1. กลุ่ม 34

2. ภูมิใจเสนอ

3. เครื่องดื่ม...สุขภาพของเด็กศิลปากร

4. น้ำน้ำ คือ ปัจจัยที่จำเป็นในการดำรงชีพของมนุษย์มากที่สุด เราจำเป็นต้องบริโภคน้ำที่สะอาด เพื่อสุขภาพที่ดี โดยทั่วไปแล้วคนเราอาจขาดน้ำได้เพียงแค่ประมาณ 3-5 วัน หากเกินกว่านี้เราอาจเสียชีวิตได้ เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบหลักของร่างกายมนุษย์ คุณภาพของน้ำจึงมีอิทธิพลต่อสุขภาพร่างกายของมนุษย์เป็นอย่างยิ่ง ด้วยจำนวนเครื่องดื่มที่มีมากมายหลากหลายชนิดในปัจจุบัน ทำให้เครื่องดื่มกลายเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสุขภาพร่างกาย เพราะเครื่องดื่มแต่ละชนิดนั้น นอกจากจะให้คุณประโยชน์แล้ว ล้วนแต่แฝงไปด้วยโทษมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ แต่คนเรากลับมองข้ามในเรื่องสำคัญเช่นนี้ไปอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นเราจึงควรศึกษาประโยชน์และโทษของเครื่องดื่มชนิดต่างๆเพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินเลือกบริโภค

5. น้ำเปล่า

6. ประโยชน์ของน้ำ น้ำสามารถช่วยไม่ให้ท้องผูก หากร่างกายได้รับน้ำน้อย ทำให้ขับถ่ายลำบาก แต่น้ำก็ยังสามารถช่วยให้อาการท้องผูกหายได้ โดยการดื่มน้ำให้เพียงพอ น้ำยังช่วยทำให้กล้ามเนื้อของเรา มีความชุ่มชื้น และยังทำให้ผิวหนังไม่เหี่ยวย่นหลังจากการดูแลรูปลักษณ์ เซลล์ขนาดเล็กสามารถลอยตัวอยู่ได้ด้วยน้ำทำให้ผิวหนังดูเปล่งปลั่งและสดใส ชุ่มชื้น ไต สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหากเราทานน้ำเพียงพอ

7. โทษของน้ำด้วยอากาศและมลภาวะในสังคมไทยในปัจจุบัน อาจทำให้กระบวนการผลิตน้ำของบริษัทต่างๆอาจไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งอาจทำให้มีสารปนเปื้อน ในน้ำดื่ม ซึ่งก่อนเลือกซื้อควรดูความหนาแน่นของบรรจุภัณฑ์ และความสะอาดของน้ำดื่มด้วย

8. น้ำอัดลม

9. ประโยชน์ ในน้ำอัดลม ประโยชน์ ในน้ำอัดลม มีกลูโคสสูง เมื่อดื่มช่วยให้สดชื่น เมื่อเขย่าก่อนเปิดเพื่อช่วยลดแก๊ส เหมาะแก่ให้นักกีฬาดื่ม

10. โทษของการดื่มน้ำอัดลม น้ำอัดลมทำให้ฟันผุ เนื่องจากน้ำอัดลมมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบในปริมาณมากและมีสภาวะเป็นกรดด้วย ได้แก่ กรดคาร์บอนิก จะไปกัดกร่อนเคลือบฟัน ทำให้ฟันผุได้ น้ำอัดลมทำให้ท้องอืด เพราะเกิดก็าซในกระเพาะอาหารและสภาวะที่เป็นกรดของน้ำอัดลมก็ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหารด้วย น้ำอัดลมดื่มได้พลังงานอย่างเดียว แต่เป็นพลังงานที่ว่างเปล่าหรือEmptycalories โดยไม่มีสารอาหารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีก การดื่มน้ำอัดลมบ่อย ๆ ไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อร่างกายเท่าไรนัก ถ้าดื่มทุกวันหรือทุกมื้ออาหารจะทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลมากโดยไม่จำเป็น

11. น้ำกระเจี๊ยบ

12. ประโยชน์ที่ร่างกายได้รับ คุณค่าทางอาหาร : ให้วิตามินเอสูงมาก ช่วยบำรุงสายตา รองลงมามี แคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูกและฟันคุณค่าทางยา : ช่วยขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิต เป็นยาระบายอ่อนๆ และช่วยแก้อาการกระหายน้ำ

