More Related Content More from ศุภวัฒน์ ปภัสสรากาญจน์ (20) องค์กรพัฒนาเอกชนและการจัดการเพื่อการ2. 1. ความหมายขององค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs)
1.1 นิยามขององค์กรพัฒนาเอกชน(Term off NGOs)
1.2 โครงสร้างขององค์กรพัฒนาเอกชน
1.3 ภาคประชาสังคมกับองค์กรพัฒนาเอกชน
2. ประเภทขององค์กรพัฒนาเอกชน
3. การจัดลาดับกิจกรรมขององค์กรพัฒนาเอกชน
3. NGO ย่อมาจาก Non-governmentOrganizations หมายถึง องค์กรพัฒนาเอกชน ชื่อนี้เป็นชื่อที่รู้จักกันทั่วไปและเป็นชื่อที่นิยมเรียกกันใน
ประเทศไทย ส่วนสหรัฐอเมริกาจะเรียกกันว่า PublicVoluntary Organizations (PVO) หมายถึง องค์กรสาธารณประโยชน์ ดังนั้นถ้าหากถามว่า
"NGO คือ อะไร ?" ก็คงจะต้องตอบกันแบบตรงๆ ก่อนว่า "NGO คือ องค์กรเอกชนเพื่อสาธารณประโยชน์" แล้ว NGO หรือองค์กรเอกชนเพื่อ
สาธารณประโยชน์เค้าทาอะไรกัน
อย่างที่ได้กล่าวเอาไว้ในข้างต้นว่า "NGO คือ องค์กรเอกชนเพื่อสาธารณประโยชน์" ดังนั้นสิ่งที่ NGO ทากัน ก็คือการทาเพื่อสาธารณประโยชน์ หรือทาเพื่อ
ประโยชน์ของทุกๆ คนนั้นเอง แล้วมีเรื่องอะไรบ้างที่ NGO ทากัน ต้องบอกว่ามีหลายเรื่องหรือมีแทบทุกเรื่องเลยทีเดียว อย่างเช่น การพัฒนาชนบท, การพัฒนาชุมชน
เมือง, การพัฒนาเด็ก, การพัฒนาสตรี, สิทธิเด็ก, สิทธิสตรี, สิทธิแรงงาน, อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม, ดูแลสุขภาพ และอีกหลายๆ เรื่องที่หน่วยงานของรัฐไม่สามารถทาได้
หรือทาได้ยาก เนื่องจากข้อจากัดอะไรหลายๆ อย่าง
NGO เป็นองค์กรที่มักจดทะเบียบเป็นสมาคม มูลนิธิหรือนิติบุคคลอื่นๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับกฎหมายของแต่ละประเทศ ในบางประเทศก็อาจจะไม่มีการจดทะเบียบองค์กร ซึ่ง
ถ้าหากไม่ได้จดทะเบียนองค์กร การดาเนินงานของกลุ่มก็จะเป็นไปในลักษณะงานเล็กๆ ส่วนที่เป็นองค์กรจดทะเบียนหรือนิติบุคคล ก็จะสามารถดาเนินในระดับที่ใหญขึ้น
ได้เพราะกฎหมายเอื้ออานวย
NGO เป็นองค์กรหรือกลุ่มที่มีอยู่ในทุกประเทศ ยิ่งประเทศที่พัฒนามากๆ องค์กรเหล่านี้ก็จะมีมากและขนาดใหญ่ขึ้นด้วย เพราะมันแสดงถึงการมีส่วนร่วมของภาค
ประชาชนในการขับเคลื่อนสังคมที่ชัดเจนและยอดเยี่ยมที่สุด โดยเฉพาะกับประเทศเสรีนิยมประชาธิปไตย
องค์กรเหล่านี้เป็นองค์กรที่ดาเนินงานโดยไม่แสวงหาผลกาไร เป็นงานที่ต้องเสียสละและทาด้วยชีวิตจิตใจ ไม่มีผลตอบแทน ดังนั้นกลุ่มคนที่เข้ามาทางานนี้จึงประกอบไป
ด้วยคนหลากหลายอาชีพ หลากหลายชนชั้น อาทิ หมอ, ครู, พนักงานบริษัท, ข้าราชการ, นักศีกษาและเยาวชน
หน้าที่หรืองานที่สาคัญอีกอย่างของ NGO ก็คือ การรวมตัวของภาคประชาชนเพื่อต่อรองหรือคานอานาจกับรัฐบาลของประเทศหรือองค์กรภาคธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะ
กับรัฐบาล NGO จะคอยสอดส่องและตรวจสอบการใช้อานาจของรัฐให้เป็นไปเพื่อสาธารณประโยชน์อย่างแท้จริง
4. The term, "non-governmental organization" or
NGO, came into use in 1945 because of the need
for the UN to differentiate in its Charter between
participation rights for intergovernmental
specialized agencies and those for international
private organizations. At the UN, virtually all
types of private bodies can be recognized as
NGOs.They only have to be independent from
government control, not seeking to challenge
governments either as a political party or by a
narrow focus on human rights, non-profit-
making and non-criminal
5. As of 2003, there were
reportedly over 20,000 NGOs active in Iran.
