SlideShare a Scribd company logo
1 of 12
Download to read offline
ข้อสอบโควต้ามช.วิชาเคมี
1.สารที่ละลายน้าได้ และสารที่นาไฟฟ้ าได้ แต่ไม่ละลายในเอทานอลได้แก่
ก. และ
ข. และกรดอะซิติก
ค. และกรดอะซิติก
ง. กรดอะซิติกและอะซีโตน
2.สารใดต่อไปนี้ควรจะละลายน้าได้ดัที่สุด
ก. ข.
ค. ง.
3.ข้อใดซึ่งสารทุกสารมีพันธะคู่ในโมเลกุล
ก. เอธีลีน,โทลูอีน,อะซิโตน
ข. เอธีลีน,โทลูอีน,อะซิธีลีน
ค. เอธีลีน,อะซิธีลีน,คาร์บอนเตตระคลอไรด์
ง.คลอโรฟอร์ม คาร์บอนเตตระคลอไรด์ เบนซีน
4.ถ้าผลิตภัณฑ์ที่ได้จากข้อ3 เป็นก๊าซทั้งหมด วัดที่อุณหภูมิและความกดดันเดียวกัน จะมีก๊าซเกิดขึ้นที่ STP
ก.1.12 ข.2.24
ค.3.36 ง.4.48
5.สารตัวใดทาปฏิกิริยากับน้าแล้วได้ก๊าซที่ติดไฟได้ และเป็นไฮโดรคาร์บอนที่ไม่อิ่มตัว
ก. ข.
ค. ง.
6.สูตรทั่ว ๆไปของสาร ก น่าจะเป็น
ก. ข.
ค. ง.
คาชี้แจง ข้อมูลต่อไปนี้ใช้ประกอบการตอบคาถามข้อ 7 ห้องปฏิบัติการอินทรีย์เคมีแห่งหนึ่ง มีขวดสารเคมี4
ขวด ที่ชื่อบอกชื่อสารหลุดหายไป เมื่อนาสารทั้ง4 ชนิดมาทดสอบสมบัติ ได้ข้อมูลดังนีีี
สมบัติ
สาร
จุด
เดือด
C0
การ
ละลาย
น้า
ปฏิกิริยากับ
สาร
ละลายโบรมีน
การเผาไหม ปฏิกิริยา
กับ
โลหะ
โซเดียม
ปฏิกิริยากับสารละลายโซเดียม ,
ไฮโดรเจน}
คาร์บอน
สาร ก 44.2 ไม่ละลาย ฟอกสี มีเขม่า
เล็กนอย
ไม่ทา ไม่ทา
สาร ข 138 ละลาย ไม่เปลี่ยน ไม่มีเขม่า ใหฟองก๊าซ ไม่ทา
สาร ค 185.5 ละลาย ไม่เปลี่ยน ไม่มีเขม่า ใหฟองก๊าซ ใหฟองก๊าซ
สาร ง 210 ไม่ละลาย ไม่เปลี่ยน มีเขม่ามาก ไม่ทา ไม่ทา
7.ในการวิเคราะห์หาจานวนอะตอมของธาตุต่างๆในสารทั้ง4ชนิด พบว่าสาร ก กับสาร ข มีจานวนอะตอมของคาร์บอน
เท่ากัน แต่สาร ข มีจุดเดือดสูงกว่าสาร ก มาก ทั้งนี้น่าจะเป็นเพราะ
ก. ความหนาแน่นของสาร ข มีค่าสูงกว่า ก
ข. แรงที่ยึดเหนี่ยวโมเลกุลในสาร ข ไว คอพันธะไอออนิค
ค. มีแรงวันเดอร์วาลส์ ระหว่างโมเลกุลในสาร ข แต่ไม่มีในสาร ก
ง. มีพันธะไฮโดรเจนระหว่างโมเลกุลในสาร ข แต่ไม่มีในสาร ก
คาชี้แจง ขอมูลต่อไปนี้ใชประกอบการตอบคาถามขอ 8 และขอ 9
การละลาย
ในน้า
จุดเดือด
C0
จุดหลอมเหลว
C0
การนาไฟฟาการนาไฟฟาแยกดวย
ไฟฟา
สาร1 ละลาย 1413 804 ไม่ นา ได
สาร2 ละลาย 1500 334 ไม่ นา ได
สาร3 ไม่ 3000 1535 นา - ไม่
สาร4 ไม่ 445 113 ไม่ - ไม่
สาร5ละลายดีมาก -33 -78 ไม่ ไม่ ไม่
สาร6ละลายดีมาก 78 -117 ไม่ ไม่ ไม่
8.การแยกสารตามข้อใดที่กระทาไม่ได้ หรือไม่แน่ใจว่าจะทาได้
ก. แยกสาร 1และ 2 ออกจากกันโดยละลายในน้าแลวตกผลึก
ข. แยกสาร 2 และ 4 ออกจากกันโดยละลายน้าแลวกรอง
ค. แยกสาร3 และ 4 ออกจากกันโดยการเผา
ง. แยกสาร 5 และ 6 ออกจากกันโดยละลายน้าแลวกลั่น
9.ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง
ก. สาร 3 เป็นธาตุและเป็นโลหะ
ข. สาร 1 เป็นของแข็งและสารประกอบอิออนิก
ค. สาร 5 เป็นก๊าซและเป็นสารประกอบโคเวเลนท์
ง. สาร 6 เป็นของเหลวและเป็นสารประกอบอิออนิก
คาชี้แจง ใชขอมูลต่อไปนี้ประกอบการตอบคาถามขอ 10 และขอ 11
(1) สาร ก + สาร ข สาร ค
(2) สาร ค ไฮโดรไลซ์ดวย NaOH ไดสาร ก + สาร ข
(3) สาร ข ทาปฏิกิริยากับ ให
(4) สาร ข ทาปฏิกิริยากับ Na และ NaOH ได
(5) สาร ค มีจานวนอะตอมเท่ากับ 7
10. สาร ค คืออะไร
ก.อัลเคน ข.อัลคีน
ค.อัลกอฮอล์ ง.เฮสเตอร์
11.สมบัติต่อไปนี้ควรเป็นของสาร ก ทั้งสิ้น ยกเว้นข้อใด
ก.ปฏิกิริยากับ ให
ข.ทาปฏิกิริยากับโลหะ Na ให
ค.ลุกไหมใหเปลวสว่าง ไม่มีเขม่า
ง. เตรียมจากอัลคีนได
12.สารต่อไปนี้คู่ใดเป็นไอไซเมอร์กัน
OH
1.
OH
2.
CH3
3.
4.
OH
5.
ก.1 กับ 2 ข.1 กับ3
ค.1 กับ 4 ง.1 กับ
13. สารอินทรีย์ชนิอหนึ่งประกอบด้วยคาร์บอน85.71 % และไฮโดรเจน 14.29% และมีมวลโมเลกุลเท่ากับ70 สารนี้จะ
เป็นอะไร (มวลอะตอมของC=12 ,H=1)
ก.เพนเทน ข.เพนทีน
ค.บิวเทน ง.บิวทีน
14. ในบรรดาสารเหล่านี้สารคู่ใดเป็นไอโซเมอร์กัน
ก. กับ
ข. กับ
ค. กับ
ง. กับ
15. กาหนดสูตรโครงสร้างของสารต่างๆดังนี้
ก.
ข.
ค.
ง.
จ.
ฉ.
