SlideShare ist ein Scribd-Unternehmen logo
1 von 115
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 1
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
เมื่อเสือไดลิ้มรสเลือด (ตอนที่ 51)
ลิโปยกทหารออกจากเมืองหลวงมารบดวยลิฉุย กุยกี ตองกลยุทธวิธีแหงสงครามจรยุทธ หลอกลอใหรบ
พัวพันอยูถึงสามวันสามคืน จึงทั้งออนลาเรี่ยวแรงลง ทั้งคิดถึงยอดหวานใจเตียวเสี้ยน ซึ่งกําลังอยูในชวงขาว
ใหมปลามัน จิตใจสูรบจึงไมกลาแกรงเหมือนกับเมื่อครั้งรบดวยกองทัพปฏิวัติ
ครั้นไดขาววากองทัพของเตียวเจ และหวนเตียว ยกเขาตีเมือง หลวงจึงคิดหวงใยการขางในพระนคร ซึ่งกลอง
ดวงใจเตียวเสี้ยนอยูในที่นั้นดวย และเกรงวาเมืองหลวงจะไดรับอันตรายเพราะรูดีวาระบบและกําลังปองกันพระ
นครไมไดเขมแข็งมั่นคง ดังนั้นลิโปจึงตัดสินใจตีฝาทหารของกุยกีที่ปดลอมอยูดานเชิงเขาเพื่อจะกลับไปชวย
เมืองหลวง ทหารของลิฉุย กุยกี ไลตามตีลิโปอยางไมลดละ ครั้นลิโปจะหันเขามารบครั้งใดก็ถอยเสีย แตพอลิ
โปหันกลับรุดไปเมืองเตียงอัน ทั้งลิฉุย กุยกี ก็ยกทหารเขาตามตีอีก ลิโปรบพลางถอยพลางอยูตลอดทาง
ตองสูญเสียทหารไปเปนจํานวนมาก
ครั้นมาใกลกําแพงพระนคร ทหารของลิโปเห็นทหารของเตียวเจและหวนเตียวเปนจํานวนมากลอมเมืองหลวง
และกําลังโจมตีกําแพงพระนครก็เกิดความรักตัวกลัวตาย จึงพากันไปเขาสวามิภักดิ์กับทหารของเตียวเจและ
หวนเตียวเปนจํานวนมาก ลิโปเห็นเชนนั้นก็หมดกําลังใจตอสูอาการที่ลูกนองทิ้งนายแบบลิโปนี้ ดานหนึ่ง
เปนไปไดวาทหารของลิโปเหลานั้นเปนคนใชไมได ทอดทิ้งนายในยามยาก แตในอีกดานหนึ่งก็เปนไปไดดวย
วาเกิดแตเหตุที่ลิโปเปนนายแตตําแหนงหนาที่ ไมมีน้ําใจตอลูกนอง ดวยคนนั้นมีใจ ครั้นใจไมมีน้ําใจหลอเลี้ยง
ผูกพันไวตอกันแลว ยามใดมีโอกาสหรือยามใดเปนยามยาก ความสัมพันธของคนที่อาศัยแตเพียงตําแหนง
และหนาที่จึงยอมขาดสะบั้นลงโดยงาย
ลิโปเหลือทหารที่ยังคงจงรักภักดีเพียงไมกี่คนจึงเห็นเหลือกําลังที่จะทําการสูรบขับไลกองทัพที่ลอมพระนคร
อยูนั้น จึงไดแตพาทหารที่เหลืออยูรวนเรโดยรอบพระนครอยูถึงสองสามวัน คิดไมตกวา จะแกไขสถานการณ
ประการใด การณขางในพระนครนั้น ทหารรักษาพระนครยังคงตอสูปองกันเมืองหลวงเปนสามารถ ยิงเกาทัณฑ
ทิ้งกอนศิลา และทรายคั่วจากเชิงเทินกําแพง เมืองใสทหารที่ลอมพระนครบาดเจ็บลมตายลงเปนจํานวนมาก
ขณะนั้นลูกนองเกาของตั๋งโตะสองคนคือลิบองและอองหอง ซึ่งเอาตัวรอดจากการตามลางบางพรรคพวกตั๋ง
โตะของอองอุน โดยอาศัยวิชาจิ้งจกเปลี่ยนสี ทําทีเขาเปนพวกของอองอุน จึงยังคงรักษาตําแหนงขุนนางใน
เมืองหลวงเอาไวได ครั้นไดทราบขาวสี่ทหาร เอกของตั๋งโตะเจานายเกายกกองทัพมาโจมตีเมืองหลวงก็มี
ความยินดียิ่งนัก เห็นโอกาสที่พวกตัวจะเปนใหญอีกครั้งหนึ่ง ทั้งเห็นเปนโอกาส ที่จะแกแคนเอากับอองอุน
ดังนั้นจึงระดมลูกนองเกาของตั๋งโตะที่เคย กินอยูไดเสียในทางผลประโยชนกันมาแตกอนแลวกอการเปนไสศึก
ขึ้นในเมือง
ครั้นเห็นเปนทีที่ภายในเมืองหลวงกําลังชุลมุนสูรบกับกองทัพของสี่ทหารเอกอยูบนเชิงเทินพระนคร จึงพา
พรรคพวกไลฆาฟนทหารฝายเมืองหลวงที่รักษาประตูเมืองอยูนั้น แลวเปดประตูเมืองทั้งสี่ดาน กองทัพของลิ
ฉุย กุยกี เตียวเจ และหวนเตียว จึงกรูกันเขาพระนคร ฆาฟนทหารที่รักษาเชิงเทินบาดเจ็บลมตายเปน อันมาก
ทหารฝายเมืองหลวงที่เหลืออยูก็ยอมเขาสวามิภักดิ์แตโดยดี
ลิโปเห็นเมืองหลวงแตกก็ตกใจ รีบตีฝาทหารของลิฉุย กุยกี เขา ไปในพระราชวัง ไปพบอองอุนที่ตึก
บัญชาการแลววา บัดนี้เมืองหลวง ตกอยูในมือขาศึกแลว ใหรีบขึ้นมาตีฝาออกไปดวยกัน อองอุนบัดนี้เห็นทีคับ
ขัน ครั้นจะหนีก็คงหนีไมรอดเพราะชราภาพ ทั้งไมตองการใหถูกตราหนาในภายหลังวาทอดทิ้งฮองเตใน ยาม
วิกฤติจึงตัดสินใจรักษาชื่อเสียงเกียรติคุณแลววากับลิโปวา "เราจะหนีเอาตัวรอดนั้นไมควร ถึงจะตายก็เอา
ความชอบไวภายหนา ทานจะไปก็ไปเถิด แตชวยเอาเนื้อความทั้งนี้ไปแจงแกหัวเมืองทั้งปวงวา เราคํานับไป
ดวย บัดนี้เกิดเหตุขึ้นในเมืองหลวงใหหัวเมืองทั้งปวงตั้งใจทํานุบํารุงแผนดิน ยกกองทัพเขามาชวยกําจัดศัตรู
ราชสมบัติเสีย" อองอุนในยามเขาตาจนจึงเพิ่งคิดถึงการทํานุบํารุงแผนดิน เพิ่งคิดขอใหหัวเมืองตางๆ ยกทัพ
เขามากําจัดศัตรูแผนดิน ซึ่งถาหากไม ตั้งอยูในความประมาทคิดถึงเรื่องนี้และทําในเรื่องนี้เสียกอนก็จะไมตก
อยูในสภาพอับจนเยี่ยงนี้ ถึงกระนั้นก็ยังคงคิดไวลายเสือเฒาใหลิโปชวยบอกกลาวบรรดาหัวเมืองตางๆ ถึง
เกียรติคุณของตนที่ยอม ตายอยูกับฮองเตเพื่อจะไดมีชื่อเสียงปรากฏไวในประวัติศาสตร
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ลิโปฟงคําอองอุนแลวยังพยายามชักชวนใหรีบหนีอีกหลายหน แตอองอุนก็ยืนหยัดเจตนาเดิม พอดีขณะนั้น
ทหารของลิฉุย กุยกี เตียวเจ และหวนเตียว ยกตามมาและเขาลอมพระราชวังไวทั้งสี่ดาน แตไมกลาบุกรุกผาน
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 2
ประตูพระราชวังเขาไป เพราะสี่ทหารเอกและทหารเหลานั้นเดิมทีลวนเปนทหารอาชีพ เคารพตอกฎมณเฑียร
บาล จึงยังคงเกรงพระบรมเดชานุภาพของฮองเต ตางคนตางก็อออยูแตภายนอกกําแพงพระราชวัง
ลิโปเห็นสถานการณคับขัน ทั้งเพลิงก็ลุกไหมขึ้นภายนอกพระราชวังหลายแหง ครั้นจะเขาไปรับเอาเตียวเสี้ยน
และครอบครัวออกมาก็ไมทันการ จึงรีบตีฝาออกจากประตูพระราชวังพา ทหารรอยเศษตีฝาหนีออกจากเมือง
หลวงตรงไปหาอวนสุด ณ เมืองลําหยง อองอุนครั้นลิโปไปแลวจึงเดินทางเขาไปเฝาพระเจาเหี้ยนเตถึงพระ
ตําหนักที่ประทับ กราบบังคมทูลรายงานสถานการณใหทรงทราบ วาบัดนี้สี่ทหารเอกของตั๋งโตะยึดไดเมือง
หลวงแลว และยกทหารมาลอมพระราชวังไวทั้งสี่ดาน ดังนั้นจึงขอกราบบังคมทูลอัญเชิญเสด็จออกพระบัญชร
สันติภาพ บนชั้นสองของพระที่นั่งเพื่อระงับการจลาจลตอไป
พระเจาเหี้ยนเตจึงเสด็จออกพระบัญชรสันติภาพ ประทับบนระเบียงชั้นสองของพระตําหนักพรอมดวยขันที
อาลักษณ และอองอุน แลวโปรดใหลิฉุย กุยกี เตียวเจ และหวนเตียว เขาเฝา ณ พื้นเบื้องลางของพระบัญชร
นั้น สี่ทหารเอกรับทราบพระราชกระแสแลวก็พากันมาเฝาอยูขางลาง กราบถวายบังคมแลว พระเจาเหี้ยนเตจึง
รับสั่งถามวาพวกเจายกทหารมาลอมพระราชวังนี้มีประสงคสิ่งใด สี่ทหารเอกกราบบังคมทูลวาที่กระทําการดังนี้
จะคิดเปนกบฏตอ แผนดินนั้นหามิได เนื่องจากเบื้องกอนนี้ตั๋งโตะเปนผูสําเร็จราชการแผนดิน และอัครมหา
เสนาบดี ไดทํานุบํารุงบานเมืองและราษฎรใหเปนสุข แตอองอุนคบคิดกับลิโปสังหารตั๋งโตะเสีย แลวยึด
อํานาจไวเสียเองโดยไมชอบดวยกฎหมาย พวกขาพระพุทธเจาปรารถนาจะสรางความ ถูกตองขึ้นในบานเมือง
ธํารงบทกฎหมายใหศักดิ์สิทธิ์ เปนหลักและขื่อแปของบานเมืองเพื่อใหเกิดความสงบสุขสืบไป
ดังนั้น จึงขอพระราชทานเอาตัวอองอุนมาประหารเสียในฐานะเปนกบฏตอแผนดิน เสร็จการแลว
ขาพระพุทธเจาทั้งปวงก็จะ กลับคืนสูที่ตั้งตามเดิม อองอุนไดยินดังนั้นจึงกราบบังคมทูลวาขาพระพุทธเจาเปน
ขุนนางรับราชการในพระราชวงศฮั่นดวยความสัตยสุจริตติดตอกันถึง สี่แผนดิน เห็นตั๋งโตะเปนทรราชคิดแยง
ชิงราชสมบัติ เบียดเบียนบาน เมืองและราษฎร ขาพระพุทธเจาจึงคิดกําจัดภัยแผนดินเสีย บัดนี้มีความวุนวาย
ขึ้นในพระราชวังอันเนื่องมาแตความตองการตัวขาพระพุทธเจา ดังนั้นขาพระพุทธเจาจึงพรอมพลีชีวิตถวาย
เปนราชพลี เพื่อใหเหตุการณวุนวายไดสงบลง และขอกราบถวายบังคมลา ณ บัดนี้
วาแลวอองอุนก็กระโดดลงจากระเบียงชั้นสองลงมาที่พื้นขางหนาสี่ทหารเอก ดวยความชราภาพและความสูง
จึงทําใหอองอุนแขน ขาหักทรุดอยูกับที่ แตปากนั้นยังกลาอยูและรองขึ้นวา "ไอศัตรูราชสมบัติ กูอยูที่นี่แลว"
สี่ทหารเอกอยากรูความถึงเหตุผลและผูคนที่เกี่ยวของในการสังหารตั๋งโตะ จึงถามอองอุนวาตั๋งโตะมีผิดสิ่งใด
จึงคบคิดกับลิโปฆาเสีย และมีใครรวมเกี่ยวของดวยบาง อองอุนจึงวาฆาเสียเพราะตั๋งโตะเปนศัตรูราชสมบัติ
เปนทรราช ขมเหงและทํารายขุนนางแลราษฎร พวกเจาก็รูอยูแกใจ หามีใครรวมมือดวยกูไม สี่ทหารเอกจึงวา
ตอไปวา ครั้นเราทั้งสี่คนมีหนังสือมาสวามิภักดิ์ขอทําราชการดวย เหตุใดตัวจึงจองอาฆาตพยาบาทคิดสังหาร
พวกเราสี่คนเลา อองอุนจึงวาเพราะพวกเจาเปนพวกทรราช ขณะนั้นอองอุนบาดเจ็บไดความทรมานนัก จึงยั่วสี่
ทหารเอกวาพวกมึงเปนกบฏ กูอยูในเงื้อมมือพวกมึงแลว จะฆาก็เรงฆาเสียเถิด สี่ทหารเอกไดฟงก็โกรธ ทั้ง
เห็นจะซักไซไลเลียงใหอองอุนเปด ปากวามีใครเปนพวกคบคิดสังหารตั๋งโตะไมเปนผลแลว จึงเอาดาบฟน
อองอุนถึงแกความตาย แลวสั่งใหทหารไปจับเอาบุตร ภรรยา และญาติพี่นองอองอุนฆาเสียทั้งสิ้น
หลังจากอองอุนกระโดดลงไปใหสี่ทหารเอกฆาแลว พระเจาเหี้ยนเตสลดพระทัยอาลัยนักจึงเสด็จเขา สี่ทหาร
เอกกราบถวายบังคมลาแลวพากันไปปรึกษาที่ตึกบัญชาการกองกําลังรักษาพระนคร แตคงใหทหารลอม
พระราชวังไวอางวาเปนการถวายการอารักขาฮองเต สี่ทหารเอกเมื่อมาถึงกองบัญชาการกองกําลังรักษาพระ
นครแลว ก็ใหทหารของตัวเขาประจําการ เปนทหารสังกัดกองกําลังรักษาพระนคร ทหารหนวยตางๆ ในพระ
นครที่เขาสวามิภักดิ์เปนจํานวนมากก็ใหทําหนาที่ในหนวยสังกัดเดิม สี่ทหารเอกนั้นแรกเริ่มคิดอานกันแตเพียง
เพื่อเสี่ยงตายตอสูเอา ตัวรอดแลวกาวมาถึงขั้นคิดสังหารอองอุนเพื่อแกแคน ครั้นยึดพระนครไดแลวก็เริ่ม
สัมผัสวาสถานการณทั้งปวงไดตกอยูภายใตอํานาจการควบคุมของกองกําลังรักษาพระนคร ซึ่งพวกตนเปน
คณะผูบัญชาการแลวโดยไมไดคิดฝน มารูตัวอีกทีหนึ่งก็กลายเปนคณะรัฐประหารที่ยึดอํานาจรัฐจากอองอุนมา
ไวในกํามือเสียแลว
คนหนึ่งประมาทจนอํานาจรัฐหลุดจากมือแลวถูกสังหารอยางทารุณ แตอีกสี่คนเพียงแคเสี่ยงเอาตัวรอดกลับ
บังเอิญไดอํานาจรัฐมาครอง ดูประหนึ่งวาฟานั้นไรกฎเกณฑ แตความจริงนี่คือกฎเกณฑ ของฟา เนื่องเพราะ
กฎเกณฑของฟานั้นไมขึ้นตอการคํานวณทางคณิตศาสตร ไมขึ้นตอกฎเกณฑของตรรกะ และไมขึ้นตอ
เจตจํานงของผูคน แตใครเลาจักเขาถึงกฎเกณฑของฟาได
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 3
เมื่อรูตัววาไดครองอํานาจรัฐอยูในมือฉะนี้แลว ลิฉุย กุยกี จึงคิดกาวตอไปถึงขนาดคิดลมราชวงศฮั่น สังหาร
ฮองเต ตั้งระบอบการ ปกครองโดยสภารัฐประหาร แตเตียวเจ และหวนเตียว คัดคานวาแผนดินมีธรรมเนียมการ
ปกครองในระบอบกษัตริย ราชวงศฮั่นไดสถาปนามารวม 400 ปแลว หัวเมืองจํานวนมากยังคงจงรักภักดีตอ
ราชวงศฮั่น เจาเมืองจํานวนมากก็เปนพวก "แซเลา" เชื้อสายของพระเจาฮั่นโกโจเลาปง ทั้งราษฎรก็เคยชินใน
ระบอบกษัตริย หากลมฮองเตเสียแลวบรรดาหัวเมืองก็จะยกกองทัพเขามา ราษฎรก็จะกอการจลาจล พวกเราก็
จะคุมสถานการณไวไมได ดีรายอํานาจวาสนา ที่มีอยูในวันนี้ก็จะสูญสิ้นไป กระไรเลยควรคงราชวงศฮั่นและ
พระเจาเหี้ยนเตไวดังเดิม แลวพวกเราครองอํานาจรัฐแบบตั๋งโตะ บานเมืองก็จะเปนปกติสุขสืบไป
ที่ประชุมสภารัฐประหารเห็นชอบดวยกับความคิดของเตียวเจ และหวนเตียว และตกลงกันตอไปวาตองรีบ
สลายตัวสภารัฐประหาร แลวกราบบังคมทูลใหพระเจาเหี้ยนเตโปรดเกลาฯ ใหดํารงตําแหนง ขุนนางตาม
ระบอบการปกครองปกติ เพื่อสลายคราบเผด็จการออกไปแลวใชเสื้อคลุมของฮองเตคุมตัวใหไดครองอํานาจ
เผด็จการไดโดย ชอบดวยกฎหมาย จากนั้นแลวจึงคอยคิดอานกําจัดศัตรูทางการเมือง อยางเปนขั้นตอน วาง
ฐานอํานาจภายใตฮองเตใหมั่นคงยั่งยืน เมื่อปรึกษาพรอมกันแลวจึงพากันไปขอเขาเฝาพระเจาเหี้ยนเต พระ
เจาเหี้ยนเตเสด็จขึ้นใหสี่ทหารเอกเขาเฝา แลวรับสั่งถามวาเดิมทีพวกเจายกกองทัพมาอางวาตองการตัว
อองอุน บัดนี้อองอุนก็ตายแลว เหตุใดจึงยังไมยกทัพกลับไปอีกเลา สี่ทหารเอกบัดนี้ประดุจดั่งเสือรายที่เพิ่งได
สัมผัสรสเลือดจึงยอมเปนวิสัยเสือที่ไหนเลยจะละวางเสียแตเพียงเทานี้ มีแตจะกระทําการตามอําเภอใจของ
สัตวเดรัจฉานตอไปเทานั้น
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
เปดตัวตนตํารับลวงโลก (ตอนที่ 52)
สี่ทหารเอกฟงรับสั่งของพระเจาเหี้ยนเตแลวกราบบังคมทูลวา พวกขาพระพุทธเจาทําราชการมีความชอบมา
แตกอน แตหามีผูใด กราบบังคมทูลเสนอความชอบใหไม บัดนี้พวกขาพระพุทธเจาประสงคจะเปนขุนนางรับ
ราชการในเมืองหลวง จึงขอรับพระราชทานพระกรุณา พระเจาเหี้ยนเตฟงคํากราบบังคมทูลก็รูความนัย จึง
รับสั่งถามตอไปวา พวกเจาตองการตําแหนงใดขอใหวามา สี่ทหารเอกฟงรับสั่งแลวคิดไมทันวาจะทูลขอรับ
พระราชทานตําแหนงใดเพราะไมได เตรียมตัวมากอน ทั้งไมรูสายสนกลในในการบริหารราชการแผนดิน จึงไม
สามารถกราบทูลตอไปได ตางคนตางอ้ําอึ้งอยูพักหนึ่งแลวลิฉุย กุยกี จึงกราบทูลวาขาพระพุทธเจาขอเวลา
กลับไปปรึกษากันกอนแลว กราบถวายบังคมลา
ลาภวาสนาอันไดมาโดยบังเอิญ และบังเอิญเสียจนไมรูวาจะเอา อยางไรกันดี คลายๆ กับยาจกตกเขาไปใน
แหลงมหาสมบัติ ไมรูจะหยิบฉวยเอาสิ่งใด ไดแตหูพราตาลาย ไมตางกระไรกับคณะรัฐประหารบางคณะที่ยึด
อํานาจแลวไมมีสติปญญาคิดอานวาจะทําการอยางใดสืบไป จนในที่สุดกลับยกเอาอํานาจนั้นใหคนอื่นเสียดื้อๆ
แตลิฉุย กุยกี เตียวเจ และหวนเตียวนั้น แมจะเปนทหารบานนอก แตยังคงความเฉลียวฉลาดกวาคณะ
รัฐประหารบางคณะ จึงขอเวลาตั้งหลักคิดอานกันใหม
ครั้นกราบถวายบังคมลากลับมายังกองบัญชาการกองกําลังรักษาพระนครแลว จึงปรึกษากันวาจะขอรับ
