่ งสาเนาบันทึกรายละเอียดการดาเนินการและเหตุผลแห่งการ
ดาเนินการให้ศาลที่มีเขตอานาจภายในสี่ สิบแปดชัวโมงนับแต่เวลาลงมือดาเนินการ เพื่อเป็ นหลักฐานการทา
                                             ่
                                                                                ่
สาเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตามมาตรา ๑๘ (๔) ให้กระทาได้เฉพาะเมื่อมีเหตุอนควรเชื่อได้วามีการกระทา
                                                                   ั
ความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี และต้องไม่เป็ นอุปสรรคในการดาเนินกิจการของเจ้าของหรื อผูครอบครอง
                                                                                    ้
ข้อมูลคอมพิวเตอร์ น้ นเกินความจาเป็ น การยึดหรื ออายัดตามมาตรา ๑๘ (๘) นอกจากจะต้องส่ งมอบสาเนา
                     ั
หนังสื อแสดงการยึดหรื ออายัดมอบให้เจ้าของหรื อผูครอบครองระบบคอมพิวเตอร์ น้ นไว้เป็ นหลักฐานแล้ว
                                                ้                          ั
พนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งยึดหรื ออายัดไว้เกินสามสิ บวันมิได้ ในกรณี จาเป็ นที่ตองยึดหรื ออายัดไว้นานกว่านั้น
                                                                              ้
ให้ยนคาร้องต่อศาลที่มีเขตอานาจเพื่อขอขยายเวลายึดหรื ออายัดได้ แต่ศาลจะอนุญาตให้ขยายเวลาครั้งเดียว
    ื่
หรื อหลายครั้งรวมกันได้อีกไม่เกินหกสิ บวัน เมื่อหมดความจาเป็ นที่จะยึดหรื ออายัดหรื อครบกาหนดเวลา
ดังกล่าวแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่ตองส่ งคืนระบบคอมพิวเตอร์ ที่ยดหรื อถอนการอายัดโดยพลัน หนังสื อ
                                ้                            ึ
แสดงการยึดหรื ออายัดตามวรรคห้าให้เป็ นไปตามที่กาหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๐ ในกรณี ที่การกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี เป็ นการทาให้แพร่ หลายซึ่ ง
ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมันคงแห่งราชอาณาจักร ตามที่กาหนดไว้ในภาคสอง
                                              ่
ลักษณะ ๑ หรื อลักษณะ ๑/๑ แห่งประมวลกฎหมายอาญา หรื อที่มีลกษณะขัดต่อความสงบเรี ยบร้อยหรื อ
                                                         ั
ศีลธรรมอันดีของประชาชน พนักงานเจ้าหน้าที่โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรี อาจยืนคาร้อง พร้อม
                                                                              ่
แสดงพยานหลักฐานต่อศาลที่มีเขตอานาจขอให้มีคาสั่งระงับการทาให้แพร่ หลายซึ่ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ น้ น
                                                                                               ั
ได้ ในกรณี ท่ีศาลมีคาสั่งให้ระงับการทาให้แพร่ หลายซึ่ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงาน
เจ้าหน้าที่ทาการระงับการทาให้แพร่ หลายนั้นเอง หรื อสั่งให้ผให้บริ การระงับการทาให้แพร่ หลายซึ่ ง
                                                           ู้
ข้อมูลคอมพิวเตอร์ น้ นก็ได้
                     ั

                                                                                             ่ ้
มาตรา ๒๑ ในกรณี ที่พนักงานเจ้าหน้าที่พบว่า ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ใดมีชุดคาสั่งไม่พึงประสงค์รวมอยูดวย
พนักงานเจ้าหน้าที่อาจยืนคาร้องต่อศาลที่มีเขตอานาจเพื่อขอให้มีคาสั่งห้ามจาหน่ายหรื อเผยแพร่ หรื อสั่งให้
                       ่
เจ้าของหรื อผูครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์ น้ นระงับการใช้ ทาลายหรื อแก้ไขข้อมูลคอมพิวเตอร์ น้ นได้
              ้                            ั                                                ั
หรื อจะกาหนดเงื่อนไขในการใช้ มีไว้ในครอบครอง หรื อเผยแพร่ ชุดคาสั่งไม่พึงประสงค์ดงกล่าวก็ได้
                                                                                 ั
ชุดคาสั่งไม่พึงประสงค์ตามวรรคหนึ่งหมายถึงชุดคาสั่งที่มีผลทาให้ขอมูลคอมพิวเตอร์ หรื อระบบ
                                                               ้
คอมพิวเตอร์ หรื อชุดคาสั่งอื่นเกิดความเสี ยหาย ถูกทาลาย ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรื อเพิ่มเติมขัดข้อง หรื อ
ปฏิบติงานไม่ตรงตามคาสั่งที่กาหนดไว้ หรื อโดยประการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวงทั้งนี้ เว้นแต่เป็ น
    ั
ชุดคาสังที่มุ่งหมายในการป้ องกันหรื อแก้ไขชุดคาสังดังกล่าวข้างต้น ตามที่รัฐมนตรี ประกาศในราชกิจจา
       ่                                         ่
นุเบกษา

มาตรา ๒๒ ห้ามมิให้พนักงานเจ้าหน้าที่เปิ ดเผยหรื อส่ งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทาง
คอมพิวเตอร์ หรื อข้อมูลของผูใช้บริ การ ที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ ให้แก่บุคคลใดความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้
                            ้
                                              ั ้
บังคับกับการกระทาเพื่อประโยชน์ในการดาเนิ นคดีกบผูกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี หรื อเพื่อ
ประโยชน์ในการดาเนินคดีกบพนักงานเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการใช้อานาจหน้าที่
                       ั
โดยมิชอบ หรื อเป็ นการกระทาตามคาสังหรื อที่ได้รับอนุ ญาตจากศาลพนักงานเจ้าหน้าที่ผใดฝ่ าฝื นวรรคหนึ่ง
                                  ่                                              ู้
ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรื อปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ

มาตรา ๒๓ พนักงานเจ้าหน้าที่ผใดกระทาโดยประมาทเป็ นเหตุให้ผอื่นล่วงรู ้ขอมูลคอมพิวเตอร์ ขอมูลจราจร
                            ู้                           ู้           ้                ้
ทางคอมพิวเตอร์ หรื อข้อมูลของผูใช้บริ การ ที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งปี หรื อ
                               ้
ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ

มาตรา ๒๔ ผูใดล่วงรู ้ขอมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรื อข้อมูลของผูใช้บริ การ ที่
           ้          ้                                                         ้
พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ และเปิ ดเผยข้อมูลนั้นต่อผูหนึ่งผูใด ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสอง
                                                             ้      ้
ปี หรื อปรับไม่เกินสี่ หมื่นบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ

มาตรา ๒๕ ข้อมูล ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรื อข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มาตาม
พระราชบัญญัติน้ ี ให้อางและรับฟังเป็ นพยานหลักฐานตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
                      ้
ความอาญาหรื อกฎหมายอื่นอันว่าด้วยการสื บพยานได้ แต่ตองเป็ นชนิดที่มิได้เกิดขึ้นจากการจูงใจมีคามัน
                                                    ้                                           ่
สัญญา ขูเ่ ข็ญ หลอกลวง หรื อโดยมิชอบประการอื่น

