Weitere ähnliche Inhalte
Ähnlich wie ห้องสมุดกับการเรียนรู้สารสนเทศ (20)
ห้องสมุดกับการเรียนรู้สารสนเทศ
- 2. ความหมายของห้องสมุด
• ห้ อ งสมุ ด คือ สถานที่รวบรวมสรรพ
วิทยาการต่าง ๆ ซึ่งได้บนทึกไว้ในรูปของ
ั
หนังสือ วารสาร ต้นฉบับตัวเขียน สิ่งตีพิมพ์
อื่น ๆ หรือโสตทัศนวัสดุ และมีการจัดอย่างมี
ระเบียบเพื่อบริการแก่ผู้ใช้ ในอันที่จะส่งเสริม
การเรียนรู้และความจรรโลงใจตามความสนใจ
และความต้องการของแต่ละบุคคล โดยมี
บรรณารักษ์เป็นผูจัดหาและจัดเตรียมให้
้
- 3. ความสำาคัญของห้องสมุด
• ห้ อ งสมุ ด เป็ น ที ่ ร วมวิ ท ยาการต่ า ง ๆ ที ่ ม ี
ความสำ า คั ญ ต่ อ การเรี ย นการสอน
• ห้ อ งสมุ ด เป็ น แหล่ ง สารนิ เ ทศที ่ ม ี ค วามสำ า คั ญ
ต่ อ การค้ น คว้ า วิ จ ั ย การเลื อ กอ่ า นหนั ง สื อ
• ห้ อ งสมุ ด เป็ น แหล่ ง สารนิ เ ทศที ่ เ ปิ ด โอกาสให้
ทุ ก คนเลื อ กศึ ก ษาค้ น คว้ า อย่ า งอิ ส ระ
• ห้ อ งสมุ ด เป็ น แหล่ ง ข้ อ มู ล ที ่ ส ่ ง เสริ ม การอ่ า น
และการค้ น คว้ า ด้ ว ยตนเอง
• ห้ อ งสมุ ด เป็ น สถานที ่ ส ำ า หรั บ การพั ฒ นา
คุ ณ ภาพชี ว ิ ต
• ห้ อ งสมุ ด เป็ น สถานที ่ ส ่ ง เสริ ม และอนุ ร ั ก ษ์
วั ฒ นธรรมอั น ดี ง าม
• ห้ อ งสมุ ด จะเป็ น แหล่ ง ข้ อ มู ล ที ่ ผ ู ้ อ ่ า นสามารถ
- 4. วัตถุประสงค์ของห้องสมุด
• เพื ่ อ การศึ ก ษา
• เพื ่ อ ให้ ค วามรู ้ แ ละข่ า วสาร
• เพื ่ อ การค้ น คว้ า วิ จ ั ย
• เพื ่ อ ให้ ค วามจรรโลงใจ
• เพื ่ อ นั น ทนาการ
- 5. องค์ประกอบของห้องสมุด
1. สิ ่ ง ตี พ ิ ม พ์ ได้ แ ก่ หนั ง สื อ วารสาร
หนั ง สื อ พิ ม พ์ เอกสาร จุ ล สาร ในสาขา
วิ ช าต่ า ง ๆ หนั ง สื อ ที ่ เ ป็ น ความรู ้ ท ั ่ ว ไป
หนั ง สื อ ที ่ ม ี ค ุ ณ ค่ า ถาวรและหนั ง สื อ
อ้ า งอิ ง
2. หนั ง สื อ ตั ว เขี ย น ได้ แ ก่ สมุ ด ข่ อ ย
หนั ง สื อ ลาน และต้ น ฉบั บ ที ่ เ ขี ย นด้ ว ย
ลายมื อ อื ่ น ๆ
3. โสตทั ศ นวั ส ดุ ได้ แ ก่ ภาพยนตร์
สารคดี ฟิ ล ์ ม สคริ ป สไลด์ แถบเสี ย ง