พระราชทานตําแหนงใด แตในที่สุดก็ไมรูวาจะขอรับพระราชทานตําแหนงใดจึงจะครองอํานาจ รัฐไวได
ตามปกติ ดังนั้นจึงใหไปเชิญเจากรมกําลังพลและนักวิชาการ มาปรึกษาวาตําแหนงใดที่ครองแลวจะมีผลเปน
การครองอํานาจรัฐไดสืบไป เมื่อปรึกษาตกลงกันแลว จึงทําเปนหนังสือกราบบังคมทูลขอ รับพระราชทาน
ตําแหนงใหลิฉุยเปนผูสําเร็จราชการแผนดิน เปนผูบัญชาการกองทัพภาคกลาง และเปนผูบัญชาการกองกําลัง
รักษาพระนคร กุยกีเปนผูบัญชาการทหารสวนหลัง และขุนนางผูใหญมี ตําแหนงเฝา เตียวเจเปนผูบัญชาการ
ทหารฝายซาย และหวนเตียว เปนผูบัญชาการทหารฝายขวา
พระเจาเหี้ยนเตทอดพระเนตรหนังสือกราบบังคมทูลแลว ทรงโปรดเกลาฯ แตงตั้งใหสี่ทหารเอกดํารงตําแหนง
ตามที่เสนอ นี่คือพระบรมราโชบายที่สอดคลองกับวิถีแหงฟา เปนไปตามหลักพิชัยสงครามที่ไมแตกหักเมื่อยัง
แตกหักไมได เปนไปตามหลักสุดยอดกลยุทธหนึ่งในสามสิบหกประการ คือ "หนี" เมื่อยังเอาชนะไมไดนั่นเอง
นับวาพระเจาเหี้ยนเตซึ่งเปนพระมหากษัตริย เมื่อสองพันปกอนทรงมีพระสติปญญายิ่งกวาพระมหากษัตริย
พมาที่แข็งกราวแตกหักกับอังกฤษ ทั้งๆ ที่ไมมีน้ํายาที่จะตอกรดวยกองทัพของอังกฤษ เปนเหตุใหพมาตองตก
เปนเมืองขึ้นอังกฤษในที่สุด
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 4
ครั้นไดรับพระมหากรุณาโปรดเกลาฯ ใหไดรับตําแหนงตามที่ทูล ขอแลว ลิฉุย กุยกี จึงถอนทหารที่ลอม
พระราชวังยกออกมาตั้งที่กองบัญชาการกองกําลังรักษาพระนคร และใหเตียวเจ หวนเตียว คุม ทหารยกไป
รักษาเมืองฮองหลง ซึ่งเปนเมืองหนาดานและเปนเมืองยุทธศาสตรสําคัญในการปองกันขาศึก
เมื่อไดอํานาจรัฐแลวก็ลงมือเลนพรรคเลนพวกตามวิสัยของนักการเมือง เหตุนี้ลิฉุย กุยกี จึงแตงตั้งใหลิบอง
และอองหอง ลูกนองเกาของตั๋งโตะที่เปนพวกเดียวกันและเปนไสศึกเปดประตูเมือง รับกองทัพสี่ทหารเอกให
เปนที่ขุนนาง สวนทหารที่มาดวยกันในกองทัพที่เปนตัวนายก็แตงตั้งเปนขุนนาง ระดับรอง ๆ ลงมาก็เลื่อน ยศ
ตําแหนงใหทั่วถึงกัน นับวาลิฉุย กุยกี เปนนักการเมืองที่เอาพรรคเอาพวก เพียงขอใหเปนพวกเทานั้นยอม
บําเหน็จรางวัลและผลประโยชนให ดังนั้นจึงมีนักวิชาการ บัณฑิต สื่อมวลชน และขุนนางขาราชการอื่น ๆ เขา
มาเปนพวกดวยจํานวนมาก
ครั้นใครมาเปนพวกแลวก็ใชอํานาจของตัวเขาปกปองประดุจแมไกที่ คอยกางปกปกปองลูกไกฉะนั้น เพราะ
เหตุนี้พรรคพวกของลิฉุย กุยกีจึงมีจิตคิดกําเริบกลาทําชั่วชาไดทุกอยางทุกประการ โดยไมหวาดหวั่นยําเกรง
กฎหมายบานเมือง เพราะถือดีวามีอํานาจรัฐปกปองคุมครองอยูทุกกรณี ไมวาจะผิดชั่วชาขนาดไหน ประการใด
หลังจากใชอํานาจรัฐเกื้อกูลพวกพองแลวก็เผื่อแผถึงคนตายที่เปนนายเกาของตัว ลิฉุย กุยกี จึงสั่งใหตั้ง
คณะกรรมการฟนฟูเกียรติยศของตั๋งโตะขึ้นคณะหนึ่ง ใหทําการคนหาซากศพของตั๋งโตะเพื่อทําพิธีศพใหมให
สมเกียรติยศ แลวจะไดนําไปฝงตามธรรมเนียมตอไป
คณะกรรมการชุดนี้คนหาไดแตเศษเนื้อและกระดูกของตั๋งโตะที่ถูกฝงอยูนอกพระนคร ดังนั้น จึงใหทําพิธีใหญ
เอาเศษเนื้อ และกระดูกใสโลงอยางดีสําหรับศพพระบรมราชวงศ แลวใหเอาไมจันทนหอมแกะเปนรูปตั๋งโตะมี
ขนาดเทาคนจริงเอามาตั้งในพิธีแลวเซนไหวอยางธรรมเนียม ลิฉุย กุยกี ตองการใหผูคนเห็นวาตั๋งโตะนั้นเปน
รัฐบุรุษ มีคน เคารพรักอาลัยเปนอันมาก จึงเกณฑคนมารวมพิธีเซนไหวศพเปน เวลาสิบวันสิบคืน มีคนที่ถูก
เกณฑมาเซนไหวศพในครั้งนี้ถึงสองลาน คน หากใครรองไหแบบสุดโศกเศราอาดูรก็จะมอบรางวัลให ดังนั้น
จึงมีผูคนมารองไหตอหนาพิธีศพเปนจํานวนมากตลอด ระยะเวลาสิบวัน อาการรองไหนั้นสุดแสนจะโศกเศรา
อาลัยรักเปนหนักหนา ยิ่งเสียกวาเปนศพบิดามารดาของตัวเสียอีก และกลายเปนธรรมเนียมรองไหหนาศพ
ตอมาอีกนับพันป
นี่แหละอานุภาพแหงอํานาจเงินตรา ซึ่งอยาวาแตชั้นรองไหเพียงเทานี้เลย ตอใหเปนชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริยก็อาจถูกคน ขายตัวขายไดอยางไมอาลัยไยดี เหลาขุนนางขาราชการเห็นบานเมืองเขาสูยุค
"ตาหลิ่วก็หลิ่วตาตาม" จํานวนมากที่เคยรวมอยูในเหตุการณสังหารตั๋งโตะ หรือเคยรวมสาปแชงศพตั๋งโตะก็พา
กันมาเซนไหวศพตั๋งโตะกันเปนการใหญ พระเจาเหี้ยนเตแมยังทรงพระเยาว แตทรงทราบสถานการณดี วาควร
ตองวางพระองคอยางไร ดังนั้นจึงทรงพระราชทานของเซนไหว ศพตั๋งโตะอยางธรรมเนียมเชื้อพระวงศชั้น
ผูใหญ ลิฉุย กุยกี เห็นเชนนี้ก็ดีใจยิ่งนัก ภาพที่สรางขึ้นเพื่อลวงโลกกลับมาหลอกตัวเองใหหลงไปวาตั๋งโตะ
นั้นมีผูคนเคารพรักนับถือศรัทธาเปนจํานวนมาก ดังนั้นจึงตองประพฤติปฏิบัติตามแบบอยาง ของตั๋งโตะ และ
นํานโยบายตางๆ ของตั๋งโตะมาใชในการบริหารราชการแผนดินตอไป
การบิดเบือนขอเท็จจริงเพื่อหลอกลวงชาวบานเชนนี้ถือเปนตนฉบับของการลวงโลก และเปนแบบอยางให
นักการเมืองในยุคสองพันปตอมานําไปใช โดยไมคํานึงวาสิ่งที่บิดเบือนหลอกลวงนั้นจะสราง ความรูสึกที่เจ็บ
แคนชิงชังแกอาณาประชาราษฎรอยางไร ในขณะที่น้ําทวมบานเรือนและทรัพยสินราษฎร และกระแสน้ํา พัด
พาผูคนลมตายหายไปเปนจํานวนมาก แทนที่จะยอมรับวาเกิดอุทกภัย และบอกวามีแผนการแกไขอยางไร
กลับบิดเบือนหลอกลวง เสียวานี่คือผลงานของรัฐบาลในการปองกันแกไขปญหาภัยแลงอยางไดผล ในบางป
ภัยแลงคุกคาม ฝนฟาไมตก อากาศรอนและแลงจัด ดินแตกระแหง สัตวไมมีน้ํากิน พืชผลของเกษตรกร
เสียหายทั่วประเทศ แทนที่จะยอมรับวาเกิดภัยแลงและบอกวามีแผนการแกไขอยางไร กลับบิดเบือน
หลอกลวงวานี่คือผลงานของรัฐบาลในการแกไข ปญหาน้ําทวมอยางไดผล ครั้นสรางหนี้สินจนบานเมืองมี
หนี้สินลนพนตัว ถึงขนาดที่ชาว นาทั้งประเทศตองขายขาวทั้งหมดที่ผลิตไดโดยไมตองเหลือไวกินก็ตองใช
เวลาถึง
สองรอยหาสิบปจึงจะชดใชหนี้ไดหมด แทนที่จะยอมรับความจริงแลวแกไขความผิดพลาดกลับหลอกลวง
บิดเบือนดวยการออกคํานิยามวา "หนี้สาธารณะ" เสียใหม ตัดเอายอดหนี้จํานวนมากออกไปแลวบอกวาหนี้
สาธารณะมีจํานวนนอยนิดเทานั้น หลังจากออกมาตรการบีบบังคับธนาคารและสถาบันการเงินเพื่อ จะยึดมา
เปนของรัฐแลวขายใหกับตางชาติซึ่งผิดพลาดมหันต สงผล ใหหนี้เนาเกิดขึ้นทวมทั้งระบบ แทนที่จะยอมรับ
ความผิดพลาดกลับเอาหนี้เนาออกจากระบบไปกองไวหลังบาน คือไปใสไวในองคกร อีกองคกรหนึ่งแลว
หลอกลวงบิดเบือนวาแกไขปญหาหนี้เนาไดสําเร็จแลว
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 5
การหลอกลวงบิดเบือนถึงขนาดที่แมวาราษฎรไมมีเงินในกระเปา ไมมีจะกินและยากไร ซึ่งทุกผูคนสัมผัสความ
จริงอยูกับตัว แตยังกลาหลอกลวงวาสามารถแกไขปญหาเศรษฐกิจถูกตอง ถูกทาง แลว ทุกคนมีรายไดมาก
ขึ้นแลว มีเงินในกระเปาเพิ่มขึ้นแลว รายไดประชาชาติเพิ่มขึ้นแลว การโกหกหลอกลวงบิดเบือนของ
นักการเมืองในยุคหลังดังกลาว นี้ นับไดวาไดพัฒนาวิชาลวงโลกของลิฉุย กุยกี จนกาวหนายิ่งกวาตนฉบับเดิม
มากมายนัก ดังนั้นนักการเมืองลวงโลกเชนนี้จึงยอมถือไดวาเปนพวกลูกศิษย หลานศิษยของลิฉุย กุยกี
ลูกนองผูซื่อสัตยของจอมทรราชตั๋งโตะ และตองนับวาเปนลูกศิษย หลานศิษยที่ยอด เยี่ยมยิ่งกวาคนรุน
ปรมาจารยเทียบกันไมติด
ครั้นเสร็จพิธีเซนไหวตามธรรมเนียมแลว จึงใหเชิญศพตั๋งโตะไปทําพิธีฝง ณ สุสานวีรชน แตครั้นจะทําพิธีฝง
พระแมธรณีกลับลงทัณฑ สวรรคกลับสาปสงบันดาลใหเกิดพายุพัดแรงกลา ฝน ตกหนักหาใหญ น้ําทวม
แผนดินถึงสองศอก เกิดอสุนีบาตผาถูกโลงศพตั๋งโตะแตกกระจัดกระจาย เศษเนื้อและกระดูกกระจายไปสิ้น ลิ
ฉุย กุยกี รออยูในพิธีฝงศพตั๋งโตะจนกระทั่งพายุสงบ ฝนสราง ฟากระจางแลว จึงใหทหารไปเก็บรวบรวมเศษ
เนื้อ เศษกระดูกมาผสมกันแลวใสไวในโลงใหม กวาจะเสร็จก็ลวงยามเที่ยงคืน ครั้นจะเอาโลงศพนั้นลงฝงอีกก็
เกิดพายุจัด ฝนตก แลวฟาผาลงที่โลงนั้นซ้ําอีก โลงแตกกระจาย เศษเนื้อและกระดูกที่ปนเปนรูปตั๋งโตะก็แตก
กระจายแหลกละเอียดสิ้น ลิฉุย กุยกี ยังไมละความพยายาม พอฝนสรางก็สั่งใหเก็บรวมรวมเศษเนื้อและกระดูก
ของตั๋งโตะมาผสมเขากันอีกครั้งหนึ่ง แลวนํา ไปใสโลงใบใหมเพื่อเตรียมฝงจนถึงเวลาใกลจะสวาง แตครั้นจะ
ฝงอีก ครั้งหนึ่งก็เกิดเหตุการณเชนเดิมคือเกิดลมพายุพัดจัด ฝนกระหน่ําจนน้ําทวมพื้นดินและเกิดฟาผาถูกโลง
ที่ใสเศษเนื้อและกระดูกของตั๋งโตะนั้นแหลกละเอียดกระจายจนไมเปนชิ้นดี ไมสามารถจัดเก็บรวบรวมมาฝงได
อีกตอไป
ตั๋งโตะตายไปแลว ในตอนที่เปนศพก็ถูกทหารเอาไสตะเกียงเจาะใสทองจุดเปนตะเกียงจนซากศพถูกเผาไหม
ดวยไฟแหงน้ํามือคน ครั้นเก็บเศษเนื้อและกระดูกมาทําพิธีฝงกลับถูกไฟแหงสวรรคบันดาลทําลายจนไม
สามารถฝงไดตามธรรมเนียม นี่หาใชเนื่อง จากเหตุอื่นใดไม หากเนื่องเพราะผลกรรมที่ทําชั่วชาไวกับแผนดิน
และราษฎรจนแมแตฟาก็ไมอาจใหอยูใต แมพระธรณีก็ไมอาจใหอยูบน แตกระนั้นพฤติกรรมลวงโลกของลิฉุย
กุยกี ที่กระทําใหกับตั๋งโตะนั้นก็ยังพอนับวาเปนลูกนองที่ใชได เพราะไดแสดงออกถึงความจงรักภักดีตอ
เจานายตัวจนถึงที่สุด ความดีของลิฉุย กุยกี ถาหากจะยกขึ้นแสดงก็คงมีประการนี้ประการเดียวเทานั้น
ครั้นฝงศพตั๋งโตะไมสําเร็จเพราะฟาดินไมยอมรับเปนที่คุมและรองรับคนแบบตั๋งโตะแลว ลิฉุย กุยกี จึง
จําเปนตองกลับเขาเมืองหลวง เริ่มกิจกรรมที่ชั่วชาทางการเมืองตอไปดวยการติดสินบนขันทีที่อยูใน พระ
ตําหนักของฮองเตใหเปนสายลับคอยรายงานขาวความเคลื่อนไหวของพระเจาเหี้ยนเตใหทราบทุกประการ แต
กระนั้นลิฉุย กุยกี ก็ยังคงเปนทหารที่ไมรูการแผนดิน จะสั่งการใดๆ ในการบริหารราชการแผนดินก็ฟนเฟอน
วิปริตผันแปร แตยังดีที่รูสึกตัววาเปนการไมถูกตอง จึงใหหาจูฮีอดีตรองแมทัพใหญ ปราบโจรโพกผาเหลืองที่
ลาออกจากราชการเพราะไมสามารถจายเงินคาสวยสินบนแกสิบขันทีใหกลับเขารับราชการอีกครั้งหนึ่ง ตั้งเปน
ขุนนางผูใหญในตําแหนงที่ปรึกษาผูสําเร็จราชการแผนดิน
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
สงครามขุนศึกภาคพายัพ (ตอนที่ 53)
การสรางภาพลวงโลกที่ลิฉุย กุยกีไดจัดฉากสรางขึ้นในงานพิธี ศพของตั๋งโตะไดกลับมาหลอกลวงแลว
ครอบงําความคิดของลิฉุย กุยกีวาพฤติกรรมและการกระทําแบบตั๋งโตะคือแบบอยางอันเปนที่ เคารพรักของ
ราษฎร ดังนั้น รัฐบาลของลิฉุย กุยกี จึงสืบทอดเจตนารมณ นโยบาย และพฤติกรรม ตลอดจนการกระทําตางๆ
ของตั๋งโตะเอามาใช แตหาไดสังวรและเฉลียวใจถึงเหตุการณในพิธีฝงศพของตั๋งโตะที่แมแตพระแมธรณียังไม
ยอมรับเรือนราง และสวรรคก็ไมยอม รับใหอยูภายใตหลา วานั่นเปนผลจากความชั่วชาเลวทรามที่กระทําไวแต
ประการใด
เหตุนี้รัฐบาลของลิฉุย กุยกีจึงเปนรัฐบาลทรราชยแบบเดียวกับ รัฐบาลของตั๋งโตะเกือบทุกประการ ยกเวนก็แต
เพียงสองอยางเทานั้นคือ ไมตั้งตัวเปนบิดาบุญธรรมของฮองเตอยางหนึ่ง และไมถึงกับเอาคนเปนๆ มาทอดใน
งานเลี้ยงโตะอีกอยางหนึ่ง เมื่อเปนเชนนี้บรรดาขุนนางขาราชการและราษฎรจึงไดรับความเดือดรอนเหมือนกับ
ครั้งตั๋งโตะอีกครั้งหนึ่ง สงผลใหหัวเมืองบางเมืองมีความคิดที่จะลมลางรัฐบาล และในหมูประชาชนหลายพื้น
ที่ก็เกิดการเคลื่อนไหวที่จะลุกขึ้นสูอีกครั้งหนึ่ง เชื้อไฟขบวนการกูชาติของโจรโพกผาเหลืองจึงเริ่มปะทุขึ้นอีก
ครั้งหนึ่งดวย
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 6
ในดานขุนศึกนั้นมาเทง เจาเมืองเสเหลียงและคูเกลอคือหันซุย เจาเมืองเปงจิ๋ว ซึ่งเปนเจาเมืองครองดินแดน
ภาคพายัพ ไดรับทราบ ขาวการกอกรรมทําเข็ญของรัฐบาลลิฉุย กุยกีแลว จึงปรึกษากันวาบัดนี้รัฐบาลของลิฉุย
กุยกีเปนทรราชยเหมือนกับรัฐบาลของตั๋งโตะ จะปลอยไวอีกไมไดจําเปนตองกําจัดเสีย ดังนั้นจึงตองวางไสศึก
ไวใน เมืองหลวงเพื่อจะไดกําจัดลิฉุย กุยกีไดโดยสะดวก สองเกลอปรึกษากันแลว จึงทําหนังสือลับถึง
มหาดเล็กในพระเจาเหี้ยนเตสามคน ซึ่งสนิทสนมไววางใจกันมาแตกอนคือ มาฮู, ตงเซียง และเลาเฉีย ใหทํา
การเปนไสศึกอยูในเมืองหลวง และใหนําความขึ้นกราบบังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตทรงทราบวา เจาเมืองทั้งสอง
จะยกกองทัพเขาเมืองหลวงเพื่อลมรัฐบาลของลิฉุย กุยกีเสีย มหาดเล็กทั้งสามคนไดรับหนังสือลับของเจา
เมืองทั้งสองแลว มีความเห็นพองตองกันที่จะตองรวมลมลางรัฐบาลของลิฉุย กุยกี จึงพา กันไปเฝาพระเจา
เหี้ยนเตเปนการสวนพระองคถึงขางในพระตําหนัก ที่ประทับกราบบังคมทูลใหทรงทราบความตามที่สองเจา
เมืองบอกมานั้น
พระเจาเหี้ยนเตทรงทราบความแลวมีพระทัยยินดียิ่งนัก จึงมีพระราชหัตถเลขาไปยังสองเจาเมืองวาทรงขอบใจ
ที่สองเจาเมืองเปนเดือดแคนดวย แผนดินและราษฎร หากทําการสําเร็จแลวจะโปรดใหเปนขุนนางผูใหญสาม
มหาดเล็กรับพระราชทานพระราชหัตถเลขาแลว ก็นําไปมอบแกทหารเดินสารของมาเทง หันซุย เพื่อนําไป
มอบแกสองเจาเมืองตอไป
ครั้นมาเทง หันซุย ไดรับพระราชหัตถเลขาและทราบพระราชประสงคแลวมีความยินดียิ่งนัก จึงสั่งการใหเตรียม
กองทัพจากทั้งสอง เมืองกําลังพลสิบสองหมื่นเคลื่อนทัพจากภาคพายัพสูเมืองหลวง เสนทางเดินทัพจาก
เมืองเสเหลียงและเมืองเปงจิ๋ว ไปเมืองเตียงอันเปนระยะทางไกลกวาสามรอยกิโลเมตร เสนทางทุรกันดาร
กลางวันรอนจัด กลางคืนหนาวจัด ดังนั้นแมกองทัพทั้งสองเมืองจะเปนกองทัพมาที่เกงกลาสามารถก็ตองหยุด
พักเปนระยะๆ ครั้นเดินทัพมาถึงกลางทางหนวยลาดตระเวนของเมืองหลวงก็ไดรับขาวศึกจึงรีบสงใบบอก