มาตรา ๒๖ ผูให้บริ การต้องเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ไว้ไม่นอยกว่าเก้าสิ บวันนับแต่วนที่ขอมูล
           ้                                                       ้                       ั ้
นั้นเข้าสู่ ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ในกรณี จาเป็ นพนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งให้ผให้บริ การผูใดเก็บรักษาข้อมูล
                                                                         ู้          ้
จราจรทางคอมพิวเตอร์ ไว้เกินเก้าสิ บวัน แต่ไม่เกินหนึ่งปี เป็ นกรณี พิเศษเฉพาะรายและเฉพาะคราวก็ได้ ผู ้
ให้บริ การจะต้องเก็บรักษาข้อมูลของผูใช้บริ การเท่าที่จาเป็ นเพื่อให้สามารถระบุตวผูใช้บริ การ นับตั้งแต่เริ่ ม
                                    ้                                          ั ้
ใช้บริ การและต้องเก็บรักษาไว้เป็ นเวลาไม่นอยกว่าเก้าสิ บวันนับตั้งแต่การใช้บริ การสิ้ นสุ ดลง ความในวรรค
                                          ้
           ั ้
หนึ่งจะใช้กบผูให้บริ การประเภทใด อย่างไร และเมื่อใด ให้เป็ นไปตามที่รัฐมนตรี ประกาศในราชกิจจา
นุเบกษา
ผูให้บริ การผูใดไม่ปฏิบติตามมาตรานี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท
  ้           ้        ั

มาตรา ๒๗ ผูใดไม่ปฏิบติตามคาสั่งของศาลหรื อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่สั่งตามมาตรา ๑๘ หรื อมาตรา ๒๐
           ้        ั
หรื อไม่ปฏิบติตามคาสั่งของศาลตามมาตรา ๒๑ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาทและปรับเป็ น
            ั
รายวันอีกไม่เกินวันละห้าพันบาทจนกว่าจะปฏิบติให้ถูกต้อง
                                          ั

มาตรา ๒๘ การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติน้ ี ให้รัฐมนตรี แต่งตั้งจากผูมีความรู ้และความ
                                                                                    ้
ชานาญเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ และมีคุณสมบัติตามที่รัฐมนตรี กาหนด

มาตรา ๒๙ ในการปฏิบติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติน้ ี ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็ นพนักงานฝ่ ายปกครองหรื อ
                  ั
ตารวจชั้นผูใหญ่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามีอานาจรับคาร้องทุกข์หรื อรับคากล่าวโทษ
           ้
และมีอานาจในการสื บสวนสอบสวนเฉพาะความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี ในการจับ ควบคุม ค้น การทา
สานวนสอบสวนและดาเนินคดีผกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี บรรดาที่เป็ นอานาจของพนักงานฝ่ าย
                        ู้
ปกครองหรื อตารวจชั้นผูใหญ่ หรื อพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้
                      ้
พนักงานเจ้าหน้าที่ประสานงานกับพนักงานสอบสวนผูรับผิดชอบเพื่อดาเนินการตามอานาจหน้าที่ต่อไป ให้
                                             ้
นายกรัฐมนตรี ในฐานะผูกากับดูแลสานักงานตารวจแห่งชาติ และรัฐมนตรี มีอานาจ ร่ วมกันกาหนดระเบียบ
                     ้
เกี่ยวกับแนวทางและวิธีปฏิบติในการดาเนินการตามวรรคสอง
                          ั

มาตรา ๓๐ ในการปฏิบติหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ตองแสดงบัตรประจาตัวต่อบุคคลซึ่ งเกี่ยวข้อง บัตร
                  ั                            ้
ประจาตัวของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เป็ นไปตามแบบที่รัฐมนตรี ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ผูรับสนองพระบรมราชโองการ
  ้
พลเอก สุ รยุทธ์ จุลานนท์
นายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากในปั จจุบนระบบคอมพิวเตอร์ ได้
                                                                           ั
เป็ นส่ วนสาคัญ ของการประกอบกิจการ และการดารงชีวิตของมนุษย์ หากมีผกระทาด้วยประการใด ๆ ให้
                                                                  ู้
ระบบคอมพิวเตอร์ ไม่สามารถทางานตามคาสั่งที่กาหนดไว้ หรื อทาให้การทางานผิดพลาดไปจากคาสั่งที่
กาหนดไว้ หรื อใช้วธีการใด ๆ เข้าล่วงรู ้ขอมูล แก้ไข หรื อทาลายข้อมูลของบุคคลอื่น ในระบบคอมพิวเตอร์
                  ิ                      ้
โดยมิชอบ หรื อใช้ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อเผยแพร่ ขอมูลคอมพิวเตอร์ อนเป็ นเท็จ หรื อมีลกษณะอันลามก
                                               ้                ั                  ั
อนาจาร ย่อมก่อให้เกิดความเสี ยหาย กระทบกระเทือนต่อเศรษฐกิจ สังคม และความมันคงของรัฐ รวมทั้ง
                                                                          ่
ความสงบสุ ขและศีลธรรมอันดีของประชาชน สมควรกาหนดมาตรการเพื่อป้ องกันและปราบปรามการ
กระทาดังกล่าว จึงจาเป็ นต้องตราพระราชบัญญัติน้ ี
อ้างอิง

ที่มา : http://www.cowboythai.com/forum/index.php?topic=1443.msg9206;topicseen
รายงานคอม12

Weitere ähnliche Inhalte

Was ist angesagt?

อาชญากรรม เอ๋
อาชญากรรม เอ๋อาชญากรรม เอ๋
อาชญากรรม เอ๋AY'z Felon
 
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์Nukaem Ayoyo
 
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์1
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์1อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์1
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์1sassy_nus
 
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องรายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องMind Candle Ka
 
คอมน องใหม
คอมน องใหม คอมน องใหม
คอมน องใหม Nongniiz
 
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์Thalatchanan Netboot
 

Was ist angesagt? (11)

คอมเปา
คอมเปาคอมเปา
คอมเปา
 
อาชญากรรม เอ๋
อาชญากรรม เอ๋อาชญากรรม เอ๋
อาชญากรรม เอ๋
 
แนน คอม Pdf
แนน คอม Pdfแนน คอม Pdf
แนน คอม Pdf
 
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
 
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
 
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์1
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์1อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์1
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์1
 
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องรายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
 
คอมน องใหม
คอมน องใหม คอมน องใหม
คอมน องใหม
 
วิก
วิกวิก
วิก
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงาน
 
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
 

Ähnlich wie รายงานคอม12

อาชญากรรม เอ๋
อาชญากรรม เอ๋อาชญากรรม เอ๋
อาชญากรรม เอ๋AY'z Felon
 
คอมเปา
คอมเปาคอมเปา
คอมเปาdowsudarat
 
คอมเปา
คอมเปาคอมเปา
คอมเปาpaotogether
 
งานคอมฯ
งานคอมฯงานคอมฯ
งานคอมฯKannaree Jar
 
อาชญากรรม บอล
อาชญากรรม บอลอาชญากรรม บอล
อาชญากรรม บอลAY'z Felon
 
คอมน องใหม
คอมน องใหม คอมน องใหม
คอมน องใหม dowsudarat
 
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์Kannaree Jar
 
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์Kannaree Jar
 
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์Kannaree Jar
 
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์อาชญากรรมคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์Chutima Tongnork
 
