Weitere ähnliche Inhalte
Mehr von Pornthip Nabnain
Mehr von Pornthip Nabnain (20)
ไซบีเรียนฮัสกี
- 1. ไซบีเรี ยนฮัสกี
ไซบีเรี ยนฮัสกี (รัสเซีย: Сибирский хаски, Sibirskiy Haski) เป็ นสุนขขนาดกลาง ขนฟูแน่น จัดอยูในกลุม
ั
่
่
สุนขใช้ งาน มีต้นกาเนิดทางตะวันออกของไซบีเรีย เพาะพันธุ์มาจากสุนขในวงศ์สปิ ตซ์ มีลกษณะขน 2 ชันฟูแน่น, หางรูป
ั
ั
ั
้
เคียว, หูเป็ นรูปสามเหลียมตังชัน และลายที่เป็ นลักษณะเฉพาะ
่ ้
ไซบีเรี ยนฮัสกีเป็ นสุนขที่แข็งแรง คล่องแคล่ว เต็มไปด้ วยพลัง และยืดหยุน เป็ นคุณสมบัติที่สบทอดจากบรรพ
ั
่
ื
บุรุษที่มาจากสิงแวดล้ อมที่หนาวเย็นอย่างรุนแรงของไซบีเรี ย และจากการเพาะพันธุ์ของชาวชุกชี (Chukchi) ที่อาศัยอยู่
่
ทางด้ านตะวันออกเฉียงเหนือของเอเชีย สุนขถูกนาเข้ ามาในอะแลสกา ระหว่างช่วงตื่นทองที่เมืองนอมน์ (Nome) และ
ั
แพร่เข้ าสูสหรัฐอเมริ กาและประเทศแคนาดาในฐานะสุนขลากเลือน ก่อนที่จะเปลียนมาเป็ นสุนขเลี ้ยงตามบ้ านในภายหลัง
่
ั
่
่
ั
อย่างรวดเร็ ว
- 2. ประวัติ
สุนขทุกสายพันธุ์ที่ถกพัฒนาพันธุ์ขึ ้นมีบรรพบุรุษเดียวกันนันคือสุนขป่ าโบราณ (วงศ์ Canidae)[1] ไซบีเรี ยนฮัสกี
ั
ู
่
ั
, ซามอย, และอลาสกันมาลามิวนันสืบสายพันธุ์โดยตรงจากสุนขลากเลือน[2] จากการวิเคราะห์ดเอ็นเอที่ผานมาเมื่อเร็ วๆ
้
ั
่
ี
่
นี ้ช่วยยืนยันว่ามันเป็ นหนึงในสุนขที่มีการเพาะเลี ้ยงมาแต่โบราณ[3] คาว่า "ฮัสกี (husky)" ได้ มาจากชื่อทีใช้ เรี ยกชาว
่
ั
่
อินนูอิต (Inuit) ว่า "ฮัสกีส์ (huskies)" โดยคณะสารวจคนขาว (Caucasian) คณะแรกๆที่มาถึงแผ่นดินของพวกเขา ส่วน
คาว่า "ไซบีเรี ยน (Siberian)" ได้ มาจากไซบีเรี ยนันเองเนื่องจากความคิดทีวาสุนขลากเลือนนีถกใช้ ในการข้ ามสะพาน
่
่่ ั
่ ู้
แผ่นดินของช่องแคบเบอร์ ริ่งที่เป็ นทางเข้ าสูหรื อออกจากรัฐอะแลสกา[2], ซึงทฤษฎีนี ้ยังเป็ นที่ถกเถียงกันอยูในหมูผ้ ที่
่
่
่
่ ู
ทาการศึกษาค้ นคว้ า[4] สุนขที่สบเชื ้อสายมาจากสุนขเอซคิโมสามารถพบได้ ตลอดซีกโลกด้ านเหนือจากไซบีเรี ยถึงประเทศ
ั ื
ั
แคนาดา, รัฐอะแลสกา, กรี นแลนด์, ลาบราดอร์ (Labrador), และเกาะบัฟฟิ นค์ (Baffin Island)
ด้ วยความช่วยเหลือของไซบีเรี ยนฮัสกี ประชาชนของชนเผ่าต่างๆไม่เพียงแค่รอดตายเท่านันในการออกสารวจ
้
ดินแดนที่ไม่มีร้ ูจก พลเรื อเองโรเบิร์ต เพียร์ รี่ (Robert Peary) แห่งกองทัพเรื อสหรัฐอเมริ กาก็ได้ รับความช่วยเหลือจากสุนข
ั
ั
สายพันธุ์นี ้ระหว่างคณะสารวจของเขาออกสารวจขัวโลกเหนือ บทบาทของไซบีเรี ยนฮัสกีในกระทาหน้ าที่นี ้ไม่สามารถเป็ น
