SlideShare a Scribd company logo
1 of 6
Download to read offline
ความหมายของโครงงาน
โครงงานคอมพิวเตอร์เป็ นการใช้คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อื่นๆ ในการศึกษา ทดลอง แก้ปัญหา
ต่างๆ เพื่อนาผลงานที่ได้มาประยุกต์ใช้งานจริ ง หรื อเพื่อใช้ช่วยสร้างสื่ อเสริ มการเรี ยนการสอน
ให้มีประสิ ทธิ ภาพยิงขึ้น โครงงานคอมพิวเตอร์ จึงเป็ นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ ที่ช่วยให้ผูเ้ รี ยน
                       ่
ได้เรี ยนรู ้และฝึ กทักษะการใช้เครื่ องคอมพิวเตอร์ และซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งเครื่ องมือต่างๆในการ
แก้ปัญหา รวมทั้งการพัฒนาเจตคติในการสร้างผลงาน
ขอบคุณเนื้อหา : http://kroosuveera.blogspot.com/2011/09/blog-post_13.html
(วันที่สบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555)
        ื




            ที่มารู ปภาพ : http://www.krujongrak.com/winproject.html
                           (วันที่สบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555)
                                   ื

โครงงานคอมพิวเตอร์ คือ ผลงานที่ได้จ ากการศึก ษาค้นคว้าตามความสนใจ ความถนัด และ
ความสามารถของผูเ้ รี ยน โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ โครงงานจึงเป็ นกิจกรรมการเรี ยนรู ้ที่มี
การเน้น ผูเ้ รี ยนเป็ นสาคัญ โดยผูเ้ รี ยนจะหาหัวข้อ โครงงานที่ต นเองสนใจ รวมทั้ง เชื่ อ มโยง
ความรู ้ต่า ง ๆ และความรู ้ดา นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อ สร้างผลงานตาม
                             ้
ความต้องการได้อย่างเหมาะสม โดยมีครู เป็ นที่ปรึ กษาและให้คาแนะนา
ขอบคุณเนื้อหา : http://krudarin.wordpress.com/
(วันที่สบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555)
        ื
โครงงานคอมพิวเตอร์ คือ เป็ นกิจกรรมการเรี ยนที่นักเรี ยนมีอิสระในการเลือกศึกษาปั ญหาที่
 ตนสนใจ โดยนักเรี ยนจะต้องวางแผนการดาเนิ นงาน ศึกษา พัฒ นาโปรแกรม หรื ออุปกรณ์ที่
 เกี่ย วข้อง โดยใช้ค วามรู ้ กระบวนการทางวิศ วกรรมซอฟต์แวร์ เครื่ องคอมพิว เตอร์ แ ละวัส ดุ
 อุป กรณ์ต ลอดจนทัก ษะพื้น ฐานในการพัฒ นาโครงงาน เรื่ อ งที่น ัก เรี ยนสนใจและคิด จะท า
 โครงงาน ซึ่ ง อาจมีผูศ ึก ษามาก่อ น หรื อ เป็ นเรื ่ อ งที ่น ัก พัฒ นาโปรแกรมได้เ คยค้น คว้า และ
                       ้
 พัฒ นาแล้ว นัก เรี ย นสามารถท าโครงงานเรื่ อ งดัง กล่า วได้ แต่ต อ งคิด ดัด แปลงแนวทางใน
                                                                          ้
 การศึก ษา การวิเ คราะห์ข อ มูล การพัฒ นาโปรแกรม หรื อ ศึก ษาเพิ่ม เติม จากผลงานเดิม ที ่มี
                              ้
 ผูรายงานไว้
   ้
  ขอบคุณเนื้อหา : http://kruarisara.wordpress.com
  (วันที่สบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555)
          ื




       ที่มารู ปภาพ : http://www.rayongwit.ac.th/chanarat/unit3/unit3.html
                            (วันที่สบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555)
                                    ื