13. น้ำเก๊กฮวย

14. ประโยชน์ของน้ำเก็กฮวย หอมสดชื่น มีสรรพคุณที่สำคัญคือ- เป็นยาเย็น ดับพิษร้อน แก้ร้อนใน- เป็นยาแก้ปวดท้องและช่วยระบาย- ช่วยขยายหลอดเลือดแดงใหญ่ที่เลี้ยงหัวใจ จึงช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดต่างๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเส้นเลือดตีบ และโรคหัวใจได้- ปวดเมื่อยร่างกาย ฯลฯ การดื่มน้ำเก็กฮวยสามารถลดความร้อนของร่างกายได้เนื่องจากเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น จะช่วยขับพิษร้อนจากตับออกมาได้

15. โทษของน้ำสมุนไพรกระบวนการผลิตน้ำสมุนไพรนั้นมักเกิดจากการแปรรูปของน้ำตาล แต่งกลิ่น แต่งสี ซึ่งเมื่อเราดื่มแทนที่จะได้รับประโยชน์จากสมุนไพร กลับทำให้ได้รับโทษจากสารเคมีต่างๆ เมื่อเราดื่มในปริมาณมากๆทำให้สารเคมีเหล่านี้ไปสะสมในตับซึ่งก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของเรา นอกจากโทษจากสารเคมีแล้ว การดื่มน้ำสมุนไพรยังทำให้เราได้รับน้ำตาลเพิ่มโดยไม่จำเป็นอีกด้วย

16. น้ำมะนาว

17. ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับคุณค่าทางอาหาร: มีวิตามินซีมากช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟันคุณค่าทางยา: ช่วยขับเสมหะ ลดอาการไอ เจ็บคอ คลื่นใส้อาเจียนและช่วยขับลมในกระเพาะ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อและอ่อนเพลีย

18. น้ำส้ม

19. ประโยชน์ที่ร่างกายได้รับคุณค่าทางอาหาร : มีวิตามินเอมากช่วยบำรุงสายตา นอกจากนี้ยังมี แคลเซียม ฟอสฟอรัสและวิตามินซี ช่วยบำรุงกระดูกและฟันคุณค่าทางยา : ป้องกันโรคโลหิตจาง ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน

20. น้ำมะพร้าว

21. ประโยชน์ของน้ำมะพร้าว ' น้ำมะพร้าว ' ถือเป็นเครื่องดื่มเกลือแร่จากธรรมชาติ เพราะต้นมะพร้าวมีลำต้นสูงต้องผ่านการกลั่นกรองตามชั้นต่างๆ ของลำต้นกว่าจะถึงลูกมะพร้าวที่อยู่ข้างบน น้ำมะพร้าวที่ได้มาจึงบริสุทธิ์มาก และอุดมไปด้วยแร่ธาตุหลายชนิด เช่น โพแทสเซียม เหล็ก โซเดียม แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส ทองแดง กรดอะมิโน กรดอินทรีย์ และวิตามินบี แถมยังมีน้ำตาลกลูโคสที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้ภายใน 5 นาที และยังเป็นประโยชน์ในการขับสารพิษและชำระล้างร่างกายด้วย

22. น้ำแอปเปิ้ล

23. ประโยชน์ของน้ำแอปเปิ้ลเป็นไปได้ว่าการดื่มน้ำแอปเปิลเข้มข้นอาจช่วยเสริมความจำ โดยมีผลการเพิ่มปริมาณของสารสื่อประสาทอะซีทิลโคลีน ที่ช่วยกระตุ้นความทรงจำ เพิ่มสมาธิและประสิทธิภาพการเรียนรู้ อีกทั้งช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง อันเนื่องมาจากอายุที่มากขึ้น และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งน้ำแอปเปิลเข้มข้น ที่ให้หนูกินในแต่ละวัน สามารถเทียบได้กับการดื่มน้ำแอปเปิลเข้มข้นแก้วละ 8 ออนซ์ วันละ 2 แก้ว หรือเท่ากับการรับประทานแอปเปิลวันละ 2-3 ลูก

