SlideShare ist ein Scribd-Unternehmen logo
1 von 26
สำ�นักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
1
การสำ�รวจและเก็บพรรณไม้ของประเทศไทยในทศวรรษที่ผ่าน
มามีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้นจากความตื่นตัวในการศึกษาวิจัย
ด้านอนุกรมวิธานพืชของหน่วยงานต่างๆ อันเป็นผลมาจากอนุสัญญา
ว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ (Convention on Biological
Diversity) ที่ประเทศไทยได้ลงสัตยาบัญ ทำ�ให้มีการค้นพบพืชชนิด
ใหม่ของโลก (new species) อย่างต่อเนื่อง และได้รับการตีพิมพ์เผย
แพร่ลงในวารสารทางวิชาการต่างๆ ตลอดมา
ในส่วนของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งเป็นหน่วยงานหน่ง
ที่มีภารกิจสำ�คัญในการศึกษาวิจัยด้านอนุกรมวิธานพืชของประเทศไทยมาเป็น
เวลายาวนานตั้งแต่ก่อนแยกตัวมาจากกรมป่าไม้ เมื่อปี พ.ศ. 2546 ซึ่งทำ�ให้มี
ภารกิจด้านการศึกษาวิจัยด้านพรรณพืชที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ดังนั้น กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงได้รวบรวมพืชชนิดใหม่
ของโลก อันเป็นผลจากการออกสำ�รวจและเก็บตัวอย่างพรรณไม้โดยสำ�นักงาน
หอพรรณไม้ หรือได้ร่วมกับนักวิจัยอื่นๆ รวมถึงการศึกษาวิจัยด้านอนุกรม
วิธานพืชในช่วงระยะเวลาที่ได้อยู่ภายใต้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์
พืช ซึ่งสำ�นักงานหอพรรณไม้เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่สำ�รวจและเก็บรวบรวม
พรรณไม้ เก็บรักษาตัวอย่างพรรณไม้ไว้ในรูปของหอพรรณไม้ และรับผิดชอบ
ดำ�เนินโครงการพรรณพฤกษชาติของประเทศไทย (Flora of Thailand) ที่มี
ความร่วมมือจากนักพฤกษศาสตร์ตั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจำ�นวนมาก
ทำ�ให้ได้รับรายงานการค้นพบพืชชนิดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นข้อมูลการ
ค้นพบพืชชนิดใหม่ของโลกนี้นอกจากจะเป็นข้อมูลด้านการศึกษาวิจัยพรรณพืช
ของประเทศไทยสำ�หรับนักวิจัยที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังเป็นประโยชน์ แก่ผู้สนใจและ
ชื่นชมกับพรรณไม้พื้นเมืองของไทย เพื่อให้เกิดความภูมิใจในพรรณไม้ไทยที่
ได้รับการค้นพบเป็นครั้งแรก อันจะก่อให้เกิดความหวงแหนและร่วมกันปกป้อง
รักษาไว้ให้เป็นมรดกแก่ชนรุ่นหลังต่อๆ ไป
การค้นพบ พืชชนิดใหม่
ของโลก (new species) ในประเทศไทย
2
3
กระเช้าคลองพนม
Aistolochia kongkandae Phuph.
วงศ์ Aristolochiaceae
พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่เขาสกและคลอง
พนม จังหวัดสุราฎรฺธานี ขึ้นตามหน้าผาหินปูน ระดับ
ความสูง 100-200 เมตร เป็นไม้เถาล้มลุก หลอดกลีบ
รูปทรงกระบอกสีครีมอมแดง งอขึ้นเล็กน้อย ปลาย
กลีบบานออก ด้านในสีม่วงอมแดง โคนหลอดกลีบ
เป็นกระเปาะทรงรี ผลทรงกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 5-7
มม. แตกเป็น 6 ซีก
คำ�ระบุชนิด “kongkandae” ตั้งเป็นเกียรติ
แก่ ดร.ก่องกานดา ชยามฤต ตีพิมพ์ในวารสาร Thai
Forest Bulletin (Botany) เล่มที่ 34 ค.ศ. 2006 จาก
ตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ Chayamarit et al. 2607
(BKF, C, E)
กระเช้ายะลา
Aistolochia yalaensis Phuph.
วงศ์ Aristolochiaceae
พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะทางภาคใต้ตอนล่าง
ที่อำ�เภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ขึ้นตามเขาหินปูนเตี้ยๆ
ป่าดิบชื้น ระดับความสูงประมาณ 200 เมตร เป็นไม้เถา
ล้มลุก เกาะเลื้อยตามหินปูน ดอกสีครีมอมเขียว ปาก
หลอดกลีบสีม่วงอมแดง หลอดกลีบรูปทรงกระบอก
ยาวประมาณ 4 มม. งอขึ้น ปากหลอดกลีบมีขนสั้นนุ่ม
ด้านใน โคนหลอดกลีบเป็นกระเปาะทรงรีเกือบกลม ผล
ทรงรีกลม ยาวประมาณ 0.8-1 ซม.
คำ�ระบุชนิด “yalaensis” ตั้งตามสถานที่เก็บ
ตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ ตีพิมพ์ในวารสาร Thai For-
est Bulletin (Botany) เล่มที่ 34 ค.ศ. 2006 ตัวอย่าง
พรรณไม้ต้นแบบ Pooma et al. 4321 (BKF, K, L)
4
กะฉอดคลองพนม
Tectaria phanomensis S. Linds.
วงศ์ Dryopteridaceae
พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่อุทยานแห่งชาติ
คลองพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นตามซอกหินปูนที่
มีดินตื้นๆ ระดับความสูงประมาณ 100 เมตร เป็นเฟิน
ขนาดเล็ก เหง้ามีเกล็ดหนาแน่น ก้านใบยาวประมาณ
40-48 ซม. แผ่นใบยาวประมาณ 60 ซม. แผ่นใบ
ประกอบย่อยด้านล่างมีขนาดใหญ่ ยาวได้ประมาณ 30
ซม. แผ่นใบประกอบย่อยอื่นขนาดลดหลั่นจนยาวได้
ประมาณ 10 ซม. จักแบบขนนก มีก้านหรือไร้ก้าน กลุ่ม
สปอร์มี 1-3 แถว สปอร์มีรอยย่น
คำ�ระบุชนิด “phanomensis” ตั้งตามสถานที่ค้น
พบ ได้รับการ ตีพิมพ์ลงในวารสาร Thai Forest Bul-
letin (Botany) เล่มที่ 36 หน้าที่ 49 เมื่อ ค.ศ. 2008
จากตัวอย่างพันธุ์ไม้ต้นแบบ Middleton, Lindsay &
Pooma 2140 (A, BKF)
เฟิร์นก้านดำ�คลองพนม
Adiantum phanomensis S. Lindsay &
D. J. Middleton
วงศ์ Adiantaceae
พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่อุทยานแห่งชาติ
คลองพนม จังหวัดสุราษฏร์ธานี ขึ้นตามหน้าผาเขา
หินปูนที่ค่อนข้างมีความชุ่มชื้นสูง เป็นเฟินขนาดเล็ก
สูงไม่เกิน 20 ซม. เหง้าสั้น มีเกล็ดขนาดเล็กสีดำ�หุ้ม
ก้านใบยาวได้ประมาณ 4.5 ซม. ใบประกอบแบบขนนก
ยาวประมาณ 10-18 ซม. แผ่นใบรูปคล้ายสามเหลี่ยม
ยาว 0.6-1.2 ซม. ปลายจักมนตื้นๆ มีขนสั้นนุ่มหนา
แน่นด้านล่าง กลุ่มอับสปอร์ติดที่ปลายแผ่นใบด้านล่าง
สีน้ำ�ตาลดำ�
คำ�ระบุชนิด “phanomensis” ตั้งตามสถานที่ค้น
พบ ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร Harvard Papapers
in Botany 8(2) หน้าที่ 137 ค.ศ. 2004 จากตัวอย่าง
พรรณไม้ต้นแบบ Middleton, Lindsay & Pooma
2133 (BKF, A, BCU, L)
5
6
เอื้องกลีบติดปากฝอย
Gastrodia fimbriata Suddee
วงศ์ Orchidaceae
พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่อุทยานแห่งชาติแก่ง
กระจาน จังหวัดเพชรบุรี ขึ้นตามพื้นดินในป่าไผ่ ระดับ
ความสูงประมาณ 900 เมตร เป็นกล้วยไม้กินซาก มีเหง้า
ใต้ดิน ยาว 4-8 ซม. ช่อดอกยาวได้ประมาณ 1 ม. ดอก
จำ�นวนมาก ก้านดอกยาว 3-5 มม. ดอกสีขาวอมชมพู
ยาว 1.5-2 ซม. รวมรังไข่ กลีบดอกและกลีบเลี้ยงเชื่อม
ติดกันรูปถ้วย ส่วนแยกกลีบเลี้ยงรูปสามเหลี่ยม ยาว 3-5
มม. ส่วนแยกกลีบดอกกลม ยาว 2-3 มม. กลีบปากรูป
ไข่ ยาว 6-7 มม. หยัก 3 พู กลีบกลางปลายจักชายครุย
คำ�ระบุชนิด “fimbriata” หมายถึงขอบกลีบปาก
จักชายครุย ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร Harvard
Papapers in Botany 9(2) หน้าที่ 435 ค.ศ. 2005
จากตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ Middleton at al. 1805
(BKF, A)
กะเพราตะนาวศรี
Teucrium scabrum Suddee & A.J. Paton
วงศ์ Lamiaceae (Labiatae)
พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่จังหวัดตากและ
จังหวัดกาญจนบุรีบริเวณอุทยานแห่งชาติเอราวัณและ
ด่านเจดีย์สามองค์ ขึ้นบนเขาหินปูนที่เปิดโล่ง ระดับความ
สูง 500-1000 เมตร เป็นไม้ล้มลุก ลำ�ต้นส่วนมากไม่แตก
กิ่ง แผ่นใบมีขนสากและต่อมทั้งสองด้าน ช่อดอกแบบช่อ
กระจุกไม่แตกช่อแขนงหรือแตกที่โคน ดอกเรียงเป็นกระ
จุกละ 2 ดอก เป็นชั้นห่างๆ บนแกนช่อ ใบประดับ กลีบ
เลี้ยง และกลีบดอกมีขนต่อมทั่วไป กลีบดอกรูปปาก
เปิด สีม่วงอ่อน ยาว 0.8-1.2 ซม. กลีบล่างกลีบกลาง
ขนาดใหญ่
คำ�ระบุชนิด “scabrum” หมายถึงมีขนสากตามแผ่น
ใบ ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Kew Bulletin Vol. 63(4)
ค.ศ. 2008 จากตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ Suddee &
Puudja 1101 (BKF, K, TCD) ที่เก็บจากดอยหัวหมด
อำ�เภออุ้มผาง จังหวัดตาก
7
8
กะเพราน้ำ�โขง
Platostoma mekongense Suddee
วงศ์ Labiatae
พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
จังหวัดอุบลราชธานี ขึ้นตามพื้นที่เปิดโล่งบนแผ่นหินทราย
ในป่าเต็งรัง ระดับความสูงประมาณ 300 เมตร เป็นไม้ล้มลุก
