SlideShare a Scribd company logo
1 of 202
Download to read offline
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยี
   โรงเรียนมาตรฐานสากล
      Digital Literacy
       World-Class
         Standard
          School




      สำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย
      สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
                กระทรวงศึกษาธิการ
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยี
    โรงเรียนมาตรฐานสากล

      Digital Literacy
       World-Class
         Standard
          School




     สำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย
     สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
               กระทรวงศึกษาธิการ
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
Digital Literacy World-Class Standard School

ปีที่พิมพ์	        พุทธศักราช	2553	
จำนวนพิมพ์	        3,000	เล่ม	
ลิขสิทธิ์เป็นของ 	 สำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย	
	                  สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน	
	                  กระทรวงศึกษาธิการ	 	
ISBN	              978-616-202-277-7	
พิมพ์ท	 ี่         โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย	จำกัด		 	  	
	                  79	ถนนงามวงศ์วาน	แขวงลาดยาว	เขตจตุจักร	กรุงเทพมหานคร	10900		
	                  โทร.	0-2561-4567	โทรสาร	0-2579-5101		
	                  นายโชคดี	ออสุวรรณ	ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา
สาร
                                      จากเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

	          ความเจริญก้าวหน้าในความเป็นอยู่ของมนุษย์ได้มีการพัฒนาและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง	                 	
โดยนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตปัจจุบันของมนุษย์เพิ่มมากขึ้น	 อาจกล่าวว่าโลกปัจจุบันเป็นโลก
ของเทคโนโลยี	 เพราะมนุษย์ได้นำความรู้ทางเทคโนโลยีมาใช้ในชีวิตประจำวัน	 ทั้งด้านการใช้ชีวิตและ	                	
การปฏิบัติหน้าที่การงาน	 นอกจากนี้เทคโนโลยียังนำไปสู่การค้นพบความรู้ใหม่ๆ	 การประดิษฐ์	 คิดค้น		                	
และสร้างสรรค์ผลงาน	 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ	 อาทิ	 ด้านสังคม	 เศรษฐกิจ	 การเมือง		                     	
และการศึกษา	 ด้วยความสำคัญดังกล่าว	 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน	 จึงได้ดำเนิน
โครงการโรงเรียนมาตรฐานสากล	 (World-Class	 Standard	 School)	 เพื่อนำมาใช้เป็นนวัตกรรมการจัด	
การศึกษา	 และเป็นมาตรการเร่งด่วนในการยกระดับการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพมาตรฐานเทียบเท่า
สากล	ผู้เรียนมีศักยภาพและความสามารถทัดเทียมกับผู้เรียนนานาประเทศ		
	          การใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอนของโรงเรียนมาตรฐานสากล	 มุ่งพัฒนากระบวนการเรียนรู้
เพื่อนำพาสังคมไทยสู่สังคมแห่งภูมิปัญญาและสนองต่อคุณภาพชีวิตโดยตรง	 การเรียนรู้เทคโนโลยีจะช่วย
ปรับปรุงคุณภาพการศึกษาในศตวรรษที่	 21	 ปรับเปลี่ยนสังคมไทยไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้	 การประกัน
โอกาสของผู้เรียนให้เข้าถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิต	 และเชื่อมโยงสังคมไทยสู่สังคมโลก	 สนับสนุนความเป็น
พลโลกของคนรุ่นใหม่	 สอดคล้องกับการปฏิรูปการศึกษาโดยการให้ผู้เรียนทุกคนมีโอกาสใช้เทคโนโลยี	
เพื่อการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ	 พอเพียง	 และทั่วถึง	 ผู้เรียนมีความรู้ด้านเทคโนโลยีในระดับพื้นฐาน		         	
เพื่อสามารถเข้าถึง	 ค้นคว้า	 รวบรวม	 และประมวลผลจากแหล่งความรู้ต่างๆ	 นำไปสร้างองค์ความรู้ใหม่	
ตลอดจนรู้ จั ก บู ร ณาการความรู้ ด้ า นเทคโนโลยี แ ละการจั ด การสารสนเทศ	 ผู้ เ รี ย นมี ทั ศ นคติ ที่ ดี แ ละ	
                                                                                                              	
พัฒนาจริยธรรมเชิงบวกในการใช้เทคโนโลยี	 เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต	 และพัฒนา
กระบวนการคิดวิเคราะห์อย่างยั่งยืน	
	          เอกสาร	 “การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล	 :	 Digital	 Literacy	 World-Class	
Standard	 School”	 ฉบับนี้	 จะช่วยให้ครูผู้สอนมีความรู้ความเข้าใจ	 และมีทักษะการใช้เทคโนโลยีในการ
จัดการเรียนการสอน	 มีวิสัยทัศน์ก้าวไกล	 ส่งเสริมผู้เรียนให้พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และสร้างสรรค์	
ด้วยทรัพยากรทางการเรียนรู้เทคโนโลยีอย่างกว้างขวางต่อไป	 ขอขอบคุณผู้มีส่วนร่วมในการจัดทำเอกสาร
ฉบับนี้	ไว้	ณ	ที่นี้	 	
	
	
	
	                                                           (นายชินภัทร	ภูมิรัตน)	
	                                                เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
สารบัญ

                     ตอนที่
1
               1
    การเรียนรู้ดิจิทัล
                     สู่โรงเรียนมาตรฐานสากล

  ตอนที่
2
17
  การใช้โปรแกรมสำเร็จรูป 	
  และเครือข่ายสังคมเพื่อการเรียนรู้

                     ตอนที่
3
      59
            แหล่งเรียนรู้
                     บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ตอนที่
      1
          การเรียนรู้ดิจิทัล
สู่โรงเรียนมาตรฐานสากล
1
           การเรียนรู้ดิจิทัล
               (Digital Literacy)


ก
      ารเรี ย นรู้ ดิ จิ ทั ล คื อ การผนวกกั น ของทั ก ษะ
        ความรู้และความเข้าใจที่ผู้เรียนต้องเรียนรู้เพื่อที่
        จะมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่และมีความปลอดภัยใน
โลกยุคดิจิทัลมากขึ้น ทักษะความรู้และความเข้าใจนี้เป็น
                                                                        นอกจากนี้ยังช่วยให้ออนไลน์อย่างปลอดภัยหากผู้เรียน
                                                                        มีความสามารถในการตัดสินใจที่เหมาะสมและมีข้อมูล
                                                                        เ กี่ ย ว กั บ ก า ร ใ ช้ เ ท ค โ น โ ล ยี ที่ จ ะ ส่ ง ผ ล ก ร ะ ท บ ต่ อ
                                                                        การศึกษาตลอดชีวิต รวมถึงชีวิตการทำงานในอนาคต
กุ ญ แจสำคั ญ ที่ ค วรเป็ น องค์ ป ระกอบของหลั ก สู ต ร
                
การศึ ก ษาขั้ น พื้ น ฐานทั้ ง ระดั บ ประถมศึ ก ษาและ                   การเรียนรู้ดิจิทัลคืออะไร
มัธยมศึกษา และควรจะผนึกผสานอยู่ในการเรียนการสอน                       
           ‘การรู้ ’ (Literacy) ในแง่ ดั้ ง เดิ ม หมายถึ ง
ของทุกรายวิชาทุกระดับชั้น                                             ความสามารถอ่ า นและเขี ย นในภาษาที่ ใ ช้ ร่ ว มกั น

                                                                     ของวัฒนธรรม ส่วนการรู้ดิจิทัล หมายถึงการอ่านและ
การเรียนรู้ดิจิทัล มีความสำคัญอย่างไร                                 การเขียนข้อความดิจิทัล เช่น สามารถ ‘อ่าน’ เว็บไซต์

              เทคโนโลยีให้โอกาสในการมีส่วนร่วมในชนิดใหม่             โดยผ่านการเชื่อมโยงหลายมิติ และ ‘การเขียน’ โดยการ
ของการเรียนรู้ ชุมชน สังคม และกิจกรรมการทำงาน                         อั ป โหลดภาพถ่ า ยดิ จิ ทั ล เพื่ อ เว็ บ ไซต์ เ ครื อ ข่ า ยสั ง คม 
ทุ ก คนจะต้ อ งมี ค วามรู้ ดิ จิ ทั ล เพื่ อ ใช้ ป ระโยชน์ สู ง สุ ด
 ทักษะการทำงานที่จำเป็นในการดำเนินการและการสื่อสาร
จากโอกาสเหล่ า นี้ หลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าในขณะที่                   ด้วยเทคโนโลยีและสื่อ นอกจากนี้ยังหมายถึงความรู้เกี่ยวกับ
เยาวชนคนหนุ่มสาว รู้สึกมั่นใจเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีนี้              ความสำคั ญ ของเทคโนโลยี แ ละสื่ อ ที่ มี ผ ลกระทบ แต่ ที่
ไม่ ไ ด้ เ ป็ น สิ่ ง บ่ ง บอกถึ ง สมรรถนะหรื อ ความสามารถ
 สำคัญกว่านั้น คือความสามารถที่จะวิเคราะห์และประเมิน
ที่แท้จริง ในด้านทักษะการคิดวิจารณญาณ เช่น ความ                       ความรู้ที่มีอยู่ในเว็บไซต์
ตระหนั ก ถึ ง กลยุ ท ธ์ ท างการค้ า หรื อ อคติ จ ากสื่ อ ต่ า งๆ 
                การเรี ย นการสอนและการเรี ย นรู้ ไ ม่ ส ามารถ
ตลอดจนความปลอดภัยในการใช้งาน
                                         ตี ก รอบอยู่ ใ นกิ จ กรรมที่ ใ ช้ ก ระดาษและปากกาเท่ า นั้ น
               นอกจากนี้ ก ารเรี ย นรู้ ดิ จิ ทั ล จะมี ผ ลสำคั ญ
 ซึ่งหมายความว่าผู้เรียนและครูผู้สอนจำเป็นต้องรู้สึกได้ว่า
ต่อสังคมโดยรวม ต่อความเสมอภาคในการเข้าถึงข้อมูล                       เทคโนโลยี ส ามารถนำมาใช้ ใ นทุ ก วิ ช าและเข้ า ใจว่ า
การบริการและการจ้างงาน การเข้ากลุ่มทางสังคม และ                       เทคโนโลยี ดั ง กล่ า วส่ ง ผลกระทบต่ อ สิ่ ง ที่ รู้ ใ นเรื่ อ งต่ า งๆ
โอกาสในการเรียนรู้เพิ่มเติม ตลอดจนอาจส่งผลกระทบ                       เทคโนโลยี ก ำลั ง เปลี่ ย นแปลงวิ ธี ก ารที่ เ ราศึ ก ษาค้ น คว้ า
ต่อการขยายโอกาสทางธุรกิจ                                              เช่น ภูมิศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และวิทยาศาสตร์ ระบบ
               การพัฒนาการเรียนรู้ดิจิทัลเป็นเรื่องเกี่ยวกับ          จีพีเอส เรื่องเล่าออนไลน์ แบบจำลองทางฟิสิกส์ และการใช้
การเปลี่ ย นแปลงธรรมชาติ ข องความรู้ ค วามเข้ า ใจ
 ทัศนภาพ โปรแกรมการทำแผนที่อาจส่งผลกระทบต่อ
ครูทุกคนสามารถนำเสนอมุมมองที่แตกต่างกันในเรื่องวิธีการ การเรียนภูมิศาสตร์การศึกษาวิทยาศาสตร์อาจรับรู้วิธีการ
ที่เทคโนโลยีสามารถเพิ่มคุณค่าในการเรียนของผู้เรียน                    โต้ตอบด้วยภาพ



             การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
ก า ร เ รี ย น รู้ ดิ จิ ทั ล สู่ โ ร ง เ รี ย น ม า ต ร ฐ า น ส า ก ล




	             การรู้ดิจิทัลในรายวิชาต่างๆ	ไม่จำเป็นต้องนำมา                เข้ า ใจ (Understand) คื อ ความสามารถที่ จ ะเข้ า ใจ	
                                                                                                                               
ซึ่ ง การเปลี่ ย นแปลงการสอนอย่ า งสิ้ น เชิ ง	 ทั ก ษะต่ า งๆ	        
                                                                  บริ บ ทที่ เ กี่ ย วข้ อ ง	 และประเมิ น สื่ อ ดิ จิ ทั ล ตระหนั ก ถึ ง
	
ที่เป็นส่วนหนึ่งของการเป็นความรู้แบบดิจิทัลโดยเฉพาะ               ความสำคัญของการประเมินผลที่สำคัญในการทำความ
อย่ า งยิ่ ง การตั้ ง คำถามที่ ส ำคั ญ	 ทั ก ษะของการศึ ก ษา	          
                                                                  เข้าใจดิจิทัลเนื้อหาของสื่อ	 และการประยุกต์ใช้สามารถ
ที่มีประสิทธิภาพและการวิเคราะห์ความผูกพันของผู้เรียน              สะท้อนให้เห็นถึงรูปร่างการเพิ่มหรือจัดการกับความรู้สึก
กั บ เนื้ อ หาวิ ช า	 จะยั ง คงช่ ว ยให้ ค รู ห าวิ ธี ก ารสร้ า งสรรค์	
                                                                       
                                                                  ความเชื่อของเราและความรู้สึกเกี่ยวกับโลกรอบตัวเรา	
ที่มีประสิทธิภาพและมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ตาม               ความเข้ า ใจความสำคั ญ ของสื่ อ ดิ จิ ทั ล ที่ ช่ ว ยให้ บุ ค คล	     
หลักสูตร	                                                         เก็บเกี่ยวผลประโยชน์และลดความเสี่ยง	 การมีส่วนร่วม
	             การรู้ ดิ จิ ทั ล มี ค วามหมายมากกว่ า ทั ก ษะด้ า นในสั ง คมเต็ ม รู ป แบบดิ จิ ทั ล	 ทั ก ษะชุ ด นี้ ยั ง รวมถึ ง	      
เทคโนโลยีอย่างง่าย	 ความเข้าใจรวมถึงทักษะที่ซับซ้อน               การพัฒนาทักษะการจัดการสารสนเทศและการแข็งค่า
มากขึ้นขององค์ประกอบและการวิเคราะห์	 ความสามารถ                   ของสิ ท ธิ ค นและความรั บ ผิ ด ชอบในการไปถึ ง ทรั พ ย์ สิ น	          
ในการสร้างความหลากหลายของเนื้อหาที่มีการใช้เครื่องมือ             ทางปัญญา	ในเศรษฐกิจความรู้	ชาวแคนาดาจำเป็นต้องรู้วิธี
ดิจิทัลต่างๆ	 ทักษะและความรู้ที่จะใช้ความหลากหลาย                 การหาประเมินผลและมีประสิทธิภาพใช้ข้อมูลเพื่อการ
ของการใช้งานซอฟต์แวร์สื่อดิจิทัลและอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์               สื่ อ สารการทำงานร่ ว มกั น และแก้ ปั ญ หาในชี วิ ต ส่ ว นตั ว
        	
เช่ น	 คอมพิ ว เตอร์	 โทรศั พ ท์ มื อ ถื อ	 และเทคโนโลยี
              	
                                                                  และเป็นมืออาชีพของพวกเขา	
อินเทอร์เน็ตความสามารถในการเข้าใจสื่อดิจิทัลเนื้อหา	              
การใช้ ง านและความรู้ ค วามสามารถในการสร้ า งด้ ว ย               สร้างสรรค์ (Create) ความสามารถในการสร้างเนื้อหา
เทคโนโลยีดิจิทัล	                                                 และมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ	 การติ ด ต่ อ สื่ อ สารโดยใช้ ค วาม	           

                                                                 หลากหลายของสื่ อ ดิ จิ ทั ล เป็ น เครื่ อ งมื อ	 การสร้ า งสื่ อ	     
รู้ ใช้ รู้ เ ข้ า ใจ รู้ ส ร้ า งสรรค์ เป็ น คำที่ แ สดง	             
                                                                  ดิ จิ ทั ล มี ค วามหมายมากกว่ า ความสามารถในการใช้
ลักษณะความรู้สามารถดิจิทัล	                                       โปรแกรมประมวลผลหรือเขียนอีเมล์	 รวมถึงความสามารถ
                                                                  ในการปรั บ การสื่ อ สารกั บ สถานการณ์ แ ละผู้ รั บ สาร		                
ใช้ (Use) แสดงถึ ง ความคล่ อ งแคล่ ว ทางเทคนิ ค
 การสร้ า งและติ ด ต่ อ สื่ อ สารโดยใช้ สื่ อ ผสม	 เช่ น	 ภาพ	
                                                              	                                                                         
ที่ จ ำเป็ น ในการใช้ กั บ คอมพิ ว เตอร์ แ ละอิ น เทอร์ เ น็ ต		 วีดิโอและเสียงประกอบอย่างมีประสิทธิภาพและมีความ
                                                                