้
ที่หยังรู้ได้
่
สุนขจากแม่น ้าอานาเดียร์ (Anadyr River) และพื ้นที่รอบๆถูกนาเข้ ามาในรัฐอะแลสกาตังแต่ปี ค.ศ. 1908 (และ
ั
้
เป็ นเวลา 2 ทศวรรษ)ในช่วงตื่นทองเพื่อใช้ เป็ นสุนขลากเลือน โดยเฉพาะอย่างยิงใน All-Alaska Sweepstakes (AAS)
ั
่
่
หรื อการแข่งสุนขลากเลือนทางไกลซึงเป็ นระยะทาง 408 ไมล์ (657 กม.) จากเมืองนอมน์ (Nome) ถึงเมืองแคนเดิล
ั
่
่
(Candle) ไปและกลับ "เล็กกว่า, เร็ วกว่า และอดทนมากกว่า ในการบรรทุกน ้าหนักราว 100 - 120 ปอนด์ (45 - 54
กิโลกรัม)" มันเป็ นส่วนสาคัญใกล้ ชิดของผู้เข้ าแข่งขันยาวนอมน์ที่มชื่อเสียง ลีออนฮาร์ ด เซพพารา (Leonhard Seppala)
ี
ที่เคยเป็ นผู้เพาะเลี ้ยงไซบีเรี ยนฮัสกีมาก่อนทีจะเข้ าร่วมการแข่งขันตังแต่ปี ค.ศ. 1909 ถึงช่วง ค.ศ. 1920
่
้
- 3. ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1925 กันเนอร์ คาเซ็น (Gunnar Kaasen) เป็ นผู้นาเซรุ่มไปถึงเมืองนอมน์เป็ นคน
แรกในปี ค.ศ. 1925 เพื่อรักษาโรคคอตีบ กันเนอร์ ได้ ออกจากเมืองนีนนานา (Nenana) ไปสูเ่ มื่องนอมน์เป็ นระยะทาง
มากกว่า 600 ไมล์ ด้ วยความพยายามของผู้เดินทางและความช่วยเหลือของสุนขลากเลือน การแข่งขัน Iditarod Trail
ั
่
Sled Dog Race (การแข่งสุนขลากเลือนสูเมื่องอิดตทารอต) ที่จดขึ ้นก็เพื่อเป็ นอนุสรณ์ของการขนส่งเซรุ่ มนี ้เอง และ
ั
่ ่
ิ
ั
เหตุการณ์นี ้ได้ ถกนาไปสร้ างเป็ นภาพยนตร์ แอนิเมชันในปี ค.ศ. 1995 ที่ชื่อ"บอลโต (Balto)" ตามชื่อของสุนขนาทีมของ
ู
ั
กันเนอร์ และเพื่อเป็ นเกียรติแก่สนขนาทีมบอลโต มีการสร้ างรูปหล่อเหมือนที่ทาจากทองแดง ตังอยูในเซ็นทรอล ปาร์ คใน
ุ ั
้ ่
รัฐนิวยอร์ ก มีคาจารึกดังนี ้
อุทิศแก่จิตวิญญาณที่ทรหดของสุนขลากเลือนที่นาเชื ้อต้ านพิษบนทางยากลาบากเต็มไปด้ วยน ้าแข็ง 600 ไมล์,
ั
่
ข้ ามลาน ้าที่แข็งตัว, ฝ่ าพายุหิมะของขัวโลกเหนือจากเมืองนีนนานาสูเ่ มืองนอมน์ที่รอความช่วยเหลือให้ พ้นจากโรคร้ ายใน
้
่
ฤดูหนาวปี ค.ศ. 1925 อดทน--ซื่อสัตย์--มีไหวพริ บ
ในปี ค.ศ. 1930 ไซบีเรี ยนฮัสกีตวสุดท้ ายถูกนาออกจากรัฐบาลโซเวียดใกล้ กบพรมแดนของไซบีเรียเพื่อการ
ั
ั
แลกเปลียนกับภายนอก ปี เดียวกันมีการจดทะเบียนรับรองสายพันธุ์ไซบีเรี ยนฮัสกีโดยสมาคมพัฒนาพันธุ์สนขแห่ง
่
ุ ั
สหรัฐอเมริ กาเป็ น 9 ปี หลังจากสายพันธุ์นี ้ถูกจดทะเบียนในประเทศแคนนาดา ณ.วันนี ้ไซบีเรี ยนฮัสกีที่จดทะเบียนใน
อเมริ กาเหนือเป็ นลูกหลานส่วนใหญ่ของไซบีเรี ยนฮัสกีที่ถกนาเข้ ามาในปี ค.ศ. 1930 และสุนขของลีออนฮาร์ ด เซพพารา
