SlideShare ist ein Scribd-Unternehmen logo
1 von 4
อาณาจัก รสมัย โบราณ

    อาณาจักรโบราณที่เกี่ยวข้อง ยะลาในอดีตคือส่วนหนึ่งของปัตตานี
อาณาจักรโบราณที่เกี่ยวข้องกับเมืองปัตตานี คือ อาณาจักรลังกาสุกะ
หรือลังกาซูก ซึ่งถือกันว่า เป็นอาณาจักรที่เก่าแก่ที่สุดบนแหลมมลายู
อาณาจักรลังกาสุกะ

     พลโทดำาเนิน เลขะกุล ได้กล่าวถึงลังกาสุกะไว้ดังนี้ "ในการค้นหาที่
ตั้งของอาณาจักร ลังกาสุกะ นายปอล วีตลีย์ ได้ใช้บันทึกของผู้โดยสาร
เรือผ่านอาณาจักรนี้มากมายหลายเชื้อชาติ แต่ที่มากที่สุด และได้ราย
ละเอียดมากที่สุดได้แก่ ชาวจีน เพราะชาวจีนได้บันทึกมาตั้งแต่ปลาย
พุทธศตวรรษที่ 11 จนถึงที่มาต้วนหลิน ได้เขียนไว้ใน พ.ศ. 1443
แม้ว่าบันทึกเหล่านั้นได้เรียก ชื่อแปลก ๆ แต่ต่างกันไปมากมาย ตาม
เวลาอันยาวนานที่ผ่านมา แต่ในที่สุดนายปอล วิตลีย์ ได้สรุปลงว่าแคว้น
ลังกาสุกะ ตั้งอยู่ระหว่างเมืองกลันตันกับเมืองสงขลา และความเห็นนี้
ก็ได้ ยอมรับกันในวงนักประวัติศาสตร์ทั่วไปแล้ว

     เรื่องราวของอาณาจักรลังกาสุกะนี้ มีปัญหามาก เริ่มตั้งแต่การตั้ง
อาณาจักร ศาสตราจารย์ ม.จ. สุภัทรดิศ ดิศกุล ทรงอ้างว่า
จดหมายเหตุของจีนราชวงศ์เหลียง (พ.ศ. 1045 - 1099) กล่าวว่า
อาณาจักรลังกาสุกะ ได้ตั้งมาก่อนหน้านี้แล้วตั้ง 400 ปี ซึ่ง หมายความ
ว่าได้ตั้งขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 7 และกล่าวด้วยว่า อาณาจักรนี้มี
อาณาเขตจรด ทั้งสองฝั่งทะเล คือ ด้านตะวันออกจดฝั่งอ่าวไทยบริเวณ
เมืองปัตตานี ด้านตะวันตกจดฝั่งอ่าว เบงกอลเหนือ เมืองไทรบุรี ใน
ประเด็นหลังนั้น ศาสตราจารย์ฮอลล์เห็นด้วย ซำ้ายังกล่าว เพิ่มเติมว่า ก็
เพราะอาณาจักรลังกาสุกะ มีอำานาจปกครองคร่อมอยู่ทั้งสองฝั่งทะเลเช่น
นี้เอง จึงได้ทำาหน้าที่ควบคุมเส้นทางเดินข้ามแหลมมลายู มาแต่โบราณ
แต่ศาสตราจารย์ปอล วีตลีย์ ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องแหลมมลายูโดยเฉพาะ
มีความเห็นแตกต่างออกไป โดยกล่าวว่าจะเชื่อถือ เรื่องราวอันวิปริต
จากตำานานไทรบุรี - ฮีกายัตมะโรงมหาวังศาไม่ได้ เพราะเป็นเทพนิยาย
ที่แต่งขึ้น เมื่อชาวอินเดียได้เข้ามาถึง ในพุทธศตวรรษที่ 6 นี้เอง การที่
เนื้อความของเทพนิยายนี้ชวนให้ คิดว่า อาณาจักรลังกาสุกะกับแคว้น
ไทรบุรีตั้งทับกันอยู่ และอาณาจักรลังกาสุกะมีอาณาเขต คร่อมทั้งสอง
ฟากฝั่งทะเลนั้น จึงเชื่อไม่ได้ อาณาจักรลังกาสุกะตั้งอยู่บนฝั่งทะเล
ตะวันออก เท่านั้น นอกจากนั้นยังอ้างหลักฐานของเลียงซูว่า อาณาจักร
ลังกาสุกะได้ตั้งเมื่อปลายพุทธศตวรรษ ที่ 7 ทั้งยังกล่าวด้วยว่า ในขณะ
ที่พระเจ้าฟันชิมันแห่งอาณาจักรฟูนันเข้าครองนั้น อาณาจักรนี้ ยังไม่มี
ชื่อ (อาจมี แต่เรียกอย่างอื่นก็ได้) ชื่อลังกาสุกะ อาณาจักรสำาคัญที่เที่ยว
แทรกอยู่ตาม บันทึกและหนังสือประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ตั้งแต่พุทธศตวรรษ
ที่ 7 จนถึงที่ 20 ก็ถูกกลบหายไปจาก แผนที่แหลมมลายู แม้ชื่อ
อาณาจักรลังกาสุกะจะถูกเลือนลืมไปแล้ว แต่บ้านเมืองและประชาชน ที่
เป็นพื้นฐานของอาณาจักรนั้น มิได้ถูกกวาดทิ้งออกไปด้วย ยังคงอยู่เว้น
แต่ชื่ออาณาจักรชื่อ เมืองต่าง ๆ เท่านั้นที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา

