Weitere ähnliche Inhalte
Ähnlich wie โคลนติดล้อ (สอน Ppt)[1] (20)
Mehr von นิตยา ทองดียิ่ง (19)
โคลนติดล้อ (สอน Ppt)[1]
- 1. T
H โคลนติดล้อ
A ตอน ความนิยมเป็นเสมียน
I
พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูหว
่ั
รัชกาลที่ ๖
ทรงใช้พระนามแฝงว่า อัศวพาหุ
- 3. ลักษณะคำประพันธ์ : บทควำม
(เนื้อหำแสดงควำมคิดเห็น)
ความคิดเห็นเกี่ยวกับค่านิยมของคนไทยทีทา
่
ให้บา้ นเมืองไม่พฒนาไปเท่าทีควร
ั ่
- 5. T
H
ที่มาของเรื่อง
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หว ทรง ั
A
พระราชนิ พ นธ์ เรื่อ ง โคลนติดล้อ ซึ่งมีท ง หมด
ั้
I
๑๒ ตอน ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทย ระหว่าง
วัน ที่ ๒๘ เมษายน ถึง ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ.
๒๔๕๘ (๑๔ วัน)
- 6. ตอน ความนิ ย มเป็ น เสมี ย น เป็ นตอนที่ ๔
จาก ๑๒ ตอน บทความเรื่องนี้ทรงพระราชนิพนธ์
เป็ นภาษาอังกฤษด้วยในชื่อว่า Clogs on Our Wheels
ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์สยาม (สยามออบเซอร์เวอร์
Siam observer)ฉบับวันที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ.
๒๔๕๘
- 8. อปมา
ุ
• การเปรี ยบเทียบสิ่งหนึ่งว่ าเหมือนกับอีกสิ่งหนึ่ง
• คล้าย เท่า เหมื อน เฉก เช่น พ่าง ดุจ ดัง ดัง ประดุจ
่
ราว ราวกับ เสมื อน
อปลักษณ์
ุ
• การเปรี ยบว่ าสิ่งหนึ่งเป็ นอีกสิ่งหนึ่ง
• คือ เป็ น
- 10. T
H
ตัวเนื้อเรื่อง
พระราชนิ พ นธ์ ประเภทบทความ มี
A ทั ง หมด ๑๒ บท และบทที่ ๑๒ จบด้ ว ยกาพย์
้
I ยานี ๑๑ จานวน ๔ บท เพื่ อปลุกใจให้ คนไทยรั ก
ช า ติ รั ก ค ว า ม เ ป็ น ไ ท ย ชี ใ ห้ ค น ไ ท ย ไ ด้ เ ห็ น
้
ข้ อบกพร่ องของ ตนเองที่ทาให้ ประเทศไทยเจริ ญ
ก้ าวหน้ าช้ ากว่าที่ควร เป็ นตอนจบของบทที่ ๑๒
ของเรื่ อง "โคลนติดล้ อ " ที่เตือนจิตสานึกของ
คนไทยให้ ภมใจในประเทศของตน
ู ิ
- 11. สหายเอยจงเงยหน้ า และเปิ ดตาพินิจดู
เผยม่านพะพานอยู่ กาบังเนตรบ่เห็นไกล
เปิ ดม่านแลมองเถิด จะเกิดความประโมทย์ใจ
เห็นแคว้ นและแดนไทย ประเสริ ฐแสนดังแดนสรวง
หวังใดจะได้ สม เสวยรมยะแดดวง
เพ็ญอิสสะโรปวง ประชาเปรมเกษมสานต์
ซื่อตรงและจงรัก ผดุงศักดิภบาล
ู
เพื่อทรงดารงนาน อิศเรศร์ ประเทศสยาม ๕/๔
๕/๒
- 12. ใจความของเรื่อง
เรื่ องนี ชีใ้ ห้ เห็นถึงข้ อบกพร่ องของคนไทย ๑๒
้
ประการ ที่ เปรี ยบเป็ นโคลนติดล้ อหรื อปั ญหาที่
ทาให้ ประเทศชาติก้าวไปสู่ความเจริ ญได้ ช้าลง
ได้ แก่
เรื่ องโคลนติดล้ อมีทังหมด ๑๒ ตอน ซึ่งเปรี ยบ
้
เป็ นโคลน ๑๒ ก้ อน ดังนี ้
- 14. ๑. การเอาอย่างโดยไม่ตริตรอง ทัง ๑๒ เรื่อง ได้ลง
้
Unreasoning Imitation ตี พิม พ์ ใ นหนั ง สือ พิม พ์
๒. การทาตนให้ ต่าต้ อย ไทย