- 6. ประเภทของห้องสมุดและ
แหล่งเรียนรู้
• ห้ อ งสมุ ด
• ศู น ย์ บ ริ ก ารสารนิ เ ทศ
• สถานที ่ ท ี ่ เ ป็ น แหล่ ง การเรี ย น
รู ้ ส ารนิ เ ทศ
• แหล่ ง สารนิ เ ทศประเภทบุ ค คล
• แหล่ ง สารนิ เ ทศประเภทเครื อ
ข่ า ย
- 7. บริการของห้องสมุด
• ห้ อ งสมุ ด ที ่ ด ี จ ะปรากฏลั ก ษณะเด่ น ให้
มองเห็ น คื อ มี ว ั ส ดุ ต ่ า ง ๆ ในห้ อ ง
สมุ ด ไว้ บ ริ ก ารตลอดเวลา มี
บรรณารั ก ษ์ เ ป็ น ผู ้ ม ี ค วามรู ้ มี ช ั ้ น เปิ ด
(Open Shelf) เป็ น ที ่ เ ก็ บ หนั ง สื อ เพื ่ อ
ให้ ผ ู ้ ใ ช้ ห ้ อ งสมุ ด ได้ ค ้ น หาได้ ส ะดวก
มี อ าคารสถานที ่ ถ ู ก ลั ก ษณะ อากาศ
ถ่ า ยเทได้ ด ี มี แ สงสว่ า งเพี ย งพอ วั ส ดุ
ต่ า ง ๆ ในห้ อ งสมุ ด จั ด ไว้ เ ป็ น ระเบี ย บ
เป็ น หมวดหมู ่ มี บ ริ ก ารดี เช่ น
บริ ก ารช่ ว ยค้ น คว้ า และตอบ
• คำ า ถาม บริ ก ารหนั ง สื อ สำ า รอง บริ ก าร
- 8. ภาคผนวกห้องสมุด
ประชาชน
• ในมิ ่ ง มงคลสมั ย ที ่ ส มเด็ จ พระเทพรั ต นราชสุ
ดาฯ สยามบรมราชกุ ม ารี ทรงเจริ ญ พระ-
ชนมายุ 36 พรรษา เมื ่ อ ปี พ ุ ท ธศั ก ราช 2534
กระทรวงศึ ก ษาธิ ก าร ได้ ร ั บ พระราชทาน
พระราชานุ ญ าตให้ ด ำ า เนิ น โครงการจั ด ตั ้ ง
ห้ อ งสมุ ด ประชาชน “เฉลิ ม ราชกุ ม ารี ”
เพื ่ อ เฉลิ ม พระเกี ย รติ แ ละเพื ่ อ สนองแนวทาง
พระราชดำ า ริ ใ นการส่ ง เสริ ม การศึ ก ษาสำ า หรั บ
ประชาชนที ่ ไ ด้ ท รงแสดงในโอกาสต่ า ง ๆ ใน
โอกาสที ่ ท รงมี พ ระมหากรุ ณ าธิ ค ุ ณ เสด็ จ เป็ น
องค์ ป ระธานในการประชุ ม สมั ช ชาสากลว่ า
ด้ ว ยการศึ ก ษาผู ้ ใ หญ่ เมื ่ อ วั น ที ่ 12 มกราคม
2533 ได้ ท รงพระราชทานลายพระหั ต ถ์ เชิ ญ
ชวนให้ ห น่ ว ยงานภาครั ฐ และภาคเอกชนให้
- 10. ความหมายของสารสนเทศ
กับสารนิเทศ
• สารนิ เ ทศ คื อ ความรู ้ เรื ่ อ งราว ข้ อ มู ล
ข่ า วสาร ซึ ่ ง มี ก ารบั น ทึ ก และจั ด การตามหลั ก
วิ ช าการเพื ่ อ เผยแพร่ และเพื ่ อ ใช้ ป ระโยชน์
ในการพั ฒ นาด้ า นต่ า งๆ ทั ้ ง ในส่ ว นบุ ค คลและ