ชุ ด รู ป แบบพื้ น ฐานสำหรั บ การพั ฒ นาทั ก ษะทางเทคนิ ค	 รับผิดชอบ	 ประกอบกับเนื้อหาเว็บไซต์ที่ผู้เรียนสร้าง	 เช่น
                                                              
ที่ จ ำเป็ น	 รวมถึ ง ความสามารถในการใช้ โ ปรแกรม                 บล็อกและเวทีสนทนา	วีดิโอและภาพถ่ายร่วมกัน	เล่นเกม
คอมพิวเตอร์	 เช่น	 โปรแกรมประมวลผลคำ	เว็บเบราเซอร์                ทางสั ง คม	 และรู ป แบบอื่ น ๆ	 ของสื่ อ สั ง คม	 แนวคิ ด นี
         ้	
E-mail	 และการสื่ อ สารอื่ น ๆ	 เครื่ อ งมื อ ค้ น หาและ	 ยังตระหนักถึงสิ่งที่เป็นความรู้ในโลกดิจิทัลที่ไม่เพียงแต่
                                                              
ฐานข้อมูลออนไลน์
                                                 สร้ า งความชำนาญทางด้ า นเทคโนโลยี เ ท่ า นั้ น	 แต่ ยั ง	            
                                                                  คำนึงถึงจริยธรรม	 การปฏิบัติทางสังคมและการสะท้อน
                                                                  สิ่งที่ฝังอยู่ในการเรียนรู้	 การใช้เวลาว่าง	 และการใช้ชีวิต
                                                                  ประจำวัน	




                                                                                  Digital Literacy World-Class Standard School
การเรียนรู้ทักษะดิจิทัล                                           
            The
 International
 Society
 for
 Technology
            เพื่อคงไว้ซึ่งความปลอดภัยในการใช้เทคโนโลยี in Education (ISTE) ได้พัฒนามาตรฐานและตัวชี้วัด
ใหม่ๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้เรียนทุกคนต้องรู้ทักษะดิจิทัล          ที่ ส ะท้ อ นให้ เ ห็ น ถึ ง ความรู้ ดิ จิ ทั ล ที่ น อกเหนื อ จากความ
                                                                  เข้าใจในการใช้งาน ได้แก่
‘การรู้ ดิ จิ ทั ล ’ (Digital Literacy) เกี่ ย วข้ อ งกั บ
 
                  ●		ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม	


การรวมกันของทักษะต่อไปนี้                                         
            ●		การสื่อสารและการทำงานร่วมกัน


	           ●	 ทั ก ษะด้ า นการทำงานของเทคโนโลยี :

            
 
            ●		การวิจัยและความสามารถด้านสารสนเทศ


รู้เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ              
            ●	 การคิ ด อย่ า งมี วิ จ ารณญาณ การแก้ ปั ญ หา



           ●	 การคิดเชิงวิเคราะห์ : ความสามารถในการ
                                                                  และการตัดสินใจ
วิเคราะห์และประเมินข้อมูลดิจิทัล                                  
            ●		ความเป็นพลเมืองดิจิทัล



           ●	 ทักษะการทำงานร่วมกัน : รู้วิธีการกระทำ
                                                                               มาตรฐานเหล่านี้สามารถนำมาใช้เป็นจุดเริ่มต้น
อย่างสมเหตุสมผล, ออนไลน์อย่างปลอดภัยและเหมาะสม
 ในการกำหนดผลสำเร็ จ สู่ ก ารยกระดั บ เยาวชนไทยสู่

           ●	 การตระหนั ก รู้ ท างสั ง คม : เข้ า ใจว่ า จะใช้
                                                                  มาตรฐานสากล
เทคโนโลยีด้วยวิธีใด กับใคร เมื่อใด




            การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
ก า ร เ รี ย น รู้ ดิ จิ ทั ล สู่ โ ร ง เ รี ย น ม า ต ร ฐ า น ส า ก ล




  2
        การใช้อินเทอร์เน็ต
            เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการเรียนรู้


   เ
     ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information
          and Communication Technology หรือ ICT)
          คือ การผสานเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ากับระบบ
สื่ อ สารโทรคมนาคมที่ ค รอบคลุ ม ระบบสื่ อ สาร ได้ แ ก่
                                                            	        “เทคโนโลยี ส ารสนเทศและการสื่ อ สาร	
                                                            เพื่อการศึกษา”	
                                                                                                        	

                                                                            คื อ การนำความก้ า วหน้ า ของเทคโนโลยี
                                                            สารสนเทศและการสื่อสารมาก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
วิทยุ โทรทัศน์ โทรสาร โทรศัพท์ เครื่องมือการสื่อสาร         รูปแบบการเรียนรู้ของมนุษย์ โดยการนำระบบเครื่องมือ
อื่นๆ กับระบบคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ ฐานข้อมูล และ            สื่อสารต่างๆ เช่น ระบบโทรศัพท์ ระบบโทรทัศน์ เข้ากับ
บริการสารสนเทศ ตลอดจนระบบเครือข่ายโทรคมนาคม                 ระบบคอมพิวเตอร์ที่ตอบโต้กับผู้ใช้ ประกอบกับการใช้
จำนวนมากที่เชื่อมโยงติดต่อกันและใช้ร่วมกันได้               แหล่ ง ความรู้ ที่ ห ลากหลายจะทำให้ ผู้ ใ ช้ ส ามารถเรี ย นรู้
                                                            สิ่ ง ต่ า งๆ ตามความสนใจ นอกจากนี้ เ ทคโนโลยี
                                                            สารสนเทศและการสื่อสารยังมีศักยภาพในการลดข้อจำกัด
                                                            ด้านเวลาและระยะทาง ส่งผลให้การเปลี่ยนแปลงเรียนรู้
                                                            ข้ อ มู ล ข่ า วสารเกิ ด ขึ้ น ได้ ทุ ก เวลาทุ ก สถานที่ ก่ อ ให้ เ กิ ด
                                                            ประโยชน์ต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต




             เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT)                                            เทคโนโลยีการสื่อสาร (CT)

                                     เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)




                                        สมรรถนะและการเรียนรู้ของผู้เรียน



                                                                    Digital Literacy World-Class Standard School
การใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการเรียนการสอน                                                      สถานการณ์จำลอง (Simulations)
              อิ น เทอร์ เ น็ ต เป็ น เครื อ ข่ า ย ICT ที่ เ ชื่ อ มโยง
                     เป็นเว็บไซต์ที่นำเสนอข้อมูลแบบมัลติมีเดีย 
แผ่ ข ยายครอบคลุ ม ทั่ ว โลก เป็ น ทั้ ง สิ่ ง แวดล้ อ มและ
                มีการเคลื่อนไหวทั้งภาพและเสียง และผู้เรียนสามารถ
เครื่ อ งมื อ สำคั ญ ในการพั ฒ นาผู้ เ รี ย นให้ มี ศั ก ยภาพเป็ น          ตอบโต้ ไ ด้ เช่ น ห้ อ งทดลองเสมื อ นจริ ง ในวิ ช าต่ า งๆ
พลโลก การประยุ ก ต์ ใ ช้ อิ น เทอร์ เ น็ ต เพื่ อ การเรี ย น
               (Virtual
Lab)
การสอน กระทำได้สองลักษณะดังนี้                                                                บทเรียนและแบบทดสอบ
                                                                                              เป็ น เว็ บ ไซต์ ป ระเภทบทเรี ย นหรื อ แบบฝึ ก

  1      แนวทางการประยุ ก ต์ ใ ช้ อิ น เทอร์ เ น็ ต ในด้ า น
         นักเรียน
             นักเรียนสามารถใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษา
                                                                            ออนไลน์ ซึ่ ง มี ห ลายสาขาวิ ช า รวมทั้ ง แบบทดสอบ
                                                                            ออนไลน์ที่มีทั้งการวัดผลสัมฤทธิ์ วัดความรู้ความสามารถ
                                                                            วัดบุคลิกภาพและสติปัญญา
ค้นคว้าวิจัยการเข้าร่วมกิจกรรมเชิงปฏิสัมพันธ์ การเข้า                                         นิทรรศการบนเว็บ
ร่วมโครงงานบนเว็บ หรือสร้างสรรค์ผลงานเผยแพร่                                              3) โครงงานบนเว็บ (Web-Based Project)

            1) การศึกษาค้นคว้า                                             
             
 ได้มีการจัดทำโครงงานในชั้นเรียนทั้งระยะสั้น
                นั ก เรี ย นจะสามารถใช้ อิ น เทอร์ เ น็ ต เป็ น             และระยะยาวเผยแพร่ บ นอิ น เทอร์ เ น็ ต ซึ่ ง นั ก เรี ย น
เครื่ อ งมื อ ในการสื บ ค้ น ศึ ก ษาวิ จั ย และจั ด ทำรายงาน                จะเข้าไปมีส่วนร่วมได้จำนวนมาก และสามารถผนวกหรือ
เว็บไซต์ที่เป็นแหล่งทรัพยากร เพื่อการค้นคว้ามีมากมาย                        จัดเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ตามหลักสูตร
ซึ่งอาจจัดประเภทง่ายๆ ดังนี
       ้                                        เกี่ยวกับแหล่งรวบรวมโครงงานที่สำคัญ

            
 ●	 ห้องสมุดและแหล่งอ้างอิงทางการศึกษา                                      4) การสร้างสรรค์งาน

            
 ●	 แหล่งทัศนศึกษาทางอิเล็กทรอนิกส์                                             นั ก เรี ย นที่ เ ป็ น รายบุ ค คล เป็ น กลุ่ ม 

            
 ●	 เอกสารตำราเรียน                                           หรื อ ครู ที่ ด ำเนิ น การร่ ว มกั บ นั ก เรี ย นสามารถสร้ า งหรื อ

            
 ●	 ข้อมูลพื้นฐานและเหตุการณ์ปัจจุบัน                         จัดทำเนื้อหาสาระเป็นเว็บไซต์เผยแพร่แก่สาธารณชนได้

            
 ●	 การติ ด ต่ อ ผู้ รู้ แ ละผู้ เ ชี่ ย วชาญ มี แ หล่ ง
     มีเว็บไซต์ลักษณะนี้หลายประเภท ได้แก่
ข้อมูลที่ให้บริการตอบคำถาม                                                  
             
 ●	 วารสาร หนังสือพิมพ์ของนักเรียน
             2) กิ จ กรรมเชิ ง ปฏิ สั ม พั น ธ์ (Interactive                
             
 ●	 ผลงาน นิทรรศการด้านศิลปะ และวรรณกรรม
Activities)                                                                 
             
 ●	 ผลงานการศึกษาค้นคว้าเรื่องต่างๆ
                มี เ ว็ บ ไซต์ จ ำนวนมากที่ เ ปิ ด ให้ มี กิ จ กรรม
        
             
 ●	 การท่องเที่ยวเสมือนจริง (Virtual Tours)
แบบโต้ตอบได้ระหว่างเว็บไซต์กับผู้ใช้ เช่น โปรแกรมสนทนา
                     
             
 ●	 การสะสม (Collections)
เกมออนไลน์ ที่ ส ำคั ญ และเป็ น ประโยชน์ กั บ ผู้ เ รี ย น
                 
             
 ●	 การสร้างโฮมเพจ
อาจจำแนกเว็บไซต์จำพวกนี้ได้ดังนี้                                           
             
 ●	 การจัดทำ web log
                                                                                                   ฯลฯ




              การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
ก า ร เ รี ย น รู้ ดิ จิ ทั ล สู่ โ ร ง เ รี ย น ม า ต ร ฐ า น ส า ก ล




                ประโยชน์สำหรับผู้เรียน                                                   1) การติดต่อสื่อสาร

               
 ●	 นั ก เรี ย นได้ เ รี ย นรู้ จ ากการปฏิ บั ติ ใ น
                      ครูสามารถใช้อินเทอร์เน็ต เพื่อการติดต่อ
สภาพจริงมากขึ้น                                                             สื่ อ สารกั บ กลุ่ ม ครู ห รื อ ผู้ เ ชี่ ย วชาญในสาขาวิ ช าการที
   ่

               
 ●	 นั ก เรี ย นได้ พั ฒ นาทั ก ษะการคิ ด และ
 เกี่ยวกับงานในหน้าที่หรือตามความสนใจ โดยใช้ E-mail
วิธีการเรียนรู้                                                             หรือ List serve ตลอดจนสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ

               
 ●	 นั ก เรี ย นได้ พั ฒ นาทั ก ษะในโลกแห่ ง
 องค์กรวิชาชีพ หรือกลุ่มสนใจใช้อินเทอร์เน็ต ซึ่งมีให้บริการ
ความเป็นจริง                                                                หลายเว็บไซต์ เช่น Global Schoolhouse, 21th Century

               
 ●	 เสริมสร้างพหุปัญญาตามศักยภาพของ
 Teachers.Net
นักเรียน
                                                                                2) การค้นคว้าวิจัย

               
 ●	 ค้นหาและใช้ประโยชน์จากแหล่งข้อมูล
                                     ครู ส ามารถใช้ อิ น เทอร์ เ น็ ต เป็ น เครื่ อ งมื อ
ข่าวสารในวิชาที่เรียน                                                       สืบค้น ค้นคว้า วิจัย เพื่อการเตรียมการสอน การจัดหา

               
 ●	 ค้นหาข้อมูลความรู้ที่เป็นปัจจุบันทันสมัย               สื่ อ นวั ต กรรมการเรี ย นการสอน โดยทั่ ว ไปเว็ บ ไซต์

               
 ●	 ได้ แ ก่ น สารความรู้ ที่ ลุ่ ม ลึ ก มากขึ้ น จาก
 ลักษณะนี้อาจจำแนกประเภทได้เป็น
ผู้ เ ชี่ ย วชาญ เพราะเดิ ม ที นั ก เรี ย นมี โ อกาสจำกั ด อยู่ กั บ 
                   
 ●	 แผนการสอน
ความรู้ของครู ตำราเรียน และหนังสือในห้องสมุดที่มีไม่มาก
 
                               
 ●	 สารสนเทศและข้ อ มู ล ความรู้ ส ำหรั บ
ไม่ เ พี ย งพอต่ อ การหาความรู้ ที่ ลุ่ ม ลึ ก เฉพาะเจาะจง 
 ชั้นเรียน
จากอินเทอร์เน็ต นักเรียนจะสื่อสารได้โดยตรงถึงอาจารย์                        
            
 ●	 แนวคิดและเทคนิคการจัดการเรียนการสอน
มหาวิทยาลัย ผู้เขียนตำรา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะผ่านอีเมล์
                       
            
 ●	 เว็บไซต์ทางการศึกษา

               
 ●	 เรียนรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งได้รอบด้านมากขึ้น
 
                     
 ●	 เว็บไซต์เฉพาะวิชา

               
 ●	 มีทักษะทางสังคม โดยเรียนรู้ที่จะร่วมมือกัน
 
                       
 ●	 เว็บไซต์อ้างอิงและห้องสมุด
ทำงานให้สำเร็จในกลุ่ม                                                       
            
 ●	 แหล่งทรัพยากรทางการศึกษา

               
 ●	 แลกเปลี่ ย นความคิ ด เห็ น มุ ม มองที่ ต่ า ง
 
                    
 ●	 เว็บไซต์รวมผลงานวิจัย
วั ฒ นธรรม ซึ่ ง นอกจากจะทำให้ รั บ รู้ แ ละเข้ า ใจโลกที่
                              3) การสร้างงาน
กว้างขวางขึ้นแล้วยังได้เปิดสู่อำนาจแห่งความร่วมมือร่วมใจ
                                   ครู ส ามารถใช้ อิ น เทอร์ เ น็ ต สร้ า งเว็ บ ไซต์ 
และความเข้าอกเข้าใจวัฒนธรรมความเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน
 เพื่อการจัดการเรียนการสอนของตนเอง นอกจากนี้ครูยัง
              
           
                                                 ใช้ประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เผยแพร่ผลงาน

  2           แนวทางการประยุกต์ ใช้อินเทอร์เน็ตในด้าน แนวคิดกับเพื่อนร่วมวิชาชีพและผู้สนใจทั่วไป เช่น การใช้
              ของครู
              ครูสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้หลายวิธี เช่นเดียว
                                                                            โปรแกรมการสื่อสาร การใช้ Blog เป็นต้น
                                                                            