โครงงานคอมพิว เตอร์ คือ กิจ กรรมการเรี ย นรู ้ข องนัก เรี ย นอีก รู ป แบบหนึ่ ง ที่ทาให้น ัก เรี ยนมี
อิส ระทางความคิด ทางการศึก ษาปั ญ หาและสิ ่ ง ต่า งๆที ่ต นเองในใจ โดยนัก เรี ยนต้อ งมีก าร
วางแผนการศึกษาและดาเนิ นงานของตนเอง ตามกระบวนการศึกษาโครงงาน และทาการลงมือ
พัฒนาโปรแกรมต่างๆหรื ออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องโดยใช้ความรู ้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
วิศวกรรม คอมพิวเตอร์ และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่จะสามารถนามาใช้ตลอดจนทักษะพื้นฐานใน
การพัฒนาโครงงานเรื่ องที่นักเรี ยนมีความสนใจ ซึ่ งเรื่ องที่ศึกษาหรื อพัฒนาอาจจะมีผูศึกษามา   ้
ก่อ น หรื อ เป็ นเรื ่ อ งที ่ไ ด้ถูก การพัฒ นาจากผู พ ฒ นาอื ่น มาแล้ว นัก เรี ย นก็ย ง สามารถที ่จ ะท า
                                                     ้ ั                               ั
โครงงานดังกล่าวได้ แต่ตองมีการคิดดัดแปลงแนวทางในการดาเนิ นการศึกษา การพัฒนา การ
                                  ้
วิเ คราะห์ข อมูล การพัฒ นาโปรแกรม หรื อ ศึก ษาเพิ่ม เติมจากที่ผูศึกษาเดิม ได้ใ ห้ข อเสนอแนะ
             ้                                                          ้                   ้
และแนวทางในการพัฒนาต่อไว้
http://krunutdotcom.blogspot.com/2011/11/blog-post_09.html
(วันที่สืบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555)

ความสาคัญ

เสริ มสร้างประสบการณ์ให้ผเู ้ รี ยนได้ลงมือปฏิบติจริ ง ส่ งผลทาให้เกิดความริ เริ่ มสร้างสรรค์ใน
                                                  ั
การทาโครงงานใหม่ ๆที่จะนาไปสู่ โลกของงานอาชี พและการศึกษา อีกทั้งโครงงานที่ตนเองสนใจ
ยังก่อให้เกิ ดองค์ความรู ้ ที่กว้างขวาง เป็ นการประสานงานทางวิชาการระหว่างกลุ่มสาระการเรี ยนรู ้
ต่างๆ
https://sites.google.com/site/krutermsaksuwan/home/keiyw-kab-khru-
teim-sakdi/khwam-ru-reuxng/khwam-hmay-khxng-khorng-ngan
(วันที่สืบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555)


- ช่วยสร้างความหวังใหม่ในการริ เริ่ มงาน ที่สนใจ
- สร้างเสริ มประสบการณ์จากการปฏิบติจริ ง
                                 ั
- ได้มีโอกาสทดสอบความถนัดของตนเอง
- ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจ ที่ได้สร้างเกียรติประวัติ
- ก่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจและความสัมพันธ์อนดี
                                              ั
ขอบคุณเนื้อหา : http://www.thaigoodview.com/node/82878
(วันที่สืบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555)
ที่มารู ปภาพ : HTTP://WWW.RAYONGWIT.AC.TH/CHANARAT/UNIT2/UNIT2.HTML
                         (วันที่สบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555)
                                 ื
1. ผูเ้ รี ยนรู ้ จกใช้สื่อคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ ข่าวสาร ความรู ้ ให้แก่ บุคคลอื่นๆได้ใช้ประโชน์
                   ั
2. สามารถใช้คอมพิวเตอร์ ให้เกิ ดประโยชน์สูงสุ ดและมีประสิ ทธิ ภาพ
3. ส่ งเสริ มให้ผูเ้ รี ยนได้มีความรู ้ใหม่ๆในการสร้างสื่ ออิเล็คทรอนิ กส์ สามารถนาไปใช้ใน
อนาคตของผูเ้ รี ยนได้
4. ผูเ้ รี ยนสามารถทางานร่ วมกับผูอื่นได้เป็ นอย่างดี มีความสามัคคีในระบบกลุ่มมากขึ้น
                                        ้
5. สามารถบริ หารเวลาว่างให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและแก่ผูอื่น            ้
6.สามารถนาความรู ้ ที่ได้รับไปพัฒนาต่อยอดได้




                         http://namkwanmay.wordpress.com
                         (วันที่สบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555)
                                 ื
1.ความสามารถในการสื่ อสาร เป็ นความสามารถที่เกิดจากการที่นักเรี ยนเป็ นผูทาโครงงาน
                                                                         ้
ต้องนาเสนอผลงานให้ ครู และเพื่อนนักเรี ยนให้เข้าใจโครงงานคอมพิวเตอร์ ได้อย่างชัดเจน
ดังนั้น ผูทาโครงงานต้องสื่ อสารความคิดในการสร้างสรรค์โครงงานด้วยการเขียน หรื อด้วย
          ้
ปากเปล่า รวมทั้งเลือกใช้รูปแบบของสื่ ออย่างมีประสิ ทธิ ภาพเพื่อนาเสนอแนวคิดในการจัด
โครงงานให้ผอื่นได้เข้าใจ
              ู้




        ที่มารู ปภาพ : http://kruoong.blogspot.com/2011/05/blog-post.html
                             (วันที่สบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555)
                                     ื


2.ความสามารถในการคิด ซึ่ งผูเ้ รี ยนจะมีการคิดในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้
       - การคิดวิเคราะห์ เกิดจากการที่ผูเ้ รี ยนต้องวิเคราะห์ ปัญหาและแยกแยะสาเหตุว่าเกิด
เนื่ องจากอะไร
        - การคิดสังเคราะห์ เกิดจากการที่ผูเ้ รี ยนต้องนาความรู ้ต่าง ๆ ที่เรี ยนมา รวมทั้งความรู ้
จากการค้นหาข้อมูล เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาหรื อการสร้างสรรค์โครงงาน
        - การคิดอย่างสร้างสรรค์ เกิดจากการที่ผูเ้ รี ยนนาความรู ้มาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ
        - การคิดอย่างมี วิจารณญาณ เกิดจากการที่ผูเ้ รี ยนได้มีการคิดไตร่ ตรองว่าควรทาโครงงาน
ใดและไม่ควรทาโครง งานใด เนื่ องจากโครงงานที่สร้างขึ้นอาจส่ งผลกระทบต่อสังคม
โดยรวม เช่ น โครงงานระบบคานวณเลขหวย สาหรับหาเลขที่คาดว่าสลากกินแบ่งรั ฐบาลจะ
ออกในแต่ละงวด อาจส่ งผลกระทบต่อสังคม ทาให้คนในสังคมเกิ ดความหมกมุ่นในกับการใช้
เงินเล่นหวยมากขึ้น
- การคิดอย่างเป็ นระบบ เกิดจากการที่ผูเ้ รี ยนคิดแก้ปัญหาอย่างเป็ นขั้นตอน โดยใช้
ขั้นตอนในการพัฒนาโครงงาน คือ ผูเ้ รี ยนเป็ นผูวางแผนในการศึกษา ค้นคว้า เก็บรวบรวม
                                                  ้
ข้อมูล พัฒนา หรื อประดิษฐ์คิดค้นผลงาน รวมทั้งการสรุ ปผลและการนาเสนอผลการศึกษา
ค้นคว้าด้วยตนเอง โดยมี ผสอนและผูทรงคุ ณวุฒิเป็ นผูให้คาปรึ กษา
                         ู้        ้                   ้
3.ความสามารถในการแก้ ปัญหา เกิดจากการที่ผูเ้ รี ยนวิเคราะห์ปัญหา เข้าใจ และอธิ บายปั ญหา
ทางด้านคอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ความรู ้ ทักษะ และการใช้เครื่ องมือที่เหมาะสมกับการ
แก้ไขปั ญหา
4.ความสามารถในการใช้ ทักษะชี วิต เกิดจากการที่ผูเ้ รี ยนได้นาความรู ้ และกระบวนการต่าง ๆ
ไปใช้ในการพัฒนาโครงงาน และนาไปประยุกต์ใช้ในชี วิตประจาวันได้อย่างเหมาะสม รวมถึง
การพัฒนาโครงงาน ก่อให้เกิ ดการเรี ยนรู ้ด้วยตนเอง อันนาไปสู่ การเรี ยนรู ้ตลอดชี วิต
5.ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี เกิดจากการที่ผูเ้ รี ยนสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
ในการแก้ปัญหาได้ อย่างถูกต้องเหมาะสม และมีคุณธรรม
ขอบคุณเนื้อหา : HTTP://KRUDARIN.WORDPRESS.COM (วันที่สบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555)
                                                      ื