อาชญากรรม บาว
อาชญากรรม บาวอาชญากรรม บาว
อาชญากรรม บาวMind Candle Ka
 
อาชญากรรม เบส
อาชญากรรม เบสอาชญากรรม เบส
อาชญากรรม เบสMind Candle Ka
 

Ähnlich wie รายงานคอม12 (20)

อาชญากรรมคอมฯ
อาชญากรรมคอมฯอาชญากรรมคอมฯ
อาชญากรรมคอมฯ
 
อาชญากรรม เอ๋
อาชญากรรม เอ๋อาชญากรรม เอ๋
อาชญากรรม เอ๋
 
คอมเปา
คอมเปาคอมเปา
คอมเปา
 
คอมเปา
คอมเปาคอมเปา
คอมเปา
 
งานคอมฯ
งานคอมฯงานคอมฯ
งานคอมฯ
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงาน
 
อาชญากรรม บอล
อาชญากรรม บอลอาชญากรรม บอล
อาชญากรรม บอล
 
คอมน องใหม
คอมน องใหม คอมน องใหม
คอมน องใหม
 
รายงานคอม
รายงานคอมรายงานคอม
รายงานคอม
 
รายงานคอม
รายงานคอมรายงานคอม
รายงานคอม
 
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
 
ตุก Pdf
ตุก Pdfตุก Pdf
ตุก Pdf
 
ตุก Pdf
ตุก Pdfตุก Pdf
ตุก Pdf
 
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
 
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
 
คอม
คอมคอม
คอม
 
พอน1ok
พอน1okพอน1ok
พอน1ok
 
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์อาชญากรรมคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์
 
อาชญากรรม บาว
อาชญากรรม บาวอาชญากรรม บาว
อาชญากรรม บาว
 
อาชญากรรม เบส
อาชญากรรม เบสอาชญากรรม เบส
อาชญากรรม เบส
 

Mehr von Kamonchapat Boonkua

อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1Kamonchapat Boonkua
 
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔Kamonchapat Boonkua
 
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔Kamonchapat Boonkua
 
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องKamonchapat Boonkua
 
รายงานของคอมของเบล 21
รายงานของคอมของเบล 21รายงานของคอมของเบล 21
รายงานของคอมของเบล 21Kamonchapat Boonkua
 
รายงานคอมของเม 20
รายงานคอมของเม 20รายงานคอมของเม 20
รายงานคอมของเม 20Kamonchapat Boonkua
 
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องKamonchapat Boonkua
 

Mehr von Kamonchapat Boonkua (11)

อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1
 
เก๋
เก๋เก๋
เก๋
 
เก๋
เก๋เก๋
เก๋
 
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
 
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
 
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
 
รายงานของคอมของเบล 21
รายงานของคอมของเบล 21รายงานของคอมของเบล 21
รายงานของคอมของเบล 21
 