สั ง คม
• สารสนเทศ ก็ ค ื อ ผลสรุ ป ที ่ ไ ด้ จ ากการนำ า
ข้ อ มู ล มาประมวลด้ ว ยวิ ธ ี ก ารต่ า งๆ เช่ น การ
สรุ ป ทางสถิ ต ิ การเปรี ย บเที ย บ การจำ า แนก
หรื อ จั ด กลุ ่ ม ฯลฯ ดั ง นั ้ น ในวงการ
คอมพิ ว เตอร์ จ ึ ง ถื อ ว่ า ระบบสารสนเทศ คื อ
ระบบจั ด เก็ บ ข้ อ มู ล ในด้ า นต่ า งๆ เอาไว้ แล้ ว
นำ า ข้ อ มู ล มาประมวลให้ เ ป็ น สารสนเทศเพื ่ อ ส่ ง
ให้ ผ ู ้ ใ ช้ ระบบสารสนเทศที ่ ร ู ้ จ ั ก กั น ดี ก ็ ค ื อ
ระบบสารสนเทศเพื ่ อ การจั ด การ
- 11. ความสำาคัญของข้อมูล
สารสนเทศ
• การให้ บ ริ ก ารสารสนเทศต่ า ง ๆ เป็ น สิ ่ ง
จำ า เป็ น ต่ อ การพั ฒ นาหน่ ว ยงานทุ ก
หน่ ว ยซึ ่ ง มี ผ ลต่ อ การพั ฒ นาประเทศ
ชาติ มี ค ำ า กล่ า วที ่ ว ่ า “ ความรู ้ ค ื อ
อำ า นาจ ” หรื อ “ สารสนเทศคื อ
อำ า นาจ ” (Information is Power)
ใครมี ข ้ อ มู ล มากผู ้ น ั ้ น ย่ อ มมี อ ำ า นาจมาก
คำ า ดั ง กล่ า วสามารถพิ ส ู จ น์ ไ ด้ ด ี ใ น
วงการธุ ร กิ จ หรื อ อุ ต สาหกรรม บริ ษ ั ท
ใดมี ข ้ อ มู ล ทางเทคโนโลยี ใ หม่ ๆ ย่ อ ม
ได้ เ ปรี ย บกว่ า บริ ษ ั ท ที ่ ไ ม่ ม ี ก ารพั ฒ นา
เทคโนโลยี ศู น ย์ ส ารสนเทศต่ า ง ๆ จึ ง
- 12. คุณค่าของสารนิเทศ
• ความถู ก ต้ อ ง
• สะดวก รวดเร็ ว ตรงตาม
ความต้ อ งการ
• มี ค วามสมบู ร ณ์ ครบถ้ ว น
• ความน่ า สนใจ
• ต่ อ เนื ่ อ งสั ม พั น ธ์ ก ั น
- 13. ประโยชน์และความสำาคัญ
ของสารสนเทศ
• เพื ่ อ การศึ ก ษา (Education)
• เพื ่ อ ให้ ค วามรู ้ (Information)
• เพื ่ อ การค้ น คว้ า (Research)
• เพื ่ อ ความจรรโลงใจ (Inspiration)
• เพื ่ อ ความบั น เทิ ง (Recreation)
- 14. บทบาทของสารสนเทศใน
ด้านต่าง ๆ
• บทบาทของสารสนเทศต่ อ การ
พั ฒ นาประเทศ
• บทบาทของสารสนเทศด้ า นการค้ า
• บทบาทของสารสนเทศทางด้ า นการ
ศึ ก ษา
• บทบาทของสารสนเทศด้ า น
การเมื อ งการปกครอง
• บทบาทของสารสนเทศด้ า น
อุ ต สาหกรรม
- 15. แหล่งสารสนเทศหรือแหล่ง
ค้นคว้า
• การจำาแนกลักษณะของแหล่งสารสนเทศ