รายงานใหรัฐบาลทราบ ลิฉุย กุยกี จึงใหหาเตียวเจ และหวนเตียว ซึ่งเปนแกนนําสําคัญของรัฐบาลพรอม ดวย
กาเซี่ยงกุนซือคนสําคัญมาประชุมเพื่อเตรียมรับมือกับสงคราม ขุนศึกภาคพายัพ และปรึกษาวาจะคิดอานวาง
แผนการสงครามประการใด
กาเซี่ยงกุนซือคนสําคัญของรัฐบาลไดเสนอความเห็นวาการศึกครั้งนี้ไมนาหนักใจแตประการใด แลวยก
สถานการณของทั้งสองฝายขึ้นแสดงตอที่ประชุมวา ขาศึกเดินทัพมาแตทางไกล และไมมีหัวเมือง ราย
ทางเขารวมดวย ดังนั้นยิ่งเดินทัพลึกเขามาทางเมืองหลวงมากเทาใด ไพรพลยอมยากลําบาก และออนลาลง
มากขึ้นเทานั้น การลําเลียง เสบียงก็จะไมสามารถลําเลียงสนับสนุนไดทันตอความตองการ ยิ่งใกล เมืองหลวง
เทาใดเสบียงอาหารก็จะลําเลียงไดนอยลงเทานั้น ในที่สุดก็จะคงเหลือเพียงเสบียงที่ติดตัวมาซึ่งใชในกอง
ทัพไดไมนาน
หลังจากแสดงสภาพการณของฝายขาศึกแลว กาเซี่ยงก็ไดแสดง สภาพการณของฝายเมืองหลวงวาฝายเมือง
หลวงตั้งมั่นอยูในพระนคร มีกําแพงเชิงเทิน คายคู หอรบพรอมสรรพ ทหารก็พรอม เสบียงก็มาก กําลังของ
เมืองหลวงในยามปะทะขาศึกจะมีความสดชื่นยิ่งกวาขาศึกที่ออนลาอิดโรย กาเซี่ยงจึงสรุปวาสถานการณ
สงครามของทั้งสองฝายเปนดั่งนี้ ทําใหเวลายิ่งเนิ่นนานไปเพียงใดยอมเปนโทษแกขาศึกเพียงนั้น และเปนคุณ
แกฝายเมืองหลวงเพียงนั้น วาแลวจึงถามที่ประชุมวาสภาพการศึกครั้งนี้เปนดั่งนี้ใชหรือไม ที่ประชุมยอมรับ
สภาพการสงครามระหวางขาศึกกับฝายเมืองหลวงตามที่กาเซี่ยงไดกลาวมาทั้งนั้น ลิฉุยจึงใหกาเซี่ยงเสนอ
แผนยุทธการตอไป
กาเซี่ยงจึงวาเมื่อปจจัยพื้นฐานของสงครามระหวางขาศึกกับเรา เปนดั่งนี้แลว ปจจัยพื้นฐานเหลานั้นจึงกําหนด
ยุทธการใหฝายเมืองหลวงเปนฝายตั้งรับ และรอคอยโอกาสโจมตี ทั้งกําหนดแผนการยุทธใหขาศึกยกลวง
มาถึงชานกําแพงพระนคร ในที่สุดขาศึกก็จะหมด เสบียงแลวตองถอนทัพกลับไป ถึงเวลานั้นฝายเมืองหลวง
จึงยกตาม ตียอมจะไดรับชัยชนะเปนมั่นคง ลิบองกับอองหอง สองขุนนางที่ไดรับแตงตั้งใหมเปนบําเหน็จ
ความชอบที่เปดประตูเมืองรับทัพลิฉุย กุยกี ไมเห็นดวยกับแผนยุทธการของกาเซี่ยง และเสนอแผนยุทธการ
ใหมใหฝายเมืองหลวงยกกองทัพไปโจมตีขาศึก มิใหยกลวงเขามาถึงพระนครได โดยอางวาจะกอใหเกิดความ
ตระหนกตกใจแกราษฎร แลววาขาพเจาทั้งสองขอนําทหารเพียงหมื่นคนไปตัดเอาศีรษะมาเทง หันซุย มาให
จงได
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ลิฉุย กุยกี เห็นชอบตามแผนการยุทธของสองขุนนาง แตกาเซี่ยง ทวงติงวาการยกทัพไปครั้งนี้จะเสียทีแก
ขาศึกเปนมั่นคง เพราะเมื่อฝายเรายกทัพไปทางไกลก็จะสูญเสียความไดเปรียบที่มีอยูจากการตั้งรับและมี
สภาพไมตางกับขาศึก แตเนื่องจากขาศึกมีกําลังพลมากกวาทั้งการยุทธจะเกิดขึ้นในพื้นราบรบกันดวยกําลัง
ทหารมายอมมีสภาพเปนรองฝายกองทัพเมืองเสเหลียงที่มีความเชี่ยวชาญการรบบนหลังมา ฝายเมืองหลวงจึง
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 7
เสียเปรียบในทุกทาง ลิบอง อองหอง ฟงคํากาเซี่ยงแลวไมพอใจจึงวาการยกไปครั้งนี้ถาหากไมไดหัวมาเทง
หันซุย กลับมาก็ขอใหเอาหัวของขาพเจา สองคนแทน แตถาขาพเจาไดหัวของสองเจาเมืองมาแลวก็ให
กาเซี่ยง มอบศีรษะแกขาพเจา กาเซี่ยงไมรับคําทาของสองขุนนาง ยังคงเสนอตอไปวาถาจะให ลิบอง ออง
หอง ยกไปก็จะเสียทีแกขาศึกเปนแมนมั่น แตเพื่อไมใหเสียการขาพเจาขอเสนอใหทานแมทัพเตียวเจ และ
หวนเตียว ยกทหาร อีกหมื่นหนึ่งไปตั้งมั่นไวที่เขาเจียวจิด ซึ่งอยูทางทิศตะวันตกหางจาก เมืองหลวงไป
ระยะทางสองพันหารอยเสน หรือประมาณหนึ่งรอยกิโลเมตร ณ เขาลูกนี้เปนชัยภูมิสําคัญ เพราะภูมิประเทศมี
ทางเดินทัพเฉพาะตามซอกเขาเทานั้น ถึงขาศึกมีกําลังพลมากกวาก็ถูกสภาพ ภูมิประเทศบีบบังคับใหเสมือน
นอย หากลิบอง อองหอง เสียทีมาฝายเมืองหลวงก็ยังคงสามารถยันทัพขาศึกไวได ณ ที่นี้ การสงคราม ครั้งนี้
เราก็จะไมเสียทีแกขาศึก
ปรากฏวาคณะฝายทหารทั้งหมดในที่ประชุมไมเห็นดวยกับขอเสนอของกาเซี่ยง ดังนั้นลิฉุย จึงสั่งใหจัด
กองทัพพลหมื่นหาพันคนใหลิบอง และอองหองยกไปรบดวยมาเทงและหันซุยตามแผนของสอง ขุนนาง
ดังกลาว กาเซี่ยงที่ปรึกษาเห็นเชนนั้นก็มิไดวากลาวประการใด คงรําพึง แตในใจวา "แลวจะไดเห็นดีกัน" ลิ
บอง อองหอง ยกกองทัพออกจากเมืองหลวง เดินทัพไปไดประมาณสองพันเสนก็เผชิญหนากับกองทัพภาค
พายัพของมาเทงและหันซุย ดังนั้นทั้งสองฝายจึงตั้งคายลงในลักษณะประชิดกัน เตรียมการยุทธขั้นแตกหัก
ตอไป
ครั้นรุงขึ้นทหารของทั้งสองฝายจึงยกออกจากคาย ตั้งขบวนเรียงหนากระดานเขาหากัน เวนพื้นที่เปนลานรบไว
ตรงกลาง แมทัพนายกอง ของทั้งสองฝายออกมายืนมาอยูหนาทหารของฝายตน เปนการเตรียม การทําศึก
โดยอาศัยฝมือทหารเอก หลังจากเปดฉากดากันตามธรรมเนียมแลว กองทัพภาคพายัพจึงสงมาเฉียวผูเปนบุตร
มาเทงและเปนทหารเอกออกรบ มาเฉียวนั้น สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วา "อายุสิบแปดป หนาดังสี
หยก กิริยาวองไว" แตสามกกฉบับสมบูรณกลาววา เปน "หนุมนอยสีหนาดังหยกขาว ดวงตาดุจดาวตก รางดุจ
พยัคฆ แขนคลายวานร ทองเหมือนเสือดาว เอวดั่งสุนัขจิ้งจอก" ซึ่งดูออกจะมีลักษณะพิกล จึงเอาเปนวามา
เฉียวนั้นอายุสิบแปดป มีหนาขาวประดุจดังหยก ดวงตาคมวาว แข็งแรง แคลวคลองวองไว มาเฉียวรับคําสั่ง
แลวก็ขับมาศึกมือถือทวนยาวออกมากลางลาน รบฝายอองหองเห็นมาเฉียวยังเปนเด็กนักคิดวาจะเอาชัยได
โดยงายจึงชักมาออกมากลางลานรบ ทั้งสองฝายขับมาประอาวุธกันเพียง หาเพลง มาเฉียวก็เอาทวนแทงออง
หองตกมาตาย แลวชักมาหันหลังจะกลับเขามาในแถวทหารของเมืองเสเหลียง ฝายลิบองเห็นออง หองตายก็
โกรธ ขับมาถืองาวไลตามมาขางหลังมาเฉียว แตมาเฉียวทําเปนไมเห็น ฝายมาเทงผูบิดาเปนหวงมาเฉียวจึง
รองตะโกนใหระวังวาขาศึกกําลังไลตามมาขางหลัง พอดีลิบองขับมาเขามาใกลไดจังหวะงาวจึงเงื้องาวขึ้นจะ
ฟนมาเฉียวมาเฉียวสังเกตความเคลื่อนไหวของลิบองอยูทุกฝเทา ครั้นเห็น ลิบองเอางาวฟนลงมาก็เอี้ยวตัว
หลบพรอมกับชักมาเขาประกบมาของ ลิบอง แลวกระโจนไปบนหลังมาของลิบองจับลิบองไดบนหลังมานั้น
แลวเอามาสงแกมาเทงผูบิดา
มาเทงเห็นไดทีจึงใหสัญญาณทหารบุกเขาโจมตีกองทัพของลิบอง อองหอง ซึ่งกําลังขวัญเสียเพราะสูญเสีย
แมทัพไปทั้งหมด จึงแตกตื่น วิ่งหนีถูกทหารภาคพายัพฆาตายเปนจํานวนมาก และที่ถูกจับเปนก็ไมนอย
กองทัพลิบอง อองหอง จึงแตกพายไป มาเทงและหันซุยไดรับชัยชนะในศึกยกแรกแลว จึงเคลื่อนทัพ ภาค
พายัพเดินทางเขาเมืองหลวง แลวตั้งคายประชิดกําแพงพระนคร ครั้นตั้งคายเสร็จแลวจึงสั่งใหตัดศีรษะลิบอง
และอองหองเสียบประจานไวที่หนาคาย ลิฉุย กุยกี ทราบขาวศึกวาลิบอง อองหอง เสียทีแกขาศึกและกองทัพ
ภาคพายัพยกลวงมาประชิดกําแพงพระนคร จึงเรียกประชุมแมทัพนายกอง ณ กองบัญชาการกองกําลังรักษา
พระนคร และสั่งให หากาเซี่ยงที่ปรึกษาเขารวมประชุมดวย ลิฉุย เปดประชุมแลวกลาววาเปนความผิดของเรา
เองที่ไมฟงคํา กาเซี่ยง การณจึงเสียทีแกขาศึกถึงเพียงนี้ เราไดพิจารณาการณประมาณการศึก และแผน
ยุทธการของกาเซี่ยงอีกครั้งหนึ่งแลวเห็นวา เปนแผนการที่จะเอาชนะขาศึกได ดังนั้นจากนี้ไปใหปฏิบัติตาม
แผนของ กาเซี่ยง ทุกประการ
แลวลิฉุยจึงมีคําสั่งใหทหารทุกหนวยตั้งมั่นรับศึกในพระนครใหระมัดระวังรักษาเชิงเทิน คายคู หอรบตางๆ ให
มั่นคงทุกดาน สงครามกับขุนศึกภาคพายัพที่ดําเนินการมาถึงชั้นนี้ ไดใหขอพิสูจนที่ชัดเจนอยางหนึ่งวา
ความผิดถูกนั้นหาไดขึ้นอยูกับเสียงขางมากแตประการใดไม หากขึ้นอยูกับสติปญญาและขอมูลขาวสารที่
ถูกตองถองแทตางหาก แมจะเปนเสียงขางนอยแตถาหากมีสติปญญากําหนดแผนการขึ้นบนพื้นฐานของขอมูล
ขาวสารที่ถูกตองแลว ยังดีเสีย กวาเสียงขางมากที่ไรสติปญญาและปราศจากขอมูลขาวสารที่ถูกตอง พระผูมี
พระภาคเจาทรงตรัสวาการประชุมที่ไมมีบัณฑิตยอมไม ถือวาเปนการประชุม ซึ่งหากจะกลาวโดยสํานวนของ
กิมยงก็ตองกลาววาการประชุมที่ไมมีบัณฑิตก็คือการผายลมนั่นเอง
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 8
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
กลยุทธสงบสยบความเคลื่อนไหว (ตอนที่ 54)
กองทัพจากแดนไกลตั้งคายประชิดกําแพงพระนครแลวยกทหารออกมาทารบกับฝายเมืองหลวงทุกวัน ตีกลอง
ศึกมาลอ โหรองดาทอฝายเมืองหลวงสักเทาใด ฝายเมืองหลวงก็ไมยอมออกรบ มิหนําซ้ํายังยั่วเยาดวยการไป
ตั้งโตะจัดเลี้ยงบนกําแพงพระนคร ดื่มกินกันเปนที่สนุกสนานบางวันในขณะที่กองทัพจากภาคพายัพตั้งมั่นอยู
ในคายภายในเมืองหลวงก็จัดดนตรีมาเลน เสียงมโหรีดังสนั่นไดยินไปถึงคายของ มาเทงและหันซุย การตั้งมั่น
ประกอบเขากับการเลี้ยงโตะบนกําแพงพระนครและการเลนดนตรีภายในพระนครไดสรางความโมโหโกรธา
ใหกับฝายมาเทง หันซุยเปนยิ่งนัก แตจะรบก็รบไมได เพราะฝายเมืองหลวงไมยอมรบดวย ยังคงตั้งมั่นรักษา
เชิงเทินคายคู หอรบไวอยางเหนียวแนน อาการเชนนี้ดูเหมือนวามิใชการรบ แตแทจริงนี่คือการรบเพราะการตั้ง
มั่นในลักษณะนี้เปนยุทธานุภาพชนิดหนึ่งที่ฝายเมือง หลวงกําลังใชทําลายฝายมาเทง หันซุย ใหออนเปลี้ยลง
ทุกวี่วัน เปน ผลที่เกิดขึ้นจากแผนการอันไดกําหนดไวเปนอยางดีแลว เปนแผน การที่มีผลคือชัยชนะโดยไม
ตองรบ นี่คือการสะทอนถึงสภาพที่กุมชัยชนะอยางแนแทไวในมือ ในขณะที่อีกฝายหนึ่งกลับดิ้นรนเพื่อจะ
เอาชนะ และนั่นคืออาการของฝายที่กําลังจะพายแพนั่นเอง
ทั้งสองฝายทําการยุทธตอกันในลักษณะเชนนี้จนเวลาผานไปสองเดือน กองทัพจากแดนไกลก็ขาดเสบียงลง
ทหารออนลาอิดโรย และเสียขวัญทั้งกองทัพ ในขณะนั้นขาวการเคลื่อนไหวของสามมหาดเล็กที่เปนไสศึกให
กับมาเทง หันซุยไดทราบไปถึงหูของลิฉุยวาเหตุที่กองทัพยกมาประชิดเมืองหลวงก็เพราะมาฮู ตงเซียง และ
เลาเฉียเปนไสศึก ลิฉุยทราบความก็โกรธ สั่งทหารใหจับตัวสามมหาดเล็กพรอมครอบครัวมาประหาร แลวตัด
ศีรษะเสียบไวบนเชิงเทิน
ฝายมาเทงและหันซุยทราบขาววาสามมหาดเล็กซึ่งรับทําการเปน ไสศึกในเมืองหลวงถูกประหารเสียแลวก็สิ้น
หนทางที่จะทําการศึกตอไป เพราะการณขางในก็มืดมิรูขาวคราวของฝายเมืองหลวง การณขางนอก กองทัพ
จากภาคพายัพก็ขาดเสบียง ดังนั้นมาเทงและหันซุยจึงปรึกษากัน และเห็นชอบรวมกันวาใหถอยทัพกลับภาค
พายัพ โดยแยกขบวนออกเปนสองกอง คือมาเทงคุมกองทัพเมืองเสเหลียง และหันซุยคุม กองทัพเมืองเปงจิ๋ว
แลวแยกกันถอยทัพเปนสองทางกลับเมืองแตละเมืองปรึกษากันเสร็จแลว ครั้นเวลายามสามกองทัพจากภาค
พายัพ ทั้งสองกองก็ถอนทัพเคลื่อนออกจากเขตเมืองหลวงคืนสูภาคพายัพ
รุงขึ้นลิฉุย กุยกีไดทราบวาขาศึกถอนทัพยกถอยกลับไปตามแผนการความคิดของกาเซี่ยง จึงสั่งใหเตียวเจ
และหวนเตียวยกทหาร ไปคนละกองไลตามตีกองทัพจากภาคพายัพ โดยเตียวเจไลตามตีกองทัพของมาเทง
และหวนเตียวไลตามตีกองทัพของหันซุย เตียวเจและหวนเตียวรับคําสั่งแลวก็ยกทหารออกจากพระนครไล
ตามตีกองทัพของมาเทงและหันซุยตามคําสั่งหวนเตียวยกทหารตามหันซุยมาถึงเขาตันฉอง หันซุยไดยินเสียง
กองทหารไลตามมาเห็นธงประจําตัวแมทัพวาหวนเตียวคนบานเดียวกัน จึงชักมามาดานหลังทหารพบกับหวน
เตียวแลวจึงกระทําคารวะตามธรรมเนียมแลววา เรายกมาทั้งนี้เพื่อกําจัดศัตรูราชสมบัติเสีย บัดนี้กองทัพของ
เราขาดเสบียงจึงตองถอยทัพกลับ ขอใหทานเห็นแกไมตรีที่มีมาแตนอยปลอยเรากลับไปอยาใหตองกระทําศึก
ตอกันใหเสียเลือดเนื้อทหารเลย
หวนเตียวคารวะตอบหันซุยแลววาการครั้งนี้เปนเรื่องของแผนดินเปนการใหญ เราจะเห็นแกหนาคาตากันไมได
ทานจงเตรียมใหพรอมเถิด เราจะเขาโจมตีทาน หันซุยจึงวา "เรายกมาทั้งนี้ก็เพราะหวังจะทํานุบํารุงแผนดินให
อยูเย็นเปนสุข ถึงทานจะมิคิดถึงเรา ก็จงคิดถึงพระเจาเหี้ยนเตซึ่งครองราชสมบัตินั้นเถิด" หวนเตียวรูอยูกับอก
วารัฐบาลของลิฉุย กุยกีเปนรัฐบาลทรราชย ขมเหงฮองเตกดขี่รังแกขุนนางราษฎร ครั้นไดยินความนี้ ความคิด
กตัญูตอราชวงศฮั่นก็ประดังขึ้นในอกเห็นคลอยตามไปกับคําหันซุย มิไดกลาวตอบประการใด คงยืนมาเฉย
อยูกับที่เปนทีปลอยใหหันซุย ยกทหารไปได หันซุยเห็นเชนนั้นจึงสั่งทหารใหเคลื่อนกองทัพรีบเดินทางกลับ
เมืองเปงจิ๋ว ฝายหวนเตียวเมื่อเห็นกองทัพเมืองเปงจิ๋วยกกลับไปแลวก็ตั้งคายมั่นลง ณ ที่นั้นเพื่อติดตาม
สถานการณวากองทัพภาคพายัพจะยกกลับไปจริงหรือวาจะยอนกลับมาใหม ฝายเตียวเจซึ่งยกกองทัพไลตาม
ตีกองทัพเมืองเสเหลียงไปทันเขาจึงเขารบพุงกันเปนสามารถ มาเฉียวผูบุตรมาเทงไดเขารบดวยเตียวเจ แต
เตียวเจสูกําลังมาเฉียวไมไดจึงถอยทหารกลับมาและมาสมทบดวยหวนเตียวตั้งคายมั่นรักษาการณอยูในที่นั้น
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วากองทัพของเตียวเจยกไลตามตีกองทัพเมืองเสเหลียงแตไมทันกัน จึง
ยกกลับมาตั้งอยูกับหวนเตียว ในขณะที่คอยติดตามสถานการณอยูนั้น หลานของลิฉุยซึ่งมาในกองทัพของ
หวนเตียวไดรูเห็นเหตุการณที่หวนเตียวพบหันซุยแลว ปลอยใหหันซุยถอยทัพกลับไปโดยไมโจมตีตามคําสั่ง
ของลิฉุย จึงรีบกลับเขาเมืองหลวงนําความไปแจงใหลิฉุยทราบ ลิฉุยทราบความก็โกรธหวนเตียวที่ขัดคําสั่ง
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)
Samkok02 (051-100)