            
 อินเทอร์เน็ตได้ก่อให้เกิดนวัตกรรมการศึกษา
กั บ ที่ นั ก เรี ย นใช้ นอกจากนี้ ยั ง ใช้ เ พื่ อ ติ ด ต่ อ สื่ อ สารกั บ ทางไกล ในด้ า นสถาบั น การศึ ก ษาดิ จิ ทั ล (Digital
เพื่ อ นครู แ ละผู้ เ ชี่ ย วชาญจากทั่ ว โลก การค้ น หาแหล่ ง
 Academy) โดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ทำให้ระยะทางไม่มี
สื่ อ วั ส ดุ อุ ป กรณ์ แผนการสอนในวิชาที่ตนรับผิดชอบ                       ความสำคั ญ นวั ต กรรมดั ง กล่ า วจึ ง นิ ย มเรี ย กกั น ว่ า 
รวมถึ ง การจั ด ทำ จั ด สร้ า ง สื่ อ นวั ต กรรม กิ จ กรรม
 “E-learning” (การเรี ย นรู้ ท างอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ) หรื อ

                         
การเรียนรู้สำหรับนักเรียนและเผยแพร่แก่ครูหรือบุคคลทั่วไป                    “E-school” (โรงเรี ย นอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ) เป็ น รู ป แบบ



                                                                                    Digital
Literacy
World-Class
Standard
School
การศึกษาที่เป็น “โรงเรียนเสมือนจริง” (Virtual School) 
                  ประโยชน์สำหรับครู
ที่ครู ผู้เรียนสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้และโต้ตอบกันได้         
          ●	 เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง บ ร ร ย า ก า ศ แ ล ะ ค ว า ม

(Interactivity) มีรูปแบบโดยทั่วไป คือ                          เคลื่อนไหวของห้องเรียน ทำให้ห้องเรียนไม่ใช่สิ่งแวดล้อม
             1. การสมัครและลงทะเบียนเข้าเรียน                  ที่ซ้ำซากจำเจอีกต่อไป
             2. การเรียกค้น ดาวน์โหลด หลักสูตร เนื้อหา         
          ●	 ครู แ ละนั ก เรี ย นจะเรี ย นรู้ ไ ปด้ ว ยกั น ใน

สาระทางวิชาการ สื่อการเรียนการสอน ทั้งที่เป็นตำรา              สภาพห้องเรียนเครือข่าย ซึ่งครูจะไม่ใช่ผู้รู้เพียงคนเดียว
และมัลติมีเดีย                                                 ในห้องเรียน
             3. การใช้ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อส่งสื่อ       
          ●	 ค้ น หาข้ อ มู ล ข่ า วสารทางการศึ ก ษาและ

เอกสารที่ ใ ช้ ป ระกอบการเรี ย นการสอน การส่ ง งาน             สารสนเทศที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ วิ ช าชี พ ตลอดจนแหล่ ง
รายงาน การบ้าน ตลอดจนการซักถามระหว่างผู้เรียน                  วิทยาการ
และผู้สอนและระหว่างผู้เรียนด้วยกัน
                            
          ●	 ค้ น หาและแลกเปลี่ ย นแผนการจั ด กิ จ กรรม

             4. การใช้ป้ายประกาศ (Web Board/Bulletin           การเรียนการสอน
Board) เพื่ อ ถาม-ตอบ หรื อ แสดงความคิ ด เห็ น 
               
          ●	 ข้อมูลพื้นฐานและแหล่งค้นคว้า เพื่อการวิจัย

แลกเปลี่ยนข้อมูลตามประเด็นที่สนใจศึกษา                         เฉพาะเรื่อง/วิชา/สาระการเรียนรู้
             5. การค้นคว้า วิจัยจากคลังข้อมูล (Archives)       
          ●	 นำข้อมูล เช่น รูปภาพ ภาพยนตร์ วีดิทัศน์

และห้องสมุดดิจิทัล                                             เอกสาร ตำราอิเล็กทรอนิกส์ มาใช้ประกอบการจัดตำราเรียน/
             6. การติวความรู้แบบตอบโต้ผ่านเว็บ (Interactive
   ผลิตสื่อ
Tutorials on the Web)                                          
          ●	 สอบถาม ขอคำปรึ ก ษาแนะนำจากผู้ รู้ 

             7. การสอนหรื อ ฝึ ก อบรมผ่ า นเว็ บ ไซต์ บ น
     ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนร่วมอาชีพจากทุกมุมโลก
เครือข่าย
(E-trainning)
                                       
          ●	 แลกเปลี่ ย นแบ่ ง ปั น ประสบการณ์ ผ ลงาน

             8. การศึ ก ษาทดลองในรู ป แบบสถานการณ์             การสอน/วิชาชีพเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมวิชาชีพครู
จำลอง (Simulation) และห้องทดลองดิจิทัล (Digital                และวงการทางการศึกษาที่กว้างขวางขึ้น
Laboratory)
             9. การประชุมสนทนาทางไกล
            10. การทดสอบวั ด ประเมิ น ผล และแจ้ ง ผล
การสอบโดยใช้โปรแกรมแบบทดสอบที่ใช้ระบบตอบโต้
ด้วยรหัสผ่านของผู้เรียน





           การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
ก า ร เ รี ย น รู้ ดิ จิ ทั ล สู่ โ ร ง เ รี ย น ม า ต ร ฐ า น ส า ก ล




  3
            การเสริมสร้างทักษะ
                ด้านข้อมูลข่าวสาร


ก
         ารส่งเสริมทักษะด้านข้อมูลข่าวสาร (Information
           Skills) เป็ น กระบวนการส่ ง เสริ ม การเรี ย นรู้ 
           เพื่ อ ให้ นั ก เรี ย นสามารถสร้ า งความรู้ ผลงาน
                                                                           

     ●	 วิธีการสืบเสาะ สืบสาว สืบค้น ที่หลากหลาย

                                                                           และชาญฉลาด
                                                                           
หรือหาคำตอบด้วยตนเอง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสื่อสารเป็นเครื่องมือพัฒนากระบวนการเรียนรู้
                                                                           2 การตั้งคำถาม
                                                                                      การฝึกทักษะการตั้งคำถาม คือ การกระตุ้น
และการคิ ด จึ ง มี ป ระโยชน์ ม ากและใช้ ใ นการเรี ย นรู้
                  ส่งเสริมให้นักเรียนได้คิดค้นหาประเด็นหรือปัญหาที่สงสัย
ทุ ก กลุ่ ม สาระและทุ ก รายวิ ช า ทั ก ษะที่ ส ำคั ญ มี 
                  หรือต้องการคำตอบด้วยตนเองอย่างอิสระ แทนที่ครูจะ
8 ประการ คือ                                                               เป็นผู้กำหนดหรือสั่งการ
             1. การสืบค้นข้อมูล (Searching)                                           การค้ น หาข้ อ มู ล ที่ ต้ อ งการให้ พ บเป็ น เพี ย ง
             2. การตั้งคำถาม (Questioning)                                 จุดเริ่มต้นของกระบวนการเรียนรู้ ครูจำเป็นต้องส่งเสริม
             3. การวางแผน (Planning)                                       ให้ผู้เรียนปฏิบัติต่อข้อมูลที่ค้นหามาได้ สามารถตีความ
             4. การรวบรวมจัดระเบียบ (Gathering)                            ประเมิ น ค่ า ของเนื้ อ หาสาระ มิ ใ ช่ เ พี ย งแต่ รั บ ข้ อ มู ล
             5. การเชื่อมโยงจัดโครงสร้าง
(Sorting)
                        โดยปราศจากการไตร่ตรอง
             6. การสังเคราะห์สร้างสรรค์ (Synthesizing)                                ครู ส ามารถใช้ เ ครื อ ข่ า ยอิ น เทอร์ เ น็ ต ยกระดั บ
             7. การประเมิน (Evaluation)                                    ทั ก ษะ การคิ ด วิ เ คราะห์ วิ จ ารณ์ โดยให้ นั ก เรี ย นรู้ จั ก
             8. การนำเสนอรายงาน (Reporting)                                ตั้งคำถาม และประเมินทั้งเนื้อหาสาระแหล่งข้อมูลที่พบ

1 การสืบค้นข้อมูล                                                          อินเทอร์เน็ต
                                                                           
           จุ ด มุ่ ง หมายสำคั ญ คื อ การมุ่ ง ให้ ผู้ เ รี ย น
สามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการให้พบ ทักษะย่อยที่จำเป็น
                                                                           3 การวางแผน
                                                                                    การส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักวางแผน กำหนด
คือ                                                                        เป้าหมายและข้อมูลที่ต้องการไว้ล่วงหน้าจะทำให้นักเรียน

          ●	 เรียนรู้การใช้เครื่องมือสืบค้น	
                                                                           สามารถเลือกแหล่งข้อมูลที่มีคุณภาพน่าเชื่อถือสูงได้ด้วย


         ●	 เปรี ย บเที ย บการสื บ ค้ น ข้ อ มู ล เรื่ อ งเดี ย วกั น
                                                                           ตนเอง และมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ ประหยั ด เวลา แทนที่ จ ะ
ด้วยเครื่องมือสืบค้นที่ต่างกัน                                             แวะเวียนจากแหล่งหนึ่งไปอีกแหล่งหนึ่ง อย่างไร้จุดหมาย


         ●	 เรี ย นรู้ แ หล่ ง หรื อ ขอบข่ า ยของข้ อ มู ล ที่
                                                                           โดยไม่คำนึงว่าแหล่งข้อมูลใดที่จะเป็นประโยชน์
ต้องการค้นคว้า




                                                                                  Digital
Literacy
World-Class
Standard
School
4 การรวบรวมจัดระเบียบ
              เมื่อนักเรียนได้ข้อมูลที่มีคุณภาพตามที่ต้องการ
                                                                      8 การนำเสนอรายงาน
                                                                                   การนำเสนอข้อมูล รายงานข้อค้นพบหรือแสดง
จากแหล่งต่างๆ แล้ว ทักษะที่จำเป็น คือ การรวบรวม                       ผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยตนเองเป็นเรื่องสำคัญมาก
สะสมข้อมูลและจัดระเบียบ จัดประเภทข้อมูลที่สำคัญๆ                      ซึ่งต่างจากการนำผลงานหรือความคิดของคนอื่นมาแสดง
เอาไว้ เ พื่ อ นำมาเรี ย กใช้ ไ ด้ ด้ ว ยตนเอง แทนที่ จ ะปล่ อ ย      การนำเสนอผลงานต่ อ หน้ า ผู้ ฟั ง เช่ น ครู ผู้ ป กครอง
ข้อมูลปะปนกระจัดกระจายและจำแนกหมวดหมู่ ลำดับ                          โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนๆ นักเรียน หรือการที่ได้แสดง
สาระสำคัญได้ยาก                                                       ผลงานต่อคนทั่วโลกบนเว็บไซต์ นอกจากจะเป็นแรงจูงใจ

                                                                     ที่ ส ำคั ญ แล้ ว ยั ง ช่ ว ยเพิ่ ม ความรั บ ผิ ด ชอบร่ ว มกั น และ
5 การเชื่อมโยงจัดโครงสร้าง
           เป็นทักษะที่มีความต่อเนื่องจากการจัดระเบียบ
                                                                      ยกระดับมาตรฐานการเรียนรู้ของผู้เรียนทุกคน
                                                                      
ข้ อ มู ล โดยการกำหนดเค้ า โครงหรื อ โครงสร้ า งข้ อ มู ล
                    การส่งเสริมความสามารถในการวิเคราะห์
ที่สัมพันธ์กันหรือเป็นเรื่องราวสอดคล้องมาเชื่อมโยงกัน                 และประเมินเว็บไซต์
หรือจัดเข้าชุดเดียวกัน ทั้งนี้เป็นผลมาจากประเด็นคำถาม                      อิ น เทอร์ เ น็ ต นั บ ว่ า เป็ น แหล่ ง ข้ อ มู ล ข่ า วสาร
หรือเรื่องราวที่ได้ค้นคว้า ซึ่งกำหนดไว้เบื้องแรก            ขนาดมหึมาและหลากหลาย มีทั้งข้อมูลที่มีสาระและไร้สาระ

                                                           ทั้งที่ถูกต้องและผิดพลาด ครูจำเป็นต้องส่งเสริม ความ
6         การสังเคราะห์สร้างสรรค์
             เป็นความสามารถในการแสดงมุมมองความคิด
                                                            สามารถในการวิ เ คราะห์ แ ละประเมิ น คุ ณ ค่ า สาระของ
                                                            เว็ บ ไซต์ ที่ เ รี ย กค้ น จากอิ น เทอร์ เ น็ ต ซึ่ ง จะช่ ว ยส่ ง เสริ ม
การตั ด สิ น ใจ ตลอดจนสร้ า งผลงานที่ ใ ช้ ภ าษา คำพู ด 
 ทักษะด้านข้อมูลข่าวสารของนักเรียนได้ดี
คำอธิบาย หรือชิ้นงานที่เป็นตัวของตัวเอง มิใช่นำข้อมูล                      โดยทั่ ว ไปแล้ ว มี ป ระเด็ น บ่ ง ชี้ คุ ณ ภาพของ
หรือข้อสรุปของผู้อื่นมาอ้างหรือบอกต่อ ซึ่งในกระบวนการนี้    เว็บไซต์ที่สำคัญๆ คือ
ถือได้ว่าผู้เรียนได้สร้างข้อมูลความรู้ใหม่ขึ้นมาเองได้แล้ว                 1. ความยากง่ายในการเรียกใช้ (Accessibility)

                                                           ในแง่ความเร็วและความสะดวกในการเข้าถึง
7         การประเมิน
             นั ก เรี ย นจะตรวจสอบ ทบทวนข้ อ ค้ น พบ
                                                                           2. ความถูกต้องน่าเชื่อถือ (Accuracy) ซึ่งรวม
                                                            ทั้งเนื้อหาสาระ แหล่งข้อมูล และผู้สร้างหรือเผยแพร่
                                                                           3. ความเหมาะสม (Appropriateness)
ประเด็นคำตอบและตัดสินใจ เพื่อประเมินว่าข้อมูลความรู้
                                                            เป็นการพิจารณาความเหมาะสมของเนื้อหาสาระในแง่
ที่ ค้ น พบนั้ น เหมาะสม เป็ น ประโยชน์ ม ากน้ อ ยเพี ย งใด
                                                            การรับรู้ของผู้ใช้ว่ายากง่ายเพียงใด ตรงวัตถุประสงค์ที่จะใช้งาน
การประเมิ น เป็ น วงจรที่ ด ำเนิ น ไปอย่ า งต่ อ เนื่ อ ง 
                                                            หรือไม่
ยิ่งนักเรียนมีประสิทธิภาพสูงขึ้นเวลาที่ใช้ในการจัดเก็บ
                                                                           4. ความน่ า สนใจในการนำเสนอ (Appeal)
รวบรวม และประมวลผลจะลดลง และยังช่วยให้นักเรียน
                                                            เป็นการประเมินความสวยงามหรือคุณลักษณะทางด้าน
ไม่รีบร้อนด่วนสรุป
                                                            รูปลักษณ์ สีสัน รูปแบบการนำเสนอว่า กระตุ้นให้เกิด
                                                            ความสนใจ น่าเพลิดเพลิน หรือช่วยให้เกิดการเรียกใช้งาน
                                                            หรือไม่ เพียงใด ตามการรับรู้ของผู้ใช้




    10       การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
ก า ร เ รี ย น รู้ ดิ จิ ทั ล สู่ โ ร ง เ รี ย น ม า ต ร ฐ า น ส า ก ล




          ครูอาจส่งเสริมให้ผู้เรียนตรวจสอบและประเมิน                                       4 เปรียบเทียบกับสื่อหรือแหล่งข้อมูลอื่น
เว็บโดยผ่านกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งมีกิจกรรม                             ครู อ าจแนะนำให้ นั ก เรี ย นศึ ก ษาเปรี ย บเที ย บข้ อ มู ล จาก
เสนอแนะดังนี
 ้                                                                 หนังสือพิมพ์ หรือวารสารออนไลน์ซึ่งนำเสนอข่ า วสาร
             1 การเปรียบเทียบเว็บไซต์ต่างๆ ที่มีเนื้อหา                         ความคิดเห็นในเรื่องเดียวกัน เช่น การเมือง สิ่งแวดล้อม
                                                                                และให้ นั ก เรี ย นบั น ทึ ก ย่ อ เปรี ย บเที ย บข้ อ แตกต่ า งของ
สาระเดียวกัน โดยให้นักเรียนดูทั้งชั้นแล้วเปรียบเทียบ
ความเหมื อ น ความแตกต่ า ง และลั ก ษณะเฉพาะของ                                  ข่ า วสารหรื อ ความคิ ด เห็ น ที่ ค้ น มาได้ แล้ ว นำเสนอต่ อ
เว็บไซต์ตามแนวทางแบบประเมินสำหรับนักเรียน แล้วให้                               เพื่อนๆ
นักเรียนจับคู่หรือจับกลุ่มเลือกเว็บไซต์ เพื่อเปรียบเทียบว่า
                    