ตามประเภทของที่มา
• การจำาแนกลักษณะของแหล่งสารสนเทศ
ตามลักษณะการใช้
- 17. ประเภททรัพยากร
สารสนเทศ
1. วั ส ดุ ต ี พ ิ ม พ์ (Printed
Materials)
2. วั ส ดุ ไ ม่ ต ี พ ิ ม พ์ (Non
Printed Materials)
- 18. การเลือกใช้และการระวังรักษา
ทรัพยากรสารสนเทศ
• รั ก ษาทรั พ ยากรสารสนเทศให้ อ ยู ่ ใ น
สภาพเดิ ม ที ่ ส ามารถใช้ ง านได้
• ไม่ ฉ ี ก ตั ด หรื อ ทำ า ลายทรั พ ยากร
สารสนเทศ เพราะจะทำ า ให้ ผ ู ้ ม าใช้
ที ห ลั ง ไม่ ส ามารถใช้ ป ระโยชน์ ไ ด้
• ยื ม และคื น ตามกำ า หนดทรั พ ยากร
สารสนเทศเพื ่ อ ให้ ผ ู ้ อ ื ่ น ได้ ใ ช้
ประโยชน์
- 19. บทที่ 3
การใช้สารสนเทศและ
หนังสืออ้างอิง
- 20. หนังสืออ้างอิง
• หนั ง สื อ อ้ า งอิ ง (Reference Books)
คื อ หนั ง สื อ ที ่ ร วมข้ อ เท็ จ จริ ง ซึ ่ ง
รวบรวมมาจากแหล่ ง ต่ า ง ๆ นำ า มา
เรี ย บเรี ย งเข้ า ด้ ว ยกั น เพื ่ อ ใช้ ไ ด้
อย่ า งรวดเร็ ว เป็ น หนั ง สื อ ที ่ ผ ู ้ ใ ช้ จ ะ
อ่ า นเฉพาะตอนที ่ ต ้ อ งการ ไม่
จำ า เป็ น ต้ อ งอ่ า นทั ้ ง เล่ ม หนั ง สื อ
อ้ า งอิ ง จะจั ด เรี ย งลำ า ดั บ อั ก ษร หรื อ
ตามลำ า ดั บ ปี หรื อ มิ ฉ ะนั ้ น จะมี
- 21. ลักษณะทั่วไปของหนังสือ
อ้างอิง
• เป็ น หนั ง สื อ ที ่ ม ุ ่ ง ให้ ข ้ อ เท็ จ จริ ง และความรู ้ เ ป็ น
สำ า คั ญ
• รวบรวมความรู ้ ใ นสาขาวิ ช าต่ า ง ๆ มี ข อบเขต
กว้ า งขวางเพื ่ อ ใช้ ต อบปั ญ หาทั ่ ว ๆ ไป
• เขี ย นโดยผู ้ ท รงคุ ณ วุ ฒ ิ ห ลาย ๆ ท่ า นในสาขา
วิ ช านั ้ น ๆ โดยเฉพาะ
• จั ด เรี ย บเรี ย งเนื ้ อ เรื ่ อ งไว้ อ ย่ า งมี ร ะเบี ย บ เพื ่ อ
ให้ ใ ช้ ไ ด้ ส ะดวกและรวดเร็ ว
• มั ก มี ข นาดแตกต่ า งจากหนั ง สื อ ธรรมดา เช่ น มี
ขนาดใหญ่ ก ว่ า มี ค วามยาว อาจพิ ม พ์ เ ป็ น ชุ ด
ๆ ละหลาย ๆ เล่ ม
• ไม่ จ ำ า เป็ น ต้ อ งอ่ า นตลอดทั ้ ง เล่ ม ต้ อ งการทราบ
- 22. ลักษณะของหนังสืออ้างอิง
ที่ดี
• ผู ้ แ ต่ ง หรื อ ผู ้ ร วบรวม
• ขอบเขตของหนั ง สื อ
• วิ ธ ี เ ขี ย น