จงเรียงลาดับชนิดของสารตามชื่อต่อไปนี้ เอสเทอร์ เอไมด์ คีโตน แอลดีไฮด์
1. จ. ค. ข. ฉ. 2. จ. ง. ข. ฉ.
3. ก. ง. จ. ฉ. 4. ก. ค. จ. ข.
16. การระบุชนิดของปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น ข้อใดผิด
ก. + (ปฏิกิริยาการเติม)
ข. + Br + HBr (ปฏิกิริยาการแทนที่)
ค. COOH + NaOH CO + O (ปฏิกิริยาการสะเทิน)
ง. COO + O COOH + OH (ปฏิกิริยาแอสเทอริฟิเคชัน)
17. สารอินทรีย์ต่อไปนี้ สานใดทาปฏิกิริยากับ NaH แล้วได้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ก. OH ข. COOH
ค. COO ง. CHO
18 . จงพิจารณาข้อความต่อไปนีีี
1. สารอินทรีย์ที่มีสูตรโมเลกุล จะตองละลายน้าไดดีกว่าสารที่มีสูตรโมเลกุล O
2. บิวทานอลเป็นสารที่มีหมู่ไฮดรอกซิลเป็นหมู่ฟังก์ชันและมี 4 ไอโซเมอร์
3. กรดอินทรีย์และแอลกอฮอล์มีสูตรทั่วไปคือ RCOOH และ ROH ตามลาดับโดย R อาจเป็น H หรือ
แอลคีล
4. CCOOH เป็นสารที่มีจุดเดือดต่ากว่า CH COOH
ขอใดถูก
ก. ขอ 1 , 2 ข. ขอ 2, 4 ค. ขอ 2, 3 ง. ขอ 1, 4
19. สมการต่อไปนี้ ขอใดไม่เกิดปฏิกิริยาหรือไม่ถูกตอง
ก.chclohexene + cyclohexane
ข. - -COOH+ N -CH -COOH - –CO-NH -CH -COOH
ค. COO + O COOH + OH
ง. COOH + H + O +
20 . ขอสรุปเกี่ยวกับสมบัติของสารประกอบ 3 สารต่อไปนี้
(1) OH (2) COOH (3) CHO
ขอใดถูก
ก.ความสามารถในการละลายน้าของสาร (1) > (2) > (3)
ข.ทั้งสาร (1) และ (2) ทาปฏิกิริยากับโลหะโซเดียมได
ค.สาร (2) และ (3) ทาปฏิกิริยากับสารละลายเบเนดิกต์ไดตะกอนสีอิฐ
ง.สาร (1) ไดจากการหมักของน้าตาลทรายกับยีสต์
21 . จงพิจารณาข้อมูลต่อไปนี้
สารอินทรีย์ สูตรโครงสราง มวลโมเลกุล จุดเดือด (∙c )
1
2
3
4
COOH
OH
60
60
59
58
141
97
49
-0.5
การที่สารอินทรีย์เหล่านี้มีจุดเดือดต่างกัน คาอธิบายใดผิด
ก.สาร 1 มีจุดเดือดสูงสุด เพราะระหว่างโมเลกุลมีพันธะไฮโดรเจนหลายแห่ง
ข.สาร 2 มีจุดเดือดสูงกว่าสาร 3 เพราะพันธะไฮโดรเจนระหว่างโมเลกุลของสาร 2 แข็งแรงกว่าพันธะ
ไฮโดรเจนระหว่างโมเลกุลของสาร 3
ค.สาร 3 มีพันธะไฮโดรเจนระหว่างโมเลกุล แต่สาร 4 ไม่มีพันธะไฮโดรเจน
ง.พันธะไฮโดรเจระหว่างโมเลกุลของสาร 4 มีค่านอยที่สุด
22. เมื่อนาสาร A, B, C และ D มาทดสอบ จะไดผลดังนี้
สาร  ปฏิกิริยา รวมตัวกับ
ไฮโดรเจน
สารละลาย สารละลาย
NaH โลหะโซเดียม
A
B
C
D
เกิดปฏิกิริยา
ไม่เกิดปฏิกิริยา
ไม่เกิดปฏิกิริยา
ไม่เกิดปฏิริยา
ฟอกสี
ฟอกสี
ไม่ฟอกสี
ไม่ฟอกสี
ไม่เกิด
ไม่เกิด
เกิดก๊าซ
ไม่เกิด
ไม่เกิดปฏิกิริยา
ฟองก๊าซ
เกิดปฏิกิริยา
ไม่เกิดปฏิกิริยา
สาร A , B , C และ D ควรเป็นสารใด
A B C D
ก.
ข.
ค.
ง.
ไซโคลเฮกซีน
ไซโคลเฮกซานอล
กรดเบนโซอิก
ไซโคลเฮกเซน
ไซโคลเฮกซานอล
กรดเบนโซอิก
ไซโคลเฮกเซน
ไซโคลเฮกซีน
กรดเบนโซอิก
ไซโคลเฮกเซน
ไซโคลเฮกซีน
ไซโคลซานอล
ไฮโดรเจนเฮกเชน
ไซโคลเฮกซีน
ไซโคลเฮกซานอล
กรดเบนโซอิก
เฉลยข้อสอบ
1. เฉลย ก สมบัติของสารทุกสารในคาถามคือดังนี้
สาร
การละลายในน้า การนาไฟฟาของ
สารละลายที่ได
การละลายใน
เอทานอล
(กรดอะซิติก)
(อะซิโตน)
ละลาย
ละลาย
ละลาย
ละลาย
นา
นา
ไม่นา(เพราะแตกตัวเป็น
อิออนนอยมาก)
ไม่นา(เพราะไม่แตกตัว
เป็นอิออน)
ไม่ละลาย
ไม่ละลาย
ละลาย
ละลาย
2. เฉลย ค เพราะ มีสภาพขั้วมากที่สุด
3. เฉลย ก เอธีลีน โทลูอีน ,อะซิโตน
จะเห็นไดว่าทุกตัวมีพันธะคู่ ใน(ข)อะซิธีลีน มีพันธะสาม
ใน(ค)คาร์บอนเตตระคลอไรด์ มีพันธะเดี่ยว
ส่วนใน(ง)คลอโรฟอร์ม และคาร์บอนเตตระคลอไรด์มีพันธะเดี่ยว
4. เฉลย ง ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด = 0.1 โมล + 0.1 โมล
= 0.2 โมล
ก๊าซ 1 โมลที่ STP มีปริมาตร 22.4 ลิตร
ก๊าซ 0.2 โมล ที่ STP มีปริมาตร X ลิตร
5. เฉลย ข สมการแสดงปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นคือ
กาซที่เกิดขึ้นคือกาซอะซิธีลีน
6. เฉลย ข สาร ก ไม่ละลายน้า ไม่ทาปฏิกิริยากับโลหะโซเดียม หรือ แสดงว่าสาร ก
ไม่ใช่แอลกอฮอล์ (R — OH) และไม่ใช่กรดอินทรีย์(R — COOH) แต่ฟอกสีสารละลายโบรมีนได แสดง