Self-Abasement ส่วนตอนที่ ๔ ได้ลง
๓. การบูชาหนังสือจนเกินเหตุ ตีพมพ์ในหนังสือพิมพ์
ิ
Exaggerated Veneration for “Letter”
Siam observer ด้วย
๔. ความนิยมเป็ นเสมียน
ClerKism
๕. ความเห็นผิด
False Ideas
๖. ถือเกียรติยศไม่มีมล
ู
False Dignity
- 15. ๗. ความจนไม่จริง ทั ง ๑๒ เรื่ อ ง ได้ ล ง
้
False Poverty ตี พิ ม พ์ ใ นหนั ง สื อ พิ ม พ์
๘. แต่งงานชัวคราว
่ ไทย
Temporary Marriages ส่วนตอนที่ ๔ ได้ ลง
๙. ความไม่รับผิดชอบของบิดามารดา ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์
Parental Irresponsibility
Siam observer ด้ วย
๑๐. การค้ าหญิงสาว
The traffic in Yong Woman
๑๑. ความหยุมหยิม
Pettiness
๑๒. หลักฐานไม่มนคง
ั่
Imperfect Stability
- 16. เนื้อเรื่อง
ผลแห่งการบูชาหนังสือจนเกินเหตุ (บทความตอน
ที่ ๓) มี อี ก อย่ า งหนึ่ ง คื อ ความนิ ย มเป็ นเสมี ย น การตัง ้
โรงเรี ยนขึนทั่วประเทศเพื่อให้ ชายหญิงทุกชันได้ มีโอกาส
้ ้
ศึ ก ษาหาความรู้ ได้ อ่ า นได้ เ ขี ย นนัน กลายเป็ นสิ่ ง ที่ น่ า
้
ราคาญ กล่าวคือ ทุกคนเมื่อเรี ยนจบออกมาจากโรงเรี ยน
แล้ ว ก็มีแต่อยากเป็ นเสมียนหรื อ
เลขานุการ เพื่อจะได้ เลื่อนยศเลื่อน
ตาแหน่งสูงขึ ้นเร็วๆ
- 17. เนื้อเรื่อง
พวกเขาไม่เห็นว่างานอื่นจะมีเกียรตินอกจากการ
เป็ นเสมี ย น จึ ง เป็ นการยากที่ จ ะบอกให้ พวกเขา
กลับไปช่วยบิดามารดาทาการเกษตร
- 18. เพราะการท าการเกษตรอาจท าให้ ลื ม
ความรู้ ที่ได้ ศึกษาเล่าเรี ยนมา เพราะเหตุนี ้
เขาจึ ง สู้ สมั ค รใจหางานท าในกรุ ง เทพฯ
ถึงแม้ จะได้ เงินเดือนน้ อยก็ตาม
- 19. เนื้อเรื่อง
การทางานกรุ งเทพฯ แม้ จะได้
เงิ น เพี ย งเดื อ นละ ๑๕ หรื อ ๒๐
บาทนั น พวกเขาก็ ยั ง อุ ต สาห์
้
กระเบี ย ดกระเสี ย รใช้ จ่ า ยซื อ ้
ผ้ าม่ วงสี เสื ้อขาว หมวกสักหลาด
ก า ง เ ก ง แ พ ร จี น แ ล ะ ไ ป ช ม
ภาพยนตร์ อาทิ ต ย์ ล ะ ๒ ครั ้ง
ไปกินข้ าวตามภัตตาคาร บางคนก็
อาจจะเสียค่าเช่าห้ องอีกด้ วย
- 20. เนื้อเรื่อง
แต่พวกเขาก็เต็มใจที่
จะด ารงชี วิ ต เช่ น นี ดี ก ว่ า
้
กลับ ไปถิ่ น ฐานบ้ านเกิ ด
ตามบ้ านนอกความคิ ด
เช่นนี ้เป็ นสิงเหลวไหลมาก
่
- 21. เนื้อเรื่อง
เพราะประเทศไทยของเราเป็ นประเทศ
เกษตรกรรม การเป็ นชาวนา ชาวสวนนันมีเกียรติยศ
้
ไม่น้อยไปกว่าผู้ที่ทางานด้ วยปากกา
ที่ร้ายไปกว่านันคืออาชีพเสมียนนัน
้ ้
ต้ องการเฉพาะผู้ที่อยู่ในวัยหนุ่มสาว
เท่านัน ้
- 22. เนื้อเรื่อง
เพราะฉะนันจึงต้ องมีการจาหน่ายถ่ายเทพวกที่
้
เกินออกเสียบ้ างเป็ นครั งคราว เพื่อจะได้ รับคนใหม่
้
ต่อไป พวกที่ถกคัดออกก็เป็ นที่น่าสังเวชยิ่งนัก เพราะ
ู
จะไปท างานอื่ น ก็ ไ ม่ ไ ด้ ครั น จะกลับ ไปเป็ นชาวไร่
้
