SlideShare ist ein Scribd-Unternehmen logo
1 von 13
http://gotoknow.org/blog/theps/315124 เข้าถึงเมือ ١٠ ก.ค.٥٣ เวลา ٩.
                                                ่
٤٨ น.

แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน) ฉบับที่ 1

คำาชีแจง ให้นักเรียนเลือกคำำตอบที่ถูกต้องที่สุด เพียงคำำตอบเดียวแล้วทำำ เครื่องหมำย
     ้
X ลงในกระดำษคำำตอบ

จุดประสงค์ที่1 ม.4.1 สำำรวจตรวจสอบ                4. ) รถยนต์ โดยสำรวิ่งด้วยเฉลี่ย 90
วิเครำะห์ และอธิบำยควำมสัมพันธ์ระหว่ำงแรง กิโลเมตรต่อชั่วโมง จำกสถำนีสำยใต้ถึง
กำรเคลื่อนที่ของอนุภำคหรือวัตถุในสนำมไฟฟ้ำ สี่แยกกุยบุรี เป็นระยะทำง 180
และกำรนำำไปใช้ประโยชน์                             กิโลเมตร ถ้ำรถเดินทำงออกเวลำตั้งแต่
                                                  09.00 น. รถโดยสำรคันนี้จะมำถึงสี่แยก
1.)เมื่อนำำเข็มทิศวำงบนพื้นโต๊ะข้อใดกล่ำวได้ กุยบุรีในเวลำใด
ถูกต้อง
                                                      ก. 10.00 น .                 ข.
ก.      เข็มทิศจะชี้ไปทำงขั้วเหนือเพรำะที่ขั้ว 10.30 น.
เหนือมีสนำมแม่เหล็กโลกขั้วเหนือ
                                                      ค. 11.00 น.                  ง.
ข.      เข็มทิศจะชี้ไปทำงขั้วใต้เพรำะที่ขั้วเหนือ 12.00 น .
มีสนำมแม่เหล็กโลกขั้วใต้

ค.    เข็มทิศจะชี้ไปทำงขั้วเหนือเพรำะที่ขั้ว
เหนือมีสนำมแม่เหล็กโลกขั้วใต้

ง.    ถูกทั้งข้อ ก และ ข                            2                 1
                                                3

                                                    O …………….O…………….O




                                                รูป ข้อที่ 5
2.)ข้อใดต่อไปนี้เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้ำทั้งหมดที่   5.) 1 อยู่ที่ตำำแหน่งสมดุล
ต้องใช้สนำมแม่เหล็ก
                                                    2 อยู่ที่ตำำแหน่งห่ำงจำกตำำแหน่ง
ก.    เตำรีดไฟฟ้ำ พัดลม เครื่องปั่นผสม          ไปทำงซ้ำย 6 เซนติเมตร
อำหำร
                                            3 อยู่ที่ตำำแหน่งห่ำงจำกตำำแหน่ง
ข.     มอเตอร์ไฟฟ้ำ สว่ำนไฟฟ้ำ เตำไฟฟ้ำ ไปทำงขวำ 6 เซนติเมตร

ค.   สว่ำนไฟฟ้ำ เครื่องปั่นผสมอำหำร              กำรเคลื่อนที่ของลูกตุ้มพลำสติก ดังรูป
เตำไฟฟ้ำ                                        มีแอมพลิจูดสูงสุดเมื่อใด ก. ข้อ
                                                1                         ข. ข้อ 2
ง.   สว่ำนไฟฟ้ำ เครื่องปั่นผสมอำหำร
พัดลมไฟฟ้ำ                                                       ค.
ข้อ 1,2                        ง. ข้อ
                                         2,3
จุดประสงค์ที่ 2 ม. 4.2 ) 1. ทดลอง และ    6. )จำกโจทย์ข้อที่ 5 กำรเคลื่อนที่ของ
อธิบำยควำมสัมพันธ์ระหว่ำง กำรกระจัด เวลำ ลูกตุ้มพลำสติก ดังรูปมีกำรกระจัดสูงสุด
ควำมเร็ว ควำมเร่ง ของกำรเคลื่อนที่ในแนว เมื่อใด
ตรง และคำำนวณหำปริมำณที่เกี่ยวข้อง

 2.สำำรวจ ตรวจสอบและอธิบำยกำรเคลื่อนที่
แบบ ฮำร์มอนิกอย่ำงง่ำย แบบวงกลม แบบ ก. ข้อ 1
โพรเจกไทล์ รวมทั้งกำรนำำมำใช้ประโยชน์   ข. ข้อ 2

3.) รถคันหนึ่งเคลื่อนที่จำกหยุดนิ่ง จนมี        ค. ข้อ 1,2
ควำมเร็วเป็น 10 เมตรต่อวินำที ในเวลำ 20               ง. ข้อ 2,3
วินำที รถคันนี้จะเคลื่อนที่ด้วยควำมเร่งเท่ำไร .

ก. 1.8 เมตรต่อวินำที        ข. 1.2 เมตรต่อ
วินำที

ค. 0.9 เมตรต่อวินำที       ง. 0.5 เมตรต่อ
วินำที
7.) ในกำรดีดเหรียญให้เคลื่อนที่แบบโพรเจก        10. ) คลื่นนำ้ำเคลื่อนที่จำกนำ้ำลึก สู่นำ้ำ
ไทล์จำกโต๊ะเรียนตกถึงพื้นห้องเรียนข้อใดถูก      ตื้นข้อใดถูกต้อง
ต้อง
                                                ก. ควำมยำวคลื่นนำ้ำลึกมำกกว่ำ
ก. ควำมเร็วต้นแนวรำบเท่ำกับแนวดิ่ง              ควำมยำวคลื่นนำ้ำตื้น

ข. ระยะทำงแนวรำบเท่ำกับระยะทำงแนวดิ่ง           ข. ควำมเร็วคลื่นนำ้ำลึกมำกกว่ำควำมเร็ว
                                                คลื่นนำ้ำตื้น
ค. เวลำที่ใช้ในแนวรำบเท่ำกับเวลำที่ใช้แนวดิ่ง
                                                ค. ควำมถี่คลื่นนำ้ำลึกเท่ำกับควำมถี่คลื่น
ง. ควำมเร็วแนวรำบเท่ำกับควำมเร็วแนวดิ่ง         นำ้ำตื้น
ตลอดกำรเคลื่อนที่
                                                ง. ถูกทุกข้อ


จุดประสงค์ที่ 3 ม.5.2 เข้ำใจควำมสัมพันธ์        11. ) ข้อใดเป็นไปตำมข้อกำำหนดของ
ระหว่ำงพลังงำนกับกำรดำำรงชีวิต กำรเปลียนรูป องค์กำรอนำมัยโลกเกี่ยวกับระดับควำม
                                           ่
พลังงำน ปฏิสัมพันธ์ระหว่ำงสำรและพลังงำน เข้มเสียง
ผลของกำรใช้พลังงำนต่อกำรต่อชีวิตและสิ่ง
แวดล้อม มีกำรกระบวนกำรสืบเสำะหำควำมรู้          ก. ไม่เกิน 55 เดซิเบล รับฟังติดต่อกัน
สื่อสำรสิ่งทีเรียนรู้และนำำควำมรู้ไปใช้ประโยชน์ ไม่เกน 8 ชั่วโมง
             ่

                                                ข. ไม่เกิน 65 เดซิเบล รับฟังติดต่อกัน
                                                ไม่เกน 8 ชั่วโมง

                                                ค.ไม่เกิน 75 เดซิเบล รับฟังติดต่อกัน
ไม่เกน 8 ชั่วโมง

                                               ง. ไม่เกิน 85 เดซิเบล รับฟังติดต่อกัน
                                               ไม่เกน 8 ชั่วโมง



                                               12.) เมื่อรับฟังเสียงดังมำก ๆอวัยวะใด
                                               จะชำำรุด

8. ) ควำมเร่งจำกแรงดึงดูดของโลกมีทิศตำมข้อก. ใบหู
ใด
                                          ข. รูหู
   ก. มีทศขึ้นด้ำนบน
            ิ
                                          ค. เยื่อแก้วหู
   ข. มีทิศลงในแนวดิ่ง
                                          ง. คอเคลีย
   ค. มีทศไปทำงเหนือ
          ิ

    ง. มีทิศไปทำงใต้
9.) ในกำรทดลองเรื่องกำรเคลื่อนที่ของคลื่น 13. ) คลื่นในเส้นเชือกมีอัตรำเร็ว 15
โดยใช้ถำดนำ้ำกับตัวกำำเนิดคลื่นซึ่งเป็นมอเตอร์ที่ เมตรต่อวินำที และวัดควำมยำวคลื่นได้
หมุน 4 รอบต่อวินำที ถ้ำคลื่นบนผิวนำ้ำเคลื่อนที่ 1.5 เมตร คำบของคลื่นเป็นเท่ำใด
ด้วยอัตรำเร็ว 12 เซนติเมตรต่อวินำที จง
หำควำมยำวคลื่นบนผิวนำ้ำที่เกิดขึ้น                 ก. 30 วินำที

ก. 1.5 cm                          ข. 3.0      ข. 10 วินำที
cm
                                               ค. 0.5 วินำที
ค. 4.5 cm                          ง. 6.0
 cm                                            ง. 0.1 วินำที




14.) มนุษย์นำำปรำกฏกำรณ์บีตส์ ของเสียง 18.) ข้อใดที่เป็นรังสี ที่เป็นไปได้ ที่ถูกแผ่
มำใช้ประโยชน์ในข้อใด                   ออก นิวเคลียส ยูเรเดียม -238 เมื่อ สลำย
                                       ตัวแผ่รังสีออกมำ
ก. กำำจัดฝุ่นละอองตำมซอกและมุม
                                       ก. แสงเลเซอร์          ข.
ข. ตรวจหำควำมลึกของท้องทะเล              อัลตรำไวโอเลต