      นอกจากนี้ยังได้เขียนถึง เมืองปัตตานี ซึ่งเกี่ยวข้องกับอาณาจักร
ลังกาสุกะไว้ดังนี้ "ตามชายฝั่ง แม่นำ้าปัตตานี มีร่องรอยว่า เคยมีชุมชน
โบราณตั้งเรียงรายกันอยู่หลายแห่ง เฉพาะที่เป็นแหล่ง ใหญ่ และค้นพบ
เศษโบราณวัตถุ และซากโบราณสถานมาก ๆ แสดงให้เห็นว่า เคยเป็น
เมือง มาก่อนมีอยู่ 2 แห่ง คือ บริเวณบ้านเนียง - สนามบิน - วัดคูหาภิ
มุข (วัดหน้าถำ้า) - เขากำาปั่น ในจังหวัดยะลาแห่งหนึ่ง และบริเวณอำาเภอ
ยะรัง จังหวัดปัตตานีอีกแห่งหนึ่ง... บริเวณอำาเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี
ที่นั่นได้พบที่ตั้ง โบราณสถานอยู่ 2 กลุ่มใหญ่ ตั้งอยูห่างกัน 3 - 4
                                                      ่
กิโลเมตร คือ ที่บ้านประแว กลุ่มหนึ่ง และที่บ้านวัด อีกกลุ่มหนึ่ง ที่บ้าน
ประแวพบซากเมืองโบราณ ขนาดเล็ก มีกำาแพงล้อมชั้นเดียว ชวนให้คิด
เห็นว่าก่อนพุทธศตวรรษที่ 18 ขึนไปอาจจะเป็น ศาสนสถาน เพราะมี
                                  ้
เนินดิน เคยเป็นที่ตั้งอารามมาก่อน และพบเครื่องปั้นดินเผา ธรรมจักร
และพระพุทธรูปซึ่งมีลวดลายและรูปทรงแบบศิลปทวารวดีของภาคกลาง
(พุทธศตวรรษที่ 12 - 16)มากมาย และยังได้พบเทวรูปพระโพธิสัตว์
สัมฤทธิ์แบบศิลปศรีวิชัย ศิวลึงค์ของ ลัทธิฮินดูสมัยต่าง ๆ และใบเสมา
สมัยอยุธยาบ้าง ซึ่งนับได้ว่าเป็นพุทธศาสนสถาน ขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
ของภาคใต้ ส่วนบริเวณที่อยู่อาศัยของประชาชน ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใน
บริเวณ บ้านวัด และน่าจะเป็นบ้านเมืองมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 11 -
12 น่าคิดว่า ชื่อ "บ้านวัด" นั้นเดิมทีคงจะเป็นวัดพุทธศาสนามาก่อน
เพราะพบโคกดินสูง ๆ อยู่ทั่วสวนของชาวบ้าน (ถ้าจะมีการขุดค้นกัน
เป็นทางราชการ จะได้ทราบอะไร ๆ อีกมาก)

    ตามที่ได้พบหลักฐานทางโบราณคดีดังกล่าวนี้เอง ทำาให้นัก
โบราณคดีและ นักประวัติศาสตร์จากอังกฤษ มาเลเซีย และสหรัฐ ที่เดิน
ทางเข้ามาสำารวจต่างก็ให้ ความเห็นลงรอยเดียวกันว่า เมืองประแวนี้
แหละ คือ เมืองลังกาสุกะที่ปรากฏใน จดหมายเหตุจีนพุทธศตวรรษที่
11 - 12 และเอกสารช่วงในพุทธศตวรรษที่ 20 แล้วเงียบหาย ไปใน
พุทธศตวรรษที่ 21 คุณอนันต์ ผู้มีโอกาสเคยไปสำารวจตำาบลต่างๆ ห่าง
ไกลออกไปมาก่อน ได้ให้ความเห็นว่า เมืองประแวนี้เป็นเมืองปัตตานี
เก่าที่ย้ายมาเป็นแห่งที่ 3 นับจากบริเวณ สนามบิน - วัดคูหาภิมุข ไปอยู่
ที่อำาเภอรือเสาะ แล้วจึงย้ายเมือง (ศูนย์การปกครอง) มาที่เมืองประ
แว...)

     สารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต้ พ.ศ. 2529 ได้บันทึกเรื่องราวความ
เป็นมาของปัตตานีไว้ดังนี้ ในท้องที่ปัตตานีปัจจุบัน มนุษย์ได้เคลื่อนย้าย
เข้าไปอาศัยตั้งถิ่นฐานมานานนับปี จากการสำารวจ ทางโบราณคดีเบื้อง
ต้น ได้พบร่องรอยของชุมชนโบราณในปัตตานีที่ อำาเภอยะรัง รู้จักกัน
โดย ทั่วไปในภาษาท้องถิ่นว่า "เมืองประแว" ซึ่งเชื่อกันว่าเพี้ยนมาจาก
คำาว่า "พระวัง" หรือ "พระราชวัง" หรือตรงกับภาษามลายูโบราณว่า "โ
กตามะลิฆา" หรือ "โกตา ม้ะฮ์ลิฆา" และปรากฏในเอกสารของชาวต่าง
ชาติ โดยเฉพาะเอกสานจีน อาหรับและชวา ตราสำาเนียง ท้องถิ่นว่า "ลัง
กาสุกะ" เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรือง อยู่ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 10 - 18
ตามข้อ สันนิษฐานของประทุมชุ่มเพ็งพันธ์ เชื่อว่า "...ลังกาสุกะ มี
อาณาเขตกว้างขวาง มีกำาลังอำานาจ เทียบได้กับอาณาจักรขนาดย่อม
แห่งหนึ่งทีเดียว เพราะหลักฐานทางโบราณคดีที่ค้นพบ ยืนยันในข้อนี้
เป็นอย่างดี แต่ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า ตอนที่เมืองลังกาสุกะเจริญสูงสุด
มีอาณาเขตปกครองจากไหนถึงไหน ทราบเพียงว่าภายหลังเสื่อมอำานาจ
ถูกอาณาจักรตามพรลิงค์ (นครศรีธรรมราช) ผนวกไว้เป็นดินแดน
เดียวกัน ถ้าพิจารณาจากจดหมายเหตุอาหรับ และจีน ทำาให้ทราบคร่าว
ๆ ว่าเมืองลังกาสุกะเป็นเมืองใหญ่ อาณาเขตด้านทิศเหนือติดต่อเมือง
สงขลา และเมืองพัทลุง อาณาเขตด้านทิศใต้แผ่ไปสุดแหลมมลายู ทาง
ด้านตะวันออกจดอ่าวไทย ทางด้านตะวันตกจดฝั่งทะเลตะวันตกในทะเล
อันดามัน ..." เมืองไทรบุรีโบราณจึงรวมอยู่ใน อาณาจักรลังกาสุกะ ใน
ตำานานพื้นเมืองของปัตตานี กล่าวว่าผู้สร้างเมืองพระวัง หรือ โกตา ม้ะฮ์
ลิฆา คือ เสียม อัสลี ตามร่องรอยที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน เมืองนี้เป็น
เมืองขนาดใหญ่ โบราณสถาน ในเมืองปรักหักพังหมด เหลือแต่เฉพาะ
กองอิฐ ซึ่งเชื่อกันว่า เคยเป็นเจดีย์ อุโบสถ วิหาร และเทวาลัย มีอยู่
ทั้งหมดประมาณ 16 แห่ง และสระนำ้าขนาดใหญ่อีก 3 แห่ง ศิลปวัตถุ
ของ เมืองนี้จึงกระจัดกระจายอยู่ในที่ต่างๆ กัน มีหลายอย่างด้วยกันคือ
พระพุทธรูปศิลาสมัยทวารวดี พระโพธิสัตว์สัมฤทธิ์ ศิวลึงค์ เสมา
ธรรมจักร เครื่องถ้วยชามจีน เครื่องปั้นดินเผา เงินเหรียญชวา และเงิน
เหรียญอาหรับ เป็นต้น จากหลักฐานเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่า เมืองลังกา
สุกะเป็นเมืองที่ประชาชนนับถือพุทธศาสนา ลัทธิมหายาน และศาสนา
ฮินดู ส่วนชาวเมืองนั้นไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นชนชาติใด ตามความเห็น
ของผู้บันทึกประวัติศาสตร์ปัตตานีคนหนึ่ง คือ อิบรอฮิม ชุกรี เชื่อว่าดิน
แดน ปัตตานี เป็นที่อยู่ของชาวสยามมาก่อนที่ชาวมาเลย์จะอพยพนำา
เอาศาสนาอิสลามเข้ามา ตอนปลายพุทธศตวรรษที่ 21 ในรัชสมัย
พระเจ้าศรีวังสา กษัตริย์ซึ่งนับถือพุทธศาสนาองค์สุดท้ายของอาณาจักร
ลังกาสุกะ ปกครองเมืองพระวังตอนปลายพุทธศตวรรษที่ 21 มีชาว
มลายูเดินทางมาปลายแหลม มลายู และสุมาตรา มาตั้งบ้านเรือนอาศัย
อยู่บริเวณริมฝั่งทะเลของเมืองพระวัง จนในที่สุด ชุมชนของชาวมลายู
ค่อย ๆ เจริญขึ้นเพราะสามารถติดต่อกับพ่อค้าต่างชาติได้สะดวก แตก
ต่างไปจากเมืองพระวัง ซึ่งอยู่ห่างทะเลเข้าไปหลายสิบกิโลเมตร ค่อยๆ
เสื่อมโทรมลงไป เพราะชาวเมืองได้อพยพไปอยู่ที่อื่น ชุมชนของชาว
มลายูนี้ ต่อมาได้พัฒนากลายเป็น "เมืองปัตตานี" ปัจจุบัน เป็นศูนย์กลาง
ปกครองท้องถิ่น แทนเมืองพระวัง ซึ่งค่อย ๆ เสื่อมสลายไปโดยไม่ทราบ
สาเหตุชัดเจน นอกจากจะอยู่ห่างไกลทะเล และเป็นศูนย์กลางพระพุทธ
ศาสนาและศาสนาฮินดู แต่เมืองปัตตานีกลับอยู่ใกล้ทะเลและเป็น
ศูนย์กลางของศาสนาอิสลาม

     พลโทกิตติ รัตนฉายา ได้กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของจังหวัด
ปัตตานีว่า ตามหลักฐาน ทางประวัติศาสตร์นั้น ยังไม่มีหลักฐานแน่นอน
ว่าได้ตั้งขึ้นเมื่อไร แต่ตามจดหมายเหตุของจีน ตอนที่ชาวจีนมีการ
ติดต่อกับดินแดนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในคริสศตวรรษที่ 2 นั้น
เมืองลังกาสุกะตั้งขึ้นแล้ว จากจดหมายเหตุนี้ นักเรียนชาวยุโรปหลาย
คนเชื่อว่า เมืองลังกาสุกะ ดังกล่าวเป็นเมืองเดิมของปัตตานี นัก
ประวัติศาสตร์หลายคนเชื่อว่า ชาวลังกาสุกะนับถือ ศาสนาฮินดู หรือ
พราหมณ์ ภายใต้อิทธิพลของอารยธรรมอินเดีย หลักฐานจากโบราณ
วัตถุ สถานที่บริเวณเมืองโบราณ อำาเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พบพระ
พุทธรูปสมัยคุปตะ เจดีย์ ดินเผามีลวดลายแบบคุปตะ (หรือทวาราวดี)
แสดงว่าชาวลังกาสุกะนับถือศาสนาฮินดูและพุทธ (ศิวพุทธ) ด้วยและ
ลังกาสุกะเป็นเมืองท่าที่สำาคัญตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 8 เพราะว่าอ่าวลังกา
สุกะ (อ่าวปัตตานี) ใช้เป็นที่หลบภัยพายุมรสุมของชาวเรือค้าขายได้เป็น
อย่างดี ต่อมาอาณาจักรศรีวิชัย (พุทธศตวรรษที่ 12 - 18) ได้แผ่
อาณาจักรครอบคลุมบริเวณปัตตานี แหลมมลายู บางส่วนของ
บอร์เนียว ชวา และสุมาตรา อิทธิพลของพุทธศาสนาได้เจริญรุ่งเรือง
มากในบริเวณนี้ ดังนั้นชาวปัตตานีจึงมีการนับถือศาสนาพุทธกันโดย
ทั่วไป ศาสนาอิสลามเข้าสู่ปัตตานีโดยอิทธิพล ของมะละกา สมัย
มูซัฟฟาร์ ราว พ.ศ. 2002 ประวัติเมืองปัตตานีฉบับภาษามลายู (อักษร
ยาวี) ระบุว่ากษัตริย์เมืองตานีชื่อ ศรีอินทรา เป็นผู้เข้ารีตองค์แรก
สอดคล้องกับประวัติศาสตร์เมือง มะละกา ปัตตานีหรือเมืองตานีตั้งขึ้น
หลังจากเมืองลังกาสุกะสลายตัว ราวพุทธศตวรรษที่ 18 - 19"

