Suche senden
Hochladen
Story3
•
0 gefällt mir
•
4,122 views
Roman Paduka
Folgen
Bildung
Melden
Teilen
Melden
Teilen
1 von 6
Jetzt herunterladen
Downloaden Sie, um offline zu lesen
Empfohlen
คณิต ป.6 หน่วยที่1
คณิต ป.6 หน่วยที่1
Thanakorn Kamsan
แบบฝึกเสริมทักษะภาคเรียนที่2ป.6
แบบฝึกเสริมทักษะภาคเรียนที่2ป.6
ทับทิม เจริญตา
เฉลยละเอียดข้อสอบคณิตศาสตร์นานาชาติ สพฐ ปี 2557 รอบที่ 1
เฉลยละเอียดข้อสอบคณิตศาสตร์นานาชาติ สพฐ ปี 2557 รอบที่ 1
sawed kodnara
คณิต ป.6
คณิต ป.6
Kruthai Kidsdee
แบบฝึกเสริมทักษะป.6
แบบฝึกเสริมทักษะป.6
ทับทิม เจริญตา
ข้อสอบ O net คณิต ป.6 ชุด 1
ข้อสอบ O net คณิต ป.6 ชุด 1
Manas Panjai
ข้อสอบคณิต ป6 ปลายภาค1
ข้อสอบคณิต ป6 ปลายภาค1
ทินกรณ์ พรมเภา
ข้อสอบ O net คณิต ป.6 ชุด 2
ข้อสอบ O net คณิต ป.6 ชุด 2
Manas Panjai
Weitere ähnliche Inhalte
Ähnlich wie Story3
L1
L1
itaecub
Ha & army hospitals
Ha & army hospitals
maruay songtanin
L1
L1
itaecub
เกณฑ์สมศ.รอบ3
เกณฑ์สมศ.รอบ3
arsad20
Best practice
Best practice
vorravan
บทที่ 10
บทที่ 10
Rathapon Silachan
หน่วยที่1 แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการคุณภาพ
หน่วยที่1 แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการคุณภาพ
อัยเหี้ยม ยัยห้อย
หน่วยที่1 แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการคุณภาพ
หน่วยที่1 แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการคุณภาพ
อัยเหี้ยม ยัยห้อย
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการวัด ประเมินผลการศึกษา
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการวัด ประเมินผลการศึกษา
aumkpru45
บทที่8
บทที่8
puyss
บทที่8
บทที่8
jujudy
งานนำเสนอ8
งานนำเสนอ8
มะม่วงกระล่อน จริงๆ
5 การประเมินโครงการ 5
5 การประเมินโครงการ 5
ไพรวัล ดวงตา
Ea5103
Ea5103
Nichaphon Tasombat
บทที่ 10
บทที่ 10
kanwan0429
บทที่ 10
บทที่ 10
kanwan0429
teaching 8
teaching 8
sangkom
Change strategic management
Change strategic management
capercom
ตัวบ่งชี้และเกณฑ์ประเมินรอบสาม(ระดับขั้นพื้นฐาน)
ตัวบ่งชี้และเกณฑ์ประเมินรอบสาม(ระดับขั้นพื้นฐาน)
pairat13
บทที่๘
บทที่๘
ลูกอีสาน อารามบอย
Ähnlich wie Story3
(20)
L1
L1
Ha & army hospitals
Ha & army hospitals
L1
L1
เกณฑ์สมศ.รอบ3
เกณฑ์สมศ.รอบ3
Best practice
Best practice
บทที่ 10
บทที่ 10
หน่วยที่1 แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการคุณภาพ
หน่วยที่1 แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการคุณภาพ
หน่วยที่1 แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการคุณภาพ
หน่วยที่1 แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการคุณภาพ
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการวัด ประเมินผลการศึกษา