ค. ใช้เทียบเสียงดนตรี                    ค. อินฟรำเรด             ง. รังสีแกมมำ

ง. ใช้สลำยนิ่วในไตของผู้ป่วย
15. รีโมทคอนโทนหรือกำรควบคุมระยะไกล 19.) ข้อใดเป็นควำมหมำยของธำตุ
อำศัยหลัก                          กัมมันตรังสี

คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำชนิดใดเป็นตัวนำำคำำสั่ง ก. มีรังสีที่แผ่ออกมำได้เองจำกธำตุบำงชนิด
จำกอุปกรณ์ควบคุมไปยังเครื่องรับ
                                          ข. ธำตุทมีในธรรมชำติที่แผ่รังสีออกมำ
                                                     ี่
ก. แสงเลเซอร์       ข.
อัลตรำไวโอเลต                             ค. รังสีที่เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำบำงชนิด

ค. อินฟรำเรด        ง. รังสีแกมมำ        ง. ธำตุที่มีในธรรมชำติที่เป็น
                                         คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำ


16. กำรรักษำโรคมะเร็งของยอดรัก โดยใช้ 20.) ข้อใดต่อไปนี้ตำมธรรมชำติมักเกิดใน
Co – 60                               ดำวฤกษ์และดวงอำทิตย์ตลอดเวลำ

Co – 60 นี้ปล่อยรังสีชนิดใดออกมำ         ก. ปฏิกิรยำลูกโซ่
                                                  ิ

 ก. แสงเลเซอร์          ข.               ข. ปฏิกิรยำฟิวชัน
                                                  ิ
อัลตรำไวโอเลต
                                         ค. ปฏิกิริยำนิวเคลียร์
ค. อินฟรำเรด            ง. รังสีแกมมำ
                                         ง. ปฏิกิริยำฟิชชัน


17.) คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำในข้อใดสำมำรถ
ตรวจรับได้ด้วยประสำทสัมผัสของมนุษย์ได้

ก. แสงเลเซอร์     คลื่นวิทยุ

ข. อัลตรำไวโอเลต แสง

ค. อินฟรำเรด     แสง

ง. รังสีแกมมำ คลื่นโทรทัศน์
แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน) ฉบับที่ 2

คำาชีแจง ให้นักเรียนเลือกคำำตอบที่ถูกต้องที่สุด เพียงคำำตอบเดียวแล้วทำำ เครื่องหมำย
     ้
X ลงในกระดำษคำำตอบ



จุดประสงค์ที่ ม.4.1 สำำรวจตรวจสอบ 6.) ข้อใดเป็นกำรตกแบบเสรี
วิเครำะห์ และอธิบำยควำมสัมพันธ์ระหว่ำง
แรง กำรเคลื่อนที่ของอนุภำคหรือวัตถุใน ก. กำรสอยมะม่วงดิบเพื่อนำำมำบ่ม
สนำมไฟฟ้ำและกำรนำำไปใช้ประโยชน์
                                       ข. กำรปล่อยถุงชูชีพเพื่อช่วยผู้ประสบภัยจำก
1. ) อนุภำคใดไม่สำมำรถถูกเร่งโดยสนำม เฮลิคอปเตอร์
ไฟฟ้ำได้
                                       ค. กำรขว้ำงก้อนหินจำกหน้ำต่ำงบ้ำนให้ตก
  ก. อนุภำคบีตำ          ข. อนุภำค     ไปยังเป้ำหมำย
นิวตรอน
                                       ง. กำรโยนตัวของนักกำยกรรม
    ค. อนุภำคแอลฟำ      ง. อนุภำคโปร
ตรอน
  2. ) กำรสลำยตัวของธำตุกัมมันตรังสี   7.) ดำวเทียมดวงหนึ่งโคจรรอบโลก 1 รอบ
เป็นกำรสลำยส่วนธำตุ                    ใช้เวลำ 10 นำที จงหำควำมถี่และคำบของ
                                       กำรเคลื่อนที่               (หน่วยเฮิร์ตซ์
 ก. อิเล็กตรอน                 ข. โปร และวินำที)
ตรอน
                                       ก. 0.001 และ 100                      ข. 100
 ค. นิวตรอน                    ง.      และ 1
นิวเคลียส
                                       ค. 1/6000 และ 6000                     ง.
                                       6000 และ 60
จุดประสงค์ที่ 2 ม. 4.2 ) 1. ทดลอง      จุดประสงค์ที่ 3 ม.5.2 เข้ำใจควำมสัมพันธ์
และ อธิบำยควำมสัมพันธ์ระหว่ำง กำรกระ ระหว่ำงพลังงำนกับกำรดำำรงชีวิต กำรเปลี่ยน
จัด เวลำ ควำมเร็ว ควำมเร่ง ของกำร      รูป พลังงำน ปฏิสัมพันธ์ระหว่ำงสำรและ
เคลื่อนที่ในแนวตรง และคำำนวณหำปริมำณ พลังงำน ผลของกำรใช้พลังงำนต่อกำรต่อ
ที่เกียวข้อง
      ่                                ชีวิตและสิ่งแวดล้อม มีกำรกระบวนกำรสืบ
                                       เสำะหำควำมรู้ สื่อสำรสิ่งที่เรียนรู้และนำำควำม
 2.สำำรวจ ตรวจสอบและอธิบำยกำร
รู้ไปใช้ประโยชน์
เคลื่อนที่แบบ     ฮำร์มอนิกอย่ำงง่ำย
แบบวงกลม แบบโพรเจกไทล์ รวมทั้ง         8.) ชำยคนหนึ่งโยนเหรียญขึ้นในแนวดิ่งด้วย
กำรนำำมำใช้ประโยชน์                    ควำมเร็วต้น 10 เมตรต่อวินำที เป็นเวลำนำน
                                       เท่ำใด เหรียญจะลงมำถึงตำำแหน่งเริ่มต้น ( g
3.) นำย ก เดินไปทำงทิศเหนือ 10 เมตร = 10 เมตรต่อวินำที 2)
แล้วเดินต่อไปทำงทิศใต้ 6 เมตร แล้วเดิน
ต่อไปทำงทิศตะวันออก 3 เมตร นำย ก        ก. 1 วินำที                        ข. 2
เดินได้ระยะทำงเท่ำใด                   วินำที

ก. 5 เมตร                                     ค. 3 วินำที                          ง. 4
ข. 9 เมตร                                    วินำที

ค. 16 เมตร                          ง.
19 เมตร
4.) จำกโจทย์ข้อที่ 3 นำยก ได้กำรขจัด 9.) ข้อควำมใดต่อไปนี้ถูกต้องสำำหรับกำร
ลัพธ์เท่ำไร                            เคลื่อนที่เป็นวงกลม ที่เคลื่อนที่ด้วยควำมถี่
                                       คงที่
ก. 5 เมตร
                         ข. 9 เมตร ก. ควำมเร็วและควำมเร่งไม่คงที่

ค. 16 เมตร                                ง. ข. ควำมเร็วไม่คงที่และควำมเร่งคงที่
19 เมตร
                                             ค. ควำมเร็วคงที่และควำมเร่งไม่คงที่
5.) เมื่อออกแรงกระทำำในแนวแกน X และ
แกน Y                               ง. ควำมเร็วและควำมเร่งคงที่

 พร้อม ๆ กัน วัตถุชิ้นนี้จะมีกำรเคลื่อนที่
แบบใด

 ก. เส้นตรง                          ข.
วงกลม

 ค.ซิมเปิลฮำร์มอนิก               ง. โพร
เจกไทล์




10.) ข้อใดเป็นคลื่นกลทั้งหมด                       15.) ข้อใดเป็นกระบวนกำรทำำหมัน
                                                   แมลง เพื่อไม่ให้แมลงบำงชนิดขยำย
ก. รังสีอินฟรำเรด คลื่นวิทยุ รังสี                 พันธุ์
อัลตรำไวโอเลต
                                                   ก. จับแมลงมำขังไว้แล้วฉำยรังสี
ข. คลื่นผิวนำ้ำ   คลื่นเสียง   รังสีอินฟรำเรด      แกมมำ

ค. คลื่นผิวนำ้ำ   คลื่นเสียง อัลตรำซำวด์           ข. ฉำยรังสีแกมมำที่ตัวอ่อนของแมลง
ง. คลื่นผิวนำ้ำ คลื่นเสียง   รังสีอัลตรำไวโอเลต ที่เพำะเลี้ยง แล้วปล่อยออกสู่ธรรมชำติ

                                                   ค. ฉำยรังสีที่ดอกไม้ที่แมลงชอบตอม

                                                   ง. ฉำยรังสีที่ปยที่จะใช้ใส่ให้พืชที่
                                                                  ุ๋
                                                   แมลงชนิดนั้น

                                                   ชอบตอม
11.) เสียงที่มระดับควำมเข้มเสียงเท่ำใดที่
              ี                                    16. ) ในทำงกำรแพทย์ใช้รังสีจำก
สำมำรถทำำให้                                       ไอโซโทปของธำตุกัมมันตรังสีชนิดใด
                                                   ในกำรตรวจควำมผิดปกติของต่อม
ประสำทหูชำำรุดได้อย่ำงถำวร                         ไทรอยด์

 ก. 65 เดซิเบล                                ข.   ก. โคบอล-60                            ข.
75   เดซิเบล                                       ยูเรเนียม -238

 ค. 80 เดซิเบล                               ง.    ค. คำร์บอน-14                  ง.
90 เดซิเบล                                        ไอโอดีน - 131
12. ) คลื่นนำ้ำมีควำมถี่ 2 เฮิร์ตซ์ มีควำมเร็ว 10 17. ข้อใดเป็นรังสีที่ได้จำกธำตุ
เมตรต่อวินำที คลื่นมีควำมยำวคลื่นเท่ำใด           กัมมันตรังสี

 ก. 0.2 เมตร                             ข.        ก. รังสีแอลฟำ     รังสีบีตำ    รังสี
2.0    เมตร                                        แกมมำ

 ค. 5.0 เมตร                             ง.        ข. รังสีแอลฟำ      รังสีบีตำ   รังสี เอก
20 เมตร                                            ซ์