เว็บไซต์ใดน่าเชื่อถือมากน้อยกว่ากัน                                                        5 เปรียบเทียบสาระระหว่างมืออาชีพกับ

                                                                               มือสมัครเล่น วัตถุประสงค์ของกิจกรรมนี้ก็เพื่อให้นักเรียน
             2 การเปรียบเทียบข้อมูลกับแหล่งข้อมูล                               ได้เข้าใจว่าการสืบค้นในหัวข้อเรื่องเดียวกันมักจะมีเว็บไซต์
                                                                                ที่ มี เ นื้ อ หาสาระที่ ถู ก ต้ อ ง ละเอี ย ด ครอบคลุ ม กว่ า อี ก
นอกอิ น เทอร์ เ น็ ต ครู ใ ห้ นั ก เรี ย นเปรี ย บเที ย บข้ อ มู ล
ที่ เ รี ย กค้ น จากเว็ บ ไซต์ กั บ ข้ อ มู ล จากแหล่ ง ภายนอก
                 เว็ บ ไซต์ ห นึ่ ง เสมอ และเว็ บ ไซต์ ที่ จั ด ทำโดยองค์ ก ร 
โดยอาจให้ไปสอบถามจากผู้รู้อื่นๆ ในโรงเรียนหรือในชุมชน
                          หน่ ว ยงาน หรื อ สถาบั น ที่ มี ค วามเชี่ ย วชาญ มี ภ ารกิ จ 
เช่น ครู ครูบรรณารักษ์ ผู้รู้ในชุมชน หรืออาจให้นักเรียน                         หรือหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องนั้นๆ โดยตรง จะมีเนื้อหาละเอียด
นำข้อมูลไปตรวจสอบกับเอกสาร ตำรา วารสาร วัสดุ                                    ถูกต้อง น่าเชื่อถือ ครอบคลุมหัวข้อเรื่องที่ค้นคว้ามากกว่า
อ้างอิงในห้องสมุด                                                               เว็ บ ไซต์ ที่ จั ด ทำโดยบุ ค คลใดบุ ค คลหนึ่ ง ซึ่ ง ไม่ ไ ด้ มี

                                                                               ความเชี่ยวชาญ เป็นที่รู้จักแพร่หลาย
             3     ค้ น คว้ า เพิ่ ม เติ ม เกี่ ย วกั บ เว็ บ ไซต์ ครู
กำหนดให้นักเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับเว็บไซต์ที่เรียกค้นเพิ่มเติม
ซึ่งอาจทำได้ดังนี้

              ●	 สอบถามความคิ ด เห็ น ของครู ผู้ ป กครอง 

หรือผู้รู้ที่มีประสบการณ์ เพื่อหาข้อมูลยืนยันความน่าเชื่อ
ถือของเว็บไซต์

              ●	 โทรศั พ ท์ ส อบถามแหล่ ง ข้ อ มู ล ที่ ส ร้ า งเว็ บ ไซต์


(บางแห่งจะมีหมายเลขโทรศัพท์ระบุไว้)

              ●	 ส่ ง จดหมาย (E-mail) ขอข้ อ มู ล เพิ่ ม เติ ม

จากผู้สร้างเว็บไซต์

              




                                                                                       Digital
Literacy
World-Class
Standard
School           11
4
         โครงงานบนเว็บ
             (Web-Based Project)


 โ
         ครงงานบนเว็ บ ทำให้ มี ก ารปรั บ ปรุ ง สภาพ
            แวดล้อมการเรียนรู้ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
            การสอนของครู นักเรียนเรียนรู้ได้มีประสิทธิภาพ
เพิ่ ม ขึ้ น เมื่ อ ได้ เ รี ย นสาระวิ ช าต่ า งๆ ในสภาพการณ์
                                                                   ขั้นตอนการดำเนินโครงงาน
                                                                                  1. ครู แ ละนั ก เรี ย นร่ ว มกั น กำหนดประเด็ น
                                                                   ที่ นั ก เรี ย นจะค้ น คว้ า โดยการนำเสนอข้ อ มู ล เบื้ อ งต้ น 
                                                                   การอภิปรายในชั้นเรียน การเชิญวิทยากรภายนอกหรือ
ที่เอื้ออำนวยและได้ลงมือปฏิบัติจริง การร่วมตรวจสอบ                 การค้นคว้าในห้องสมุด
ทบทวน ประเมิ น ผลโดยกระบวนการกลุ่ ม จะช่ ว ย
                                     2. แจ้ ง ผู้ ป กครองให้ ท ราบวั ต ถุ ป ระสงค์ แ ละ
ยกระดับความรู้สึกร่วมรับผิดชอบ                                     ขอให้สนับสนุนนักเรียนเท่าที่จะทำได้
             การเรียนรู้ผ่านโครงงานที่ใช้อินเทอร์เน็ตจึงเป็น                      3. แบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆ ละ 4-5 คน
เครื่องมือจะส่งผลดีต่อการเรียนรู้ดังนี้                            ตามประเด็นหลักที่ศึกษา
             1. สมรรถนะการเรียนและทักษะการคิด                                     4. ครูชี้แจงลักษณะงานที่ต้องปฏิบัติในโครงงาน
             2. การเรียนรู้จากการปฏิบัติตามสภาพการณ์จริง                          5. กำหนดบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของ
             3. นักเรียนทุกคนได้ยกระดับความรู้ความสามารถ           นั ก เรี ย นแต่ ล ะคนในกลุ่ ม ตามลั ก ษณะงานโดยคำนึ ง ถึ ง
สูงขึ้น                                                            ความสามารถ จุดเน้น ศักยภาพของแต่ละคน
             4. ครู นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนปรับเปลี่ยน                        6. ครู ท บทวนกฎ กติ ก า จรรยา มารยาท 
บทบาทและมีส่วนร่วมมากขึ้น                                          ในการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการสื่อสาร
                                                                                     1) นักเรียนดำเนินการค้นคว้าตามขั้นตอน
                                                                   บทบาทหน้าที่และบันทึกผลการปฏิบัติกิจกรรมและข้อค้นพบ
    เรียนรู้ผ่าน                                        นักเรียน   จากแหล่งข้อมูล
   ประสบการณ์                                          เรียนเป็น                     2) นั ก เรี ย นประชุ ม กั น เป็ น ระยะๆ เพื่ อ
     การปฏิบัติ                                         คิดเป็น    รายงานผลการปฏิบัติที่สำคัญต่อสมาชิกในกลุ่ม
                                                                                     3) นักเรียนผู้แทนแต่ละกลุ่มรายงานความ
                            โครงงาน                                ก้าวหน้า/ผลการดำเนินงานต่อนักเรียนทั้งหมดสัปดาห์ละครั้ง
                             บนเว็บ                                                  4) แต่ละกลุ่มจัดทำเอกสารรายงานผลการ
                                                                   ค้นคว้าต่อครู โรงเรียน กรรมการสถานศึกษา
      นักเรียน                                                                       5) แต่ ล ะกลุ่ ม นำเสนอผลงานรวมระดั บ
      มีความรู้                                    การมีส่วนร่วม
    ความสามารถ                                                     โรงเรียนโดยใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศประกอบ
       สูงขึ้น




    1       การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
ก า ร เ รี ย น รู้ ดิ จิ ทั ล สู่ โ ร ง เ รี ย น ม า ต ร ฐ า น ส า ก ล




                6) นำข้อมูล/ผลงานเผยแพร่กับแลกเปลี่ยน
โรงเรียนคู่พัฒนาและโรงเรียนอื่นๆ ทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
                                                                     3         บทบาทหลั ก ของครู คื อ ผู้ อ ำนวยการ
                                                                     ความสะดวกในการเรียนรู้ของนักเรียน ทักษะที่สำคัญของครู
ผ่ า นเว็ บ ไซต์ ข องสถานศึ ก ษาหรื อ เว็ บ ไซต์ ที่ ส นั บ สนุ น
   คือ
การเผยแพร่
                                                          
              ●	 ความสามารถในการจูงใจ


                                                                    
              ●	 ตั้งคำถามที่เหมาะสม

แนวทางการส่งเสริมการจัดทำโครงงาน                                     
              ●	 นำนั ก เรี ย นให้ มุ่ ง มั่ น ในกระบวนการเรี ย นรู
                                                                                                                                         ้
                                                                     ของตนเอง
1        กำหนดเป้ า หมาย จุ ด ประสงค์ ก ารเรี ย นรู้
ตรวจสอบว่า
                                                                     
                                                                     
                                                                                    ●	 เรียนร่วมไปพร้อมๆ กับนักเรียน

                                                                                    ●	 ช่ ว ยให้ นั ก เรี ย นใช้ เ ทคโนโลยี ใ นบรรยากาศ

                                                                     ที่ ส่ ง เสริ ม การเรี ย นแบบร่ ว มแรงร่ ว มใจ การสื บ สวน
          1. โครงงานสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้
                                                                     ค้นคว้าและพัฒนาระดับความคิด
หรือไม่
                                                                     
          2. การใช้ อิ น เทอร์ เ น็ ต จะช่ ว ยให้ ก ารจั ด
ประสบการณ์การเรียนรู้ในแง่ใด (สาระการเรียนรู้พัฒนา                   4         แนวปฏิบัติในการอำนวยการเรียนรู้
                                                                                1. สร้างแบบอย่างสร้างทีมเรียนรู้
ทักษะการสืบค้น พัฒนาทักษะด้านข้อมูลข่าวสาร หรือ
การอ่าน/เขียน/ใช้ภาพ)                                                
          
 ●	 กำหนดมาตรฐานหรือข้อตกลงร่วมกัน
          3. ประเด็ น ที่ นั ก เรี ย นจะเรี ย นรู้ นั้ น จำเป็ น     ในทีม เพื่อให้นักเรียนมีส่วนร่วมและเคารพความคิดเห็นเห็น
ต้องหาข้อมูลที่จำเพาะเจาะจงหรือไม่                                   ซึ่งกันและกัน
          4. กระบวนการเรียนรู้จำเป็นต้องหาความรู้จาก                 
          
 ●	 แสดงให้ นั ก เรี ย นเห็ น ว่ า ครู ตั้ ง ใจฟั ง
แหล่งที่แตกต่างทางภูมิศาสตร์ สภาพแวดล้อม วัฒนธรรม                    ความคิดใหม่ๆ
หรือไม่                                                              
          
 ●	 สังเกตความต้องการและหาทางในการ
          5. นักเรียนจะได้รับประโยชน์จากการร่วมมือ                   สนับสนุน
ร่วมโครงงานในเรื่องใดบ้าง                                            
          
 ●	 ต ร ว จ ส อ บ พ ฤ ติ ก ร ร ม ที่ เ ห ม า ะ ส ม

                                                                    ในกลุ่ม เช่น การดูถูกดูแคลนความคิดของเพื่อน แล้วหาทาง
2        กำหนดลั ก ษณะกิ จ กรรม ที่ ส อดคล้ อ งกั บ
จุดประสงค์ว่าเป็นลักษณะใด เช่น การสื่อสาร การสืบค้น
                                                                     เสริมแรงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเมื่อมีโอกาส
                                                                     
          
 ●	 สร้างความมั่นใจให้นักเรียนเห็นว่าแต่ละคน
                                                                     เป็นส่วนหนึ่งของทีมและต้องร่วมรับผิดชอบในบทบาทของ
การค้นคว้า วิจัย การแก้ปัญหา ฯลฯ
                                                                     ตนเองต่อทีม
                                                                     
          
 ●	 เน้นเป้าหมายอยู่อย่างสม่ำเสมอ




                                                                            Digital
Literacy
World-Class
Standard
School             1
2. ส่งเสริมการสื่อสารและแสดงความคิด                              5. กระตุ้นให้ลงมือปฏิบัติ

          
 ●	 กระตุ้นให้พูดคุย อภิปรายของนักเรียน
              
         
 เมื่อเห็นว่านักเรียนพอจะเห็นแนวทางความคิด
ดำเนินไปในประเด็นที่ต่อเนื่อง                                     ในการทำงาน ครู ค วรจะจู ง ใจให้ นั ก เรี ย นเริ่ ม ต้ น ลงมื อ

          
 ●	 ส่งเสริมการมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น
             วางแผนหรือปฏิบัติ โดยตั้งคำถามประเภท “เราจะเริ่มต้น
ของสมาชิกทุกคน                                                    กันอย่างไร”

          
 ●	 กระตุ้นให้แสดงความคิดวิเคราะห์วิจารณ์                       6. สะท้อนผลการปฏิบัติ
           3. สร้างความกระจ่าง                                                  ครู ค วรสนั บ สนุ น ให้ นั ก เรี ย นได้ ส ะท้ อ น
              บางครั้ ง นั ก เรี ย นต้ อ งการความช่ ว ยเหลื อ
    ความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง เช่น
ในการเรี ย บเรี ย งประมวลความคิ ด เห็ น ที่ แ ต่ ล ะคนได้         นักเรียนได้เรียนรู้อะไรบ้าง
แสดงออก ครูควรทำความกระจ่างให้นักเรียนได้โดย                      

          
 ●	 กระตุ้ น ให้ นั ก เรี ย นช่ ว ยสรุ ป ประเด็ น
ความคิดหลักๆ
                                                                  5        การตรวจสอบโครงงาน
                                                                             การออกแบบโครงงานเป็นความร่วมมือของครู

          
 ●	 ตั้ ง คำถาม ถามทบทวนหรื อ เปลี่ ย น
              กับนักเรียน โดยนักเรียนได้รับการส่งเสริมให้ริเริ่มจัดทำ
ถ้ อ ยคำในประเด็ น คำตอบ เพื่ อ ให้ นั ก เรี ย นสรุ ป ยื น ยั น   โครงงานและครูเป็นผู้ชี้แนะ องค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้
ความคิด                                                           กระบวนการจั ด ทำโครงงานเป็ น การเรี ย นรู้ เ พื่ อ สร้ า ง
           4. ควบคุมให้อยู่ในประเด็นเป้าหมาย                      ความรู้จริงๆ คือ
              ในการอภิ ป รายนั ก เรี ย นอาจเบนประเด็ น                       1. เรียนตามสภาพจริง
ความสนใจออกไปนอกเป้าหมายของงานหรือโครงงาน
                                   2. เรียนรู้รอบด้าน
ที่กำลังทำอยู่ ครูควรกระตุ้นเตือน หรือถามให้ตรวจสอบ                          3. เรียนเพื่อใช้ชีวิตจริง
ว่าอยู่ในประเด็นหรือไม่                                                      4. เรียนอย่างใฝ่รู้
                                                                             5. เรียนรู้กับผู้ใหญ่/ผู้รู้
                                                                             6. เรียนรู้ผลการปฏิบัติ
                                                                  
                                                                  
                                                                  
                                                                  
                                                                  
                                                                  
                                                                  
                                                                  




    1       การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล

More Related Content

What's hot

เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาFern's Supakyada
 
Chapter6 เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
Chapter6 เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้Chapter6 เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
Chapter6 เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้Prakaidao Suebwong
 
Chapter 6 เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
Chapter 6 เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาChapter 6 เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
Chapter 6 เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาPan Kannapat Hengsawat
 
บทที่6เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
บทที่6เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้บทที่6เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
บทที่6เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้Nichaya100376
 
บทที่ 6
บทที่ 6บทที่ 6
บทที่ 6Pari Za
 
นวัตกรรมบทที่6เทคโนโลยีสารสนเทศทางศึกษา
นวัตกรรมบทที่6เทคโนโลยีสารสนเทศทางศึกษานวัตกรรมบทที่6เทคโนโลยีสารสนเทศทางศึกษา
นวัตกรรมบทที่6เทคโนโลยีสารสนเทศทางศึกษาAmu P Thaiying
 
A Look Forward: Educational Technology Research
A Look Forward: Educational Technology ResearchA Look Forward: Educational Technology Research
A Look Forward: Educational Technology ResearchTar Bt
 
ขอบข่ายและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษา
ขอบข่ายและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษาขอบข่ายและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษา
ขอบข่ายและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษาnilobon66
 
ขอบข่ายเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
ขอบข่ายเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษาขอบข่ายเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
ขอบข่ายเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษาapostrophe0327
 
201701 ความหมาย ขอบข่าย และพัฒนาการของเทคโนโลยี
201701 ความหมาย ขอบข่าย และพัฒนาการของเทคโนโลยี201701 ความหมาย ขอบข่าย และพัฒนาการของเทคโนโลยี
201701 ความหมาย ขอบข่าย และพัฒนาการของเทคโนโลยีimmyberry
 
การจัดการนวัตกรรมทางการศึกษา
การจัดการนวัตกรรมทางการศึกษาการจัดการนวัตกรรมทางการศึกษา
การจัดการนวัตกรรมทางการศึกษาbtusek53
 