Weitere ähnliche Inhalte

Mehr von sornblog2u

4. Passive Cooling
4. Passive Cooling4. Passive Cooling
4. Passive Coolingsornblog2u
 
3. Charcoal : Small Scale Production and Use
3. Charcoal : Small Scale Production and Use3. Charcoal : Small Scale Production and Use
3. Charcoal : Small Scale Production and Usesornblog2u
 
2. Heat and Electricity from Solar Energy
2. Heat and Electricity from Solar Energy2. Heat and Electricity from Solar Energy
2. Heat and Electricity from Solar Energysornblog2u
 
1. Gas Producer Engine System from Biomass
1. Gas Producer Engine System from Biomass1. Gas Producer Engine System from Biomass
1. Gas Producer Engine System from Biomasssornblog2u
 
6. Biogas : Design and Construction Small Digester
6. Biogas : Design and Construction Small Digester6. Biogas : Design and Construction Small Digester
6. Biogas : Design and Construction Small Digestersornblog2u
 
เอกสารประกอบการอบรมติดตั้งจานดาวเทียม (Sat2u 2556)
เอกสารประกอบการอบรมติดตั้งจานดาวเทียม (Sat2u 2556)เอกสารประกอบการอบรมติดตั้งจานดาวเทียม (Sat2u 2556)
เอกสารประกอบการอบรมติดตั้งจานดาวเทียม (Sat2u 2556)sornblog2u
 
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงsornblog2u
 
คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น
คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น
คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นsornblog2u
 
The coming collapse of thailand (สู่จุดจบ)
The coming collapse of thailand (สู่จุดจบ)The coming collapse of thailand (สู่จุดจบ)
The coming collapse of thailand (สู่จุดจบ)sornblog2u
 
หลักการและวิธีการใช้สะเดา ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช
หลักการและวิธีการใช้สะเดา ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืชหลักการและวิธีการใช้สะเดา ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช
หลักการและวิธีการใช้สะเดา ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืชsornblog2u
 
คู่มือพึ่งตนเอง (Self-Sufficient Book)
คู่มือพึ่งตนเอง (Self-Sufficient Book)คู่มือพึ่งตนเอง (Self-Sufficient Book)
คู่มือพึ่งตนเอง (Self-Sufficient Book)sornblog2u
 
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน2
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน2คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน2
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน2sornblog2u
 