     ที่มารู ปภาพ : http://kruarisara.wordpress.com/2010/03/30/%E0%B8%84

                         (วันที่สบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555)
                                 ื

More Related Content

More from Anny Na Sonsawan

ขั้นตอนการทำน้ำพริกตาแดง
ขั้นตอนการทำน้ำพริกตาแดงขั้นตอนการทำน้ำพริกตาแดง
ขั้นตอนการทำน้ำพริกตาแดงAnny Na Sonsawan
 
โครงงานใบงานที่8
โครงงานใบงานที่8โครงงานใบงานที่8
โครงงานใบงานที่8Anny Na Sonsawan
 
โครงงานใบงานที่ 6
โครงงานใบงานที่ 6โครงงานใบงานที่ 6
โครงงานใบงานที่ 6Anny Na Sonsawan
 
โครงงานใบที่5
โครงงานใบที่5โครงงานใบที่5
โครงงานใบที่5Anny Na Sonsawan
 
ใบงานสำรวจตนเอง
ใบงานสำรวจตนเองใบงานสำรวจตนเอง
ใบงานสำรวจตนเองAnny Na Sonsawan
 

More from Anny Na Sonsawan (9)

ขั้นตอนการทำน้ำพริกตาแดง
ขั้นตอนการทำน้ำพริกตาแดงขั้นตอนการทำน้ำพริกตาแดง
ขั้นตอนการทำน้ำพริกตาแดง
 