ลำ�ต้นเป็นเหลี่ยม ใบเรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก ช่อดอกออก
ที่ปลายกิ่ง ช่อย่อยเวียนรอบข้อ แต่ละช่อย่อยห่างกัน 0.5-1
ซม. กลีบเลี้ยงกลีบหน้ายื่นยาวกว่าหลอดกลีบ หลอดกลีบมี
ขนยาว กลีบดอกรูปปากเปิดสีขาวอมเขียว กลีบปากมีขนสั้น
นุ่ม เกสรเพศผู้ยื่นเลยปากกลีบดอก
คำ�ระบุชนิด “mekongensis” ตั้งตามสถานที่ค้นพบใกล้
ริมแม่น้ำ�โขง ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Kew Bulletin เล่ม
ที่ 60 (1) หน้าที่ 65 เมื่อปี ค.ศ. 2005 จากตัวอย่างพันธุ์ไม้
ต้นแบบ Chalermglin & Meade 98-10-16-02 (BKF, K)
กะเพราหิน
Plectranthus albicalyx S. Suddee
วงศ์ Lamiaceae (Labiatae)
พืชถิ่นเดียวของไทย มีเขตการกระจายพันธุ์แคบๆ พบ
เฉพาะที่จังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา กาญจนบุรี
เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ขึ้นบนหินปูนในป่าดิบแล้ง
ระดับความสูง 50-500 เมตร เป็นไม้ล้มลุก ช่อดอกแบบ
ช่อกระจุกแยกแขนง แกนช่อและดอกมีขนสั้นนุ่ม ขนต่อม
และต่อมกระจาย ช่อย่อยมีประมาณ 3 ดอก กลีบดอกรูป
ปากเปิด สีม่วงอมน้ำ�เงิน ยาว 0.7-1 ซม. ผลรูปไข่หรือรูปรี
เกลี้ยง กลีบเลี้ยงติดทน
คำ�ระบุชนิด “albicalyx” หมายถึง..........................
ตีพิมพ์ในวารสาร Kew Bulletin เล่มที่ 59 ค.ศ. 2004 จาก
ตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ Suddee 868 (BKF, K, TCD) ที่
เก็บจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จังหวัดกาญจนบุรี
9
10
เครือเทพรัตน์	
Thepparatia thailandica Phuph.
วงศ์ Malvaceae
พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะทางภาคเหนือแถบจังหวัดเชียงใหม่และตาก เป็นไม้เถาขนาดใหญ่ ขึ้นเกาะพันบนต้นไม้ในป่า
เบญจพรรณหรือตามเขาหินปูน ระดับความสูง 500-700 เมตร เป็นไม้เถาเนื้อแข็ง มีขนรูปดาวตามท้องใบ ก้านใบ ช่อดอก ริ้ว
ประดับ และกลีบเลี้ยง แผ่นใบรูปฝ่ามือมี 3-5 แฉกตื้นๆ มีต่อมทั่วไปด้านบนของแผ่นใบ ช่อดอกห้อยลง ยาวได้ถึงประมาณ 20
ซม. ดอกจำ�นวนมาก ริ้วประดับติดทน มี 5-7 กลีบ กลีบดอก 5 กลีบ สีเหลืองอ่อนหรือสีครีม มีปื้นสีแดง ยาว 3-3.5 ซม.
ปลายกลีบพับงอ เกสรตัวผู้ติดกันเป็นหลอด
พืชสกุลใหม่และชนิดใหม่ของโลก ซึ่งตั้งตามพระนามสมเด็จพระเทพ
รัตน์ราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ตีพิมพ์ในวารสาร Thai Forest Bul-
letin (Botany) เล่มที่ 34 ค.ศ. 2006 จากพรรณไม้ต้นแบบ Pooma et
al. 4981 (BKF) ที่เก็บจากอำ�เภอท่าสองยาง จังหวัดตาก
11
กาฝากวงกลีบแดง
Tolypanthus pustulatus Barlow
วงศ์ Loranthaceae	
พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จังหวัดหนองคาย เป็นกาฝากขึ้นบนต้นไม้ในวงศ์อบเชย
(Lauraceae) ที่ขึ้นในป่าดิบแล้ง ระดับความสูงประมาณ 200 เมตร เป็นกาฝากไม้พุ่ม ลำ�ต้นมีช่องอากาศกระจาย ใบเรียง
ห่างๆ ช่อดอกแบบกระจุกสั้น ติดบนวงกลีบประดับ วงกลีบประดับมี 6-8 กลีบ ติดกันประมาณกึ่งหนึ่งคล้ายรูประฆัง ยาว
1.5-2 ซม. สีแดงอมชมพู ดอกย่อยมี 4-6 ดอก ติดที่โคนวงกลีบประดับ กลีบดอกสีขาวมีแถบเป็นสันสีแดงอมชมพู ปลาย
แยกเป็น 5 กลีบ ผิวด้านนอกพองตั้งแต่ปลายกลีบจนถึงช่วงพับงอ เห็นชัดเจน
คำ�ระบุชนิด “pustulatus” ที่แปลว่าเป็นตุ่ม หมายถึงมีลักษณะคล้ายรอยเป็นตุ่มที่กลีบดอกด้านนอกใกล้จุดพับงอ ได้
รับการตีพิมพ์ในวารสาร Thai Forest Bulletin (Botany) No. 33 ค.ศ. 2005 จากตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ Pooma et al.
4158 (BKF, CANB)
12
โมกการะเกตุ
Wrightia karaketii D. J. Middleton
วงศ์ Apocynaceae
พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่อำ�เภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ใกล้ชายแดนไทย-พม่า (กิ่วผาวอก) ขึ้นตามเขาหิน
ปูนเตี้ยๆ ในป่าเบญจพรรณ ระดับความสูงประมาณ 750 เมตร เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก กลีบเลี้ยงมีต่อมที่โคนกลีบด้านใน กลีบ
ดอกรูปกงล้อ หลอดกลีบสั้น กลีบรูปไข่กลับ ยาว 1.7-2 ซม. มีปุ่มเล็กๆ กระจาย กระบังเชื่อมติดกันเป็นวง แนบติดกลีบดอก
ปลายไม่แนบติดกลีบดอก ผลเป็นฝักคู่ กางออก ยาว 30-40 ซม. มีช่องอากาศหนาแน่น
คำ�ระบุชนิด “karaketii” ตั้งเป็นเกียรติแก่นายปรีชา การะเกตุ หอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผู้
ร่วมสำ�รวจและเก็บตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ ตีพิมพ์ในวารสาร Gardens’ Bulletin Singapore เล่มที่ 61 ฉบับที่ 2 ปี พ.ศ.
2010 จากพรรณไม้ต้นแบบ Pooma et al. 6732 (BKF, E)
13
โมกพะวอ
Wrightia tokiae D. J. Middleton
วงศ์ Apocynaceae
พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะทางภาคเหนือที่อำ�เภอแม่สอด จังหวัดตาก ใกล้กับศาลพะวอ ขึ้นบนเชิงเขาหินปูน ในป่า
เบญจพรรณ ระดับความสูงประมาณ 700 เมตร เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก กิ่งอ่อนมีขนละเอียดรูปตะขอสั้น ๆ ใบเรียงตรงข้าม
ยาว 5.3-21 ซม. มีปุ่มเล็กๆ กระจายด้านบน ช่อดอกแบบช่อกระจุกสั้น ๆ ออกตามปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงไม่มีต่อมที่โคน กลีบ
ดอกรูปกงล้อ หลอดกลีบยาวประมาณ 2.5 มม. กลีบยาวประมาณ 1.3 ซม. กระบังเรียงติดกันเป็นวงคล้ายรูปถ้วย แนบ
กลีบดอกเฉพาะที่โคนประมาณ 5 มม. ผลเป็นฝักคู่ เรียงชิดกัน ปลายเชื่อมติดกัน ยาวประมาณ 13.5 ซม. มีช่องอากาศ
กระจายหนาแน่น
คำ�ระบุชนิด “tokiae” ตั้งเป็นเกียรติแก่นางสาวนันท์นภัส ภัทรหิรัญไตรสิน นักวิจัยของหอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่ง
ชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งชาวต่างชาตินิยมเรียกชื่อเล่นว่าต๊อก ผู้ร่วมสำ�รวจและเก็บตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ ทั้ง 2
ชิ้น ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Gardens’ Bulletin Singapore เล่มที่ 61 ฉบับที่ 2 ปี พ.ศ. 2010 จากพรรณไม้ต้นแบบ
Pooma et al. 6906 (BKF)
14
โมกนเรศวร
Wrightia poomae D. J. Middleton
วงศ์ Apocynaceae
โมกนเรศวรเป็นพืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะทางภาคเหนือที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร อำ�เภอ
อุ้มผาง จังหวัดตาก ขึ้นตามสันเขาในป่าเบญจพรรณ ระดับความสูงประมาณ 700 เมตร เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก ใบเรียง
ตรงข้าม ยาว 2.3-12 ซม. ช่อดอกแบบช่อกระจุก ออกสั้นๆที่ปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงไม่มีต่อมที่โคนกลีบ กลีบดอรูปกงล้อ
หลอดกลีบดอกยาวประมาณ 2.7 มม. กลีบดอกยาวประมาณ 2 ซม. กระบังหน้ากลีบดอกเชื่อมติดกลีบดอกประมาณ
1 ใน 3 ปลาย แฉกลึกประมาณ 1 ใน 3 ของความยาว กระบังระหว่างกลีบดอกปลายแยกเป็น 2 แฉก กระบังที่อยู่
ระหว่างกระบังมีขนาดล็กติดที่โคนกลีบดอก
คำ�ระบุชนิด ตั้งเป็นเกียรติแก่นายราชันย์ ภู่มา นักวิจัยหอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผู้
ร่วมสำ�รวจและเก็บตัวอย่างต้นแบบทั้ง 2 ชิ้น ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Gardens’ Bulletin Singapore เล่มที่ 61
ฉบับที่ 2 ปี พ.ศ. 2010 จากพรรณไม้ต้นแบบ Pooma et al. 6973 (BKF)
15
โมกสยาม
Wrightia siamensis D.J. Middleton
วงศ์ Apocynaceae
พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะทางภาคใต้แถบจังหวัดสุราษฎร์ธานี กระบี่ และพังงา ขึ้นตามเขาหินปูน ระดับความสูง
ต่ำ�กว่า 100 เมตร เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ใบเรียงตรงข้าม 3-12 ซม. ช่อดอกแบบช่อกระจุก ออกสั้นๆ ตามปลายกิ่ง มี 3-5
ดอก มีต่อมที่โคนกลีบเลี้ยง ดอกบานรูปกงล้อ หลอดกลีบยาว 4-5 มม. กลีบยาว 1.4-1.5 ซม. มีปุ่มขนกระจาย กระ
บังหน้ากลีบดอกแนบติดบนกลีบดอกเกือบตลอดความยาว กระบังระหว่างกลีบดอกปลายแยก 2 แฉก ระหว่างจุดเชื่อมมี
กระบังขนาดเล็ก 10 อัน ผลเป็นฝักคู่ แยกกัน มีช่องอากาศ ยาว 13-15 ซม.
ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Thai Forest Bulletin (Botany) เล่มที่ 35 ปี ค.ศ. 2010 พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะ
ทางภาคใต้แถบจังหวัดกระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี เป็นไม้พุ่ม ขึ้นตามหน้าผาที่เป็นหินปูน จากพรรณไม้ต้นแบบ Gardner
& Sirisunthorn ST2613 (E, BKF, K)
16
โมกเครือ
Kamettia chandeei D.J. Middleton
วงศ์ Apocynaceae
พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
ระดับความสูง 400-750 เมตร เป็นไม้เถา ส่วนต่างๆ มียางขาว
ลำ�ต้นแก่เป็นคอร์ก กิ่งอ่อนมีช่องอากาศ ใบเดี่ยว เรียงรอบข้อ 3
ใบ หรือเรียงตรงข้าม ยาว 5.5-10.5 ซม. ช่อดอกแบบช่อกระจุก
ซ้อน ออกตามปลายกิ่ง ยาว 3.5-14 ซม. หลอดกลีบดอกยาว
1.2-1.6 ซม. กลีบยาว 1.2-1.8 ซม. ผลเป็นฝักคู่ มีช่องอากาศ
ยาวได้ประมาณ 20 ซม.
คำ�ระบุชนิด “chandeei “ ตั้งเป็นกียรติแก่นายจันดี เหมราฐ
เจ้าหน้าที่หอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์
พืช ผู้พบพืชชนิดนี้คนแรก และร่วมเก็บตัวอย่างกับ ดร. D.J.
Middleton ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Thai Forest Bulletin
(Botany) เล่มที่ 33 ปี ค.ศ. 2005 จากตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ
Middleton et al. 3418 (BKF, A, E, MICH)
17
หญ้าพันเกลียว
Ceropegia thailandica Meve
วงศ์ Ascleoiadaceae
พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์
ป่าภูวัว จังหวัดหนองคาย ขึ้นกระจายห่างๆ ตามทุ่งหญ้า
ที่ราบบนยอดภูเขาหินทรายชายป่าดิบแล้ง ระดับความสูง
ประมาณ 300 เมตร เป็นไม้ล้มลุก มีหัวใต้ดิน ลำ�ต้นคล้าย
หญ้า แตกกิ่ง มียางใส ใบเรียงตรงข้าม รูปแถบ ช่อแบบ
ช่อกระจุก มีเพียงดอกเดียว ดอกคล้ายรูปลิ่มแคบ หลอด
กลีบรูปทรงกระบอก มีขนด้านใน กลีบบิดเป็นเกลียว ยาว
4-5.5 ซม. โคนกลีบเป็นติ่ง มีขนกำ�มะหยี่สีม่วงดำ� ขอบ
กลีบมีขนครุย ปลายขนเป็นต่อมคล้ายรูปกระบอง มีกระ
บังรอบเส้าเกสร
	 คำ�ระบุชนิด “thailandica” ตั้งตามชื่อ
ประเทศไทย ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Bradleya เล่ม
ที่ 27 ปี ค.ศ. 2009 จากพรรณไม้ต้นแบบ Pooma et al.
7347 (BKF)
หนอนตายอยากคลองพนม
Stichoneuron calcicola Inthachub
วงศ์ Stemonaceae
พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่อุทยานแห่งชาติคลองพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้น
ตามหน้าผาหินปูนที่มีร่มเงา ระดับความสูง 100-300 เมตร เป็นไม้ล้มลุกโคนต้นแข็ง แตกกิ่ง
จำ�นวนมาก ลำ�ต้นห้อยลงยาวได้เกือบ 1 เมตร ใบเรียงสลับ รูปหัวใจ เส้นโคนใบ 4-7 เส้น ช่อ
ดอกแบบช่อกระจะแน่น ออกตามซอกใบ ก้านช่อยาวได้ประมาณ 3.5 ซม. แกนช่อยาวประมาณ
1.5 ซม. ดอกจำ�นวนมาก กลีบดอกสีแดงอมน้ำ�ตาล เส้นผ่านศุนย์กลาง 4-5 มม. ก้านดอกยาว
1-2 ซม. กลีบดอกมีขนสีแดงหนาแน่น ผลแบบแคปซูล ยาว 1-1.2 ซม. เมล็ดมีเยื่อหุ้มหยัก
เป็นพู
คำ�ระบุชนิด “calcicola” หมายถึงถิ่นที่อยู่ที่เป็นหินปูน ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Edin-
burgh Journal of Botany 66(2) ค.ศ. 2009 จากตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ Middleton et
al. 554 (A, BKF, E, L)
18
19
มะพลับระนอง
Diospyros ranongensis Phengklai
วงศ์ Ebenaceae
พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา จังหวัดระนอง ขึ้นตามสันเขาในป่าดิบชื้น ระดับความ
สูงประมาณ 600 เมตร เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก สูงได้ประมาณ 15 ม. ใบรูปรีหรือรูปขอบขนาน ยาว 10-15 ซม. ผลออกเดี่ยวๆ
ตามกิ่ง ทรงกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 5.5-7 ซม. ผิวขรุขระ กลีบเลี้ยงที่ผลเป็นวงคล้ายปลอกคอ ผนังผลแข็ง หนา มี 10-14
เมล็ด เอนโดสเปิร์มเรียบ
คำ�ระบุชนิด “ranongensis” ตั้งตามสถานที่ค้นพบ ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Thai Forest Bulletin (Botany) เล่มที่
33 ค.ศ. 2005 จากพันธุ์ไม้ต้นแบบ Niyomdham et al. 1440 (BKF, C, AAU)
20
ม่วงสอดสี
Perocosmea bicolor D.J. Middleton &
Triboun
วงศ์ Gesneriaceae
เป็นพืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะดอยอ่างขาง
จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นบนหินปูนในป่าดิบเขา ระดับความ
สูงประมาณ 1450 เมตร เป็นไม้ล้มลุก ใบเรียงแผ่ที่โคน
มี 2 แบบ แบบไร้ก้านใบและแบบมีก้านใบ แผ่นใบมีขน
สั้นนุ่มทั้งสองด้าน ช่อดอกแบช่อซี่ร่ม มี 8-14 ดอก ก้าน
ช่อยาว 3.5-10 ซม. มีขนต่อมหนาแน่น กลีบดอกรูป
ปากเปิด มี 2 สี มีปุ่มต่อมเล็กๆ ภายในหลอดและโคน
กลีบบน เกสรเพศผู้ 2 อัน เป็นหมัน 3 อัน
ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร Thai Forest Bulletin
(Botany) เล่มที่ 38 ปี ค.ศ. 2010 จากตัวอย่างพรรณ
ไม้ต้นแบบ Middleton et al. 4523 (BKF, A, BK, E)
กระเช้ายะลา
Aistolochia yalaensis Phuph.
วงศ์ Aristolochiaceae
	 พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะทางภาคใต้
ตอนล่างที่อำ�เภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ขึ้นตามเขาหิน
ปูนเตี้ยๆ ป่าดิบชื้น ระดับความสูงประมาณ 200 เมตร
เป็นไม้เถาล้มลุก เกาะเลื้อยตามหินปูน ดอกสีครีมอมเขียว
ปากหลอดกลีบสีม่วงอมแดง หลอดกลีบรูปทรงกระบอก
ยาวประมาณ 4 มม. งอขึ้น ปากหลอดกลีบมีขนสั้นนุ่ม
ด้านใน โคนหลอดกลีบเป็นกระเปาะทรงรีเกือบกลม ผล
ทรงรีกลม ยาวประมาณ 0.8-1 ซม.
คำ�ระบุชนิด “yalaensis” ตั้งตามสถานที่เก็บตัวอย่าง
พรรณไม้ต้นแบบ ตีพิมพ์ในวารสาร Thai Forest Bul-
letin (Botany) เล่มที่ 34 ค.ศ. 2006 ตัวอย่างพรรณไม้
ต้นแบบ Pooma et al. 4321 (BKF, K, L)
21
22
เปล้าน้ำ�
Croton fluviatilis Esser
วงศ์ Euphorbiaceae
พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะทางภาคตะวันออกแถบจังหวัดสุรินทร์ และอุบลราชธานี ขึ้นตามพื้นทรายริมลำ�ธาร
ระดับความสูง 100-250 เมตร เป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก ใบเรียงสลับ รูปแถบ ยาว 10-17 ซม. เปลี่ยนเป็นสีเหลือง
อมส้มก่อนหลุดร่วง มีต่อมขนาดเล็กที่โคน ช่อดอกออกที่ปลายกิ่ง ยาว 7-20 ซม. ดอกเพศผู้อยู้ช่วงบน ดอกเพศเมียอยู่
ช่วงโคน ผลแบบแคปซูล เรียบ ยาว 5-7 มม. แตกเป็น 3 ซีก
คำ�ระบุชนิด “fluviatilis” หมายถึงถิ่นที่อยู่ที่อยู่ใกล้แม่น้ำ� ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร Thai Forest Bulletin
(Botany) เล่มที่ 38 หน้าที่ 37-41 ค.ศ. 2010 จากพันธุ์ไม้ต้นแบบ Suddee et al. 3110 (BKF)
23
นิ้วมือพระนารายณ์ใบขน
Schefflera pooma Esser & Jebb.
วงศ์ Araliaceae
พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่ดอยหัวหมด จังหวัดตาก เป็นพืชอิงอาศัย ขึ้นบนพื้นดินหรือตามโขดหิน สูง 2–5 เมตร
มีหูใบเชื่อมติดก้านใบ ใบประกอบรูปฝ่ามือเรียงเวียน มีใบย่อย 7–10 ใบ ใบย่อยยาว 16–20 ซม. แผ่นใบด้านล่างมีขน เส้น
แขนงใบข้างละ 18–20 เส้น ช่อดอกแบบช่อซี่ร่มเชิงประกอบ มี 8–9 ช่อ ช่อซี่ร่มมี 15–25 ช่อ แต่ละช่อมี 9–13 ดอก กลีบ
ดอกสีขาว 6 กลีบ เกสรเพศผู้ 6 อัน รังไข่อยู่ใต้วงกลีบ ผลเป็นร่องตามยาว
ชื่อชนิด “pooma” ตั้งเป็นเกียรติแก่นายราชันย์ ภู่มา นักวิจัยหอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผู้
เก็บตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร Thai Forest Bulletin (Botany) เล่มที่ 38 ปี ค.ศ. 2010 จาก
ตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ Pooma et al. 6949 (BKF, M)
24
ที่ปรึกษา
เมธินี ตาฬุมาสวัสดิ์
ผู้เรียบเรียง
ราชันย์ ภู่มา
ออกแบบรูปเล่ม
ปรีชา การะเกตุ
ถ่ายภาพ
ราชันย์ ภู่มา
ปรีชา การะเกตุ
สมราน สุดดี
ธรรมรัตน์ พุทธไทย
จัดพิมพ์โดย
สำ�นักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
จำ�นวนพิมพ์ 	 เล่ม
พ.ศ. 2554 สงวนลิขสิทธ์
พิมพ์ที่
New species