24. น้ำฝรั่ง

25. ประโยชน์ของน้ำฝรั่งคุณค่าทางอาหาร : มีวิตามินซีสูง ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันและมีสาร เบต้า-แคโรทีน ช่วยลดสารพิษในร่างกาย ทั้งยังป้องกันไม่ให้ไขมันจ้บที่ผนังหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเลือดแข็งตัวคุณค่าทางยา : ช่วยลดระดับไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ป่วยเส้นเลือดอุดตัน

26. โทษของน้ำผลไม้ ส้มเป็นผลไม้ที่ใช้สารเคมีเป็นอันดับต้นๆ นอกจากนั้นก็พวกฝรั่ง แครอท องุ่น ผักคะน้า อีกหลายชนิด เวลาในโรงงานผลิต เค้าไม่ปอกเปลือกหรอกคั้นกันทั้งเปลือก ไม่ว่าจะส้ม องุ่นและ ฝรั่ง เวลาล้างมันกำจัดสารเคมีได้ไม่หมดหรอก มันก็ไปตกค้างในน้ำผลไม้ที่เราดื่ม แต่ว่าปริมาณที่ตกค้างแต่ละขวดมันไม่สามารถทำให้เกิดอาการได้ทันที แต่จะสะสมไว้ในร่างกายร่างกายสะสมสารพิษจากพวกยาฆ่าแมลงจนถึงจุดที่มันแสดงอาการ ถ้ามีมากๆ ก็จะสะสมไว้ในตับ แล้วพวกน้ำส้มที่เค้าคั้นขายสดก็ไม่ควรดื่ม เพราะนอกจากจะมีสารเคมี พวกยาฆ่าแมลงตกค้างแล้ว ตัวเครื่องที่ใช้คั้นก็เป็นตัวสะสมแบคทีเรีย เพราะแม่ค้าเค้าคั้นตั้งแต่เช้า กว่าจะล้างก็เย็น ช่วงระหว่างวันอากาศเมืองไทยร้อน ทำให้พวกแบคทีเรียเจริญเติบโตได้เร็ว

27. ชาเขียว

28. ประโยชน์ของชาเขียวสถาบันสุขภาพอเมริกา พบว่า ชาทั้งหลายล้วนมีฤทธิ์ต้านมะเร็งได้ เพราะในชามีสารคาเทชิน(Catechins หรือ EGCG) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระมากกว่าวิตามินอี 20 เท่า และสามารถยับยั้งการสร้างสารไนโตรซามีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่เกิดจากดินปะสิวในอาหาร ที่เกิดขึ้นเมื่อเจอกับสารอามีน ในอาหารทะเล เป็นตัวก่อมะเร็งได้หลายชนิด ซึ่งสารคาเทชินจะพบในชาเขียวมากที่สุด ชาเขียวยังมีฤทธิ์ในการล้างพิษออกจากร่างกายได้ แต่ไม่มีสิ่งใดบนโลกที่มีแต่ประโยชน์แล้วไม่มีโทษ การดื่มชาก็มีโทษแอบแฝง

29. โทษของชาเขียวชาพร้อมดื่มมีคุณค่าพอๆ กับน้ำเปล่า สารอาหารที่มีอยู่ในชาพร้อมดื่ม เมื่อเทียบกันแล้วไม่ต่างจากน้ำเปล่าเท่าไหร่ และยังมีการเติมน้ำตาลทำให้เพิ่มแคลอรีโดยไม่จำเป็น การดื่มชาเขียวจึงไม่ต่างกับการดื่มน้ำอัดลม ซึ่งให้พลังงานสูญเปล่า เพราะพลังงานที่ได้จากน้ำตาลเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว ไม่มีสารอาหารอย่างอื่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ร่างกายไม่จำเป็นต้องได้รับพลังงานจากน้ำตาล

30. ชา

31. ประโยชน์ของชาชา มีวิตามินตั้งแต่วิตามีน A, B1, B2, B3, P, PP, C เป็นต้น ในจำนวนนี้วิตามีน C มีมากที่สุด ผู้ใหญ่ดื่มชาเขียวสองถึงสามถ้วยทุกวัน ก็จะได้วิตามีน C ปริมาณครึ่งหนึ่งที่ร่างกายต้องการ ชาช่วยย่อยสลายไขมัน ลดคลอเรสเตอรอลได้ ช่วยสลายพลังงานไป 40 แคลลอ ชา ยังเหมาะสำหรับคนที่เวลาเครียดหรืออารมณ์หงุดหงิด ชา จะไปช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง ชาช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผนังเส้นเลือดและขยายหลอดเลือด ช่วยลดความดันและป้องกันเส้นเลือดตีบได้ ชายังช่วยป้องกันฟันผุได้ด้วย ดังจะเห็นว่ายาสีฟันเริ่มมีผสมใบชามาขายกันแล้ว

