More Related Content Similar to แผนวิวัฒนาการมนูษย์2.3 (20) More from กมลรัตน์ ฉิมพาลี (20) แผนวิวัฒนาการมนูษย์2.32. 7
แผนการจัดการเรียนรู ที่ 2 ตกลงเราเปนอะไรกัน
กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร รหัสวิชา ว 40243 รายวิชาชีววิทยา
หนวยการเรียนวิวัฒนาการ (Evolution) : วิถีแหงการอยูรอด เวลา 6 ชั่วโมง
ผูเขียนแผน กมลรัตน ฉิมพาลี เวลา 2 ชั่วโมง
สาระสําคัญ
วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตจึงหมายถึงการเปลี่ยนแปลงทีละนอยจากสิ่งมีชีวิตดั้งเดิมสืบตอกันมาจ
นกลายเปนสิ่งมีชีวิตในปจจุบัน ที่แตกตางจากสิ่งมีชีวิตดั้งเดิมอันเปนผลจากพันธุกรรมและสิ่งแวดลอม
การวิวัฒนาการของมนุษยตามหลักฐานมีสายวิวัฒนาการมาจากสัตวกลุมไพรเมต (primate) ซึ่งถือเปน
กลุมของสัตวเลี้ยงลูกดวยนมที่มีพัฒนาการสูงที่สุด การคนพบวิวัฒนาการมนุษยเริ่มจากสมัยไมโอซีน
พบออสทราโลพิเทคัส (Australopithecus) จากนั้นมีการพบมนุษย Homo habilis, Homo erectus
มนุษยนีแอนเดอรทัล (Neanderthal man)และเปน Homo sapiens sapiens ซึ่งมีชีวิตอยูรวมกันมา
หลายพันปและยังไมเปนที่แนชัดวามนุษยทั้งสองกลุมมีความเกี่ยวของกันอยางไร แตก็อาจเปนไปได
วาจะมีบรรพบุรุษรวมกัน และเมื่อ H. s. sapiens สามารถปรับตัวใหเขากับสิ่งแวดลอมไดมากกวา ในที่สุด
H. s. neanderthalensis ก็สูญพันธุไป
2. จุดประสงคการเรียนรู
1. อธิบายกระบวนวิวัฒนาการของมนุษย (K)
2. ทักษะการสังเกต ทักษะการใชเหตุผล (P)
4. ความกระตือรือรนที่จะคนควาหาความรู (A)
3. สาระการเรียนรู
1. บรรพบุรุษของมนุษย
2. วิวัฒนาการของมนุษย
3. 8
4. การจัดกิจกรรมการเรียนรู
5E ครู นักเรียน
1. เราความ 1. ขออาสมัครของนักเรียนใสหนากากตอไปนี้ 1. ศึกษาภาพที่ครูนําเสนอ
สนใจ(enga (ครูสามาถนําภาพไปขยายปริ้นใสกระดาษแข็งเจาะรู 2. แสดงความคิดเห็น
ge) ที่ขอบกระดาษสองขางเปนหนากาก) คนที่ 1 3. นักเรียน 1 คน
แนะนําตัวเองวาชื่อ ลูซี่ คนที่ 2 แนะนําตัวเองวาชื่อ ออกมาเรียงลําดับหนากาก
ฮาฮา คนที่ 3 ชื่อวา อี่อี้ คนที่ 4 ชื่อวา ซาเปยน
2.
