Weitere ähnliche Inhalte
Ähnlich wie Samkok01 (20)
Samkok01
- 1. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 1
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
ทําไมตองมีสามกกฉบับคนขายชาติ (ตอนที่ 1)
หลังจากประเทศไทยเกิดวิกฤติการณทางเศรษฐกิจครั้งใหญในป 2540 ประเทศไทยไดยอมตนเขาผูกพันและ
รับพันธะที่กําหนดโดยตางชาติหลายประการครอบคลุมทั้งดานนิติบัญญัติ ดานบริหาร และดานตุลาการ เปน
ผลใหมีการแกไขบทกฎหมายและตรากฎหมายขึ้นใหมเปนจํานวนมาก ครอบคลุมถึงดานตาง ๆ ดังกลาว
ขางตน จนมีการกลาวขานวากฎหมายหลายฉบับเปนกฎหมายขายชาติ แมกระทั่งมีการกลาวขานวาการยอมรับ
พันธะผูกพันในลักษณะเชนนี้เปนการกระทําทีขายชาติ
่
ในดานการฟนฟูกอบกูเศรษฐกิจของประเทศใหฟนคืนดี ก็ปรากฏวาแทนที่ประเทศไทยจะสามารถดําเนินการ
ไดโดยอิสระเปนตัวของตัวเอง กลับตองถูกบงการโดยทุนตางชาติ ใหกําหนดมาตรการมากหลาย ซึ่งสวนใหญ
ถูกกลาวขานวาเปนไปเพื่อผลประโยชนของตางชาติ เปนไปเพื่อเกื้อกูล อํานวยประโยชนและความสะดวก
ใหแกตางชาติในการยึดครองเศรษฐกิจของประเทศ
เพียงชั่วระยะเวลา 3 ป ปรากฏวาประเทศไทยมีหนีสินเพิ่มขึ้นจนตกอยูในสภาพทีมีหนีสินลนพนตัว เปนปญหา
้ ่ ้
ที่กระทบตอระบบงบประมาณแผนดินอยางรุนแรงที่สดเปนประวัติการณ มีความเสียหายเกิดขึ้นในระบบธนาคาร
ุ
และสถาบันการเงินมากที่สดเปนประวัติการณ
ุ และธนาคารตลอดจนสถาบันการเงินไดถูกตางชาติยดครอง ึ
ครอบงําเกือบหมดสิ้น นักธุรกิจไทยลมละลาย ตองปดกิจการ และไมสามารถแขงขันไดอีกตอไป เงิน
หมุนเวียนหมดไปจากตลาดขยายตัวลุกลามไปจนถึงชนบท ประชาชน รัฐบาล และประเทศไทย มีรายไดลดลง
ยากจนลง และเกิดความรูสึกวากําลังตกเปนทาสของชาติอนชัดเจนยิ่งขึ้นทุกที
ื่
ในสภาพเชนนีปญหาการขายชาติ ปญหาการกอบกูฟนฟูชาติ ปญหาวีรชน และปญหาทรชนจึงเกิดขึน และ
้ ้
กลายเปนเรื่องที่ทุกฝาย ทุกพื้นที่ใหความสนใจ จึงเกิดแรงบันดาลใจใหเขียนเรื่องยาวสักเรื่องหนึ่ง ที่
สอดคลองกับสภาพการณที่เกิดขึ้น เพื่อเปนบรรณาการทานผูอานหนังสือพิมพผูจดการดังนั้น จึงเห็นวาเรื่อง
ั
ยาวที่จะเขียนขึนควรจะตองเปนเรื่องสามกก ในมุมมองทีสอดคลองกับสภาพการณของประเทศไทย เหตุนี้จึง
้ ่
ไดใหชื่อเรื่องยาวที่จะเขียนนี้วา "สามกกฉบับคนขายชาติ"
เหตุผลที่นําเอาเรื่องสามกกมาเขียนเปนเรื่องยาวอีกครั้งหนึ่งเนื่องเพราะเรื่องราวในสามกกนันเปนเรื่องราวใน
้
ยุคสมัยที่บานเมืองเกิดจลาจลวุนวาย จึงแตกแยกเปนกก เปนเหลา มีการรบราฆาฟนกันรวมรอยป อาณา
ประชาราษฎรไดรับความเดือดรอนทุกหยอมหญา บานเมืองก็เสียหายยอยยับ วีรชนไดกาเนิดขึ้นเปนจํานวน
ํ
มาก ในขณะทีทรชนก็กําเนิดขึ้นเปนจํานวนมากเชนเดียวกัน
่
การตอสูกชาติ และการขายชาติเปนของคูกัน และดําเนินไปตลอดในเรื่องราวของสามกก บนวิถีทางแหงการ
ู
ตอสูของวีรชนกับทรชน ระหวางการตอสูฟนฟูชาติ กับการขายชาติเปนไปอยางดุเดือด สะทอนถึงศาสตรและ
ศิลปในแทบทุกสาขาทีมวลมนุษยพึงเรียนรู และถูกนํามาใชอยางแหลมคม สามกกฉบับคนขายชาติ ทีจะเขียน
่ ่
ขึ้นนี้ไมไดตั้งใจที่จะเสียดสี กระทบกระเทียบเปรียบเปรยเอากับผูหนึ่งผูใดในบานเมืองขณะนี้ แตถาหากวา
ตอนใดมีเรื่องราวทีคลายคลึงหรือใกลเคียงกับสถานการณในชวงตางๆ แลว ผูเขียนก็หาไดมีอํานาจสิทธิขาดที่
่
จะไปกีดกั้นความนึกคิดของทานผูอานแตประการใดไม จะคิดอานประการใดก็สดแทแตความนึกคิดของแตละ
ุ
ทานเถิด
อันเหตุการณทผานมาไมวาในยุคสามกกหรือในยุคใดลวนอาจหมุนเวียนเปลียนเขามาใหมไดเสมอ เหตุนี้คํา
ี่ ่
พังเพยที่วา "กงลอแหงประวัตศาสตรยอมหมุนกลับทับรอยเดิม" จึงเปนคําพังเพยที่ถูกนํามากลาวขานอยูเสมอ
ิ
ถาเปนเชนนั้นก็พึงพิจารณาแตเพียงวาเหตุการณเกิดขึ้นคลายคลึงกัน แตการที่จะปรับเปรียบมาเทียบเคียงให
เสมอกันยอมไมมีวันทีจะเปนไปได
่
เหตุนี้ในการดําเนินเรื่องจักไมพยายามทีจะดัดแปลงเพื่อใหเรื่องราวกลับกลายเปนเชนปจจุบัน และจักไมเอา
่
ตัวบุคคลในปจจุบันไปปรับเปรียบเทียบเขากับตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่งในเรื่องสามกก เพราะหากทําเชนนันก็ไม