• การเรี ย งลำ า ดั บ
• รู ป เล่ ม
• บรรณานุ ก รม
• ลั ก ษณะพิ เ ศษอื ่ น ๆ
- 23. การใช้เครื่องมือช่วยค้นอย่าง
รวดเร็วในหนังสืออ้างอิง
• อั ก ษรนำ า เล่ ม
• ดรรชนี ร ิ ม หน้ า กระดาษหรื อ ดรรชนี ล ั ก ษณะ
เป็ น ครึ ่ ง วงกลมที ่ ร ิ ม หน้ า กระดาษ
• คำ า นำ า ทาง
• ส่ ว นโยง
• ภาคผนวก
• ดรรชนี
• ดรรชนี ร วม
• สารบั ญ
- 24. ประเภทของหนังสืออ้างอิง
• หนั ง สื อ อ้ า งอิ ง ที ่ ใ ห้ ส ารสนเทศ
ได้ โ ดยตรง
• หนั ง สื อ อ้ า งอิ ง ชี ้ แ หล่ ง ข้ อ มู ล
- 25. บทที่ 4
การสืบค้นข้อมูล
สารสนเทศห้องสมุด
- 26. ความหมายของการจัดหมู่
หนังสือ
• การจัดหมู่หนังสือ หมายถึง การจัด
หนังสือที่มเนื้อเรื่อง หรือแบบการ
ี
ประพันธ์อย่างเดียวกันไว้ดวยกัน และ
้
ใช้สัญลักษณ์แทนประเภทของ
หนังสือเหล่านั้น เมือห้องสมุดทำาการ
่
จัดหมูหนังสือแล้วจะเขียนสัญลักษณ์
่
แทนประเภทของหนังสือไว้ที่สน ั
หนังสือ สัญลักษณ์ ก็คอเลขหมู่
ื
หนังสือ หนังสือทีอยู่ในสาขาวิชา
่
- 27. ประโยชน์ของการจัดหมู่
หนังสือ
1. ผู้ใช้หองสมุดหรือสื่อสารสนเทศและเจ้าหน้าที่
้
ห้องสมุด สามารถค้นหาข้อมูลจากสารสนเทศที่
ต้องการได้ง่ายและประหยัดเวลา
2. หนังสือและสื่อที่มเนือหาวิชาอย่างเดียวกันหรือ
ี ้
คล้ายคลึงกันจะรวมอยู่ในหมวดหมูเดียวกัน ช่วย
่
ให้ผู้ใช้หองสมุดมีโอกาสเลือกหนังสือและสื่อที่มี
้
เนือเรืองตามต้องการได้จากหนังสือหลาย ๆ เล่ม
้ ่
และจากสื่ออืน ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
่
3. หนังสือที่มเนื้อเรืองเกี่ยวเนืองกัน หรือสัมพันธ์กน
ี ่ ่ ั
จะอยู่ใกล้ ๆ กัน ซึ่งจะช่วยให้ ผู้อ่านสามารถหา
หนังสือที่มเรื่องราวเหมือนกันมาประกอบเนื้อหา
ี
ให้สมบูรณ์ยิ่งขึน ้
4. ช่วยให้ทราบว่ามีจำานวนหนังสือในแต่ละหมวด
มากน้อยเท่าใด
5. เมื่อได้หนังสือใหม่หรือสื่อสารสนเทศใหม่เข้ามา
- 28. ลักษณะของระบบจัดหมู่
หนังสือที่ดี
1. การจัดหมูหนังสือโดยการให้เลขหมู่
่
หนังสืออย่างกว้าง ๆ (Broad
Classification) หมายถึง การจัดหมู่
หนังสือโดยเลือกใช้เฉพาะหมวดและหมู่