ว่าแสดงว่าเป็นสารประกอบไม่อิ่มตัว คือมีC=C (ข) เป็นสูตรทั่วไปของสารประกอบโฮโดรเจนคาร์บอนที่
ไม่อิ่มตัว
7. เฉลย ง ตามที่คาดหมายไว เพราะROHเกิดพันธะไฮโดรเจนได จึงมีจุดเดือดสูง
8. เฉลย ค ทั้งสองสารโดยเฉพาะอย่างยิ่งสาร3 มีจุดเดือดสูงมาก จึงแยกออกจากกันไดยาก เพราะ
ตองใชอุณหภูมิสูงมาก ซึ่งโอกาสที่สารทั้งสองแตกสลายตัวรวมกับออกซิเจนกลายเป็นสารอื่นมีมาก ฉะนั้น
การแยกสาร3 และ 4ออกจากกันโดยการเผาจึงไม่แน่ใจว่าจะทาได
9. เฉลย ง สาร 6 เป็นของเหลว แต่ไม่น่าจะเป็นสารประกอบอิออนิก เพราะไม่นาไฟฟา
สารละลายก็ไม่ นาไฟฟา และไม่สามารถแยกดวยไฟฟา
10. สาร ค คืออะไร
ก.อัลเคน ข.อัลคีน
ค.อัลกอฮอล์ ง.เฮสเตอร์
11. เฉลย ก เป็นสมบัติของอัลกอฮอลที่ไม่ทาปฏิกิริยากับ NaHCO3
12. เฉลย ค คาตอบคือขอ (ค) ส่วนขอ (ง) 1 กับ 5 เป็นสารประกอบเดียวกัน
13. เฉลย ข วิธีทา C : H
7.14 : 14.29
1 : 2
สูตรอย่างง่ายคือ
= 70
(14)n = 70
n = = 5
สูตรโมเลกุลคือ หรือ = เพนทีน
14. เฉลย ง สารประกอบจะเป็นไอโซเมอร์กัน ถาสูตรเคมีมีธาตุและจานวนอะตอมของแต่ละธาตุ
เท่ากัน จะเห็นไดว่า คู่สารในขอ (ง) ต่างมีสูตร จึงเป็นไอโซเมอร์กัน
15. ตอบข้อ1.
ข้อ ข. เป็นคีโตน
ข้อ ค. เป็นเอไมด์
ข้อ จ. เป็นเอสเทอร์
ข้อ ฉ. เป็นแอลดีไฮด์
16. เฉลยข้อ ง.
แนวคิด งผิดเพราะ เป็นเอสเทอร์ ทาปฏิกิริยากับน้า ( ) เกิดปฏิกิริยาไฮโครลี
ชีส ดังนี้
ปฏิกิริยาผันกลับนี้จึงจะเรียกว่า เอสเทอร์ฟิเคชัน
17. เฉลยข้อ ข.
แนวคิด กรดอินทรีย์เช่น ทาปฏิกิริยากับ หรือ จะไดเกลือของกรด
อินทรีย์น้าและก๊าซ
18.เฉลยข้อ ข.
แนวคิด ขอ 1ผิดเพราะสารที่มีสูตร เป็นกรดอินทรีย์ ละลายน้าไดดีกว่า
สารที่มีสูตร คือ เป็นแอลแอฮอล์แต่ถาสารที่มีสูตร เป็น
เอสเทอร์ ก็จะละลายน้าไดนอยกว่าสารที่มีสูตร เป็นแอลกอฮอล์
ขอ 2 ถูก เพราะบิวทานอลเป็นแอลกอฮอล์มีหมู่ไฮดรอกซิลเป็นหมู่ฟังก์ชัน เกิดไอโซเมอร์ดังนี้
ขอ 3 ผิด เพราะแอลกอฮอล์มีสูตรทั่วไป คือ R–OH R– แทนหมู่ไฮโดรคาร์บอนเท่านั้นเป็น
ไฮโดรเจนอะตอมไม่ได
ขอ 4 ถูก เพราะสารทั้ง 2 เป็นไอโชเมอร์กัน โดยที่
กรดอินทรีย์ที่มีคาร์บอนแตกกิ่งกานสาขามากจะทาใหเกิดแรงแวนเดอร์วาลส์นอยกว่าโอเลกุล
คาร์บอนแตกกิ่งสาขานอย สาหรับพันธะไฮโดรเจนของกรดอินทรีย์ที่มีหมู่ –COOH จานวนเท่าๆ กันก็จะ
เกิดพันธะไฮโดรเจนที่มีความแรงพอๆ กัน
19. เฉลยข้อ ค.
แนวคิด ไม่เกิดปฏิกิริยา เพราะการไฮโดรลิซิสเอสเทอร์ตองใชกรดเจือจางหรือเบสเจือจาง และความรอน
เขาช่วย ไดกรดอินทรีย์และแอลกอฮอล์ ดังนี้
20. เฉลยข้อ ข.
แนวคิด ขอ ก ผิด เพราะคาร์บอนอะตอมเท่ากัน กรดอินทรีย์ละลายน้าไดดีกว่าแอลกอฮอล์ และ
แอลกอฮอล์ละลายน้าไดดีกว่าแอลดีไฮด์ เพราะกรดอินทรีย์เกิดพันธะไฮโดรเจนไดดีกว่าและแรงกว่า
แอลกอฮอล์ ส่วนแอลดีไฮด์จะเกิดแรงดึงดูดระหว่างขั้ว ซึ่งมีแรงนอยกว่า
ขอ ข ถูก เพราะสาร (1) เป็นแอลกกอฮอล์ สาร (2) เป็นกรดอินทรีย์สารทั้งสองต่างทาปฏิกิริยากับ
Na ไดก๊าซ ได
ขอ ค ผิด เพราะสาร (3) เป็นแอลดีไฮด์ มีหมู่ –COH ซึ่งสามารถทาปฏิกิริยากับสารละลายเบเน
ดิกต์ ไดตะกอนสีแดงอิฐ ส่วนสารอื่นไม่ทาเพราะไม่มีหมู่ –COH
ขอ ง ผิด เพราะการหมักน้าตาลทรายและยีสต์ไดแอลกอฮอล์ชนิดเอทานอล คือ
ไม่ใช่
21. เฉลยข้อ ง.
แนวคิด ง ผิด เพราะสาร 4 เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอน แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลเป็นแรงแวน
เดอร์วาลส์อย่างเดียว ไม่มีพันธะไฮโดรเจน
22. เฉลยข้อ ก.
แนวคิด จากตารางขอมูล แสดงสมบัติทางเคมีของสารอินทรีย์ต่างๆ สรุปไดว่า
สาร A น่าจะเป็นแอลคีน หรือแอลไคน์
สาร B น่าจะเป็นแอลกอฮอล์ ที่มีส่วนของไฮโดรคาร์บอน มี C กับ D จับกันดวยพันธะเดี่ยวหมด และหมู่ไฮ
ดรอกซิลจับกับ C ที่มี H เป็นองค์ประกอบอยู่อย่างนอย 1 อะตอม เพราะสารนี้ฟอกจางสีด่างทับทิมได
สาร C น่าจะเปนกรดอินทรีย์ที่ส่วนที่เป็นไฮโดรคาร์บอนที่ C ทุกอะตอมจับกันดวยพันธะเดี่ยวหมด
สาร D สรุปไดว่าเป็นสารพวกแอลเคนได เช่น ไซโคลเฮกเชน