เทคนิคการสอนในศตวรรษที่21
เทคนิคการสอนในศตวรรษที่21เทคนิคการสอนในศตวรรษที่21
เทคนิคการสอนในศตวรรษที่21Prachyanun Nilsook
 
Reviwe of current trends in educational technologies
Reviwe of current trends in educational technologiesReviwe of current trends in educational technologies
Reviwe of current trends in educational technologiesTar Bt
 
ความหมาย ขอบข่ายและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษา
ความหมาย ขอบข่ายและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษาความหมาย ขอบข่ายและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษา
ความหมาย ขอบข่ายและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษาPennapa Kumpang
 
เทคโนโลนีนวัตกรรมและสื่อการศึกษาใหม่
เทคโนโลนีนวัตกรรมและสื่อการศึกษาใหม่เทคโนโลนีนวัตกรรมและสื่อการศึกษาใหม่
เทคโนโลนีนวัตกรรมและสื่อการศึกษาใหม่snxnuux
 
การใช้สื่อเพื่อการเรียนรู้2
การใช้สื่อเพื่อการเรียนรู้2การใช้สื่อเพื่อการเรียนรู้2
การใช้สื่อเพื่อการเรียนรู้2Prachyanun Nilsook
 
Week 2 ความหมาย ขอบข่ายและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษา ppt
Week 2   ความหมาย ขอบข่ายและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษา pptWeek 2   ความหมาย ขอบข่ายและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษา ppt
Week 2 ความหมาย ขอบข่ายและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษา pptKanpirom Trangern
 

What's hot (20)

เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
 
241203 chapter02
241203 chapter02241203 chapter02
241203 chapter02
 
Chapter 6
Chapter 6Chapter 6
Chapter 6
 
Chapter6 เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
Chapter6 เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้Chapter6 เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
Chapter6 เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
 
Chapter 6 เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
Chapter 6 เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาChapter 6 เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
Chapter 6 เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
 
บทที่6เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
บทที่6เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้บทที่6เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
บทที่6เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
 
บทที่ 6
บทที่ 6บทที่ 6
บทที่ 6
 
นวัตกรรมบทที่6เทคโนโลยีสารสนเทศทางศึกษา
นวัตกรรมบทที่6เทคโนโลยีสารสนเทศทางศึกษานวัตกรรมบทที่6เทคโนโลยีสารสนเทศทางศึกษา
นวัตกรรมบทที่6เทคโนโลยีสารสนเทศทางศึกษา
 
A Look Forward: Educational Technology Research
A Look Forward: Educational Technology ResearchA Look Forward: Educational Technology Research
A Look Forward: Educational Technology Research
 
ขอบข่ายและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษา
ขอบข่ายและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษาขอบข่ายและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษา
ขอบข่ายและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษา
 
STEM Education KMUTNB
STEM Education KMUTNBSTEM Education KMUTNB
STEM Education KMUTNB
 
ขอบข่ายเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
ขอบข่ายเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษาขอบข่ายเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
ขอบข่ายเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
 
201701 ความหมาย ขอบข่าย และพัฒนาการของเทคโนโลยี
201701 ความหมาย ขอบข่าย และพัฒนาการของเทคโนโลยี201701 ความหมาย ขอบข่าย และพัฒนาการของเทคโนโลยี
201701 ความหมาย ขอบข่าย และพัฒนาการของเทคโนโลยี
 
การจัดการนวัตกรรมทางการศึกษา
การจัดการนวัตกรรมทางการศึกษาการจัดการนวัตกรรมทางการศึกษา
การจัดการนวัตกรรมทางการศึกษา
 
เทคนิคการสอนในศตวรรษที่21
เทคนิคการสอนในศตวรรษที่21เทคนิคการสอนในศตวรรษที่21
เทคนิคการสอนในศตวรรษที่21
 
Reviwe of current trends in educational technologies
Reviwe of current trends in educational technologiesReviwe of current trends in educational technologies
Reviwe of current trends in educational technologies
 
ความหมาย ขอบข่ายและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษา
ความหมาย ขอบข่ายและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษาความหมาย ขอบข่ายและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษา
ความหมาย ขอบข่ายและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษา
 
เทคโนโลนีนวัตกรรมและสื่อการศึกษาใหม่
เทคโนโลนีนวัตกรรมและสื่อการศึกษาใหม่เทคโนโลนีนวัตกรรมและสื่อการศึกษาใหม่
เทคโนโลนีนวัตกรรมและสื่อการศึกษาใหม่
 
การใช้สื่อเพื่อการเรียนรู้2
การใช้สื่อเพื่อการเรียนรู้2การใช้สื่อเพื่อการเรียนรู้2
การใช้สื่อเพื่อการเรียนรู้2
 
Week 2 ความหมาย ขอบข่ายและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษา ppt
Week 2   ความหมาย ขอบข่ายและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษา pptWeek 2   ความหมาย ขอบข่ายและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษา ppt
Week 2 ความหมาย ขอบข่ายและพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษา ppt
 

Similar to การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล

Dlit socialmedia
Dlit socialmediaDlit socialmedia
Dlit socialmediatayval
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11kanwan0429
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11kanwan0429
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11wanneemayss
 
11 170819173826
11 17081917382611 170819173826
11 170819173826gam030
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11benty2443
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11nattawad147
 
chapter 6 information technology for learning
chapter 6 information technology for learningchapter 6 information technology for learning
chapter 6 information technology for learningPacharaporn087-3
 
2562 final-project
2562 final-project 2562 final-project
2562 final-project mew46716
 
ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2nampeungnsc
 
รูปแบบ/วิธีการนำสื่อการเรียนรู้ออนไลน์มาบูรณาการในการจัดการศึกษา โดยกอบวิทย์...
รูปแบบ/วิธีการนำสื่อการเรียนรู้ออนไลน์มาบูรณาการในการจัดการศึกษา  โดยกอบวิทย์...รูปแบบ/วิธีการนำสื่อการเรียนรู้ออนไลน์มาบูรณาการในการจัดการศึกษา  โดยกอบวิทย์...
รูปแบบ/วิธีการนำสื่อการเรียนรู้ออนไลน์มาบูรณาการในการจัดการศึกษา โดยกอบวิทย์...Kobwit Piriyawat
 
งานกลุ่ม Chapter 6
งานกลุ่ม Chapter 6งานกลุ่ม Chapter 6
งานกลุ่ม Chapter 6Pronsawan Petklub
 

Similar to การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล (20)

Dlit socialmedia
Dlit socialmediaDlit socialmedia
Dlit socialmedia
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11
 
11 170819173826
11 17081917382611 170819173826
11 170819173826
 
11 170819173826
11 17081917382611 170819173826
11 170819173826
 
11 170819173826
11 17081917382611 170819173826
11 170819173826
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11
 
11 170819173826
11 17081917382611 170819173826
11 170819173826
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11
 
11 170819173826
11 17081917382611 170819173826
11 170819173826
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11
 
11 170819173826
11 17081917382611 170819173826
11 170819173826
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11
 
chapter 6 information technology for learning
chapter 6 information technology for learningchapter 6 information technology for learning
chapter 6 information technology for learning
 
2562 final-project
2562 final-project 2562 final-project
2562 final-project
 
ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2
 
รูปแบบ/วิธีการนำสื่อการเรียนรู้ออนไลน์มาบูรณาการในการจัดการศึกษา โดยกอบวิทย์...
รูปแบบ/วิธีการนำสื่อการเรียนรู้ออนไลน์มาบูรณาการในการจัดการศึกษา  โดยกอบวิทย์...รูปแบบ/วิธีการนำสื่อการเรียนรู้ออนไลน์มาบูรณาการในการจัดการศึกษา  โดยกอบวิทย์...
รูปแบบ/วิธีการนำสื่อการเรียนรู้ออนไลน์มาบูรณาการในการจัดการศึกษา โดยกอบวิทย์...
 