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการวัด ประเมินผลการศึกษา
บทที่8
บทที่8
บทที่8
บทที่8
งานนำเสนอ8
งานนำเสนอ8
5 การประเมินโครงการ 5
5 การประเมินโครงการ 5
Ea5103
Ea5103
บทที่ 10
บทที่ 10
บทที่ 10
บทที่ 10
teaching 8
teaching 8
Change strategic management
Change strategic management
ตัวบ่งชี้และเกณฑ์ประเมินรอบสาม(ระดับขั้นพื้นฐาน)
ตัวบ่งชี้และเกณฑ์ประเมินรอบสาม(ระดับขั้นพื้นฐาน)
บทที่๘
บทที่๘
Mehr von Roman Paduka
ใบงานที่ 5
ใบงานที่ 5
Roman Paduka
ใบงานที่ 4
ใบงานที่ 4
Roman Paduka
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3
Roman Paduka
ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2
Roman Paduka
ใบงานที่ 1
ใบงานที่ 1
Roman Paduka
แบบฝึกทักษะที่ 6
แบบฝึกทักษะที่ 6
Roman Paduka
แบบฝึกทักษะที่ 6
แบบฝึกทักษะที่ 6
Roman Paduka
แบบฝึกทักษะที่ 5
แบบฝึกทักษะที่ 5
Roman Paduka
แบบฝึกทักษะที่ 4
แบบฝึกทักษะที่ 4
Roman Paduka
แบบฝึกทักษะที่ 3
แบบฝึกทักษะที่ 3
Roman Paduka
แบบฝึกทักษะที่ 2
แบบฝึกทักษะที่ 2
Roman Paduka
แบบฝึกทักษะที่ 2
แบบฝึกทักษะที่ 2
Roman Paduka
แบบฝึกทักษะที่ 1
แบบฝึกทักษะที่ 1
Roman Paduka
แบบฝึกทักษะที่ 1
แบบฝึกทักษะที่ 1
Roman Paduka
แบบฝึกทักษะที่ 2
แบบฝึกทักษะที่ 2
Roman Paduka
แบบฝึกทักษะที่ 1
แบบฝึกทักษะที่ 1
Roman Paduka
Mehr von Roman Paduka
(16)
ใบงานที่ 5
ใบงานที่ 5
ใบงานที่ 4
ใบงานที่ 4
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 1
ใบงานที่ 1
แบบฝึกทักษะที่ 6
แบบฝึกทักษะที่ 6
แบบฝึกทักษะที่ 6
แบบฝึกทักษะที่ 6
แบบฝึกทักษะที่ 5
แบบฝึกทักษะที่ 5
แบบฝึกทักษะที่ 4
แบบฝึกทักษะที่ 4
แบบฝึกทักษะที่ 3
แบบฝึกทักษะที่ 3
แบบฝึกทักษะที่ 2
แบบฝึกทักษะที่ 2
แบบฝึกทักษะที่ 2
แบบฝึกทักษะที่ 2
แบบฝึกทักษะที่ 1
แบบฝึกทักษะที่ 1
แบบฝึกทักษะที่ 1
แบบฝึกทักษะที่ 1
แบบฝึกทักษะที่ 2
แบบฝึกทักษะที่ 2
แบบฝึกทักษะที่ 1
แบบฝึกทักษะที่ 1
Story3
1.
การประเมินเสริมพลัง รัตนะ บัวสนธ /
เชาว อินใย ความหมายและลักษณะ การประเมินเสริมพลัง มาจากคําวา Empowerment Evaluation การประเมินเสริม พลังใชมโนทัศนหรือแนวคิดจากการประเมิน เทคนิคการประเมิน และขอคนพบของการประเมินเพือ ่ ผลักดัน (foster) ใหเกิดการปรับปรุงและกําหนดทิศทางการพัฒนาตนเอง การประเมินเสริมพลังสามารถใชไดทั้งเทคนิควิธีเชิงปริมาณและคุณภาพ นอกจากนั้นยังสามารถ จะนําไปเสริมพลังตนเองไดทงในระดับตัวบุคคล องคกร ชุมชน สังคม ซึงปกติแลวจะเนนไปที่ ้ั ่ โครงการทีนาไปใช ่ ํ ความเปนมาและขอบขายสาระ การประเมินเสริมพลังเปนอีกวิธีการหรือแนวคิดหนึงของการประเมินที่ไดรบการคิดคนนําเสนอ ่ ั โดย David Fetterman แหง Standford University ในป ค.