ใหญ่เท่านั้น รายละเอียดในหมู่ย่อยไม่นำา
มาใช้
2. การจัดหมูหนังสืออย่างละเอียด (Close
่
Classification) หมายถึง การจัดหมู่
หนังสือโดยให้เลขหมู่อย่างละเอียดและ
- 29. ระบบทศนิยมดิวอี้
• การจัดหมู่หนังสือระบบทศนิยมของดิวอี้
(Dewey Decimal Classification)
เรียกย่อ ๆ ว่า “ระบบการจัดหมู่หนังสือดิ
วอี้” หรือระบบ D.D.C. หรือ D.C. เป็น
ระบบที่ใช้ ตัวเลขเป็นสัญลักษณ์แทน
ประเภทหนังสือ เป็นระบบการจัดหมู่
หนังสือที่ เมลวิล ดิวอี้ (Melvil Dewey)
บรรณารักษ์ชาวอเมริกัน เป็นผู้คิดขึนใน
้
ปี ค.ศ. 1873 และเป็นระบบที่ได้รับความ
- 30. ระบบหอสมุดรัฐสภา
อเมริกัน
• ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน (Library of
Congress Classification) เป็นระบบการ
จัดหมู่หนังสือโดยใช้ตัวอักษรผสมกับ
ตัวเลขเป็นสัญลักษณ์ ดรงเฮอร์เบอร์ด พุ
ทนัม บรรณารักษ์หอสมุดรัฐสภาเป็นผู้
คิดค้นขึนในปี ค.ศ. 1899 นิยมใช้ในห้อง
้
สมุดมหาวิทยาลัยและห้องสมุดเฉพาะ
โดยใช้อักษร A-Z หรือ ก-ฮ แทนเนื้อหา
หนังสือ ซึ่งแบ่งออกเป็น 20 หมวดใหญ่
- 32. การจัดหมู่หนังสือด้วย
สัญลักษณ์
• หนังสือบางประเภทผู้อ่านให้ความสนใจใน
ด้านการใช้ภาษา ตลอดจนวิธการดำาเนิน
ี
เรื่องมากกว่าสาระทางวิชาการ ห้องสมุด
จึงใช้อักษรย่อของคำาที่บอกประเภท
หนังสือนั้น ๆ แทนการให้เลขหมู่หนังสือ
แต่ละเล่ม ซึ่งห้องสมุดแต่ละแห่งอาจจะ
ใช้ตัวอักษรย่อแตกต่างกันสำาหรับหนังสือ
ประเภทเดียวกัน เช่น
• น,นว แทน นวนิยาย
• F,FIC แทน Fiction
• ร.ส. แทน รวมเรื่องสั้น
- 33. การใช้เลขเรียกหนังสือ (Call
Number)
• เลขเรียกหนังสือ คือ สัญลักษณ์ที่ห้องสมุด
กำาหนดขึ้นใช้แทนเนื้อหาหนังสือแต่ละเล่ม
เพือบอกที่อยู่ของหนังสือ จะปรากฏที่สัน
่
หนังสือเป็นสำาคัญ เลขเรียกหนังสือประกอบ
ด้วย เลขหมู่หนังสืออักษรตัวแรก ของชือผู้
่
แต่งสำาหรับหนังสือภาษาไทย และอักษรตัว
แรกของชือสกุลสำาหรับผู้แต่งในภาษาต่าง
่
ประเทศ เลขผู้แต่ง และอักษรตัวแรกของชือ ่
หนังสือ นอกจากนีอาจปรากฏ อักษร ฉ.1, ฉ.