งานกลุ่ม Chapter 6
งานกลุ่ม Chapter 6งานกลุ่ม Chapter 6
งานกลุ่ม Chapter 6
 

การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล

  • 1. การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยี โรงเรียนมาตรฐานสากล Digital Literacy World-Class Standard School สำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
  • 2. การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยี โรงเรียนมาตรฐานสากล Digital Literacy World-Class Standard School สำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
  • 3. การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล Digital Literacy World-Class Standard School ปีที่พิมพ์ พุทธศักราช 2553 จำนวนพิมพ์ 3,000 เล่ม ลิขสิทธิ์เป็นของ สำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ISBN 978-616-202-277-7 พิมพ์ท ี่ โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด 79 ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 โทร. 0-2561-4567 โทรสาร 0-2579-5101 นายโชคดี ออสุวรรณ ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา
  • 4. สาร จากเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ความเจริญก้าวหน้าในความเป็นอยู่ของมนุษย์ได้มีการพัฒนาและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตปัจจุบันของมนุษย์เพิ่มมากขึ้น อาจกล่าวว่าโลกปัจจุบันเป็นโลก ของเทคโนโลยี เพราะมนุษย์ได้นำความรู้ทางเทคโนโลยีมาใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งด้านการใช้ชีวิตและ การปฏิบัติหน้าที่การงาน นอกจากนี้เทคโนโลยียังนำไปสู่การค้นพบความรู้ใหม่ๆ การประดิษฐ์ คิดค้น และสร้างสรรค์ผลงาน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ อาทิ ด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และการศึกษา ด้วยความสำคัญดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงได้ดำเนิน โครงการโรงเรียนมาตรฐานสากล (World-Class Standard School) เพื่อนำมาใช้เป็นนวัตกรรมการจัด การศึกษา และเป็นมาตรการเร่งด่วนในการยกระดับการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพมาตรฐานเทียบเท่า สากล ผู้เรียนมีศักยภาพและความสามารถทัดเทียมกับผู้เรียนนานาประเทศ การใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอนของโรงเรียนมาตรฐานสากล มุ่งพัฒนากระบวนการเรียนรู้ เพื่อนำพาสังคมไทยสู่สังคมแห่งภูมิปัญญาและสนองต่อคุณภาพชีวิตโดยตรง การเรียนรู้เทคโนโลยีจะช่วย ปรับปรุงคุณภาพการศึกษาในศตวรรษที่ 21 ปรับเปลี่ยนสังคมไทยไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ การประกัน โอกาสของผู้เรียนให้เข้าถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิต และเชื่อมโยงสังคมไทยสู่สังคมโลก สนับสนุนความเป็น พลโลกของคนรุ่นใหม่ สอดคล้องกับการปฏิรูปการศึกษาโดยการให้ผู้เรียนทุกคนมีโอกาสใช้เทคโนโลยี เพื่อการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ พอเพียง และทั่วถึง ผู้เรียนมีความรู้ด้านเทคโนโลยีในระดับพื้นฐาน เพื่อสามารถเข้าถึง ค้นคว้า รวบรวม และประมวลผลจากแหล่งความรู้ต่างๆ นำไปสร้างองค์ความรู้ใหม่ ตลอดจนรู้ จั ก บู ร ณาการความรู้ ด้ า นเทคโนโลยี แ ละการจั ด การสารสนเทศ ผู้ เ รี ย นมี ทั ศ นคติ ที่ ดี แ ละ พัฒนาจริยธรรมเชิงบวกในการใช้เทคโนโลยี เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต และพัฒนา กระบวนการคิดวิเคราะห์อย่างยั่งยืน เอกสาร “การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล : Digital Literacy World-Class Standard School” ฉบับนี้ จะช่วยให้ครูผู้สอนมีความรู้ความเข้าใจ และมีทักษะการใช้เทคโนโลยีในการ จัดการเรียนการสอน มีวิสัยทัศน์ก้าวไกล ส่งเสริมผู้เรียนให้พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และสร้างสรรค์ ด้วยทรัพยากรทางการเรียนรู้เทคโนโลยีอย่างกว้างขวางต่อไป ขอขอบคุณผู้มีส่วนร่วมในการจัดทำเอกสาร ฉบับนี้ ไว้ ณ ที่นี้ (นายชินภัทร ภูมิรัตน) เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
  • 5. สารบัญ ตอนที่ 1 1 การเรียนรู้ดิจิทัล สู่โรงเรียนมาตรฐานสากล ตอนที่ 2 17 การใช้โปรแกรมสำเร็จรูป และเครือข่ายสังคมเพื่อการเรียนรู้ ตอนที่ 3 59 แหล่งเรียนรู้ บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
  • 6. ตอนที่ 1 การเรียนรู้ดิจิทัล สู่โรงเรียนมาตรฐานสากล
  • 7. 1 การเรียนรู้ดิจิทัล (Digital Literacy) ก ารเรี ย นรู้ ดิ จิ ทั ล คื อ การผนวกกั น ของทั ก ษะ ความรู้และความเข้าใจที่ผู้เรียนต้องเรียนรู้เพื่อที่ จะมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่และมีความปลอดภัยใน โลกยุคดิจิทัลมากขึ้น ทักษะความรู้และความเข้าใจนี้เป็น นอกจากนี้ยังช่วยให้ออนไลน์อย่างปลอดภัยหากผู้เรียน มีความสามารถในการตัดสินใจที่เหมาะสมและมีข้อมูล เ กี่ ย ว กั บ ก า ร ใ ช้ เ ท ค โ น โ ล ยี ที่ จ ะ ส่ ง ผ ล ก ร ะ ท บ ต่ อ การศึกษาตลอดชีวิต รวมถึงชีวิตการทำงานในอนาคต กุ ญ แจสำคั ญ ที่ ค วรเป็ น องค์ ป ระกอบของหลั ก สู ต ร การศึ ก ษาขั้ น พื้ น ฐานทั้ ง ระดั บ ประถมศึ ก ษาและ การเรียนรู้ดิจิทัลคืออะไร มัธยมศึกษา และควรจะผนึกผสานอยู่ในการเรียนการสอน ‘การรู้ ’ (Literacy) ในแง่ ดั้ ง เดิ ม หมายถึ ง ของทุกรายวิชาทุกระดับชั้น ความสามารถอ่ า นและเขี ย นในภาษาที่ ใ ช้ ร่ ว มกั น ของวัฒนธรรม ส่วนการรู้ดิจิทัล หมายถึงการอ่านและ การเรียนรู้ดิจิทัล มีความสำคัญอย่างไร การเขียนข้อความดิจิทัล เช่น สามารถ ‘อ่าน’ เว็บไซต์ เทคโนโลยีให้โอกาสในการมีส่วนร่วมในชนิดใหม่ โดยผ่านการเชื่อมโยงหลายมิติ และ ‘การเขียน’ โดยการ ของการเรียนรู้ ชุมชน สังคม และกิจกรรมการทำงาน อั ป โหลดภาพถ่ า ยดิ จิ ทั ล เพื่ อ เว็ บ ไซต์ เ ครื อ ข่ า ยสั ง คม ทุ ก คนจะต้ อ งมี ค วามรู้ ดิ จิ ทั ล เพื่ อ ใช้ ป ระโยชน์ สู ง สุ ด ทักษะการทำงานที่จำเป็นในการดำเนินการและการสื่อสาร จากโอกาสเหล่ า นี้ หลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าในขณะที่ ด้วยเทคโนโลยีและสื่อ นอกจากนี้ยังหมายถึงความรู้เกี่ยวกับ เยาวชนคนหนุ่มสาว รู้สึกมั่นใจเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีนี้ ความสำคั ญ ของเทคโนโลยี แ ละสื่ อ ที่ มี ผ ลกระทบ แต่ ที่ ไม่ ไ ด้ เ ป็ น สิ่ ง บ่ ง บอกถึ ง สมรรถนะหรื อ ความสามารถ สำคัญกว่านั้น คือความสามารถที่จะวิเคราะห์และประเมิน ที่แท้จริง ในด้านทักษะการคิดวิจารณญาณ เช่น ความ ความรู้ที่มีอยู่ในเว็บไซต์ ตระหนั ก ถึ ง กลยุ ท ธ์ ท างการค้ า หรื อ อคติ จ ากสื่ อ ต่ า งๆ การเรี ย นการสอนและการเรี ย นรู้ ไ ม่ ส ามารถ ตลอดจนความปลอดภัยในการใช้งาน ตี ก รอบอยู่ ใ นกิ จ กรรมที่ ใ ช้ ก ระดาษและปากกาเท่ า นั้ น นอกจากนี้ ก ารเรี ย นรู้ ดิ จิ ทั ล จะมี ผ ลสำคั ญ ซึ่งหมายความว่าผู้เรียนและครูผู้สอนจำเป็นต้องรู้สึกได้ว่า ต่อสังคมโดยรวม ต่อความเสมอภาคในการเข้าถึงข้อมูล เทคโนโลยี ส ามารถนำมาใช้ ใ นทุ ก วิ ช าและเข้ า ใจว่ า การบริการและการจ้างงาน การเข้ากลุ่มทางสังคม และ เทคโนโลยี ดั ง กล่ า วส่ ง ผลกระทบต่ อ สิ่ ง ที่ รู้ ใ นเรื่ อ งต่ า งๆ โอกาสในการเรียนรู้เพิ่มเติม ตลอดจนอาจส่งผลกระทบ เทคโนโลยี ก ำลั ง เปลี่ ย นแปลงวิ ธี ก ารที่ เ ราศึ ก ษาค้ น คว้ า ต่อการขยายโอกาสทางธุรกิจ เช่น ภูมิศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และวิทยาศาสตร์ ระบบ การพัฒนาการเรียนรู้ดิจิทัลเป็นเรื่องเกี่ยวกับ จีพีเอส เรื่องเล่าออนไลน์ แบบจำลองทางฟิสิกส์ และการใช้ การเปลี่ ย นแปลงธรรมชาติ ข องความรู้ ค วามเข้ า ใจ ทัศนภาพ โปรแกรมการทำแผนที่อาจส่งผลกระทบต่อ ครูทุกคนสามารถนำเสนอมุมมองที่แตกต่างกันในเรื่องวิธีการ การเรียนภูมิศาสตร์การศึกษาวิทยาศาสตร์อาจรับรู้วิธีการ ที่เทคโนโลยีสามารถเพิ่มคุณค่าในการเรียนของผู้เรียน โต้ตอบด้วยภาพ การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
  • 8. ก า ร เ รี ย น รู้ ดิ จิ ทั ล สู่ โ ร ง เ รี ย น ม า ต ร ฐ า น ส า ก ล การรู้ดิจิทัลในรายวิชาต่างๆ ไม่จำเป็นต้องนำมา เข้ า ใจ (Understand) คื อ ความสามารถที่ จ ะเข้ า ใจ ซึ่ ง การเปลี่ ย นแปลงการสอนอย่ า งสิ้ น เชิ ง ทั ก ษะต่ า งๆ บริ บ ทที่ เ กี่ ย วข้ อ ง และประเมิ น สื่ อ ดิ จิ ทั ล ตระหนั ก ถึ ง ที่เป็นส่วนหนึ่งของการเป็นความรู้แบบดิจิทัลโดยเฉพาะ ความสำคัญของการประเมินผลที่สำคัญในการทำความ อย่ า งยิ่ ง การตั้ ง คำถามที่ ส ำคั ญ ทั ก ษะของการศึ ก ษา เข้าใจดิจิทัลเนื้อหาของสื่อ และการประยุกต์ใช้สามารถ ที่มีประสิทธิภาพและการวิเคราะห์ความผูกพันของผู้เรียน สะท้อนให้เห็นถึงรูปร่างการเพิ่มหรือจัดการกับความรู้สึก กั บ เนื้ อ หาวิ ช า จะยั ง คงช่ ว ยให้ ค รู ห าวิ ธี ก ารสร้ า งสรรค์ ความเชื่อของเราและความรู้สึกเกี่ยวกับโลกรอบตัวเรา ที่มีประสิทธิภาพและมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ตาม ความเข้ า ใจความสำคั ญ ของสื่ อ ดิ จิ ทั ล ที่ ช่ ว ยให้ บุ ค คล หลักสูตร เก็บเกี่ยวผลประโยชน์และลดความเสี่ยง การมีส่วนร่วม การรู้ ดิ จิ ทั ล มี ค วามหมายมากกว่ า ทั ก ษะด้ า นในสั ง คมเต็ ม รู ป แบบดิ จิ ทั ล ทั ก ษะชุ ด นี้ ยั ง รวมถึ ง เทคโนโลยีอย่างง่าย ความเข้าใจรวมถึงทักษะที่ซับซ้อน การพัฒนาทักษะการจัดการสารสนเทศและการแข็งค่า มากขึ้นขององค์ประกอบและการวิเคราะห์ ความสามารถ ของสิ ท ธิ ค นและความรั บ ผิ ด ชอบในการไปถึ ง ทรั พ ย์ สิ น ในการสร้างความหลากหลายของเนื้อหาที่มีการใช้เครื่องมือ ทางปัญญา ในเศรษฐกิจความรู้ ชาวแคนาดาจำเป็นต้องรู้วิธี ดิจิทัลต่างๆ ทักษะและความรู้ที่จะใช้ความหลากหลาย การหาประเมินผลและมีประสิทธิภาพใช้ข้อมูลเพื่อการ ของการใช้งานซอฟต์แวร์สื่อดิจิทัลและอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ สื่ อ สารการทำงานร่ ว มกั น และแก้ ปั ญ หาในชี วิ ต ส่ ว นตั ว เช่ น คอมพิ ว เตอร์ โทรศั พ ท์ มื อ ถื อ และเทคโนโลยี และเป็นมืออาชีพของพวกเขา อินเทอร์เน็ตความสามารถในการเข้าใจสื่อดิจิทัลเนื้อหา การใช้ ง านและความรู้ ค วามสามารถในการสร้ า งด้ ว ย สร้างสรรค์ (Create) ความสามารถในการสร้างเนื้อหา เทคโนโลยีดิจิทัล และมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ การติ ด ต่ อ สื่ อ สารโดยใช้ ค วาม หลากหลายของสื่ อ ดิ จิ ทั ล เป็ น เครื่ อ งมื อ การสร้ า งสื่ อ รู้ ใช้ รู้ เ ข้ า ใจ รู้ ส ร้ า งสรรค์ เป็ น คำที่ แ สดง ดิ จิ ทั ล มี ค วามหมายมากกว่ า ความสามารถในการใช้ ลักษณะความรู้สามารถดิจิทัล โปรแกรมประมวลผลหรือเขียนอีเมล์ รวมถึงความสามารถ ในการปรั บ การสื่ อ สารกั บ สถานการณ์ แ ละผู้ รั บ สาร ใช้ (Use) แสดงถึ ง ความคล่ อ งแคล่ ว ทางเทคนิ ค การสร้ า งและติ ด ต่ อ สื่ อ สารโดยใช้ สื่ อ ผสม เช่ น ภาพ ที่ จ ำเป็ น ในการใช้ กั บ คอมพิ ว เตอร์ แ ละอิ น เทอร์ เ น็ ต วีดิโอและเสียงประกอบอย่างมีประสิทธิภาพและมีความ ชุ ด รู ป แบบพื้ น ฐานสำหรั บ การพั ฒ นาทั ก ษะทางเทคนิ ค รับผิดชอบ ประกอบกับเนื้อหาเว็บไซต์ที่ผู้เรียนสร้าง เช่น ที่ จ ำเป็ น รวมถึ ง ความสามารถในการใช้ โ ปรแกรม บล็อกและเวทีสนทนา วีดิโอและภาพถ่ายร่วมกัน เล่นเกม คอมพิวเตอร์ เช่น โปรแกรมประมวลผลคำ เว็บเบราเซอร์ ทางสั ง คม และรู ป แบบอื่ น ๆ ของสื่ อ สั ง คม แนวคิ ด นี ้ E-mail และการสื่ อ สารอื่ น ๆ เครื่ อ งมื อ ค้ น หาและ ยังตระหนักถึงสิ่งที่เป็นความรู้ในโลกดิจิทัลที่ไม่เพียงแต่ ฐานข้อมูลออนไลน์ สร้ า งความชำนาญทางด้ า นเทคโนโลยี เ ท่ า นั้ น แต่ ยั ง คำนึงถึงจริยธรรม การปฏิบัติทางสังคมและการสะท้อน สิ่งที่ฝังอยู่ในการเรียนรู้ การใช้เวลาว่าง และการใช้ชีวิต ประจำวัน Digital Literacy World-Class Standard School
  • 9. การเรียนรู้ทักษะดิจิทัล The International Society for Technology เพื่อคงไว้ซึ่งความปลอดภัยในการใช้เทคโนโลยี in Education (ISTE) ได้พัฒนามาตรฐานและตัวชี้วัด ใหม่ๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้เรียนทุกคนต้องรู้ทักษะดิจิทัล ที่ ส ะท้ อ นให้ เ ห็ น ถึ ง ความรู้ ดิ จิ ทั ล ที่ น อกเหนื อ จากความ เข้าใจในการใช้งาน ได้แก่ ‘การรู้ ดิ จิ ทั ล ’ (Digital Literacy) เกี่ ย วข้ อ งกั บ ● ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม การรวมกันของทักษะต่อไปนี้ ● การสื่อสารและการทำงานร่วมกัน ● ทั ก ษะด้ า นการทำงานของเทคโนโลยี : ● การวิจัยและความสามารถด้านสารสนเทศ รู้เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ ● การคิ ด อย่ า งมี วิ จ ารณญาณ การแก้ ปั ญ หา ● การคิดเชิงวิเคราะห์ : ความสามารถในการ และการตัดสินใจ วิเคราะห์และประเมินข้อมูลดิจิทัล ● ความเป็นพลเมืองดิจิทัล ● ทักษะการทำงานร่วมกัน : รู้วิธีการกระทำ มาตรฐานเหล่านี้สามารถนำมาใช้เป็นจุดเริ่มต้น อย่างสมเหตุสมผล, ออนไลน์อย่างปลอดภัยและเหมาะสม ในการกำหนดผลสำเร็ จ สู่ ก ารยกระดั บ เยาวชนไทยสู่ ● การตระหนั ก รู้ ท างสั ง คม : เข้ า ใจว่ า จะใช้ มาตรฐานสากล เทคโนโลยีด้วยวิธีใด กับใคร เมื่อใด การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