ขออาสาสมัครหนึ่งคนชวยจัดเรียงโดยเรียงตามควา
มคิดวาใครนาจะอยูในยุคเกา-
ยุคใหมไมเฉลยวาถูกหรือผิด)
2. สํารวจ 1. จัดเตรียมกระบะทราย 4 ฐาน 1. ฟงคําอธิบาย
คนหา(expl (ขนาดเทาถาดผาตัด ) 2. แบงกลุมเทาๆกันใหได 4 กลุม
ore) 3. ลงมือปฏิบัติกิจกรรม
3)
เมื่อปฏิบัติกิจกรรมเสร็จแลวชวยกัน
2. ตัดภาพกะโหลกศีรษะทั้ง 4 เขียนรายงานการปฏิบัติกิจกรรม
ในกระบะทราย(โดยใสแบบสุมในแตละถาด)
3. แจกใบงานและใบความรู
4. 9
7E ครู นักเรียน
3. อธิบาย 1) เปดโอกาสใหนักเรียนแตละกลุมนําเสนอใบงาน 1) นักเรียนแตละกลุมชวยกันตอบ
(explain) 2) จากนั้นสุมถามใบงานเดี่ยว 2-3 คน คําถามแสดงความคิดเห็น
4. 1) 1) สรุปความคิด
ขยายความรู ใหนักเรียนสรุปความคิดเห็นสั้นๆเกี่ยวกับการวิวัฒ 2) รวมกันอภิปราย
(elaborate) นาการของคนและนําไปติดบนกระดานหนาหอง
2) ครูสุมหยิบที่นักเรียนตอบขึ้นมา
อภิปรายรวมกันระหวางนักเรียนและครู
5. การวัดและการประเมินผล (evaluation)
สิ่งที่ตองปร ประเด็นการประเมิน หลักฐาน/วิธีการ/เครื่องมือ เกณฑการผาน ผูประเมิน
ะเมิน
ดานความรู 1. การตรวจใบงานที่ 1 1. ครู
อธิบายกระบวนวิวัฒนากา นักเรียนทําใบงานได
รของมนุษย (K) ถูกตองอยางนอยรอ
ยละ 80
ดานทักษะ 2. ทักษะการสังเกต แบบประเมินพฤติกรรมการ 1. นักเรียนมีผลการ ครู/
ทักษะการใชเหตุผล (P) ปฏิบัติกิจกรรม ประเมินระดับพอใช นักเรียน
การสรุปความคิด ขึ้นไป
2. นักเรียนสามารถ
แสดงความคิดเห็น
ได
ดานเจตคติ 3. แบบประเมินพฤติกรรมการ 1. ครู
(เงื่อนไขคุณ มีความกระตือรือรนที่จะค เรียน นักเรียนมีผลการปร
ธรรม) นควาหาความรู (A) ะเมินระดับพอใชขึ้น
ไป
5. 10
6. สื่อและแหลงการเรียนรู
สื่อการเรียนรู
1. หนังสือเรียนสาระการเรียนรูพื้นฐานและเพิ่มเติม ชีววิทยา เลม 5
2. เอกสารเรื่องปรับตัว ตกลงเราเปนอะไร
3. ใบกิจกรรมที่ 1 ตะลุยกะโหลกลานป
แหลงเรียนรู
1. หองสืบคนขอมูลออนไลน
เว็บไซต http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/150charles-darwin/Less5_2.html#
รูปภาพ Australopithecus http://www.homosapz.ob.tc/evolution/australopithecus.html
http://www.abouthumanevolution.org/html/site/timestone10.htm
6. 11
แบบประเมินพฤติกรรมการปฏิบัติกิจกรรม
ชื่อกลุม … … … … …
……………
ที่ รายงานประเมิน ระดับคุณภาพ หมายเหตุ
3 2 1
1 อานคําชี้แจงและปฏิบัติงานถูกตามขั้นตอน
2 รวมมือในการปฏิบัติกิจกรรม
3 มีการแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนความคิด
ภายในกลุม
4 ใชทักษะการสังเกตและการมีเหตุผลในการส
รุปการทดลอง
5 เก็บ/ทําความสะอาดอุปกรณอยางเปนระเบีย
บ
รวม
คะแนนเฉลี่ย
เกณฑการประเมิน
3 = ดี 2 = พอใช 1 = ควรปรับปรุง
ลงชื่อ … … … … … … . ผูประเมิน
………………
(… … … … … … … . )
… … … ..… … … …
วันที… …เดือน … … … … พ.ศ. … …
่ … ………… ….