32. โทษของการดื่มชาชาร้อน หรือชาเย็น ไม่ควรแต่งรสด้วยนมทุกชนิด เพราะโปรตีนในนมจะไปจับกับสารสำคัญในชา และทำลายประสิทธิภาพของสารออกฤทธิ์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายโทษของการดื่มชาต่อร่างกายก็มีเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารสำคัญคือ “แทนนิน” จะไปตกตะกอนโปรตีนและแร่ธาตุต่างๆ จากอาหารที่รับประทาน ทำให้ลดการดูดซึมของสารอาหารที่มีคุณค่ใบชายังมีองค์ประกอบที่ให้โทษต่อร่างกายที่ยังไม่ค่อยมีคนกล่าวถึง คือ มีฟลูออไรด์ในปริมาณค่อนข้างสูง ทำให้เกิดการสะสม มีผลให้ไตวาย เกิดมะเร็งลำไส้ โรคกระดูกพรุน โรคข้อ และอื่นๆ ที่เกี่ยวกับกระดูก แต่ถ้าดื่มไม่มากก็ไม่ต้องกังวล

33. กาแฟ

34. ประโยชน์ของกาแฟการดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะ ช่วยลดความหงุดหงิด อารมณ์ซึมเศร้าและความเครียดได้ คลายเครียดได้ในระดับหนึ่งด้านโภชนาการ กาแฟ จึงควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม ในกาแฟยังมีแร่ธาตุไนแตซเซียมและไนอาซีน ซึ่งเป็นวิตามินบีชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ นอกจากนี้คาเฟอีนในกาแฟช่วยกระตุ้นการใช้พลังงานของร่างกาย ทำให้ไขมันสลายตัวเพิ่มขึ้น คาเฟอีนและสารอื่นที่มีอยู่ในกาแฟช่วยกระตุ้นการหลั่งกรดและน้ำย่อย กาแฟจึงช่วยในการย่อยอาหาร ดังนั้น กาแฟจึงมีประโยชน์ต่อร่างกายพอสมควร

35. โทษที่ต้องระวังจากการดื่มกาแฟกาแฟต้มหรือที่ชงแบบให้น้ำเดือดซึมผ่านผงกาแฟ หรือกาแฟที่ใช้ถุงผ้าชงนั่นเองจะเพิ่มอัตราเสี่ยงต่อโรคหัวใจ กาแฟ อาจทำให้ระดับคอลเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น การดื่มกาแฟอาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะแบบไมเกรน ผู้หญิงที่ดื่มกาแฟจัดอาจมีอัตราเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ

36. ผลสำรวจการเลือกเครื่องดื่มของเด็กศิลปากร

37. ผลสรุปจากการสำรวจจากการสำรวจ ทำให้เราทราบว่าส่วนใหญ่นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากรนั้นเลือกดื่มน้ำเปล่ามากที่สุด คือคิดเป็น 27.17 % เลือกเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม 12.14 %เลือกเครื่องดื่มประเภทน้ำสมุนไพร 13.39 %เลือกเครื่องดื่มประเภทน้ำผลไม้ 22.55 % เลือกเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ 10.09 % เลือกเครื่องดื่มประเภทนม 8.09%และ เลือกเครื่องดื่มประเภทอื่นๆ 5.78 %

38. ผลสรุปสุขภาพของนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากรจากการสำรวจทำให้สรุปได้ว่า สุขภาพนักศึกษาในมหาวิทยาลัยศิลปากร เบี่ยงเบนไปในเกณฑ์ดี เพราะเลือกเครื่องดื่มประเภทน้ำเปล่ามากที่สุด ถึงแม้ว่าน้ำเปล่าอาจจะไม่ได้สะอาดเต็ม 100 % แต่น้ำเปล่าก็มีโทษน้อยที่สุด

39. กลุ่มของข้าพเจ้าขอจบการนำเสนอเพียงเท่านี้