Weitere ähnliche Inhalte

Was ist angesagt?

หัวข้อที่ ๖ อาณาจักรสุโขทัย
หัวข้อที่ ๖  อาณาจักรสุโขทัยหัวข้อที่ ๖  อาณาจักรสุโขทัย
หัวข้อที่ ๖ อาณาจักรสุโขทัยchakaew4524
 
พัฒนาการทางสังคมและศิลปวัฒนธรรม601
พัฒนาการทางสังคมและศิลปวัฒนธรรม601พัฒนาการทางสังคมและศิลปวัฒนธรรม601
พัฒนาการทางสังคมและศิลปวัฒนธรรม601Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
 
ประวัติศาสตร์สุโขทัย
ประวัติศาสตร์สุโขทัยประวัติศาสตร์สุโขทัย
ประวัติศาสตร์สุโขทัยchatsawat265
 
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมัยสุโขทัย อยุธยาและธนบุรี
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมัยสุโขทัย อยุธยาและธนบุรีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมัยสุโขทัย อยุธยาและธนบุรี
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมัยสุโขทัย อยุธยาและธนบุรีPrincess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
 
07อาณาจักรอยุธยา
07อาณาจักรอยุธยา07อาณาจักรอยุธยา
07อาณาจักรอยุธยาJulPcc CR
 
สุโขทัย
สุโขทัยสุโขทัย
สุโขทัยsangworn
 
Ptt อาณาจักรสูโขทัย
Ptt อาณาจักรสูโขทัยPtt อาณาจักรสูโขทัย
Ptt อาณาจักรสูโขทัยYim Wiphawan
 
วรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาในสมัยล้านนา
วรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาในสมัยล้านนาวรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาในสมัยล้านนา
วรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาในสมัยล้านนาพระอภิชัช ธมฺมโชโต
 
06อาณาจักรสุโขทัย
06อาณาจักรสุโขทัย06อาณาจักรสุโขทัย
06อาณาจักรสุโขทัยJulPcc CR
 
การเมืองการปกครองอาณาจักรสุโขทัย
การเมืองการปกครองอาณาจักรสุโขทัยการเมืองการปกครองอาณาจักรสุโขทัย
การเมืองการปกครองอาณาจักรสุโขทัยKamonchanok VrTen Poppy
 
05อาณาจักรโบราณในประเทศไทย
05อาณาจักรโบราณในประเทศไทย05อาณาจักรโบราณในประเทศไทย
05อาณาจักรโบราณในประเทศไทยJulPcc CR
 

Was ist angesagt? (20)

พัฒนาการทางด้านสังคม วัฒนธรรม
พัฒนาการทางด้านสังคม วัฒนธรรมพัฒนาการทางด้านสังคม วัฒนธรรม
พัฒนาการทางด้านสังคม วัฒนธรรม
 
หัวข้อที่ ๖ อาณาจักรสุโขทัย
หัวข้อที่ ๖  อาณาจักรสุโขทัยหัวข้อที่ ๖  อาณาจักรสุโขทัย
หัวข้อที่ ๖ อาณาจักรสุโขทัย
 
พัฒนาการทางสังคมและศิลปวัฒนธรรม601
พัฒนาการทางสังคมและศิลปวัฒนธรรม601พัฒนาการทางสังคมและศิลปวัฒนธรรม601
พัฒนาการทางสังคมและศิลปวัฒนธรรม601
 
ประวัติศาสตร์สุโขทัย
ประวัติศาสตร์สุโขทัยประวัติศาสตร์สุโขทัย
ประวัติศาสตร์สุโขทัย
 
อาณาจักรอยุธยา
อาณาจักรอยุธยาอาณาจักรอยุธยา
อาณาจักรอยุธยา
 
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมัยสุโขทัย อยุธยาและธนบุรี
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมัยสุโขทัย อยุธยาและธนบุรีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมัยสุโขทัย อยุธยาและธนบุรี
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมัยสุโขทัย อยุธยาและธนบุรี
 
อยุธยา
อยุธยาอยุธยา
อยุธยา
 
งานสังคม...
งานสังคม...งานสังคม...
งานสังคม...
 
ความสัมพั...Pptx กลุ่ม 4
ความสัมพั...Pptx  กลุ่ม 4ความสัมพั...Pptx  กลุ่ม 4
ความสัมพั...Pptx กลุ่ม 4
 
07อาณาจักรอยุธยา
07อาณาจักรอยุธยา07อาณาจักรอยุธยา
07อาณาจักรอยุธยา
 
มงคลวิเสสกถา
มงคลวิเสสกถามงคลวิเสสกถา
มงคลวิเสสกถา
 
สุโขทัย
สุโขทัยสุโขทัย
สุโขทัย
 
ผลงานนักเรียนชั้น ม.6/1
ผลงานนักเรียนชั้น ม.6/1ผลงานนักเรียนชั้น ม.6/1
ผลงานนักเรียนชั้น ม.6/1
 
Ptt อาณาจักรสูโขทัย
Ptt อาณาจักรสูโขทัยPtt อาณาจักรสูโขทัย
Ptt อาณาจักรสูโขทัย
 
การเมืองก...Pptx กลุ่ม 2
การเมืองก...Pptx กลุ่ม 2การเมืองก...Pptx กลุ่ม 2
การเมืองก...Pptx กลุ่ม 2
 
วรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาในสมัยล้านนา
วรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาในสมัยล้านนาวรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาในสมัยล้านนา
วรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาในสมัยล้านนา
 
วรรณกรรมบาลีในประเทศไทย
วรรณกรรมบาลีในประเทศไทยวรรณกรรมบาลีในประเทศไทย
วรรณกรรมบาลีในประเทศไทย
 
06อาณาจักรสุโขทัย
06อาณาจักรสุโขทัย06อาณาจักรสุโขทัย
06อาณาจักรสุโขทัย
 
การเมืองการปกครองอาณาจักรสุโขทัย
การเมืองการปกครองอาณาจักรสุโขทัยการเมืองการปกครองอาณาจักรสุโขทัย
การเมืองการปกครองอาณาจักรสุโขทัย
 
05อาณาจักรโบราณในประเทศไทย
05อาณาจักรโบราณในประเทศไทย05อาณาจักรโบราณในประเทศไทย
05อาณาจักรโบราณในประเทศไทย
 

Ähnlich wie อาณาจักรสมัยโบราณ

ประวัติองค์พระปฐมเจดีย์
ประวัติองค์พระปฐมเจดีย์ประวัติองค์พระปฐมเจดีย์
ประวัติองค์พระปฐมเจดีย์A'mp Minoz
 
Nakhonnayokk
NakhonnayokkNakhonnayokk
Nakhonnayokkchompoo
 
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครPRINTT
 
เรื่องที่ 2 ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
เรื่องที่ 2 ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์เรื่องที่ 2 ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
เรื่องที่ 2 ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์numattapon
 
วังในบางกอก / ภูมิปัญญาฯ / ม.3/9
วังในบางกอก / ภูมิปัญญาฯ / ม.3/9วังในบางกอก / ภูมิปัญญาฯ / ม.3/9
วังในบางกอก / ภูมิปัญญาฯ / ม.3/9Varit Sanchalee
 
อาณาจักรอยุธยา
อาณาจักรอยุธยาอาณาจักรอยุธยา
อาณาจักรอยุธยาsangworn
 
Conceptของสุโขทัย
ConceptของสุโขทัยConceptของสุโขทัย
Conceptของสุโขทัยsangworn
 
1.2 หลักฐานทางปวศ.
1.2 หลักฐานทางปวศ.1.2 หลักฐานทางปวศ.
1.2 หลักฐานทางปวศ.Jitjaree Lertwilaiwittaya
 
1.2 ประวัติศาสตร์ (รวม) new
1.2 ประวัติศาสตร์ (รวม) new 1.2 ประวัติศาสตร์ (รวม) new
1.2 ประวัติศาสตร์ (รวม) new Jitjaree Lertwilaiwittaya
 

Ähnlich wie อาณาจักรสมัยโบราณ (20)

357
357357
357
 
ประวัติองค์พระปฐมเจดีย์
ประวัติองค์พระปฐมเจดีย์ประวัติองค์พระปฐมเจดีย์
ประวัติองค์พระปฐมเจดีย์
 
รายงานโครงงานสังคมศึกษา
รายงานโครงงานสังคมศึกษารายงานโครงงานสังคมศึกษา
รายงานโครงงานสังคมศึกษา
 
สมเด็จพระนาราย์มหาราช
สมเด็จพระนาราย์มหาราชสมเด็จพระนาราย์มหาราช
สมเด็จพระนาราย์มหาราช
 
คำนิยมท่องศรีลังกา(สุภาศิริ)
คำนิยมท่องศรีลังกา(สุภาศิริ)คำนิยมท่องศรีลังกา(สุภาศิริ)
คำนิยมท่องศรีลังกา(สุภาศิริ)
 
Nakhonnayokk
NakhonnayokkNakhonnayokk
Nakhonnayokk
 
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
 
ลังกากถา โดย ปิยเมธี
ลังกากถา โดย ปิยเมธีลังกากถา โดย ปิยเมธี
ลังกากถา โดย ปิยเมธี
 
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดียอารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
 
Indus1
Indus1Indus1
Indus1
 
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดียอารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
 
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดียอารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
 
เรื่องที่ 2 ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
เรื่องที่ 2 ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์เรื่องที่ 2 ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
เรื่องที่ 2 ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
 
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
พ่อขุนรามคำแหงมหาราชพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
 
วังในบางกอก / ภูมิปัญญาฯ / ม.3/9
วังในบางกอก / ภูมิปัญญาฯ / ม.3/9วังในบางกอก / ภูมิปัญญาฯ / ม.3/9
วังในบางกอก / ภูมิปัญญาฯ / ม.3/9
 
อาณาจักรอยุธยา
อาณาจักรอยุธยาอาณาจักรอยุธยา
อาณาจักรอยุธยา
 
Conceptของสุโขทัย
ConceptของสุโขทัยConceptของสุโขทัย
Conceptของสุโขทัย
 
1.2 หลักฐานทางปวศ.
1.2 หลักฐานทางปวศ.1.2 หลักฐานทางปวศ.
1.2 หลักฐานทางปวศ.
 