                                                   ค. รังสี แกมมำ รังสี เอกซ์ รังสี
                                                   อัลตรำไวโอเลต

                                                 ง. รังสี อินฟรำเรด รังสี เอกซ์ รังสี
                                                 อัลตรำไวโอเลต
 13.) ส้อมเสียง 2 อันมีควำมถี่ 205 เฮิรตซ์ และ 18.) กำรหำอำยุวัตถุโบรำณใช้ธำตุใน
                                       ์
210 เฮิรตซ์ เมื่อเคำะพร้อมกัน ต่ำงก็กำำเนิดคลื่น ข้อใด
          ์
เสียงออกมำ ข้อใดถูกต้อง
                                                 ก. ใช้ออกซิเจน – 12
ก. เกิดกำรสั่นพ้องของคลื่นเสียงขึ้น
                                                 ข. ใช้ออกซิเจน -16
ข. เกิดกำรบีตส์ของคลื่นเสียงที่มีควำมถี่ 5
 เฮิร์ตซ์                                        ค. ใช้คำร์บอน - 12

ค. เกิดคลื่นกระแทกของคลื่นเสียงที่มีควำมถี่ 5      ง. ใช้คำร์บอน -14
เฮิรตซ์ขึ้น
    ์
                                                   19.) ปฏิกิรยำนิวเคลียร์ทเกดขึ้นกับเตำ
                                                              ิ            ี่
ง. เกิดโซนิกบูมของคลื่นเสียงที่มีควำมถี่ 415       ปฏิกรณ์ที่มนุษย์
เฮิรตซ์ขึ้น
    ์
สร้ำงขึ้น คือ ข้อใด ก. ปฏิกิรยำแบบ
                                                                            ิ
                                               รวมตัว

                                               ข. ปฏิกิริยำนิวเคลียร์แบบฟิชชัน

                                               ค. ปฏิกิรยำนิวเคลียร์แบบฟิวชัน
                                                        ิ

                                               ง. ถูกข้อ ก และ ข
14.)คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำใดมีควำมถี่สูงสุด        20.) สตรอนเซียม -90 มีครึ่งชีวิต 28
                                               ปี ถ้ำต้องกำรให้ สตรอนเซียม -90
ก. คลื่นวิทยุ                                  เหลือร้อยละ 25 ของจำำนวนเดิมจะต้อง
                                               ใช้เวลำเท่ำใด
ข. คลื่นอินฟรำเรด
                                               ก. 84
ค. คลื่นอัลตรำไวโอเลต                          ปี                                ข.
                                               56 ปี
ง. คลื่นแกมมำ
                                               ค. 14
                                               ปี                                ง. 7
                                               ปี

แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน) ฉบับที่ 3

คำาชีแจง ให้นักเรียนเลือกคำำตอบที่ถูกต้องที่สุด เพียงคำำตอบเดียวแล้วทำำ เครื่องหมำย
     ้
X ลงในกระดำษคำำตอบ

จุดประสงค์ที่ ม.4.1 สำำรวจตรวจสอบ         4.) จำกตำรำงควำมเร่งของวัตถุ มีค่ำ
วิเครำะห์ และอธิบำยควำมสัมพันธ์ระหว่ำงแรง เท่ำไร
กำรเคลื่อนที่ของอนุภำคหรือวัตถุในสนำม
ไฟฟ้ำและกำรนำำไปใช้ประโยชน์              ควำมเร็ว (เมตรต่อ เวลำ(วินำที)
                                         วินำที)
1. ) อะตอมของธำตุทุกชนิดมีนิวเคลียสอยู่ 2                    1
แกนกลำง
                                         4                   2
 ข้อใดเป็นองค์ประกอบในนิวเคลียส          6                   3
                                         8                   4
  ก. นิวตรอน โปรตรอน อิเล็กตรอน          10                  5
                                          ก. 2 เมตรต่อวินำที 2       ข. 3
  ข. นิวตรอน โปรตรอน                      เมตรต่อวินำที 2
  ค. โปรตรอน อิเล็กตรอน                    ค. 4 เมตรต่อวินำที   2
                                                                          ง. 5
                                           เมตรต่อวินำที 2
   ง. นิวตรอน อิเล็กตรอน
  2. ) ข้อใดคำำกล่ำวถูกต้อง สำำหรับเด็กหญิง 5.) แรงสู่ศูนย์กลำงของรถยนต์ที่กำำลัง
คนหนึ่ง ซึงชั่งมวลตัวเองที่โรงเรียนได้ 36 แล่นเลี้ยวโค้งบนทำงรำบ ได้มำจำกแรง
           ่
กิโลกรัม
ใด
ก. เด็กหญิงคนนี้มีนำ้ำหนักประมำณ 352.8 นิว
ตัน บนผิวโลก                               ก. แรงโน้มถ่วง

ข. เด็กหญิงคนนี้มีนำ้ำหนักประมำณ 36 นิวตัน ข. แรงปฏิกิริยำที่พื้นถนน

ถ้ำชั่งบนผิวดวงจันทร์                        ค. แรงเสียดทำนระหว่ำงล้อกับพื้นถนน

 ค. เด็กหญิงคนนี้มีนำ้ำหนักประมำณ 216        ง. แรงสนำมแม่เหล็ก
กิโลกรัม

ถ้ำชั่งบนผิวดวงจันทร์

ง. เด็กหญิงคนนี้มีนำ้ำหนักประมำณ 352.8 นิว
ตัน

ถ้ำชั่งบนผิวดวงจันทร์

จุดประสงค์ที่ 2 ม. 4.2 ) 1. ทดลอง และ 6.) ข้อใดใดเป็นกำรเคลื่อนที่แบบฮำร์มอ
อธิบำยควำมสัมพันธ์ระหว่ำง กำรกระจัด       นิก
เวลำ ควำมเร็ว ควำมเร่ง ของกำรเคลื่อนที่ใน
แนวตรง และคำำนวณหำปริมำณที่เกี่ยวข้อง      ก. กำรขับรถยนต์บนถนน

2.สำำรวจ ตรวจสอบและอธิบำยกำรเคลื่อนที่       ข. กำรแกว่งของชิงช้ำ

แบบฮำร์มอนิกอย่ำงง่ำย แบบวงกลม แบบ           ค. กำรเตะฟุตบอล
โพรเจกไทล์ รวมทั้งกำรนำำมำใช้ประโยชน์
                                             ง. เข็มนำฬิกำ
3.) องค์ประกอบที่ทำำให้คำบของกำรแกว่ง
ของลูกตุ้มนำฬิกำเปลี่ยนแปลงได้แก่ข้อใด       7.) ถ้ำต้องกำรให้ลูกตุ้มนำฬิกำ แกว่งที่
                                             50 รอบ ในเวลำ 10 วินำที จะต้องใช้
ก. มวลลูกตุ้ม                  ข. ช่วง       ควำมถี่ของกำรแกว่งเป็นเท่ำไร
กว้ำงของกำรแกว่ง
                                           ก. 2 รอบต่อวินำที              ข. 3 รอบ
ค. ควำมยำวของเชือก            ง. ถูกทุกข้อ ต่อวินำที

                                             ค. 4 รอบต่อวินำที            ง. 5 รอบ
                                             ต่อวินำที




จุดประสงค์ที่ 3 ม.5.2 เข้ำใจควำม           12.) คลื่นผิวนำ้ำควำมถี่ 20 รอบต่อวินำที
สัมพันธ์ระหว่ำงพลังงำนกับกำรดำำรงชีวิต ผิวนำ้ำที่คลื่นผ่ำนจะเคลื่อนที่ขึ้นลงครบรอบ 1
กำรเปลี่ยนรูป พลังงำน ปฏิสัมพันธ์ระหว่ำง รอบ ในเวลำเท่ำใด
สำรและพลังงำน ผลของกำรใช้พลังงำน
ต่อกำรต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม มีกำรกระ ก. 5 วินำที
บวนกำรสืบเสำะหำควำมรู้ สื่อสำรสิ่งที่เรียน
รูและนำำควำมรู้ไปใช้ประโยชน์
  ้
                                          ข. 0.5 วินำที
8.) โยนก้อนหินขึ้นในแนวดิ่งจำกพื้นในแนว
ดิ่ง เมื่อก้อนหินหลุดออกจำกมือแล้ว แรงที่ ค. 0.05 วินำที
กระทำำกับก้อนหินมีอะไรบ้ำง
                                          ง. 0.005 วินำที
 ก. แรงส่งจำกมือ

ข. แรงส่งจำกมือและแรงโน้มถ่วง
                                           13. ) ข้อใดเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำทั้งหมด
ค. แรงเฉื่อย
                                           ก. รังสีอินฟรำเรด คลื่นวิทยุ
ง. แรงโน้มถ่วงของโลก
                                           ข. คลื่นผิวนำ้ำ คลื่นเสียง

                                            ค. รังสี อินฟรำเรด คลื่นเสียง

                                           ง. คลื่นผิวนำ้ำ รังสีอัลตรำไวโอเลต
9.) คลื่นใด ๆ เมื่อเคลื่อนที่ผ่ำนจำก       14.) ระบบเรดำร์ ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำใน
ตัวกลำงหนึ่งไปอีกตัวกลำงหนึ่งโดยที่ไม่ตั้ง ช่วงใด
ฉำกกับเส้นเขตระหว่ำงตัวกลำง จะมีกำร
หักเห ข้อใดเป็นสำเหตุของกำรหักเห           ก. ไมโครเวฟ

 ก. ควำมเร็วของคลื่นในตัวกลำงทั้งสอง       ข. คลื่นเสียง
ไม่เท่ำกัน
                                            ค. อินฟรำเรด
 ข. ควำมยำวคลื่นของคลื่นในตัวกลำงทั้ง
สองเท่ำกัน                            ง. อัลตรำไวโอเลต

 ค. ควำมถี่ของคลื่นในตัวกลำงทั้งสองเท่ำ
กัน

 ง. แอมพลิจูดของคลื่นในตัวกลำงทั้ง
สองไม่เท่ำกัน
10. ) ข้อใดเป็นกำรประยุกต์ใช้คลื่นเสียง 15.) ข้อใดเป็นไอโซโทปของ             ที่ถูก
ในช่วงของ                               ต้อง

อัลตรำซำวด์ ทั้งหมด                        ก.