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน1
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน1คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน1
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน1sornblog2u
 
Money101 giftversion
Money101 giftversionMoney101 giftversion
Money101 giftversionsornblog2u
 
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม11
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม11มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม11
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม11sornblog2u
 
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม10
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม10มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม10
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม10sornblog2u
 
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม8
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม8มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม8
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม8sornblog2u
 
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม9
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม9มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม9
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม9sornblog2u
 
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม7
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม7มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม7
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม7sornblog2u
 

Mehr von sornblog2u (20)

4. Passive Cooling
4. Passive Cooling4. Passive Cooling
4. Passive Cooling
 
3. Charcoal : Small Scale Production and Use
3. Charcoal : Small Scale Production and Use3. Charcoal : Small Scale Production and Use
3. Charcoal : Small Scale Production and Use
 
2. Heat and Electricity from Solar Energy
2. Heat and Electricity from Solar Energy2. Heat and Electricity from Solar Energy
2. Heat and Electricity from Solar Energy
 
1. Gas Producer Engine System from Biomass
1. Gas Producer Engine System from Biomass1. Gas Producer Engine System from Biomass
1. Gas Producer Engine System from Biomass
 
6. Biogas : Design and Construction Small Digester
6. Biogas : Design and Construction Small Digester6. Biogas : Design and Construction Small Digester
6. Biogas : Design and Construction Small Digester
 
เอกสารประกอบการอบรมติดตั้งจานดาวเทียม (Sat2u 2556)
เอกสารประกอบการอบรมติดตั้งจานดาวเทียม (Sat2u 2556)เอกสารประกอบการอบรมติดตั้งจานดาวเทียม (Sat2u 2556)
เอกสารประกอบการอบรมติดตั้งจานดาวเทียม (Sat2u 2556)
 
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง
 
คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น
คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น
คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น
 
The coming collapse of thailand (สู่จุดจบ)
The coming collapse of thailand (สู่จุดจบ)The coming collapse of thailand (สู่จุดจบ)
The coming collapse of thailand (สู่จุดจบ)
 
หลักการและวิธีการใช้สะเดา ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช
หลักการและวิธีการใช้สะเดา ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืชหลักการและวิธีการใช้สะเดา ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช
หลักการและวิธีการใช้สะเดา ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช
 
คู่มือพึ่งตนเอง (Self-Sufficient Book)
คู่มือพึ่งตนเอง (Self-Sufficient Book)คู่มือพึ่งตนเอง (Self-Sufficient Book)
คู่มือพึ่งตนเอง (Self-Sufficient Book)
 
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน2
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน2คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน2
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน2
 
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน1
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน1คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน1
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน1
 
Money101 giftversion
Money101 giftversionMoney101 giftversion
Money101 giftversion
 
New species
New speciesNew species
New species
 
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม11
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม11มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม11
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม11
 
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม10
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม10มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม10
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม10
 
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม8
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม8มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม8
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม8
 
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม9
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม9มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม9
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม9
 
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม7
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม7มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม7
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม7
 

Samkok02 (051-100)