  • 10. ก า ร เ รี ย น รู้ ดิ จิ ทั ล สู่ โ ร ง เ รี ย น ม า ต ร ฐ า น ส า ก ล 2 การใช้อินเทอร์เน็ต เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการเรียนรู้ เ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technology หรือ ICT) คือ การผสานเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ากับระบบ สื่ อ สารโทรคมนาคมที่ ค รอบคลุ ม ระบบสื่ อ สาร ได้ แ ก่ “เทคโนโลยี ส ารสนเทศและการสื่ อ สาร เพื่อการศึกษา” คื อ การนำความก้ า วหน้ า ของเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารมาก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง วิทยุ โทรทัศน์ โทรสาร โทรศัพท์ เครื่องมือการสื่อสาร รูปแบบการเรียนรู้ของมนุษย์ โดยการนำระบบเครื่องมือ อื่นๆ กับระบบคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ ฐานข้อมูล และ สื่อสารต่างๆ เช่น ระบบโทรศัพท์ ระบบโทรทัศน์ เข้ากับ บริการสารสนเทศ ตลอดจนระบบเครือข่ายโทรคมนาคม ระบบคอมพิวเตอร์ที่ตอบโต้กับผู้ใช้ ประกอบกับการใช้ จำนวนมากที่เชื่อมโยงติดต่อกันและใช้ร่วมกันได้ แหล่ ง ความรู้ ที่ ห ลากหลายจะทำให้ ผู้ ใ ช้ ส ามารถเรี ย นรู้ สิ่ ง ต่ า งๆ ตามความสนใจ นอกจากนี้ เ ทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารยังมีศักยภาพในการลดข้อจำกัด ด้านเวลาและระยะทาง ส่งผลให้การเปลี่ยนแปลงเรียนรู้ ข้ อ มู ล ข่ า วสารเกิ ด ขึ้ น ได้ ทุ ก เวลาทุ ก สถานที่ ก่ อ ให้ เ กิ ด ประโยชน์ต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เทคโนโลยีการสื่อสาร (CT) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) สมรรถนะและการเรียนรู้ของผู้เรียน Digital Literacy World-Class Standard School
  • 11. การใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการเรียนการสอน สถานการณ์จำลอง (Simulations) อิ น เทอร์ เ น็ ต เป็ น เครื อ ข่ า ย ICT ที่ เ ชื่ อ มโยง เป็นเว็บไซต์ที่นำเสนอข้อมูลแบบมัลติมีเดีย แผ่ ข ยายครอบคลุ ม ทั่ ว โลก เป็ น ทั้ ง สิ่ ง แวดล้ อ มและ มีการเคลื่อนไหวทั้งภาพและเสียง และผู้เรียนสามารถ เครื่ อ งมื อ สำคั ญ ในการพั ฒ นาผู้ เ รี ย นให้ มี ศั ก ยภาพเป็ น ตอบโต้ ไ ด้ เช่ น ห้ อ งทดลองเสมื อ นจริ ง ในวิ ช าต่ า งๆ พลโลก การประยุ ก ต์ ใ ช้ อิ น เทอร์ เ น็ ต เพื่ อ การเรี ย น (Virtual Lab) การสอน กระทำได้สองลักษณะดังนี้ บทเรียนและแบบทดสอบ เป็ น เว็ บ ไซต์ ป ระเภทบทเรี ย นหรื อ แบบฝึ ก 1 แนวทางการประยุ ก ต์ ใ ช้ อิ น เทอร์ เ น็ ต ในด้ า น นักเรียน นักเรียนสามารถใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษา ออนไลน์ ซึ่ ง มี ห ลายสาขาวิ ช า รวมทั้ ง แบบทดสอบ ออนไลน์ที่มีทั้งการวัดผลสัมฤทธิ์ วัดความรู้ความสามารถ วัดบุคลิกภาพและสติปัญญา ค้นคว้าวิจัยการเข้าร่วมกิจกรรมเชิงปฏิสัมพันธ์ การเข้า นิทรรศการบนเว็บ ร่วมโครงงานบนเว็บ หรือสร้างสรรค์ผลงานเผยแพร่ 3) โครงงานบนเว็บ (Web-Based Project) 1) การศึกษาค้นคว้า ได้มีการจัดทำโครงงานในชั้นเรียนทั้งระยะสั้น นั ก เรี ย นจะสามารถใช้ อิ น เทอร์ เ น็ ต เป็ น และระยะยาวเผยแพร่ บ นอิ น เทอร์ เ น็ ต ซึ่ ง นั ก เรี ย น เครื่ อ งมื อ ในการสื บ ค้ น ศึ ก ษาวิ จั ย และจั ด ทำรายงาน จะเข้าไปมีส่วนร่วมได้จำนวนมาก และสามารถผนวกหรือ เว็บไซต์ที่เป็นแหล่งทรัพยากร เพื่อการค้นคว้ามีมากมาย จัดเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ตามหลักสูตร ซึ่งอาจจัดประเภทง่ายๆ ดังนี ้ เกี่ยวกับแหล่งรวบรวมโครงงานที่สำคัญ ● ห้องสมุดและแหล่งอ้างอิงทางการศึกษา 4) การสร้างสรรค์งาน ● แหล่งทัศนศึกษาทางอิเล็กทรอนิกส์ นั ก เรี ย นที่ เ ป็ น รายบุ ค คล เป็ น กลุ่ ม ● เอกสารตำราเรียน หรื อ ครู ที่ ด ำเนิ น การร่ ว มกั บ นั ก เรี ย นสามารถสร้ า งหรื อ ● ข้อมูลพื้นฐานและเหตุการณ์ปัจจุบัน จัดทำเนื้อหาสาระเป็นเว็บไซต์เผยแพร่แก่สาธารณชนได้ ● การติ ด ต่ อ ผู้ รู้ แ ละผู้ เ ชี่ ย วชาญ มี แ หล่ ง มีเว็บไซต์ลักษณะนี้หลายประเภท ได้แก่ ข้อมูลที่ให้บริการตอบคำถาม ● วารสาร หนังสือพิมพ์ของนักเรียน 2) กิ จ กรรมเชิ ง ปฏิ สั ม พั น ธ์ (Interactive ● ผลงาน นิทรรศการด้านศิลปะ และวรรณกรรม Activities) ● ผลงานการศึกษาค้นคว้าเรื่องต่างๆ มี เ ว็ บ ไซต์ จ ำนวนมากที่ เ ปิ ด ให้ มี กิ จ กรรม ● การท่องเที่ยวเสมือนจริง (Virtual Tours) แบบโต้ตอบได้ระหว่างเว็บไซต์กับผู้ใช้ เช่น โปรแกรมสนทนา ● การสะสม (Collections) เกมออนไลน์ ที่ ส ำคั ญ และเป็ น ประโยชน์ กั บ ผู้ เ รี ย น ● การสร้างโฮมเพจ อาจจำแนกเว็บไซต์จำพวกนี้ได้ดังนี้ ● การจัดทำ web log ฯลฯ การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
  • 12. ก า ร เ รี ย น รู้ ดิ จิ ทั ล สู่ โ ร ง เ รี ย น ม า ต ร ฐ า น ส า ก ล ประโยชน์สำหรับผู้เรียน 1) การติดต่อสื่อสาร ● นั ก เรี ย นได้ เ รี ย นรู้ จ ากการปฏิ บั ติ ใ น ครูสามารถใช้อินเทอร์เน็ต เพื่อการติดต่อ สภาพจริงมากขึ้น สื่ อ สารกั บ กลุ่ ม ครู ห รื อ ผู้ เ ชี่ ย วชาญในสาขาวิ ช าการที ่ ● นั ก เรี ย นได้ พั ฒ นาทั ก ษะการคิ ด และ เกี่ยวกับงานในหน้าที่หรือตามความสนใจ โดยใช้ E-mail วิธีการเรียนรู้ หรือ List serve ตลอดจนสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ ● นั ก เรี ย นได้ พั ฒ นาทั ก ษะในโลกแห่ ง องค์กรวิชาชีพ หรือกลุ่มสนใจใช้อินเทอร์เน็ต ซึ่งมีให้บริการ ความเป็นจริง หลายเว็บไซต์ เช่น Global Schoolhouse, 21th Century ● เสริมสร้างพหุปัญญาตามศักยภาพของ Teachers.Net นักเรียน 2) การค้นคว้าวิจัย ● ค้นหาและใช้ประโยชน์จากแหล่งข้อมูล ครู ส ามารถใช้ อิ น เทอร์ เ น็ ต เป็ น เครื่ อ งมื อ ข่าวสารในวิชาที่เรียน สืบค้น ค้นคว้า วิจัย เพื่อการเตรียมการสอน การจัดหา ● ค้นหาข้อมูลความรู้ที่เป็นปัจจุบันทันสมัย สื่ อ นวั ต กรรมการเรี ย นการสอน โดยทั่ ว ไปเว็ บ ไซต์ ● ได้ แ ก่ น สารความรู้ ที่ ลุ่ ม ลึ ก มากขึ้ น จาก ลักษณะนี้อาจจำแนกประเภทได้เป็น ผู้ เ ชี่ ย วชาญ เพราะเดิ ม ที นั ก เรี ย นมี โ อกาสจำกั ด อยู่ กั บ ● แผนการสอน ความรู้ของครู ตำราเรียน และหนังสือในห้องสมุดที่มีไม่มาก ● สารสนเทศและข้ อ มู ล ความรู้ ส ำหรั บ ไม่ เ พี ย งพอต่ อ การหาความรู้ ที่ ลุ่ ม ลึ ก เฉพาะเจาะจง ชั้นเรียน จากอินเทอร์เน็ต นักเรียนจะสื่อสารได้โดยตรงถึงอาจารย์ ● แนวคิดและเทคนิคการจัดการเรียนการสอน มหาวิทยาลัย ผู้เขียนตำรา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะผ่านอีเมล์ ● เว็บไซต์ทางการศึกษา ● เรียนรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งได้รอบด้านมากขึ้น ● เว็บไซต์เฉพาะวิชา ● มีทักษะทางสังคม โดยเรียนรู้ที่จะร่วมมือกัน ● เว็บไซต์อ้างอิงและห้องสมุด ทำงานให้สำเร็จในกลุ่ม ● แหล่งทรัพยากรทางการศึกษา ● แลกเปลี่ ย นความคิ ด เห็ น มุ ม มองที่ ต่ า ง ● เว็บไซต์รวมผลงานวิจัย วั ฒ นธรรม ซึ่ ง นอกจากจะทำให้ รั บ รู้ แ ละเข้ า ใจโลกที่ 3) การสร้างงาน กว้างขวางขึ้นแล้วยังได้เปิดสู่อำนาจแห่งความร่วมมือร่วมใจ ครู ส ามารถใช้ อิ น เทอร์ เ น็ ต สร้ า งเว็ บ ไซต์ และความเข้าอกเข้าใจวัฒนธรรมความเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน เพื่อการจัดการเรียนการสอนของตนเอง นอกจากนี้ครูยัง ใช้ประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เผยแพร่ผลงาน 2 แนวทางการประยุกต์ ใช้อินเทอร์เน็ตในด้าน แนวคิดกับเพื่อนร่วมวิชาชีพและผู้สนใจทั่วไป เช่น การใช้ ของครู ครูสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้หลายวิธี เช่นเดียว โปรแกรมการสื่อสาร การใช้ Blog เป็นต้น อินเทอร์เน็ตได้ก่อให้เกิดนวัตกรรมการศึกษา กั บ ที่ นั ก เรี ย นใช้ นอกจากนี้ ยั ง ใช้ เ พื่ อ ติ ด ต่ อ สื่ อ สารกั บ ทางไกล ในด้ า นสถาบั น การศึ ก ษาดิ จิ ทั ล (Digital เพื่ อ นครู แ ละผู้ เ ชี่ ย วชาญจากทั่ ว โลก การค้ น หาแหล่ ง Academy) โดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ทำให้ระยะทางไม่มี สื่ อ วั ส ดุ อุ ป กรณ์ แผนการสอนในวิชาที่ตนรับผิดชอบ ความสำคั ญ นวั ต กรรมดั ง กล่ า วจึ ง นิ ย มเรี ย กกั น ว่ า รวมถึ ง การจั ด ทำ จั ด สร้ า ง สื่ อ นวั ต กรรม กิ จ กรรม “E-learning” (การเรี ย นรู้ ท างอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ) หรื อ การเรียนรู้สำหรับนักเรียนและเผยแพร่แก่ครูหรือบุคคลทั่วไป “E-school” (โรงเรี ย นอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ) เป็ น รู ป แบบ Digital Literacy World-Class Standard School
  • 13. การศึกษาที่เป็น “โรงเรียนเสมือนจริง” (Virtual School) ประโยชน์สำหรับครู ที่ครู ผู้เรียนสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้และโต้ตอบกันได้ ● เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง บ ร ร ย า ก า ศ แ ล ะ ค ว า ม (Interactivity) มีรูปแบบโดยทั่วไป คือ เคลื่อนไหวของห้องเรียน ทำให้ห้องเรียนไม่ใช่สิ่งแวดล้อม 1. การสมัครและลงทะเบียนเข้าเรียน ที่ซ้ำซากจำเจอีกต่อไป 2. การเรียกค้น ดาวน์โหลด หลักสูตร เนื้อหา ● ครู แ ละนั ก เรี ย นจะเรี ย นรู้ ไ ปด้ ว ยกั น ใน สาระทางวิชาการ สื่อการเรียนการสอน ทั้งที่เป็นตำรา สภาพห้องเรียนเครือข่าย ซึ่งครูจะไม่ใช่ผู้รู้เพียงคนเดียว และมัลติมีเดีย ในห้องเรียน 3. การใช้ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อส่งสื่อ ● ค้ น หาข้ อ มู ล ข่ า วสารทางการศึ ก ษาและ เอกสารที่ ใ ช้ ป ระกอบการเรี ย นการสอน การส่ ง งาน สารสนเทศที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ วิ ช าชี พ ตลอดจนแหล่ ง รายงาน การบ้าน ตลอดจนการซักถามระหว่างผู้เรียน วิทยาการ และผู้สอนและระหว่างผู้เรียนด้วยกัน ● ค้ น หาและแลกเปลี่ ย นแผนการจั ด กิ จ กรรม 4. การใช้ป้ายประกาศ (Web Board/Bulletin การเรียนการสอน Board) เพื่ อ ถาม-ตอบ หรื อ แสดงความคิ ด เห็ น ● ข้อมูลพื้นฐานและแหล่งค้นคว้า เพื่อการวิจัย แลกเปลี่ยนข้อมูลตามประเด็นที่สนใจศึกษา เฉพาะเรื่อง/วิชา/สาระการเรียนรู้ 5. การค้นคว้า วิจัยจากคลังข้อมูล (Archives) ● นำข้อมูล เช่น รูปภาพ ภาพยนตร์ วีดิทัศน์ และห้องสมุดดิจิทัล เอกสาร ตำราอิเล็กทรอนิกส์ มาใช้ประกอบการจัดตำราเรียน/ 6. การติวความรู้แบบตอบโต้ผ่านเว็บ (Interactive ผลิตสื่อ Tutorials on the Web) ● สอบถาม ขอคำปรึ ก ษาแนะนำจากผู้ รู้ 7. การสอนหรื อ ฝึ ก อบรมผ่ า นเว็ บ ไซต์ บ น ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนร่วมอาชีพจากทุกมุมโลก เครือข่าย (E-trainning) ● แลกเปลี่ ย นแบ่ ง ปั น ประสบการณ์ ผ ลงาน 8. การศึ ก ษาทดลองในรู ป แบบสถานการณ์ การสอน/วิชาชีพเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมวิชาชีพครู จำลอง (Simulation) และห้องทดลองดิจิทัล (Digital และวงการทางการศึกษาที่กว้างขวางขึ้น Laboratory) 9. การประชุมสนทนาทางไกล 10. การทดสอบวั ด ประเมิ น ผล และแจ้ ง ผล การสอบโดยใช้โปรแกรมแบบทดสอบที่ใช้ระบบตอบโต้ ด้วยรหัสผ่านของผู้เรียน การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
  • 14. ก า ร เ รี ย น รู้ ดิ จิ ทั ล สู่ โ ร ง เ รี ย น ม า ต ร ฐ า น ส า ก ล 3 การเสริมสร้างทักษะ ด้านข้อมูลข่าวสาร ก ารส่งเสริมทักษะด้านข้อมูลข่าวสาร (Information Skills) เป็ น กระบวนการส่ ง เสริ ม การเรี ย นรู้ เพื่ อ ให้ นั ก เรี ย นสามารถสร้ า งความรู้ ผลงาน ● วิธีการสืบเสาะ สืบสาว สืบค้น ที่หลากหลาย และชาญฉลาด หรือหาคำตอบด้วยตนเอง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารเป็นเครื่องมือพัฒนากระบวนการเรียนรู้ 2 การตั้งคำถาม การฝึกทักษะการตั้งคำถาม คือ การกระตุ้น และการคิ ด จึ ง มี ป ระโยชน์ ม ากและใช้ ใ นการเรี ย นรู้ ส่งเสริมให้นักเรียนได้คิดค้นหาประเด็นหรือปัญหาที่สงสัย ทุ ก กลุ่ ม สาระและทุ ก รายวิ ช า ทั ก ษะที่ ส ำคั ญ มี หรือต้องการคำตอบด้วยตนเองอย่างอิสระ แทนที่ครูจะ 8 ประการ คือ เป็นผู้กำหนดหรือสั่งการ 1. การสืบค้นข้อมูล (Searching) การค้ น หาข้ อ มู ล ที่ ต้ อ งการให้ พ บเป็ น เพี ย ง 2. การตั้งคำถาม (Questioning) จุดเริ่มต้นของกระบวนการเรียนรู้ ครูจำเป็นต้องส่งเสริม 3. การวางแผน (Planning) ให้ผู้เรียนปฏิบัติต่อข้อมูลที่ค้นหามาได้ สามารถตีความ 4. การรวบรวมจัดระเบียบ (Gathering) ประเมิ น ค่ า ของเนื้ อ หาสาระ มิ ใ ช่ เ พี ย งแต่ รั บ ข้ อ มู ล 5. การเชื่อมโยงจัดโครงสร้าง (Sorting) โดยปราศจากการไตร่ตรอง 6. การสังเคราะห์สร้างสรรค์ (Synthesizing) ครู ส ามารถใช้ เ ครื อ ข่ า ยอิ น เทอร์ เ น็ ต ยกระดั บ 7. การประเมิน (Evaluation) ทั ก ษะ การคิ ด วิ เ คราะห์ วิ จ ารณ์ โดยให้ นั ก เรี ย นรู้ จั ก 8. การนำเสนอรายงาน (Reporting) ตั้งคำถาม และประเมินทั้งเนื้อหาสาระแหล่งข้อมูลที่พบ 1 การสืบค้นข้อมูล อินเทอร์เน็ต จุ ด มุ่ ง หมายสำคั ญ คื อ การมุ่ ง ให้ ผู้ เ รี ย น สามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการให้พบ ทักษะย่อยที่จำเป็น 3 การวางแผน การส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักวางแผน กำหนด คือ เป้าหมายและข้อมูลที่ต้องการไว้ล่วงหน้าจะทำให้นักเรียน ● เรียนรู้การใช้เครื่องมือสืบค้น สามารถเลือกแหล่งข้อมูลที่มีคุณภาพน่าเชื่อถือสูงได้ด้วย ● เปรี ย บเที ย บการสื บ ค้ น ข้ อ มู ล เรื่ อ งเดี ย วกั น ตนเอง และมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ ประหยั ด เวลา แทนที่ จ ะ ด้วยเครื่องมือสืบค้นที่ต่างกัน แวะเวียนจากแหล่งหนึ่งไปอีกแหล่งหนึ่ง อย่างไร้จุดหมาย ● เรี ย นรู้ แ หล่ ง หรื อ ขอบข่ า ยของข้ อ มู ล ที่ โดยไม่คำนึงว่าแหล่งข้อมูลใดที่จะเป็นประโยชน์ ต้องการค้นคว้า Digital Literacy World-Class Standard School