้
ตางอะไรกับการตัดตีนใหเขากับเกือก เพราะนอกจากจะเขากันไมไดแลว มีแตจะเจ็บตัวเปลา
สามกกเปนวรรณคดีมีชื่อเสียงที่แปลจากภาษาจีน ตั้งแตยุคสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟาจุฬาโลก
มหาราช และเปนตนแบบของการแปลเรื่องจีนมาเปนวรรณคดีไทยอีกหลายเรื่องในกาลตอมา ไมเพียงแตจะ
ถูกแปลเปนภาษาไทยเทานั้น สามกกยังจัดวาเปนหนังสือดีที่สดเลมหนึ่งของโลก ไดถูกแปลเปนภาษาตาง ๆ
ุ
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
- 2. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 2
มากมาย และมียอดพิมพมากที่สดเลมหนึ่งของโลก
ุ วากันวาจะเปนรองก็แตคัมภีรไบเบิล และตําราพิชัย
สงครามของซุนหวูเทานั้น
การแปลของแตละภาษายอมเปนธรรมดาที่จะมีสํานวนและโวหารที่ตางกันไป โดยทีตนฉบับของจีนนั้นมี
่
ทวงทํานองหนักหนวงลึกซึ้ง ในขณะทีฉบับแปลของบริวท เทเลอรคอนขางจะตะกุกตะกัก แบบฝรั่ง สวนของ
่ ิ
ญี่ปุนนั้นอาจจะเปนเพราะสํานวนภาษาคลายกับจีน ดังนั้นจึงมีลีลาทํานองลึกซึ้งดุจกัน สวนการแปลเปน
ภาษาไทย อํานวยการแปลโดยบุคคลสําคัญที่มความเชียวชาญอยางสูงทางภาษาในยุคนั้นคือเจาพระยาพระ
ี ่
คลัง (หน) ดังนั้นสํานวนแปลภาษาไทยจึงกระชับสั้นไดใจความ เปนภาษาความเรียงที่งดงามดวยอรรถะและ
พยัญชนะ มีอปมาอุปไมย ทีสอดคลองกับความรูสึกนึกคิดของคนไทย จนกระทรวงศึกษาธิการ สมัยหนึ่งได
ุ ่
นําเอาสามกกตอนโจโฉแตกทัพเรือไปเปน แบบเรียนภาษาไทยแตทวาการแปลภาษาไทยนั้น และในยุคสมัย
ที่การเมืองไทยยังไมสงบเรียบรอยดีนัก จึงมีหลายสิ่งหลายอยางที่ขาดหายไป ทั้ง ๆ ที่เปนเรื่องสําคัญ ทั้งนี้
อาจเปนเพราะหากนํามากลาวไวแลวก็อาจกระทบตอการเมืองในยุคนั้น
เหตุนี้ในการดําเนินเรื่อง "สามกกฉบับคนขายชาติ" จักไดถอเอาฉบับแปลของเจาพระยาพระคลัง (หน) เปน
ื
หลัก แตสวนที่ยังขาดตกอยูก็จะไดนําเอาฉบับแปลอื่น ๆ มาประกอบเพื่อใหเกิดความครบถวนอยางหนึ่ง
เพื่อใหเกิดประกายแหงความคิดและเปนทีตงแหงความเขาใจอันจะเปนประโยชนตอความรับรูและการนําไปใช
่ ั้
อีกอยางหนึ่ง
นอกจากฉบับแปลแลวยังมีสามกกฉบับพิเศษอีกหลายฉบับยาขอบบรมครูแหงวรรณกรรมไทยก็ไดเขียนสาม
กกขึ้นฉบับหนึ่งเรียกวาฉบับวณิพก หรือฉบับขอทาน โดยยกเอาตัวบุคคลแตละคนขึ้นมาพรรณนาใน
รายละเอียดดวยภาษาที่งดงามและคมกลา
ในขณะที่บรมครูอีกทานหนึ่งซึงนับถือกันวาเปนปราชญแหงชาติไทย คือหมอมราชวงศคึกฤทธิ์ ปราโมช ก็ได
่
เขียนสามกกขึนอีกฉบับหนึ่งชือวาสามกกฉบับนายทุน ซึ่งเปนการแสดงทัศนะความชอบธรรมและความไมชอบ
้ ่
ธรรม ความดีและความชั่วที่ตรงกันขามกับทัศนะของยาขอบ คือในขณะทียาขอบยกยองเชิดชูเลาปเปนผูทรง
่
คุณธรรม และกลาวหาประณามโจโฉเปนกบฏทรยศตอแผนดิน หมอมราชวงศคึกฤทธิ์ ปราโมช ก็ไดเชิดชูโจ
โฉเปนอัครมหาเสนาบดี ที่ภักดีตอแผนดิน ในขณะที่เลาปเปนนักหลอกลวง หลอกเอาขงเบง มาใชแลวสมคบ
กันใชเลหลิ้นลมลวงจนบานเมืองปนปวนไปทัว
่
สองทัศนะนี้ขัดแยงกันสิ้นเชิง แตก็เกิดอรรถรสและแงคดที่เปนประโยชน แกผูอานไมตางกัน หลังจากนั้นก็ยัง
ิ
มีผูแตงสามกกออกมาอีกหลายฉบับ เชนฉบับแปลของคุณวรรณไว พัทธโนทัย สามกกฉบับนักบริหาร และที่
กําลังออกอากาศทางวิทยุอยูในขณะนี้ก็ยังมีสามกกฉบับโหราศาสตร นอกจากนี้แลวก็ยงมีฉบับเล็กฉบับนอย
ั
อีกมากมาย ไมเพียงแตจะมีผแตงลักษณะเชนนี้ในประเทศไทยเทานั้น ในประเทศจีนเองหรือในประเทศอืนๆ ก็
ู ่
ไดนําเอาสามกกไปแบงซอยยอยและแตงขึ้นในแงมุมตางๆ มากมาย
การทั้งนี้เนื่องจากเรื่องราวทีดาเนินไปในสามกกนั้น ไดครอบ คลุมการตางๆ ไวแทบทุกๆ ดาน ไมวาในเรื่อง
่ ํ
คุณธรรม น้ํามิตร พิชยสงคราม การปกครอง การบริหาร การใชคน การทูต การเมือง การทหาร แมกระทั่ง
ั
โหราศาสตร นิมิต และลางตางๆ ตลอดจนธรรมเนียมการปกครองแผนดิน การที่สามกกมีเนื้อหาครอบคลุม
เรื่องราวดานตาง ๆ มากมาย เชนนี้ จึงมีผดดแปลงสามกกออกไปเขียนในแงมุมตาง ๆ และยิ่งเขียนในแงมุม
ู ั
ตาง ๆ มากขึ้นเทาใดก็ยิ่งแสดงใหเห็นวาสามกกนั้น ไมวาในแงมุมใดมีความลึกซึ้ง และเปนประโยชนตอ