รายงานคอมของเม 20
รายงานคอมของเม 20รายงานคอมของเม 20
รายงานคอมของเม 20
 
ไทย
ไทยไทย
ไทย
 
ไทย
ไทยไทย
ไทย
 
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
 

รายงานคอม12

  • 1. รายงาน เรื่อง...อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และกฎหมายทีเ่ กียวข้ อง ่ จัดทาโดย นางสาวอรัญญา อังศุวริยะ ิ ชั้นม.6/1 เลขที่ 21 เสนอ คุณครู จุฑารัตน์ ใจบุญ
  • 2. คำนำ รายงานฉบับนี้ เป็ นส่ วนหนึ่งของรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี ซึ่งดิฉนได้รับมอบหมาย ั ให้ไปศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับอาชญากรรมและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ ซึ่ งมีเนื้อหาเกี่ยวกับ ความหมายของอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร อาชญากรรม 6 ประเภท ลักษณะของผูกระทาความผิดทาง ้ คอมพิวเตอร์ และ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ ซึ่ งรายงานฉบับนี้จะเป็ นประโยชน์แก่ผที่สนใจใน ู้ เรื่ องคอมพิวเตอร์ ไม่มากก็นอย หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่น้ ีดวย ้ ้ ผูจดทา ้ั นางสาว อรัญญา อังศุวิริยะ
  • 3. สารบัญ เนือเรื่อง ้ หน้ า ความหมายของอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ 1 อาชญากรรม 6 ประเภท 2 ลักษณะของผู้กระทาความผิดทางคอมพิวเตอร์ 4 กฎหมายทีเ่ กี่ยวข้ องกับคอมพิวเตอร์ 5-12
  • 4. อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ประเภทต่ างๆ อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ (Cyber-Crime) เป็ นการกระทาที่ผดกฎหมายโดยใช้วธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ิ ิ ่ เพื่อโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลที่อยูบนระบบดังกล่าว ส่ วนในมุมมองที่กว้างขึ้น “อาชญากรรมที่ เกี่ยวเนื่องกับคอมพิวเตอร์ ” หมายถึงการกระทาที่ผดกฎหมายใดๆ ซึ่ งอาศัยหรื อมีความเกี่ยวเนื่องกับระบบ ิ คอมพิวเตอร์ หรื อเครื อข่าย อย่างไรก็ตาม อาชญากรรมประเภทนี้ไม่ถือเป็ นอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ โดยตรง ในการประชุมสหประชาชาติครั้งที่ 10 ว่าด้วยการป้ องกันอาชญากรรมและการปฏิบติต่อผูกระทาผิด (The ั ้ Tenth United Nations Congress on the Prevention of Crime and the Treatment of Offenders) ซึ่ งจัดขึ้นที่ กรุ งเวียนนา เมื่อวันที่ 10-17 เมษายน 2543 ได้มีการจาแนกประเภทของอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ โดย แบ่งเป็ น 5 ประเภท คือ การเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุ ญาต, การสร้างความเสี ยหายแก่ขอมูลหรื อโปรแกรม ้ คอมพิวเตอร์ , การก่อกวนการทางานของระบบคอมพิวเตอร์ หรื อเครื อข่าย, การยับยั้งข้อมูลที่ส่งถึง/จากและ ภายในระบบหรื อเครื อข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และการจารกรรมข้อมูลบนคอมพิวเตอร์ โครงการอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์และการโจรกรรมทรัพย์สินทางปัญญา (Cyber-Crime and Intellectual Property Theft) พยายามที่จะเก็บรวบรวมและเผยแพร่ ขอมูล และค้นคว้าเกี่ยวกับอาชญากรรม ้ ทางคอมพิวเตอร์ 6 ประเภท ที่ได้รับความนิยม ซึ่ งส่ งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนและผูบริ โภค ้ นอกจากนี้ยงทาหน้าที่เผยแพร่ ความรู ้เกี่ยวกับขอบเขตและความซับซ้อนของปั ญหา รวมถึงนโยบายปั จจุบน ั ั และความพยายามในการปั ญหานี้ อาชญากรรม 6 ประเภทดังกล่าวได้ แก่ 1. การเงิน – อาชญากรรมที่ขดขวางความสามารถขององค์กรธุ รกิจในการทาธุ รกรรม อี-คอมเมิร์ซ ั (หรื อพาณิ ชย์อิเล็กทรอนิกส์) 2. การละเมิดลิขสิ ทธิ์ – การคัดลอกผลงานที่มีลิขสิ ทธิ์ ในปัจจุบนคอมพิวเตอร์ ส่วนบุคคลและ ั อินเทอร์ เน็ตถูกใช้เป็ นสื่ อในการก่ออาชญากรรม แบบเก่า โดยการโจรกรรมทางออนไลน์หมาย รวมถึง การละเมิดลิขสิ ทธิ์ ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อินเทอร์ เน็ตเพื่อจาหน่ายหรื อเผยแพร่ ผลงาน สร้างสรรค์ที่ได้รับการคุมครองลิขสิ ทธิ์ ้
  • 5. 3. การเจาะระบบ – การให้ได้มาซึ่ งสิ ทธิ ในการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ หรื อเครื อข่ายโดยไม่ได้รับ อนุญาต และในบางกรณี อาจหมายถึงการใช้สิทธิ การเข้าถึงนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้การ เจาะระบบยังอาจรองรับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ในรู ปแบบอื่นๆ (เช่น การปลอมแปลง การ ก่อการร้าย ฯลฯ) 4. การก่อการร้ายทางคอมพิวเตอร์ – ผลสื บเนื่องจากการเจาะระบบ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความ หวาดกลัว เช่นเดียวกับการก่อการร้ายทัวไป โดยการกระทาที่เข้าข่าย การก่อการร้ายทาง ่ อิเล็กทรอนิกส์ (e-terrorism) จะเกี่ยวข้องกับการเจาระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อก่อเหตุรุนแรงต่อบุคคล หรื อทรัพย์สิน หรื ออย่างน้อยก็มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความหวาดกลัว 5. ภาพอนาจารทางออนไลน์ – ตามข้อกาหนด 18 USC 2252 และ 18 USC 2252A การประมวลผล หรื อการเผยแพร่ ภาพอนาจารเด็กถือเป็ นการกระทาที่ผดกฎหมาย และตามข้อกาหนด 47 USC 223 ิ การเผยแพร่ ภาพลามกอนาจารในรู ปแบบใดๆ แก่เยาวชนถือเป็ นการกระทาที่ขดต่อกฎหมาย ั อินเทอร์ เน็ตเป็ นเพียงช่องทางใหม่สาหรับอาชญากรรม แบบเก่า อย่างไรก็ดี ประเด็นเรื่ องวิธีที่ เหมาะสมที่สุดในการควบคุมช่องทางการสื่ อสารที่ครอบคลุมทัวโลกและเข้าถึงทุกกลุ่มอายุน้ ีได้ ่ ก่อให้เกิดการถกเถียงและการโต้แย้งอย่างกว้างขวาง ่ 6. ภายในโรงเรี ยน – ถึงแม้วาอินเทอร์ เน็ตจะเป็ นแหล่งทรัพยากรสาหรับการศึกษาและสันทนาการ แต่ เยาวชนจาเป็ นต้องได้รับทราบเกี่ยวกับวิธีการใช้งานเครื่ องมืออันทรงพลังนี้อย่างปลอดภัยและมี ความรับผิดชอบ โดยเป้ าหมายหลักของโครงการนี้คือ เพื่อกระตุนให้เด็กได้เรี ยนรู ้เกี่ยวกับ ้ ข้อกาหนดทางกฎหมาย สิ ทธิ ของตนเอง และวิธีท่ีเหมาะสมในการป้ องกันการใช้อินเทอร์ เน็ต ในทางที่ผด ิ