More Related Content

What's hot

ใบความรู้ 2 สมบัติของสารประกอบไอออนิก
ใบความรู้ 2 สมบัติของสารประกอบไอออนิกใบความรู้ 2 สมบัติของสารประกอบไอออนิก
ใบความรู้ 2 สมบัติของสารประกอบไอออนิกPat Jitta
 
โจทย์อัตราการเกิดปฎิกิริยา พร้อมเฉลย
โจทย์อัตราการเกิดปฎิกิริยา พร้อมเฉลยโจทย์อัตราการเกิดปฎิกิริยา พร้อมเฉลย
โจทย์อัตราการเกิดปฎิกิริยา พร้อมเฉลยawirut
 
พันธะไอออนิก57
พันธะไอออนิก57 พันธะไอออนิก57
พันธะไอออนิก57 Saipanya school
 
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์oraneehussem
 
ข้อสอบเคมี มข. 54
ข้อสอบเคมี มข. 54 ข้อสอบเคมี มข. 54
ข้อสอบเคมี มข. 54 Manatsawin Kongthong
 
การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิตการรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิตIssara Mo
 
Chapter2 อุปสงค์อุปทาน
Chapter2 อุปสงค์อุปทานChapter2 อุปสงค์อุปทาน
Chapter2 อุปสงค์อุปทานPattapong Promchai
 
บทที่ 5 พอลิเมอร์
บทที่ 5 พอลิเมอร์บทที่ 5 พอลิเมอร์
บทที่ 5 พอลิเมอร์Jariya Jaiyot
 
ปฏิกิริยาระหว่างน้ำแป้ง+ไอโอดีนกับโซเดียมไทโอซัลเฟต
ปฏิกิริยาระหว่างน้ำแป้ง+ไอโอดีนกับโซเดียมไทโอซัลเฟตปฏิกิริยาระหว่างน้ำแป้ง+ไอโอดีนกับโซเดียมไทโอซัลเฟต
ปฏิกิริยาระหว่างน้ำแป้ง+ไอโอดีนกับโซเดียมไทโอซัลเฟตkanokwun131
 
เคมีพื้นบท5พอลิเมอร์
เคมีพื้นบท5พอลิเมอร์เคมีพื้นบท5พอลิเมอร์
เคมีพื้นบท5พอลิเมอร์Wichai Likitponrak
 
Lab 2 ปฏิกิริยาระหว่างกรดกับเบส
Lab 2 ปฏิกิริยาระหว่างกรดกับเบสLab 2 ปฏิกิริยาระหว่างกรดกับเบส
Lab 2 ปฏิกิริยาระหว่างกรดกับเบสJariya Jaiyot
 
ใบความรู้ สสาร
ใบความรู้ สสารใบความรู้ สสาร
ใบความรู้ สสารSumalee Panpeng
 
สมดุลเคมีในสิ่งแวดล้อม
สมดุลเคมีในสิ่งแวดล้อมสมดุลเคมีในสิ่งแวดล้อม
สมดุลเคมีในสิ่งแวดล้อมKittivut Tantivuttiki
 
สมดุลเคมีในสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม
สมดุลเคมีในสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมสมดุลเคมีในสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม
สมดุลเคมีในสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมวิศิษฏ์ ชูทอง
 
5 ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
5 ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี5 ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
5 ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีSircom Smarnbua
 
4 พลังงานกับการดำเนินไปของปฏิกิริยา
4 พลังงานกับการดำเนินไปของปฏิกิริยา4 พลังงานกับการดำเนินไปของปฏิกิริยา
4 พลังงานกับการดำเนินไปของปฏิกิริยาSircom Smarnbua
 

What's hot (20)

ใบความรู้ 2 สมบัติของสารประกอบไอออนิก
ใบความรู้ 2 สมบัติของสารประกอบไอออนิกใบความรู้ 2 สมบัติของสารประกอบไอออนิก
ใบความรู้ 2 สมบัติของสารประกอบไอออนิก
 
โจทย์อัตราการเกิดปฎิกิริยา พร้อมเฉลย
โจทย์อัตราการเกิดปฎิกิริยา พร้อมเฉลยโจทย์อัตราการเกิดปฎิกิริยา พร้อมเฉลย
โจทย์อัตราการเกิดปฎิกิริยา พร้อมเฉลย
 
พันธะไอออนิก57
พันธะไอออนิก57 พันธะไอออนิก57
พันธะไอออนิก57
 
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
 
ข้อสอบเคมี มข. 54
ข้อสอบเคมี มข. 54 ข้อสอบเคมี มข. 54
ข้อสอบเคมี มข. 54
 
การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิตการรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
 
Punmanee study 9
Punmanee study 9Punmanee study 9
Punmanee study 9
 
Chapter2 อุปสงค์อุปทาน
Chapter2 อุปสงค์อุปทานChapter2 อุปสงค์อุปทาน
Chapter2 อุปสงค์อุปทาน
 
Solubility
SolubilitySolubility
Solubility
 
บทที่ 5 พอลิเมอร์
บทที่ 5 พอลิเมอร์บทที่ 5 พอลิเมอร์
บทที่ 5 พอลิเมอร์
 
ปฏิกิริยาระหว่างน้ำแป้ง+ไอโอดีนกับโซเดียมไทโอซัลเฟต
ปฏิกิริยาระหว่างน้ำแป้ง+ไอโอดีนกับโซเดียมไทโอซัลเฟตปฏิกิริยาระหว่างน้ำแป้ง+ไอโอดีนกับโซเดียมไทโอซัลเฟต
ปฏิกิริยาระหว่างน้ำแป้ง+ไอโอดีนกับโซเดียมไทโอซัลเฟต
 
เคมีพื้นบท5พอลิเมอร์
เคมีพื้นบท5พอลิเมอร์เคมีพื้นบท5พอลิเมอร์
เคมีพื้นบท5พอลิเมอร์
 
สมดุลเคมี
สมดุลเคมีสมดุลเคมี
สมดุลเคมี
 
Lab 2 ปฏิกิริยาระหว่างกรดกับเบส
Lab 2 ปฏิกิริยาระหว่างกรดกับเบสLab 2 ปฏิกิริยาระหว่างกรดกับเบส
Lab 2 ปฏิกิริยาระหว่างกรดกับเบส
 
ใบความรู้ สสาร
ใบความรู้ สสารใบความรู้ สสาร
ใบความรู้ สสาร
 
สมดุลเคมีในสิ่งแวดล้อม
สมดุลเคมีในสิ่งแวดล้อมสมดุลเคมีในสิ่งแวดล้อม
สมดุลเคมีในสิ่งแวดล้อม
 
สมดุลเคมีในสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม
สมดุลเคมีในสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมสมดุลเคมีในสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม
สมดุลเคมีในสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม
 
วิเคราะห์ข้อสอบ O-Net ชุดที่ 3
วิเคราะห์ข้อสอบ O-Net ชุดที่ 3วิเคราะห์ข้อสอบ O-Net ชุดที่ 3
วิเคราะห์ข้อสอบ O-Net ชุดที่ 3
 
5 ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
5 ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี5 ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
5 ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
 
4 พลังงานกับการดำเนินไปของปฏิกิริยา
4 พลังงานกับการดำเนินไปของปฏิกิริยา4 พลังงานกับการดำเนินไปของปฏิกิริยา
4 พลังงานกับการดำเนินไปของปฏิกิริยา
 