 ก. ใช้กำำจัดฝุ่นที่เกำะตำมชิ้นงำน   ตำำรวจ ข.
ใช้ตรวจจับควำมเร็วรถบนถนน
                                           ค.
ข. ตำำรวจใช้ตรวจจับควำมเร็วรถบนถนน
                                           ง.
ค. ระบบเรดำร์ตรวจจับเครื่องบินข้ำศึกทำง
ทหำร

ง. ใช้กำำจัดฝุ่นที่เกำะตำมชิ้นงำน
11.) ระดับเสียงมีค่ำขึ้นอยู่กับส่วนประกอบ 16.) ข้อใดเป็นควำมหมำยที่ถูกต้องของ
ข้อใด                                     ไอโซโทป

ก. แอมพลิจูด                               ก. ธำตุชนิดเดียวกัน โปรตอนต่ำงกัน
                                           นิวตรอนเท่ำกัน
ข. ควำมถี่
                                           ข. ธำตุชนิดเดียวกัน โปรตอนเท่ำกัน
ค. ควำมคลื่น                               นิวตรอนต่ำงกัน

ง. ควำมเร็วคลื่น                           ค. ธำตุชนิดเดียวกัน โปรตอนเท่ำกัน
                                           อิเล็กตรอนต่ำงกัน

                                           ง. ธำตุชนิดเดียวกัน โปรตอนต่ำงกัน
                                           นิวตรอนเท่ำกัน

                                           ธำตุชนิดเดียวกัน โปรตอนต่ำงกัน นิวตรอน
                                           เท่ำกัน




17.) คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำใด ที่มนุษย์นำำมำ 20 .) คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำใด ที่มนุษย์นำำมำ
ใช้ประโยชน์ในกำรอบอุ่นร่ำงกำย            ใช้ประโยชน์ในกำรอบฆ่ำเชื้อโรคในนำ้ำดื่ม

ก. รังสีเอกซ์                              ก. รังสีเอกซ์

ข. รังสีแกมมำ                              ข. รังสีแกมมำ

ค. รังสีอินฟรำเรด                          ค. รังสีอินฟรำเรด

ง. รังสีอัลตรำไวโอเลต                      ง. รังสีอัลตรำไวโอเลต


18. ) คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำใดที่มนุษย์นำำมำ
ใช้ประโยชน์ในกำรวินิจฉัยโรค

ก. รังสีเอกซ์

ข. รังสีแกมมำ

ค. รังสีอินฟรำเรด

ง. รังสีอัลตรำไวโอเลต
19.) ปฏิกิรยำนิวเคลียร์ทเกิดขึ้นบนดวง
            ิ           ี่
อำทิตย์ คือ

ข้อใด
ก. ปฏิกิริยำแบบแตกตัว

ข. ปฏิกิริยำนิวเคลียร์แบบฟิชชัน

ค. ปฏิกิรยำนิวเคลียร์แบบฟิวชัน
         ิ

ง. ถูกทั้งข้อ ก และข้อ ข




เฉลย
แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน) ฉบับที่ 1,2,3




ข้อที่           ข้อที่ถูกต้อง (ชุดที1)
                                     ่    ข้อที่ถูกต้อง(ชุดที่ 2) ข้อที่ถูกต้อง(ชุดที่ 3)
1                ค                        ข                       ข
2                ง                        ง                       ก
3                ง                        ง                       ก
4                ค                        ก                       ก
5                ง                        ก                       ค
6                ง                        ข                       ข
7                ค                        ค                       ง
8                ข                        ข                       ง
9                ข                        ก                       ก
10               ง                        ค                       ง
11               ง                        ง                       ข
12               ค                        ค                       ค
13               ง                        ข                       ก
14               ค                        ง                       ก
15               ค                        ข                       ข
16               ง                        ง                       ข
17               ค                        ก                       ค
18               ง                        ง                       ก
19               ก                        ข                       ข
20               ข                        ข                       ง

Weitere ähnliche Inhalte

Was ist angesagt?

การเปลี่ยนแปลงพลังงานและการเกิดปฏิกิริยาเคมี
การเปลี่ยนแปลงพลังงานและการเกิดปฏิกิริยาเคมีการเปลี่ยนแปลงพลังงานและการเกิดปฏิกิริยาเคมี
การเปลี่ยนแปลงพลังงานและการเกิดปฏิกิริยาเคมีครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
 
รวมเล่มแผนการสอน ฟิสิกส์2
รวมเล่มแผนการสอน ฟิสิกส์2รวมเล่มแผนการสอน ฟิสิกส์2
รวมเล่มแผนการสอน ฟิสิกส์2Wijitta DevilTeacher
 
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าThaweekoon Intharachai
 
ใบงานพอลิเมอร์
ใบงานพอลิเมอร์ใบงานพอลิเมอร์
ใบงานพอลิเมอร์Jariya Jaiyot
 
การหักเหของแสง
การหักเหของแสงการหักเหของแสง
การหักเหของแสงพัน พัน
 
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อนAแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อนkrupornpana55
 
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์สมศรี หอมเนียม
 
เอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
เอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียงเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
เอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียงโรงเรียนเทพลีลา
 
แบบฝึกการหาอัตราเร็วความเร็ว
แบบฝึกการหาอัตราเร็วความเร็วแบบฝึกการหาอัตราเร็วความเร็ว
แบบฝึกการหาอัตราเร็วความเร็วJariya Jaiyot
 
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)dnavaroj
 
1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น
1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น
1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่นKruNistha Akkho
 
6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์
6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์
6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์สำเร็จ นางสีคุณ
 
บทที่ 1 หน่วยวัดและปริมาณทางฟิสิกส์
บทที่ 1 หน่วยวัดและปริมาณทางฟิสิกส์บทที่ 1 หน่วยวัดและปริมาณทางฟิสิกส์
บทที่ 1 หน่วยวัดและปริมาณทางฟิสิกส์Thepsatri Rajabhat University
 
06แบบฝึกเครื่องกล
06แบบฝึกเครื่องกล06แบบฝึกเครื่องกล
06แบบฝึกเครื่องกลPhanuwat Somvongs
 
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมแบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมdnavaroj
 
แบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน
แบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตันแบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน
แบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตันเซิฟ กิ๊ฟ ติวเตอร์
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2dnavaroj
 
เคาะสัญญาณ
เคาะสัญญาณเคาะสัญญาณ
เคาะสัญญาณAui Ounjai
 
ทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค
ทวิภาวะของคลื่นและอนุภาคทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค
ทวิภาวะของคลื่นและอนุภาคChanthawan Suwanhitathorn
 

Was ist angesagt? (20)

การเปลี่ยนแปลงพลังงานและการเกิดปฏิกิริยาเคมี
การเปลี่ยนแปลงพลังงานและการเกิดปฏิกิริยาเคมีการเปลี่ยนแปลงพลังงานและการเกิดปฏิกิริยาเคมี
การเปลี่ยนแปลงพลังงานและการเกิดปฏิกิริยาเคมี
 
รวมเล่มแผนการสอน ฟิสิกส์2
รวมเล่มแผนการสอน ฟิสิกส์2รวมเล่มแผนการสอน ฟิสิกส์2
รวมเล่มแผนการสอน ฟิสิกส์2
 
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
 
ใบงานพอลิเมอร์
ใบงานพอลิเมอร์ใบงานพอลิเมอร์
ใบงานพอลิเมอร์
 
การหักเหของแสง
การหักเหของแสงการหักเหของแสง
การหักเหของแสง
 
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อนAแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน
 
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
 
เอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
เอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียงเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
เอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
 
แบบฝึกการหาอัตราเร็วความเร็ว
แบบฝึกการหาอัตราเร็วความเร็วแบบฝึกการหาอัตราเร็วความเร็ว
แบบฝึกการหาอัตราเร็วความเร็ว
 
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
 
1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น
1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น
1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น
 
6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์
6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์
6แบบทดสอบการลำเลียงสารผ่านเซลล์
 
บทที่ 1 หน่วยวัดและปริมาณทางฟิสิกส์
บทที่ 1 หน่วยวัดและปริมาณทางฟิสิกส์บทที่ 1 หน่วยวัดและปริมาณทางฟิสิกส์
บทที่ 1 หน่วยวัดและปริมาณทางฟิสิกส์
 
คลื่น
คลื่นคลื่น
คลื่น
 
06แบบฝึกเครื่องกล
06แบบฝึกเครื่องกล06แบบฝึกเครื่องกล
06แบบฝึกเครื่องกล
 
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมแบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
 
แบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน
แบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตันแบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน
แบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
 
เคาะสัญญาณ
เคาะสัญญาณเคาะสัญญาณ
เคาะสัญญาณ
 
ทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค
ทวิภาวะของคลื่นและอนุภาคทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค
ทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค
 

Andere mochten auch

12 ตัวอย่างการประเมินผลวิทยาศาสตร์นานาชาติ pisa_timss
12 ตัวอย่างการประเมินผลวิทยาศาสตร์นานาชาติ pisa_timss12 ตัวอย่างการประเมินผลวิทยาศาสตร์นานาชาติ pisa_timss
12 ตัวอย่างการประเมินผลวิทยาศาสตร์นานาชาติ pisa_timssNirut Uthatip
 
ปรับการเรียนเปลี่ยนการสอนด้วย Inspiring science
ปรับการเรียนเปลี่ยนการสอนด้วย Inspiring scienceปรับการเรียนเปลี่ยนการสอนด้วย Inspiring science
ปรับการเรียนเปลี่ยนการสอนด้วย Inspiring scienceKobwit Piriyawat
 