ชาวนาก็ไม่ได้ ด้วยเหตุผลหลายประการ
แต่ป ระการส าคัญ คื อ ความหยิ่ ง อัน หาเหตุผ ล
ไม่ได้ นนเอง ๕/๓
ั้
- 23. เนื้อเรื่อง
ผลสุด ท้ า ยถ้ า ความยากจนข้ น แค้ น ท าให้ เ ขา
กระทาการทุจริ ต ก็อาจต้ องได้ รับโทษถึงขันติดคุก ้
ซึ่ ง เป็ นที่ น่ า สัง เวชมาก ดัง นั น จึ ง สมควรเปลี่ ย น
้
ค่า นิ ยมเสียใหม่ ให้ เห็น ว่า อาชี พชาวนา ชาวสวน
พ่อค้ า และช่างต่างๆมีเกียรติยศเท่ากับอาชีพเสมียน
เช่นกัน ท่ านทั้งหลายจะไม่ ช่วยกัน
เปลี่ยนค่ านิยมบ้ างหรื อ
- 26. คุณค่ำและข้อคิดของเรื่อง
๑. เป็ นตัว อย่ า งบทความที่ ท รงคุ ณ ค่ า เหนื อ กาลเวลา
(ทันสมัย)
๒. การตังชื่ อบทความนี มี ความหมายคมคายโดยการใช้
้ ้
ภาพพจน์ประเภทอุปลักษณ์
๓.เสนอข้ อคิดเกี่ยวกับปั ญหาบ้ านเมืองในเรื่ องค่านิยม(การ
รับราชการ)ที่เป็ นอุปสรรคทาให้ ประเทศเจริ ญ ได้ ช้า
๔.ให้ แนวคิดว่าอาชีพอื่นก็สามารถ
ทาประโยชน์ให้ แก่ประเทศชาติได้
- 27. คุณค่ำและข้อคิดของเรื่อง (ต่อ)
๕. วิธีการแต่งบทความ คือ มี การกระตุ้นความคิดของผู้อ่าน
โดยใช้ ประโยคคาถาม
๖. ข้ อคิดที่ได้ คือ ทุกอาชีพล้ วนมีประโยชน์ ต่อบ้ านเมืองไม่
เฉพาะอาชีพเสมียนเท่านัน ้
๗. ผู้ที่เข้ ามาทางานในเมืองมักลืมถิ่นฐานบ้ านเกิด
๘. คนทั่ว ไปมัก นิ ย มยกย่ อ งข้ า ราชการและผู้ ที่ ท างานใน
สานักงาน ทังๆที่เป็ นค่านิยมไม่ถกต้ อง
้ ู
- 28. คุณค่ำและข้อคิดของเรื่อง (ต่อ)
๙. อาชี พ เกษตรกรรมเป็ นผู้ ผลิ ต อาหารการกิ น
มีความสาคัญยิ่งต่อการเลี ้ยงมนุษย์โลกให้ มีชีวิต
อยู่
๑๐. ผู้ที่ออกจากอาชีพการงานของตน เมื่อหมด
หนทางไปมักถูกชักจูงให้ ประพฤติในทางที่ทจริ ตได้
ุ
- 29. งำนประจำหน่วย
๑. หำควำมหมำยของบทควำม ๓ ควำมหมำย
๒. หำตัวอย่ำงบทควำมจำกที่ต่ำงๆ ๒ บทควำม
- วิเครำะห์บทควำมนั้น ว่ำ ๑. เขียนถึงประเด็นใด
๒. ผู้เขียนต้องกำรเสนอแนวคิดใด
๓. ค่ำนิยมที่เข้ำมำในเมืองไทยปัจจุบัน ส่งผลกระทบ
อย่ำงไรต่อชีวิตนักเรียน (๓ ตัวอย่ำง)
- 32. การบ้าน
• หาความหมายของบทความ ๓ ความหมาย (๕/๖ ๒๘ กพ.)
• หาบทความ (เนือหาใดก็ได้ ) ๑ บทความ
้
• วิเคราะห์ แต่ ละย่ อหน้ าว่ ากล่ าวถึงประเด็นใด
• วิเคราะห์ รูปแบบการเขียน ประเด็นต่ อไปนี ้
- เอกภาพ
- สัมพันธภาพ และ
- สารั ตถภาพ
ว่ าสมบูรณ์ พร้ อมตามหลักการเขียนที่ดหรื อไม่ อย่ างไร
ี
- 34. บทความ
หมายถึง งานเขียนที่เผยแพร่ในสื่อสิ่งพิมพ์หรือ
สื่ อ อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ซึ่ ง มี จุ ด ประสงค์ เ พื่ อ เผยแพร่
ข่าวสาร ผลการวิจัย เผยแพร่ความรู้ การวิเคราะห์
ทางการศึกษา การวิพากษ์วิจารณ์ เป็นต้น
โดยปกติบทความหนึ่งบทความจะพูดถึงเรื่องใด
เรื่องหนึ่งเป็นประเด็นหลักเพียงเรื่องเดียว
เนื้อหามีความเป็นปัจจุบัน ทันสมัย