ผูเกี่ยวของไดทั้งสิ้น มีผูกลาววาใครอานสามกกครบสามครั้งจะเปนคนที่คบไมได คํากลาวนี้ไดสะทอนใหเห็น
อยูในตัวเองวาสามกกเปนเรื่องราวของการใชสติปญญาพลิกแพลงกอปรดวยอุบายเลหกลครบครัน
แตขอที่วาอานสามกกครบสามครั้งแลวจะเปนคนทีคบไมไดนั้น ออกจะเปนการมองปญหาดานเดียว เพราะการ
่
คบไดหรือคบไมได ไมไดขึ้นอยูกับการอานสามกกหรือไม หรือวาจะอานสักกี่ครั้ง หากขึ้นอยูกับคนผูนนเอง
ั้
คนจํานวนหนึ่งแมไมเคยอานสามกกก็ยังปรากฏวาเปนคนที่คบไมไดก็มีใหเห็นอยูถมไป บางคนอานสามกกนับ
สิบครั้งก็ยังคงเปนคนดีมศีลธรรม ก็มีใหเห็นอยูถมไปเหมือนกัน
ี
คนเราจะคบกันไดหรือคบกันไมไดขึ้นอยูกับอุปนิสัยใจคอของคนผูนั้นเองวาเปนคนดี เปนมิตรแท หรือเปน
สหายน้ํามิตรทีตายแทนกันไดหรือไม หากเปนคนเลว คนเห็นแกได หรือคนทรยศตอมิตร แมไมไดอานสามกก
่
เลย คนเชนนี้กหาควรคบดวยไม
็
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
- 3. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 3
ในมงคล 38 บทแรกสุด พระผูมีพระภาคเจาไดตรัสสอนวาการไมคบคนพาลเปนมงคลสูงสุด ซึ่งสามกกมี
ตัวอยางและเรืองราวมากมายที่แสดงใหเห็นวาคนพาลเปนอยางไร ทีสําคัญไดแสดงใหเห็นถึงลักษณะและการ
่ ่
กระทําของคนขายชาติวาทํากันอยางไร เกิดผลอยางไร ทั้งผลที่เกิดขึ้นแกตนเอง แกครอบครัว แกสังคมและ
บานเมือง เรืองวิทยาคมพรอมแลวที่จะบรรณาการทานผูอานหนังสือพิมพผูจัดการดวย "สามกกฉบับคนขาย
ชาติ" ซึ่งแมวาจะตระหนักดีวามีภูมิความรูยังไมถึงขนาดนัก แตดวยใจภักดีที่มุงตอบแทนคุณทานผูอานก็จะใช
ความพยายามอยางเต็มความสามารถ คงมีปญหาขอวิตกอยูประการเดียวที่เรื่องสามกกเปน เรื่องยาว ยอมยาก
ที่จะทําใหเกิดความเราใจ ตรึงใจไปไดตลอด ทั้งตองใชเวลานานนับปกวาจะจบ จึงวิตกวาทานผูอานจะเบื่อ
หนายเสียกอน จึงไดแตหวังวาดวยใจภักดีที่จะสนองคุณทานผูอานอยางหนึ่งดวยวิรยะอุตสาหะแหงตนอีก
ิ
อยางหนึ่ง จักเปนเครื่องคุมกันและกอใหเกิดความเมตตาจากทานผูอานติดตามและสนับสนุนงานชิ้นนี้ไป
จนกวาจะสําเร็จดังประสงค
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
เคาลางกลียค (ตอนที่ 2)
ุ
ยุคสมัยของสามกกเกิดขึ้นตั้งแตปพทธศักราช 722 เปนตนมา เปนเวลารวมรอยป เบื้องหนาแตจะเกิดยุคสาม
ุ
กก แผนดินจีนไดเกิดกลียุครบราฆาฟนกันจนแตกออกเปน 7 หัวเมือง ทั้ง 7 หัวเมืองนี้บางครั้งก็ผูกมิตรกัน
บางครั้งก็ทําสงครามกัน สงครามและสันติภาพเกิดขึ้นสลับกันไป ประวัตศาสตรจีนไดเรียกขานยุคนี้วาเปนยุค
ิ
"เลียดกก" รายละเอียดมีปรากฏในวรรณคดีไทยเรื่องเลียดกกซึ่งแปลมาจากพงศาวดารเลียดกกของจีนนันแลว ้
จนถึงสมัยหนึ่งแควนจิ๋นมีเจาผูปกครองชื่อวา "จิ๋นออง" ไดรวบรวมหัวเมืองทั้ง 7 เขาเปนแผนดินเดียวกัน
สถาปนาราชวงศจิ๋นขึ้นปกครองแผนดินจีนแตนั้นมา
ชื่อประเทศที่ถกรวมเขาเปนหนึ่ง จึงถูกเรียกตามชื่อของแควนจิ๋นวาเปน"ประเทศจีน" ตั้งแตบัดนั้นเปนตนมา จิ๋
ู
นอองเปนผูใฝอํานาจ เห็นวาคําวา "ออง" ยังเปนคําต่ําเสมอเจาเมืองธรรมดา ไมสมกับความชอบของพระองค
ที่สามารถรวบ รวมแควนทั้งปวงเขาเปนแผนดินเดียวกันได จึงใหขุนนางทังปวงคิดสรรหาสมญานามใหสมกับ
้
ความชอบของพระองค
เปนธรรมเนียมของขุนนางทุกยุค ทุกสมัยทีมักประจบผูมีอานาจบรรดาขุนนางในยุคนั้นจึงไดคิดคนสมญานาม
่ ํ
สําหรับจิ๋น อองวา "ฮองเต" ซึ่งหมายถึงความเปนใหญใน 5 ทวีป หรือความยิ่งใหญเหนือแผนดิน ภูเขา แมน้ํา
ความดี และความชั่ว ซึ่งสมญานามนี้เปนที่ตองพระทัยยิ่งนัก ดังนั้น จิ๋นอองจึงไดสถาปนาพระนามาภิไธย ของ
พระองควา "จินซีฮองเต" ความใฝในอํานาจ และความคิดที่จะเปนใหญในจักรวาลเปนแรงวิรยานุภาพภายใน
๋ ิ
ตัวของจิ๋นซีฮองเต ประกอบกับเปนคนรูจักใชคน ดังนั้น คนดีมีฝมือในแผนดินจํานวนมากจึงอาสาเขามารับใช
ชาติ แผนดินจีนยุคนั้นจึงยิ่งใหญเกรียงไกร
แตกระนั้นความยิ่งใหญที่มีอยูก็ไมสามารถยับยังความแกเอาไวได เมื่ออายุลวงวัยมากเขา จิ๋นซีฮองเตก็เกิด
้
ความคิดกลัวตาย แตไมอยากตาย ดังนั้น จึงไดพยายามแสวงหายาอายุวฒนะ เมื่อความอยากเกิดขึ้น ความโง