โครงงานใบงานที่8
โครงงานใบงานที่8โครงงานใบงานที่8
โครงงานใบงานที่8
 
โครงงานใบงานที่ 6
โครงงานใบงานที่ 6โครงงานใบงานที่ 6
โครงงานใบงานที่ 6
 
โครงงานใบที่5
โครงงานใบที่5โครงงานใบที่5
โครงงานใบที่5
 
ใบงานสำรวจตนเอง
ใบงานสำรวจตนเองใบงานสำรวจตนเอง
ใบงานสำรวจตนเอง
 
คอมมม
คอมมมคอมมม
คอมมม
 
คอมมม
คอมมมคอมมม
คอมมม
 
คอมมม
คอมมมคอมมม
คอมมม
 
คอมมม
คอมมมคอมมม
คอมมม
 

ใบงานที่ 2 เรื่องความหมายเเละความสำคัญของโครงงาน

  • 1. ความหมายของโครงงาน โครงงานคอมพิวเตอร์เป็ นการใช้คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อื่นๆ ในการศึกษา ทดลอง แก้ปัญหา ต่างๆ เพื่อนาผลงานที่ได้มาประยุกต์ใช้งานจริ ง หรื อเพื่อใช้ช่วยสร้างสื่ อเสริ มการเรี ยนการสอน ให้มีประสิ ทธิ ภาพยิงขึ้น โครงงานคอมพิวเตอร์ จึงเป็ นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ ที่ช่วยให้ผูเ้ รี ยน ่ ได้เรี ยนรู ้และฝึ กทักษะการใช้เครื่ องคอมพิวเตอร์ และซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งเครื่ องมือต่างๆในการ แก้ปัญหา รวมทั้งการพัฒนาเจตคติในการสร้างผลงาน ขอบคุณเนื้อหา : http://kroosuveera.blogspot.com/2011/09/blog-post_13.html (วันที่สบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555) ื ที่มารู ปภาพ : http://www.krujongrak.com/winproject.html (วันที่สบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555) ื โครงงานคอมพิวเตอร์ คือ ผลงานที่ได้จ ากการศึก ษาค้นคว้าตามความสนใจ ความถนัด และ ความสามารถของผูเ้ รี ยน โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ โครงงานจึงเป็ นกิจกรรมการเรี ยนรู ้ที่มี การเน้น ผูเ้ รี ยนเป็ นสาคัญ โดยผูเ้ รี ยนจะหาหัวข้อ โครงงานที่ต นเองสนใจ รวมทั้ง เชื่ อ มโยง ความรู ้ต่า ง ๆ และความรู ้ดา นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อ สร้างผลงานตาม ้ ความต้องการได้อย่างเหมาะสม โดยมีครู เป็ นที่ปรึ กษาและให้คาแนะนา ขอบคุณเนื้อหา : http://krudarin.wordpress.com/ (วันที่สบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555) ื
  • 2. โครงงานคอมพิวเตอร์ คือ เป็ นกิจกรรมการเรี ยนที่นักเรี ยนมีอิสระในการเลือกศึกษาปั ญหาที่ ตนสนใจ โดยนักเรี ยนจะต้องวางแผนการดาเนิ นงาน ศึกษา พัฒ นาโปรแกรม หรื ออุปกรณ์ที่ เกี่ย วข้อง โดยใช้ค วามรู ้ กระบวนการทางวิศ วกรรมซอฟต์แวร์ เครื่ องคอมพิว เตอร์ แ ละวัส ดุ อุป กรณ์ต ลอดจนทัก ษะพื้น ฐานในการพัฒ นาโครงงาน เรื่ อ งที่น ัก เรี ยนสนใจและคิด จะท า โครงงาน ซึ่ ง อาจมีผูศ ึก ษามาก่อ น หรื อ เป็ นเรื ่ อ งที ่น ัก พัฒ นาโปรแกรมได้เ คยค้น คว้า และ ้ พัฒ นาแล้ว นัก เรี ย นสามารถท าโครงงานเรื่ อ งดัง กล่า วได้ แต่ต อ งคิด ดัด แปลงแนวทางใน ้ การศึก ษา การวิเ คราะห์ข อ มูล การพัฒ นาโปรแกรม หรื อ ศึก ษาเพิ่ม เติม จากผลงานเดิม ที ่มี ้ ผูรายงานไว้ ้ ขอบคุณเนื้อหา : http://kruarisara.wordpress.com (วันที่สบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555) ื ที่มารู ปภาพ : http://www.rayongwit.ac.th/chanarat/unit3/unit3.html (วันที่สบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555) ื