  • 6. อาชญากรคอมพิวเตอร์ คือ ผูกระทาผิดกฎหมายโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เป็ นส่ วนสาคัญ ้ มีการจาแนกไว้ดงนี้ ั 1. พวกมือใหม่ (Novices) หรื อมือสมัครเล่น อยากทดลองความรู ้และส่ วนใหญ่จะมิใช่ผู ้ ที่เป็ นอาชญา กรโดยนิสย มิได้ดารงชีพโดยการกระทาผิด อาจหมายถึงพวกที่เพิ่งได้รับความไว้วางใจให้เข้าสู่ ั ระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ 2. Darnged person คือ พวกจิตวิปริ ต ผิดปกติ มีลกษณะเป็ นพวกชอบความรุ นแรง และอันตราย มัก ั ่ เป็ นพวกที่ชอบทาลายทุกสิ่ งที่ขวางหน้าไม่วาจะเป็ นบุคคล สิ่ งของ หรื อสภาพแวดล้อม 3. Organized Crime พวกนี้เป็ นกลุ่มอาชญากรที่ร่วมมือกันทาผิดในลักษณะขององค์กรใหญ่ๆ ที่มี ่ ระบบ พวกเขาจะใช้คอมพิวเตอร์ ที่ตางกัน โดยส่ วนหนึ่งอาจใช้เป็ นเครื่ องหาข่าวสาร เหมือนองค์กร ธุ รกิจทัวไป อีกส่ วนหนึ่งก็จะใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็ นตัวประกอบสาคัญในการก่ออาชญากรรม หรื อ ่ ใช้เทคโนโลยีกลบเกลื่อนร่ องร่ อย ให้รอดพ้นจากเจ้าหน้าที่ 4. Career Criminal พวกอาชญากรมืออาชีพ เป็ นกลุ่มอาชญากรคอมพิวเตอร์ ที่มีอยูมาก กลุ่มนี้น่าเป็ น ่ ห่วงมากที่สุด เนื่ องจากนับวันจะทวีจานวนมากขึ้นเรื่ อยๆ โดยจับผิดแล้วจับผิดเล่า บ่อยครั้ง 5. Com Artist คือพวกหัวพัฒนา เป็ นพวกที่ชอบความก้าวหน้าทางคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ได้มาซึ่ ง ผลประโยชน์ส่วนตน อาชญากรประเภทนี้จะใช้ความก้าวหน้า เกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ และ ความรู้ของตนเพื่อหาเงินมิชอบทางกฎหมาย 6. Dreamer พวกบ้าลัทธิ เป็ นพวกที่คอยทาผิดเนื่องจากมีความเชื่อถือสิ่ งหนึ่งสิ่ งใดอย่างรุ่ นแรง 7. Cracker หมายถึง ผูที่มีความรู ้และทักษะทางคอมพิวเตอร์ เป็ นอย่างดี จนสามารถลักลอบเข้าสู่ ระบบ ้ ได้ โดยมีวตถุประสงค์เข้าไปหาผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง มักเข้าไปทาลายหรื อลบไฟล์ หรื อ ั ทาให้คอมพิวเตอร์ ใช้การไม่ได้ รวมถึงทาลายระบบปฏิบติการ ั 8. นักเจาะข้อมูล (Hacker) ผูที่ชอบเจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของผูอื่น พยายามหาความท้าทายทาง ้ ้ เทคโนโลยีเข้าไปในเครื อข่ายของผูอื่นโดยที่ตนเองไม่มีอานาจ ้ 9. อาชญากรในรู ปแบบเดิมที่ใช้เทคโนโลยีเป็ นเครื่ องมือ เช่นพวกลักเล็กขโมยน้อยที่ พยายามขโมย บัตร ATM ของผูอื่น ้
  • 7. 10. อาชญากรมืออาชีพ คนพวกนี้จะดารงชีพจากการกระทาความผิด เช่นพวกที่มกจะใช้ ความรู ้ทาง ั เทคโนโลยีฉอโกงสถาบันการเงิน หรื อการจารกรรมข้อมูลไปขาย เป็ นต้น ้ 11. พวกหัวรุ นแรงคลังอุดมการณ์หรื อลัทธิ มักก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ เพื่อ อุดมการณ์ทาง ่ การเมือง เศรษฐกิจ ศาสนา หรื อสิ ทธิ มนุษย์ชน เป็ นต้น ผู้กระทาความผิดทางคอมพิวเตอร์ มีลกษณะพิเศษดังต่ อไปนี้ ั 1. ส่ วนใหญ่มกมีอายุนอย ั ้ 2. ส่ วนใหญ่เป็ นผูที่มีวชาชีพ ้ ิ 3. ลักษณะส่ วนตัวเช่น - มีแรงจูงใจและความทะยานอยากสู งในการที่จะเอาชนะและฉลาด - ไม่ใช่อาชญากรโดยอาชีพ - กลัวที่จะถูกจับได้ กลัวครอบครัว เพื่อนและเพื่อนร่ วมงานจะรู ้ถึงการกระทาความผิดของตน
  • 8. กฏหมายที่เกียวข้ องกับคอมพิวเตอร์ ่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศ ว่า โดยที่เป็ นการสมควรมีกฎหมาย ว่าด้วยการกระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จึงทรงพระกรุ ณาโปรด เกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติข้ ึนไว้โดยคาแนะนาและยินยอมของสภานิ ติบญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้ ั มาตรา ๑ พระราชบัญญัติน้ ีเรี ยกว่า “พระราชบัญญัติวาด้วยการกระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ่ ๒๕๕๐” มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ ีให้ใช้บงคับเมื่อพ้นกาหนดสามสิ บวันนับแต่วนประกาศในราชกิจจานุ เบกษา ั ั เป็ นต้นไป มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัติน้ ี “ระบบคอมพิวเตอร์ ” หมายความว่า อุปกรณ์หรื อชุดอุปกรณ์ของ คอมพิวเตอร์ ที่เชื่ อมการทางานเข้าด้วยกัน โดยได้มีการกาหนดคาสั่ง ชุดคาสั่ง หรื อสิ่ งอื่นใด และแนวทาง ปฏิบติงานให้อุปกรณ์หรื อชุดอุปกรณ์ทาหน้าที่ประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติ ั ่ “ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ” หมายความว่า ข้อมูล ข้อความ คาสั่ง ชุดคาสั่ง หรื อสิ่ งอื่นใดบรรดาที่อยูในระบบ คอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ และให้หมายความรวมถึงข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วยธุ รกรรมทางอิเล็กทรอนิ กส์ดวย ้ “ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่ อสารของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่ง แสดงถึงแหล่งกาเนิด ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริ มาณ ระยะเวลาชนิ ดของบริ การ หรื ออื่น ๆ ที่ เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่ อสารของระบบคอมพิวเตอร์ น้ น ั “ผูให้บริ การ” หมายความว่า ้ (๑) ผูให้บริ การแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่ อินเทอร์ เน็ต หรื อให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอื่น โดยผ่าน ้ ่ ทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ไม่วาจะเป็ นการให้บริ การในนามของตนเอง หรื อในนามหรื อเพื่อประโยชน์ ของบุคคลอื่น (๒) ผูให้บริ การเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์ เพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น ้ “ผูใช้บริ การ” หมายความว่า ผูใช้บริ การของผูให้บริ การไม่วาต้องเสี ยค่าใช้บริ การหรื อไม่ก็ตาม ้ ้ ้ ่ “พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผูซ่ ึ งรัฐมนตรี แต่งตั้งให้ปฏิบติการตามพระราชบัญญัติน้ ี ้ ั “รัฐมนตรี ” หมายความว่า รัฐมนตรี ผรักษาการตามพระราชบัญญัติน้ ี ู้
  • 9. ่ มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรี วาการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสารรักษาการตามพระราชบัญญัติน้ ี และให้มีอานาจออกกฎกระทรวง เพื่อปฏิบติการตามพระราชบัญญัติน้ ี กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศใน ั ราชกิจจานุ เบกษาแล้วให้ใช้บงคับได้ ั หมวด ๑ ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา ๕ ผูใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่ งระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีมาตรการป้ องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการ ้ นั้น มิได้มีไว้สาหรับตน ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหกเดือน หรื อปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรื อทั้งจาทั้ง ปรับ มาตรา ๖ ผูใดล่วงรู ้มาตรการป้ องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ที่ผอื่นจัดทาขึ้นเป็ นการเฉพาะถ้านา ้ ู้ มาตรการดังกล่าวไปเปิ ดเผยโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสี ยหายแก่ผอื่น ต้องระวางโทษจาคุกไม่ ู้ เกินหนึ่งปี หรื อปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ มาตรา ๗ ผูใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่มีมาตรการป้ องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการ ้ นั้นมิได้มีไว้สาหรับตน ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสองปี หรื อปรับไม่เกินสี่ หมื่นบาทหรื อทั้งจาทั้งปรับ มาตรา ๘ ผูใดกระทาด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับไว้ซ่ ึง ้ ้ ่ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ของผูอื่นที่อยูระหว่างการส่ งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์ น้ นมิได้มีไว้ ั เพื่อประโยชน์สาธารณะหรื อเพื่อให้บุคคลทัวไปใช้ประโยชน์ได้ตองระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรื อปรับ ่ ้ ไม่เกินหกหมื่นบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ ้ ่ ่ มาตรา ๙ ผูใดทาให้เสี ยหาย ทาลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรื อเพิมเติมไม่วาทั้งหมดหรื อบางส่ วน ซึ่ ง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ของผูอื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินห้าปี หรื อปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรื อ ้ ทั้งจาทั้งปรับ
  • 10. มาตรา ๑๐ ผูใดกระทาด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทางานของระบบคอมพิวเตอร์ของผูอื่นถูกระงับ ้ ้ ชะลอ ขัดขวาง หรื อรบกวนจนไม่สามารถทางานตามปกติได้ตองระวางโทษจาคุกไม่เกินห้าปี หรื อปรับไม่ ้ เกินหนึ่งแสนบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ มาตรา ๑๑ ผูใดส่ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรื อจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิ ดหรื อปลอมแปลง ้ แหล่งที่มาของการส่ งข้อมูลดังกล่าว อันเป็ นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท มาตรา ๑๒ ถ้าการกระทาความผิดตามมาตรา ๙ หรื อมาตรา ๑๐ ่ ่ (๑) ก่อให้เกิดความเสี ยหายแก่ประชาชน ไม่วาความเสี ยหายนั้นจะเกิดขึ้นในทันทีหรื อในภายหลัง และไม่วา จะเกิดขึ้นพร้อมกันหรื อไม่ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสิ บปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท (๒) เป็ นการกระทาโดยประการที่น่าจะเกิดความเสี ยหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรื อระบบคอมพิวเตอร์ ที่ เกี่ยวกับการรักษาความมันคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมันคงในทางเศรษฐกิจ ่ ่ ของประเทศ หรื อการบริ การสาธารณะ หรื อเป็ นการกระทาต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรื อระบบคอมพิวเตอร์ที่มี ไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ ต้องระวางโทษจาคุกตั้งแต่สามปี ถึงสิ บห้าปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสาม แสนบาท ถ้าการกระทาความผิดตาม (๒) เป็ นเหตุให้ผอื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจาคุกตั้งแต่สิบปี ถึงยีสิบปี ู้ ่ มาตรา ๑๓ ผูใดจาหน่ายหรื อเผยแพร่ ชุดคาสั่งที่จดทาขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนาไปใช้เป็ นเครื่ องมือในการกระทา ้ ั ความผิดตามมาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ หรื อมาตรา ๑๑ ต้องระวางโทษ จาคุกไม่เกินหนึ่งปี หรื อปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ มาตรา ๑๔ ผูใดกระทาความผิดที่ระบุไว้ดงต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินห้าปี หรื อปรับไม่เกินหนึ่ง ้ ั แสนบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ (๑) นาเข้าสู่ ระบบคอมพิวเตอร์ ซ่ ึ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ปลอมไม่วาทั้งหมดหรื อบางส่ วน หรื อ ่ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ อนเป็ นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสี ยหายแก่ผอื่นหรื อประชาชน ั ู้ (๒) นาเข้าสู่ ระบบคอมพิวเตอร์ ซ่ ึ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ อนเป็ นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสี ยหายต่อ ั ความมันคงของประเทศหรื อก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ่ (๓) นาเข้าสู่ ระบบคอมพิวเตอร์ ซ่ ึ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ใด ๆ อันเป็ นความผิดเกี่ยวกับความมันคงแห่ง ่ ราชอาณาจักรหรื อความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
  • 11. (๔) นาเข้าสู่ ระบบคอมพิวเตอร์ ซ่ ึ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ใด ๆ ที่มีลกษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์ น้ น ั ั ประชาชนทัวไปอาจเข้าถึงได้ ่ ่ (๕) เผยแพร่ หรื อส่ งต่อซึ่ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยรู ้อยูแล้วว่าเป็ นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (๑)(๒) (๓) หรื อ (๔) มาตรา ๑๕ ผูให้บริ การผูใดจงใจสนับสนุนหรื อยินยอมให้มีการกระทาความผิดตามมาตรา ๑๔ ในระบบ ้ ้ ่ คอมพิวเตอร์ ที่อยูในความควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผูกระทาความผิดตามมาตรา ๑๔ ้ มาตรา ๑๖ ผูใดนาเข้าสู่ ระบบคอมพิวเตอร์ ที่ประชาชนทัวไปอาจเข้าถึงได้ซ่ ึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็ น ้ ่ ภาพของผูอื่น และภาพนั้นเป็ นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรื อดัดแปลงด้วยวิธีการทาง ้ อิเล็กทรอนิกส์หรื อวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทาให้ผอื่นนั้นเสี ยชื่อเสี ยง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง ู้ หรื อได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรื อ ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ ถ้าการกระทาตามวรรคหนึ่ง เป็ นการนาเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยสุ จริ ต ผูกระทาไม่มีความผิด ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็ นความผิดอันยอมความได้ ถ้าผูเ้ สี ยหายใน ้ ความผิดตามวรรคหนึ่งตายเสี ยก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา คู่สมรส หรื อ บุตรของผูเ้ สี ยหายร้องทุกข์ได้ และให้ถือว่าเป็ นผูเ้ สี ยหาย มาตรา ๑๗ ผูใดกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ีนอกราชอาณาจักรและ ้ (๑) ผูกระทาความผิดนั้นเป็ นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดขึ้นหรื อผูเ้ สี ยหายได้ร้องขอให้ ้ ลงโทษ หรื อ (๒) ผูกระทาความผิดนั้นเป็ นคนต่างด้าว และรัฐบาลไทยหรื อคนไทยเป็ นผูเ้ สี ยหายและผูเ้ สี ยหายได้ร้อง ้ ขอให้ลงโทษ จะต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร หมวด ๒ พนักงานเจ้าหน้าที่ มาตรา ๑๘ ภายใต้บงคับมาตรา ๑๙ เพื่อประโยชน์ในการสื บสวนและสอบสวนในกรณี ที่มีเหตุอนควรเชื่อได้ ั ั ว่ามีการกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอานาจอย่างหนึ่ งอย่างใด ดังต่อไปนี้ เฉพาะที่จาเป็ นเพื่อประโยชน์ในการใช้เป็ นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทาความผิดและหาตัวผูกระทาความผิด ้ (๑) มีหนังสื อสอบถามหรื อเรี ยกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ีมาเพื่อให้