ศ.1993 พืนฐาน ้ ของแนวคิดนี้มาจากแรงปรารถนาของ Fetterman ทีตองการจะแลกเปลี่ยนประสบการณหรือบทเรียน ่ ระหวางนักวิชาการนักประเมินกับกลุมบุคคลเปาหมายที่ไดรบโครงการตาง ๆ เพื่อใหกลุมบุคคลเปาหมาย ั สามารถที่จะพัฒนาตนเองได นอกจากพื้นฐานแนวคิดของการประเมินนี้ยังอาศัยความรูทางดานจิตวิทยา ชุมชน (Community Psychology) ปฏิบตการทางมานุษยวิทยา (action ัิ anthropology) ประกอบดวยเชนกัน จุดมุงหมายทีสาคัญของการประเมินเสริมพลัง คือ การชวยบุคคลใหสามารถชวยตนเองได ่ ํ สามารถปรับปรุงการนําโครงการไปใชโดยอาศัยการประเมินตนเองและการสะทอนกลับผลการประเมิน ตนเอง ผูเ ขารวมในโครงการแตละฝายจะเปนผูควบคุมดําเนินการเนนการประเมินดวยตนเอง ในขณะที่นัก ประเมินภายนอก (outsider evaluator) จะแสดงบทบาทในฐานะผูฝกสอน(Coach) หรือผูให การสนับสนุนเพิมเติมซึงขึนอยูกบความสามารถหรือศักยภาพภายในของโครงการประเมิน บทบาทของนัก ่ ่ ้ ั ประเมินไมใชผูมีอานาจเหนือคนอื่น ๆ การประเมินเสริมพลังตองอาศัยหลักการแบบประชาธิปไตย ความ ํ รวมมือกันแตละฝายนักประเมินจะเขาไปเกี่ยวของเมือไดรับการรองขอเชือเชิญเทานัน ่ ้ ้ ดวยเหตุน้ีการประเมินเสริมพลังจึงตางจากการประเมินทัว ๆ ไปที่จุดหมายปลายทางสุดทายไมใช ่ การตัดสินคุณคา (value) หรือราคา (worth) ของโครงการหากแตเปนเพียงสวนหนึ่งของการ ประเมินเสริมพลังเทานัน ทังนีคุณคาหรือราคาของโครงการจะเปลียนแปลงไปเรื่อย ๆ ตามเงื่อนไขตาง ๆ ้ ้ ้ ่ ทีเ่ ปลียนแปลงไปดังแนวคิดของความเปนพลวัตร(Dynamic) และวิธีการประเมินตอบสนอง ่ (Responsive Evaluation Approach)
2.
2 ในการประเมินเสริมพลังนักประเมินอาจจะใชรปแบบหรือวิธีการตาง ๆ ประกอบดวย
อาทิ การ ู ฝกอบรม (training) การสนับสนุนสงเสริม (facilitation) การโนมนาวชักชวน (advocacy) การชี้ชองทางสวาง (illimination) และการใหเสรีภาพ (liberation) ซึ่งแต ละรูปแบบมีสาระโดยสรุปดังนี้ 1 การฝกอบรม : Training บทบาทของนักประเมินทีดีจะชวยสอนหรือฝกใหบุคคลหรือองคกรสามารถทีจะทําการควบคุม ่ ่ ดําเนินการ (conduct) การประเมินตนเองใหได เปนการฝกใหทาการประเมินภายใน องคกร ํ (internal evaluation) และใชผลการประเมินเพื่อพัฒนาตนเองตอไป 2. การสนับสนุนสงเสริม : Facilitation ในบทบาทนี้นักประเมินจะทําหนาทีเ่ ปนผูสนับสนุนหรือโคชที่ชวยใหบุคคลหรือองคกร ควบคุมดําเนินการประเมิน ชวยสมาชิกผูรวมงานในองคกร (staff members) ใหฉุกคิดตระหนัก ถึงสิงทีพวกเขากําลังทําอยูและเปาหมายที่ตองการจะไปใหถึง นักประเมินอาจจําเปนในการจัดเตรียมขอมูล ่ ่ เพือชวยเหลือทีมผูสนับสนุน ทํางานรวมกับกลุมสนใจ บางครังนักประเมินอาจจะตองชวยในการ ่ ้ ออกแบบการประเมินใหกบบุคคลหรือองคกรนัน ๆ ั ้ 3. การโนมนาวชักชวน : Advocacy บางครังในการประเมินเสริมพลัง นักประเมินอาจจะตองทําการควบคุมดําเนินการประเมิน ้ สําหรับกลุมตาง ๆ ภายหลังจากเปาหมายและการออกแบบการประเมินไดทําการกําหนดไวเรียบรอยแลว นักประเมินอาจจะโนมนาวชักชวนใหบุคคลผูรวมในโครงการทําการสราง (Shape) ทิศทางการ ประเมิน เสนอแนะความคิดเห็นเพือการแกปญหาและตามไปดวยบทบาทของผูปฏิบัติในการสรางการ ่ เปลียนแปลงในสังคม ่ 4. การชี้ชองทางสวาง : Illimination