  • 1. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 1 สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม เมื่อเสือไดลิ้มรสเลือด (ตอนที่ 51) ลิโปยกทหารออกจากเมืองหลวงมารบดวยลิฉุย กุยกี ตองกลยุทธวิธีแหงสงครามจรยุทธ หลอกลอใหรบ พัวพันอยูถึงสามวันสามคืน จึงทั้งออนลาเรี่ยวแรงลง ทั้งคิดถึงยอดหวานใจเตียวเสี้ยน ซึ่งกําลังอยูในชวงขาว ใหมปลามัน จิตใจสูรบจึงไมกลาแกรงเหมือนกับเมื่อครั้งรบดวยกองทัพปฏิวัติ ครั้นไดขาววากองทัพของเตียวเจ และหวนเตียว ยกเขาตีเมือง หลวงจึงคิดหวงใยการขางในพระนคร ซึ่งกลอง ดวงใจเตียวเสี้ยนอยูในที่นั้นดวย และเกรงวาเมืองหลวงจะไดรับอันตรายเพราะรูดีวาระบบและกําลังปองกันพระ นครไมไดเขมแข็งมั่นคง ดังนั้นลิโปจึงตัดสินใจตีฝาทหารของกุยกีที่ปดลอมอยูดานเชิงเขาเพื่อจะกลับไปชวย เมืองหลวง ทหารของลิฉุย กุยกี ไลตามตีลิโปอยางไมลดละ ครั้นลิโปจะหันเขามารบครั้งใดก็ถอยเสีย แตพอลิ โปหันกลับรุดไปเมืองเตียงอัน ทั้งลิฉุย กุยกี ก็ยกทหารเขาตามตีอีก ลิโปรบพลางถอยพลางอยูตลอดทาง ตองสูญเสียทหารไปเปนจํานวนมาก ครั้นมาใกลกําแพงพระนคร ทหารของลิโปเห็นทหารของเตียวเจและหวนเตียวเปนจํานวนมากลอมเมืองหลวง และกําลังโจมตีกําแพงพระนครก็เกิดความรักตัวกลัวตาย จึงพากันไปเขาสวามิภักดิ์กับทหารของเตียวเจและ หวนเตียวเปนจํานวนมาก ลิโปเห็นเชนนั้นก็หมดกําลังใจตอสูอาการที่ลูกนองทิ้งนายแบบลิโปนี้ ดานหนึ่ง เปนไปไดวาทหารของลิโปเหลานั้นเปนคนใชไมได ทอดทิ้งนายในยามยาก แตในอีกดานหนึ่งก็เปนไปไดดวย วาเกิดแตเหตุที่ลิโปเปนนายแตตําแหนงหนาที่ ไมมีน้ําใจตอลูกนอง ดวยคนนั้นมีใจ ครั้นใจไมมีน้ําใจหลอเลี้ยง ผูกพันไวตอกันแลว ยามใดมีโอกาสหรือยามใดเปนยามยาก ความสัมพันธของคนที่อาศัยแตเพียงตําแหนง และหนาที่จึงยอมขาดสะบั้นลงโดยงาย ลิโปเหลือทหารที่ยังคงจงรักภักดีเพียงไมกี่คนจึงเห็นเหลือกําลังที่จะทําการสูรบขับไลกองทัพที่ลอมพระนคร อยูนั้น จึงไดแตพาทหารที่เหลืออยูรวนเรโดยรอบพระนครอยูถึงสองสามวัน คิดไมตกวา จะแกไขสถานการณ ประการใด การณขางในพระนครนั้น ทหารรักษาพระนครยังคงตอสูปองกันเมืองหลวงเปนสามารถ ยิงเกาทัณฑ ทิ้งกอนศิลา และทรายคั่วจากเชิงเทินกําแพง เมืองใสทหารที่ลอมพระนครบาดเจ็บลมตายลงเปนจํานวนมาก ขณะนั้นลูกนองเกาของตั๋งโตะสองคนคือลิบองและอองหอง ซึ่งเอาตัวรอดจากการตามลางบางพรรคพวกตั๋ง โตะของอองอุน โดยอาศัยวิชาจิ้งจกเปลี่ยนสี ทําทีเขาเปนพวกของอองอุน จึงยังคงรักษาตําแหนงขุนนางใน เมืองหลวงเอาไวได ครั้นไดทราบขาวสี่ทหาร เอกของตั๋งโตะเจานายเกายกกองทัพมาโจมตีเมืองหลวงก็มี ความยินดียิ่งนัก เห็นโอกาสที่พวกตัวจะเปนใหญอีกครั้งหนึ่ง ทั้งเห็นเปนโอกาส ที่จะแกแคนเอากับอองอุน ดังนั้นจึงระดมลูกนองเกาของตั๋งโตะที่เคย กินอยูไดเสียในทางผลประโยชนกันมาแตกอนแลวกอการเปนไสศึก ขึ้นในเมือง ครั้นเห็นเปนทีที่ภายในเมืองหลวงกําลังชุลมุนสูรบกับกองทัพของสี่ทหารเอกอยูบนเชิงเทินพระนคร จึงพา พรรคพวกไลฆาฟนทหารฝายเมืองหลวงที่รักษาประตูเมืองอยูนั้น แลวเปดประตูเมืองทั้งสี่ดาน กองทัพของลิ ฉุย กุยกี เตียวเจ และหวนเตียว จึงกรูกันเขาพระนคร ฆาฟนทหารที่รักษาเชิงเทินบาดเจ็บลมตายเปน อันมาก ทหารฝายเมืองหลวงที่เหลืออยูก็ยอมเขาสวามิภักดิ์แตโดยดี ลิโปเห็นเมืองหลวงแตกก็ตกใจ รีบตีฝาทหารของลิฉุย กุยกี เขา ไปในพระราชวัง ไปพบอองอุนที่ตึก บัญชาการแลววา บัดนี้เมืองหลวง ตกอยูในมือขาศึกแลว ใหรีบขึ้นมาตีฝาออกไปดวยกัน อองอุนบัดนี้เห็นทีคับ ขัน ครั้นจะหนีก็คงหนีไมรอดเพราะชราภาพ ทั้งไมตองการใหถูกตราหนาในภายหลังวาทอดทิ้งฮองเตใน ยาม วิกฤติจึงตัดสินใจรักษาชื่อเสียงเกียรติคุณแลววากับลิโปวา "เราจะหนีเอาตัวรอดนั้นไมควร ถึงจะตายก็เอา ความชอบไวภายหนา ทานจะไปก็ไปเถิด แตชวยเอาเนื้อความทั้งนี้ไปแจงแกหัวเมืองทั้งปวงวา เราคํานับไป ดวย บัดนี้เกิดเหตุขึ้นในเมืองหลวงใหหัวเมืองทั้งปวงตั้งใจทํานุบํารุงแผนดิน ยกกองทัพเขามาชวยกําจัดศัตรู ราชสมบัติเสีย" อองอุนในยามเขาตาจนจึงเพิ่งคิดถึงการทํานุบํารุงแผนดิน เพิ่งคิดขอใหหัวเมืองตางๆ ยกทัพ เขามากําจัดศัตรูแผนดิน ซึ่งถาหากไม ตั้งอยูในความประมาทคิดถึงเรื่องนี้และทําในเรื่องนี้เสียกอนก็จะไมตก อยูในสภาพอับจนเยี่ยงนี้ ถึงกระนั้นก็ยังคงคิดไวลายเสือเฒาใหลิโปชวยบอกกลาวบรรดาหัวเมืองตางๆ ถึง เกียรติคุณของตนที่ยอม ตายอยูกับฮองเตเพื่อจะไดมีชื่อเสียงปรากฏไวในประวัติศาสตร All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ลิโปฟงคําอองอุนแลวยังพยายามชักชวนใหรีบหนีอีกหลายหน แตอองอุนก็ยืนหยัดเจตนาเดิม พอดีขณะนั้น ทหารของลิฉุย กุยกี เตียวเจ และหวนเตียว ยกตามมาและเขาลอมพระราชวังไวทั้งสี่ดาน แตไมกลาบุกรุกผาน
  • 2. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 2 ประตูพระราชวังเขาไป เพราะสี่ทหารเอกและทหารเหลานั้นเดิมทีลวนเปนทหารอาชีพ เคารพตอกฎมณเฑียร บาล จึงยังคงเกรงพระบรมเดชานุภาพของฮองเต ตางคนตางก็อออยูแตภายนอกกําแพงพระราชวัง ลิโปเห็นสถานการณคับขัน ทั้งเพลิงก็ลุกไหมขึ้นภายนอกพระราชวังหลายแหง ครั้นจะเขาไปรับเอาเตียวเสี้ยน และครอบครัวออกมาก็ไมทันการ จึงรีบตีฝาออกจากประตูพระราชวังพา ทหารรอยเศษตีฝาหนีออกจากเมือง หลวงตรงไปหาอวนสุด ณ เมืองลําหยง อองอุนครั้นลิโปไปแลวจึงเดินทางเขาไปเฝาพระเจาเหี้ยนเตถึงพระ ตําหนักที่ประทับ กราบบังคมทูลรายงานสถานการณใหทรงทราบ วาบัดนี้สี่ทหารเอกของตั๋งโตะยึดไดเมือง หลวงแลว และยกทหารมาลอมพระราชวังไวทั้งสี่ดาน ดังนั้นจึงขอกราบบังคมทูลอัญเชิญเสด็จออกพระบัญชร สันติภาพ บนชั้นสองของพระที่นั่งเพื่อระงับการจลาจลตอไป พระเจาเหี้ยนเตจึงเสด็จออกพระบัญชรสันติภาพ ประทับบนระเบียงชั้นสองของพระตําหนักพรอมดวยขันที อาลักษณ และอองอุน แลวโปรดใหลิฉุย กุยกี เตียวเจ และหวนเตียว เขาเฝา ณ พื้นเบื้องลางของพระบัญชร นั้น สี่ทหารเอกรับทราบพระราชกระแสแลวก็พากันมาเฝาอยูขางลาง กราบถวายบังคมแลว พระเจาเหี้ยนเตจึง รับสั่งถามวาพวกเจายกทหารมาลอมพระราชวังนี้มีประสงคสิ่งใด สี่ทหารเอกกราบบังคมทูลวาที่กระทําการดังนี้ จะคิดเปนกบฏตอ แผนดินนั้นหามิได เนื่องจากเบื้องกอนนี้ตั๋งโตะเปนผูสําเร็จราชการแผนดิน และอัครมหา เสนาบดี ไดทํานุบํารุงบานเมืองและราษฎรใหเปนสุข แตอองอุนคบคิดกับลิโปสังหารตั๋งโตะเสีย แลวยึด อํานาจไวเสียเองโดยไมชอบดวยกฎหมาย พวกขาพระพุทธเจาปรารถนาจะสรางความ ถูกตองขึ้นในบานเมือง ธํารงบทกฎหมายใหศักดิ์สิทธิ์ เปนหลักและขื่อแปของบานเมืองเพื่อใหเกิดความสงบสุขสืบไป ดังนั้น จึงขอพระราชทานเอาตัวอองอุนมาประหารเสียในฐานะเปนกบฏตอแผนดิน เสร็จการแลว ขาพระพุทธเจาทั้งปวงก็จะ กลับคืนสูที่ตั้งตามเดิม อองอุนไดยินดังนั้นจึงกราบบังคมทูลวาขาพระพุทธเจาเปน ขุนนางรับราชการในพระราชวงศฮั่นดวยความสัตยสุจริตติดตอกันถึง สี่แผนดิน เห็นตั๋งโตะเปนทรราชคิดแยง ชิงราชสมบัติ เบียดเบียนบาน เมืองและราษฎร ขาพระพุทธเจาจึงคิดกําจัดภัยแผนดินเสีย บัดนี้มีความวุนวาย ขึ้นในพระราชวังอันเนื่องมาแตความตองการตัวขาพระพุทธเจา ดังนั้นขาพระพุทธเจาจึงพรอมพลีชีวิตถวาย เปนราชพลี เพื่อใหเหตุการณวุนวายไดสงบลง และขอกราบถวายบังคมลา ณ บัดนี้ วาแลวอองอุนก็กระโดดลงจากระเบียงชั้นสองลงมาที่พื้นขางหนาสี่ทหารเอก ดวยความชราภาพและความสูง จึงทําใหอองอุนแขน ขาหักทรุดอยูกับที่ แตปากนั้นยังกลาอยูและรองขึ้นวา "ไอศัตรูราชสมบัติ กูอยูที่นี่แลว" สี่ทหารเอกอยากรูความถึงเหตุผลและผูคนที่เกี่ยวของในการสังหารตั๋งโตะ จึงถามอองอุนวาตั๋งโตะมีผิดสิ่งใด จึงคบคิดกับลิโปฆาเสีย และมีใครรวมเกี่ยวของดวยบาง อองอุนจึงวาฆาเสียเพราะตั๋งโตะเปนศัตรูราชสมบัติ เปนทรราช ขมเหงและทํารายขุนนางแลราษฎร พวกเจาก็รูอยูแกใจ หามีใครรวมมือดวยกูไม สี่ทหารเอกจึงวา ตอไปวา ครั้นเราทั้งสี่คนมีหนังสือมาสวามิภักดิ์ขอทําราชการดวย เหตุใดตัวจึงจองอาฆาตพยาบาทคิดสังหาร พวกเราสี่คนเลา อองอุนจึงวาเพราะพวกเจาเปนพวกทรราช ขณะนั้นอองอุนบาดเจ็บไดความทรมานนัก จึงยั่วสี่ ทหารเอกวาพวกมึงเปนกบฏ กูอยูในเงื้อมมือพวกมึงแลว จะฆาก็เรงฆาเสียเถิด สี่ทหารเอกไดฟงก็โกรธ ทั้ง เห็นจะซักไซไลเลียงใหอองอุนเปด ปากวามีใครเปนพวกคบคิดสังหารตั๋งโตะไมเปนผลแลว จึงเอาดาบฟน อองอุนถึงแกความตาย แลวสั่งใหทหารไปจับเอาบุตร ภรรยา และญาติพี่นองอองอุนฆาเสียทั้งสิ้น หลังจากอองอุนกระโดดลงไปใหสี่ทหารเอกฆาแลว พระเจาเหี้ยนเตสลดพระทัยอาลัยนักจึงเสด็จเขา สี่ทหาร เอกกราบถวายบังคมลาแลวพากันไปปรึกษาที่ตึกบัญชาการกองกําลังรักษาพระนคร แตคงใหทหารลอม พระราชวังไวอางวาเปนการถวายการอารักขาฮองเต สี่ทหารเอกเมื่อมาถึงกองบัญชาการกองกําลังรักษาพระ นครแลว ก็ใหทหารของตัวเขาประจําการ เปนทหารสังกัดกองกําลังรักษาพระนคร ทหารหนวยตางๆ ในพระ นครที่เขาสวามิภักดิ์เปนจํานวนมากก็ใหทําหนาที่ในหนวยสังกัดเดิม สี่ทหารเอกนั้นแรกเริ่มคิดอานกันแตเพียง เพื่อเสี่ยงตายตอสูเอา ตัวรอดแลวกาวมาถึงขั้นคิดสังหารอองอุนเพื่อแกแคน ครั้นยึดพระนครไดแลวก็เริ่ม สัมผัสวาสถานการณทั้งปวงไดตกอยูภายใตอํานาจการควบคุมของกองกําลังรักษาพระนคร ซึ่งพวกตนเปน คณะผูบัญชาการแลวโดยไมไดคิดฝน มารูตัวอีกทีหนึ่งก็กลายเปนคณะรัฐประหารที่ยึดอํานาจรัฐจากอองอุนมา ไวในกํามือเสียแลว คนหนึ่งประมาทจนอํานาจรัฐหลุดจากมือแลวถูกสังหารอยางทารุณ แตอีกสี่คนเพียงแคเสี่ยงเอาตัวรอดกลับ บังเอิญไดอํานาจรัฐมาครอง ดูประหนึ่งวาฟานั้นไรกฎเกณฑ แตความจริงนี่คือกฎเกณฑ ของฟา เนื่องเพราะ กฎเกณฑของฟานั้นไมขึ้นตอการคํานวณทางคณิตศาสตร ไมขึ้นตอกฎเกณฑของตรรกะ และไมขึ้นตอ เจตจํานงของผูคน แตใครเลาจักเขาถึงกฎเกณฑของฟาได All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 3. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 3 เมื่อรูตัววาไดครองอํานาจรัฐอยูในมือฉะนี้แลว ลิฉุย กุยกี จึงคิดกาวตอไปถึงขนาดคิดลมราชวงศฮั่น สังหาร ฮองเต ตั้งระบอบการ ปกครองโดยสภารัฐประหาร แตเตียวเจ และหวนเตียว คัดคานวาแผนดินมีธรรมเนียมการ ปกครองในระบอบกษัตริย ราชวงศฮั่นไดสถาปนามารวม 400 ปแลว หัวเมืองจํานวนมากยังคงจงรักภักดีตอ ราชวงศฮั่น เจาเมืองจํานวนมากก็เปนพวก "แซเลา" เชื้อสายของพระเจาฮั่นโกโจเลาปง ทั้งราษฎรก็เคยชินใน ระบอบกษัตริย หากลมฮองเตเสียแลวบรรดาหัวเมืองก็จะยกกองทัพเขามา ราษฎรก็จะกอการจลาจล พวกเราก็ จะคุมสถานการณไวไมได ดีรายอํานาจวาสนา ที่มีอยูในวันนี้ก็จะสูญสิ้นไป กระไรเลยควรคงราชวงศฮั่นและ พระเจาเหี้ยนเตไวดังเดิม แลวพวกเราครองอํานาจรัฐแบบตั๋งโตะ บานเมืองก็จะเปนปกติสุขสืบไป ที่ประชุมสภารัฐประหารเห็นชอบดวยกับความคิดของเตียวเจ และหวนเตียว และตกลงกันตอไปวาตองรีบ สลายตัวสภารัฐประหาร แลวกราบบังคมทูลใหพระเจาเหี้ยนเตโปรดเกลาฯ ใหดํารงตําแหนง ขุนนางตาม ระบอบการปกครองปกติ เพื่อสลายคราบเผด็จการออกไปแลวใชเสื้อคลุมของฮองเตคุมตัวใหไดครองอํานาจ เผด็จการไดโดย ชอบดวยกฎหมาย จากนั้นแลวจึงคอยคิดอานกําจัดศัตรูทางการเมือง อยางเปนขั้นตอน วาง ฐานอํานาจภายใตฮองเตใหมั่นคงยั่งยืน เมื่อปรึกษาพรอมกันแลวจึงพากันไปขอเขาเฝาพระเจาเหี้ยนเต พระ เจาเหี้ยนเตเสด็จขึ้นใหสี่ทหารเอกเขาเฝา แลวรับสั่งถามวาเดิมทีพวกเจายกกองทัพมาอางวาตองการตัว อองอุน บัดนี้อองอุนก็ตายแลว เหตุใดจึงยังไมยกทัพกลับไปอีกเลา สี่ทหารเอกบัดนี้ประดุจดั่งเสือรายที่เพิ่งได สัมผัสรสเลือดจึงยอมเปนวิสัยเสือที่ไหนเลยจะละวางเสียแตเพียงเทานี้ มีแตจะกระทําการตามอําเภอใจของ สัตวเดรัจฉานตอไปเทานั้น สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม เปดตัวตนตํารับลวงโลก (ตอนที่ 52) สี่ทหารเอกฟงรับสั่งของพระเจาเหี้ยนเตแลวกราบบังคมทูลวา พวกขาพระพุทธเจาทําราชการมีความชอบมา แตกอน แตหามีผูใด กราบบังคมทูลเสนอความชอบใหไม บัดนี้พวกขาพระพุทธเจาประสงคจะเปนขุนนางรับ ราชการในเมืองหลวง จึงขอรับพระราชทานพระกรุณา พระเจาเหี้ยนเตฟงคํากราบบังคมทูลก็รูความนัย จึง รับสั่งถามตอไปวา พวกเจาตองการตําแหนงใดขอใหวามา สี่ทหารเอกฟงรับสั่งแลวคิดไมทันวาจะทูลขอรับ พระราชทานตําแหนงใดเพราะไมได เตรียมตัวมากอน ทั้งไมรูสายสนกลในในการบริหารราชการแผนดิน จึงไม สามารถกราบทูลตอไปได ตางคนตางอ้ําอึ้งอยูพักหนึ่งแลวลิฉุย กุยกี จึงกราบทูลวาขาพระพุทธเจาขอเวลา กลับไปปรึกษากันกอนแลว กราบถวายบังคมลา ลาภวาสนาอันไดมาโดยบังเอิญ และบังเอิญเสียจนไมรูวาจะเอา อยางไรกันดี คลายๆ กับยาจกตกเขาไปใน แหลงมหาสมบัติ ไมรูจะหยิบฉวยเอาสิ่งใด ไดแตหูพราตาลาย ไมตางกระไรกับคณะรัฐประหารบางคณะที่ยึด อํานาจแลวไมมีสติปญญาคิดอานวาจะทําการอยางใดสืบไป จนในที่สุดกลับยกเอาอํานาจนั้นใหคนอื่นเสียดื้อๆ แตลิฉุย กุยกี เตียวเจ และหวนเตียวนั้น แมจะเปนทหารบานนอก แตยังคงความเฉลียวฉลาดกวาคณะ รัฐประหารบางคณะ จึงขอเวลาตั้งหลักคิดอานกันใหม ครั้นกราบถวายบังคมลากลับมายังกองบัญชาการกองกําลังรักษาพระนครแลว จึงปรึกษากันวาจะขอรับ พระราชทานตําแหนงใด แตในที่สุดก็ไมรูวาจะขอรับพระราชทานตําแหนงใดจึงจะครองอํานาจ รัฐไวได ตามปกติ ดังนั้นจึงใหไปเชิญเจากรมกําลังพลและนักวิชาการ มาปรึกษาวาตําแหนงใดที่ครองแลวจะมีผลเปน การครองอํานาจรัฐไดสืบไป เมื่อปรึกษาตกลงกันแลว จึงทําเปนหนังสือกราบบังคมทูลขอ รับพระราชทาน ตําแหนงใหลิฉุยเปนผูสําเร็จราชการแผนดิน เปนผูบัญชาการกองทัพภาคกลาง และเปนผูบัญชาการกองกําลัง รักษาพระนคร กุยกีเปนผูบัญชาการทหารสวนหลัง และขุนนางผูใหญมี ตําแหนงเฝา เตียวเจเปนผูบัญชาการ ทหารฝายซาย และหวนเตียว เปนผูบัญชาการทหารฝายขวา พระเจาเหี้ยนเตทอดพระเนตรหนังสือกราบบังคมทูลแลว ทรงโปรดเกลาฯ แตงตั้งใหสี่ทหารเอกดํารงตําแหนง ตามที่เสนอ นี่คือพระบรมราโชบายที่สอดคลองกับวิถีแหงฟา เปนไปตามหลักพิชัยสงครามที่ไมแตกหักเมื่อยัง แตกหักไมได เปนไปตามหลักสุดยอดกลยุทธหนึ่งในสามสิบหกประการ คือ "หนี" เมื่อยังเอาชนะไมไดนั่นเอง นับวาพระเจาเหี้ยนเตซึ่งเปนพระมหากษัตริย เมื่อสองพันปกอนทรงมีพระสติปญญายิ่งกวาพระมหากษัตริย พมาที่แข็งกราวแตกหักกับอังกฤษ ทั้งๆ ที่ไมมีน้ํายาที่จะตอกรดวยกองทัพของอังกฤษ เปนเหตุใหพมาตองตก เปนเมืองขึ้นอังกฤษในที่สุด All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 4. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 4 ครั้นไดรับพระมหากรุณาโปรดเกลาฯ ใหไดรับตําแหนงตามที่ทูล ขอแลว ลิฉุย กุยกี จึงถอนทหารที่ลอม พระราชวังยกออกมาตั้งที่กองบัญชาการกองกําลังรักษาพระนคร และใหเตียวเจ หวนเตียว คุม ทหารยกไป รักษาเมืองฮองหลง ซึ่งเปนเมืองหนาดานและเปนเมืองยุทธศาสตรสําคัญในการปองกันขาศึก เมื่อไดอํานาจรัฐแลวก็ลงมือเลนพรรคเลนพวกตามวิสัยของนักการเมือง เหตุนี้ลิฉุย กุยกี จึงแตงตั้งใหลิบอง และอองหอง ลูกนองเกาของตั๋งโตะที่เปนพวกเดียวกันและเปนไสศึกเปดประตูเมือง รับกองทัพสี่ทหารเอกให เปนที่ขุนนาง สวนทหารที่มาดวยกันในกองทัพที่เปนตัวนายก็แตงตั้งเปนขุนนาง ระดับรอง ๆ ลงมาก็เลื่อน ยศ ตําแหนงใหทั่วถึงกัน นับวาลิฉุย กุยกี เปนนักการเมืองที่เอาพรรคเอาพวก เพียงขอใหเปนพวกเทานั้นยอม บําเหน็จรางวัลและผลประโยชนให ดังนั้นจึงมีนักวิชาการ บัณฑิต สื่อมวลชน และขุนนางขาราชการอื่น ๆ เขา มาเปนพวกดวยจํานวนมาก ครั้นใครมาเปนพวกแลวก็ใชอํานาจของตัวเขาปกปองประดุจแมไกที่ คอยกางปกปกปองลูกไกฉะนั้น เพราะ เหตุนี้พรรคพวกของลิฉุย กุยกีจึงมีจิตคิดกําเริบกลาทําชั่วชาไดทุกอยางทุกประการ โดยไมหวาดหวั่นยําเกรง กฎหมายบานเมือง เพราะถือดีวามีอํานาจรัฐปกปองคุมครองอยูทุกกรณี ไมวาจะผิดชั่วชาขนาดไหน ประการใด หลังจากใชอํานาจรัฐเกื้อกูลพวกพองแลวก็เผื่อแผถึงคนตายที่เปนนายเกาของตัว ลิฉุย กุยกี จึงสั่งใหตั้ง คณะกรรมการฟนฟูเกียรติยศของตั๋งโตะขึ้นคณะหนึ่ง ใหทําการคนหาซากศพของตั๋งโตะเพื่อทําพิธีศพใหมให สมเกียรติยศ แลวจะไดนําไปฝงตามธรรมเนียมตอไป คณะกรรมการชุดนี้คนหาไดแตเศษเนื้อและกระดูกของตั๋งโตะที่ถูกฝงอยูนอกพระนคร ดังนั้น จึงใหทําพิธีใหญ เอาเศษเนื้อ และกระดูกใสโลงอยางดีสําหรับศพพระบรมราชวงศ แลวใหเอาไมจันทนหอมแกะเปนรูปตั๋งโตะมี ขนาดเทาคนจริงเอามาตั้งในพิธีแลวเซนไหวอยางธรรมเนียม ลิฉุย กุยกี ตองการใหผูคนเห็นวาตั๋งโตะนั้นเปน รัฐบุรุษ มีคน เคารพรักอาลัยเปนอันมาก จึงเกณฑคนมารวมพิธีเซนไหวศพเปน เวลาสิบวันสิบคืน มีคนที่ถูก เกณฑมาเซนไหวศพในครั้งนี้ถึงสองลาน คน หากใครรองไหแบบสุดโศกเศราอาดูรก็จะมอบรางวัลให ดังนั้น จึงมีผูคนมารองไหตอหนาพิธีศพเปนจํานวนมากตลอด ระยะเวลาสิบวัน อาการรองไหนั้นสุดแสนจะโศกเศรา อาลัยรักเปนหนักหนา ยิ่งเสียกวาเปนศพบิดามารดาของตัวเสียอีก และกลายเปนธรรมเนียมรองไหหนาศพ ตอมาอีกนับพันป นี่แหละอานุภาพแหงอํานาจเงินตรา ซึ่งอยาวาแตชั้นรองไหเพียงเทานี้เลย ตอใหเปนชาติ ศาสนา พระมหากษัตริยก็อาจถูกคน ขายตัวขายไดอยางไมอาลัยไยดี เหลาขุนนางขาราชการเห็นบานเมืองเขาสูยุค "ตาหลิ่วก็หลิ่วตาตาม" จํานวนมากที่เคยรวมอยูในเหตุการณสังหารตั๋งโตะ หรือเคยรวมสาปแชงศพตั๋งโตะก็พา กันมาเซนไหวศพตั๋งโตะกันเปนการใหญ พระเจาเหี้ยนเตแมยังทรงพระเยาว แตทรงทราบสถานการณดี วาควร ตองวางพระองคอยางไร ดังนั้นจึงทรงพระราชทานของเซนไหว ศพตั๋งโตะอยางธรรมเนียมเชื้อพระวงศชั้น ผูใหญ ลิฉุย กุยกี เห็นเชนนี้ก็ดีใจยิ่งนัก ภาพที่สรางขึ้นเพื่อลวงโลกกลับมาหลอกตัวเองใหหลงไปวาตั๋งโตะ นั้นมีผูคนเคารพรักนับถือศรัทธาเปนจํานวนมาก ดังนั้นจึงตองประพฤติปฏิบัติตามแบบอยาง ของตั๋งโตะ และ นํานโยบายตางๆ ของตั๋งโตะมาใชในการบริหารราชการแผนดินตอไป การบิดเบือนขอเท็จจริงเพื่อหลอกลวงชาวบานเชนนี้ถือเปนตนฉบับของการลวงโลก และเปนแบบอยางให นักการเมืองในยุคสองพันปตอมานําไปใช โดยไมคํานึงวาสิ่งที่บิดเบือนหลอกลวงนั้นจะสราง ความรูสึกที่เจ็บ แคนชิงชังแกอาณาประชาราษฎรอยางไร ในขณะที่น้ําทวมบานเรือนและทรัพยสินราษฎร และกระแสน้ํา พัด พาผูคนลมตายหายไปเปนจํานวนมาก แทนที่จะยอมรับวาเกิดอุทกภัย และบอกวามีแผนการแกไขอยางไร กลับบิดเบือนหลอกลวง เสียวานี่คือผลงานของรัฐบาลในการปองกันแกไขปญหาภัยแลงอยางไดผล ในบางป ภัยแลงคุกคาม ฝนฟาไมตก อากาศรอนและแลงจัด ดินแตกระแหง สัตวไมมีน้ํากิน พืชผลของเกษตรกร เสียหายทั่วประเทศ แทนที่จะยอมรับวาเกิดภัยแลงและบอกวามีแผนการแกไขอยางไร กลับบิดเบือน หลอกลวงวานี่คือผลงานของรัฐบาลในการแกไข ปญหาน้ําทวมอยางไดผล ครั้นสรางหนี้สินจนบานเมืองมี หนี้สินลนพนตัว ถึงขนาดที่ชาว นาทั้งประเทศตองขายขาวทั้งหมดที่ผลิตไดโดยไมตองเหลือไวกินก็ตองใช เวลาถึง สองรอยหาสิบปจึงจะชดใชหนี้ไดหมด แทนที่จะยอมรับความจริงแลวแกไขความผิดพลาดกลับหลอกลวง บิดเบือนดวยการออกคํานิยามวา "หนี้สาธารณะ" เสียใหม ตัดเอายอดหนี้จํานวนมากออกไปแลวบอกวาหนี้ สาธารณะมีจํานวนนอยนิดเทานั้น หลังจากออกมาตรการบีบบังคับธนาคารและสถาบันการเงินเพื่อ จะยึดมา เปนของรัฐแลวขายใหกับตางชาติซึ่งผิดพลาดมหันต สงผล ใหหนี้เนาเกิดขึ้นทวมทั้งระบบ แทนที่จะยอมรับ ความผิดพลาดกลับเอาหนี้เนาออกจากระบบไปกองไวหลังบาน คือไปใสไวในองคกร อีกองคกรหนึ่งแลว หลอกลวงบิดเบือนวาแกไขปญหาหนี้เนาไดสําเร็จแลว All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 5. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 5 การหลอกลวงบิดเบือนถึงขนาดที่แมวาราษฎรไมมีเงินในกระเปา ไมมีจะกินและยากไร ซึ่งทุกผูคนสัมผัสความ จริงอยูกับตัว แตยังกลาหลอกลวงวาสามารถแกไขปญหาเศรษฐกิจถูกตอง ถูกทาง แลว ทุกคนมีรายไดมาก ขึ้นแลว มีเงินในกระเปาเพิ่มขึ้นแลว รายไดประชาชาติเพิ่มขึ้นแลว การโกหกหลอกลวงบิดเบือนของ นักการเมืองในยุคหลังดังกลาว นี้ นับไดวาไดพัฒนาวิชาลวงโลกของลิฉุย กุยกี จนกาวหนายิ่งกวาตนฉบับเดิม มากมายนัก ดังนั้นนักการเมืองลวงโลกเชนนี้จึงยอมถือไดวาเปนพวกลูกศิษย หลานศิษยของลิฉุย กุยกี ลูกนองผูซื่อสัตยของจอมทรราชตั๋งโตะ และตองนับวาเปนลูกศิษย หลานศิษยที่ยอด เยี่ยมยิ่งกวาคนรุน ปรมาจารยเทียบกันไมติด ครั้นเสร็จพิธีเซนไหวตามธรรมเนียมแลว จึงใหเชิญศพตั๋งโตะไปทําพิธีฝง ณ สุสานวีรชน แตครั้นจะทําพิธีฝง พระแมธรณีกลับลงทัณฑ สวรรคกลับสาปสงบันดาลใหเกิดพายุพัดแรงกลา ฝน ตกหนักหาใหญ น้ําทวม แผนดินถึงสองศอก เกิดอสุนีบาตผาถูกโลงศพตั๋งโตะแตกกระจัดกระจาย เศษเนื้อและกระดูกกระจายไปสิ้น ลิ ฉุย กุยกี รออยูในพิธีฝงศพตั๋งโตะจนกระทั่งพายุสงบ ฝนสราง ฟากระจางแลว จึงใหทหารไปเก็บรวบรวมเศษ เนื้อ เศษกระดูกมาผสมกันแลวใสไวในโลงใหม กวาจะเสร็จก็ลวงยามเที่ยงคืน ครั้นจะเอาโลงศพนั้นลงฝงอีกก็ เกิดพายุจัด ฝนตก แลวฟาผาลงที่โลงนั้นซ้ําอีก โลงแตกกระจาย เศษเนื้อและกระดูกที่ปนเปนรูปตั๋งโตะก็แตก กระจายแหลกละเอียดสิ้น ลิฉุย กุยกี ยังไมละความพยายาม พอฝนสรางก็สั่งใหเก็บรวมรวมเศษเนื้อและกระดูก ของตั๋งโตะมาผสมเขากันอีกครั้งหนึ่ง แลวนํา ไปใสโลงใบใหมเพื่อเตรียมฝงจนถึงเวลาใกลจะสวาง แตครั้นจะ ฝงอีก ครั้งหนึ่งก็เกิดเหตุการณเชนเดิมคือเกิดลมพายุพัดจัด ฝนกระหน่ําจนน้ําทวมพื้นดินและเกิดฟาผาถูกโลง ที่ใสเศษเนื้อและกระดูกของตั๋งโตะนั้นแหลกละเอียดกระจายจนไมเปนชิ้นดี ไมสามารถจัดเก็บรวบรวมมาฝงได อีกตอไป ตั๋งโตะตายไปแลว ในตอนที่เปนศพก็ถูกทหารเอาไสตะเกียงเจาะใสทองจุดเปนตะเกียงจนซากศพถูกเผาไหม ดวยไฟแหงน้ํามือคน ครั้นเก็บเศษเนื้อและกระดูกมาทําพิธีฝงกลับถูกไฟแหงสวรรคบันดาลทําลายจนไม สามารถฝงไดตามธรรมเนียม นี่หาใชเนื่อง จากเหตุอื่นใดไม หากเนื่องเพราะผลกรรมที่ทําชั่วชาไวกับแผนดิน และราษฎรจนแมแตฟาก็ไมอาจใหอยูใต แมพระธรณีก็ไมอาจใหอยูบน แตกระนั้นพฤติกรรมลวงโลกของลิฉุย กุยกี ที่กระทําใหกับตั๋งโตะนั้นก็ยังพอนับวาเปนลูกนองที่ใชได เพราะไดแสดงออกถึงความจงรักภักดีตอ เจานายตัวจนถึงที่สุด ความดีของลิฉุย กุยกี ถาหากจะยกขึ้นแสดงก็คงมีประการนี้ประการเดียวเทานั้น ครั้นฝงศพตั๋งโตะไมสําเร็จเพราะฟาดินไมยอมรับเปนที่คุมและรองรับคนแบบตั๋งโตะแลว ลิฉุย กุยกี จึง จําเปนตองกลับเขาเมืองหลวง เริ่มกิจกรรมที่ชั่วชาทางการเมืองตอไปดวยการติดสินบนขันทีที่อยูใน พระ ตําหนักของฮองเตใหเปนสายลับคอยรายงานขาวความเคลื่อนไหวของพระเจาเหี้ยนเตใหทราบทุกประการ แต กระนั้นลิฉุย กุยกี ก็ยังคงเปนทหารที่ไมรูการแผนดิน จะสั่งการใดๆ ในการบริหารราชการแผนดินก็ฟนเฟอน วิปริตผันแปร แตยังดีที่รูสึกตัววาเปนการไมถูกตอง จึงใหหาจูฮีอดีตรองแมทัพใหญ ปราบโจรโพกผาเหลืองที่ ลาออกจากราชการเพราะไมสามารถจายเงินคาสวยสินบนแกสิบขันทีใหกลับเขารับราชการอีกครั้งหนึ่ง ตั้งเปน ขุนนางผูใหญในตําแหนงที่ปรึกษาผูสําเร็จราชการแผนดิน สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม สงครามขุนศึกภาคพายัพ (ตอนที่ 53) การสรางภาพลวงโลกที่ลิฉุย กุยกีไดจัดฉากสรางขึ้นในงานพิธี ศพของตั๋งโตะไดกลับมาหลอกลวงแลว ครอบงําความคิดของลิฉุย กุยกีวาพฤติกรรมและการกระทําแบบตั๋งโตะคือแบบอยางอันเปนที่ เคารพรักของ ราษฎร ดังนั้น รัฐบาลของลิฉุย กุยกี จึงสืบทอดเจตนารมณ นโยบาย และพฤติกรรม ตลอดจนการกระทําตางๆ ของตั๋งโตะเอามาใช แตหาไดสังวรและเฉลียวใจถึงเหตุการณในพิธีฝงศพของตั๋งโตะที่แมแตพระแมธรณียังไม ยอมรับเรือนราง และสวรรคก็ไมยอม รับใหอยูภายใตหลา วานั่นเปนผลจากความชั่วชาเลวทรามที่กระทําไวแต ประการใด เหตุนี้รัฐบาลของลิฉุย กุยกีจึงเปนรัฐบาลทรราชยแบบเดียวกับ รัฐบาลของตั๋งโตะเกือบทุกประการ ยกเวนก็แต เพียงสองอยางเทานั้นคือ ไมตั้งตัวเปนบิดาบุญธรรมของฮองเตอยางหนึ่ง และไมถึงกับเอาคนเปนๆ มาทอดใน งานเลี้ยงโตะอีกอยางหนึ่ง เมื่อเปนเชนนี้บรรดาขุนนางขาราชการและราษฎรจึงไดรับความเดือดรอนเหมือนกับ ครั้งตั๋งโตะอีกครั้งหนึ่ง สงผลใหหัวเมืองบางเมืองมีความคิดที่จะลมลางรัฐบาล และในหมูประชาชนหลายพื้น ที่ก็เกิดการเคลื่อนไหวที่จะลุกขึ้นสูอีกครั้งหนึ่ง เชื้อไฟขบวนการกูชาติของโจรโพกผาเหลืองจึงเริ่มปะทุขึ้นอีก ครั้งหนึ่งดวย All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 6. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 6 ในดานขุนศึกนั้นมาเทง เจาเมืองเสเหลียงและคูเกลอคือหันซุย เจาเมืองเปงจิ๋ว ซึ่งเปนเจาเมืองครองดินแดน ภาคพายัพ ไดรับทราบ ขาวการกอกรรมทําเข็ญของรัฐบาลลิฉุย กุยกีแลว จึงปรึกษากันวาบัดนี้รัฐบาลของลิฉุย กุยกีเปนทรราชยเหมือนกับรัฐบาลของตั๋งโตะ จะปลอยไวอีกไมไดจําเปนตองกําจัดเสีย ดังนั้นจึงตองวางไสศึก ไวใน เมืองหลวงเพื่อจะไดกําจัดลิฉุย กุยกีไดโดยสะดวก สองเกลอปรึกษากันแลว จึงทําหนังสือลับถึง มหาดเล็กในพระเจาเหี้ยนเตสามคน ซึ่งสนิทสนมไววางใจกันมาแตกอนคือ มาฮู, ตงเซียง และเลาเฉีย ใหทํา การเปนไสศึกอยูในเมืองหลวง และใหนําความขึ้นกราบบังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตทรงทราบวา เจาเมืองทั้งสอง จะยกกองทัพเขาเมืองหลวงเพื่อลมรัฐบาลของลิฉุย กุยกีเสีย มหาดเล็กทั้งสามคนไดรับหนังสือลับของเจา เมืองทั้งสองแลว มีความเห็นพองตองกันที่จะตองรวมลมลางรัฐบาลของลิฉุย กุยกี จึงพา กันไปเฝาพระเจา เหี้ยนเตเปนการสวนพระองคถึงขางในพระตําหนัก ที่ประทับกราบบังคมทูลใหทรงทราบความตามที่สองเจา เมืองบอกมานั้น พระเจาเหี้ยนเตทรงทราบความแลวมีพระทัยยินดียิ่งนัก จึงมีพระราชหัตถเลขาไปยังสองเจาเมืองวาทรงขอบใจ ที่สองเจาเมืองเปนเดือดแคนดวย แผนดินและราษฎร หากทําการสําเร็จแลวจะโปรดใหเปนขุนนางผูใหญสาม มหาดเล็กรับพระราชทานพระราชหัตถเลขาแลว ก็นําไปมอบแกทหารเดินสารของมาเทง หันซุย เพื่อนําไป มอบแกสองเจาเมืองตอไป ครั้นมาเทง หันซุย ไดรับพระราชหัตถเลขาและทราบพระราชประสงคแลวมีความยินดียิ่งนัก จึงสั่งการใหเตรียม กองทัพจากทั้งสอง เมืองกําลังพลสิบสองหมื่นเคลื่อนทัพจากภาคพายัพสูเมืองหลวง เสนทางเดินทัพจาก เมืองเสเหลียงและเมืองเปงจิ๋ว ไปเมืองเตียงอันเปนระยะทางไกลกวาสามรอยกิโลเมตร เสนทางทุรกันดาร กลางวันรอนจัด กลางคืนหนาวจัด ดังนั้นแมกองทัพทั้งสองเมืองจะเปนกองทัพมาที่เกงกลาสามารถก็ตองหยุด