  • 12. ่ ถ้อยคา ส่ งคาชี้แจงเป็ นหนังสื อ หรื อส่ งเอกสาร ข้อมูล หรื อหลักฐานอื่นใดที่อยูในรู ปแบบที่สามารถเข้าใจได้ (๒) เรี ยกข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ จากผูให้บริ การเกี่ยวกับการติดต่อสื่ อสารผ่านระบบคอมพิวเตอร์ หรื อ ้ จากบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง (๓) สั่งให้ผให้บริ การส่ งมอบข้อมูลเกี่ยวกับผูใช้บริ การที่ตองเก็บตามมาตรา ๒๖ หรื อที่อยูในความ ู้ ้ ้ ่ ครอบครองหรื อควบคุมของผูให้บริ การให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ ้ (๔) ทาสาเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ จากระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีเหตุอนควรเชื่อได้ ั ่ ว่ามีการกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี ในกรณี ที่ระบบคอมพิวเตอร์ น้ นยังมิได้อยูในความครอบครอง ั ของพนักงานเจ้าหน้าที่ (๕) สั่งให้บุคคลซึ่ งครอบครองหรื อควบคุมข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรื ออุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ ส่ ง มอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรื ออุปกรณ์ดงกล่าวให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ ั (๖) ตรวจสอบหรื อเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์หรื ออุปกรณ์ที่ ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ ของบุคคลใด อันเป็ นหลักฐานหรื ออาจใช้เป็ นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทา ความผิด หรื อเพื่อสื บสวนหาตัวผูกระทาความผิดและสั่งให้บุคคลนั้นส่ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ขอมูลจราจรทาง ้ ้ คอมพิวเตอร์ ที่เกี่ยวข้องเท่าที่จาเป็ นให้ดวยก็ได้ ้ (๗) ถอดรหัสลับของข้อมูลคอมพิวเตอร์ ของบุคคลใด หรื อสั่งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเข้ารหัสลับของ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ทาการถอดรหัสลับ หรื อให้ความร่ วมมือกับพนักงานเจ้าหน้าที่ในการถอดรหัสลับ ดังกล่าว (๘) ยึดหรื ออายัดระบบคอมพิวเตอร์ เท่าที่จาเป็ นเฉพาะเพื่อประโยชน์ในการทราบรายละเอียดแห่งความผิด และผูกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี ้ มาตรา ๑๙ การใช้อานาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ(๘) ให้พนักงาน เจ้าหน้าที่ยนคาร้องต่อศาลที่มีเขตอานาจเพื่อมีคาสั่งอนุญาตให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดาเนิ นการตามคาร้อง ทั้งนี้ ื่ ่ คาร้องต้องระบุเหตุอนควรเชื่ อได้วาบุคคลใดกระทาหรื อกาลังจะกระทาการอย่างหนึ่งอย่างใดอันเป็ น ั ความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี เหตุที่ตองใช้อานาจ ลักษณะของการกระทาความผิด รายละเอียดเกี่ยวกับ ้ อุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทาความผิดและผูกระทาความผิด เท่าที่สามารถจะระบุได้ ประกอบคาร้องด้วยใน ้ การพิจารณาคาร้องให้ศาลพิจารณาคาร้องดังกล่าวโดยเร็ วเมื่อศาลมีคาสั่งอนุ ญาตแล้ว ก่อนดาเนินการตาม คาสั่งของศาล ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งสาเนาบันทึกเหตุอนควรเชื่อที่ทาให้ตองใช้อานาจตามมาตรา ๑๘ (๔) ั ้ (๕) (๖) (๗) และ (๘) มอบให้เจ้าของหรื อผูครอบครองระบบคอมพิวเตอร์ น้ นไว้เป็ นหลักฐาน แต่ถาไม่มี ้ ั ้
  • 13. เจ้าของหรื อผูครอบครองเครื่ องคอมพิวเตอร์ อยู่ ณ ที่น้ น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งมอบสาเนาบันทึกนั้นให้แก่ ้ ั เจ้าของหรื อผูครอบครองดังกล่าวในทันทีที่กระทาได้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผเู ้ ป็ นหัวหน้าในการดาเนินการ ้ ตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ(๘) ส่ งสาเนาบันทึกรายละเอียดการดาเนินการและเหตุผลแห่งการ ดาเนินการให้ศาลที่มีเขตอานาจภายในสี่ สิบแปดชัวโมงนับแต่เวลาลงมือดาเนินการ เพื่อเป็ นหลักฐานการทา ่ ่ สาเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตามมาตรา ๑๘ (๔) ให้กระทาได้เฉพาะเมื่อมีเหตุอนควรเชื่อได้วามีการกระทา ั ความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี และต้องไม่เป็ นอุปสรรคในการดาเนินกิจการของเจ้าของหรื อผูครอบครอง ้ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ น้ นเกินความจาเป็ น การยึดหรื ออายัดตามมาตรา ๑๘ (๘) นอกจากจะต้องส่ งมอบสาเนา ั หนังสื อแสดงการยึดหรื ออายัดมอบให้เจ้าของหรื อผูครอบครองระบบคอมพิวเตอร์ น้ นไว้เป็ นหลักฐานแล้ว ้ ั พนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งยึดหรื ออายัดไว้เกินสามสิ บวันมิได้ ในกรณี จาเป็ นที่ตองยึดหรื ออายัดไว้นานกว่านั้น ้ ให้ยนคาร้องต่อศาลที่มีเขตอานาจเพื่อขอขยายเวลายึดหรื ออายัดได้ แต่ศาลจะอนุญาตให้ขยายเวลาครั้งเดียว ื่ หรื อหลายครั้งรวมกันได้อีกไม่เกินหกสิ บวัน เมื่อหมดความจาเป็ นที่จะยึดหรื ออายัดหรื อครบกาหนดเวลา ดังกล่าวแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่ตองส่ งคืนระบบคอมพิวเตอร์ ที่ยดหรื อถอนการอายัดโดยพลัน หนังสื อ ้ ึ แสดงการยึดหรื ออายัดตามวรรคห้าให้เป็ นไปตามที่กาหนดในกฎกระทรวง มาตรา ๒๐ ในกรณี ที่การกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี เป็ นการทาให้แพร่ หลายซึ่ ง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมันคงแห่งราชอาณาจักร ตามที่กาหนดไว้ในภาคสอง ่ ลักษณะ ๑ หรื อลักษณะ ๑/๑ แห่งประมวลกฎหมายอาญา หรื อที่มีลกษณะขัดต่อความสงบเรี ยบร้อยหรื อ ั ศีลธรรมอันดีของประชาชน พนักงานเจ้าหน้าที่โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรี อาจยืนคาร้อง พร้อม ่ แสดงพยานหลักฐานต่อศาลที่มีเขตอานาจขอให้มีคาสั่งระงับการทาให้แพร่ หลายซึ่ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ น้ น ั ได้ ในกรณี ท่ีศาลมีคาสั่งให้ระงับการทาให้แพร่ หลายซึ่ งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงาน เจ้าหน้าที่ทาการระงับการทาให้แพร่ หลายนั้นเอง หรื อสั่งให้ผให้บริ การระงับการทาให้แพร่ หลายซึ่ ง ู้ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ น้ นก็ได้ ั ่ ้ มาตรา ๒๑ ในกรณี ที่พนักงานเจ้าหน้าที่พบว่า ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ใดมีชุดคาสั่งไม่พึงประสงค์รวมอยูดวย พนักงานเจ้าหน้าที่อาจยืนคาร้องต่อศาลที่มีเขตอานาจเพื่อขอให้มีคาสั่งห้ามจาหน่ายหรื อเผยแพร่ หรื อสั่งให้ ่ เจ้าของหรื อผูครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์ น้ นระงับการใช้ ทาลายหรื อแก้ไขข้อมูลคอมพิวเตอร์ น้ นได้ ้ ั ั หรื อจะกาหนดเงื่อนไขในการใช้ มีไว้ในครอบครอง หรื อเผยแพร่ ชุดคาสั่งไม่พึงประสงค์ดงกล่าวก็ได้ ั ชุดคาสั่งไม่พึงประสงค์ตามวรรคหนึ่งหมายถึงชุดคาสั่งที่มีผลทาให้ขอมูลคอมพิวเตอร์ หรื อระบบ ้ คอมพิวเตอร์ หรื อชุดคาสั่งอื่นเกิดความเสี ยหาย ถูกทาลาย ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรื อเพิ่มเติมขัดข้อง หรื อ