บางครั้งนักประเมินอาจจําเปนตองแสดงบทบาทเปนผูขจัดความไมชัดเจนในเปาหมายหรือทิศ ทางการประเมินตนเองของบุคคลหรือองคกร ในบทบาทนีนกประเมินเปรียบเสมือนผูชทางสวางเกี่ยวกับ ้ ั ้ี การประเมินใหกบองคกรหรือบุคคล ั 5. การใหเสรีภาพ : Liberation การประเมินเสริมพลังจําเปนตองกอใหเกิดความเทาเทียมกันหรือความรูสึกมีเสรีภาพของบุคคล ตาง ๆ ทีเ่ ขารวมโครงการที่ตองการจะประเมินตนเอง โดยสรุปการประเมินเสริมพลังนันการกําหนดคุณคาและเปาหมายของการประเมินจะถูก ้ กําหนดหรือพัฒนาขึนโดยตัวบุคคลทีเ่ ขารวมโครงการนัน ๆ ภายใตการชวยเหลือหรือฝกอบรมจากนัก ้ ้
3.
3 ประเมิน การประเมินเสริมพลังเปนกระบวนการดําเนินงานทีตอเนื่อเปนวัฏจักรซึงเปนผลมาจากการใหผล ่ ่ สะทอนกลับการประเมินแกตนเอง
ผูเ ขารวมโครงการจะเกิดการเรียนรูความกาวหนาและความตอเนืองของ ่ ผลการดําเนินงานของตนเองเพือมุงสูเ ปาหมายและจะทําการปรับปรุงแผนและวิธีการตาง ๆ ในการประเมิน ่ ตนเอง ทั้งนี้โดยอาศัยหลักความรวมมือ การชี้ชองทางสวางและการมีเสรีภาพความเทาเทียมกัน นอกจากนันยังตองอาศัยความซือสัตยในการประเมินตนเองอีกดวย ้ ่ ขั้นตอนการประเมินเสริมพลัง ขันตอนสําหรับการประเมินเสริมพลังทีจะชวยใหบุคคลอื่น ๆ เกิดการเรียนรูในการประเมิน ้ ่ โครงการของตนเองประกอบดวย ขันที่ 1 ระบุขอบเขตหรือจุดยืนของโครงการวาอยู ณ ที่ใดซึ่งรวมทั้งจุดออนและจุดแข็งของ ้ โครงการ ขันที่ 2 กําหนดเปาหมายที่ชัดเจนโดยเฉพาะเจาะจงวาโครงการตองการจะเดินไปสูที่ใดในอนาคต ้ รวมทั้งจุดเนนที่ปรากฏใหเห็นไดเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงการ ขันที่ 3 พัฒนากลวิธี (strategies) และการชวยเหลือใหผูรวมโครงการสามารถกําหนดกลวิธี ้ เปนของตนเองเพือการบรรลุเปาหมายและวัตถุประสงคของโครงการ ่ ขันที่ 4 ชวยเหลือผูเ ขารวมโครงการในการกําหนดชนิด / ประเภท ของขอมูลที่ตองการเพื่อจัดทํา ้ หรือแสดงถึงเอกสารรายงานความกาวหนาทีนาเชือถือที่จะนําไปสูเ ปาหมายของโครงการนัน ๆ ่ ่ ้ สรุป พื้นฐานที่สําคัญของแนวคิดการประเมินเสริมพลัง คือ กระบวนการเรียนรูแบบประชา ธิปไตย ระหวางกลุมบุคคลตาง ๆ ทีเ่ ขารวมโครงการ ในการกําหนดเปาหมายระบุขอจํากัด จุดแข็งของ โครงการของตนเอง การประเมินเสริมพลังเปนกิจกรรมทีตอเนืองและมีการปรับปรุงอยูเ สมอโดยอาศัยผล ่ ่ จากการสะทอนกลับการประเมินทีบุคคลในโครงการเปนผูประเมินตนเองดวยความซือสัตยตอตนเอง ่ ่ บทบาทของนักประเมินจะมีหลายบทบาทขึนอยูกบสถานการณและการรองขอของบุคคลผูเ ขารวม ้ ั โครงการในขณะนั้นซึ่งอาจเปนบทบาทของการฝกอบรม การสงเสริมสนับสนุน การโนม-นาว การชี้ ชองทางสวาง และการใหเสรีภาพแกผเู ขารวมโครงการ การประเมินเสริมพลังจะไมสามารถเกิดขึ้นไดโดยการกระทําของบุคคลเพียงคนเดียวหรือโดยนัก ประเมินแตเพียงฝายเดียว การประเมินเสริมพลังจะสําเร็จไดเมือบุคคลตาง ๆ ทีเ่ ขารวมโครงการหรือใน ่ องคกรไดตระหนักถึงความจําเปนและความสามารถของตนเองที่จะควบคุมดําเนินการประเมินตนเองเพื่อ บรรลุเปาหมายรวมกัน
4.