ู
ั
เซพพาราเจ้ าของคอกสุนขในมีนานาก่อนทีจะย้ ายไปอยูนิวอิงแลนด์ อาเทอร์ วาวเด็น (Arthur Walden) เจ้ าของคอก
ั
่
่
สุนขชินก (Chinook) แห่งวอนนาแวมเซิด (Wonalancet) รัฐนิวแฮมปเชียร์ ผู้มีไซบีเรี ยนฮัสกีในคอกที่โดดเด่น สุนขตังแต่
ั ุ
์
ั ้
เริ่ มก่อตังคอกของเขามาจากอะแลสกาโดยตรงและมาจากคอกของเซพพารา
้
- 4. ลักษณะทัวไป
่
ไซบีเรี ยนฮัสกีมีรูปร่างลักษณะภายนอกคล้ ายกับอลาสกันมาลามิวท์เช่นเดียวกับสายพันธุ์อื่นๆที่พฒนาสายพันธุ์
ั
มาจากสุนขวงศ์สปิ ตซ์เช่นซามอย ไซบีเรี ยนมีขนหนาแน่นกว่าสุนขสายพันธุ์อื่น มีสและรูปแบบขนที่หลากหลาย โดยปกติมี
ั
ั
ี
สีขาวที่เท้ า, ขา, ท้ อง, รอบตาหรือเป็ นหน้ ากากที่หน้ า และที่ปลายหาง ทัวไปมีสดา-ขาว, เทา-ขาว, ทองแดง-ขาว, และขาว
่
ี
ปลอด และยังมีแบบที่เป็ นเอกลักษณะเฉพาะ เช่น สีออน แต้ มจุด แว่นตา ฯลฯ บางครังก็มีลกษณะคล้ ายหมาป่ าเกิดขึ ้น
่
้ ั
แม้ วาในการพัฒนาพันธุ์ไม่มีความใกล้ ชิดกับหมาป่ าหรื อสายพันธุ์ที่ใกล้ ชิดเลย คิดว่าเกิดจากการเพาะพันธุ์ที่ไซบีเรี ยแล้ ว
่
ตา
สีตาของไซบีเรี ยนฮัสกีทเี่ ป็ นที่ยอมรับมีสฟ้าหรื อน ้าตาลเข้ ม, เขียว, น ้าตาลอ่อน, เหลือง/อาพัน, "แก้ วตาหลายสี"
ี
หรื อตาเฮเซล (Hazel) เป็ นจุดบกพร่องร้ ายแรงที่แสดงวงสีตางกันในแก้ วตา รวมถึงตาข้ างหนึงสีน ้าตาลอีกข้ างสีฟ้า
่
่
(complete heterochromia) หรื อตาข้ างเดียวหรื อทัง้ 2 ข้ างมีสี "แบ่งส่วน" น ้าตาลครึ่งฟ้ าครึ่ง (partial
heterochromia) นี่คือสีตาทังหมดที่ถกพิจารณายอมรับโดยสมาคมพัฒนาพันธุ์สนขแห่งสหรัฐอเมริ กา ตาต้ องเป็ นรู ปอัล
้
ู
ุ ั
มอนด์ เว้ นระยะห่างกันปานกลาง วางตัวเฉียงเล็กน้ อย
หูและหาง
หูเป็ นรูปสามเหลียม, มีขนสมบูรณ์, ขนาดกลาง, และตังชัน ความผิดพลาดที่เกิดขึ ้นบ่อยๆในการพัฒนาพันธุ์โดย
่
้
สมาคมพัฒนาพันธุ์สนข เช่นสมาคมพัฒนาพันธุ์สนข (สหรัฐอเมริ กา) ที่มีรูปหูทเี่ รี ยกว่าหูผง ( prick ears) หางเป็ นพู่
ุ ั
ุ ั
ึ่
เหมือนหางหมาจิ ้งจอกรูปเคียวโค้ งเหนือหลังและลากหางไปด้ านหลังเมื่อเคลือนไหว ไซบีเรี ยนฮัสกีสวนมากมีสขาวตรง
่
่
ี
ปลายหาง[6] หางต้ องไม่โค้ งจนแตะหลังเหมือน สปิ ตซ์ สีออกแกมขาว
ขน
ขนของไซบีเรี ยนฮัสกีมี 2 ชัน ขนชันในที่หนาแน่น
้
้
และขนชันนอกที่ยาวกว่า ขนชันนอกยาวตรงและบางส่วน
้
้
เหยียดเรี ยบไม่ชี ้ชันตังตรงจากลาตัว ที่สามารถปกปองมัน
้
้
จากความรุนแรงของฤดูหนาวขัวโลกเหนือได้ (−50 °C to
้
−60 °C[7]) แต่ขนที่หนานันทาให้ ระบายความร้ อนได้ ยากใน
้