  • 14. ปฏิบติงานไม่ตรงตามคาสั่งที่กาหนดไว้ หรื อโดยประการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวงทั้งนี้ เว้นแต่เป็ น ั ชุดคาสังที่มุ่งหมายในการป้ องกันหรื อแก้ไขชุดคาสังดังกล่าวข้างต้น ตามที่รัฐมนตรี ประกาศในราชกิจจา ่ ่ นุเบกษา มาตรา ๒๒ ห้ามมิให้พนักงานเจ้าหน้าที่เปิ ดเผยหรื อส่ งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทาง คอมพิวเตอร์ หรื อข้อมูลของผูใช้บริ การ ที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ ให้แก่บุคคลใดความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้ ้ ั ้ บังคับกับการกระทาเพื่อประโยชน์ในการดาเนิ นคดีกบผูกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี หรื อเพื่อ ประโยชน์ในการดาเนินคดีกบพนักงานเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการใช้อานาจหน้าที่ ั โดยมิชอบ หรื อเป็ นการกระทาตามคาสังหรื อที่ได้รับอนุ ญาตจากศาลพนักงานเจ้าหน้าที่ผใดฝ่ าฝื นวรรคหนึ่ง ่ ู้ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรื อปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ มาตรา ๒๓ พนักงานเจ้าหน้าที่ผใดกระทาโดยประมาทเป็ นเหตุให้ผอื่นล่วงรู ้ขอมูลคอมพิวเตอร์ ขอมูลจราจร ู้ ู้ ้ ้ ทางคอมพิวเตอร์ หรื อข้อมูลของผูใช้บริ การ ที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งปี หรื อ ้ ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ มาตรา ๒๔ ผูใดล่วงรู ้ขอมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรื อข้อมูลของผูใช้บริ การ ที่ ้ ้ ้ พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ และเปิ ดเผยข้อมูลนั้นต่อผูหนึ่งผูใด ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสอง ้ ้ ปี หรื อปรับไม่เกินสี่ หมื่นบาท หรื อทั้งจาทั้งปรับ มาตรา ๒๕ ข้อมูล ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรื อข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มาตาม พระราชบัญญัติน้ ี ให้อางและรับฟังเป็ นพยานหลักฐานตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ้ ความอาญาหรื อกฎหมายอื่นอันว่าด้วยการสื บพยานได้ แต่ตองเป็ นชนิดที่มิได้เกิดขึ้นจากการจูงใจมีคามัน ้ ่ สัญญา ขูเ่ ข็ญ หลอกลวง หรื อโดยมิชอบประการอื่น มาตรา ๒๖ ผูให้บริ การต้องเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ไว้ไม่นอยกว่าเก้าสิ บวันนับแต่วนที่ขอมูล ้ ้ ั ้ นั้นเข้าสู่ ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ในกรณี จาเป็ นพนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งให้ผให้บริ การผูใดเก็บรักษาข้อมูล ู้ ้ จราจรทางคอมพิวเตอร์ ไว้เกินเก้าสิ บวัน แต่ไม่เกินหนึ่งปี เป็ นกรณี พิเศษเฉพาะรายและเฉพาะคราวก็ได้ ผู ้ ให้บริ การจะต้องเก็บรักษาข้อมูลของผูใช้บริ การเท่าที่จาเป็ นเพื่อให้สามารถระบุตวผูใช้บริ การ นับตั้งแต่เริ่ ม ้ ั ้ ใช้บริ การและต้องเก็บรักษาไว้เป็ นเวลาไม่นอยกว่าเก้าสิ บวันนับตั้งแต่การใช้บริ การสิ้ นสุ ดลง ความในวรรค ้ ั ้ หนึ่งจะใช้กบผูให้บริ การประเภทใด อย่างไร และเมื่อใด ให้เป็ นไปตามที่รัฐมนตรี ประกาศในราชกิจจา
  • 15. นุเบกษา ผูให้บริ การผูใดไม่ปฏิบติตามมาตรานี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท ้ ้ ั มาตรา ๒๗ ผูใดไม่ปฏิบติตามคาสั่งของศาลหรื อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่สั่งตามมาตรา ๑๘ หรื อมาตรา ๒๐ ้ ั หรื อไม่ปฏิบติตามคาสั่งของศาลตามมาตรา ๒๑ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาทและปรับเป็ น ั รายวันอีกไม่เกินวันละห้าพันบาทจนกว่าจะปฏิบติให้ถูกต้อง ั มาตรา ๒๘ การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติน้ ี ให้รัฐมนตรี แต่งตั้งจากผูมีความรู ้และความ ้ ชานาญเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ และมีคุณสมบัติตามที่รัฐมนตรี กาหนด มาตรา ๒๙ ในการปฏิบติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติน้ ี ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็ นพนักงานฝ่ ายปกครองหรื อ ั ตารวจชั้นผูใหญ่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามีอานาจรับคาร้องทุกข์หรื อรับคากล่าวโทษ ้ และมีอานาจในการสื บสวนสอบสวนเฉพาะความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี ในการจับ ควบคุม ค้น การทา สานวนสอบสวนและดาเนินคดีผกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี บรรดาที่เป็ นอานาจของพนักงานฝ่ าย ู้ ปกครองหรื อตารวจชั้นผูใหญ่ หรื อพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้ ้ พนักงานเจ้าหน้าที่ประสานงานกับพนักงานสอบสวนผูรับผิดชอบเพื่อดาเนินการตามอานาจหน้าที่ต่อไป ให้ ้ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผูกากับดูแลสานักงานตารวจแห่งชาติ และรัฐมนตรี มีอานาจ ร่ วมกันกาหนดระเบียบ ้ เกี่ยวกับแนวทางและวิธีปฏิบติในการดาเนินการตามวรรคสอง ั มาตรา ๓๐ ในการปฏิบติหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ตองแสดงบัตรประจาตัวต่อบุคคลซึ่ งเกี่ยวข้อง บัตร ั ้ ประจาตัวของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เป็ นไปตามแบบที่รัฐมนตรี ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ผูรับสนองพระบรมราชโองการ ้ พลเอก สุ รยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากในปั จจุบนระบบคอมพิวเตอร์ ได้ ั เป็ นส่ วนสาคัญ ของการประกอบกิจการ และการดารงชีวิตของมนุษย์ หากมีผกระทาด้วยประการใด ๆ ให้ ู้ ระบบคอมพิวเตอร์ ไม่สามารถทางานตามคาสั่งที่กาหนดไว้ หรื อทาให้การทางานผิดพลาดไปจากคาสั่งที่ กาหนดไว้ หรื อใช้วธีการใด ๆ เข้าล่วงรู ้ขอมูล แก้ไข หรื อทาลายข้อมูลของบุคคลอื่น ในระบบคอมพิวเตอร์ ิ ้ โดยมิชอบ หรื อใช้ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อเผยแพร่ ขอมูลคอมพิวเตอร์ อนเป็ นเท็จ หรื อมีลกษณะอันลามก ้ ั ั
  • 16. อนาจาร ย่อมก่อให้เกิดความเสี ยหาย กระทบกระเทือนต่อเศรษฐกิจ สังคม และความมันคงของรัฐ รวมทั้ง ่ ความสงบสุ ขและศีลธรรมอันดีของประชาชน สมควรกาหนดมาตรการเพื่อป้ องกันและปราบปรามการ กระทาดังกล่าว จึงจาเป็ นต้องตราพระราชบัญญัติน้ ี