ั
ก็ไดเขาครอบงํา พวกแพทยหลวงและแพทยบานตลอดจนนักพรต ตางไดอาสาทํายาอายุวัฒนะ แตในทีสุดก็ ่
ไมประสบผลสําเร็จ ความแกยงคงเขาครอบงําจักรพรรดิผูยิ่งใหญอยางไมหยุดยั้ง ทําใหพระองครสึกวาวันเวลา
ั ู
แหงความตายไดเยื้องกรายเขามาเยือน พระองคใกลเขามาทุกที ในที่สดทรงตั้งรางวัลเปนจํานวนมหาศาล
ุ
ใหแกใครก็ตามที่สามารถแสวงหายาอายุวฒนะมาถวายได
ั
รางวัลจํานวนมหาศาลยอมจูงใจคน ยอมสามารถทําใหคนแกรง กลาไมกลัวผี ไมกลัวฟา ไมกลัวดิน ไมกลัว
บาป และไมกลัวตาย ดังนั้น จึงมีพวกหมอกลุมหนึ่งเห็นวา ขืนอยูไปก็อาจเสี่ยงภัยตอการถูกประหาร จึงอาสา
เดินทางทางเรือไปทางดานตะวันออก เพื่อแสวงหายาอายุวัฒนะ หลังจากเดินทางไปแลวก็ไมกลับมาอีกเลย
กลาวกันวาคณะเดินทางแสวงหายาอายุวฒนะกลุมนี้คือกลุมบรรพบุรุษกลุมแรกของชนชาติญี่ปุน
ั เหตุที่ไม
ยอมรับวาความตายจะมาถึง จินซีฮองเตจึงไมได
๋ เตรียมการใด ๆ เพื่อรับมือกับเหตุการณหลังการตายของ
พระองค ดังนันเมื่อความตายมาถึงกลียคจึงเกิดขึ้นในบานเมือง หลี่ซือ ขุนนางผูมีความชอบตอแผนดินและ
้ ุ
ดํารงตําแหนงอัครมหาเสนาบดีถูกขันทีใชอํานาจของยุวกษัตริยประหารอยางโหด ราย นอกจากนั้นขุนนางผู
ภักดีตอแผนดินก็ถูกบีบคั้นและสังหารอยางโหดรายทารุณ ในที่สดยุวกษัตริยผูเปนรัชทายาทของจิ๋นซีฮองเตก็
ุ
ถูกขันทีสังหารแผนดินอันยิ่งใหญก็ไมสามารถรักษาไวได แมเลือดเนื้อเชื้อไขก็ตองถูกสังหารอยางโหดราย นี่
เปนเพียงตัวอยางหนึ่งของความประมาทที่อยาวาแตปถุชนคนธรรมดาสามัญเลย ตอใหเปนฮองเต มีอํานาจ
ุ
วาสนาทรัพยสงศฤงคารสักเพียงไหน หากตกอยูในความประมาทแลว ทุกสิงก็จะสูญสิ้นไป
ิ่ ่
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
- 4. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 4
หลังจากสังหารยุวกษัตริยแลว ขันทีก็ตั้งตนเปนใหญ ใชอํานาจ หยาบชาตออาณาประชาราษฎร จนบานเมือง
เกิดจลาจลขึ้น สมัยนั้นขุนศึกตางๆ ไดยกกองทัพเขาเมืองหลวง ดานหนึ่งอางวาเพื่อฟนฟูพระราชวงศ ชูธง
แหงความจงรักภักดีขึ้นเปนทีรวมใจของขุน นางและอาณาประชาราษฎร ในขณะที่อีกดานหนึ่งมีวาระซอนเรน
่
อยูในใจที่จะยึดอํานาจแผนดินเสียเอง
การรบราฆาฟนเกิดขึ้นอยางกวางขวาง การจลาจลขยายตัวลุกลามไปทั้งแผนดิน กลายเปนสงครามกลางเมือง
ขึ้นมาอีก ครั้งหนึ่งสมัยนั้นมีผตั้งตนเปนผูกชาติหลายกลุม หลายเหลา แตหลังจากสงครามผานไปนานวันเขา
ู ู
บางกลุมก็สูญสลายไป บางกลุมก็ไปรวมกับอีกกลุมหนึ่ง ในทีสุดเหลืออยูเพียงสองกลุม
่ กลุมแรกนํา
โดยฌอปาออง กลุมที่สองนําโดยเลาปง หรือที่เรียกวาฮั่นออง ทั้งสองกลุมนี้ทําสงครามแยงชิงเมืองหลวงกัน
เปนเวลายาวนาน เปดสงครามตอกันถึง 7 ครั้ง และทั้ง 7 ครังนี้ฮั่นอองหรือ เลาปงเปนฝายพายแพ
้
แตเนื่องดวยเลาปงเปนคนมีความเพียรพยายาม มีจิตใจตอสูและทรหดอดทน ทั้งพยายามแสวงหาคนดีมฝมือ
ี
มารวมงาน ในที่สด เลาปงก็ไดขุนนางสองคนมาทําการดวย นั่นคือ "ฮั่นสิน" ซึ่งเปนผูเชี่ยวชาญจัดจานทาง
ุ
การทหาร และ "เตียวเหลียง" ซึ่งเปนผูเชี่ยวชาญ จัดจานทางพิชัยสงครามและการปกครอง
ในสงครามครั้งสุดทาย ฮั่นอองเปนฝายไดรับชัยชนะ โดยฌอปาอองแตกทัพไปติดอยูริมน้า และฆาตัวตายใน
ํ
ที่สด
ุ กอนพายแพฌอปาอองไดเผาเมืองหลวงทีใหญโตอัครฐานจนหมดสิ้น
่ กลาวกันวาเพลิงไหม
พระบรมมหาราชวัง ติดตอกันเปนเวลาถึง 7 วัน 7 คืน ฮันอองหรือเลาปงไดรับชัยชนะแลว จึงไดสถาปนา
่
ราชวงศฮั่นขึ้น เหลาขุนนางไดถวายพระสมัญญาแกพระองคทานวา "พระเจาฮั่นโกโจ" จัดเปนปฐมกษัตริย
แหงราชวงศฮั่น
สงครามและสันติภาพเกิดขึ้นสลับกันไปเชนนี้ เจาพระยา พระคลัง (หน) จึงกลาวไวในสามกกดวยโวหารวา
"เดิมแผนดินเมืองจีน ทั้งปวงนันเปนสุขมาชานานแลวก็เปนศึก ครั้นศึกสงบแลวก็เปนสุข"
้
พระเจาฮั่นโกโจและพระราชวงศไดครองราชยสมบัติตอ ๆ มา ถึง 12 องค ขุนนางชื่อ "อองมัง" จึงชิงราช
สมบัตตั้งตนขึ้นเปนเจาครองแผนดินอยูถึง 18 ป ก็มีเชื้อพระวงศของพระเจาฮั่นโกโจชื่อ "ฮั่นกองบู" ชิงราช
ิ