ฤดูร้อน ส่วนขนยาวแบบที่เรียกว่า "ฮัสกีขนแกะ (wooly
huskies)" นันไม่เป็ นที่ยอมรับ และไม่มีสทธิ์ลงแข่งในสนาม
้
ิ
ประกวด ดูสขนเพิ่มเติม
ี
- 5. จมูก
จมูกของไซบีเรี ยนฮัสกีมีสดาในสีเทาในสุนขสีแทนและสีดา สีเลือดหมูในสุนขสีทองแดง และอาจจะมีสเี นื ้อใน
ี
ั
ั
สุนขสีขาว ไซบีเรี ยนฮัสกีบางตัวมีจมูกทีเ่ รี ยกว่า "จมูกหิมะ" เป็ นสภาวะที่เรี ยกว่าผิวด่าง ( hypopigmentation) ในสัตว์
ั
และสุนขที่มี "จมูกหิมะ" นันสามารถลงประกวดได้ [8][6] ในสุนขระดับประกวดไม่คอยจะมีจมูกทรงแหลมหรื อสีเ่ หลียมนัก
ั
้
ั
่
่
ขนาด
ในการเพาะพันธุ์ ไซบีเรี ยนฮัสกีมมาตรฐานดังนี ้ เพศผู้สง 21 - 23.5 นิ ้ว (53.5 - 60 ซ.ม.) หนัก 45 - 60 ปอนด์
ี
ู
(20.5 - 28 กิโลกรัม) เพศเมียมีขนาดเล็กกว่า สูง 20 - 22 นิ ้ว (50.5 - 56 ซ.ม.) หนัก 35 - 50 ปอนด์ (15.5 - 23 กิโลกรัม)[6
อารมณ์
ไซบีเรี ยนฮัสกีก็เหมือนสุนขใช้ งานทัวๆไปที่มีพลังงานสูงต้ องการการออกกาลังมาก มันควรได้ รับการปฏิบติแบบ
ั
่
ั
เพื่อนเดินทางและสุนขลากเลือนไม่ใช่สนขอารักขา การรวมกันของปั จจัยนี ้ส่งผลให้ ไซบีเรี ยนฮัสกีมจิตประสาทที่สภาพ
ั
่
ุ ั
ี
ุ
อ่อนโยนและซื่อสัตย์
ชาวอินอต (Inuit) พัฒนาสายพันธุ์นี ้ขึ ้นมาเพื่อใช้ ลากเลือนหนักเป็ นระยะทางไกลๆและสามารถเอาตัวรอดได้
ูิ
่
การภูมิประเทศที่หนาวเย็นแบบทรุนดรา (tundra) และช่วยในการล่าสัตว์
พฤติกรรม
พฤติกรรมของไซบีเรี ยนฮัสกีถกมองว่าเป็ นตัวแทนบรรพบุรุษของสุนขบ้ าน นันก็คือหมาป่ า มันแสดงออกใน
ู
ั
่
รูปแบบพฤติกรรมของเทือกเถาเหล่ากอแบบกว้ างๆ[10] บ่อยครังที่ชอบหอนมากกว่าเห่า[11] การแสดงออกที่มากเกินไป
้
เกิดจากการถูกขับด้ วยสัญชาตญาณในการล่า บุคลิกลักษณะของสุนขที่เกิดจากการเพาะพันธุ์บอยครังที่เห็นได้ ชดใน
ั
่
้
ั
พฤติกรรมการละเล่นไล่จบสิงต่างๆในสิงแวดล้ อมที่สนขแสดงออกมาคล้ ายกับสุนขล่าเนื ้อมากกว่าจะเป็ นสัตว์เลี ้ยง มัน
ั ่
่
ุ ั
ั
ชอบวิ่งเป็ นพิเศษ น่าจะเป็ นเพราะจากประวัตการเพาะพันธุ์ในอเมริ กาเหนือ ในการฝึ กสุนัขให้ เชื่อฟั งคาสังควรใช้ เวลา 15
ิ
่
นาที/วันดีที่สด และทาทุกๆวัน[12]
ุ
สุขภาพ
ไซบีเรี ยนฮัสกีมีอายุเฉลียราวๆ 12 - 16 ปี ข้ อบกพร่องในตาแต่กาเนิดที่พบจากการเพาะพันธุ์ เช่น ต้ อกระจกบาง,
่
กระจกตาเจริ ญผิดเพี ้ยน, และจอตาฝ่ อรุกลาม การเจริ ญผิดปรกติของเอวก็พบได้ บอยเช่นกันในการเพาะเลี ้ยงเหมือนกับ
่
สุนขขนาดกลางหรื อขนาดใหญ่ทวไป
ั
ั่
ไซบีเรี ยนฮัสกีทเี่ ป็ นสุนขลากเลือนอาจมีโรคอื่นๆอีก เช่น โรคกระเพาะ, หลอดลมอักเสบ, และแผลในกระเพาะ
ั
่