The majority of these organizations are
charity
organizations, and thus would not fall under
the category of development-oriented NGOs.
In this
document the term NGO is primarily used for
organizations other than charitable
organizations.
6. โครงสร้าง ขององค์กรพัฒนาเอกชน แตกต่างกันมาก มีการปรับปรุง ในการ
สื่อสารมากขึ้น กลุ่ม ประเทศที่ ใช้เรียกว่า องค์กร รากหญ้า หรือชุมชน ตาม
องค์กร ได้กลายเป็น ที่ใช้งาน ในระดับชาติ หรือแม้กระทั่ง ในระดับโลก เพิ่ม
มากขึ้น นี้เกิดขึ้น ผ่าน การก่อตัวของ พันธมิตร กับ องค์กรพัฒนาเอกชน อื่น
ๆ สาหรับ เป้าหมาย เฉพาะเช่น กรณีที่เกิดขึ้น ในกรณีของ แผ่นดินไหว ปัง
ตัวอย่างเช่น
9. ปัจจุบันงานพัฒนาชนบทเป็นอาชีพหนึ่ง เหมือนกับอาชีพอื่นๆไปแล้ว มิใช่
อาสาสมัครเหมือนในยุคแรกๆ ต่างกันตรงที่จะเลือกสังกัดหน่วยงาน ซึ่งก็มี
หน่วยงานของรัฐบาล ก็เป็นข้าราชการ หรือลูกจ้างประจา หรือ องค์กรพัฒนา
ชนบทเอกชน ทั้งในระดับเล็กๆ และใหญ่ๆ จนถึงระดับนานาชาติ เช่น
Foster Parent Plan, Save the Children, Care,
WorldVision, ฯลฯ
13. การดาเนินงานด้านสุขภาพชุมชนและการศึกษา การดาเนินงานด้านการคุมกาเนิดและ
การศึกษาด้านการอนามัยทั่วไป
การดาเนินงานด้านกิจกรรมด้าน การกาจัดของเสีย
การดาเนินงานด้านกิจกรรมการจัดการและการใช้ทรัพยากรน้า
การดาเนินการด้านการฉีดวัคซีน
การดาเนินการด้านการบริการให้คาปรึกษาแก่เยาวชน
การดาเนินการด้านการแก้ไขวิกฤตการณ์สุขภาพใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น
การดาเนินการด้านการต่อต้านและการรักษา การศึกษาและการสนับสนุนด้านการค้นคว้า
วิธีรักษาโรคเอดส์การศึกษา
การดาเนินการด้านการศึกษาไวรัสตับอักเสบบี
4.10 การดาเนินการด้านการต่อต้านยาเสพติด
การดาเนินการด้านการปัญหาสังคมชุมชน
การดาเนินการด้านการการก่ออาชญากรรมเด็กและเยาวชน
4..13 การดาเนินงานด้านปัญหาครอบครัว
การดาเนินงานด้านเด็กจรจัด
การดาเนินงานด้านการค้าประเวณี
การดาเนินงานด้านสภาพแวดล้อม
การดาเนินงานด้านการจัดการทรัพยากรน้าอย่างยั่งยืนและการศึกษาการใช้พลังงาน
การดาเนินงานด้านการรักษาป่าไม้ภูเขา
การดาเนินงานด้านการผลักดันด้านเศรษฐกิจ
การดาเนินงานด้านสินเชื่อขนาดเล็ก Micro-Cradit
การดาเนินงานด้านการฝึกอบรมทักษะ (คอมพิวเตอร์, การฝึกอบรมช่างเทคนิค, บริการจัด
เลี้ยง, เสื้อผ้าและสิ่งทออื่น ๆ )
การดาเนินงานด้านการส่งเสริมการขายสินค้าและการจัดจาหน่าย (ตลาดนัด ฯลฯ )
การดาเนินงานด้านการสร้างสหกรณ์
การดาเนินงานด้านการให้คาปรึกษาทางการเงิน
การดาเนินงานด้านกิจกรรมองค์กรพัฒนาเอกชน
การดาเนินงานด้านการบริการการงานอาชีพและงานความช่วยเหลือค้นหา
การดาเนินงานด้านการพัฒนา
การดาเนินงานด้านการก่อสร้างโรงเรียน
การดาเนินงานด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน
การดาเนินงานด้านการก่อสร้างศูนย์วัฒนธรรมและการดาเนินงาน
การดาเนินงานด้านการเกษตรและความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญเพาะเลี้ยงสัตว์น้า
การดาเนินงานด้านการแก้ไขปัญหาสตรี
การดาเนินงานด้านสิทธิสตรีและเด็ก
การดาเนินงานด้านการช่วยเหลือผู้สูญเสียโอกาส ทุพลภาพและไม่สามารถช่วนเหลือตัวเอง
ได้
การดาเนินงานเพื่อการช่วยเหลือและการบาบัดสาหรับผู้ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ
การดาเนินงานด้านการสายด่วนให้คาปรึกษา (บริการให้คาปรึกษาทางโทรศัพท์ที่ใช้สาหรับ
สตรี)
การดาเนินงานด้านการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่กลุ่มสตรี