คะแนน ผลการประเมิน
1-5 ปรับปรุง
9-12 ผานเกณฑ
13-15 ดี
7. 12
แบบประเมินพฤติกรรมการทํางาน
รายการประเมิน
สนใจศึกษาเรียนรูเ
มีความพยายามแล
มีความกระตือรือรนใ
ซักถามเพื่อหาเหตุ
ชวยเหลือการศึกษ
าเรียนรูของเพื่อน
ะทํางานเสร็จตาม
นการแสงหาความรู
ผลและคําตอบ
เลขที่-ชื่อ รวมคะแนน
กําหนด
พิ่มเติม
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
เกณฑการประเมิน ประเมินพฤติกรรมการทํางาน
องคประกอบที่ 1 มีความกระตือรือรนในการแสวงหาความรู
4 หมายถึง สนใจ ใฝรู รวมกิจกรรมการเรียนรูดีมาก มีสวนรวมในกิจกรรม
การเรียนรูอยางขมีขมันทุกขั้นตอน
3 หมายถึง สนใจ ใฝรู รวมกิจกรรมการเรียนรูดี มีสวนรวมในกิจกรรม
การเรียนรูดวยความตั้งใจทุกขั้นตอน
2 หมายถึง สนใจ ใฝรู รวมกิจกรรมการเรียนรูดีพอสมควร มีสวนรวมในกิจกรรม
เกือบทุกขั้นตอน
1 หมายถึง สนใจและมีสวนรวมในกิจกรรมการเรียนรูนอย
8. 13
องคประกอบที่ 2 ซักถามเพื่อหาเหตุผลและคําตอบ
4 หมายถึง ซักถามเพื่อหาเหตุผลและคําตอบดวยความสนใจ
ใชคําถามที่แสดงความสามารถในการคิดวิเคราะหหาเหตุผลไดดีมาก
3 หมายถึง ซักถามเพื่อหาเหตุผลและคําตอบดวยความสนใจ
ใชคําถามที่แสดงความสามารถในการคิดวิเคราะหหาเหตุผลไดดี
2 หมายถึง ซักถามเพื่อหาเหตุผลและคําตอบดวยความสนใจ
ใชคําถามที่แสดงความสามารถในการคิดวิเคราะหหาเหตุผลไดพอใช
1 หมายถึง มีการซักถามเพื่อหาเหตุผลและคําตอบนอยมาก
องคประกอบที่ 3 สนใจหาความรูเพิ่มเติม
4 หมายถึง ศึกษาคนควาเพิ่มเติมจากเอกสารและหาขอมูล ขอเท็จจริงตางๆ
ที่เกี่ยวของกับเรื่องที่ศึกษาอยางตอเนื่อง
3 หมายถึง ศึกษาคนควาเพิ่มเติมจากเอกสารและหาขอมูล
ขอเท็จจริงตางๆที่เกี่ยวของกับเรื่องที่ศึกษาหลายครั้ง
2 หมายถึง ศึกษาคนควาเพิ่มเติมจากเอกสารและหาขอมูล
ขอเท็จจริงตางๆที่เกี่ยวของกับเรื่องที่ศึกษาเปนบางครั้ง
1 หมายถึง ไมสนใจศึกษาหาความรูเพิ่มเติม
องคประกอบที่ 4 มีความพยายามและทํางานสําเร็จตามกําหนด
4 หมายถึง ตั้งใจพยายามทํางานและทํางานไดเสร็จทันเวลาที่กําหนด
3 หมายถึง ตั้งใจพยายามทํางานและทํางานไดเสร็จทันเวลาที่กําหนด โดยเพิ่มเวลาให
อีกเล็กนอย
2 หมายถึง ตั้งใจพยายามทํางานและทํางานไดเสร็จทันเวลาที่กําหนด ตองเพิ่มเวลา
ใหอีกมากกวา 1 ครั้ง
1 หมายถึง ไมตั้งใจทํางานใหเสร็จตามที่กําหนด
องคประกอบที่ 5 ชวยเหลือการศึกษาเรียนรูของเพื่อน