พักเปนระยะๆ ครั้นเดินทัพมาถึงกลางทางหนวยลาดตระเวนของเมืองหลวงก็ไดรับขาวศึกจึงรีบสงใบบอก รายงานใหรัฐบาลทราบ ลิฉุย กุยกี จึงใหหาเตียวเจ และหวนเตียว ซึ่งเปนแกนนําสําคัญของรัฐบาลพรอม ดวย กาเซี่ยงกุนซือคนสําคัญมาประชุมเพื่อเตรียมรับมือกับสงคราม ขุนศึกภาคพายัพ และปรึกษาวาจะคิดอานวาง แผนการสงครามประการใด กาเซี่ยงกุนซือคนสําคัญของรัฐบาลไดเสนอความเห็นวาการศึกครั้งนี้ไมนาหนักใจแตประการใด แลวยก สถานการณของทั้งสองฝายขึ้นแสดงตอที่ประชุมวา ขาศึกเดินทัพมาแตทางไกล และไมมีหัวเมือง ราย ทางเขารวมดวย ดังนั้นยิ่งเดินทัพลึกเขามาทางเมืองหลวงมากเทาใด ไพรพลยอมยากลําบาก และออนลาลง มากขึ้นเทานั้น การลําเลียง เสบียงก็จะไมสามารถลําเลียงสนับสนุนไดทันตอความตองการ ยิ่งใกล เมืองหลวง เทาใดเสบียงอาหารก็จะลําเลียงไดนอยลงเทานั้น ในที่สุดก็จะคงเหลือเพียงเสบียงที่ติดตัวมาซึ่งใชในกอง ทัพไดไมนาน หลังจากแสดงสภาพการณของฝายขาศึกแลว กาเซี่ยงก็ไดแสดง สภาพการณของฝายเมืองหลวงวาฝายเมือง หลวงตั้งมั่นอยูในพระนคร มีกําแพงเชิงเทิน คายคู หอรบพรอมสรรพ ทหารก็พรอม เสบียงก็มาก กําลังของ เมืองหลวงในยามปะทะขาศึกจะมีความสดชื่นยิ่งกวาขาศึกที่ออนลาอิดโรย กาเซี่ยงจึงสรุปวาสถานการณ สงครามของทั้งสองฝายเปนดั่งนี้ ทําใหเวลายิ่งเนิ่นนานไปเพียงใดยอมเปนโทษแกขาศึกเพียงนั้น และเปนคุณ แกฝายเมืองหลวงเพียงนั้น วาแลวจึงถามที่ประชุมวาสภาพการศึกครั้งนี้เปนดั่งนี้ใชหรือไม ที่ประชุมยอมรับ สภาพการสงครามระหวางขาศึกกับฝายเมืองหลวงตามที่กาเซี่ยงไดกลาวมาทั้งนั้น ลิฉุยจึงใหกาเซี่ยงเสนอ แผนยุทธการตอไป กาเซี่ยงจึงวาเมื่อปจจัยพื้นฐานของสงครามระหวางขาศึกกับเรา เปนดั่งนี้แลว ปจจัยพื้นฐานเหลานั้นจึงกําหนด ยุทธการใหฝายเมืองหลวงเปนฝายตั้งรับ และรอคอยโอกาสโจมตี ทั้งกําหนดแผนการยุทธใหขาศึกยกลวง มาถึงชานกําแพงพระนคร ในที่สุดขาศึกก็จะหมด เสบียงแลวตองถอนทัพกลับไป ถึงเวลานั้นฝายเมืองหลวง จึงยกตาม ตียอมจะไดรับชัยชนะเปนมั่นคง ลิบองกับอองหอง สองขุนนางที่ไดรับแตงตั้งใหมเปนบําเหน็จ ความชอบที่เปดประตูเมืองรับทัพลิฉุย กุยกี ไมเห็นดวยกับแผนยุทธการของกาเซี่ยง และเสนอแผนยุทธการ ใหมใหฝายเมืองหลวงยกกองทัพไปโจมตีขาศึก มิใหยกลวงเขามาถึงพระนครได โดยอางวาจะกอใหเกิดความ ตระหนกตกใจแกราษฎร แลววาขาพเจาทั้งสองขอนําทหารเพียงหมื่นคนไปตัดเอาศีรษะมาเทง หันซุย มาให จงได All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ลิฉุย กุยกี เห็นชอบตามแผนการยุทธของสองขุนนาง แตกาเซี่ยง ทวงติงวาการยกทัพไปครั้งนี้จะเสียทีแก ขาศึกเปนมั่นคง เพราะเมื่อฝายเรายกทัพไปทางไกลก็จะสูญเสียความไดเปรียบที่มีอยูจากการตั้งรับและมี สภาพไมตางกับขาศึก แตเนื่องจากขาศึกมีกําลังพลมากกวาทั้งการยุทธจะเกิดขึ้นในพื้นราบรบกันดวยกําลัง ทหารมายอมมีสภาพเปนรองฝายกองทัพเมืองเสเหลียงที่มีความเชี่ยวชาญการรบบนหลังมา ฝายเมืองหลวงจึง
  • 7. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 7 เสียเปรียบในทุกทาง ลิบอง อองหอง ฟงคํากาเซี่ยงแลวไมพอใจจึงวาการยกไปครั้งนี้ถาหากไมไดหัวมาเทง หันซุย กลับมาก็ขอใหเอาหัวของขาพเจา สองคนแทน แตถาขาพเจาไดหัวของสองเจาเมืองมาแลวก็ให กาเซี่ยง มอบศีรษะแกขาพเจา กาเซี่ยงไมรับคําทาของสองขุนนาง ยังคงเสนอตอไปวาถาจะให ลิบอง ออง หอง ยกไปก็จะเสียทีแกขาศึกเปนแมนมั่น แตเพื่อไมใหเสียการขาพเจาขอเสนอใหทานแมทัพเตียวเจ และ หวนเตียว ยกทหาร อีกหมื่นหนึ่งไปตั้งมั่นไวที่เขาเจียวจิด ซึ่งอยูทางทิศตะวันตกหางจาก เมืองหลวงไป ระยะทางสองพันหารอยเสน หรือประมาณหนึ่งรอยกิโลเมตร ณ เขาลูกนี้เปนชัยภูมิสําคัญ เพราะภูมิประเทศมี ทางเดินทัพเฉพาะตามซอกเขาเทานั้น ถึงขาศึกมีกําลังพลมากกวาก็ถูกสภาพ ภูมิประเทศบีบบังคับใหเสมือน นอย หากลิบอง อองหอง เสียทีมาฝายเมืองหลวงก็ยังคงสามารถยันทัพขาศึกไวได ณ ที่นี้ การสงคราม ครั้งนี้ เราก็จะไมเสียทีแกขาศึก ปรากฏวาคณะฝายทหารทั้งหมดในที่ประชุมไมเห็นดวยกับขอเสนอของกาเซี่ยง ดังนั้นลิฉุย จึงสั่งใหจัด กองทัพพลหมื่นหาพันคนใหลิบอง และอองหองยกไปรบดวยมาเทงและหันซุยตามแผนของสอง ขุนนาง ดังกลาว กาเซี่ยงที่ปรึกษาเห็นเชนนั้นก็มิไดวากลาวประการใด คงรําพึง แตในใจวา "แลวจะไดเห็นดีกัน" ลิ บอง อองหอง ยกกองทัพออกจากเมืองหลวง เดินทัพไปไดประมาณสองพันเสนก็เผชิญหนากับกองทัพภาค พายัพของมาเทงและหันซุย ดังนั้นทั้งสองฝายจึงตั้งคายลงในลักษณะประชิดกัน เตรียมการยุทธขั้นแตกหัก ตอไป ครั้นรุงขึ้นทหารของทั้งสองฝายจึงยกออกจากคาย ตั้งขบวนเรียงหนากระดานเขาหากัน เวนพื้นที่เปนลานรบไว ตรงกลาง แมทัพนายกอง ของทั้งสองฝายออกมายืนมาอยูหนาทหารของฝายตน เปนการเตรียม การทําศึก โดยอาศัยฝมือทหารเอก หลังจากเปดฉากดากันตามธรรมเนียมแลว กองทัพภาคพายัพจึงสงมาเฉียวผูเปนบุตร มาเทงและเปนทหารเอกออกรบ มาเฉียวนั้น สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วา "อายุสิบแปดป หนาดังสี หยก กิริยาวองไว" แตสามกกฉบับสมบูรณกลาววา เปน "หนุมนอยสีหนาดังหยกขาว ดวงตาดุจดาวตก รางดุจ พยัคฆ แขนคลายวานร ทองเหมือนเสือดาว เอวดั่งสุนัขจิ้งจอก" ซึ่งดูออกจะมีลักษณะพิกล จึงเอาเปนวามา เฉียวนั้นอายุสิบแปดป มีหนาขาวประดุจดังหยก ดวงตาคมวาว แข็งแรง แคลวคลองวองไว มาเฉียวรับคําสั่ง แลวก็ขับมาศึกมือถือทวนยาวออกมากลางลาน รบฝายอองหองเห็นมาเฉียวยังเปนเด็กนักคิดวาจะเอาชัยได โดยงายจึงชักมาออกมากลางลานรบ ทั้งสองฝายขับมาประอาวุธกันเพียง หาเพลง มาเฉียวก็เอาทวนแทงออง หองตกมาตาย แลวชักมาหันหลังจะกลับเขามาในแถวทหารของเมืองเสเหลียง ฝายลิบองเห็นออง หองตายก็ โกรธ ขับมาถืองาวไลตามมาขางหลังมาเฉียว แตมาเฉียวทําเปนไมเห็น ฝายมาเทงผูบิดาเปนหวงมาเฉียวจึง รองตะโกนใหระวังวาขาศึกกําลังไลตามมาขางหลัง พอดีลิบองขับมาเขามาใกลไดจังหวะงาวจึงเงื้องาวขึ้นจะ ฟนมาเฉียวมาเฉียวสังเกตความเคลื่อนไหวของลิบองอยูทุกฝเทา ครั้นเห็น ลิบองเอางาวฟนลงมาก็เอี้ยวตัว หลบพรอมกับชักมาเขาประกบมาของ ลิบอง แลวกระโจนไปบนหลังมาของลิบองจับลิบองไดบนหลังมานั้น แลวเอามาสงแกมาเทงผูบิดา มาเทงเห็นไดทีจึงใหสัญญาณทหารบุกเขาโจมตีกองทัพของลิบอง อองหอง ซึ่งกําลังขวัญเสียเพราะสูญเสีย แมทัพไปทั้งหมด จึงแตกตื่น วิ่งหนีถูกทหารภาคพายัพฆาตายเปนจํานวนมาก และที่ถูกจับเปนก็ไมนอย กองทัพลิบอง อองหอง จึงแตกพายไป มาเทงและหันซุยไดรับชัยชนะในศึกยกแรกแลว จึงเคลื่อนทัพ ภาค พายัพเดินทางเขาเมืองหลวง แลวตั้งคายประชิดกําแพงพระนคร ครั้นตั้งคายเสร็จแลวจึงสั่งใหตัดศีรษะลิบอง และอองหองเสียบประจานไวที่หนาคาย ลิฉุย กุยกี ทราบขาวศึกวาลิบอง อองหอง เสียทีแกขาศึกและกองทัพ ภาคพายัพยกลวงมาประชิดกําแพงพระนคร จึงเรียกประชุมแมทัพนายกอง ณ กองบัญชาการกองกําลังรักษา พระนคร และสั่งให หากาเซี่ยงที่ปรึกษาเขารวมประชุมดวย ลิฉุย เปดประชุมแลวกลาววาเปนความผิดของเรา เองที่ไมฟงคํา กาเซี่ยง การณจึงเสียทีแกขาศึกถึงเพียงนี้ เราไดพิจารณาการณประมาณการศึก และแผน ยุทธการของกาเซี่ยงอีกครั้งหนึ่งแลวเห็นวา เปนแผนการที่จะเอาชนะขาศึกได ดังนั้นจากนี้ไปใหปฏิบัติตาม แผนของ กาเซี่ยง ทุกประการ แลวลิฉุยจึงมีคําสั่งใหทหารทุกหนวยตั้งมั่นรับศึกในพระนครใหระมัดระวังรักษาเชิงเทิน คายคู หอรบตางๆ ให มั่นคงทุกดาน สงครามกับขุนศึกภาคพายัพที่ดําเนินการมาถึงชั้นนี้ ไดใหขอพิสูจนที่ชัดเจนอยางหนึ่งวา ความผิดถูกนั้นหาไดขึ้นอยูกับเสียงขางมากแตประการใดไม หากขึ้นอยูกับสติปญญาและขอมูลขาวสารที่ ถูกตองถองแทตางหาก แมจะเปนเสียงขางนอยแตถาหากมีสติปญญากําหนดแผนการขึ้นบนพื้นฐานของขอมูล ขาวสารที่ถูกตองแลว ยังดีเสีย กวาเสียงขางมากที่ไรสติปญญาและปราศจากขอมูลขาวสารที่ถูกตอง พระผูมี พระภาคเจาทรงตรัสวาการประชุมที่ไมมีบัณฑิตยอมไม ถือวาเปนการประชุม ซึ่งหากจะกลาวโดยสํานวนของ กิมยงก็ตองกลาววาการประชุมที่ไมมีบัณฑิตก็คือการผายลมนั่นเอง All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 8. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 8 สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม กลยุทธสงบสยบความเคลื่อนไหว (ตอนที่ 54) กองทัพจากแดนไกลตั้งคายประชิดกําแพงพระนครแลวยกทหารออกมาทารบกับฝายเมืองหลวงทุกวัน ตีกลอง ศึกมาลอ โหรองดาทอฝายเมืองหลวงสักเทาใด ฝายเมืองหลวงก็ไมยอมออกรบ มิหนําซ้ํายังยั่วเยาดวยการไป ตั้งโตะจัดเลี้ยงบนกําแพงพระนคร ดื่มกินกันเปนที่สนุกสนานบางวันในขณะที่กองทัพจากภาคพายัพตั้งมั่นอยู ในคายภายในเมืองหลวงก็จัดดนตรีมาเลน เสียงมโหรีดังสนั่นไดยินไปถึงคายของ มาเทงและหันซุย การตั้งมั่น ประกอบเขากับการเลี้ยงโตะบนกําแพงพระนครและการเลนดนตรีภายในพระนครไดสรางความโมโหโกรธา ใหกับฝายมาเทง หันซุยเปนยิ่งนัก แตจะรบก็รบไมได เพราะฝายเมืองหลวงไมยอมรบดวย ยังคงตั้งมั่นรักษา เชิงเทินคายคู หอรบไวอยางเหนียวแนน อาการเชนนี้ดูเหมือนวามิใชการรบ แตแทจริงนี่คือการรบเพราะการตั้ง มั่นในลักษณะนี้เปนยุทธานุภาพชนิดหนึ่งที่ฝายเมือง หลวงกําลังใชทําลายฝายมาเทง หันซุย ใหออนเปลี้ยลง ทุกวี่วัน เปน ผลที่เกิดขึ้นจากแผนการอันไดกําหนดไวเปนอยางดีแลว เปนแผน การที่มีผลคือชัยชนะโดยไม ตองรบ นี่คือการสะทอนถึงสภาพที่กุมชัยชนะอยางแนแทไวในมือ ในขณะที่อีกฝายหนึ่งกลับดิ้นรนเพื่อจะ เอาชนะ และนั่นคืออาการของฝายที่กําลังจะพายแพนั่นเอง ทั้งสองฝายทําการยุทธตอกันในลักษณะเชนนี้จนเวลาผานไปสองเดือน กองทัพจากแดนไกลก็ขาดเสบียงลง ทหารออนลาอิดโรย และเสียขวัญทั้งกองทัพ ในขณะนั้นขาวการเคลื่อนไหวของสามมหาดเล็กที่เปนไสศึกให กับมาเทง หันซุยไดทราบไปถึงหูของลิฉุยวาเหตุที่กองทัพยกมาประชิดเมืองหลวงก็เพราะมาฮู ตงเซียง และ เลาเฉียเปนไสศึก ลิฉุยทราบความก็โกรธ สั่งทหารใหจับตัวสามมหาดเล็กพรอมครอบครัวมาประหาร แลวตัด ศีรษะเสียบไวบนเชิงเทิน ฝายมาเทงและหันซุยทราบขาววาสามมหาดเล็กซึ่งรับทําการเปน ไสศึกในเมืองหลวงถูกประหารเสียแลวก็สิ้น หนทางที่จะทําการศึกตอไป เพราะการณขางในก็มืดมิรูขาวคราวของฝายเมืองหลวง การณขางนอก กองทัพ จากภาคพายัพก็ขาดเสบียง ดังนั้นมาเทงและหันซุยจึงปรึกษากัน และเห็นชอบรวมกันวาใหถอยทัพกลับภาค พายัพ โดยแยกขบวนออกเปนสองกอง คือมาเทงคุมกองทัพเมืองเสเหลียง และหันซุยคุม กองทัพเมืองเปงจิ๋ว แลวแยกกันถอยทัพเปนสองทางกลับเมืองแตละเมืองปรึกษากันเสร็จแลว ครั้นเวลายามสามกองทัพจากภาค พายัพ ทั้งสองกองก็ถอนทัพเคลื่อนออกจากเขตเมืองหลวงคืนสูภาคพายัพ รุงขึ้นลิฉุย กุยกีไดทราบวาขาศึกถอนทัพยกถอยกลับไปตามแผนการความคิดของกาเซี่ยง จึงสั่งใหเตียวเจ และหวนเตียวยกทหาร ไปคนละกองไลตามตีกองทัพจากภาคพายัพ โดยเตียวเจไลตามตีกองทัพของมาเทง และหวนเตียวไลตามตีกองทัพของหันซุย เตียวเจและหวนเตียวรับคําสั่งแลวก็ยกทหารออกจากพระนครไล ตามตีกองทัพของมาเทงและหันซุยตามคําสั่งหวนเตียวยกทหารตามหันซุยมาถึงเขาตันฉอง หันซุยไดยินเสียง กองทหารไลตามมาเห็นธงประจําตัวแมทัพวาหวนเตียวคนบานเดียวกัน จึงชักมามาดานหลังทหารพบกับหวน เตียวแลวจึงกระทําคารวะตามธรรมเนียมแลววา เรายกมาทั้งนี้เพื่อกําจัดศัตรูราชสมบัติเสีย บัดนี้กองทัพของ เราขาดเสบียงจึงตองถอยทัพกลับ ขอใหทานเห็นแกไมตรีที่มีมาแตนอยปลอยเรากลับไปอยาใหตองกระทําศึก ตอกันใหเสียเลือดเนื้อทหารเลย หวนเตียวคารวะตอบหันซุยแลววาการครั้งนี้เปนเรื่องของแผนดินเปนการใหญ เราจะเห็นแกหนาคาตากันไมได ทานจงเตรียมใหพรอมเถิด เราจะเขาโจมตีทาน หันซุยจึงวา "เรายกมาทั้งนี้ก็เพราะหวังจะทํานุบํารุงแผนดินให อยูเย็นเปนสุข ถึงทานจะมิคิดถึงเรา ก็จงคิดถึงพระเจาเหี้ยนเตซึ่งครองราชสมบัตินั้นเถิด" หวนเตียวรูอยูกับอก วารัฐบาลของลิฉุย กุยกีเปนรัฐบาลทรราชย ขมเหงฮองเตกดขี่รังแกขุนนางราษฎร ครั้นไดยินความนี้ ความคิด กตัญูตอราชวงศฮั่นก็ประดังขึ้นในอกเห็นคลอยตามไปกับคําหันซุย มิไดกลาวตอบประการใด คงยืนมาเฉย อยูกับที่เปนทีปลอยใหหันซุย ยกทหารไปได หันซุยเห็นเชนนั้นจึงสั่งทหารใหเคลื่อนกองทัพรีบเดินทางกลับ เมืองเปงจิ๋ว ฝายหวนเตียวเมื่อเห็นกองทัพเมืองเปงจิ๋วยกกลับไปแลวก็ตั้งคายมั่นลง ณ ที่นั้นเพื่อติดตาม สถานการณวากองทัพภาคพายัพจะยกกลับไปจริงหรือวาจะยอนกลับมาใหม ฝายเตียวเจซึ่งยกกองทัพไลตาม ตีกองทัพเมืองเสเหลียงไปทันเขาจึงเขารบพุงกันเปนสามารถ มาเฉียวผูบุตรมาเทงไดเขารบดวยเตียวเจ แต เตียวเจสูกําลังมาเฉียวไมไดจึงถอยทหารกลับมาและมาสมทบดวยหวนเตียวตั้งคายมั่นรักษาการณอยูในที่นั้น All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วากองทัพของเตียวเจยกไลตามตีกองทัพเมืองเสเหลียงแตไมทันกัน จึง ยกกลับมาตั้งอยูกับหวนเตียว ในขณะที่คอยติดตามสถานการณอยูนั้น หลานของลิฉุยซึ่งมาในกองทัพของ หวนเตียวไดรูเห็นเหตุการณที่หวนเตียวพบหันซุยแลว ปลอยใหหันซุยถอยทัพกลับไปโดยไมโจมตีตามคําสั่ง ของลิฉุย จึงรีบกลับเขาเมืองหลวงนําความไปแจงใหลิฉุยทราบ ลิฉุยทราบความก็โกรธหวนเตียวที่ขัดคําสั่ง