Art
ArtArt
Art
 
1.2 ประวัติศาสตร์ (รวม) new
1.2 ประวัติศาสตร์ (รวม) new 1.2 ประวัติศาสตร์ (รวม) new
1.2 ประวัติศาสตร์ (รวม) new
 

อาณาจักรสมัยโบราณ

  • 1. อาณาจัก รสมัย โบราณ อาณาจักรโบราณที่เกี่ยวข้อง ยะลาในอดีตคือส่วนหนึ่งของปัตตานี อาณาจักรโบราณที่เกี่ยวข้องกับเมืองปัตตานี คือ อาณาจักรลังกาสุกะ หรือลังกาซูก ซึ่งถือกันว่า เป็นอาณาจักรที่เก่าแก่ที่สุดบนแหลมมลายู อาณาจักรลังกาสุกะ พลโทดำาเนิน เลขะกุล ได้กล่าวถึงลังกาสุกะไว้ดังนี้ "ในการค้นหาที่ ตั้งของอาณาจักร ลังกาสุกะ นายปอล วีตลีย์ ได้ใช้บันทึกของผู้โดยสาร เรือผ่านอาณาจักรนี้มากมายหลายเชื้อชาติ แต่ที่มากที่สุด และได้ราย ละเอียดมากที่สุดได้แก่ ชาวจีน เพราะชาวจีนได้บันทึกมาตั้งแต่ปลาย พุทธศตวรรษที่ 11 จนถึงที่มาต้วนหลิน ได้เขียนไว้ใน พ.ศ. 1443 แม้ว่าบันทึกเหล่านั้นได้เรียก ชื่อแปลก ๆ แต่ต่างกันไปมากมาย ตาม เวลาอันยาวนานที่ผ่านมา แต่ในที่สุดนายปอล วิตลีย์ ได้สรุปลงว่าแคว้น ลังกาสุกะ ตั้งอยู่ระหว่างเมืองกลันตันกับเมืองสงขลา และความเห็นนี้ ก็ได้ ยอมรับกันในวงนักประวัติศาสตร์ทั่วไปแล้ว เรื่องราวของอาณาจักรลังกาสุกะนี้ มีปัญหามาก เริ่มตั้งแต่การตั้ง อาณาจักร ศาสตราจารย์ ม.จ. สุภัทรดิศ ดิศกุล ทรงอ้างว่า จดหมายเหตุของจีนราชวงศ์เหลียง (พ.ศ. 1045 - 1099) กล่าวว่า อาณาจักรลังกาสุกะ ได้ตั้งมาก่อนหน้านี้แล้วตั้ง 400 ปี ซึ่ง หมายความ ว่าได้ตั้งขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 7 และกล่าวด้วยว่า อาณาจักรนี้มี อาณาเขตจรด ทั้งสองฝั่งทะเล คือ ด้านตะวันออกจดฝั่งอ่าวไทยบริเวณ เมืองปัตตานี ด้านตะวันตกจดฝั่งอ่าว เบงกอลเหนือ เมืองไทรบุรี ใน ประเด็นหลังนั้น ศาสตราจารย์ฮอลล์เห็นด้วย ซำ้ายังกล่าว เพิ่มเติมว่า ก็ เพราะอาณาจักรลังกาสุกะ มีอำานาจปกครองคร่อมอยู่ทั้งสองฝั่งทะเลเช่น นี้เอง จึงได้ทำาหน้าที่ควบคุมเส้นทางเดินข้ามแหลมมลายู มาแต่โบราณ แต่ศาสตราจารย์ปอล วีตลีย์ ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องแหลมมลายูโดยเฉพาะ มีความเห็นแตกต่างออกไป โดยกล่าวว่าจะเชื่อถือ เรื่องราวอันวิปริต จากตำานานไทรบุรี - ฮีกายัตมะโรงมหาวังศาไม่ได้ เพราะเป็นเทพนิยาย ที่แต่งขึ้น เมื่อชาวอินเดียได้เข้ามาถึง ในพุทธศตวรรษที่ 6 นี้เอง การที่ เนื้อความของเทพนิยายนี้ชวนให้ คิดว่า อาณาจักรลังกาสุกะกับแคว้น ไทรบุรีตั้งทับกันอยู่ และอาณาจักรลังกาสุกะมีอาณาเขต คร่อมทั้งสอง ฟากฝั่งทะเลนั้น จึงเชื่อไม่ได้ อาณาจักรลังกาสุกะตั้งอยู่บนฝั่งทะเล ตะวันออก เท่านั้น นอกจากนั้นยังอ้างหลักฐานของเลียงซูว่า อาณาจักร ลังกาสุกะได้ตั้งเมื่อปลายพุทธศตวรรษ ที่ 7 ทั้งยังกล่าวด้วยว่า ในขณะ ที่พระเจ้าฟันชิมันแห่งอาณาจักรฟูนันเข้าครองนั้น อาณาจักรนี้ ยังไม่มี
  • 2. ชื่อ (อาจมี แต่เรียกอย่างอื่นก็ได้) ชื่อลังกาสุกะ อาณาจักรสำาคัญที่เที่ยว แทรกอยู่ตาม บันทึกและหนังสือประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ตั้งแต่พุทธศตวรรษ ที่ 7 จนถึงที่ 20 ก็ถูกกลบหายไปจาก แผนที่แหลมมลายู แม้ชื่อ อาณาจักรลังกาสุกะจะถูกเลือนลืมไปแล้ว แต่บ้านเมืองและประชาชน ที่ เป็นพื้นฐานของอาณาจักรนั้น มิได้ถูกกวาดทิ้งออกไปด้วย ยังคงอยู่เว้น แต่ชื่ออาณาจักรชื่อ เมืองต่าง ๆ เท่านั้นที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา นอกจากนี้ยังได้เขียนถึง เมืองปัตตานี ซึ่งเกี่ยวข้องกับอาณาจักร ลังกาสุกะไว้ดังนี้ "ตามชายฝั่ง แม่นำ้าปัตตานี มีร่องรอยว่า เคยมีชุมชน โบราณตั้งเรียงรายกันอยู่หลายแห่ง เฉพาะที่เป็นแหล่ง ใหญ่ และค้นพบ เศษโบราณวัตถุ และซากโบราณสถานมาก ๆ แสดงให้เห็นว่า เคยเป็น เมือง มาก่อนมีอยู่ 2 แห่ง คือ บริเวณบ้านเนียง - สนามบิน - วัดคูหาภิ มุข (วัดหน้าถำ้า) - เขากำาปั่น