Weitere ähnliche Inhalte

Was ist angesagt?

บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช การคายน้ำ (5)
บทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช   การคายน้ำ (5)บทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช   การคายน้ำ (5)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช การคายน้ำ (5)Pinutchaya Nakchumroon
 
การศึกษาโครงสร้างดอกคาร์เนชั่น พุด และกล้วยไม้ จัดทำโดยนักเรียนระดับชั้นม.5 ห...
การศึกษาโครงสร้างดอกคาร์เนชั่น พุด และกล้วยไม้ จัดทำโดยนักเรียนระดับชั้นม.5 ห...การศึกษาโครงสร้างดอกคาร์เนชั่น พุด และกล้วยไม้ จัดทำโดยนักเรียนระดับชั้นม.5 ห...
การศึกษาโครงสร้างดอกคาร์เนชั่น พุด และกล้วยไม้ จัดทำโดยนักเรียนระดับชั้นม.5 ห...JittapatS
 
การศึกษาโครงสร้างดอกคาร์เนชั่น พุด และกล้วยไม้ จัดทำโดยนักเรียนระดับชั้นม.5 ห...
การศึกษาโครงสร้างดอกคาร์เนชั่น พุด และกล้วยไม้ จัดทำโดยนักเรียนระดับชั้นม.5 ห...การศึกษาโครงสร้างดอกคาร์เนชั่น พุด และกล้วยไม้ จัดทำโดยนักเรียนระดับชั้นม.5 ห...
การศึกษาโครงสร้างดอกคาร์เนชั่น พุด และกล้วยไม้ จัดทำโดยนักเรียนระดับชั้นม.5 ห...JittapatS
 
การศึกษาโครงสร้าง ดอกพุดพิชญา ดอกกุหลาบ ดอกเฟื่องฟ้า กลุ่มที่ 10 ห้อง 931
การศึกษาโครงสร้าง ดอกพุดพิชญา ดอกกุหลาบ ดอกเฟื่องฟ้า กลุ่มที่ 10 ห้อง 931การศึกษาโครงสร้าง ดอกพุดพิชญา ดอกกุหลาบ ดอกเฟื่องฟ้า กลุ่มที่ 10 ห้อง 931
การศึกษาโครงสร้าง ดอกพุดพิชญา ดอกกุหลาบ ดอกเฟื่องฟ้า กลุ่มที่ 10 ห้อง 931SasipaChaya
 
มหัศจรรย์พืช
มหัศจรรย์พืชมหัศจรรย์พืช
มหัศจรรย์พืชWichai Likitponrak
 
พืชมีดอกและพืชไร้ดอก
พืชมีดอกและพืชไร้ดอกพืชมีดอกและพืชไร้ดอก
พืชมีดอกและพืชไร้ดอกbiwty_keng
 
พืชรอบตัวเรา
พืชรอบตัวเราพืชรอบตัวเรา
พืชรอบตัวเราsujitrapa
 
ส่วนต่างๆ ของพืช
ส่วนต่างๆ ของพืชส่วนต่างๆ ของพืช
ส่วนต่างๆ ของพืชPress Trade
 
หญ้าถอดปล้อง
หญ้าถอดปล้องหญ้าถอดปล้อง
หญ้าถอดปล้องphairoa
 
Hibiscus rosa sinensis L.
Hibiscus rosa sinensis L.Hibiscus rosa sinensis L.
Hibiscus rosa sinensis L.nrraachadan
 
โครงสร้างของดอกไม้
โครงสร้างของดอกไม้โครงสร้างของดอกไม้
โครงสร้างของดอกไม้dnavaroj
 
Plant structure group 9 room 931
Plant structure group 9 room 931 Plant structure group 9 room 931
Plant structure group 9 room 931 Maimai Pudit
 
Minibook Bio
Minibook BioMinibook Bio
Minibook BioTitiratHu
 
พืชรอบตัวเรา
พืชรอบตัวเราพืชรอบตัวเรา
พืชรอบตัวเราsujitrapa
 

Was ist angesagt? (20)

บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช การคายน้ำ (5)
บทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช   การคายน้ำ (5)บทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช   การคายน้ำ (5)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช การคายน้ำ (5)
 
การศึกษาโครงสร้างดอกคาร์เนชั่น พุด และกล้วยไม้ จัดทำโดยนักเรียนระดับชั้นม.5 ห...
การศึกษาโครงสร้างดอกคาร์เนชั่น พุด และกล้วยไม้ จัดทำโดยนักเรียนระดับชั้นม.5 ห...การศึกษาโครงสร้างดอกคาร์เนชั่น พุด และกล้วยไม้ จัดทำโดยนักเรียนระดับชั้นม.5 ห...
การศึกษาโครงสร้างดอกคาร์เนชั่น พุด และกล้วยไม้ จัดทำโดยนักเรียนระดับชั้นม.5 ห...
 
M6 125 60_5
M6 125 60_5M6 125 60_5
M6 125 60_5
 
การศึกษาโครงสร้างดอกคาร์เนชั่น พุด และกล้วยไม้ จัดทำโดยนักเรียนระดับชั้นม.5 ห...
การศึกษาโครงสร้างดอกคาร์เนชั่น พุด และกล้วยไม้ จัดทำโดยนักเรียนระดับชั้นม.5 ห...การศึกษาโครงสร้างดอกคาร์เนชั่น พุด และกล้วยไม้ จัดทำโดยนักเรียนระดับชั้นม.5 ห...
การศึกษาโครงสร้างดอกคาร์เนชั่น พุด และกล้วยไม้ จัดทำโดยนักเรียนระดับชั้นม.5 ห...
 
การศึกษาโครงสร้าง ดอกพุดพิชญา ดอกกุหลาบ ดอกเฟื่องฟ้า กลุ่มที่ 10 ห้อง 931
การศึกษาโครงสร้าง ดอกพุดพิชญา ดอกกุหลาบ ดอกเฟื่องฟ้า กลุ่มที่ 10 ห้อง 931การศึกษาโครงสร้าง ดอกพุดพิชญา ดอกกุหลาบ ดอกเฟื่องฟ้า กลุ่มที่ 10 ห้อง 931
การศึกษาโครงสร้าง ดอกพุดพิชญา ดอกกุหลาบ ดอกเฟื่องฟ้า กลุ่มที่ 10 ห้อง 931
 
สวนพฤกศาสตร์ 48
สวนพฤกศาสตร์ 48สวนพฤกศาสตร์ 48
สวนพฤกศาสตร์ 48
 
มหัศจรรย์พืช
มหัศจรรย์พืชมหัศจรรย์พืช
มหัศจรรย์พืช
 
Plant ser 143_60_5
Plant ser 143_60_5Plant ser 143_60_5
Plant ser 143_60_5
 
Kingdom plantae
Kingdom plantaeKingdom plantae
Kingdom plantae
 
พืชมีดอกและพืชไร้ดอก
พืชมีดอกและพืชไร้ดอกพืชมีดอกและพืชไร้ดอก
พืชมีดอกและพืชไร้ดอก
 
wan
wanwan
wan
 
พืชรอบตัวเรา
พืชรอบตัวเราพืชรอบตัวเรา
พืชรอบตัวเรา
 
ราก (T)
ราก (T)ราก (T)
ราก (T)
 
ส่วนต่างๆ ของพืช
ส่วนต่างๆ ของพืชส่วนต่างๆ ของพืช
ส่วนต่างๆ ของพืช
 
หญ้าถอดปล้อง
หญ้าถอดปล้องหญ้าถอดปล้อง
หญ้าถอดปล้อง
 
Hibiscus rosa sinensis L.
Hibiscus rosa sinensis L.Hibiscus rosa sinensis L.
Hibiscus rosa sinensis L.
 
โครงสร้างของดอกไม้
โครงสร้างของดอกไม้โครงสร้างของดอกไม้
โครงสร้างของดอกไม้
 
Plant structure group 9 room 931
Plant structure group 9 room 931 Plant structure group 9 room 931
Plant structure group 9 room 931
 
Minibook Bio
Minibook BioMinibook Bio
Minibook Bio
 
พืชรอบตัวเรา
พืชรอบตัวเราพืชรอบตัวเรา
พืชรอบตัวเรา
 

Andere mochten auch

Woman - 8 March
Woman - 8 MarchWoman - 8 March
Woman - 8 MarchVili 48
 
Joke With Photoshop
Joke With PhotoshopJoke With Photoshop
Joke With PhotoshopVili 48
 
India through my lens
India through my lensIndia through my lens
India through my lensArun Bhat
 
Kajuraho group of monuments
Kajuraho group of monumentsKajuraho group of monuments
Kajuraho group of monumentsFlobz Caloy
 
Himachal Pradesh Prentation
Himachal Pradesh PrentationHimachal Pradesh Prentation
Himachal Pradesh PrentationHoneymoon Bug
 
กระบี่มังกรบินเถ่งเล่งเกี่ยม เล่ม1
กระบี่มังกรบินเถ่งเล่งเกี่ยม เล่ม1กระบี่มังกรบินเถ่งเล่งเกี่ยม เล่ม1
กระบี่มังกรบินเถ่งเล่งเกี่ยม เล่ม1sornblog2u
 
เทคนิคและวิธีการเพาะเลี้ยงเห็ด
เทคนิคและวิธีการเพาะเลี้ยงเห็ดเทคนิคและวิธีการเพาะเลี้ยงเห็ด
เทคนิคและวิธีการเพาะเลี้ยงเห็ดsornblog2u
 
The Fish Chicks ~ FISH Philosophy Workshops!
The Fish Chicks ~ FISH Philosophy Workshops!The Fish Chicks ~ FISH Philosophy Workshops!
The Fish Chicks ~ FISH Philosophy Workshops!Dawna Kinnunen
 
Fishing powerpoint
Fishing powerpointFishing powerpoint
Fishing powerpointcharlie1984
 
Himachal Pradesh, an Indian State
Himachal Pradesh, an Indian StateHimachal Pradesh, an Indian State
Himachal Pradesh, an Indian StateKrishna Chaitanya
 
Aquarium fish breeding
Aquarium fish breedingAquarium fish breeding
Aquarium fish breedingSameer Chebbi
 
Himanchal Pradesh..Land of Gods
Himanchal Pradesh..Land of GodsHimanchal Pradesh..Land of Gods
Himanchal Pradesh..Land of GodsFreelancer
 
The Complete Aquarium Guide
The Complete Aquarium GuideThe Complete Aquarium Guide
The Complete Aquarium Guideguest9f77e8
 
Aquarium and ornamental fish ppt
Aquarium and ornamental fish pptAquarium and ornamental fish ppt
Aquarium and ornamental fish pptKartik Mondal
 

Andere mochten auch (20)

Woman - 8 March
Woman - 8 MarchWoman - 8 March
Woman - 8 March
 
Joke With Photoshop
Joke With PhotoshopJoke With Photoshop
Joke With Photoshop
 
India through my lens
India through my lensIndia through my lens
India through my lens
 
Kajuraho group of monuments
Kajuraho group of monumentsKajuraho group of monuments
Kajuraho group of monuments
 
Himachal Pradesh Prentation
Himachal Pradesh PrentationHimachal Pradesh Prentation
Himachal Pradesh Prentation
 
Agribusiness 360: Ornamental Fish Trade
Agribusiness 360: Ornamental Fish TradeAgribusiness 360: Ornamental Fish Trade
Agribusiness 360: Ornamental Fish Trade
 
กระบี่มังกรบินเถ่งเล่งเกี่ยม เล่ม1
กระบี่มังกรบินเถ่งเล่งเกี่ยม เล่ม1กระบี่มังกรบินเถ่งเล่งเกี่ยม เล่ม1
กระบี่มังกรบินเถ่งเล่งเกี่ยม เล่ม1
 
เทคนิคและวิธีการเพาะเลี้ยงเห็ด
เทคนิคและวิธีการเพาะเลี้ยงเห็ดเทคนิคและวิธีการเพาะเลี้ยงเห็ด
เทคนิคและวิธีการเพาะเลี้ยงเห็ด
 
The Fish Chicks ~ FISH Philosophy Workshops!
The Fish Chicks ~ FISH Philosophy Workshops!The Fish Chicks ~ FISH Philosophy Workshops!
The Fish Chicks ~ FISH Philosophy Workshops!
 