4 หมายถึง ชวยเหลือเพื่อนดวยการสอน แนะนํา
เสนอแนะวิธีการปฏิบัติเพื่อใหเพื่อนไดเรียนรูไปพรอมๆ กับตนดวยความเต็มใจ
3 หมายถึง ชวยเหลือเพื่อนมาก แตชวยในลักษณะแบบบอกความรู
หรือทําใหเพื่อนมากกวาชวยใหเพื่อนไดเรียนรู
2 หมายถึง ใหความชวยเหลือเพื่อนบางเล็กนอย และชวยในลักษณะบอกความรู
หรือทําใหเพื่อนมากกวาชวยใหเพื่อนไดเรียนรู
1 หมายถึง ไมใหมีความชวยเหลือการศึกษาเรียนรูของเพื่อน หรือใหความชวยเหลือ
นอยมาก
10. 15
ใบงานที่ 1 ตะลุยกะโหลกโลกลานป
คําชี้แจง : ใหนักเรียนคนหากะโหลกศีรษะในกระบะทรายที่จัดเตรียมไวให ทั้งหมดมี 4
ภาพที่แตกตางกัน (นักเรียนตองคนใหครบทั้ง 4 ถาดเวียนกันไปในแตละกลุม)
จากนั้นบันทึกลักษณะที่นักเรียนพบลงในรายงาน (งานกลุม)
รูปกะโหลกศีรษะ ลักษณะของกะโหลกศีรษะที่พบ
(ติดลงในใบงานดวยกาวที่จัดเตรียมไวให)
1.
2.
3.
4.
12. 17
ใบความรู
ตกลงเราเปนอะไรกัน : นักเรียนคงสงสัยวาเราเปนพี่นองกับลิง หรือลิงเปนบรรพบุรุษของเรา หรือ หรือ
เราเปนอะไรกัน (ตามเพลงยอดฮิตแนเลยใชไหมคะ) วันนี้เราจะมาหาคําตอบกันคะ
ภาพที่ 1 วิวัฒนาการมนุษย
ที่มา : http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-1070671/Evolution-stops-Future-Man-look-
says-scientist.html
บรรพบุรุษของมนุษยคือลิงจริงหรือ?
มนุษยมีสายวิวัฒนาการมาจากสัตวกลุมไพรเมต (primate) ซึ่งถือเปนกลุมของสัตวเลี้ยงลูก
ดวยนมที่มีพัฒนาการสูงที่สุด สืบเชื้อสายมาจากสัตวเลี้ยงลูกดวยนมที่มีรก อาศัยและหอยโหน
อยูบนตนไมเปนสวนใหญ ลักษณะสําคัญคือ สมองเจริญดีและมีขนาดใหญ มีขากรรไกรสั้นทําให
หนาแบน ระบบสายตาใชงานไดดีโดยมองไปขางหนา ระบบการดมกลิ่นไมดีเมื่อเปรียบเทียบ
กับสัตวเลี้ยงลูกดวยนมชนิดอื่น มีเล็บแบนทั้งนิ้วมือและนิ้วเทา มีพฤติกรรมทางสังคมที่ซับซอน
สัตวในกลุมไพรเมต ไดแก กระแต ลิงลม ลิง ชะนี อุรังอุตัง กอริลลาชิมแพนซีและมนุษย
ดังสายวิวัฒนาการดานลางนี้
การจําแนกทางวิวัฒนาการ
สายสัมพันธทางวิวัฒนาการระหวางคนกับลิง
13. 18
ระดับความสัมพันธ
มนุษยปจจุบัน ลิงกอริลลา ลิงชิมแปนซี
Modern Human Gorilla Chimpanzee
สปชีส (Species) Homo sapiens Gorilla gorilla Pan troglodytes
สกุล (Genus) Homo Gorilla Pan
วงศ (Family) Hominids Pongids Pongids
ลําดับ (Order) Primates Primates Primates