ข้อสอบการอ่าน (PISA)
ข้อสอบการอ่าน (PISA)ข้อสอบการอ่าน (PISA)
ข้อสอบการอ่าน (PISA)Napadon Yingyongsakul
 
เรื่องที่ 12 เสียง
เรื่องที่ 12  เสียงเรื่องที่ 12  เสียง
เรื่องที่ 12 เสียงthanakit553
 
แบบทดสอบเรื่องคลื่น
แบบทดสอบเรื่องคลื่นแบบทดสอบเรื่องคลื่น
แบบทดสอบเรื่องคลื่นChakkrawut Mueangkhon
 
เรื่องที่ 11 คลื่นกล
เรื่องที่ 11  คลื่นกลเรื่องที่ 11  คลื่นกล
เรื่องที่ 11 คลื่นกลthanakit553
 

Andere mochten auch (6)

12 ตัวอย่างการประเมินผลวิทยาศาสตร์นานาชาติ pisa_timss
12 ตัวอย่างการประเมินผลวิทยาศาสตร์นานาชาติ pisa_timss12 ตัวอย่างการประเมินผลวิทยาศาสตร์นานาชาติ pisa_timss
12 ตัวอย่างการประเมินผลวิทยาศาสตร์นานาชาติ pisa_timss
 
ปรับการเรียนเปลี่ยนการสอนด้วย Inspiring science
ปรับการเรียนเปลี่ยนการสอนด้วย Inspiring scienceปรับการเรียนเปลี่ยนการสอนด้วย Inspiring science
ปรับการเรียนเปลี่ยนการสอนด้วย Inspiring science
 
ข้อสอบการอ่าน (PISA)
ข้อสอบการอ่าน (PISA)ข้อสอบการอ่าน (PISA)
ข้อสอบการอ่าน (PISA)
 
เรื่องที่ 12 เสียง
เรื่องที่ 12  เสียงเรื่องที่ 12  เสียง
เรื่องที่ 12 เสียง
 
แบบทดสอบเรื่องคลื่น
แบบทดสอบเรื่องคลื่นแบบทดสอบเรื่องคลื่น
แบบทดสอบเรื่องคลื่น
 
เรื่องที่ 11 คลื่นกล
เรื่องที่ 11  คลื่นกลเรื่องที่ 11  คลื่นกล
เรื่องที่ 11 คลื่นกล
 

Ähnlich wie แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)

วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม1เทอม2
วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม1เทอม2วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม1เทอม2
วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม1เทอม2dnavaroj
 
0 o net-2549
0 o net-25490 o net-2549
0 o net-2549saiyok07
 
ครูตุ้ย ฟิสิกส์ .. โจทย์ โควต้า มช. 52
ครูตุ้ย   ฟิสิกส์ .. โจทย์ โควต้า มช. 52ครูตุ้ย   ฟิสิกส์ .. โจทย์ โควต้า มช. 52
ครูตุ้ย ฟิสิกส์ .. โจทย์ โควต้า มช. 52joybh42
 
แบบฝึกหัดทบทวนก่อนสอบปลายภาคชุด2 หน่วยที่ 3 พลังงานไฟฟ้า 15 กย55
แบบฝึกหัดทบทวนก่อนสอบปลายภาคชุด2 หน่วยที่ 3 พลังงานไฟฟ้า 15 กย55แบบฝึกหัดทบทวนก่อนสอบปลายภาคชุด2 หน่วยที่ 3 พลังงานไฟฟ้า 15 กย55
แบบฝึกหัดทบทวนก่อนสอบปลายภาคชุด2 หน่วยที่ 3 พลังงานไฟฟ้า 15 กย55krupornpana55
 
ปรากฏการณ์คลื่น
ปรากฏการณ์คลื่นปรากฏการณ์คลื่น
ปรากฏการณ์คลื่นSom Kechacupt
 
12.เสียง
12.เสียง12.เสียง
12.เสียงKruanek007
 
12.เสียง
12.เสียง12.เสียง
12.เสียงKruanek007
 
Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์Suwaraporn Chaiyajina
 
Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์nealserza
 
Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์Theyok Tanya
 
Slแบบทดสอบรายตัวชี้วัด หน่วยที่ 1 แรงและการเคลื่อนที่. 12 เม.ย.56docx
Slแบบทดสอบรายตัวชี้วัด หน่วยที่ 1 แรงและการเคลื่อนที่. 12 เม.ย.56docxSlแบบทดสอบรายตัวชี้วัด หน่วยที่ 1 แรงและการเคลื่อนที่. 12 เม.ย.56docx
Slแบบทดสอบรายตัวชี้วัด หน่วยที่ 1 แรงและการเคลื่อนที่. 12 เม.ย.56docxkrupornpana55
 
บทที่ 3 มวล แรงและกฏการเคลื่อนที่
บทที่ 3 มวล แรงและกฏการเคลื่อนที่บทที่ 3 มวล แรงและกฏการเคลื่อนที่
บทที่ 3 มวล แรงและกฏการเคลื่อนที่thanakit553
 

Ähnlich wie แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน) (20)

วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม1เทอม2
วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม1เทอม2วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม1เทอม2
วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม1เทอม2
 
0 o net-2549
0 o net-25490 o net-2549
0 o net-2549
 
เสียง
เสียงเสียง
เสียง
 
ครูตุ้ย ฟิสิกส์ .. โจทย์ โควต้า มช. 52
ครูตุ้ย   ฟิสิกส์ .. โจทย์ โควต้า มช. 52ครูตุ้ย   ฟิสิกส์ .. โจทย์ โควต้า มช. 52
ครูตุ้ย ฟิสิกส์ .. โจทย์ โควต้า มช. 52
 
0 pat2 53-1
0 pat2 53-10 pat2 53-1
0 pat2 53-1
 
o net-2552
o net-2552o net-2552
o net-2552
 
แบบฝึกหัดทบทวนก่อนสอบปลายภาคชุด2 หน่วยที่ 3 พลังงานไฟฟ้า 15 กย55
แบบฝึกหัดทบทวนก่อนสอบปลายภาคชุด2 หน่วยที่ 3 พลังงานไฟฟ้า 15 กย55แบบฝึกหัดทบทวนก่อนสอบปลายภาคชุด2 หน่วยที่ 3 พลังงานไฟฟ้า 15 กย55
แบบฝึกหัดทบทวนก่อนสอบปลายภาคชุด2 หน่วยที่ 3 พลังงานไฟฟ้า 15 กย55
 
ปรากฏการณ์คลื่น
ปรากฏการณ์คลื่นปรากฏการณ์คลื่น
ปรากฏการณ์คลื่น
 
P12
P12P12
P12
 
12.เสียง
12.เสียง12.เสียง
12.เสียง
 
12.เสียง
12.เสียง12.เสียง
12.เสียง
 
Pat3
Pat3Pat3
Pat3
 
Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
 
Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
 
Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
Pat3ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
 
Pat3 53
Pat3 53Pat3 53
Pat3 53
 
Problem1364
Problem1364Problem1364
Problem1364
 
Slแบบทดสอบรายตัวชี้วัด หน่วยที่ 1 แรงและการเคลื่อนที่. 12 เม.ย.56docx
Slแบบทดสอบรายตัวชี้วัด หน่วยที่ 1 แรงและการเคลื่อนที่. 12 เม.ย.56docxSlแบบทดสอบรายตัวชี้วัด หน่วยที่ 1 แรงและการเคลื่อนที่. 12 เม.ย.56docx
Slแบบทดสอบรายตัวชี้วัด หน่วยที่ 1 แรงและการเคลื่อนที่. 12 เม.ย.56docx
 
บทที่ 3 มวล แรงและกฏการเคลื่อนที่
บทที่ 3 มวล แรงและกฏการเคลื่อนที่บทที่ 3 มวล แรงและกฏการเคลื่อนที่
บทที่ 3 มวล แรงและกฏการเคลื่อนที่
 
P03
P03P03
P03
 

แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)