Fishing powerpoint
Fishing powerpointFishing powerpoint
Fishing powerpoint
 
Himachal Pradesh, an Indian State
Himachal Pradesh, an Indian StateHimachal Pradesh, an Indian State
Himachal Pradesh, an Indian State
 
Presentation Of Fish Book
Presentation Of Fish BookPresentation Of Fish Book
Presentation Of Fish Book
 
Aquarium fish breeding
Aquarium fish breedingAquarium fish breeding
Aquarium fish breeding
 
Himanchal Pradesh..Land of Gods
Himanchal Pradesh..Land of GodsHimanchal Pradesh..Land of Gods
Himanchal Pradesh..Land of Gods
 
The Complete Aquarium Guide
The Complete Aquarium GuideThe Complete Aquarium Guide
The Complete Aquarium Guide
 
Aquarium
AquariumAquarium
Aquarium
 
Aquarium
AquariumAquarium
Aquarium
 
Ornamental fish breeding
Ornamental fish breedingOrnamental fish breeding
Ornamental fish breeding
 
Aquarium and ornamental fish ppt
Aquarium and ornamental fish pptAquarium and ornamental fish ppt
Aquarium and ornamental fish ppt
 
Khajuraho
KhajurahoKhajuraho
Khajuraho
 

Ähnlich wie New species (20)

Plant ser 77_60_8
Plant ser 77_60_8Plant ser 77_60_8
Plant ser 77_60_8
 
Plant ser 125_60_1
Plant ser 125_60_1Plant ser 125_60_1
Plant ser 125_60_1
 
Plant ser 77_60_6
Plant ser 77_60_6Plant ser 77_60_6
Plant ser 77_60_6
 
Raitai
RaitaiRaitai
Raitai
 
Plant ser 125_60_4
Plant ser 125_60_4Plant ser 125_60_4
Plant ser 125_60_4
 
Rose, Bougainvillea and Ruellia tuberosa Flower Structure Observation by M.5 ...
Rose, Bougainvillea and Ruellia tuberosa Flower Structure Observation by M.5 ...Rose, Bougainvillea and Ruellia tuberosa Flower Structure Observation by M.5 ...
Rose, Bougainvillea and Ruellia tuberosa Flower Structure Observation by M.5 ...
 
Plant ser 126_60_7
Plant ser 126_60_7Plant ser 126_60_7
Plant ser 126_60_7
 
Plant ser 77_60_2
Plant ser 77_60_2Plant ser 77_60_2
Plant ser 77_60_2
 
Plant ser 143_60_7
Plant ser 143_60_7Plant ser 143_60_7
Plant ser 143_60_7
 
Plant ser 144_60_7
Plant ser 144_60_7Plant ser 144_60_7
Plant ser 144_60_7
 
M6 78 60_1
M6 78 60_1M6 78 60_1
M6 78 60_1
 
Plant ser 125_60_10
Plant ser 125_60_10Plant ser 125_60_10
Plant ser 125_60_10
 
orangejasmineherbarium815
orangejasmineherbarium815orangejasmineherbarium815
orangejasmineherbarium815
 
Plant ser 77_60_5
Plant ser 77_60_5Plant ser 77_60_5
Plant ser 77_60_5
 
orangejasmineherbarium815
orangejasmineherbarium815orangejasmineherbarium815
orangejasmineherbarium815
 
931 pre8
931 pre8931 pre8
931 pre8
 
Minibook group 8 m.5/834
Minibook group 8 m.5/834Minibook group 8 m.5/834
Minibook group 8 m.5/834
 
M6 125 60_8
M6 125 60_8M6 125 60_8
M6 125 60_8
 
Sweet
SweetSweet
Sweet
 
Chongkho
ChongkhoChongkho
Chongkho
 

Mehr von sornblog2u

สามก๊ก ฉบับ การเมือง(ฉบับตัดตอน)
สามก๊ก ฉบับ การเมือง(ฉบับตัดตอน)สามก๊ก ฉบับ การเมือง(ฉบับตัดตอน)
สามก๊ก ฉบับ การเมือง(ฉบับตัดตอน)sornblog2u
 
7. The Sustainable Energy Handbook for NGOs and Local Groups
7. The Sustainable Energy Handbook for NGOs and Local Groups7. The Sustainable Energy Handbook for NGOs and Local Groups
7. The Sustainable Energy Handbook for NGOs and Local Groupssornblog2u
 
5. Wing Energy
5. Wing Energy5. Wing Energy
5. Wing Energysornblog2u
 
4. Passive Cooling
4. Passive Cooling4. Passive Cooling
4. Passive Coolingsornblog2u
 
3. Charcoal : Small Scale Production and Use
3. Charcoal : Small Scale Production and Use3. Charcoal : Small Scale Production and Use
3. Charcoal : Small Scale Production and Usesornblog2u
 
2. Heat and Electricity from Solar Energy
2. Heat and Electricity from Solar Energy2. Heat and Electricity from Solar Energy
2. Heat and Electricity from Solar Energysornblog2u
 
1. Gas Producer Engine System from Biomass
1. Gas Producer Engine System from Biomass1. Gas Producer Engine System from Biomass
1. Gas Producer Engine System from Biomasssornblog2u
 
6. Biogas : Design and Construction Small Digester
6. Biogas : Design and Construction Small Digester6. Biogas : Design and Construction Small Digester
6. Biogas : Design and Construction Small Digestersornblog2u
 
เอกสารประกอบการอบรมติดตั้งจานดาวเทียม (Sat2u 2556)
เอกสารประกอบการอบรมติดตั้งจานดาวเทียม (Sat2u 2556)เอกสารประกอบการอบรมติดตั้งจานดาวเทียม (Sat2u 2556)
เอกสารประกอบการอบรมติดตั้งจานดาวเทียม (Sat2u 2556)sornblog2u
 
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงsornblog2u
 
คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น
คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น
คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นsornblog2u
 
The coming collapse of thailand (สู่จุดจบ)
The coming collapse of thailand (สู่จุดจบ)The coming collapse of thailand (สู่จุดจบ)
The coming collapse of thailand (สู่จุดจบ)sornblog2u
 
หลักการและวิธีการใช้สะเดา ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช
หลักการและวิธีการใช้สะเดา ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืชหลักการและวิธีการใช้สะเดา ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช
หลักการและวิธีการใช้สะเดา ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืชsornblog2u
 
คู่มือพึ่งตนเอง (Self-Sufficient Book)
คู่มือพึ่งตนเอง (Self-Sufficient Book)คู่มือพึ่งตนเอง (Self-Sufficient Book)
คู่มือพึ่งตนเอง (Self-Sufficient Book)sornblog2u
 
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน2
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน2คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน2
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน2sornblog2u
 
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน1
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน1คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน1
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน1sornblog2u
 
Money101 giftversion
Money101 giftversionMoney101 giftversion
Money101 giftversionsornblog2u
 
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม11
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม11มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม11
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม11sornblog2u
 
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม10
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม10มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม10
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม10sornblog2u
 
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม8
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม8มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม8
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม8sornblog2u
 

Mehr von sornblog2u (20)

สามก๊ก ฉบับ การเมือง(ฉบับตัดตอน)
สามก๊ก ฉบับ การเมือง(ฉบับตัดตอน)สามก๊ก ฉบับ การเมือง(ฉบับตัดตอน)
สามก๊ก ฉบับ การเมือง(ฉบับตัดตอน)
 
7. The Sustainable Energy Handbook for NGOs and Local Groups
7. The Sustainable Energy Handbook for NGOs and Local Groups7. The Sustainable Energy Handbook for NGOs and Local Groups
7. The Sustainable Energy Handbook for NGOs and Local Groups
 
5. Wing Energy
5. Wing Energy5. Wing Energy
5. Wing Energy
 
4. Passive Cooling
4. Passive Cooling4. Passive Cooling
4. Passive Cooling
 
3. Charcoal : Small Scale Production and Use
3. Charcoal : Small Scale Production and Use3. Charcoal : Small Scale Production and Use
3. Charcoal : Small Scale Production and Use
 
2. Heat and Electricity from Solar Energy
2. Heat and Electricity from Solar Energy2. Heat and Electricity from Solar Energy
2. Heat and Electricity from Solar Energy
 
1. Gas Producer Engine System from Biomass
1. Gas Producer Engine System from Biomass1. Gas Producer Engine System from Biomass
1. Gas Producer Engine System from Biomass
 
6. Biogas : Design and Construction Small Digester
6. Biogas : Design and Construction Small Digester6. Biogas : Design and Construction Small Digester
6. Biogas : Design and Construction Small Digester
 
เอกสารประกอบการอบรมติดตั้งจานดาวเทียม (Sat2u 2556)
เอกสารประกอบการอบรมติดตั้งจานดาวเทียม (Sat2u 2556)เอกสารประกอบการอบรมติดตั้งจานดาวเทียม (Sat2u 2556)
เอกสารประกอบการอบรมติดตั้งจานดาวเทียม (Sat2u 2556)
 
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง
 
คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น
คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น
คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น
 
The coming collapse of thailand (สู่จุดจบ)
The coming collapse of thailand (สู่จุดจบ)The coming collapse of thailand (สู่จุดจบ)
The coming collapse of thailand (สู่จุดจบ)
 
หลักการและวิธีการใช้สะเดา ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช
หลักการและวิธีการใช้สะเดา ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืชหลักการและวิธีการใช้สะเดา ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช
หลักการและวิธีการใช้สะเดา ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช
 
คู่มือพึ่งตนเอง (Self-Sufficient Book)
คู่มือพึ่งตนเอง (Self-Sufficient Book)คู่มือพึ่งตนเอง (Self-Sufficient Book)
คู่มือพึ่งตนเอง (Self-Sufficient Book)
 
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน2
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน2คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน2
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน2
 