Similar to เคมี

ข้อสอบโควต้ามช เคมี
ข้อสอบโควต้ามช เคมีข้อสอบโควต้ามช เคมี
ข้อสอบโควต้ามช เคมีPorna Saow
 
ข้อสอบโควต้ามช เคมี
ข้อสอบโควต้ามช เคมีข้อสอบโควต้ามช เคมี
ข้อสอบโควต้ามช เคมีPorna Saow
 
แนวข้อสอบโควตา
แนวข้อสอบโควตาแนวข้อสอบโควตา
แนวข้อสอบโควตาnam_supanida
 
สารประกอบไฮโดรคาร์บอน
สารประกอบไฮโดรคาร์บอนสารประกอบไฮโดรคาร์บอน
สารประกอบไฮโดรคาร์บอนKrusek Seksan
 
Acid base1
Acid base1Acid base1
Acid base1Benny BC
 
กรด
กรดกรด
กรดporpia
 
กรดเบส
กรดเบสกรดเบส
กรดเบสporpia
 
Quemarch48 130814115357-phpapp02
Quemarch48 130814115357-phpapp02Quemarch48 130814115357-phpapp02
Quemarch48 130814115357-phpapp02SasipraphaTamoon
 
บทที่ 2 ปฏิกิริยาเคมี
บทที่ 2 ปฏิกิริยาเคมีบทที่ 2 ปฏิกิริยาเคมี
บทที่ 2 ปฏิกิริยาเคมีJariya Jaiyot
 
เคมีไฟฟ้า (Electrochemistry)
เคมีไฟฟ้า (Electrochemistry)เคมีไฟฟ้า (Electrochemistry)
เคมีไฟฟ้า (Electrochemistry)Dr.Woravith Chansuvarn
 
กรด เบส เกลือ
 กรด เบส เกลือ กรด เบส เกลือ
กรด เบส เกลือnn ning
 
Reaction organic สำหรับห้องหนึ่ง
Reaction organic  สำหรับห้องหนึ่งReaction organic  สำหรับห้องหนึ่ง
Reaction organic สำหรับห้องหนึ่งkaoijai
 

Similar to เคมี (20)

ข้อสอบโควต้ามช เคมี
ข้อสอบโควต้ามช เคมีข้อสอบโควต้ามช เคมี
ข้อสอบโควต้ามช เคมี
 
ข้อสอบโควต้ามช เคมี
ข้อสอบโควต้ามช เคมีข้อสอบโควต้ามช เคมี
ข้อสอบโควต้ามช เคมี
 
แนวข้อสอบโควตา
แนวข้อสอบโควตาแนวข้อสอบโควตา
แนวข้อสอบโควตา
 
กรด เบส 2
กรด เบส 2กรด เบส 2
กรด เบส 2
 
สารประกอบไฮโดรคาร์บอน
สารประกอบไฮโดรคาร์บอนสารประกอบไฮโดรคาร์บอน
สารประกอบไฮโดรคาร์บอน
 
Acid base1
Acid base1Acid base1
Acid base1
 
กรด
กรดกรด
กรด
 
กรดเบส
กรดเบสกรดเบส
กรดเบส
 
Metal
MetalMetal
Metal
 
Acid1
Acid1Acid1
Acid1
 
Acid1
Acid1Acid1
Acid1
 
Quemarch48 130814115357-phpapp02
Quemarch48 130814115357-phpapp02Quemarch48 130814115357-phpapp02
Quemarch48 130814115357-phpapp02
 
Acid base
Acid baseAcid base
Acid base
 
Acid base
Acid baseAcid base
Acid base
 
บทที่ 2 ปฏิกิริยาเคมี
บทที่ 2 ปฏิกิริยาเคมีบทที่ 2 ปฏิกิริยาเคมี
บทที่ 2 ปฏิกิริยาเคมี
 
เคมี กสพท ปี58 พร้อมเฉลย
เคมี กสพท ปี58 พร้อมเฉลยเคมี กสพท ปี58 พร้อมเฉลย
เคมี กสพท ปี58 พร้อมเฉลย
 
เคมีไฟฟ้า (Electrochemistry)
เคมีไฟฟ้า (Electrochemistry)เคมีไฟฟ้า (Electrochemistry)
เคมีไฟฟ้า (Electrochemistry)
 
กรด เบส เกลือ
 กรด เบส เกลือ กรด เบส เกลือ
กรด เบส เกลือ
 
ไอโบโมเลกุล
ไอโบโมเลกุลไอโบโมเลกุล
ไอโบโมเลกุล
 
Reaction organic สำหรับห้องหนึ่ง
Reaction organic  สำหรับห้องหนึ่งReaction organic  สำหรับห้องหนึ่ง
Reaction organic สำหรับห้องหนึ่ง
 

More from Mu PPu

งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอมMu PPu
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานแบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานMu PPu
 
7 สามัญ สังคม
7 สามัญ สังคม7 สามัญ สังคม
7 สามัญ สังคมMu PPu
 
7 สามัญ ภาษาไทย
7 สามัญ ภาษาไทย7 สามัญ ภาษาไทย
7 สามัญ ภาษาไทยMu PPu
 
7 สามัญ คณิต
7 สามัญ คณิต7 สามัญ คณิต
7 สามัญ คณิตMu PPu
 
7 สามัญ ฟิสิกส์ เฉลย
7 สามัญ ฟิสิกส์ เฉลย7 สามัญ ฟิสิกส์ เฉลย
7 สามัญ ฟิสิกส์ เฉลยMu PPu
 
7 สามัญ อังกฤษ
7 สามัญ อังกฤษ7 สามัญ อังกฤษ
7 สามัญ อังกฤษMu PPu
 
7 สามัญ ชีววิทยา
7 สามัญ ชีววิทยา7 สามัญ ชีววิทยา
7 สามัญ ชีววิทยาMu PPu
 
รวมสูตรฟิสิกส์ ม.6
รวมสูตรฟิสิกส์ ม.6รวมสูตรฟิสิกส์ ม.6
รวมสูตรฟิสิกส์ ม.6Mu PPu
 
ความรู้การใช้บล็อก
ความรู้การใช้บล็อกความรู้การใช้บล็อก
ความรู้การใช้บล็อกMu PPu
 
My Information
My InformationMy Information
My InformationMu PPu
 

More from Mu PPu (14)

งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานแบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
 
Gat2
Gat2Gat2
Gat2
 
Gat1
Gat1Gat1
Gat1
 
Pat5
Pat5Pat5
Pat5
 
7 สามัญ สังคม
7 สามัญ สังคม7 สามัญ สังคม
7 สามัญ สังคม
 
7 สามัญ ภาษาไทย
7 สามัญ ภาษาไทย7 สามัญ ภาษาไทย
7 สามัญ ภาษาไทย
 
7 สามัญ คณิต
7 สามัญ คณิต7 สามัญ คณิต
7 สามัญ คณิต
 
7 สามัญ ฟิสิกส์ เฉลย
7 สามัญ ฟิสิกส์ เฉลย7 สามัญ ฟิสิกส์ เฉลย
7 สามัญ ฟิสิกส์ เฉลย
 