้
2... หรือ C.1, C.2 ... ถ้าหนังสือนันมีหลาย
้
- 34. การใช้อักษรประกอบเลข
หมู่
• อักษรประกอบเลขหมูจะใช้เติมเหนือ
่
เลขหมู่ หรือเลขเรียกหนังสือเพื่อ
บอกให้ทราบประเภทของหนังสือ เช่น
หนังสืออ้างอิง หนังสือแบบเรียน
เป็นต้น อักษรที่ใช้ประกอบเลขหมู่มี
ดังนี้ คือ
• หนังสืออ้างอิง ใช้ อ สำาหรับหนังสือ
ไทย
- 37. การจัดเรียงและการให้บริการ
หนังสือพิมพ์ วารสาร
• ห้องสมุดจะทำา หนังสือพิมพ์ ใส่ไม้หนีบและวางไว้บน
ที่วางหนังสือพิมพ์โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับจะ
บริการให้อ่าน 2 วัน จากนั้นจะเก็บไว้ตางหาก ถ้าผูอ่าน
่ ้
ต้องการจะค้นหาข้อมูลย้อนหลังก็สามารถยืมพิเศษจาก
เจ้าหน้าที่ได้
• วารสาร ห้องสมุดจะมีชั้นเรียงสำาหรับวางวารสาร
โดยเฉพาะ การจัดวางวารสารเข้าชันจะจัดตามลำาดับตัว
้
อักษรชือวารสารจากซ้ายไปขวา เช่นเดียวกับการจัด
่
หนังสือวารสารเล่มปัจจุบันจะวางอยูบนชันเอียง ส่วน
่ ้
ฉบับล่วงเวลา 1 ฉบับแล้ว อยู่บนชันตรง ซึงอยู่ใต้
้ ่
วารสาร นั้น ๆ ส่วนบนชันวารสารจะมีป้ายกำากับชื่อ
้
วารสารไว้ให้สังเกตง่ายอีกด้วย
• ส่วนฉบับที่ล่วงมาแล้ว เมื่อเกิน 2 อาทิตย์ จะนำาไป
เก็บไว้ที่เก็บวารสาร ซึงแยกตามฉบับที่ ปีที่ บางเล่มก็
่
- 38. การจัดเรียงและการให้บริการ
หนังสืออ้างอิง
• การจัดเรียงและการให้บริการหนังสืออ้างอิง
• หนังสืออ้างอิงหรือหนังสืออุเทศ ห้องสมุดจะ
จัดแยกไว้ต่างหากจากหนังสือทั่วไป อาจแยก
ชันหรือแยกห้องไว้โดยเฉพาะ เพราะเป็น
้
หนังสือที่ไม่ให้ยืมออกจากห้องสมุด จะสังเกต
ง่ายเพราะจะมีอักษรย่อ “อ” หรือ “R” หรือ
“Ref” ที่สันหนังสือ การเรียงหนังสืออ้างอิง ก็
จัดเรียงลำาดับเช่นเดียวกันกับหนังสือทั่วไป
- 39. การจัดเก็บและการให้
บริการจุลสาร
• ลงทะเบียนเฉพาะจุลสารที่ได้รบแจก หรือแลกเปลี่ยน
ั
จำานวนทั้งหมดกี่เล่ม
• ใช้ตราห้องสมุดประทับลงบนหน้าปก หน้าชื่อเรื่อง และ
หน้าอื่น ๆ ซึ่งทางห้องสมุดกำาหนดเช่นดียวกับหนังสือ
• ระบุหัวเรื่องโดยพิจารณาจากเนื้อเรื่องของจุลสารเช่น
เดียวกับการให้หัวเรื่องหนังสือเขียนไว้ส่วนตั้ง ส่วนยื่น
ของแฟ้มหรือหัวแฟ้ม
• จัดเก็บไว้ในแฟ้มตามหัวเรื่อง แล้วจัดเรียงตามลำาดับตาม