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน1
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน1คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน1
คู่มือการสร้างอุปกรณ์ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ตอน1
 
Money101 giftversion
Money101 giftversionMoney101 giftversion
Money101 giftversion
 
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม11
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม11มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม11
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม11
 
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม10
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม10มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม10
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม10
 
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม8
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม8มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม8
มังกรหยกภาค2 อินทรีจ้าวยุทธจักร เล่ม8
 

New species

  • 2. 1 การสำ�รวจและเก็บพรรณไม้ของประเทศไทยในทศวรรษที่ผ่าน มามีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้นจากความตื่นตัวในการศึกษาวิจัย ด้านอนุกรมวิธานพืชของหน่วยงานต่างๆ อันเป็นผลมาจากอนุสัญญา ว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ (Convention on Biological Diversity) ที่ประเทศไทยได้ลงสัตยาบัญ ทำ�ให้มีการค้นพบพืชชนิด ใหม่ของโลก (new species) อย่างต่อเนื่อง และได้รับการตีพิมพ์เผย แพร่ลงในวารสารทางวิชาการต่างๆ ตลอดมา ในส่วนของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งเป็นหน่วยงานหน่ง ที่มีภารกิจสำ�คัญในการศึกษาวิจัยด้านอนุกรมวิธานพืชของประเทศไทยมาเป็น เวลายาวนานตั้งแต่ก่อนแยกตัวมาจากกรมป่าไม้ เมื่อปี พ.ศ. 2546 ซึ่งทำ�ให้มี ภารกิจด้านการศึกษาวิจัยด้านพรรณพืชที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ดังนั้น กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงได้รวบรวมพืชชนิดใหม่ ของโลก อันเป็นผลจากการออกสำ�รวจและเก็บตัวอย่างพรรณไม้โดยสำ�นักงาน หอพรรณไม้ หรือได้ร่วมกับนักวิจัยอื่นๆ รวมถึงการศึกษาวิจัยด้านอนุกรม วิธานพืชในช่วงระยะเวลาที่ได้อยู่ภายใต้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์ พืช ซึ่งสำ�นักงานหอพรรณไม้เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่สำ�รวจและเก็บรวบรวม พรรณไม้ เก็บรักษาตัวอย่างพรรณไม้ไว้ในรูปของหอพรรณไม้ และรับผิดชอบ ดำ�เนินโครงการพรรณพฤกษชาติของประเทศไทย (Flora of Thailand) ที่มี ความร่วมมือจากนักพฤกษศาสตร์ตั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจำ�นวนมาก ทำ�ให้ได้รับรายงานการค้นพบพืชชนิดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นข้อมูลการ ค้นพบพืชชนิดใหม่ของโลกนี้นอกจากจะเป็นข้อมูลด้านการศึกษาวิจัยพรรณพืช ของประเทศไทยสำ�หรับนักวิจัยที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังเป็นประโยชน์ แก่ผู้สนใจและ ชื่นชมกับพรรณไม้พื้นเมืองของไทย เพื่อให้เกิดความภูมิใจในพรรณไม้ไทยที่ ได้รับการค้นพบเป็นครั้งแรก อันจะก่อให้เกิดความหวงแหนและร่วมกันปกป้อง รักษาไว้ให้เป็นมรดกแก่ชนรุ่นหลังต่อๆ ไป การค้นพบ พืชชนิดใหม่ ของโลก (new species) ในประเทศไทย
  • 3. 2
  • 4. 3 กระเช้าคลองพนม Aistolochia kongkandae Phuph. วงศ์ Aristolochiaceae พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่เขาสกและคลอง พนม จังหวัดสุราฎรฺธานี ขึ้นตามหน้าผาหินปูน ระดับ ความสูง 100-200 เมตร เป็นไม้เถาล้มลุก หลอดกลีบ รูปทรงกระบอกสีครีมอมแดง งอขึ้นเล็กน้อย ปลาย กลีบบานออก ด้านในสีม่วงอมแดง โคนหลอดกลีบ เป็นกระเปาะทรงรี ผลทรงกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 5-7 มม. แตกเป็น 6 ซีก คำ�ระบุชนิด “kongkandae” ตั้งเป็นเกียรติ แก่ ดร.ก่องกานดา ชยามฤต ตีพิมพ์ในวารสาร Thai Forest Bulletin (Botany) เล่มที่ 34 ค.ศ. 2006 จาก ตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ Chayamarit et al. 2607 (BKF, C, E) กระเช้ายะลา Aistolochia yalaensis Phuph. วงศ์ Aristolochiaceae พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะทางภาคใต้ตอนล่าง ที่อำ�เภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ขึ้นตามเขาหินปูนเตี้ยๆ ป่าดิบชื้น ระดับความสูงประมาณ 200 เมตร เป็นไม้เถา ล้มลุก เกาะเลื้อยตามหินปูน ดอกสีครีมอมเขียว ปาก หลอดกลีบสีม่วงอมแดง หลอดกลีบรูปทรงกระบอก ยาวประมาณ 4 มม. งอขึ้น ปากหลอดกลีบมีขนสั้นนุ่ม ด้านใน โคนหลอดกลีบเป็นกระเปาะทรงรีเกือบกลม ผล ทรงรีกลม ยาวประมาณ 0.8-1 ซม. คำ�ระบุชนิด “yalaensis” ตั้งตามสถานที่เก็บ ตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ ตีพิมพ์ในวารสาร Thai For- est Bulletin (Botany) เล่มที่ 34 ค.ศ. 2006 ตัวอย่าง พรรณไม้ต้นแบบ Pooma et al. 4321 (BKF, K, L)
  • 5. 4 กะฉอดคลองพนม Tectaria phanomensis S. Linds. วงศ์ Dryopteridaceae พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่อุทยานแห่งชาติ คลองพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นตามซอกหินปูนที่ มีดินตื้นๆ ระดับความสูงประมาณ 100 เมตร เป็นเฟิน ขนาดเล็ก เหง้ามีเกล็ดหนาแน่น ก้านใบยาวประมาณ 40-48 ซม. แผ่นใบยาวประมาณ 60 ซม. แผ่นใบ ประกอบย่อยด้านล่างมีขนาดใหญ่ ยาวได้ประมาณ 30 ซม. แผ่นใบประกอบย่อยอื่นขนาดลดหลั่นจนยาวได้ ประมาณ 10 ซม. จักแบบขนนก มีก้านหรือไร้ก้าน กลุ่ม สปอร์มี 1-3 แถว สปอร์มีรอยย่น คำ�ระบุชนิด “phanomensis” ตั้งตามสถานที่ค้น พบ ได้รับการ ตีพิมพ์ลงในวารสาร Thai Forest Bul- letin (Botany) เล่มที่ 36 หน้าที่ 49 เมื่อ ค.ศ. 2008 จากตัวอย่างพันธุ์ไม้ต้นแบบ Middleton, Lindsay & Pooma 2140 (A, BKF) เฟิร์นก้านดำ�คลองพนม Adiantum phanomensis S. Lindsay & D. J. Middleton วงศ์ Adiantaceae พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่อุทยานแห่งชาติ คลองพนม จังหวัดสุราษฏร์ธานี ขึ้นตามหน้าผาเขา หินปูนที่ค่อนข้างมีความชุ่มชื้นสูง เป็นเฟินขนาดเล็ก สูงไม่เกิน 20 ซม. เหง้าสั้น มีเกล็ดขนาดเล็กสีดำ�หุ้ม ก้านใบยาวได้ประมาณ 4.5 ซม. ใบประกอบแบบขนนก ยาวประมาณ 10-18 ซม. แผ่นใบรูปคล้ายสามเหลี่ยม ยาว 0.6-1.2 ซม. ปลายจักมนตื้นๆ มีขนสั้นนุ่มหนา แน่นด้านล่าง กลุ่มอับสปอร์ติดที่ปลายแผ่นใบด้านล่าง สีน้ำ�ตาลดำ� คำ�ระบุชนิด “phanomensis” ตั้งตามสถานที่ค้น พบ ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร Harvard Papapers in Botany 8(2) หน้าที่ 137 ค.ศ. 2004 จากตัวอย่าง พรรณไม้ต้นแบบ Middleton, Lindsay & Pooma 2133 (BKF, A, BCU, L)
  • 6. 5
  • 7. 6 เอื้องกลีบติดปากฝอย Gastrodia fimbriata Suddee วงศ์ Orchidaceae พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่อุทยานแห่งชาติแก่ง กระจาน จังหวัดเพชรบุรี ขึ้นตามพื้นดินในป่าไผ่ ระดับ ความสูงประมาณ 900 เมตร เป็นกล้วยไม้กินซาก มีเหง้า ใต้ดิน ยาว 4-8 ซม. ช่อดอกยาวได้ประมาณ 1 ม. ดอก จำ�นวนมาก ก้านดอกยาว 3-5 มม. ดอกสีขาวอมชมพู ยาว 1.5-2 ซม. รวมรังไข่ กลีบดอกและกลีบเลี้ยงเชื่อม ติดกันรูปถ้วย ส่วนแยกกลีบเลี้ยงรูปสามเหลี่ยม ยาว 3-5 มม. ส่วนแยกกลีบดอกกลม ยาว 2-3 มม. กลีบปากรูป ไข่ ยาว 6-7 มม. หยัก 3 พู กลีบกลางปลายจักชายครุย คำ�ระบุชนิด “fimbriata” หมายถึงขอบกลีบปาก จักชายครุย ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร Harvard Papapers in Botany 9(2) หน้าที่ 435 ค.ศ. 2005 จากตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ Middleton at al. 1805 (BKF, A) กะเพราตะนาวศรี Teucrium scabrum Suddee & A.J. Paton วงศ์ Lamiaceae (Labiatae) พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่จังหวัดตากและ จังหวัดกาญจนบุรีบริเวณอุทยานแห่งชาติเอราวัณและ ด่านเจดีย์สามองค์ ขึ้นบนเขาหินปูนที่เปิดโล่ง ระดับความ สูง 500-1000 เมตร เป็นไม้ล้มลุก ลำ�ต้นส่วนมากไม่แตก กิ่ง แผ่นใบมีขนสากและต่อมทั้งสองด้าน ช่อดอกแบบช่อ กระจุกไม่แตกช่อแขนงหรือแตกที่โคน ดอกเรียงเป็นกระ จุกละ 2 ดอก เป็นชั้นห่างๆ บนแกนช่อ ใบประดับ กลีบ เลี้ยง และกลีบดอกมีขนต่อมทั่วไป กลีบดอกรูปปาก เปิด สีม่วงอ่อน ยาว 0.8-1.2 ซม. กลีบล่างกลีบกลาง ขนาดใหญ่ คำ�ระบุชนิด “scabrum” หมายถึงมีขนสากตามแผ่น ใบ ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Kew Bulletin Vol. 63(4) ค.ศ. 2008 จากตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ Suddee & Puudja 1101 (BKF, K, TCD) ที่เก็บจากดอยหัวหมด อำ�เภออุ้มผาง จังหวัดตาก