4 ประเด็นวิพากษแนวคิดการประเมินเสริมพลัง ภายหลังจากการนําเสนอแนวคิดการประเมินเสริมพลังซึง Fetterman ไดนาเสนอครังแรกใน ่ ํ ้ ฐานะทีเ่
ปนประธานการจัดประชุม (Presidential Address) ประจําป 1993 ของสมาคมการ ประเมินแหงอเมริกน (American Evaluation Association : AEA) ก็ไดมีการเสนอ ั ประเด็นวิพากษแนวคิดดังกลาวนีโดยนักประเมินที่มีช่ือเสียงอาทิ Danial. L . Stufflebeam, ้ Michael Quinn Patton and Michael Scriven ซึงมีสาระการวิพากษโดยสรุปดังนี้ ่ Stufflebeam เสนอประเด็นวิพากษการประเมินเสริมพลังโดยใชมาตรฐานการประเมิน โครงการ (The Program Evaluation Standards) เปนกรอบการพิจารณาวิพากษซึ่งมี ประเด็นทีสาคัญ ๆ ไดแก ่ ํ ประเด็นที่ 1 นิยามคําวาการประเมิน : Evaluation ตามที่ Fetterman ใหนิยามการประเมินเสริมพลังวาใชมโนทัศนเดียวกันกับการ ประเมินเพื่อผลักดันใหเกิดการประเมินตนเองนั้น Stufflebeam เห็นวาบทบาทของนักประเมินทีวา ่ "ชวยเขาใหชวยตนเองได" ตามที่ Fetterman ตองการ ไมใชหรือไมตรงกับนิยามของการประเมินที่ กําหนดขึ้นโดยคณะกรรมการกําหนดมาตรฐานของการประเมินโครงการที่วา การประเมินคือการศึกษา รวบรวมเกี่ยวกับคุณคาและคุณธรรมของโครงการ ประเด็นที่ 2 บทบาทของนักประเมิน Stufflebeam เตือนและชี้ใหเห็นวาการที่ Fetterman เสนอวานักประเมินควรมี บทบาทสําคัญ ๆ 5 บทบาท ไดแก การเปนผูฝกอบรม ผูสนับสนุน ผูโนมนาว ผูช้ีชองทาง และผูใหเสรีภาพ นันอาจเปนการบิดเบือนและกอใหเกิดความลําเอียงในการเปนผูประเมินที่มีคณธรรม (merit) และ ้ ุ คุณคา (worth) ของโครงการ ประเด็นที่ 3 แนวโนมการใชกิจกรรมและผลการประเมินไปในทางที่ผิด ในประเด็นนี้ Stufflebeam เห็นวาการที่ Fetterman เสนอวานักประเมินควร เขาไปใหคาแนะนําชวยเหลือผูรวมโครงการตาง ๆ ในการกําหนดเปาหมาย วัตถุประสงค ตลอดจนเกณฑ ํ การประเมินและการเลือกจัดทํารายงานการประเมินนั้นเปนการเสี่ยงอยางยิ่งตอความผิดพลาดของกิจกรรม การประเมินและการใชผลการประเมิน ประเด็นที่ 4 รูปแบบการประเมินทีสัมพันธกน ่ ั Stufflebeam เห็นวา Fetterman เสนอแนวคิดการประเมินเสริมพลังโดยอาศัย หยิบยืมหรือปะปนกันระหวางแนวคิดการประเมิน discrepancy evaluation, responsive
5.