สมบัติกลับคืนได เสวยราชยสบเชื้อพระวงศตอมาอีก 12 องค จึงเปนอันสิ้นสุดราชวงศฮั่น
ื
ฮองเตองคที่สามกอนสิ้นราชวงศฮั่นทรงพระนามวา "ฮั่นเต" คงจะเปนหมัน จึงไมมีพระราชบุตรสืบสันตติวงศ
แตแทนที่จะยกเอาเชื้อพระวงศผูมสติปญญาคนหนึ่งคนใดขึนเปนมหาอุปราช
ี ้ เพื่อเตรียมสืบราชวงศตอไป
กลับไป ขอลูกชาวบานมาเลียง ตั้งเปนพระราชบุตร แลวโปรดใหขันทีเลี้ยงดูมาแตนอย ตอมาทรงสถาปนาเปน
้
ที่รชทายาท ดังนั้นเลนเต จึงไมใชเชื้อพระราชวงศฮั่น เปนลูกกาฝาก หาก จะกลาวถึงทีสุดแลวก็ยอมกลาวได
ั ่
วา ราชวงศฮนไดหมดสิ้นไปตั้งแตยุคสมัยของพระเจาฮั่นเตแลว ราชบัลลังกหลังจากนั้นตกไดแกคนแซอื่น
ั่
การกระทําผิดธรรมเนียมประเพณีในการปกครองแผนดินของ ฮั่นเต คือเหตุสําคัญทีทําใหราชวงศฮั่นดับสูญ
่
และราชบัลลังกตกเปนสิทธิแกคนอื่น นี่คือทัณฑจากสวรรคของการทีทําผิดธรรมเนียม ประเพณี ถาจะกลาว
่
โดยสํานวนไทยก็กลาวไดวาเปนความผิดของ "คนที่เอาลูกเขามาเลี้ยง เอาเมี่ยงเขามาอม"
เลนเตลูกชาวบาน เมื่อไดดิบไดดีเปนรัชทายาทก็ถือตัววาเปนเชื้อพระวงศฮั่นไปดวย ครั้นไดเสวยราชยทรง
พระนามวา "พระเจาเลนเต"แตสันดานชาติเชื้อที่มิใชเผาวงศกษัตริย และอัธยาศัยทีถูกสรางสม มาจากการ
่
เลี้ยงดูของขันทียังคงติดตัวมาจึงกําเริบขึ้น สามกกไดกลาวความประพฤติของพระเจาเลนเตวา "มิไดตงอยูใน
ั้
โบราณราชประเพณี แลมิไดคบหาคนสัตยธรรม เชื่อถือแตคนอันเปนอาสัตย ประพฤติแตตามอําเภอใจแหง
พระองค เสียราชประเพณีไป"
เมื่อ เลนเต เสวยราชยแลว ไดอาศัยขุนนางผูใหญสองคนคอย ค้ําจุนราชบัลลังก คนหนึ่งชื่อเตาบูเปนแมทัพ
ใหญ อีกคนหนึงชื่อ ตันผวน เปนราชครู สองขุนนางเฒารับราชการในราชวงศฮั่นมาถึงสองแผนดิน เห็นความ
่
วิปริตผันแปรในบานเมืองที่ทําใหขุนนางขาราชการแลราษฎรตองเดือดรอนหนักวา เกิดจากขันทีเปนเหตุ จึง
วางแผนรวมกันเพื่อจะสังหารกลุมขันทีชั่วเสีย แตแผนการรัวไหล เสียกอน ดังนั้น ทั้งแมทัพใหญเตาบูและ
่
ราชครูตันผวนพรอมดวยครอบครัวและบริวารจึงกลับเปนฝายถูกกลุมขันทีชว สังหารอยางโหดรายและทารุณ
ั่
แตนั้นมากลุมขันทียิ่งกําเริบเสิบสานมากขึ้น เหลาขุนนางขาราชการมีความเกรงกลัวอิทธิพลของกลุมขันทีชั่ว
เปนอันมาก
ครั้นพระเจาเลนเตเสวยราชยไดสิบสองป ตรงกับพุทธศักราช 722 เดือนสี่ขึ้นสิบหาค่ํา แตสามกกฉบับสมบูรณ
ระบุวาเปนป พุทธศักราช 710 พระเจาเลนเตประทับ ณ พระที่นั่งอุนตกเตี้ยน เวลาเที่ยงเกิดอาเพศใหญขน ใน
ึ้
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
- 5. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 5
บานเมือง เปนสัญญาณจากสวรรค ที่บงบอกวา แผนดินเกิดกลียุค ณ เวลานั้นเพลาเที่ยงเกิดลมพายุหนัก มีงูสี
เขียวตัวใหญตกลง มาพันอยูที่เทาพระเกาอี้ พระเจาเลนเตตกพระทัย กระทั่งสิ้นพระสติ พักหนึ่งงูใหญ ก็
หายไปแลวเกิดฟารองฝนตกหาใหญ ลูกเห็บขนาดใหญตกบานเรือนราษฎรพังทลาย พระตําหนักถูกพายุ
ลูกเห็บพัดพังหลายตําหนัก จนถึงเที่ยงคืนฝนจึงหยุด หลังจากนั้นอีก 4 ป ณ เดือนยี่ เมืองลกเอี๋ยง ซึ่งเปน
เมืองหลวงเกิดแผนดินไหว น้าทะเลเกิดคลื่นใหญทวมบานเมือง และบานเรือนราษฎรถูกน้าพัดพา หายไปเปน
ํ ํ
จํานวนมาก ไกตัวเมียขันไดกลายเปนไกตัวผู
ถัดมาในเดือน 6 ขึ้นค่ําหนึ่งเกิดควันเพลิงพุงขึ้นไปสูง 20 วา แลวพุงเขาไปในพระที่นั่งอุนตกเตี้ยน รุงเดือน 7
เกิดรัศมีรุงตกในพระบรมมหาราชวัง ภูเขารันซัวแตกทลายลงนิมิตเหลานี้ ถาวาตามหลักนิมิตลางของไทย ก็
กลาวไดวา เปน ทั้งอุบาทวพระอินทรและอุบาทวพระยมเกิดขึ้นตอเนื่องกันไป เปนลางรายของแผนดินวาจะ
เกิดกลียุค นิมตและลางรายนีเคยปรากฏใหเห็น กอนสิ้นแผนดินกรุงศรีอยุธยาหลายประการ เชนมีฟาผาลงตรง
ิ ้
ระเบียงพระบรมมหาราชวัง และไฟไหมลุกลามไปหลายแหง, ฝูงอีกาจับกลุมกันจิกตีจนบาดเจ็บลมตาย, หลวง
พอมงคลบพิตรมีน้ําพระเนตรไหล, อีกาใหญบินเอาอกเขาเสียบกับตรีศลพระบรมมหาราชวัง, น้ําในแมน้ําเปนสี
ู
แดงดังเลือด, เสียงใบไมเหมือนเสียงคนร่ําไหระงมเมือง, ไกตัวเมียขันไดกลายเปนตัวผู ดาวจระเขดวงที่เปน