  • 8. 7
  • 9. 8 กะเพราน้ำ�โขง Platostoma mekongense Suddee วงศ์ Labiatae พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี ขึ้นตามพื้นที่เปิดโล่งบนแผ่นหินทราย ในป่าเต็งรัง ระดับความสูงประมาณ 300 เมตร เป็นไม้ล้มลุก ลำ�ต้นเป็นเหลี่ยม ใบเรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก ช่อดอกออก ที่ปลายกิ่ง ช่อย่อยเวียนรอบข้อ แต่ละช่อย่อยห่างกัน 0.5-1 ซม. กลีบเลี้ยงกลีบหน้ายื่นยาวกว่าหลอดกลีบ หลอดกลีบมี ขนยาว กลีบดอกรูปปากเปิดสีขาวอมเขียว กลีบปากมีขนสั้น นุ่ม เกสรเพศผู้ยื่นเลยปากกลีบดอก คำ�ระบุชนิด “mekongensis” ตั้งตามสถานที่ค้นพบใกล้ ริมแม่น้ำ�โขง ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Kew Bulletin เล่ม ที่ 60 (1) หน้าที่ 65 เมื่อปี ค.ศ. 2005 จากตัวอย่างพันธุ์ไม้ ต้นแบบ Chalermglin & Meade 98-10-16-02 (BKF, K) กะเพราหิน Plectranthus albicalyx S. Suddee วงศ์ Lamiaceae (Labiatae) พืชถิ่นเดียวของไทย มีเขตการกระจายพันธุ์แคบๆ พบ เฉพาะที่จังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา กาญจนบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ขึ้นบนหินปูนในป่าดิบแล้ง ระดับความสูง 50-500 เมตร เป็นไม้ล้มลุก ช่อดอกแบบ ช่อกระจุกแยกแขนง แกนช่อและดอกมีขนสั้นนุ่ม ขนต่อม และต่อมกระจาย ช่อย่อยมีประมาณ 3 ดอก กลีบดอกรูป ปากเปิด สีม่วงอมน้ำ�เงิน ยาว 0.7-1 ซม. ผลรูปไข่หรือรูปรี เกลี้ยง กลีบเลี้ยงติดทน คำ�ระบุชนิด “albicalyx” หมายถึง.......................... ตีพิมพ์ในวารสาร Kew Bulletin เล่มที่ 59 ค.ศ. 2004 จาก ตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ Suddee 868 (BKF, K, TCD) ที่ เก็บจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จังหวัดกาญจนบุรี
  • 10. 9
  • 11. 10 เครือเทพรัตน์ Thepparatia thailandica Phuph. วงศ์ Malvaceae พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะทางภาคเหนือแถบจังหวัดเชียงใหม่และตาก เป็นไม้เถาขนาดใหญ่ ขึ้นเกาะพันบนต้นไม้ในป่า เบญจพรรณหรือตามเขาหินปูน ระดับความสูง 500-700 เมตร เป็นไม้เถาเนื้อแข็ง มีขนรูปดาวตามท้องใบ ก้านใบ ช่อดอก ริ้ว ประดับ และกลีบเลี้ยง แผ่นใบรูปฝ่ามือมี 3-5 แฉกตื้นๆ มีต่อมทั่วไปด้านบนของแผ่นใบ ช่อดอกห้อยลง ยาวได้ถึงประมาณ 20 ซม. ดอกจำ�นวนมาก ริ้วประดับติดทน มี 5-7 กลีบ กลีบดอก 5 กลีบ สีเหลืองอ่อนหรือสีครีม มีปื้นสีแดง ยาว 3-3.5 ซม. ปลายกลีบพับงอ เกสรตัวผู้ติดกันเป็นหลอด พืชสกุลใหม่และชนิดใหม่ของโลก ซึ่งตั้งตามพระนามสมเด็จพระเทพ รัตน์ราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ตีพิมพ์ในวารสาร Thai Forest Bul- letin (Botany) เล่มที่ 34 ค.ศ. 2006 จากพรรณไม้ต้นแบบ Pooma et al. 4981 (BKF) ที่เก็บจากอำ�เภอท่าสองยาง จังหวัดตาก
  • 12. 11 กาฝากวงกลีบแดง Tolypanthus pustulatus Barlow วงศ์ Loranthaceae พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จังหวัดหนองคาย เป็นกาฝากขึ้นบนต้นไม้ในวงศ์อบเชย (Lauraceae) ที่ขึ้นในป่าดิบแล้ง ระดับความสูงประมาณ 200 เมตร เป็นกาฝากไม้พุ่ม ลำ�ต้นมีช่องอากาศกระจาย ใบเรียง ห่างๆ ช่อดอกแบบกระจุกสั้น ติดบนวงกลีบประดับ วงกลีบประดับมี 6-8 กลีบ ติดกันประมาณกึ่งหนึ่งคล้ายรูประฆัง ยาว 1.5-2 ซม. สีแดงอมชมพู ดอกย่อยมี 4-6 ดอก ติดที่โคนวงกลีบประดับ กลีบดอกสีขาวมีแถบเป็นสันสีแดงอมชมพู ปลาย แยกเป็น 5 กลีบ ผิวด้านนอกพองตั้งแต่ปลายกลีบจนถึงช่วงพับงอ เห็นชัดเจน คำ�ระบุชนิด “pustulatus” ที่แปลว่าเป็นตุ่ม หมายถึงมีลักษณะคล้ายรอยเป็นตุ่มที่กลีบดอกด้านนอกใกล้จุดพับงอ ได้ รับการตีพิมพ์ในวารสาร Thai Forest Bulletin (Botany) No. 33 ค.ศ. 2005 จากตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ Pooma et al. 4158 (BKF, CANB)
  • 13. 12 โมกการะเกตุ Wrightia karaketii D. J. Middleton วงศ์ Apocynaceae พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่อำ�เภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ใกล้ชายแดนไทย-พม่า (กิ่วผาวอก) ขึ้นตามเขาหิน ปูนเตี้ยๆ ในป่าเบญจพรรณ ระดับความสูงประมาณ 750 เมตร เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก กลีบเลี้ยงมีต่อมที่โคนกลีบด้านใน กลีบ ดอกรูปกงล้อ หลอดกลีบสั้น กลีบรูปไข่กลับ ยาว 1.7-2 ซม. มีปุ่มเล็กๆ กระจาย กระบังเชื่อมติดกันเป็นวง แนบติดกลีบดอก ปลายไม่แนบติดกลีบดอก ผลเป็นฝักคู่ กางออก ยาว 30-40 ซม. มีช่องอากาศหนาแน่น คำ�ระบุชนิด “karaketii” ตั้งเป็นเกียรติแก่นายปรีชา การะเกตุ หอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผู้ ร่วมสำ�รวจและเก็บตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ ตีพิมพ์ในวารสาร Gardens’ Bulletin Singapore เล่มที่ 61 ฉบับที่ 2 ปี พ.ศ. 2010 จากพรรณไม้ต้นแบบ Pooma et al. 6732 (BKF, E)
  • 14. 13 โมกพะวอ Wrightia tokiae D. J. Middleton วงศ์ Apocynaceae พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะทางภาคเหนือที่อำ�เภอแม่สอด จังหวัดตาก ใกล้กับศาลพะวอ ขึ้นบนเชิงเขาหินปูน ในป่า เบญจพรรณ ระดับความสูงประมาณ 700 เมตร เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก กิ่งอ่อนมีขนละเอียดรูปตะขอสั้น ๆ ใบเรียงตรงข้าม ยาว 5.3-21 ซม. มีปุ่มเล็กๆ กระจายด้านบน ช่อดอกแบบช่อกระจุกสั้น ๆ ออกตามปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงไม่มีต่อมที่โคน กลีบ ดอกรูปกงล้อ หลอดกลีบยาวประมาณ 2.5 มม. กลีบยาวประมาณ 1.3 ซม. กระบังเรียงติดกันเป็นวงคล้ายรูปถ้วย แนบ กลีบดอกเฉพาะที่โคนประมาณ 5 มม. ผลเป็นฝักคู่ เรียงชิดกัน ปลายเชื่อมติดกัน ยาวประมาณ 13.5 ซม. มีช่องอากาศ กระจายหนาแน่น คำ�ระบุชนิด “tokiae” ตั้งเป็นเกียรติแก่นางสาวนันท์นภัส ภัทรหิรัญไตรสิน นักวิจัยของหอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่ง ชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งชาวต่างชาตินิยมเรียกชื่อเล่นว่าต๊อก ผู้ร่วมสำ�รวจและเก็บตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ ทั้ง 2 ชิ้น ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Gardens’ Bulletin Singapore เล่มที่ 61 ฉบับที่ 2 ปี พ.ศ. 2010 จากพรรณไม้ต้นแบบ Pooma et al. 6906 (BKF)
  • 15. 14 โมกนเรศวร Wrightia poomae D. J. Middleton วงศ์ Apocynaceae โมกนเรศวรเป็นพืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะทางภาคเหนือที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร อำ�เภอ อุ้มผาง จังหวัดตาก ขึ้นตามสันเขาในป่าเบญจพรรณ ระดับความสูงประมาณ 700 เมตร เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก ใบเรียง ตรงข้าม ยาว 2.3-12 ซม. ช่อดอกแบบช่อกระจุก ออกสั้นๆที่ปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงไม่มีต่อมที่โคนกลีบ กลีบดอรูปกงล้อ หลอดกลีบดอกยาวประมาณ 2.7 มม. กลีบดอกยาวประมาณ 2 ซม. กระบังหน้ากลีบดอกเชื่อมติดกลีบดอกประมาณ 1 ใน 3 ปลาย แฉกลึกประมาณ 1 ใน 3 ของความยาว กระบังระหว่างกลีบดอกปลายแยกเป็น 2 แฉก กระบังที่อยู่ ระหว่างกระบังมีขนาดล็กติดที่โคนกลีบดอก คำ�ระบุชนิด ตั้งเป็นเกียรติแก่นายราชันย์ ภู่มา นักวิจัยหอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผู้ ร่วมสำ�รวจและเก็บตัวอย่างต้นแบบทั้ง 2 ชิ้น ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Gardens’ Bulletin Singapore เล่มที่ 61 ฉบับที่ 2 ปี พ.ศ. 2010 จากพรรณไม้ต้นแบบ Pooma et al. 6973 (BKF)