  • 1. http://gotoknow.org/blog/theps/315124 เข้าถึงเมือ ١٠ ก.ค.٥٣ เวลา ٩. ่ ٤٨ น. แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน) ฉบับที่ 1 คำาชีแจง ให้นักเรียนเลือกคำำตอบที่ถูกต้องที่สุด เพียงคำำตอบเดียวแล้วทำำ เครื่องหมำย ้ X ลงในกระดำษคำำตอบ จุดประสงค์ที่1 ม.4.1 สำำรวจตรวจสอบ 4. ) รถยนต์ โดยสำรวิ่งด้วยเฉลี่ย 90 วิเครำะห์ และอธิบำยควำมสัมพันธ์ระหว่ำงแรง กิโลเมตรต่อชั่วโมง จำกสถำนีสำยใต้ถึง กำรเคลื่อนที่ของอนุภำคหรือวัตถุในสนำมไฟฟ้ำ สี่แยกกุยบุรี เป็นระยะทำง 180 และกำรนำำไปใช้ประโยชน์ กิโลเมตร ถ้ำรถเดินทำงออกเวลำตั้งแต่ 09.00 น. รถโดยสำรคันนี้จะมำถึงสี่แยก 1.)เมื่อนำำเข็มทิศวำงบนพื้นโต๊ะข้อใดกล่ำวได้ กุยบุรีในเวลำใด ถูกต้อง ก. 10.00 น . ข. ก. เข็มทิศจะชี้ไปทำงขั้วเหนือเพรำะที่ขั้ว 10.30 น. เหนือมีสนำมแม่เหล็กโลกขั้วเหนือ ค. 11.00 น. ง. ข. เข็มทิศจะชี้ไปทำงขั้วใต้เพรำะที่ขั้วเหนือ 12.00 น . มีสนำมแม่เหล็กโลกขั้วใต้ ค. เข็มทิศจะชี้ไปทำงขั้วเหนือเพรำะที่ขั้ว เหนือมีสนำมแม่เหล็กโลกขั้วใต้ ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข 2 1 3 O …………….O…………….O รูป ข้อที่ 5 2.)ข้อใดต่อไปนี้เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้ำทั้งหมดที่ 5.) 1 อยู่ที่ตำำแหน่งสมดุล ต้องใช้สนำมแม่เหล็ก 2 อยู่ที่ตำำแหน่งห่ำงจำกตำำแหน่ง ก. เตำรีดไฟฟ้ำ พัดลม เครื่องปั่นผสม ไปทำงซ้ำย 6 เซนติเมตร อำหำร 3 อยู่ที่ตำำแหน่งห่ำงจำกตำำแหน่ง ข. มอเตอร์ไฟฟ้ำ สว่ำนไฟฟ้ำ เตำไฟฟ้ำ ไปทำงขวำ 6 เซนติเมตร ค. สว่ำนไฟฟ้ำ เครื่องปั่นผสมอำหำร กำรเคลื่อนที่ของลูกตุ้มพลำสติก ดังรูป เตำไฟฟ้ำ มีแอมพลิจูดสูงสุดเมื่อใด ก. ข้อ 1 ข. ข้อ 2 ง. สว่ำนไฟฟ้ำ เครื่องปั่นผสมอำหำร พัดลมไฟฟ้ำ ค.
  • 2. ข้อ 1,2 ง. ข้อ 2,3 จุดประสงค์ที่ 2 ม. 4.2 ) 1. ทดลอง และ 6. )จำกโจทย์ข้อที่ 5 กำรเคลื่อนที่ของ อธิบำยควำมสัมพันธ์ระหว่ำง กำรกระจัด เวลำ ลูกตุ้มพลำสติก ดังรูปมีกำรกระจัดสูงสุด ควำมเร็ว ควำมเร่ง ของกำรเคลื่อนที่ในแนว เมื่อใด ตรง และคำำนวณหำปริมำณที่เกี่ยวข้อง 2.สำำรวจ ตรวจสอบและอธิบำยกำรเคลื่อนที่ แบบ ฮำร์มอนิกอย่ำงง่ำย แบบวงกลม แบบ ก. ข้อ 1 โพรเจกไทล์ รวมทั้งกำรนำำมำใช้ประโยชน์ ข. ข้อ 2 3.) รถคันหนึ่งเคลื่อนที่จำกหยุดนิ่ง จนมี ค. ข้อ 1,2 ควำมเร็วเป็น 10 เมตรต่อวินำที ในเวลำ 20 ง. ข้อ 2,3 วินำที รถคันนี้จะเคลื่อนที่ด้วยควำมเร่งเท่ำไร . ก. 1.8 เมตรต่อวินำที ข. 1.2 เมตรต่อ วินำที ค. 0.9 เมตรต่อวินำที ง. 0.5 เมตรต่อ วินำที 7.) ในกำรดีดเหรียญให้เคลื่อนที่แบบโพรเจก 10. ) คลื่นนำ้ำเคลื่อนที่จำกนำ้ำลึก สู่นำ้ำ ไทล์จำกโต๊ะเรียนตกถึงพื้นห้องเรียนข้อใดถูก ตื้นข้อใดถูกต้อง ต้อง ก. ควำมยำวคลื่นนำ้ำลึกมำกกว่ำ ก. ควำมเร็วต้นแนวรำบเท่ำกับแนวดิ่ง ควำมยำวคลื่นนำ้ำตื้น ข. ระยะทำงแนวรำบเท่ำกับระยะทำงแนวดิ่ง ข. ควำมเร็วคลื่นนำ้ำลึกมำกกว่ำควำมเร็ว คลื่นนำ้ำตื้น ค. เวลำที่ใช้ในแนวรำบเท่ำกับเวลำที่ใช้แนวดิ่ง ค. ควำมถี่คลื่นนำ้ำลึกเท่ำกับควำมถี่คลื่น ง. ควำมเร็วแนวรำบเท่ำกับควำมเร็วแนวดิ่ง นำ้ำตื้น ตลอดกำรเคลื่อนที่ ง. ถูกทุกข้อ จุดประสงค์ที่ 3 ม.5.2 เข้ำใจควำมสัมพันธ์ 11. ) ข้อใดเป็นไปตำมข้อกำำหนดของ ระหว่ำงพลังงำนกับกำรดำำรงชีวิต กำรเปลียนรูป องค์กำรอนำมัยโลกเกี่ยวกับระดับควำม ่ พลังงำน ปฏิสัมพันธ์ระหว่ำงสำรและพลังงำน เข้มเสียง ผลของกำรใช้พลังงำนต่อกำรต่อชีวิตและสิ่ง แวดล้อม มีกำรกระบวนกำรสืบเสำะหำควำมรู้ ก. ไม่เกิน 55 เดซิเบล รับฟังติดต่อกัน สื่อสำรสิ่งทีเรียนรู้และนำำควำมรู้ไปใช้ประโยชน์ ไม่เกน 8 ชั่วโมง ่ ข. ไม่เกิน 65 เดซิเบล รับฟังติดต่อกัน ไม่เกน 8 ชั่วโมง ค.ไม่เกิน 75 เดซิเบล รับฟังติดต่อกัน
  • 3. ไม่เกน 8 ชั่วโมง ง. ไม่เกิน 85 เดซิเบล รับฟังติดต่อกัน ไม่เกน 8 ชั่วโมง 12.) เมื่อรับฟังเสียงดังมำก ๆอวัยวะใด จะชำำรุด 8. ) ควำมเร่งจำกแรงดึงดูดของโลกมีทิศตำมข้อก. ใบหู ใด ข. รูหู ก. มีทศขึ้นด้ำนบน ิ ค. เยื่อแก้วหู ข. มีทิศลงในแนวดิ่ง ง. คอเคลีย ค. มีทศไปทำงเหนือ ิ ง. มีทิศไปทำงใต้ 9.) ในกำรทดลองเรื่องกำรเคลื่อนที่ของคลื่น 13. ) คลื่นในเส้นเชือกมีอัตรำเร็ว 15 โดยใช้ถำดนำ้ำกับตัวกำำเนิดคลื่นซึ่งเป็นมอเตอร์ที่ เมตรต่อวินำที และวัดควำมยำวคลื่นได้ หมุน 4 รอบต่อวินำที ถ้ำคลื่นบนผิวนำ้ำเคลื่อนที่ 1.5 เมตร คำบของคลื่นเป็นเท่ำใด ด้วยอัตรำเร็ว 12 เซนติเมตรต่อวินำที จง หำควำมยำวคลื่นบนผิวนำ้ำที่เกิดขึ้น ก. 30 วินำที ก. 1.5 cm ข. 3.0 ข. 10 วินำที cm ค. 0.5 วินำที ค. 4.5 cm ง. 6.0 cm ง. 0.1 วินำที 14.) มนุษย์นำำปรำกฏกำรณ์บีตส์ ของเสียง 18.) ข้อใดที่เป็นรังสี ที่เป็นไปได้ ที่ถูกแผ่ มำใช้ประโยชน์ในข้อใด ออก นิวเคลียส ยูเรเดียม -238 เมื่อ สลำย ตัวแผ่รังสีออกมำ ก. กำำจัดฝุ่นละอองตำมซอกและมุม ก. แสงเลเซอร์ ข.
  • 4. ข. ตรวจหำควำมลึกของท้องทะเล อัลตรำไวโอเลต ค. ใช้เทียบเสียงดนตรี ค. อินฟรำเรด ง. รังสีแกมมำ ง. ใช้สลำยนิ่วในไตของผู้ป่วย 15. รีโมทคอนโทนหรือกำรควบคุมระยะไกล 19.) ข้อใดเป็นควำมหมำยของธำตุ อำศัยหลัก กัมมันตรังสี คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำชนิดใดเป็นตัวนำำคำำสั่ง ก. มีรังสีที่แผ่ออกมำได้เองจำกธำตุบำงชนิด จำกอุปกรณ์ควบคุมไปยังเครื่องรับ ข. ธำตุทมีในธรรมชำติที่แผ่รังสีออกมำ ี่ ก. แสงเลเซอร์ ข. อัลตรำไวโอเลต ค. รังสีที่เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำบำงชนิด ค. อินฟรำเรด ง. รังสีแกมมำ ง. ธำตุที่มีในธรรมชำติที่เป็น คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำ 16. กำรรักษำโรคมะเร็งของยอดรัก โดยใช้ 20.) ข้อใดต่อไปนี้ตำมธรรมชำติมักเกิดใน Co – 60 ดำวฤกษ์และดวงอำทิตย์ตลอดเวลำ Co – 60 นี้ปล่อยรังสีชนิดใดออกมำ ก. ปฏิกิรยำลูกโซ่ ิ ก. แสงเลเซอร์ ข. ข. ปฏิกิรยำฟิวชัน ิ อัลตรำไวโอเลต ค. ปฏิกิริยำนิวเคลียร์ ค. อินฟรำเรด ง. รังสีแกมมำ ง. ปฏิกิริยำฟิชชัน 17.) คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำในข้อใดสำมำรถ ตรวจรับได้ด้วยประสำทสัมผัสของมนุษย์ได้ ก. แสงเลเซอร์ คลื่นวิทยุ ข. อัลตรำไวโอเลต แสง ค. อินฟรำเรด แสง ง. รังสีแกมมำ คลื่นโทรทัศน์