ในจังหวัดยะลาแห่งหนึ่ง และบริเวณอำาเภอ ยะรัง จังหวัดปัตตานีอีกแห่งหนึ่ง... บริเวณอำาเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี ที่นั่นได้พบที่ตั้ง โบราณสถานอยู่ 2 กลุ่มใหญ่ ตั้งอยูห่างกัน 3 - 4 ่ กิโลเมตร คือ ที่บ้านประแว กลุ่มหนึ่ง และที่บ้านวัด อีกกลุ่มหนึ่ง ที่บ้าน ประแวพบซากเมืองโบราณ ขนาดเล็ก มีกำาแพงล้อมชั้นเดียว ชวนให้คิด เห็นว่าก่อนพุทธศตวรรษที่ 18 ขึนไปอาจจะเป็น ศาสนสถาน เพราะมี ้ เนินดิน เคยเป็นที่ตั้งอารามมาก่อน และพบเครื่องปั้นดินเผา ธรรมจักร และพระพุทธรูปซึ่งมีลวดลายและรูปทรงแบบศิลปทวารวดีของภาคกลาง (พุทธศตวรรษที่ 12 - 16)มากมาย และยังได้พบเทวรูปพระโพธิสัตว์ สัมฤทธิ์แบบศิลปศรีวิชัย ศิวลึงค์ของ ลัทธิฮินดูสมัยต่าง ๆ และใบเสมา สมัยอยุธยาบ้าง ซึ่งนับได้ว่าเป็นพุทธศาสนสถาน ขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ของภาคใต้ ส่วนบริเวณที่อยู่อาศัยของประชาชน ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใน บริเวณ บ้านวัด และน่าจะเป็นบ้านเมืองมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 11 - 12 น่าคิดว่า ชื่อ "บ้านวัด" นั้นเดิมทีคงจะเป็นวัดพุทธศาสนามาก่อน เพราะพบโคกดินสูง ๆ อยู่ทั่วสวนของชาวบ้าน (ถ้าจะมีการขุดค้นกัน เป็นทางราชการ จะได้ทราบอะไร ๆ อีกมาก) ตามที่ได้พบหลักฐานทางโบราณคดีดังกล่าวนี้เอง ทำาให้นัก โบราณคดีและ นักประวัติศาสตร์จากอังกฤษ มาเลเซีย และสหรัฐ ที่เดิน ทางเข้ามาสำารวจต่างก็ให้ ความเห็นลงรอยเดียวกันว่า เมืองประแวนี้ แหละ คือ เมืองลังกาสุกะที่ปรากฏใน จดหมายเหตุจีนพุทธศตวรรษที่ 11 - 12 และเอกสารช่วงในพุทธศตวรรษที่ 20 แล้วเงียบหาย ไปใน พุทธศตวรรษที่ 21 คุณอนันต์ ผู้มีโอกาสเคยไปสำารวจตำาบลต่างๆ ห่าง ไกลออกไปมาก่อน ได้ให้ความเห็นว่า เมืองประแวนี้เป็นเมืองปัตตานี เก่าที่ย้ายมาเป็นแห่งที่ 3 นับจากบริเวณ สนามบิน - วัดคูหาภิมุข ไปอยู่
  • 3. ที่อำาเภอรือเสาะ แล้วจึงย้ายเมือง (ศูนย์การปกครอง) มาที่เมืองประ แว...) สารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต้ พ.ศ. 2529 ได้บันทึกเรื่องราวความ เป็นมาของปัตตานีไว้ดังนี้ ในท้องที่ปัตตานีปัจจุบัน มนุษย์ได้เคลื่อนย้าย เข้าไปอาศัยตั้งถิ่นฐานมานานนับปี จากการสำารวจ ทางโบราณคดีเบื้อง ต้น ได้พบร่องรอยของชุมชนโบราณในปัตตานีที่ อำาเภอยะรัง รู้จักกัน โดย ทั่วไปในภาษาท้องถิ่นว่า "เมืองประแว" ซึ่งเชื่อกันว่าเพี้ยนมาจาก คำาว่า "พระวัง" หรือ "พระราชวัง" หรือตรงกับภาษามลายูโบราณว่า "โ กตามะลิฆา" หรือ "โกตา ม้ะฮ์ลิฆา" และปรากฏในเอกสารของชาวต่าง ชาติ โดยเฉพาะเอกสานจีน อาหรับและชวา ตราสำาเนียง ท้องถิ่นว่า "ลัง กาสุกะ" เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรือง อยู่ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 10 - 18 ตามข้อ สันนิษฐานของประทุมชุ่มเพ็งพันธ์ เชื่อว่า "...ลังกาสุกะ มี อาณาเขตกว้างขวาง มีกำาลังอำานาจ เทียบได้กับอาณาจักรขนาดย่อม แห่งหนึ่งทีเดียว เพราะหลักฐานทางโบราณคดีที่ค้นพบ ยืนยันในข้อนี้ เป็นอย่างดี แต่ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า ตอนที่เมืองลังกาสุกะเจริญสูงสุด มีอาณาเขตปกครองจากไหนถึงไหน ทราบเพียงว่าภายหลังเสื่อมอำานาจ ถูกอาณาจักรตามพรลิงค์ (นครศรีธรรมราช) ผนวกไว้เป็นดินแดน เดียวกัน ถ้าพิจารณาจากจดหมายเหตุอาหรับ และจีน ทำาให้ทราบคร่าว ๆ ว่าเมืองลังกาสุกะเป็นเมืองใหญ่ อาณาเขตด้านทิศเหนือติดต่อเมือง สงขลา และเมืองพัทลุง อาณาเขตด้านทิศใต้แผ่ไปสุดแหลมมลายู ทาง ด้านตะวันออกจดอ่าวไทย ทางด้านตะวันตกจดฝั่งทะเลตะวันตกในทะเล อันดามัน ..." เมืองไทรบุรีโบราณจึงรวมอยู่ใน อาณาจักรลังกาสุกะ ใน ตำานานพื้นเมืองของปัตตานี กล่าวว่าผู้สร้างเมืองพระวัง หรือ โกตา ม้ะฮ์ ลิฆา คือ เสียม อัสลี ตามร่องรอยที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน เมืองนี้เป็น เมืองขนาดใหญ่ โบราณสถาน ในเมืองปรักหักพังหมด เหลือแต่เฉพาะ กองอิฐ ซึ่งเชื่อกันว่า เคยเป็นเจดีย์ อุโบสถ วิหาร และเทวาลัย มีอยู่ ทั้งหมดประมาณ 16 แห่ง และสระนำ้าขนาดใหญ่อีก 3 แห่ง ศิลปวัตถุ ของ เมืองนี้จึงกระจัดกระจายอยู่ในที่ต่างๆ กัน มีหลายอย่างด้วยกันคือ พระพุทธรูปศิลาสมัยทวารวดี พระโพธิสัตว์สัมฤทธิ์ ศิวลึงค์ เสมา ธรรมจักร เครื่องถ้วยชามจีน เครื่องปั้นดินเผา เงินเหรียญชวา และเงิน เหรียญอาหรับ เป็นต้น จากหลักฐานเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่า เมืองลังกา สุกะเป็นเมืองที่ประชาชนนับถือพุทธศาสนา ลัทธิมหายาน และศาสนา ฮินดู ส่วนชาวเมืองนั้นไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นชนชาติใด ตามความเห็น ของผู้บันทึกประวัติศาสตร์ปัตตานีคนหนึ่ง คือ อิบรอฮิม ชุกรี เชื่อว่าดิน แดน ปัตตานี เป็นที่อยู่ของชาวสยามมาก่อนที่ชาวมาเลย์จะอพยพนำา เอาศาสนาอิสลามเข้ามา ตอนปลายพุทธศตวรรษที่ 21 ในรัชสมัย
  • 4. พระเจ้าศรีวังสา กษัตริย์ซึ่งนับถือพุทธศาสนาองค์สุดท้ายของอาณาจักร ลังกาสุกะ ปกครองเมืองพระวังตอนปลายพุทธศตวรรษที่ 21 มีชาว มลายูเดินทางมาปลายแหลม มลายู และสุมาตรา มาตั้งบ้านเรือนอาศัย อยู่บริเวณริมฝั่งทะเลของเมืองพระวัง จนในที่สุด ชุมชนของชาวมลายู ค่อย ๆ เจริญขึ้นเพราะสามารถติดต่อกับพ่อค้าต่างชาติได้สะดวก แตก ต่างไปจากเมืองพระวัง ซึ่งอยู่ห่างทะเลเข้าไปหลายสิบกิโลเมตร ค่อยๆ เสื่อมโทรมลงไป เพราะชาวเมืองได้อพยพไปอยู่ที่อื่น ชุมชนของชาว มลายูนี้ ต่อมาได้พัฒนากลายเป็น "เมืองปัตตานี" ปัจจุบัน เป็นศูนย์กลาง ปกครองท้องถิ่น แทนเมืองพระวัง ซึ่งค่อย ๆ เสื่อมสลายไปโดยไม่ทราบ สาเหตุชัดเจน นอกจากจะอยู่ห่างไกลทะเล และเป็นศูนย์กลางพระพุทธ ศาสนาและศาสนาฮินดู แต่เมืองปัตตานีกลับอยู่ใกล้ทะเลและเป็น ศูนย์กลางของศาสนาอิสลาม พลโทกิตติ รัตนฉายา ได้กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของจังหวัด ปัตตานีว่า ตามหลักฐาน ทางประวัติศาสตร์นั้น ยังไม่มีหลักฐานแน่นอน ว่าได้ตั้งขึ้นเมื่อไร แต่ตามจดหมายเหตุของจีน ตอนที่ชาวจีนมีการ ติดต่อกับดินแดนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในคริสศตวรรษที่ 2 นั้น เมืองลังกาสุกะตั้งขึ้นแล้ว จากจดหมายเหตุนี้ นักเรียนชาวยุโรปหลาย คนเชื่อว่า เมืองลังกาสุกะ ดังกล่าวเป็นเมืองเดิมของปัตตานี นัก ประวัติศาสตร์หลายคนเชื่อว่า ชาวลังกาสุกะนับถือ ศาสนาฮินดู หรือ พราหมณ์ ภายใต้อิทธิพลของอารยธรรมอินเดีย หลักฐานจากโบราณ วัตถุ สถานที่บริเวณเมืองโบราณ อำาเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พบพระ พุทธรูปสมัยคุปตะ เจดีย์ ดินเผามีลวดลายแบบคุปตะ (หรือทวาราวดี) แสดงว่าชาวลังกาสุกะนับถือศาสนาฮินดูและพุทธ (ศิวพุทธ) ด้วยและ ลังกาสุกะเป็นเมืองท่าที่สำาคัญตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 8 เพราะว่าอ่าวลังกา สุกะ (อ่าวปัตตานี) ใช้เป็นที่หลบภัยพายุมรสุมของชาวเรือค้าขายได้เป็น อย่างดี ต่อมาอาณาจักรศรีวิชัย (พุทธศตวรรษที่ 12 - 18) ได้แผ่ อาณาจักรครอบคลุมบริเวณปัตตานี แหลมมลายู บางส่วนของ บอร์เนียว ชวา และสุมาตรา อิทธิพลของพุทธศาสนาได้เจริญรุ่งเรือง มากในบริเวณนี้ ดังนั้นชาวปัตตานีจึงมีการนับถือศาสนาพุทธกันโดย ทั่วไป ศาสนาอิสลามเข้าสู่ปัตตานีโดยอิทธิพล ของมะละกา สมัย มูซัฟฟาร์ ราว พ.ศ. 2002 ประวัติเมืองปัตตานีฉบับภาษามลายู (อักษร ยาวี) ระบุว่ากษัตริย์เมืองตานีชื่อ ศรีอินทรา เป็นผู้เข้ารีตองค์แรก สอดคล้องกับประวัติศาสตร์เมือง มะละกา ปัตตานีหรือเมืองตานีตั้งขึ้น หลังจากเมืองลังกาสุกะสลายตัว ราวพุทธศตวรรษที่ 18 - 19"