  • 16. 15 โมกสยาม Wrightia siamensis D.J. Middleton วงศ์ Apocynaceae พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะทางภาคใต้แถบจังหวัดสุราษฎร์ธานี กระบี่ และพังงา ขึ้นตามเขาหินปูน ระดับความสูง ต่ำ�กว่า 100 เมตร เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ใบเรียงตรงข้าม 3-12 ซม. ช่อดอกแบบช่อกระจุก ออกสั้นๆ ตามปลายกิ่ง มี 3-5 ดอก มีต่อมที่โคนกลีบเลี้ยง ดอกบานรูปกงล้อ หลอดกลีบยาว 4-5 มม. กลีบยาว 1.4-1.5 ซม. มีปุ่มขนกระจาย กระ บังหน้ากลีบดอกแนบติดบนกลีบดอกเกือบตลอดความยาว กระบังระหว่างกลีบดอกปลายแยก 2 แฉก ระหว่างจุดเชื่อมมี กระบังขนาดเล็ก 10 อัน ผลเป็นฝักคู่ แยกกัน มีช่องอากาศ ยาว 13-15 ซม. ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Thai Forest Bulletin (Botany) เล่มที่ 35 ปี ค.ศ. 2010 พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะ ทางภาคใต้แถบจังหวัดกระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี เป็นไม้พุ่ม ขึ้นตามหน้าผาที่เป็นหินปูน จากพรรณไม้ต้นแบบ Gardner & Sirisunthorn ST2613 (E, BKF, K)
  • 17. 16 โมกเครือ Kamettia chandeei D.J. Middleton วงศ์ Apocynaceae พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ระดับความสูง 400-750 เมตร เป็นไม้เถา ส่วนต่างๆ มียางขาว ลำ�ต้นแก่เป็นคอร์ก กิ่งอ่อนมีช่องอากาศ ใบเดี่ยว เรียงรอบข้อ 3 ใบ หรือเรียงตรงข้าม ยาว 5.5-10.5 ซม. ช่อดอกแบบช่อกระจุก ซ้อน ออกตามปลายกิ่ง ยาว 3.5-14 ซม. หลอดกลีบดอกยาว 1.2-1.6 ซม. กลีบยาว 1.2-1.8 ซม. ผลเป็นฝักคู่ มีช่องอากาศ ยาวได้ประมาณ 20 ซม. คำ�ระบุชนิด “chandeei “ ตั้งเป็นกียรติแก่นายจันดี เหมราฐ เจ้าหน้าที่หอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์ พืช ผู้พบพืชชนิดนี้คนแรก และร่วมเก็บตัวอย่างกับ ดร. D.J. Middleton ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Thai Forest Bulletin (Botany) เล่มที่ 33 ปี ค.ศ. 2005 จากตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ Middleton et al. 3418 (BKF, A, E, MICH)
  • 18. 17 หญ้าพันเกลียว Ceropegia thailandica Meve วงศ์ Ascleoiadaceae พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ ป่าภูวัว จังหวัดหนองคาย ขึ้นกระจายห่างๆ ตามทุ่งหญ้า ที่ราบบนยอดภูเขาหินทรายชายป่าดิบแล้ง ระดับความสูง ประมาณ 300 เมตร เป็นไม้ล้มลุก มีหัวใต้ดิน ลำ�ต้นคล้าย หญ้า แตกกิ่ง มียางใส ใบเรียงตรงข้าม รูปแถบ ช่อแบบ ช่อกระจุก มีเพียงดอกเดียว ดอกคล้ายรูปลิ่มแคบ หลอด กลีบรูปทรงกระบอก มีขนด้านใน กลีบบิดเป็นเกลียว ยาว 4-5.5 ซม. โคนกลีบเป็นติ่ง มีขนกำ�มะหยี่สีม่วงดำ� ขอบ กลีบมีขนครุย ปลายขนเป็นต่อมคล้ายรูปกระบอง มีกระ บังรอบเส้าเกสร คำ�ระบุชนิด “thailandica” ตั้งตามชื่อ ประเทศไทย ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Bradleya เล่ม ที่ 27 ปี ค.ศ. 2009 จากพรรณไม้ต้นแบบ Pooma et al. 7347 (BKF)
  • 19. หนอนตายอยากคลองพนม Stichoneuron calcicola Inthachub วงศ์ Stemonaceae พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่อุทยานแห่งชาติคลองพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้น ตามหน้าผาหินปูนที่มีร่มเงา ระดับความสูง 100-300 เมตร เป็นไม้ล้มลุกโคนต้นแข็ง แตกกิ่ง จำ�นวนมาก ลำ�ต้นห้อยลงยาวได้เกือบ 1 เมตร ใบเรียงสลับ รูปหัวใจ เส้นโคนใบ 4-7 เส้น ช่อ ดอกแบบช่อกระจะแน่น ออกตามซอกใบ ก้านช่อยาวได้ประมาณ 3.5 ซม. แกนช่อยาวประมาณ 1.5 ซม. ดอกจำ�นวนมาก กลีบดอกสีแดงอมน้ำ�ตาล เส้นผ่านศุนย์กลาง 4-5 มม. ก้านดอกยาว 1-2 ซม. กลีบดอกมีขนสีแดงหนาแน่น ผลแบบแคปซูล ยาว 1-1.2 ซม. เมล็ดมีเยื่อหุ้มหยัก เป็นพู คำ�ระบุชนิด “calcicola” หมายถึงถิ่นที่อยู่ที่เป็นหินปูน ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Edin- burgh Journal of Botany 66(2) ค.ศ. 2009 จากตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ Middleton et al. 554 (A, BKF, E, L) 18
  • 20. 19 มะพลับระนอง Diospyros ranongensis Phengklai วงศ์ Ebenaceae พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา จังหวัดระนอง ขึ้นตามสันเขาในป่าดิบชื้น ระดับความ สูงประมาณ 600 เมตร เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก สูงได้ประมาณ 15 ม. ใบรูปรีหรือรูปขอบขนาน ยาว 10-15 ซม. ผลออกเดี่ยวๆ ตามกิ่ง ทรงกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 5.5-7 ซม. ผิวขรุขระ กลีบเลี้ยงที่ผลเป็นวงคล้ายปลอกคอ ผนังผลแข็ง หนา มี 10-14 เมล็ด เอนโดสเปิร์มเรียบ คำ�ระบุชนิด “ranongensis” ตั้งตามสถานที่ค้นพบ ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Thai Forest Bulletin (Botany) เล่มที่ 33 ค.ศ. 2005 จากพันธุ์ไม้ต้นแบบ Niyomdham et al. 1440 (BKF, C, AAU)
  • 21. 20 ม่วงสอดสี Perocosmea bicolor D.J. Middleton & Triboun วงศ์ Gesneriaceae เป็นพืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นบนหินปูนในป่าดิบเขา ระดับความ สูงประมาณ 1450 เมตร เป็นไม้ล้มลุก ใบเรียงแผ่ที่โคน มี 2 แบบ แบบไร้ก้านใบและแบบมีก้านใบ แผ่นใบมีขน สั้นนุ่มทั้งสองด้าน ช่อดอกแบช่อซี่ร่ม มี 8-14 ดอก ก้าน ช่อยาว 3.5-10 ซม. มีขนต่อมหนาแน่น กลีบดอกรูป ปากเปิด มี 2 สี มีปุ่มต่อมเล็กๆ ภายในหลอดและโคน กลีบบน เกสรเพศผู้ 2 อัน เป็นหมัน 3 อัน ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร Thai Forest Bulletin (Botany) เล่มที่ 38 ปี ค.ศ. 2010 จากตัวอย่างพรรณ ไม้ต้นแบบ Middleton et al. 4523 (BKF, A, BK, E) กระเช้ายะลา Aistolochia yalaensis Phuph. วงศ์ Aristolochiaceae พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะทางภาคใต้ ตอนล่างที่อำ�เภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ขึ้นตามเขาหิน ปูนเตี้ยๆ ป่าดิบชื้น ระดับความสูงประมาณ 200 เมตร เป็นไม้เถาล้มลุก เกาะเลื้อยตามหินปูน ดอกสีครีมอมเขียว ปากหลอดกลีบสีม่วงอมแดง หลอดกลีบรูปทรงกระบอก ยาวประมาณ 4 มม. งอขึ้น ปากหลอดกลีบมีขนสั้นนุ่ม ด้านใน โคนหลอดกลีบเป็นกระเปาะทรงรีเกือบกลม ผล ทรงรีกลม ยาวประมาณ 0.8-1 ซม. คำ�ระบุชนิด “yalaensis” ตั้งตามสถานที่เก็บตัวอย่าง พรรณไม้ต้นแบบ ตีพิมพ์ในวารสาร Thai Forest Bul- letin (Botany) เล่มที่ 34 ค.ศ. 2006 ตัวอย่างพรรณไม้ ต้นแบบ Pooma et al. 4321 (BKF, K, L)
  • 22. 21
  • 23. 22 เปล้าน้ำ� Croton fluviatilis Esser วงศ์ Euphorbiaceae พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะทางภาคตะวันออกแถบจังหวัดสุรินทร์ และอุบลราชธานี ขึ้นตามพื้นทรายริมลำ�ธาร ระดับความสูง 100-250 เมตร เป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก ใบเรียงสลับ รูปแถบ ยาว 10-17 ซม. เปลี่ยนเป็นสีเหลือง อมส้มก่อนหลุดร่วง มีต่อมขนาดเล็กที่โคน ช่อดอกออกที่ปลายกิ่ง ยาว 7-20 ซม. ดอกเพศผู้อยู้ช่วงบน ดอกเพศเมียอยู่ ช่วงโคน ผลแบบแคปซูล เรียบ ยาว 5-7 มม. แตกเป็น 3 ซีก คำ�ระบุชนิด “fluviatilis” หมายถึงถิ่นที่อยู่ที่อยู่ใกล้แม่น้ำ� ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร Thai Forest Bulletin (Botany) เล่มที่ 38 หน้าที่ 37-41 ค.ศ. 2010 จากพันธุ์ไม้ต้นแบบ Suddee et al. 3110 (BKF)
  • 24. 23 นิ้วมือพระนารายณ์ใบขน Schefflera pooma Esser & Jebb. วงศ์ Araliaceae พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่ดอยหัวหมด จังหวัดตาก เป็นพืชอิงอาศัย ขึ้นบนพื้นดินหรือตามโขดหิน สูง 2–5 เมตร มีหูใบเชื่อมติดก้านใบ ใบประกอบรูปฝ่ามือเรียงเวียน มีใบย่อย 7–10 ใบ ใบย่อยยาว 16–20 ซม. แผ่นใบด้านล่างมีขน เส้น แขนงใบข้างละ 18–20 เส้น ช่อดอกแบบช่อซี่ร่มเชิงประกอบ มี 8–9 ช่อ ช่อซี่ร่มมี 15–25 ช่อ แต่ละช่อมี 9–13 ดอก กลีบ ดอกสีขาว 6 กลีบ เกสรเพศผู้ 6 อัน รังไข่อยู่ใต้วงกลีบ ผลเป็นร่องตามยาว ชื่อชนิด “pooma” ตั้งเป็นเกียรติแก่นายราชันย์ ภู่มา นักวิจัยหอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผู้ เก็บตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร Thai Forest Bulletin (Botany) เล่มที่ 38 ปี ค.ศ. 2010 จาก ตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ Pooma et al. 6949 (BKF, M)
  • 25. 24 ที่ปรึกษา เมธินี ตาฬุมาสวัสดิ์ ผู้เรียบเรียง ราชันย์ ภู่มา ออกแบบรูปเล่ม ปรีชา การะเกตุ ถ่ายภาพ ราชันย์ ภู่มา ปรีชา การะเกตุ สมราน สุดดี ธรรมรัตน์ พุทธไทย จัดพิมพ์โดย สำ�นักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จำ�นวนพิมพ์ เล่ม พ.ศ. 2554 สงวนลิขสิทธ์ พิมพ์ที่