โครงงานคอมพิว เตอร์ คือ กิจ กรรมการเรี ย นรู ้ข องนัก เรี ย นอีก รู ป แบบหนึ่ ง ที่ทาให้น ัก เรี ยนมี อิส ระทางความคิด ทางการศึก ษาปั ญ หาและสิ ่ ง ต่า งๆที ่ต นเองในใจ โดยนัก เรี ยนต้อ งมีก าร วางแผนการศึกษาและดาเนิ นงานของตนเอง ตามกระบวนการศึกษาโครงงาน และทาการลงมือ พัฒนาโปรแกรมต่างๆหรื ออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องโดยใช้ความรู ้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม คอมพิวเตอร์ และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่จะสามารถนามาใช้ตลอดจนทักษะพื้นฐานใน
  • 3. การพัฒนาโครงงานเรื่ องที่นักเรี ยนมีความสนใจ ซึ่ งเรื่ องที่ศึกษาหรื อพัฒนาอาจจะมีผูศึกษามา ้ ก่อ น หรื อ เป็ นเรื ่ อ งที ่ไ ด้ถูก การพัฒ นาจากผู พ ฒ นาอื ่น มาแล้ว นัก เรี ย นก็ย ง สามารถที ่จ ะท า ้ ั ั โครงงานดังกล่าวได้ แต่ตองมีการคิดดัดแปลงแนวทางในการดาเนิ นการศึกษา การพัฒนา การ ้ วิเ คราะห์ข อมูล การพัฒ นาโปรแกรม หรื อ ศึก ษาเพิ่ม เติมจากที่ผูศึกษาเดิม ได้ใ ห้ข อเสนอแนะ ้ ้ ้ และแนวทางในการพัฒนาต่อไว้ http://krunutdotcom.blogspot.com/2011/11/blog-post_09.html (วันที่สืบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555) ความสาคัญ เสริ มสร้างประสบการณ์ให้ผเู ้ รี ยนได้ลงมือปฏิบติจริ ง ส่ งผลทาให้เกิดความริ เริ่ มสร้างสรรค์ใน ั การทาโครงงานใหม่ ๆที่จะนาไปสู่ โลกของงานอาชี พและการศึกษา อีกทั้งโครงงานที่ตนเองสนใจ ยังก่อให้เกิ ดองค์ความรู ้ ที่กว้างขวาง เป็ นการประสานงานทางวิชาการระหว่างกลุ่มสาระการเรี ยนรู ้ ต่างๆ https://sites.google.com/site/krutermsaksuwan/home/keiyw-kab-khru- teim-sakdi/khwam-ru-reuxng/khwam-hmay-khxng-khorng-ngan (วันที่สืบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555) - ช่วยสร้างความหวังใหม่ในการริ เริ่ มงาน ที่สนใจ - สร้างเสริ มประสบการณ์จากการปฏิบติจริ ง ั - ได้มีโอกาสทดสอบความถนัดของตนเอง - ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจ ที่ได้สร้างเกียรติประวัติ - ก่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจและความสัมพันธ์อนดี ั ขอบคุณเนื้อหา : http://www.thaigoodview.com/node/82878 (วันที่สืบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555)
  • 4. ที่มารู ปภาพ : HTTP://WWW.RAYONGWIT.AC.TH/CHANARAT/UNIT2/UNIT2.HTML (วันที่สบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555) ื 1. ผูเ้ รี ยนรู ้ จกใช้สื่อคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ ข่าวสาร ความรู ้ ให้แก่ บุคคลอื่นๆได้ใช้ประโชน์ ั 2. สามารถใช้คอมพิวเตอร์ ให้เกิ ดประโยชน์สูงสุ ดและมีประสิ ทธิ ภาพ 3. ส่ งเสริ มให้ผูเ้ รี ยนได้มีความรู ้ใหม่ๆในการสร้างสื่ ออิเล็คทรอนิ กส์ สามารถนาไปใช้ใน อนาคตของผูเ้ รี ยนได้ 4. ผูเ้ รี ยนสามารถทางานร่ วมกับผูอื่นได้เป็ นอย่างดี มีความสามัคคีในระบบกลุ่มมากขึ้น ้ 5. สามารถบริ หารเวลาว่างให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและแก่ผูอื่น ้ 6.สามารถนาความรู ้ ที่ได้รับไปพัฒนาต่อยอดได้ http://namkwanmay.wordpress.com (วันที่สบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555) ื