ตําแหนงของพระมหากษัตริยสีแดงเศราหมอง และริบหรีคลายกับจะดับสูญ
่
นิมิตและลางลักษณะนี้ถือวา เปนนิมิตและลางรายที่จะเกิดกลียุคขึ้นในบานเมืองนับเปนอาเพศที่มผลกระทบ
ี
ตอบานเมือง กระทบตอผูมีอานาจปกครองบานเมืองและราษฎรเปนสวนรวม อาเพศอันเกิดจากนิมิตและลาง
ํ
แมเปนสิ่งที่ไรศาสตรใดไป พิสจนวาเกิดขึ้นไดอยางไร แตความเชื่อของคนหลายชาติ หลายภาษาสืบทอดมา
ู
นับพันป ยังคงเหนียวแนนแมกระทั่งในบานเมืองของเราในทุกวันนี้อา! เคาลางแหงกลียุคไดปกคลุมเหนือ
แผนดินจีนอีกครั้งหนึ่งแลว
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
ยุคขันทีกินเมือง (ตอนที่ 3)
นิมิตและลางจากสวรรคที่เกิดขึนอยางตอเนื่อง ไดกอใหเกิดความประหวั่นพรั่นพรึงในหมูอาณาประชาราษฎร
้
พระเจาเลนเตเองก็ทรงสังเกตเห็นปรากฏการณที่ผดปกติ จึงทรงตรัสถามขึ้นในที่ประชุมเหลาขุนนางวา "นิมิต
ิ
วิปริตดั่งนี้จะดีรายประการใด" ปรากฏวาไมมีใครยอมตอบวา "นิมิตวิปริต" นั้น วาจะดีรายและหมายความวา
ประการใด เหลาขุนนางตางนิงเงียบเปนเปาสาก และอาการนิ่งเงียบเปนเปาสากของเหลาขุนนางนี้ควรจะตอง
่
ถือวาเปน "นิมิตวิปริต" ที่เกิดขึ้นในราชสํานัก เชนเดียวกับ "นิมิตวิปริต" ที่เกิดขึ้นแตธรรมชาติ เพราะเหลาขุน
นางทั้งปวงนั้นยอมมีวิสยที่ชอบเพ็ดทูล และมักจะแขงแยงกันเพ็ดทูลเพื่อหาความดีความชอบ และเพื่อแสดง
ั
ภูมิรูแหงตนใหเปนที่ประจักษ
หลังพระเจาเลนเตเสด็จขึ้นแลว ก็มีขุนนางชื่อ "ยีหลง" ทําหนังสือลับกราบทูลพระเจาเลนเตวา "เหตุทงปวงนี้
ั้
เพราะขันทีประพฤติลวงพระราชอาญา จึงเกิดนิมิตใหพระองคปรากฏ" การทียีหลงตองทําเปนหนังสือลับ
่
ประกอบกับอาการเงียบเปนเปาสากของเหลาขุนนางนั้น เปนอาการที่บงบอกวาคนรอบขางของพระเจาเลนเต
ซึ่งก็คือขันทีประพฤติลวงพระราชอาญา "คิดกันกระทําการหยาบชาตางๆ" และควบคุมราชสํานักไวไดโดย
สิ้นเชิง และเปนที่รูกันโดยทั่วไป
ในเหลาขุนนางอันขันทีนั้น คือคนใชของพระเจาแผนดิน หากยามใดที่พระเจาแผนดินเขมแข็ง ขันทีก็มีฐานะ
เปนคนรับใช แตยามใดที่พระเจาแผนดินออนแอเหลวไหล ขันทีก็จะมีฐานะเปนคนใชพระเจาแผนดิน คือใชให
พระเจาแผนดินทําอะไรไดตามใจชอบ ขันทีนนไมใชกะเทยเหมือนกับที่เห็นในภาพยนตร แตเปนชาย ซึงถูก
ั้ ่
ตัดองคชาติไมใหสืบเผาพันธุ และสิ้นความรูสึกทางเพศอยางสิ้นเชิง
เหตุทั้งนี้เนื่องจากขันทีสามารถ
เขานอกออกในไดทั้งฝายหนาและฝายใน โดยที่ฝายในนั้นเต็มไปดวยพระสนม นางกํานัล เหตุนี้เพื่อปองกัน
ไมใหขันทียุงเกี่ยวในทางเพศกับพระสนม นางกํานัล จึง มีกฎใหตองตัดองคชาติของขันทีเสียกอนจึงจะรับเขา
บรรจุในตําแหนงขันทีได
เหตุที่มผยอมถูกตัดองคชาติเพื่อรับราชการเปนขันทีก็เพราะขันทีนั้นอยูใกลชิดพระเจาแผนดิน
ี ู ซึ่งเปนศูนย
แหงอํานาจรัฐ เปนบอเกิดแหงอํานาจวาสนา ทรัพยสมบัติและหนาตา ดังนั้น จึงมีพอแมของคนจํานวนมากเอา
ลูกชายไปขายเปนขันทีเพื่อหวังลาภยศในเบื้องหนา ชายจํานวนมากก็ยอมตัวถูกตัดองคชาติเปนขันที เพื่อหวัง
อํานาจวาสนาอยางหนึ่ง และหวังรายไดไปสงเสียใหกับครอบ ครัวอีกอยางหนึ่ง
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
- 6. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 6
แตคนเรานั้นมีปกติติดยึดอยูในเรื่องกิน กาม เกียรติ ดังนั้นเมื่อตัดความตองการหรือความสามารถในเรื่องกาม
ออกไปเสียแลว ความติดยึดในเรื่องกินและเกียรติ ซึ่งก็คอเรื่องของอํานาจและวาสนาก็ยิ่งมีมากขึ้นผิดคน
ื
ธรรมดา ดวยเหตุนี้ขันทีทั้งปวงจึงเปนคนทีมความตองการในเรื่องอํานาจ วาสนามากเปนพิเศษผิดวิสยมนุษย
่ ี ั
ทั่วไป จนอาจกลาวไดวาเปนคนวิปริตจําพวกหนึ่งที่พรอมจะทําทุกสิ่งทุกอยางเพื่อใหไดมาซึ่งอํานาจวาสนา
มองในแงนี้ก็จะเห็นไดชัดวา การที่พระเจาแผนดินหรือฮองเต มีชีวิตอยูทามกลางฝูงคนวิปริตเหลานี้ จะมีความ
เปนปกติเหมือนมนุษยทวไปยอมไมได ยอมมีสิ่งวิปริตผิดปกติอาบเอิบพระองคอยูเปนเนืองนิจ เพื่อแสวงหา
ั่
ความดีในหนาที่ และความชอบในทางสวนตัว ขันทีจึงพรอมที่จะทําทุกอยางเพื่อฮองเต และยอมใหฮองเตทํา
ทุกอยางเพื่อความพึงพอใจสูงสุด