7 สามัญ อังกฤษ
7 สามัญ อังกฤษ7 สามัญ อังกฤษ
7 สามัญ อังกฤษ
 
7 สามัญ ชีววิทยา
7 สามัญ ชีววิทยา7 สามัญ ชีววิทยา
7 สามัญ ชีววิทยา
 
รวมสูตรฟิสิกส์ ม.6
รวมสูตรฟิสิกส์ ม.6รวมสูตรฟิสิกส์ ม.6
รวมสูตรฟิสิกส์ ม.6
 
ความรู้การใช้บล็อก
ความรู้การใช้บล็อกความรู้การใช้บล็อก
ความรู้การใช้บล็อก
 
My Information
My InformationMy Information
My Information
 

เคมี

  • 1. ข้อสอบโควต้ามช.วิชาเคมี 1.สารที่ละลายน้าได้ และสารที่นาไฟฟ้ าได้ แต่ไม่ละลายในเอทานอลได้แก่ ก. และ ข. และกรดอะซิติก ค. และกรดอะซิติก ง. กรดอะซิติกและอะซีโตน 2.สารใดต่อไปนี้ควรจะละลายน้าได้ดัที่สุด ก. ข. ค. ง. 3.ข้อใดซึ่งสารทุกสารมีพันธะคู่ในโมเลกุล ก. เอธีลีน,โทลูอีน,อะซิโตน ข. เอธีลีน,โทลูอีน,อะซิธีลีน ค. เอธีลีน,อะซิธีลีน,คาร์บอนเตตระคลอไรด์ ง.คลอโรฟอร์ม คาร์บอนเตตระคลอไรด์ เบนซีน 4.ถ้าผลิตภัณฑ์ที่ได้จากข้อ3 เป็นก๊าซทั้งหมด วัดที่อุณหภูมิและความกดดันเดียวกัน จะมีก๊าซเกิดขึ้นที่ STP ก.1.12 ข.2.24 ค.3.36 ง.4.48 5.สารตัวใดทาปฏิกิริยากับน้าแล้วได้ก๊าซที่ติดไฟได้ และเป็นไฮโดรคาร์บอนที่ไม่อิ่มตัว ก. ข. ค. ง. 6.สูตรทั่ว ๆไปของสาร ก น่าจะเป็น ก. ข. ค. ง.
  • 2. คาชี้แจง ข้อมูลต่อไปนี้ใช้ประกอบการตอบคาถามข้อ 7 ห้องปฏิบัติการอินทรีย์เคมีแห่งหนึ่ง มีขวดสารเคมี4 ขวด ที่ชื่อบอกชื่อสารหลุดหายไป เมื่อนาสารทั้ง4 ชนิดมาทดสอบสมบัติ ได้ข้อมูลดังนีีี สมบัติ สาร จุด เดือด C0 การ ละลาย น้า ปฏิกิริยากับ สาร ละลายโบรมีน การเผาไหม ปฏิกิริยา กับ โลหะ โซเดียม ปฏิกิริยากับสารละลายโซเดียม , ไฮโดรเจน} คาร์บอน สาร ก 44.2 ไม่ละลาย ฟอกสี มีเขม่า เล็กนอย ไม่ทา ไม่ทา สาร ข 138 ละลาย ไม่เปลี่ยน ไม่มีเขม่า ใหฟองก๊าซ ไม่ทา สาร ค 185.5 ละลาย ไม่เปลี่ยน ไม่มีเขม่า ใหฟองก๊าซ ใหฟองก๊าซ สาร ง 210 ไม่ละลาย ไม่เปลี่ยน มีเขม่ามาก ไม่ทา ไม่ทา 7.ในการวิเคราะห์หาจานวนอะตอมของธาตุต่างๆในสารทั้ง4ชนิด พบว่าสาร ก กับสาร ข มีจานวนอะตอมของคาร์บอน เท่ากัน แต่สาร ข มีจุดเดือดสูงกว่าสาร ก มาก ทั้งนี้น่าจะเป็นเพราะ ก. ความหนาแน่นของสาร ข มีค่าสูงกว่า ก ข. แรงที่ยึดเหนี่ยวโมเลกุลในสาร ข ไว คอพันธะไอออนิค ค. มีแรงวันเดอร์วาลส์ ระหว่างโมเลกุลในสาร ข แต่ไม่มีในสาร ก ง. มีพันธะไฮโดรเจนระหว่างโมเลกุลในสาร ข แต่ไม่มีในสาร ก คาชี้แจง ขอมูลต่อไปนี้ใชประกอบการตอบคาถามขอ 8 และขอ 9 การละลาย ในน้า จุดเดือด C0 จุดหลอมเหลว C0 การนาไฟฟาการนาไฟฟาแยกดวย ไฟฟา สาร1 ละลาย 1413 804 ไม่ นา ได สาร2 ละลาย 1500 334 ไม่ นา ได สาร3 ไม่ 3000 1535 นา - ไม่ สาร4 ไม่ 445 113 ไม่ - ไม่ สาร5ละลายดีมาก -33 -78 ไม่ ไม่ ไม่ สาร6ละลายดีมาก 78 -117 ไม่ ไม่ ไม่
  • 3. 8.การแยกสารตามข้อใดที่กระทาไม่ได้ หรือไม่แน่ใจว่าจะทาได้ ก. แยกสาร 1และ 2 ออกจากกันโดยละลายในน้าแลวตกผลึก ข. แยกสาร 2 และ 4 ออกจากกันโดยละลายน้าแลวกรอง ค. แยกสาร3 และ 4 ออกจากกันโดยการเผา ง. แยกสาร 5 และ 6 ออกจากกันโดยละลายน้าแลวกลั่น 9.ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง ก. สาร 3 เป็นธาตุและเป็นโลหะ ข. สาร 1 เป็นของแข็งและสารประกอบอิออนิก ค. สาร 5 เป็นก๊าซและเป็นสารประกอบโคเวเลนท์ ง. สาร 6 เป็นของเหลวและเป็นสารประกอบอิออนิก คาชี้แจง ใชขอมูลต่อไปนี้ประกอบการตอบคาถามขอ 10 และขอ 11 (1) สาร ก + สาร ข สาร ค (2) สาร ค ไฮโดรไลซ์ดวย NaOH ไดสาร ก + สาร ข (3) สาร ข ทาปฏิกิริยากับ ให (4) สาร ข ทาปฏิกิริยากับ Na และ NaOH ได (5) สาร ค มีจานวนอะตอมเท่ากับ 7 10. สาร ค คืออะไร ก.อัลเคน ข.อัลคีน ค.อัลกอฮอล์ ง.เฮสเตอร์ 11.สมบัติต่อไปนี้ควรเป็นของสาร ก ทั้งสิ้น ยกเว้นข้อใด ก.ปฏิกิริยากับ ให ข.ทาปฏิกิริยากับโลหะ Na ให ค.ลุกไหมใหเปลวสว่าง ไม่มีเขม่า ง. เตรียมจากอัลคีนได 12.สารต่อไปนี้คู่ใดเป็นไอไซเมอร์กัน OH 1. OH 2. CH3
  • 4. 3. 4. OH 5. ก.1 กับ 2 ข.1 กับ3 ค.1 กับ 4 ง.1 กับ 13. สารอินทรีย์ชนิอหนึ่งประกอบด้วยคาร์บอน85.71 % และไฮโดรเจน 14.29% และมีมวลโมเลกุลเท่ากับ70 สารนี้จะ เป็นอะไร (มวลอะตอมของC=12 ,H=1) ก.เพนเทน ข.เพนทีน ค.บิวเทน ง.บิวทีน 14. ในบรรดาสารเหล่านี้สารคู่ใดเป็นไอโซเมอร์กัน ก. กับ ข. กับ ค. กับ ง. กับ 15. กาหนดสูตรโครงสร้างของสารต่างๆดังนี้ ก. ข. ค. ง. จ.