ชั้น (Class) Mammalia Mammalia Mammalia
ไฟลัม (Phylum) Chordata Chordata Chordata
อาณาจักร (Kingdom) Animalia Animalia Animalia
บรรพบุรุษของมนุษยเริ่มปรากฏครั้งแรกในสมัยไมโอซีน ในราวประมาณ 4.3 ลานปกอน
มีลักษณะสภาพแวดลอมเปนปาโปรง มีตนไมที่นอยกวาปาฝนลิงที่อยูในปาจึงตองปรับตัวใหอยูบนพื้นดิน
ไดดวย การปรับตัวเปนไปอยางคอยเปนคอยไป จนในที่สุด 3,900,000 ปกอน ลิงกลุมนั้นไดวิวัฒนาการ
มาเปนสปชีส Australopithecus afarensis ซึ่งสามารถใชชีวิตไดทั้งบนตนไมและบนพืนดิน สามารถเดิน
้
สองขาและเดินสี่ขาได ตางจากลิงในอดีตที่ไมสามารถเดินสองขาได บรรพบุรุษที่มีความคลายมนุษย
มากที่สุดคือ ออสทราโลพิเทคัส (Australopithecus) ในป พ.ศ.2518 นักบรรพชีวินไดคนพบซาก
ดึกดําบรรพที่มีความสมบูรณประมาณ 40 เปอรเซ็นตในเอทิโอเปย และไดตั้งชื่อตามบริเวณที่พบคือ Afar
Triangle วา Australopithecus afarensis คาดวา A. afarensis มีชีวิตอยูเมื่อประมาณ 2.9-3.9 ลานปกอน
จากหลักฐานของลักษณะรอยเทาที่ปรากฏในเถาภูเขาไฟ จากกระดูกกะโหลกศีรษะและกระดูกเชิงกราน
ทําใหสันนิษฐานไดวา A.afarensis มีแขนยาวจึงนาสามารถดํารงชีวิตบางสวนอยูบนตนไมและสามารถ
เดินสองขาบนพื้นดินไดดีแตก็ยังไมเหมือนมนุษย มีความจุสมองประมาณ 400-500 ลูกบาศกเซนติเมตร
มีฟนเขี้ยวที่ลดรูปลง ปจจุบันเชื่อวา A. afarensis เปนบรรพบุรุษของออสทราโลพิเทคัสสปชีสอื่นๆ
และมนุษยจีนัสโฮโมดวย
14. 19
ภาพสันนิษฐานลักษณะของ A. afarensis
จากการศึกษาซากดึกดําบรรพรอยเทาที่ปรากฏในเถาภูเขาไฟ ซากดึกดําบรรพของ A. afarensis
พบที่เอธิโอเปย หรือที่นักบรรพชีวินเรียกวา ลูซี สูงประมาณ 1 เมตร
ซากดึกดําบรรพกระดูกกะโหลกศีรษะของ Australopithecus
วิวัฒนาการของมนุษยจีนัสโฮโม
มนุษยจีนัสโฮโมมีวิวัฒนาการเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2 ลานปที่ผานมา ซากดึกดําบรรพของจีนัสโฮโม
ที่พบวามีอายุมากที่สุดคือ Homo habilis ในชั้นหินอายุ 1.8 ลานปทางตอนใตของแอฟริกา มีความจุ
สมองประมาณ 750 ลูกบาศกเซนติเมตร มีความสูงประมาณ 1.5 เมตร มีกระดูกนิ้วมือที่คลายมนุษย
ปจจุบันมากจึงนาจะชวยใหสามารถหยิบจับหรือใชเครื่องมือไดดี ซึ่งจากหลักฐานที่พบในบริเวณเดียวกับ
ซากดึกดําบรรพโครงรางกระดูก เชน เครื่องมือหินและรองรอยการอยูอาศัย ทําใหสันนิษฐานไดวา H.