ดังนั้นขาวคราววิปริตในทางเพศ จึงคลาคล่ําอยูในราชสํานักของจีนตลอดระยะเวลาอันยาวนานของ
ประวัตศาสตร เพราะฮองเตมีเมียมาก ก็ยอมมีลูกมากตามไปดวย ลูกของฮองเตจะถูกเลียงดูโดยขันที หรือพระ
ิ ้
สนมนางกํานัล ลูกคนใดถูกเลียงดูโดยขันที ก็จะถูกกลอมเกลาอุปนิสยใจคอใหวิปริตแปรปรวน ไปดวย ลูกคน
้ ั
ใดถูกเลียงดูโดยพระสนมนางกํานัล ก็จะถูกกลอมเกลาอุปนิสัยใจคอใหเอนเอียงไปในทางของอิสตรีมากกวา
้
ปกติ ซึ่งไมวาจะเปนไปในทางใด ลูกของฮองเตซึ่งคนหนึงยอมเปนรัชทายาทก็ตองมีพฤติกรรมที่เบี่ยงเบนไป
่
ในทางวิปริตผิดปกติ จะมียกเวนบางก็แตเพียงบางคนเทานั้น ที่ไดรับการเลียงดูอยางดีโดยวิธีเลี้ยงดูของ
้
มนุษยทวไป ั่
ดังนั้น ฮองเตของจีนจํานวนมากจึงเปนคนจําพวกวิปริตผิดปกติ จะมียกเวนอยูบางที่เปนพระเจาแผนดินที่
เขมแข็งเกรียงไกร เหตุนี้อายุรัชกาลของแทบทุกราชวงศในเมืองจีนจึงมักไมคอยยืนยาว พระเจาเลนเตเองก็
ถูกเลี้ยงโดยขันที ดังนั้นเมื่อครองราชยแลว จึงทรงยกยองขันทีคนหนึ่งชื่อ "เตียวเหยียง" เปนบิดาบุญธรรม
และเพราะเหตุที่ถูกเลี้ยงดูโดยขันที ดังนั้น จึงมีความใกลชิดสนิทสนมไวเนื้อเชื่อใจขันทีเปนพิเศษ มีความ
เคารพยําเกรงขันทีเปนพิเศษ
ขันทีที่มความใกลชิดสนิทสนมในลักษณะเชนนี้ มีอยูสิบคน ซึ่งสามกกเรียกวา "สิบขันที" คือเทาเจียด, เตียว
ี
ตง, เตียวเหยียง, ฮองสี, ตวนกุย, เหาลํา, เกียนสิด, เหหุย, กกเสง และเชียกง ในจํานวนขันทีสิบคนนี้ไดยก
ยองใหเทาเจียดเปนหัวหนา ในขณะที่เตียวเหยียงเปนคนทีพระเจาเลนเตเคารพและยําเกรงเปนพิเศษ ในฐานะ
่
ที่ทรงยกยองเปนบิดาบุญธรรม
ความจริงชื่อของบุคคลในสามกกมีเปนจํานวนมาก ไมมีความจําเปนที่จะตองจดตองจํา แตการจะไมกลาวถึง
ชื่อขันทีทั้งสิบคนเห็นจะไมได เพราะเปนตัวละครสําคัญที่เปนตนตอทําใหแผนดินเกิดจลาจลวุนวาย แลวแตก
เปนสามกก ทั้งเปนตัวละครที่กอปญหาวุนวายถึงสองรัชกาล ขันทีทั้งสิบคนไดรวมคิด รวมมือกันครอบงํา
อํานาจบริหารของพระเจาเลนเต อยางสินเชิง กิจการภายในราชสํานักทั้งปวงขึ้นอยู กับความคิดความเห็นของ
้
ขันทีทั้งสิบคน จึงเปนเหตุใหเหลาขุนนางทั้งปวง เกรงกลัวไมกลากระทําการ หรือเพ็ดทูลสิ่งใดใหเปนทีขัดใจ
่
ของขันที
ขุนนางคนใดแสดงอาการใหเห็นวาไมเปนพวก ไมเคารพ หรือ ไมยําเกรง ก็จะถูกสิบขันทีแกลงเพ็ดทูลใหพระ
เจาเลนเตถอดออกจากตําแหนง หรือโยกยายไปทําราชการในถิ่นทุรกันดาร หรืออาจถูกเพ็ดทูลใหลงโทษ
ประหาร หนังสือราชการที่หวเมืองตาง ๆ รายงานเขามายังราชสํานักจะถูกกลั่นกรองโดยขันทีเสียชั้นหนึงกอน
ั ่
หนังสือออกจากราชสํานักรวมถึงพระบรมราชโองการตางๆ ก็เกิดขึ้นจากความคิดความเห็นของ ขันที จัดทํา
โดยเหลาขันที และจัดสงไปยังหัวเมืองตางๆ โดยคนของขันที เปนหนทางใหลูกนองของขันทีไดคาน้ํารอนน้ํา
ชาอีกทางหนึ่ง
อํานาจวาสนามีถึงเพียงนี้แลวก็ยังไมเปนที่พึงใจ ความหิวกระหายในอํานาจวาสนายิ่งทวีขึ้นอยางไมหยุดยั้ง
กลายเปนวาอํานาจวาสนาที่มมากขึ้นโดยลําดับนั้นไมตางกับฟนทีสุมทับเขาไปในกองไฟก็ยิ่งทําใหกองไฟลุก
ี ่
โชติชวงมากขึน ตองการฟนมากขึ้น ยิ่งเติมฟนเขาไปอีก กองไฟก็ยิ่งใหญขึ้น โชติชวงมากขึ้น อุปมาฉันใด
้
อุปไมยก็ฉันนั้น
ความหิวกระหายในอํานาจของขันทีไดทําใหราษฎรเกิดความเดือดรอนทุกหยอมหญา เหลาขุนนางทั้งในเมือง
หลวงและในหัวเมืองตางตองเดือดรอน และตองตกอยูภายใตอํานาจของขันที การแตงตั้งเจาเมืองไปครอง
เมืองตาง ๆ ขันทีก็จะเรียกเอาสิน บนทุกเมืองไป คนใดไมยอมใหสินบนแกขันทีก็จะถูกกลั่นแกลง ใน ชั้นตน
อาจจะแกลงไมใหไดรับแตงตั้ง หากขัดขวางในชั้นนี้ไมได ในภายหลังก็จะกลั่นแกลงเพ็ดทูลเอาเปนโทษ ซึ่ง
อาจจะเปนโทษปลดออกจากราชการ หรือโทษถึงลงพระราชอาญา หากขอหาหนักก็ตองถูกประหาร เจาเมือง
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
- 7. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 1 ตอนที่ 1-50 หนาที่ 7
คนใดยอมอยูในอํานาจ ขันทีก็จะจัดสงคนไปเรียกเก็บสวยทุกป และจํานวนสวยก็จะเพิมขึ้นทุกปดุจกัน เจา
่