5 evaluation, naturalistic evaluation
และ goal-base evaluation ซึ่งแนวคิดการ ประเมินทังหลายนี้ใชเกณฑการประเมินทีแตกตางกันตามพืนฐานความเชือและกลุมบุคคลทีเ่ กี่ยวของกับ ้ ่ ้ ่ โครงการตางกัน ดังนันการที่ Fetterman นําเสนอแนวคิดการประเมินเสริมพลังโดยหยิบยืมแนวคิด ้ ขางตนมาจึงเปนสิ่งที่ควรพิจารณาใหถองแท ซึงจะเห็นไดวาประเด็นทีสาคัญที่ Fetterman ตองตอบ ่ ่ ํ ใหชัดเจนก็คือ ความขัดแยงของคุณคาของโครงการซึงนําไปใชในสังคมที่มลักษณะพหุลักษณ ่ ี (pluralistic society) รวมทังความยุติธรรมของนักประเมินเมือไปทําหนาทีเ่ ปนผูโนมนาว ้ ่ ในขณะที่ Patton ก็เห็นวาการนําเสนอแนวคิดการประเมินเสริมพลังนันคอนขางจะ ้ ใกลเคียงและเกี่ยวพันกับ participatory evaluation, collaborative evaluation, stakeholder-involving evaluation และ utilization-focused approach อยู มากซึง Patton เห็นวา Fetterman ยังมีปญหาเกี่ยวกับเกณฑท่ีชดเจนในการแยกการประเมินเสริม ่ ั พลังออกจากแนวคิดการประเมินเหลานี้ สวน Scriven วิพากษวิจารณวาปญหาของการประเมินเสริมพลังอยูทนิยามจะเห็นวา ่ี นิยามของการประเมินเสริมพลังมีการเปลียนแปลงไปเรื่อย ๆ ไมคงที่แนนอน คําวาการประเมินเสริมพลัง ่ นันใครกันแนทจะตองเสริมพลัง หรือตัวนักประเมินเองทีจะตองเสริมพลัง ปญหาความลําเอียงในบทบาท ้ ่ี ่ ของนักประเมินเมื่อใชการประเมินเสริมพลังเพราะวานักประเมินจะตองเขาไปชวยเหลือในดานตาง ๆ จึงอาจ ทําใหเกิดความคุนเคยกับผูถูกประเมินทําใหเกิดความลําเอียงได ในการประเมินเสริมพลังนักประเมินเปน stakeholder ดวยจึงทําใหลดบทบาทของนักประเมินภายนอกลงไป และประการสุดทายการประเมิน เสริมพลังที่ Fetterman เสนอนันเนนการสอนการประเมินไมไดทาการประเมิน ้ ํ บรรณานุกรม Fetterman, D.M "Empowerment Evaluation : Presidential Address" in Evaluation Practice. Vol 15 No 1, 1994 pp. 1-15. Fetterman, D.M "Empowerment Evaluation and Accreditation in Higher Education" in Evaluation for the 21 st. century : A Handbook. editors by Chelimsky.E and Shadish.W.R. sage Publication, Inc. 1997 pp. 381-395 Patton, M.Q. "Toward Distinguishing Empowerment Evaluation and Placing It In A Large Context" in Evaluation Practice. Vol 18 No 2 ,1997 pp. 147-163 Stufflebeam, D.L. "Empowerment Evaluation, Objectivist Evaluation, and Evaluation Standards : Where the Future of Evaluation Should Not go and Where It Need to go" in Evaluation Practice. Vol 15 No 3, 1994 pp. 321-338 Scriven, M. " Empowerment Evaluation Examined" in Evaluation Practice. Vol 18 No 2, 1997 pp. 165-175
6.
6 รายละเอียดเกี่ยวกับผูเ ขียน ดร.รัตนะ บัวสนธ ผูชวยศาสตราจารย
ระดับ 8 ภาควิชาพื้นฐานการศึกษา คณะศึกษาศาสตร มหาวิทยาลัยนเรศวร เชาว อินใย นิสตปริญญาเอก สาขาวิชาวิจัยและประเมินผลการศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร ิ
Jetzt herunterladen