  • 5. 1.ความสามารถในการสื่ อสาร เป็ นความสามารถที่เกิดจากการที่นักเรี ยนเป็ นผูทาโครงงาน ้ ต้องนาเสนอผลงานให้ ครู และเพื่อนนักเรี ยนให้เข้าใจโครงงานคอมพิวเตอร์ ได้อย่างชัดเจน ดังนั้น ผูทาโครงงานต้องสื่ อสารความคิดในการสร้างสรรค์โครงงานด้วยการเขียน หรื อด้วย ้ ปากเปล่า รวมทั้งเลือกใช้รูปแบบของสื่ ออย่างมีประสิ ทธิ ภาพเพื่อนาเสนอแนวคิดในการจัด โครงงานให้ผอื่นได้เข้าใจ ู้ ที่มารู ปภาพ : http://kruoong.blogspot.com/2011/05/blog-post.html (วันที่สบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555) ื 2.ความสามารถในการคิด ซึ่ งผูเ้ รี ยนจะมีการคิดในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้ - การคิดวิเคราะห์ เกิดจากการที่ผูเ้ รี ยนต้องวิเคราะห์ ปัญหาและแยกแยะสาเหตุว่าเกิด เนื่ องจากอะไร - การคิดสังเคราะห์ เกิดจากการที่ผูเ้ รี ยนต้องนาความรู ้ต่าง ๆ ที่เรี ยนมา รวมทั้งความรู ้ จากการค้นหาข้อมูล เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาหรื อการสร้างสรรค์โครงงาน - การคิดอย่างสร้างสรรค์ เกิดจากการที่ผูเ้ รี ยนนาความรู ้มาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ - การคิดอย่างมี วิจารณญาณ เกิดจากการที่ผูเ้ รี ยนได้มีการคิดไตร่ ตรองว่าควรทาโครงงาน ใดและไม่ควรทาโครง งานใด เนื่ องจากโครงงานที่สร้างขึ้นอาจส่ งผลกระทบต่อสังคม โดยรวม เช่ น โครงงานระบบคานวณเลขหวย สาหรับหาเลขที่คาดว่าสลากกินแบ่งรั ฐบาลจะ ออกในแต่ละงวด อาจส่ งผลกระทบต่อสังคม ทาให้คนในสังคมเกิ ดความหมกมุ่นในกับการใช้ เงินเล่นหวยมากขึ้น
  • 6. - การคิดอย่างเป็ นระบบ เกิดจากการที่ผูเ้ รี ยนคิดแก้ปัญหาอย่างเป็ นขั้นตอน โดยใช้ ขั้นตอนในการพัฒนาโครงงาน คือ ผูเ้ รี ยนเป็ นผูวางแผนในการศึกษา ค้นคว้า เก็บรวบรวม ้ ข้อมูล พัฒนา หรื อประดิษฐ์คิดค้นผลงาน รวมทั้งการสรุ ปผลและการนาเสนอผลการศึกษา ค้นคว้าด้วยตนเอง โดยมี ผสอนและผูทรงคุ ณวุฒิเป็ นผูให้คาปรึ กษา ู้ ้ ้ 3.ความสามารถในการแก้ ปัญหา เกิดจากการที่ผูเ้ รี ยนวิเคราะห์ปัญหา เข้าใจ และอธิ บายปั ญหา ทางด้านคอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ความรู ้ ทักษะ และการใช้เครื่ องมือที่เหมาะสมกับการ แก้ไขปั ญหา 4.ความสามารถในการใช้ ทักษะชี วิต เกิดจากการที่ผูเ้ รี ยนได้นาความรู ้ และกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการพัฒนาโครงงาน และนาไปประยุกต์ใช้ในชี วิตประจาวันได้อย่างเหมาะสม รวมถึง การพัฒนาโครงงาน ก่อให้เกิ ดการเรี ยนรู ้ด้วยตนเอง อันนาไปสู่ การเรี ยนรู ้ตลอดชี วิต 5.ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี เกิดจากการที่ผูเ้ รี ยนสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ในการแก้ปัญหาได้ อย่างถูกต้องเหมาะสม และมีคุณธรรม ขอบคุณเนื้อหา : HTTP://KRUDARIN.WORDPRESS.COM (วันที่สบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555) ื ที่มารู ปภาพ : http://kruarisara.wordpress.com/2010/03/30/%E0%B8%84 (วันที่สบค้ นข้ อมูล : 24 กรกฎาคม 2555) ื