habilis อาจเปนพวกแรกที่รูจักการประดิษฐขวาน สิ่ว มีดจากหินเพื่อนํามาใชประโยชนในการดํารงชีวิต
ก็เปนได
15. 20
H. erectus เปนมนุษยพวกแรกที่รูจักใชไฟ ซากดึกดําบรรพกระดูกกะโหลกศีรษะ
H. habilis และ H. erectus มีวิวัฒนาการมาจากบรรพบุรุษรวมกัน
แตมนุษยปจจุบันนั้นมีวิวัฒนาการมาจาก H. erectus
H. erectus ในแอฟริกาถือเปนบรรพบุรุษของ Homo sapiens หรือมนุษยปจจุบัน อยางไรก็ตาม
พบวามีมนุษยลักษณะกึ่งกลางระหวาง H. erectus และ H. sapiens เกิดขึ้นเมื่อ 200,000-300,000
ปที่แลวดวยซึ่งก็คือ มนุษยนีแอนเดอรทัล (Neanderthal man) มนุษยนีแอนเดอรทัลนั้นมีสมอง
ขนาดใหญเทากับหรือมากกวามนุษยปจจุบัน โครงรางมีลักษณะเตี้ยล่ําแข็งแรง จมูกแบน รูจมูกกวาง
หนาผากลาดแคบ มีสันคิ้วหนา คางแคบหดไปดานหลัง มีการอยูรวมกันเปนสังคม ใชไฟและมี
เครื่องนุงหม มีรองรอยของอารยธรรมในกลุม เชน การบูชาเทพเจาและมีพิธีฝงศพ เปนตน
นักมานุษยวิทยาไดจัดใหมุษยนีแอนเดอรทัลอยูในสปชีสเดียวกันกับมนุษยปจจุบัน (Homo sapiens
sapiens) แตแยกกันในระดับซับสปชีส เปน Homo sapiens neanderthalensis เชื่อวาทั้ง H. s. sapiens
และ H. s. neanderthalensis มีชีวิตอยูรวมกันมาหลายพันปและยังไมเปนที่แนชัดวามนุษย
ทั้งสองกลุมมีความเกี่ยวของกันอยางไร แตก็อาจเปนไปไดวาจะมีบรรพบุรุษรวมกัน และเมื่อ H. s.
sapiens สามารถปรับตัวใหเขากับสิ่งแวดลอมไดมากกวา ในที่สุด H. s. neanderthalensis ก็สูญพันธุไป
จากหลักฐานซากดึกดําบรรพที่ขุดพบอยางมากแถบบริเวณตะวันตกของทวีปยุโรป ทําให
สันนิษฐานไดวามนุษยนีแอนเดอรทัลกระจายตัวอยูมากในบริเวณนีในปจจุบันจากการศึกษาทาง
้
ชีววิทยาระดับโมเลกุล การสกัด DNA จากกระดูกมนุษยนีแอนเดอรทัลชี้ใหเห็นวา
มนุษยนีแอนเดอรทัลบางสวนอาจมีผมสีแดงและมีผิวซีด
16. 21
ภาพวาดลักษณะของกะโหลกศีรษะของมนุษยปจจุบัน (ซาย)
เปรียบเทียบกับมนุษยนีแอนเดอรทัล (ขวา)
กําเนิดของมนุษยปจจุบันนั้นมาจากไหน?