  • 15. 4 การรวบรวมจัดระเบียบ เมื่อนักเรียนได้ข้อมูลที่มีคุณภาพตามที่ต้องการ 8 การนำเสนอรายงาน การนำเสนอข้อมูล รายงานข้อค้นพบหรือแสดง จากแหล่งต่างๆ แล้ว ทักษะที่จำเป็น คือ การรวบรวม ผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยตนเองเป็นเรื่องสำคัญมาก สะสมข้อมูลและจัดระเบียบ จัดประเภทข้อมูลที่สำคัญๆ ซึ่งต่างจากการนำผลงานหรือความคิดของคนอื่นมาแสดง เอาไว้ เ พื่ อ นำมาเรี ย กใช้ ไ ด้ ด้ ว ยตนเอง แทนที่ จ ะปล่ อ ย การนำเสนอผลงานต่ อ หน้ า ผู้ ฟั ง เช่ น ครู ผู้ ป กครอง ข้อมูลปะปนกระจัดกระจายและจำแนกหมวดหมู่ ลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนๆ นักเรียน หรือการที่ได้แสดง สาระสำคัญได้ยาก ผลงานต่อคนทั่วโลกบนเว็บไซต์ นอกจากจะเป็นแรงจูงใจ ที่ ส ำคั ญ แล้ ว ยั ง ช่ ว ยเพิ่ ม ความรั บ ผิ ด ชอบร่ ว มกั น และ 5 การเชื่อมโยงจัดโครงสร้าง เป็นทักษะที่มีความต่อเนื่องจากการจัดระเบียบ ยกระดับมาตรฐานการเรียนรู้ของผู้เรียนทุกคน ข้ อ มู ล โดยการกำหนดเค้ า โครงหรื อ โครงสร้ า งข้ อ มู ล การส่งเสริมความสามารถในการวิเคราะห์ ที่สัมพันธ์กันหรือเป็นเรื่องราวสอดคล้องมาเชื่อมโยงกัน และประเมินเว็บไซต์ หรือจัดเข้าชุดเดียวกัน ทั้งนี้เป็นผลมาจากประเด็นคำถาม อิ น เทอร์ เ น็ ต นั บ ว่ า เป็ น แหล่ ง ข้ อ มู ล ข่ า วสาร หรือเรื่องราวที่ได้ค้นคว้า ซึ่งกำหนดไว้เบื้องแรก ขนาดมหึมาและหลากหลาย มีทั้งข้อมูลที่มีสาระและไร้สาระ ทั้งที่ถูกต้องและผิดพลาด ครูจำเป็นต้องส่งเสริม ความ 6 การสังเคราะห์สร้างสรรค์ เป็นความสามารถในการแสดงมุมมองความคิด สามารถในการวิ เ คราะห์ แ ละประเมิ น คุ ณ ค่ า สาระของ เว็ บ ไซต์ ที่ เ รี ย กค้ น จากอิ น เทอร์ เ น็ ต ซึ่ ง จะช่ ว ยส่ ง เสริ ม การตั ด สิ น ใจ ตลอดจนสร้ า งผลงานที่ ใ ช้ ภ าษา คำพู ด ทักษะด้านข้อมูลข่าวสารของนักเรียนได้ดี คำอธิบาย หรือชิ้นงานที่เป็นตัวของตัวเอง มิใช่นำข้อมูล โดยทั่ ว ไปแล้ ว มี ป ระเด็ น บ่ ง ชี้ คุ ณ ภาพของ หรือข้อสรุปของผู้อื่นมาอ้างหรือบอกต่อ ซึ่งในกระบวนการนี้ เว็บไซต์ที่สำคัญๆ คือ ถือได้ว่าผู้เรียนได้สร้างข้อมูลความรู้ใหม่ขึ้นมาเองได้แล้ว 1. ความยากง่ายในการเรียกใช้ (Accessibility) ในแง่ความเร็วและความสะดวกในการเข้าถึง 7 การประเมิน นั ก เรี ย นจะตรวจสอบ ทบทวนข้ อ ค้ น พบ 2. ความถูกต้องน่าเชื่อถือ (Accuracy) ซึ่งรวม ทั้งเนื้อหาสาระ แหล่งข้อมูล และผู้สร้างหรือเผยแพร่ 3. ความเหมาะสม (Appropriateness) ประเด็นคำตอบและตัดสินใจ เพื่อประเมินว่าข้อมูลความรู้ เป็นการพิจารณาความเหมาะสมของเนื้อหาสาระในแง่ ที่ ค้ น พบนั้ น เหมาะสม เป็ น ประโยชน์ ม ากน้ อ ยเพี ย งใด การรับรู้ของผู้ใช้ว่ายากง่ายเพียงใด ตรงวัตถุประสงค์ที่จะใช้งาน การประเมิ น เป็ น วงจรที่ ด ำเนิ น ไปอย่ า งต่ อ เนื่ อ ง หรือไม่ ยิ่งนักเรียนมีประสิทธิภาพสูงขึ้นเวลาที่ใช้ในการจัดเก็บ 4. ความน่ า สนใจในการนำเสนอ (Appeal) รวบรวม และประมวลผลจะลดลง และยังช่วยให้นักเรียน เป็นการประเมินความสวยงามหรือคุณลักษณะทางด้าน ไม่รีบร้อนด่วนสรุป รูปลักษณ์ สีสัน รูปแบบการนำเสนอว่า กระตุ้นให้เกิด ความสนใจ น่าเพลิดเพลิน หรือช่วยให้เกิดการเรียกใช้งาน หรือไม่ เพียงใด ตามการรับรู้ของผู้ใช้ 10 การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
  • 16. ก า ร เ รี ย น รู้ ดิ จิ ทั ล สู่ โ ร ง เ รี ย น ม า ต ร ฐ า น ส า ก ล ครูอาจส่งเสริมให้ผู้เรียนตรวจสอบและประเมิน 4 เปรียบเทียบกับสื่อหรือแหล่งข้อมูลอื่น เว็บโดยผ่านกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งมีกิจกรรม ครู อ าจแนะนำให้ นั ก เรี ย นศึ ก ษาเปรี ย บเที ย บข้ อ มู ล จาก เสนอแนะดังนี ้ หนังสือพิมพ์ หรือวารสารออนไลน์ซึ่งนำเสนอข่ า วสาร 1 การเปรียบเทียบเว็บไซต์ต่างๆ ที่มีเนื้อหา ความคิดเห็นในเรื่องเดียวกัน เช่น การเมือง สิ่งแวดล้อม และให้ นั ก เรี ย นบั น ทึ ก ย่ อ เปรี ย บเที ย บข้ อ แตกต่ า งของ สาระเดียวกัน โดยให้นักเรียนดูทั้งชั้นแล้วเปรียบเทียบ ความเหมื อ น ความแตกต่ า ง และลั ก ษณะเฉพาะของ ข่ า วสารหรื อ ความคิ ด เห็ น ที่ ค้ น มาได้ แล้ ว นำเสนอต่ อ เว็บไซต์ตามแนวทางแบบประเมินสำหรับนักเรียน แล้วให้ เพื่อนๆ นักเรียนจับคู่หรือจับกลุ่มเลือกเว็บไซต์ เพื่อเปรียบเทียบว่า เว็บไซต์ใดน่าเชื่อถือมากน้อยกว่ากัน 5 เปรียบเทียบสาระระหว่างมืออาชีพกับ มือสมัครเล่น วัตถุประสงค์ของกิจกรรมนี้ก็เพื่อให้นักเรียน 2 การเปรียบเทียบข้อมูลกับแหล่งข้อมูล ได้เข้าใจว่าการสืบค้นในหัวข้อเรื่องเดียวกันมักจะมีเว็บไซต์ ที่ มี เ นื้ อ หาสาระที่ ถู ก ต้ อ ง ละเอี ย ด ครอบคลุ ม กว่ า อี ก นอกอิ น เทอร์ เ น็ ต ครู ใ ห้ นั ก เรี ย นเปรี ย บเที ย บข้ อ มู ล ที่ เ รี ย กค้ น จากเว็ บ ไซต์ กั บ ข้ อ มู ล จากแหล่ ง ภายนอก เว็ บ ไซต์ ห นึ่ ง เสมอ และเว็ บ ไซต์ ที่ จั ด ทำโดยองค์ ก ร โดยอาจให้ไปสอบถามจากผู้รู้อื่นๆ ในโรงเรียนหรือในชุมชน หน่ ว ยงาน หรื อ สถาบั น ที่ มี ค วามเชี่ ย วชาญ มี ภ ารกิ จ เช่น ครู ครูบรรณารักษ์ ผู้รู้ในชุมชน หรืออาจให้นักเรียน หรือหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องนั้นๆ โดยตรง จะมีเนื้อหาละเอียด นำข้อมูลไปตรวจสอบกับเอกสาร ตำรา วารสาร วัสดุ ถูกต้อง น่าเชื่อถือ ครอบคลุมหัวข้อเรื่องที่ค้นคว้ามากกว่า อ้างอิงในห้องสมุด เว็ บ ไซต์ ที่ จั ด ทำโดยบุ ค คลใดบุ ค คลหนึ่ ง ซึ่ ง ไม่ ไ ด้ มี ความเชี่ยวชาญ เป็นที่รู้จักแพร่หลาย 3 ค้ น คว้ า เพิ่ ม เติ ม เกี่ ย วกั บ เว็ บ ไซต์ ครู กำหนดให้นักเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับเว็บไซต์ที่เรียกค้นเพิ่มเติม ซึ่งอาจทำได้ดังนี้ ● สอบถามความคิ ด เห็ น ของครู ผู้ ป กครอง หรือผู้รู้ที่มีประสบการณ์ เพื่อหาข้อมูลยืนยันความน่าเชื่อ ถือของเว็บไซต์ ● โทรศั พ ท์ ส อบถามแหล่ ง ข้ อ มู ล ที่ ส ร้ า งเว็ บ ไซต์ (บางแห่งจะมีหมายเลขโทรศัพท์ระบุไว้) ● ส่ ง จดหมาย (E-mail) ขอข้ อ มู ล เพิ่ ม เติ ม จากผู้สร้างเว็บไซต์ Digital Literacy World-Class Standard School 11
  • 17. 4 โครงงานบนเว็บ (Web-Based Project) โ ครงงานบนเว็ บ ทำให้ มี ก ารปรั บ ปรุ ง สภาพ แวดล้อมการเรียนรู้ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง การสอนของครู นักเรียนเรียนรู้ได้มีประสิทธิภาพ เพิ่ ม ขึ้ น เมื่ อ ได้ เ รี ย นสาระวิ ช าต่ า งๆ ในสภาพการณ์ ขั้นตอนการดำเนินโครงงาน 1. ครู แ ละนั ก เรี ย นร่ ว มกั น กำหนดประเด็ น ที่ นั ก เรี ย นจะค้ น คว้ า โดยการนำเสนอข้ อ มู ล เบื้ อ งต้ น การอภิปรายในชั้นเรียน การเชิญวิทยากรภายนอกหรือ ที่เอื้ออำนวยและได้ลงมือปฏิบัติจริง การร่วมตรวจสอบ การค้นคว้าในห้องสมุด ทบทวน ประเมิ น ผลโดยกระบวนการกลุ่ ม จะช่ ว ย 2. แจ้ ง ผู้ ป กครองให้ ท ราบวั ต ถุ ป ระสงค์ แ ละ ยกระดับความรู้สึกร่วมรับผิดชอบ ขอให้สนับสนุนนักเรียนเท่าที่จะทำได้ การเรียนรู้ผ่านโครงงานที่ใช้อินเทอร์เน็ตจึงเป็น 3. แบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆ ละ 4-5 คน เครื่องมือจะส่งผลดีต่อการเรียนรู้ดังนี้ ตามประเด็นหลักที่ศึกษา 1. สมรรถนะการเรียนและทักษะการคิด 4. ครูชี้แจงลักษณะงานที่ต้องปฏิบัติในโครงงาน 2. การเรียนรู้จากการปฏิบัติตามสภาพการณ์จริง 5. กำหนดบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของ 3. นักเรียนทุกคนได้ยกระดับความรู้ความสามารถ นั ก เรี ย นแต่ ล ะคนในกลุ่ ม ตามลั ก ษณะงานโดยคำนึ ง ถึ ง สูงขึ้น ความสามารถ จุดเน้น ศักยภาพของแต่ละคน 4. ครู นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนปรับเปลี่ยน 6. ครู ท บทวนกฎ กติ ก า จรรยา มารยาท บทบาทและมีส่วนร่วมมากขึ้น ในการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการสื่อสาร 1) นักเรียนดำเนินการค้นคว้าตามขั้นตอน บทบาทหน้าที่และบันทึกผลการปฏิบัติกิจกรรมและข้อค้นพบ เรียนรู้ผ่าน นักเรียน จากแหล่งข้อมูล ประสบการณ์ เรียนเป็น 2) นั ก เรี ย นประชุ ม กั น เป็ น ระยะๆ เพื่ อ การปฏิบัติ คิดเป็น รายงานผลการปฏิบัติที่สำคัญต่อสมาชิกในกลุ่ม 3) นักเรียนผู้แทนแต่ละกลุ่มรายงานความ โครงงาน ก้าวหน้า/ผลการดำเนินงานต่อนักเรียนทั้งหมดสัปดาห์ละครั้ง บนเว็บ 4) แต่ละกลุ่มจัดทำเอกสารรายงานผลการ ค้นคว้าต่อครู โรงเรียน กรรมการสถานศึกษา นักเรียน 5) แต่ ล ะกลุ่ ม นำเสนอผลงานรวมระดั บ มีความรู้ การมีส่วนร่วม ความสามารถ โรงเรียนโดยใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศประกอบ สูงขึ้น 1 การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล
  • 18. ก า ร เ รี ย น รู้ ดิ จิ ทั ล สู่ โ ร ง เ รี ย น ม า ต ร ฐ า น ส า ก ล 6) นำข้อมูล/ผลงานเผยแพร่กับแลกเปลี่ยน โรงเรียนคู่พัฒนาและโรงเรียนอื่นๆ ทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 3 บทบาทหลั ก ของครู คื อ ผู้ อ ำนวยการ ความสะดวกในการเรียนรู้ของนักเรียน ทักษะที่สำคัญของครู ผ่ า นเว็ บ ไซต์ ข องสถานศึ ก ษาหรื อ เว็ บ ไซต์ ที่ ส นั บ สนุ น คือ การเผยแพร่ ● ความสามารถในการจูงใจ ● ตั้งคำถามที่เหมาะสม แนวทางการส่งเสริมการจัดทำโครงงาน ● นำนั ก เรี ย นให้ มุ่ ง มั่ น ในกระบวนการเรี ย นรู ้ ของตนเอง 1 กำหนดเป้ า หมาย จุ ด ประสงค์ ก ารเรี ย นรู้ ตรวจสอบว่า ● เรียนร่วมไปพร้อมๆ กับนักเรียน ● ช่ ว ยให้ นั ก เรี ย นใช้ เ ทคโนโลยี ใ นบรรยากาศ ที่ ส่ ง เสริ ม การเรี ย นแบบร่ ว มแรงร่ ว มใจ การสื บ สวน 1. โครงงานสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ค้นคว้าและพัฒนาระดับความคิด หรือไม่ 2. การใช้ อิ น เทอร์ เ น็ ต จะช่ ว ยให้ ก ารจั ด ประสบการณ์การเรียนรู้ในแง่ใด (สาระการเรียนรู้พัฒนา 4 แนวปฏิบัติในการอำนวยการเรียนรู้ 1. สร้างแบบอย่างสร้างทีมเรียนรู้ ทักษะการสืบค้น พัฒนาทักษะด้านข้อมูลข่าวสาร หรือ การอ่าน/เขียน/ใช้ภาพ) ● กำหนดมาตรฐานหรือข้อตกลงร่วมกัน 3. ประเด็ น ที่ นั ก เรี ย นจะเรี ย นรู้ นั้ น จำเป็ น ในทีม เพื่อให้นักเรียนมีส่วนร่วมและเคารพความคิดเห็นเห็น ต้องหาข้อมูลที่จำเพาะเจาะจงหรือไม่ ซึ่งกันและกัน 4. กระบวนการเรียนรู้จำเป็นต้องหาความรู้จาก ● แสดงให้ นั ก เรี ย นเห็ น ว่ า ครู ตั้ ง ใจฟั ง แหล่งที่แตกต่างทางภูมิศาสตร์ สภาพแวดล้อม วัฒนธรรม ความคิดใหม่ๆ หรือไม่ ● สังเกตความต้องการและหาทางในการ 5. นักเรียนจะได้รับประโยชน์จากการร่วมมือ สนับสนุน ร่วมโครงงานในเรื่องใดบ้าง ● ต ร ว จ ส อ บ พ ฤ ติ ก ร ร ม ที่ เ ห ม า ะ ส ม ในกลุ่ม เช่น การดูถูกดูแคลนความคิดของเพื่อน แล้วหาทาง 2 กำหนดลั ก ษณะกิ จ กรรม ที่ ส อดคล้ อ งกั บ จุดประสงค์ว่าเป็นลักษณะใด เช่น การสื่อสาร การสืบค้น เสริมแรงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเมื่อมีโอกาส ● สร้างความมั่นใจให้นักเรียนเห็นว่าแต่ละคน เป็นส่วนหนึ่งของทีมและต้องร่วมรับผิดชอบในบทบาทของ การค้นคว้า วิจัย การแก้ปัญหา ฯลฯ ตนเองต่อทีม ● เน้นเป้าหมายอยู่อย่างสม่ำเสมอ Digital Literacy World-Class Standard School 1
  • 19. 2. ส่งเสริมการสื่อสารและแสดงความคิด 5. กระตุ้นให้ลงมือปฏิบัติ ● กระตุ้นให้พูดคุย อภิปรายของนักเรียน เมื่อเห็นว่านักเรียนพอจะเห็นแนวทางความคิด ดำเนินไปในประเด็นที่ต่อเนื่อง ในการทำงาน ครู ค วรจะจู ง ใจให้ นั ก เรี ย นเริ่ ม ต้ น ลงมื อ ● ส่งเสริมการมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น วางแผนหรือปฏิบัติ โดยตั้งคำถามประเภท “เราจะเริ่มต้น ของสมาชิกทุกคน กันอย่างไร” ● กระตุ้นให้แสดงความคิดวิเคราะห์วิจารณ์ 6. สะท้อนผลการปฏิบัติ 3. สร้างความกระจ่าง ครู ค วรสนั บ สนุ น ให้ นั ก เรี ย นได้ ส ะท้ อ น บางครั้ ง นั ก เรี ย นต้ อ งการความช่ ว ยเหลื อ ความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง เช่น ในการเรี ย บเรี ย งประมวลความคิ ด เห็ น ที่ แ ต่ ล ะคนได้ นักเรียนได้เรียนรู้อะไรบ้าง แสดงออก ครูควรทำความกระจ่างให้นักเรียนได้โดย ● กระตุ้ น ให้ นั ก เรี ย นช่ ว ยสรุ ป ประเด็ น ความคิดหลักๆ 5 การตรวจสอบโครงงาน การออกแบบโครงงานเป็นความร่วมมือของครู ● ตั้ ง คำถาม ถามทบทวนหรื อ เปลี่ ย น กับนักเรียน โดยนักเรียนได้รับการส่งเสริมให้ริเริ่มจัดทำ ถ้ อ ยคำในประเด็ น คำตอบ เพื่ อ ให้ นั ก เรี ย นสรุ ป ยื น ยั น โครงงานและครูเป็นผู้ชี้แนะ องค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้ ความคิด กระบวนการจั ด ทำโครงงานเป็ น การเรี ย นรู้ เ พื่ อ สร้ า ง 4. ควบคุมให้อยู่ในประเด็นเป้าหมาย ความรู้จริงๆ คือ ในการอภิ ป รายนั ก เรี ย นอาจเบนประเด็ น 1. เรียนตามสภาพจริง ความสนใจออกไปนอกเป้าหมายของงานหรือโครงงาน 2. เรียนรู้รอบด้าน ที่กำลังทำอยู่ ครูควรกระตุ้นเตือน หรือถามให้ตรวจสอบ 3. เรียนเพื่อใช้ชีวิตจริง ว่าอยู่ในประเด็นหรือไม่ 4. เรียนอย่างใฝ่รู้ 5. เรียนรู้กับผู้ใหญ่/ผู้รู้ 6. เรียนรู้ผลการปฏิบัติ 1 การเรียนรู้ดิจิทัลเทคโนโลยีโรงเรียนมาตรฐานสากล