หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าจอมถล่มประตูของบาร์เซโลน่า ออกโรงลดกระแสทะเลาะกับเคราร์ด เดวโลเฟว ปีกเลือดกระทิงดุ แม้จะมีอาการอารมณ์เสีย เพราะไม่พอใจฟอร์มการเล่นของ อดีตดาวเตะ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน"เอฟเวอร์ตันก็ตาม หัวหอกทีมชาติอุรุกวัย ตกเป็นข่าวว่าไม่ค่อย พอใจผลงานของเดวโลเฟว หลายครั้งในฤดูกาลนี้ และยังมีรายงานออกมาเป็นระลอกว่า อดีตดาวยิง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล และอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ไม่เคยเชื่อมั่นในความสามารถของมิดฟิลด์ชาวสแปนิช อย่างไรก็ตาม ซัวเรซยืนยันมีปากเสียงกับเพื่อน ร่วมทีมหลายคน ไม่ใช่แค่เดวโลเฟวเท่านั้น เพราะต้องการให้ทีมทำผลงานให้ดีที่สุด "เขาเป็นนักเตะที่มีประสบการณ์ เขาเคยผ่านการเล่นในลีกใหญ่ ๆ และสิ่งที่เขาต้องทำก็คือฟังคำแนะนา ไม่ใช่แค่จากกองหน้า แต่จากผู้จัดการทีม (เทรนเนอร์) เขาทำแบบนั้น และเขากำลังเรียนรู้" "เขาไม่ใช่นักเตะคนเดียวเท่านั้นที่ทำให้ผมโมโห เราทุกคนมักจะเจอเรื่องแบบนี้ มีหลายคนที่ทำให้ผมโมโห ผมมักจะวิจารณ์ตัวเองมีหลายเกมตอนที่ผมช่วยทีม และมีความสุข แมัว่าจะยิงประตูไม่ได้ก็ตาม ผมรู้ว่าผมต้องยิงประตูเพราะมันเป็นงานของผม แต่ก็ต้องทำผลงานให้ดีด้วย และไม่จำเป็นว่าผมต้องยิงประตูได้" ซัวเรซกล่าวทิ้งท้าย ส่วนดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูทีมชาติสเปนของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวกำลังรอให้ต้นสังกัดยื่นสัญญาฉบับใหม่ให้พิจารณาแทนฉบับ ปัจจุบันที่เหลือถึงเดือนมิถุนายนปี 2019 ตามรายงานของ "เดลี่สตาร์" สื่อชื่อดังเมืองผู้ดี ระบุ ดาบิด เด เคอา จอมหนึบรัย 26 ซึ่งปัจจุบันได้รับค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 190,000 ปอนด์ (ประมาณ 8.55 ล้านบาท) ในสัญญาที่เหลือจนถึงเดือนมิถุนายนปี 2019 โดยที่ผ่านมามีข่าวหนาหูมาตลอดหลายปีหลังในฐานะเป้าหมายของ เรอัล มาดริด ยิ่งจากสถานการณ์ที่สัญญาตอน นึ้เหลืออีกแค่ 1 ปี ทำให้หาก ยูไนเต็ด ไม่รีบจับต่อสัญญา ภายในซีซั่นนึ้ อาจมีทีมเงินถุงเงินถังบางทีมหวนมาทาบทามไปร่วมทีมด้วย ทว่าล่าสุดอดีตนายด่านแอตเลติโก มาดริด ที่ คลีนชีต 8 จาก 10 เกมลีกแรกสุดซีซั่นนี้ใม่ได้มีท่าทีอยากย้ายทีมไปไหน โดยเฉพาะตอนนึ้ทีมอยู่ภายใต้การคุมทัพของ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือชาวโปรตุกีสที่มีเป้าหมายล่าแชมป์ ทุกรายการ และทีมทุ่มเงินไม่อั้นดึงนักเตะชั้นนำมาร่วมทีม แต่สิ่งที่ต้องการแลกกับการอยู่ต่อคือเพิ่มค่าเหนื่อยซึ่งงานนี้อาจแพงถึงสัปดาห์ละ 275,000 ปอนด์ (ประมาณ 12.4 ล้านบาท) เป็นสถิติสูงสุดเทียบเท่าปอล ป็อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส และ โรเมลู ลูกากู หัวหอกทีมชาติเบลเยียมเลยทีเดียว