สมมติฐานเกี่ยวกับกําเนิดของมนุษยปจจุบันมี 2 แนวทาง ซึ่งอาศัยหลักฐานจากซากดึกดําบรรพ
ของมนุษยโบราณมาสนับสนุนแนวคิด
สมมติฐานแรก เชื่อวามนุษยปจจุบันที่อยูในตางทวีปนั้นมีวิวัฒนาการมาจาก H. erectus
ที่แพรกระจายจากแอฟริกาไปอยูตามที่ตางๆ เชน ยุโรป เอเชียและออสเตรเลีย เมื่อประมาณ
เกือบสองลานปที่ผานมา จากนั้นจึงวิวัฒนาการเปนมนุษยปจจุบันที่อาศัยอยูตามแตละที่ทั่วโลก
และการที่มนุษยเชื้อชาติตางๆไมเกิดความแตกตางกันในระดับสปชีสจนเกิดสปชีสใหมเพราะมนุษยใ
นแตละที่ยังคงมีการผสมผสานทางเผาพันธุมาโดยตลอด
สมมติฐานที่สอง เชื่อวามนุษยปจจุบนที่อยูในตางทวีปนั้นมีวิวัฒนาการมาจาก H. erectus
ั
ในแอฟริกา จากนั้น H. erectus ไดแพรกระจายไปอยูตามที่ตางๆทั่วโลกแตในที่สุดก็
สูญพันธุไปจนหมด เหลือเพียงกลุม H. erectus ในแอฟริกากลุมเดียวเทานั้น จนกระทั่งเมื่อ 100,000
ปที่ผานมานี้เอง H. erectus ในแอฟริกา กลุมที่มีสายวิวัฒนาการตอเนื่องมานี้จึงแพรกระจายออกไป
ยังสถานที่ตางๆโดยไมมีการผสมผสานทางเผาพันธุกับมนุษยโบราณที่อพยพมากอนหนานั้น
17. 22
ในปจจุบัน จากผลการศึกษาความหลากหลายของ mitochondria DNA ในตัวอยางคนพื้นเมือง
จากภูมิภาคตางๆ ทําใหพบขอมูลเกี่ยวกับกําเนิดของมนุษยปจจุบันโดยผลการศึกษาสนับสนุน
แนวสมมติฐานที่วามนุษยปจจุบันนั้นถือกําเนิดขึ้นมาจากแอฟริกา และมีการแพรกระจายออกสู
สถานทีตางๆเมื่อราวแสนปที่ผานมานี่เอง
่
สมมติฐานของกําเนิดมนุษยในปจจุบัน
18. 23
แหลงอางอิง
http://th.wikipedia.org/wiki
http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/150charles-darwin/Less5_2.html
https://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=76024
http://isiam.info/human/species.html
http://cyberclass.msu.ac.th/cyberclass/cyberclass-uploads/libs/html/50549/learn1_3.html
19. 24
เฉลยใบงาน
รูปกะโหลกศีรษะ ลักษณะของกะโหลกศีรษะที่พบ
(ติดลงในใบงานดวยกาวที่จัดเตรียมไวให) (แนวการตอบ)
หัวกะโหลกขนาดเล็ก มีฟนยื่นออกมา
ฟนตัดมีขนาดใหญและขากรรไกรใหญ
กะโหลกตรงคิ้วนูนออกมา
หนาผากมีขนาดเล็กมาก
1.
ใบหนาขนาดใหญ ขากรรไกรขนาดใหญ
แตฟนหนาลดการยื่นออกไปขางหนา
กะโหลกตรงคิ้วนูนนอยกวาอันที่ 1
2.
กะโหลกมีลักษณะกลม ฟนขนาดเล็ก
กรามและขากรรไกรลดขนาดลง
กะโหลกคิ้วบริเวณหัวตานูนสูงขึ้นและยาวติดกัน
มีบริเวณหนาผากเล็กนอย
3.
มีหนาผากตั้งขึ้น สันคิ้วเล็กลง ไมยาวติดกัน
มีฟนขนาดเล็ก
4.
****หมายเหตุ นักเรียนสามารถอธิบายโดยการเปรียบเทียบระหวางรูปได เชน ภาพที่
1มีขนาดกรามใหญที่สุด
20. 25
ตอนที่ 2
กะโหลกศีรษะที่ คลายกับ/ชื่อวิทยาศาสตร สวนไหนที่สามารถสังเกตไดเปนพิเศษ
(วาดภาพ)
ลักษณะฟนหนาที่ยื่นออกมา
Australopithecus
afarensis
1.
ลักษณะชวงหนาผากที่แคบ
H. habilis
2.
กะโหลกกลม
H. erectus
3.
ชวงหนาผากและคิ้วไมติดกัน
Homo sapiens sapiens
4.