  • 5. แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน) ฉบับที่ 2 คำาชีแจง ให้นักเรียนเลือกคำำตอบที่ถูกต้องที่สุด เพียงคำำตอบเดียวแล้วทำำ เครื่องหมำย ้ X ลงในกระดำษคำำตอบ จุดประสงค์ที่ ม.4.1 สำำรวจตรวจสอบ 6.) ข้อใดเป็นกำรตกแบบเสรี วิเครำะห์ และอธิบำยควำมสัมพันธ์ระหว่ำง แรง กำรเคลื่อนที่ของอนุภำคหรือวัตถุใน ก. กำรสอยมะม่วงดิบเพื่อนำำมำบ่ม สนำมไฟฟ้ำและกำรนำำไปใช้ประโยชน์ ข. กำรปล่อยถุงชูชีพเพื่อช่วยผู้ประสบภัยจำก 1. ) อนุภำคใดไม่สำมำรถถูกเร่งโดยสนำม เฮลิคอปเตอร์ ไฟฟ้ำได้ ค. กำรขว้ำงก้อนหินจำกหน้ำต่ำงบ้ำนให้ตก ก. อนุภำคบีตำ ข. อนุภำค ไปยังเป้ำหมำย นิวตรอน ง. กำรโยนตัวของนักกำยกรรม ค. อนุภำคแอลฟำ ง. อนุภำคโปร ตรอน 2. ) กำรสลำยตัวของธำตุกัมมันตรังสี 7.) ดำวเทียมดวงหนึ่งโคจรรอบโลก 1 รอบ เป็นกำรสลำยส่วนธำตุ ใช้เวลำ 10 นำที จงหำควำมถี่และคำบของ กำรเคลื่อนที่ (หน่วยเฮิร์ตซ์ ก. อิเล็กตรอน ข. โปร และวินำที) ตรอน ก. 0.001 และ 100 ข. 100 ค. นิวตรอน ง. และ 1 นิวเคลียส ค. 1/6000 และ 6000 ง. 6000 และ 60 จุดประสงค์ที่ 2 ม. 4.2 ) 1. ทดลอง จุดประสงค์ที่ 3 ม.5.2 เข้ำใจควำมสัมพันธ์ และ อธิบำยควำมสัมพันธ์ระหว่ำง กำรกระ ระหว่ำงพลังงำนกับกำรดำำรงชีวิต กำรเปลี่ยน จัด เวลำ ควำมเร็ว ควำมเร่ง ของกำร รูป พลังงำน ปฏิสัมพันธ์ระหว่ำงสำรและ เคลื่อนที่ในแนวตรง และคำำนวณหำปริมำณ พลังงำน ผลของกำรใช้พลังงำนต่อกำรต่อ ที่เกียวข้อง ่ ชีวิตและสิ่งแวดล้อม มีกำรกระบวนกำรสืบ เสำะหำควำมรู้ สื่อสำรสิ่งที่เรียนรู้และนำำควำม 2.สำำรวจ ตรวจสอบและอธิบำยกำร
  • 6. รู้ไปใช้ประโยชน์ เคลื่อนที่แบบ ฮำร์มอนิกอย่ำงง่ำย แบบวงกลม แบบโพรเจกไทล์ รวมทั้ง 8.) ชำยคนหนึ่งโยนเหรียญขึ้นในแนวดิ่งด้วย กำรนำำมำใช้ประโยชน์ ควำมเร็วต้น 10 เมตรต่อวินำที เป็นเวลำนำน เท่ำใด เหรียญจะลงมำถึงตำำแหน่งเริ่มต้น ( g 3.) นำย ก เดินไปทำงทิศเหนือ 10 เมตร = 10 เมตรต่อวินำที 2) แล้วเดินต่อไปทำงทิศใต้ 6 เมตร แล้วเดิน ต่อไปทำงทิศตะวันออก 3 เมตร นำย ก ก. 1 วินำที ข. 2 เดินได้ระยะทำงเท่ำใด วินำที ก. 5 เมตร ค. 3 วินำที ง. 4 ข. 9 เมตร วินำที ค. 16 เมตร ง. 19 เมตร 4.) จำกโจทย์ข้อที่ 3 นำยก ได้กำรขจัด 9.) ข้อควำมใดต่อไปนี้ถูกต้องสำำหรับกำร ลัพธ์เท่ำไร เคลื่อนที่เป็นวงกลม ที่เคลื่อนที่ด้วยควำมถี่ คงที่ ก. 5 เมตร ข. 9 เมตร ก. ควำมเร็วและควำมเร่งไม่คงที่ ค. 16 เมตร ง. ข. ควำมเร็วไม่คงที่และควำมเร่งคงที่ 19 เมตร ค. ควำมเร็วคงที่และควำมเร่งไม่คงที่ 5.) เมื่อออกแรงกระทำำในแนวแกน X และ แกน Y ง. ควำมเร็วและควำมเร่งคงที่ พร้อม ๆ กัน วัตถุชิ้นนี้จะมีกำรเคลื่อนที่ แบบใด ก. เส้นตรง ข. วงกลม ค.ซิมเปิลฮำร์มอนิก ง. โพร เจกไทล์ 10.) ข้อใดเป็นคลื่นกลทั้งหมด 15.) ข้อใดเป็นกระบวนกำรทำำหมัน แมลง เพื่อไม่ให้แมลงบำงชนิดขยำย ก. รังสีอินฟรำเรด คลื่นวิทยุ รังสี พันธุ์ อัลตรำไวโอเลต ก. จับแมลงมำขังไว้แล้วฉำยรังสี ข. คลื่นผิวนำ้ำ คลื่นเสียง รังสีอินฟรำเรด แกมมำ ค. คลื่นผิวนำ้ำ คลื่นเสียง อัลตรำซำวด์ ข. ฉำยรังสีแกมมำที่ตัวอ่อนของแมลง
  • 7. ง. คลื่นผิวนำ้ำ คลื่นเสียง รังสีอัลตรำไวโอเลต ที่เพำะเลี้ยง แล้วปล่อยออกสู่ธรรมชำติ ค. ฉำยรังสีที่ดอกไม้ที่แมลงชอบตอม ง. ฉำยรังสีที่ปยที่จะใช้ใส่ให้พืชที่ ุ๋ แมลงชนิดนั้น ชอบตอม 11.) เสียงที่มระดับควำมเข้มเสียงเท่ำใดที่ ี 16. ) ในทำงกำรแพทย์ใช้รังสีจำก สำมำรถทำำให้ ไอโซโทปของธำตุกัมมันตรังสีชนิดใด ในกำรตรวจควำมผิดปกติของต่อม ประสำทหูชำำรุดได้อย่ำงถำวร ไทรอยด์ ก. 65 เดซิเบล ข. ก. โคบอล-60 ข. 75 เดซิเบล ยูเรเนียม -238 ค. 80 เดซิเบล ง. ค. คำร์บอน-14 ง. 90 เดซิเบล ไอโอดีน - 131 12. ) คลื่นนำ้ำมีควำมถี่ 2 เฮิร์ตซ์ มีควำมเร็ว 10 17. ข้อใดเป็นรังสีที่ได้จำกธำตุ เมตรต่อวินำที คลื่นมีควำมยำวคลื่นเท่ำใด กัมมันตรังสี ก. 0.2 เมตร ข. ก. รังสีแอลฟำ รังสีบีตำ รังสี 2.0 เมตร แกมมำ ค. 5.0 เมตร ง. ข. รังสีแอลฟำ รังสีบีตำ รังสี เอก 20 เมตร ซ์ ค. รังสี แกมมำ รังสี เอกซ์ รังสี อัลตรำไวโอเลต ง. รังสี อินฟรำเรด รังสี เอกซ์ รังสี อัลตรำไวโอเลต 13.) ส้อมเสียง 2 อันมีควำมถี่ 205 เฮิรตซ์ และ 18.) กำรหำอำยุวัตถุโบรำณใช้ธำตุใน ์ 210 เฮิรตซ์ เมื่อเคำะพร้อมกัน ต่ำงก็กำำเนิดคลื่น ข้อใด ์ เสียงออกมำ ข้อใดถูกต้อง ก. ใช้ออกซิเจน – 12 ก. เกิดกำรสั่นพ้องของคลื่นเสียงขึ้น ข. ใช้ออกซิเจน -16 ข. เกิดกำรบีตส์ของคลื่นเสียงที่มีควำมถี่ 5 เฮิร์ตซ์ ค. ใช้คำร์บอน - 12 ค. เกิดคลื่นกระแทกของคลื่นเสียงที่มีควำมถี่ 5 ง. ใช้คำร์บอน -14 เฮิรตซ์ขึ้น ์ 19.) ปฏิกิรยำนิวเคลียร์ทเกดขึ้นกับเตำ ิ ี่ ง. เกิดโซนิกบูมของคลื่นเสียงที่มีควำมถี่ 415 ปฏิกรณ์ที่มนุษย์ เฮิรตซ์ขึ้น ์