เมืองบางคนในระยะแรกสามารถทนกับระบบสวยได แตนานไปทนแรงสวย ไมไหวก็ตองลาออก เพราะขืนทน
รับราชการตอไปก็ตองถูกปลด ถูกถอด หรือตองโทษ คาภาษีตางๆ ที่หัวเมืองจัดเก็บสงเขาเมืองหลวง
ตามปกติก็ถูกขันที ชักสวนแบงตั้งแตรอยละ 10 หนักเขาก็ชักสวนแบงถึงรอยละ 50 ทําใหรายไดของแผนดิน
ไมพอเพียงกับรายจาย เปนเหตุใหพระเจาเลนเตตองขึ้นภาษีเอากับราษฎรบอยครั้ง
จึงกลาวไดวาราษฎรในยุคสมัยของพระเจาเลนเตถูกขูดรีดภาษีหนักที่สด ดานหนึ่งหนักเพราะการฉอราษฎรบัง
ุ
หลวงของเหลาขันทีและขุนนางที่เปนพวก ดานหนึ่งหนักเพราะรายจายเพิ่มมากขึ้นเพื่อบํารุงบําเรอความสุข
และเพื่อจัดสวนแบงใหแกขันทีและขุนนาง วากันวางบประมาณแผนดินในสมัยพระเจาเลนเตรั่วไหลไปกวารอย
ละ 30 เทาๆ กับตัวเลขการรัวไหลของงบประมาณแผนดินของรัฐบาลไทยในบางยุค
่
เมื่อขุนนางขาราชการทั้งในเมืองหลวงและหัวเมืองตองจายเงินคาสวยสินบน และมีความรั่วไหลเกิดขึ้นใน
งบประมาณแผนดินมากมาย เชนนี้ ราษฎรก็ถูกรีดนาทาเรนหนักขึ้นทุกวัน ราษฎรกลายเปนคนยากจนและ
ยากไร ไมมีททากิน และไมมีกน จนตองปลนชิงวิ่งราวกันทั่วทั้งแผนดิน
ี่ ํ ิ
หนักเขาขาราชการทั้งในเมืองหลวง และในหัวเมืองตางประพฤติตนเปนโจร ปลนชิงวิ่งราวเสียเองอยางหนึ่ง
เลี้ยงโจรใหปลน ชิงวิ่งราวมาแบงกันอยางหนึ่ง คาของหนีภาษี คาของเถื่อนอยางหนึ่ง และเอาที่หลวง เอา
ประโยชนของหลวงไปทํามาหากิน ไปแสวงหาประโยชนอกอยางหนึ่ง คดีความทั้งปวงก็ตัดสินไปตามน้ําหนัก
ี
ของเงินสินบน ขาวถูกกลับเปนดํา ดําถูกกลับเปนขาว ความเดือดรอนจลาจลจึงเกิดขึ้นทังแผนดิน โดยที่ไมมี
้
ใครกลาพูด กลากราบทูล พระเจาเลนเตเห็นหนังสือลับของยีหลงแลว ก็ทอดพระทัย มิได ตรัสประการใด แต
ขันทีทราบความเขาก็ผูกอาฆาตยีหลง เพราะเห็นวาเปนการกราบทูลที่จะทําใหพวกตนเสียหาย และแสรง
เพ็ดทูลเสียใหมวา กรณี ทั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากฉลองพระองคเกา เพราะทรงมานาน ดังนัน เพื่อความเปนสิริ
้
มงคลของประเทศและราษฎรจึงตองเปลี่ยนฉลองพระองคใหม พระเจาเลนเต ก็กระทําตามคําแนะนํานั้น
หลังเหตุการณนี้แลวสิบขันทีไดกราบทูลยุยงฮองเตใหปลดยีหลงออกจากราชการไปทําไรไถนา ณ ภูมลําเนา ิ
เดิม สิบขันทียงมีอํานาจวาสนามากขึ้นเทาใด ก็ยิ่งกําเริบเสิบสานมากขึ้น ในทีสุดไดกราบทูลใหพระเจาเลนเต
ิ่ ่
แตงตั้งตัวเองเปน "เซียงสี" หรือเปน"องคมนตรี" ทําหนาที่ใหคําปรึกษาราชการแผน ดินหรือนัยหนึ่งก็คอ "คน
ื
ใชฮองเต" แตบางแหงแปลโดยความหมายวาเปนตําแหนงหนาทีผสําเร็จราชการแผนดิน
่ ู
การที่ขันทีสามารถเวียนวายดํารงอยูในอํานาจทามกลางความขัดแยงและผลประโยชนในราชสํานักไดอยาง
ยาวนาน แมถงขนาดมีบทบาท ครอบงําอํานาจรัฐของฮองเตนั้น มิใชดวยเหตุบังเอิญหรือโชคชวย หากเกิด
ึ
จากขันทีมสุดยอดวิชาประจําอาชีพของตนอยูถึงหาวิชา
ี ซึ่งคนปกติทั่วไปไมมีวนที่จะร่ําเรียนสุดยอดวิชา
ั
เหลานั้นไดอยางครบครัน
หาสุดยอดวิชาขันทีเปนไฉน? หาสุดยอดวิชาขันทีไดแก วิชาวาดวยการพินอบพิเทาและสรางความพอใจสูงสุด
อยางหนึ่ง วิชาวาดวยการสรางความแตกแยกเพื่อแสวงประโยชนหรือเอาตัวรอดอยางหนึ่ง วิชาวาดวยการฆา
คนซึ่งมีกระบวนทาสุดยอดคือการใชวาจาเปนอาวุธสังหารผูคนอยางหนึ่ง วิชาวาดวยการเรียกรับสินบนอยาง
หนึ่ง และวิชาวาดวยการติดสินบนซื้อน้ําใจคนอีกอยางหนึ่ง
รายละเอียดแหงสุดยอดวิชาทังหานี้ มิใชเรืองในสามกกแตมีใหเห็นการใชวิชาขันทีปรากฏอยูในสามกกอยาง
้ ่
ลึกซึ้ง จึงกลาวถึงเรื่องนี้ไวแตเพียงนี้
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
โจรโพกผาเหลือง (ตอนที่ 4)
สามกกทุกฉบับที่มีมาในโลกลวนเรียกกลุมโจรโพกผาเหลือง วาเปน "โจร" ทั้งสิ้น ซึ่งเปนการชวยกันเหยียบ
ย่ําซ้ําเติมและทําใหความจริงผันแปรไปจากที่พึงเปน ความจริงโจรโพกผาเหลืองเปนขบวนการกูชาติขบวน
หนึ่งในยุคที่บานเมืองเปนจลาจล ไมตางกับขบวนการกูชาติของชาวนาในกรณี กบฏเขาเหลียงซาน หรือกบฏ
นักมวย หรือขบวนการกูชาติของพระเจาตากสินแมแตนอย
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด