More Related Content Similar to CBT in Chiang Mai & Lamphoon (20) More from Korawan Sangkakorn (11) CBT in Chiang Mai & Lamphoon3. Nationalities Number %Share
1. China 7,934,791 26.55
2. Malaysia 3,423,397 11.46
3. Japan 1,381,690 4.62
4. Korea 1,372,995 4.59
5. Laos 1,233,138 4.13
6. India 1,069,149 3.58
7. United Kingdom 946,919 3.17
8. Singapore 937,311 3.14
9. Russia 884,085 2.96
10. USA 867,520 2.90
Grand Total 29,881,091 100.00
Top 10 International Arrivals from nationalities to Thailand in
2015
4. นักท่องเที่ยวไทย เที่ยวภาคเหนือ
2557 2558 %
ภาคเหนือ 17 จว. 19,715,759 21,494,788 + 9.02
เชียงใหม่ 6,928,155 7,425,772 + 7.18
ลาพูน 274,308 304,371 + 10.96
นักทัศนาจรไทย เที่ยวภาคเหนือ
2557 2558 %
ภาคเหนือ 17 จว. 22,965,683 25,310,681 + 10.21
เชียงใหม่ 6,064,177 6,451,283 + 6.38
ลาพูน 925,827 1,012,809 + 9.40
อ้างอิง: กรมการท่องเที่ยว, 2559
5. การท่องเที่ยวโดยชุมชน
(COMMUNITY - BASED TOURISM)
คือการท่องเที่ยวที่คานึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
สังคม และวัฒนธรรม กาหนดทิศทางโดยชุมชน
จัดการโดยชุมชนเพื่อชุมชนและชุมชนมีบทบาทเป็นเจ้าของ
มีสิทธิในการจัดการดูแลเพื่อให้เกิดการเรียนรู้แก่ผูู้มาเยือน
11. กาเนิดการท่องเที่ยวโดยชุมชน
• ปี 2535 ช่วงที่โลกตื่นตัวเรื่องการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและหาทางเลือกใหม่ของการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวเชิง
นิเวศ (Ecotourism) เข้ามาเป็นกระแสใหม่และกระแสใหญ่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ในขณะที่การ
ท่องเที่ยวโดยชุมชน (Community Based Tourism - CBT) เริ่มก่อตัวขึ้นเติบโตคู่ขนานไป
กับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ชื่อที่เรียกขานการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ มีหลากหลายชื่อ อาทิ การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การ
ท่องเที่ยวเชิงเกษตร การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวสีเขียว
• หลังวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 รัฐบาลไทยใช้การท่องเที่ยวเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยประกาศให้ปี 2541-2542 เป็นปี
ส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย (Amazing Thailand) ในปี 2544 มีโครงการหนึ่งตาบลหนึ่งผูลิตภัณฑ์
(One Tambon One Product -OTOP) หลังปี 2545 การท่องเที่ยวลงไปในชนบทหลากหลายรูปแบบ
ในปี 2547 มีการให้มาตรฐานโฮมสเตย์ ปัจจุบัน การท่องเที่ยวโดยชุมชนเริ่มเป็นที่ยอมรับว่าเป็นการท่องเที่ยวรูปแบบหนึ่ง
ซึ่งชุมชนเข้ามาบริหารจัดการการท่องเที่ยวด้วยตนเอง
15. รูปแบบการท่องเที่ยว CBT
1. แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เป็นโปรแกรมการท่องเที่ยวปกติของชุมชน
2. ศึกษาดูงาน เป็นการจัดกระบวนการเรียนรู้ ซึ่งมีทั้งการบรรยาย แลกเปลี่ยนความ
คิดเห็น เพื่อให้ผูู้มาศึกษาดูงานได้เข้าใจและนาไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบท
หรือวัตถุประสงค์ของการศึกษาดูงาน
3. จิตอาสา เป็นกิจกรรมเพิ่มเติมสาหรับอาสาสมัครที่ต้องการทากิจกรรมบาเพ็ญ
ประโยชน์ที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน
16. กระบวนการพัฒนา CBT
CBT เป็นผูลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่มีแนวคิดชัดเจน เป็นการท่องเที่ยวที่จัดการโดย
ชุมชน เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
จุดเด่น ของ CBT คือ แต่ละชุมชนจะมีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น นักท่องเที่ยวจะได้
สัมผูัสกับความเป็นท้องถิ่นดั้งเดิม เป็นการท่องเที่ยวที่เห็นการมีส่วนร่วมของคนใน
ชุมชน มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างนักท่องเที่ยวกับชาวบ้าน นักท่องเที่ยวสามารถ
เห็นความสัมพันธ์ระหว่างคนกับธรรมชาติ
17. กระบวนการพัฒนา CBT
การท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยมชุมชนมีการนาเสนอจุดขายที่เหมือน ๆ กัน ทั้งที่พักและอาหาร
ท้องถิ่น กิจกรรมนาเที่ยวก็คล้าย ๆ กัน แต่สิ่งที่การท่องเที่ยวโดยชุมชนแตกต่างจากการท่องเที่ยว
รูปแบบอื่น คือ ระดับการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ความรู้สึกเป็นเจ้าของ และ
รูปธรรมที่จับต้องได้ว่าการท่องเที่ยวส่งผลประโยชน์ต่อชุมชนโดยภาพรวม
อย่างไร ทั้งเรื่องการพัฒนาชุมชนและดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นักท่องเที่ยวจะได้
สัมผูัสถึงการต้อนรับที่อบอุ่น มีอัธยาศัยไมตรี มีโอกาสพบปะกับคนที่หลากหลายในชุมชน โดยที่ทุก
คนรู้สึกว่าตนเองเป็นเจ้าบ้านพร้อมต้อนรับแขกผูู้มาเยือน ได้สัมผูัสความเป็นชุมชนในการดาเนินวิถี
ชีวิตที่เป็นปกติ
18. กระบวนการพัฒนา CBT
ความรู้สึกเป็นเจ้าของการท่องเที่ยวโดยชุมชน สร้างแรงจูงใจให้สมาชิกกลุ่ม
ท่องเที่ยว เข้ามาควบคุมผูลกระทบจากการท่องเที่ยว ผูู้มาเยือนสามารถรับรู้ถึงความ
ตั้งใจจริงนั้นได้จาก “กองทุนชุมชน” ที่ตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการพัฒนาชุมชน แม้ว่าสมาชิก
ในชุมชนอาจไม่ได้รับรายได้โดยตรงจากการท่องเที่ยว แต่ผูลการดาเนินกิจกรรมการ
ท่องเที่ยว ได้ตัดรายได้ส่วนหนึ่งเข้ากองทุนเพื่อให้ส่วนรวมได้ร่วมรับประโยชน์ รวมทั้งการ
มีกฎกติกาเพื่อให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตนที่เคารพคนท้องถิ่น และไม่ทาการใด ๆ ที่ผูิดจารีต
ประเพณีของชุมชน ขณะที่พักในหมู่บ้าน
20. สิ่งที่นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้จากการท่องเที่ยวCBT
ค้นหา สารวจความงามที่เรียบง่ายของหมู่บ้านในชนบท และมีส่วนร่วมในวิถีชีวิตของคนในชุมชน
เรียนรู้ วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชุมชนที่มีความหลากหลายแตกต่างกันในแต่ละท้องถิ่น
แลกเปลี่ยน ด้วยความอ่อนน้อม เคารพในวัฒนธรรมที่แตกต่าง
พักอาศัย ในบ้านกับครอบครัวคนท้องถิ่น รับประทานอาหารพื้นบ้าน และแลกเปลี่ยนเรื่องราว ที่เปี่ยมไปด้วย รอยยิ้ม ความมี
ชีวิตชีวาและเสียงหัวเราะของสมาชิกในครอบครัว
เดินป่า กับคนท้องถิ่น ในเส้นทางที่สวยงามและมีความหมาย สอดแทรกเรื่องราวภูมิปัญญาท้องถิ่น ตานานพื้นบ้านจากอดีต
จวบจนปัจจุบัน
เก็บเกี่ยว ผูลไม้สด สมุนไพร และผูักจากสวนของครอบครัวคุณก่อนที่จะเรียนรู้สูตรอาหาร และมีส่วนร่วมในการทาอาหารกับ
คนท้องถิ่น
ดาน้า ดูความงามใต้ท้องทะเลสีคราม หรือใช้ชีวิตล่องเรือไปหาปลากับชาวประมงพื้นบ้าน
เลือก เรียนรู้และกิจกรรมได้ตามความสนใจ
21. ชุมชนบ้านแม่กาปอง
ม.3 ต.ห้วยแก้ว อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่
จุดเด่นด้านการท่องเที่ยวของชุมชน / สถานที่เด่น
1. น้าตก มีน้าตกหนึ่งแห่ง คือ น้าตกแม่กาปอง น้าตกใสสะอาด มีต้นเฟิร์น และตะไคร่
น้าขึ้นอยู่ทั่วไป ซึ่งมีความสูงลดหลั่นกันถึง 7 ชั้น
2. เส้นทางเดินป่าเลาะลาห้วย สัมผูัสธรรมชาติ ความหลากหลายทางชีวภาพ และชมนก
หลายชนิด เส้นทางนี้ผู่านสวนเมี่ยง สวนกาแฟ และสวนป่าสมุนไพร
3. ดอยม่อนล้าน เป็นจุดที่สูงที่สุดของภูเขาใน อ.แม่ออน ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์
ได้รอบทิศ มีสวนสนร่มรื่น สวนสมเด็จย่า จุดพักของหน่วย ปลูกป่าต้นน้าแม่ลายแม่ออน
บ้านรับรองและพื้นที่ว่างสาหรับตั้งแคมป์ ปิ้ง
4. ซากุระบาน สัมผูัสบรรยากาศและธรรมชาติฤดูหนาว และชมซากุระบานในเดือน
ธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์
5. ดอกไม้ประจาถิ่น มี 2 ชนิด ให้ดอกสวยงาม บานนานประมาณ 2 เดือน ได้แก่ ดอก
เอื้องดิน และ ดอกเอื้องหงส์ทอง
6. วิถีชีวิตชุมชน ศึกษาวิถีชีวิตและวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชุมชนบ้านแม่กาปอง
22. ชุมชนหัวทุ่ง
ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
วัฒนธรรมประเพณี
1. มีการทาบุญเลี้ยงผูีขุนน้า ในเดือนมิถุนายนของทุกปี
2. การแสดงพื้นเมืองของเด็กและเยาวชน
3. การเก็บของป่าในแต่ละเดือนไม่เหมือนกันตามฤดูกาล
กิจกรรมการท่องเที่ยวในชุมชน
1. ดูการจัดการดูแลการรักษาป่าชุมชน (ป่าต้นน้า)
2. วิถีชีวิตของชาวบ้านหัวทุ่ง
3. การปลูกป่าไม้ไผู่เศรษฐกิจเพื่อใช้ในการจักสานเป็น
อาชีพเสริม
4. การแสดงออกของเด็กและเยาวชนในหมู่บ้าน
23. ชุมชนบ้านแม่กลางหลวง
ม.17 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
จุดเด่นด้านการท่องเที่ยวของชุมชน / สถานที่เด่น
1. นาขั้นบันได ชมการทานาขั้นบันไดเป็นการแสดงให้เห็นภูมิปัญญาของชาวบ้านในการ
ใช้พื้นที่และการจัดการน้า
2. ไร่กาแฟอินทรีย์ เป็นการทาไร่กาแฟแบบผูสมผูสานกับไม้ป่าอื่นๆเพื่อไม่ทาลายป่าและ
ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง
3. บ่อเพาะพันธุ์ปลาเรนโบว์เท ดูแลบ่อปลาเรนโบว์เทร้าของโครงการหลวง ซึ่งตั้งอยู่ใน
พื้นที่บ้านแม่กลางหลวง
4. กุ้งนาข้าว เป็นกุ้งก้ามกรามที่ถูกเลี้ยงในนาข้าวแบบธรรมชาติที่แม่กลางหลวง
5. ดอยหัวเสือ จากจุดชมวิวดอยหัวเสือ จะมองเห็นวิวที่สวยงามและไกลจนถึงลาพูน
ตลอดเส้นทางได้สัมผูัสกับธรรมชาติ พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า
6. น้าตกผูาดอกเสี้ยว เดินท่องป่าเข้าไปยังน้าตกผูาดอกเสี้ยว หรือน้าตก “รักจัง” เป็นแหล่งทรัพยากรที่มีค่า และยังคงความสมบูรณ์ของเป็นธรรมชาติ
7. พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านและศูนย์วัฒนธรรมปกาเกอะญอ รวบรวมศิลปวัตถุและเรื่องราวของชาวปกาเกอะญอลุ่มน้ากลาง อาทิ เครื่องจักสาน ผู้า
ทอ เครื่องมือเครื่องใช้โบราญของชนเผู่า เครื่องดนตรี รวมทั้งีการสาธิตการใช้ชีวิตตามแบบดั้งเดิม การทอผู้า การอื่อทา การละเล่น/แสดง และการ
เตรียมข้าวสาร เป็นต้น
31. สถานการณ์การท่องเที่ยวชุมชน
จากการสารวจชุมชนในปี 2553 ของสถาบันการท่องเที่ยวโดยชุมชน พบว่า มีชุมชนกว่า 150 แห่งที่มีการ
ดาเนินการเรื่องการท่องเที่ยว และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งการพัฒนาศักยภาพและการเพิ่มขีด
ความสามารถของชุมชนให้มีมาตรฐานจะสามารถสร้างการยอมรับเรื่อง CBT แก่ผูู้ประกอบการด้านการ
ท่องเที่ยว รวมทั้งนักท่องเที่ยวอิสระ (Independent Traveller) ที่สามารถหาข้อมูลการ
ท่องเที่ยวและเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้ด้วยตนเองเกิดความมั่นใจในแหล่งท่องเที่ยวชุมชน
ในการสารวจสถานการณ์การท่องเที่ยวโดยชุมชนของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนพบว่า มีการ
ดาเนินการเรื่องการท่องเที่ยวโดยชุมชนอยู่ถึง 8 ประเทศ (ยกเว้น สิงคโปร์และบรูไน)