  • 8. สร้ำงขึ้น คือ ข้อใด ก. ปฏิกิรยำแบบ ิ รวมตัว ข. ปฏิกิริยำนิวเคลียร์แบบฟิชชัน ค. ปฏิกิรยำนิวเคลียร์แบบฟิวชัน ิ ง. ถูกข้อ ก และ ข 14.)คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำใดมีควำมถี่สูงสุด 20.) สตรอนเซียม -90 มีครึ่งชีวิต 28 ปี ถ้ำต้องกำรให้ สตรอนเซียม -90 ก. คลื่นวิทยุ เหลือร้อยละ 25 ของจำำนวนเดิมจะต้อง ใช้เวลำเท่ำใด ข. คลื่นอินฟรำเรด ก. 84 ค. คลื่นอัลตรำไวโอเลต ปี ข. 56 ปี ง. คลื่นแกมมำ ค. 14 ปี ง. 7 ปี แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน) ฉบับที่ 3 คำาชีแจง ให้นักเรียนเลือกคำำตอบที่ถูกต้องที่สุด เพียงคำำตอบเดียวแล้วทำำ เครื่องหมำย ้ X ลงในกระดำษคำำตอบ จุดประสงค์ที่ ม.4.1 สำำรวจตรวจสอบ 4.) จำกตำรำงควำมเร่งของวัตถุ มีค่ำ วิเครำะห์ และอธิบำยควำมสัมพันธ์ระหว่ำงแรง เท่ำไร กำรเคลื่อนที่ของอนุภำคหรือวัตถุในสนำม ไฟฟ้ำและกำรนำำไปใช้ประโยชน์ ควำมเร็ว (เมตรต่อ เวลำ(วินำที) วินำที) 1. ) อะตอมของธำตุทุกชนิดมีนิวเคลียสอยู่ 2 1 แกนกลำง 4 2 ข้อใดเป็นองค์ประกอบในนิวเคลียส 6 3 8 4 ก. นิวตรอน โปรตรอน อิเล็กตรอน 10 5 ก. 2 เมตรต่อวินำที 2 ข. 3 ข. นิวตรอน โปรตรอน เมตรต่อวินำที 2 ค. โปรตรอน อิเล็กตรอน ค. 4 เมตรต่อวินำที 2 ง. 5 เมตรต่อวินำที 2 ง. นิวตรอน อิเล็กตรอน 2. ) ข้อใดคำำกล่ำวถูกต้อง สำำหรับเด็กหญิง 5.) แรงสู่ศูนย์กลำงของรถยนต์ที่กำำลัง คนหนึ่ง ซึงชั่งมวลตัวเองที่โรงเรียนได้ 36 แล่นเลี้ยวโค้งบนทำงรำบ ได้มำจำกแรง ่ กิโลกรัม
  • 9. ใด ก. เด็กหญิงคนนี้มีนำ้ำหนักประมำณ 352.8 นิว ตัน บนผิวโลก ก. แรงโน้มถ่วง ข. เด็กหญิงคนนี้มีนำ้ำหนักประมำณ 36 นิวตัน ข. แรงปฏิกิริยำที่พื้นถนน ถ้ำชั่งบนผิวดวงจันทร์ ค. แรงเสียดทำนระหว่ำงล้อกับพื้นถนน ค. เด็กหญิงคนนี้มีนำ้ำหนักประมำณ 216 ง. แรงสนำมแม่เหล็ก กิโลกรัม ถ้ำชั่งบนผิวดวงจันทร์ ง. เด็กหญิงคนนี้มีนำ้ำหนักประมำณ 352.8 นิว ตัน ถ้ำชั่งบนผิวดวงจันทร์ จุดประสงค์ที่ 2 ม. 4.2 ) 1. ทดลอง และ 6.) ข้อใดใดเป็นกำรเคลื่อนที่แบบฮำร์มอ อธิบำยควำมสัมพันธ์ระหว่ำง กำรกระจัด นิก เวลำ ควำมเร็ว ควำมเร่ง ของกำรเคลื่อนที่ใน แนวตรง และคำำนวณหำปริมำณที่เกี่ยวข้อง ก. กำรขับรถยนต์บนถนน 2.สำำรวจ ตรวจสอบและอธิบำยกำรเคลื่อนที่ ข. กำรแกว่งของชิงช้ำ แบบฮำร์มอนิกอย่ำงง่ำย แบบวงกลม แบบ ค. กำรเตะฟุตบอล โพรเจกไทล์ รวมทั้งกำรนำำมำใช้ประโยชน์ ง. เข็มนำฬิกำ 3.) องค์ประกอบที่ทำำให้คำบของกำรแกว่ง ของลูกตุ้มนำฬิกำเปลี่ยนแปลงได้แก่ข้อใด 7.) ถ้ำต้องกำรให้ลูกตุ้มนำฬิกำ แกว่งที่ 50 รอบ ในเวลำ 10 วินำที จะต้องใช้ ก. มวลลูกตุ้ม ข. ช่วง ควำมถี่ของกำรแกว่งเป็นเท่ำไร กว้ำงของกำรแกว่ง ก. 2 รอบต่อวินำที ข. 3 รอบ ค. ควำมยำวของเชือก ง. ถูกทุกข้อ ต่อวินำที ค. 4 รอบต่อวินำที ง. 5 รอบ ต่อวินำที จุดประสงค์ที่ 3 ม.5.2 เข้ำใจควำม 12.) คลื่นผิวนำ้ำควำมถี่ 20 รอบต่อวินำที สัมพันธ์ระหว่ำงพลังงำนกับกำรดำำรงชีวิต ผิวนำ้ำที่คลื่นผ่ำนจะเคลื่อนที่ขึ้นลงครบรอบ 1 กำรเปลี่ยนรูป พลังงำน ปฏิสัมพันธ์ระหว่ำง รอบ ในเวลำเท่ำใด สำรและพลังงำน ผลของกำรใช้พลังงำน ต่อกำรต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม มีกำรกระ ก. 5 วินำที บวนกำรสืบเสำะหำควำมรู้ สื่อสำรสิ่งที่เรียน
  • 10. รูและนำำควำมรู้ไปใช้ประโยชน์ ้ ข. 0.5 วินำที 8.) โยนก้อนหินขึ้นในแนวดิ่งจำกพื้นในแนว ดิ่ง เมื่อก้อนหินหลุดออกจำกมือแล้ว แรงที่ ค. 0.05 วินำที กระทำำกับก้อนหินมีอะไรบ้ำง ง. 0.005 วินำที ก. แรงส่งจำกมือ ข. แรงส่งจำกมือและแรงโน้มถ่วง 13. ) ข้อใดเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำทั้งหมด ค. แรงเฉื่อย ก. รังสีอินฟรำเรด คลื่นวิทยุ ง. แรงโน้มถ่วงของโลก ข. คลื่นผิวนำ้ำ คลื่นเสียง ค. รังสี อินฟรำเรด คลื่นเสียง ง. คลื่นผิวนำ้ำ รังสีอัลตรำไวโอเลต 9.) คลื่นใด ๆ เมื่อเคลื่อนที่ผ่ำนจำก 14.) ระบบเรดำร์ ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำใน ตัวกลำงหนึ่งไปอีกตัวกลำงหนึ่งโดยที่ไม่ตั้ง ช่วงใด ฉำกกับเส้นเขตระหว่ำงตัวกลำง จะมีกำร หักเห ข้อใดเป็นสำเหตุของกำรหักเห ก. ไมโครเวฟ ก. ควำมเร็วของคลื่นในตัวกลำงทั้งสอง ข. คลื่นเสียง ไม่เท่ำกัน ค. อินฟรำเรด ข. ควำมยำวคลื่นของคลื่นในตัวกลำงทั้ง สองเท่ำกัน ง. อัลตรำไวโอเลต ค. ควำมถี่ของคลื่นในตัวกลำงทั้งสองเท่ำ กัน ง. แอมพลิจูดของคลื่นในตัวกลำงทั้ง สองไม่เท่ำกัน 10. ) ข้อใดเป็นกำรประยุกต์ใช้คลื่นเสียง 15.) ข้อใดเป็นไอโซโทปของ ที่ถูก ในช่วงของ ต้อง อัลตรำซำวด์ ทั้งหมด ก. ก. ใช้กำำจัดฝุ่นที่เกำะตำมชิ้นงำน ตำำรวจ ข. ใช้ตรวจจับควำมเร็วรถบนถนน ค. ข. ตำำรวจใช้ตรวจจับควำมเร็วรถบนถนน ง. ค. ระบบเรดำร์ตรวจจับเครื่องบินข้ำศึกทำง ทหำร ง. ใช้กำำจัดฝุ่นที่เกำะตำมชิ้นงำน
  • 11. 11.) ระดับเสียงมีค่ำขึ้นอยู่กับส่วนประกอบ 16.) ข้อใดเป็นควำมหมำยที่ถูกต้องของ ข้อใด ไอโซโทป ก. แอมพลิจูด ก. ธำตุชนิดเดียวกัน โปรตอนต่ำงกัน นิวตรอนเท่ำกัน ข. ควำมถี่ ข. ธำตุชนิดเดียวกัน โปรตอนเท่ำกัน ค. ควำมคลื่น นิวตรอนต่ำงกัน ง. ควำมเร็วคลื่น ค. ธำตุชนิดเดียวกัน โปรตอนเท่ำกัน อิเล็กตรอนต่ำงกัน ง. ธำตุชนิดเดียวกัน โปรตอนต่ำงกัน นิวตรอนเท่ำกัน ธำตุชนิดเดียวกัน โปรตอนต่ำงกัน นิวตรอน เท่ำกัน 17.) คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำใด ที่มนุษย์นำำมำ 20 .) คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำใด ที่มนุษย์นำำมำ ใช้ประโยชน์ในกำรอบอุ่นร่ำงกำย ใช้ประโยชน์ในกำรอบฆ่ำเชื้อโรคในนำ้ำดื่ม ก. รังสีเอกซ์ ก. รังสีเอกซ์ ข. รังสีแกมมำ ข. รังสีแกมมำ ค. รังสีอินฟรำเรด ค. รังสีอินฟรำเรด ง. รังสีอัลตรำไวโอเลต ง. รังสีอัลตรำไวโอเลต 18. ) คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำใดที่มนุษย์นำำมำ ใช้ประโยชน์ในกำรวินิจฉัยโรค ก. รังสีเอกซ์ ข. รังสีแกมมำ ค. รังสีอินฟรำเรด ง. รังสีอัลตรำไวโอเลต 19.) ปฏิกิรยำนิวเคลียร์ทเกิดขึ้นบนดวง ิ ี่ อำทิตย์ คือ ข้อใด
  • 12. ก. ปฏิกิริยำแบบแตกตัว ข. ปฏิกิริยำนิวเคลียร์แบบฟิชชัน ค. ปฏิกิรยำนิวเคลียร์แบบฟิวชัน ิ ง. ถูกทั้งข้อ ก และข้อ ข เฉลย
  • 13. แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน) ฉบับที่ 1,2,3 ข้อที่ ข้อที่ถูกต้อง (ชุดที1) ่ ข้อที่ถูกต้อง(ชุดที่ 2) ข้อที่ถูกต้อง(ชุดที่ 3) 1 ค ข ข 2 ง ง ก 3 ง ง ก 4 ค ก ก 5 ง ก ค 6 ง ข ข 7 ค ค ง 8 ข ข ง 9 ข ก ก 10 ง ค ง 11 ง ง ข 12 ค ค ค 13 ง ข ก 14 ค ง ก 15 ค ข ข 16 ง ง ข 17 ค ก ค 18 ง ง ก 19 ก ข ข 20 ข ข ง