  • 5. ฉ. จงเรียงลาดับชนิดของสารตามชื่อต่อไปนี้ เอสเทอร์ เอไมด์ คีโตน แอลดีไฮด์ 1. จ. ค. ข. ฉ. 2. จ. ง. ข. ฉ. 3. ก. ง. จ. ฉ. 4. ก. ค. จ. ข. 16. การระบุชนิดของปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น ข้อใดผิด ก. + (ปฏิกิริยาการเติม) ข. + Br + HBr (ปฏิกิริยาการแทนที่) ค. COOH + NaOH CO + O (ปฏิกิริยาการสะเทิน) ง. COO + O COOH + OH (ปฏิกิริยาแอสเทอริฟิเคชัน) 17. สารอินทรีย์ต่อไปนี้ สานใดทาปฏิกิริยากับ NaH แล้วได้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก. OH ข. COOH ค. COO ง. CHO 18 . จงพิจารณาข้อความต่อไปนีีี 1. สารอินทรีย์ที่มีสูตรโมเลกุล จะตองละลายน้าไดดีกว่าสารที่มีสูตรโมเลกุล O 2. บิวทานอลเป็นสารที่มีหมู่ไฮดรอกซิลเป็นหมู่ฟังก์ชันและมี 4 ไอโซเมอร์ 3. กรดอินทรีย์และแอลกอฮอล์มีสูตรทั่วไปคือ RCOOH และ ROH ตามลาดับโดย R อาจเป็น H หรือ แอลคีล 4. CCOOH เป็นสารที่มีจุดเดือดต่ากว่า CH COOH
  • 6. ขอใดถูก ก. ขอ 1 , 2 ข. ขอ 2, 4 ค. ขอ 2, 3 ง. ขอ 1, 4 19. สมการต่อไปนี้ ขอใดไม่เกิดปฏิกิริยาหรือไม่ถูกตอง ก.chclohexene + cyclohexane ข. - -COOH+ N -CH -COOH - –CO-NH -CH -COOH ค. COO + O COOH + OH ง. COOH + H + O + 20 . ขอสรุปเกี่ยวกับสมบัติของสารประกอบ 3 สารต่อไปนี้ (1) OH (2) COOH (3) CHO ขอใดถูก ก.ความสามารถในการละลายน้าของสาร (1) > (2) > (3) ข.ทั้งสาร (1) และ (2) ทาปฏิกิริยากับโลหะโซเดียมได ค.สาร (2) และ (3) ทาปฏิกิริยากับสารละลายเบเนดิกต์ไดตะกอนสีอิฐ ง.สาร (1) ไดจากการหมักของน้าตาลทรายกับยีสต์
  • 7. 21 . จงพิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ สารอินทรีย์ สูตรโครงสราง มวลโมเลกุล จุดเดือด (∙c ) 1 2 3 4 COOH OH 60 60 59 58 141 97 49 -0.5 การที่สารอินทรีย์เหล่านี้มีจุดเดือดต่างกัน คาอธิบายใดผิด ก.สาร 1 มีจุดเดือดสูงสุด เพราะระหว่างโมเลกุลมีพันธะไฮโดรเจนหลายแห่ง ข.สาร 2 มีจุดเดือดสูงกว่าสาร 3 เพราะพันธะไฮโดรเจนระหว่างโมเลกุลของสาร 2 แข็งแรงกว่าพันธะ ไฮโดรเจนระหว่างโมเลกุลของสาร 3 ค.สาร 3 มีพันธะไฮโดรเจนระหว่างโมเลกุล แต่สาร 4 ไม่มีพันธะไฮโดรเจน ง.พันธะไฮโดรเจระหว่างโมเลกุลของสาร 4 มีค่านอยที่สุด 22. เมื่อนาสาร A, B, C และ D มาทดสอบ จะไดผลดังนี้ สาร ปฏิกิริยา รวมตัวกับ ไฮโดรเจน สารละลาย สารละลาย NaH โลหะโซเดียม A B C D เกิดปฏิกิริยา ไม่เกิดปฏิกิริยา ไม่เกิดปฏิกิริยา ไม่เกิดปฏิริยา ฟอกสี ฟอกสี ไม่ฟอกสี ไม่ฟอกสี ไม่เกิด ไม่เกิด เกิดก๊าซ ไม่เกิด ไม่เกิดปฏิกิริยา ฟองก๊าซ เกิดปฏิกิริยา ไม่เกิดปฏิกิริยา
  • 8. สาร A , B , C และ D ควรเป็นสารใด A B C D ก. ข. ค. ง. ไซโคลเฮกซีน ไซโคลเฮกซานอล กรดเบนโซอิก ไซโคลเฮกเซน ไซโคลเฮกซานอล กรดเบนโซอิก ไซโคลเฮกเซน ไซโคลเฮกซีน กรดเบนโซอิก ไซโคลเฮกเซน ไซโคลเฮกซีน ไซโคลซานอล ไฮโดรเจนเฮกเชน ไซโคลเฮกซีน ไซโคลเฮกซานอล กรดเบนโซอิก เฉลยข้อสอบ 1. เฉลย ก สมบัติของสารทุกสารในคาถามคือดังนี้ สาร การละลายในน้า การนาไฟฟาของ สารละลายที่ได การละลายใน เอทานอล (กรดอะซิติก) (อะซิโตน) ละลาย ละลาย ละลาย ละลาย นา นา ไม่นา(เพราะแตกตัวเป็น อิออนนอยมาก) ไม่นา(เพราะไม่แตกตัว เป็นอิออน) ไม่ละลาย ไม่ละลาย ละลาย ละลาย 2. เฉลย ค เพราะ มีสภาพขั้วมากที่สุด 3. เฉลย ก เอธีลีน โทลูอีน ,อะซิโตน จะเห็นไดว่าทุกตัวมีพันธะคู่ ใน(ข)อะซิธีลีน มีพันธะสาม ใน(ค)คาร์บอนเตตระคลอไรด์ มีพันธะเดี่ยว ส่วนใน(ง)คลอโรฟอร์ม และคาร์บอนเตตระคลอไรด์มีพันธะเดี่ยว 4. เฉลย ง ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด = 0.1 โมล + 0.1 โมล
  • 9. = 0.2 โมล ก๊าซ 1 โมลที่ STP มีปริมาตร 22.4 ลิตร ก๊าซ 0.2 โมล ที่ STP มีปริมาตร X ลิตร 5. เฉลย ข สมการแสดงปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นคือ กาซที่เกิดขึ้นคือกาซอะซิธีลีน 6. เฉลย ข สาร ก ไม่ละลายน้า ไม่ทาปฏิกิริยากับโลหะโซเดียม หรือ แสดงว่าสาร ก ไม่ใช่แอลกอฮอล์ (R — OH) และไม่ใช่กรดอินทรีย์(R — COOH) แต่ฟอกสีสารละลายโบรมีนได แสดง ว่าแสดงว่าเป็นสารประกอบไม่อิ่มตัว คือมีC=C (ข) เป็นสูตรทั่วไปของสารประกอบโฮโดรเจนคาร์บอนที่ ไม่อิ่มตัว 7. เฉลย ง ตามที่คาดหมายไว เพราะROHเกิดพันธะไฮโดรเจนได จึงมีจุดเดือดสูง 8. เฉลย ค ทั้งสองสารโดยเฉพาะอย่างยิ่งสาร3 มีจุดเดือดสูงมาก จึงแยกออกจากกันไดยาก เพราะ ตองใชอุณหภูมิสูงมาก ซึ่งโอกาสที่สารทั้งสองแตกสลายตัวรวมกับออกซิเจนกลายเป็นสารอื่นมีมาก ฉะนั้น การแยกสาร3 และ 4ออกจากกันโดยการเผาจึงไม่แน่ใจว่าจะทาได 9. เฉลย ง สาร 6 เป็นของเหลว แต่ไม่น่าจะเป็นสารประกอบอิออนิก เพราะไม่นาไฟฟา สารละลายก็ไม่ นาไฟฟา และไม่สามารถแยกดวยไฟฟา 10. สาร ค คืออะไร ก.อัลเคน ข.อัลคีน ค.อัลกอฮอล์ ง.เฮสเตอร์ 11. เฉลย ก เป็นสมบัติของอัลกอฮอลที่ไม่ทาปฏิกิริยากับ NaHCO3 12. เฉลย ค คาตอบคือขอ (ค) ส่วนขอ (ง) 1 กับ 5 เป็นสารประกอบเดียวกัน 13. เฉลย ข วิธีทา C : H 7.14 : 14.29 1 : 2 สูตรอย่างง่ายคือ
  • 10. = 70 (14)n = 70 n = = 5 สูตรโมเลกุลคือ หรือ = เพนทีน 14. เฉลย ง สารประกอบจะเป็นไอโซเมอร์กัน ถาสูตรเคมีมีธาตุและจานวนอะตอมของแต่ละธาตุ เท่ากัน จะเห็นไดว่า คู่สารในขอ (ง) ต่างมีสูตร จึงเป็นไอโซเมอร์กัน 15. ตอบข้อ1. ข้อ ข. เป็นคีโตน ข้อ ค. เป็นเอไมด์ ข้อ จ. เป็นเอสเทอร์ ข้อ ฉ. เป็นแอลดีไฮด์ 16. เฉลยข้อ ง. แนวคิด งผิดเพราะ เป็นเอสเทอร์ ทาปฏิกิริยากับน้า ( ) เกิดปฏิกิริยาไฮโครลี ชีส ดังนี้ ปฏิกิริยาผันกลับนี้จึงจะเรียกว่า เอสเทอร์ฟิเคชัน 17. เฉลยข้อ ข. แนวคิด กรดอินทรีย์เช่น ทาปฏิกิริยากับ หรือ จะไดเกลือของกรด อินทรีย์น้าและก๊าซ 18.เฉลยข้อ ข.
  • 11. แนวคิด ขอ 1ผิดเพราะสารที่มีสูตร เป็นกรดอินทรีย์ ละลายน้าไดดีกว่า สารที่มีสูตร คือ เป็นแอลแอฮอล์แต่ถาสารที่มีสูตร เป็น เอสเทอร์ ก็จะละลายน้าไดนอยกว่าสารที่มีสูตร เป็นแอลกอฮอล์ ขอ 2 ถูก เพราะบิวทานอลเป็นแอลกอฮอล์มีหมู่ไฮดรอกซิลเป็นหมู่ฟังก์ชัน เกิดไอโซเมอร์ดังนี้ ขอ 3 ผิด เพราะแอลกอฮอล์มีสูตรทั่วไป คือ R–OH R– แทนหมู่ไฮโดรคาร์บอนเท่านั้นเป็น ไฮโดรเจนอะตอมไม่ได ขอ 4 ถูก เพราะสารทั้ง 2 เป็นไอโชเมอร์กัน โดยที่ กรดอินทรีย์ที่มีคาร์บอนแตกกิ่งกานสาขามากจะทาใหเกิดแรงแวนเดอร์วาลส์นอยกว่าโอเลกุล คาร์บอนแตกกิ่งสาขานอย สาหรับพันธะไฮโดรเจนของกรดอินทรีย์ที่มีหมู่ –COOH จานวนเท่าๆ กันก็จะ เกิดพันธะไฮโดรเจนที่มีความแรงพอๆ กัน 19. เฉลยข้อ ค. แนวคิด ไม่เกิดปฏิกิริยา เพราะการไฮโดรลิซิสเอสเทอร์ตองใชกรดเจือจางหรือเบสเจือจาง และความรอน เขาช่วย ไดกรดอินทรีย์และแอลกอฮอล์ ดังนี้ 20. เฉลยข้อ ข. แนวคิด ขอ ก ผิด เพราะคาร์บอนอะตอมเท่ากัน กรดอินทรีย์ละลายน้าไดดีกว่าแอลกอฮอล์ และ แอลกอฮอล์ละลายน้าไดดีกว่าแอลดีไฮด์ เพราะกรดอินทรีย์เกิดพันธะไฮโดรเจนไดดีกว่าและแรงกว่า แอลกอฮอล์ ส่วนแอลดีไฮด์จะเกิดแรงดึงดูดระหว่างขั้ว ซึ่งมีแรงนอยกว่า ขอ ข ถูก เพราะสาร (1) เป็นแอลกกอฮอล์ สาร (2) เป็นกรดอินทรีย์สารทั้งสองต่างทาปฏิกิริยากับ
  • 12. Na ไดก๊าซ ได ขอ ค ผิด เพราะสาร (3) เป็นแอลดีไฮด์ มีหมู่ –COH ซึ่งสามารถทาปฏิกิริยากับสารละลายเบเน ดิกต์ ไดตะกอนสีแดงอิฐ ส่วนสารอื่นไม่ทาเพราะไม่มีหมู่ –COH ขอ ง ผิด เพราะการหมักน้าตาลทรายและยีสต์ไดแอลกอฮอล์ชนิดเอทานอล คือ ไม่ใช่ 21. เฉลยข้อ ง. แนวคิด ง ผิด เพราะสาร 4 เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอน แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลเป็นแรงแวน เดอร์วาลส์อย่างเดียว ไม่มีพันธะไฮโดรเจน 22. เฉลยข้อ ก. แนวคิด จากตารางขอมูล แสดงสมบัติทางเคมีของสารอินทรีย์ต่างๆ สรุปไดว่า สาร A น่าจะเป็นแอลคีน หรือแอลไคน์ สาร B น่าจะเป็นแอลกอฮอล์ ที่มีส่วนของไฮโดรคาร์บอน มี C กับ D จับกันดวยพันธะเดี่ยวหมด และหมู่ไฮ ดรอกซิลจับกับ C ที่มี H เป็นองค์ประกอบอยู่อย่างนอย 1 อะตอม เพราะสารนี้ฟอกจางสีด่างทับทิมได สาร C น่าจะเปนกรดอินทรีย์ที่ส่วนที่เป็นไฮโดรคาร์บอนที่ C ทุกอะตอมจับกันดวยพันธะเดี่ยวหมด สาร D สรุปไดว่าเป็นสารพวกแอลเคนได เช่น ไซโคลเฮกเชน