อักษรของหัวเรืองไว้ในตู้เก็บจุลสาร
่
• จัดทำาบัตรรายการ เพื่อให้ผู้ใช้บริการห้องสมุดค้นหาเรื่อง
ที่ต้องการได้โดยสะดวก
• เมือต้องการจะค้นคว้าเรื่องใดก็ไปเปิดดูที่ตู้บัตรรายการ
่
บัตรหัวเรื่อง ถ้ามีเรื่องที่ต้องการจะบอกให้ดูเพิ่มเติมที่
จุลสาร ผู้ใช้ก็ไปเปิดตู้จลสารตามลำาดับอักษร เมื่อพบแฟ้ม
ุ
หัวเรื่อง นั้นให้ยกออกมาทั้งแฟ้มเปิดดูตามต้องการ เสร็จ
- 40. การจัดทำากฤตภาค
• สิงพิมพ์ที่เอามาตัดทำากฤตภาค คือ
่
หนังสือพิมพ์ฉบับที่ล่วงไปแล้วอย่างน้อย 7 วัน
วารสารหรือนิตยาสารเก่า ๆ ที่ชำารุดแล้ว หรือ
นิตยสารที่ไม่มีคุณค่าควรเย็บเล่ม แต่บางเรื่อง
ดีมีคณค่าหาจากที่อื่นไม่ได้ หรือสิงพิมพ์อื่น ๆ
ุ ่
ที่สามารถตัดทำาเป็นกฤตภาคได้ คุณค่าของ ก
ฤตภาคอยู่ที่ผู้จัดทำามีวิจารณญาณในการคัด
เลือกข่าวต่าง ๆ
- 41. บทที่ 5
เครื่องมือและวิธีการใช้
เครืองมือ
่
ในการค้นข้อมูลสารสนเทศ
- 42. การสืบค้นสารสนเทศ
• การสื บ ค้ น สารสนเทศ
(Information Retrieval) หมายถึง
วิธการเข้าถึงสารสนเทศ (Information
ี
Access) เพือให้ได้มาซึ่งสารสนเทศที่
่
ตรงกับความต้องการ โดยใช้เครื่องมือ
ช่วยค้นที่แหล่งสารสนเทศจัดทำาขึ้น
- 48. ระบบการทำางานของ
อินเทอร์เน็ต
• ระบบอิ น เทอร์ เ น็ ต จะทำ า งานส่ ง และรั บ ข้ อ มู ล
จากคอมพิ ว เตอร์ เ ครื ่ อ งอื ่ น ๆ ในลั ก ษณะชิ ้ น
ส่ ว นขนาดเล็ ก หลาย ๆ กลุ ่ ม เรี ย กว่ า แพ็ ก
เกจ (Packets) แต่ ล ะแพ็ ก เกจจะมี ท ี ่ อ ยู ่ ข องผู ้
ส่ ง และผู ้ ร ั บ ขนาดสู ง สุ ด ของแพ็ ก เกจจะ
เปลี ่ ย นไปตามเครื อ ข่ า ย แต่ โ ดยปกติ จ ะ
อนุ ญ าตให้ ม ี ข นาดระหว่ า ง 200 - 2,000
Octets (1 Octet บน Internet คื อ 1 Bite
หรื อ 1 ตั ว อั ก ษร) ขนาดทั ่ ว ไป ที ่ ใ ช้ ก ั น อยู ่
คื อ 1,536 Octets ข้ อ มู ล ใดที ่ ม ี ข นาดใหญ่
กว่ า 1 แพ็ ก เกจ จะต้ อ งแยกส่ ง ไปเป็ น หลาย
แพ็ ก เกจ ข้ อ มู ล จะถู ก ส่ ง ไปหลายเส้ น ทางผ่ า น
- 49. วิธีการเข้าสู่ระบบ
อินเทอร์เน็ต
• วิ ธ ี ก ารพื ้ น ฐานที ่ ผ ู ้ ใ ช้ จ ะเข้ า สู ่ Internet มี 2
ทาง คื อ การเข้ า สู ่ Internet โดยตรง
(Direct Access) และการเข้ า สู ่ Internet
โดยผ่ า นอุ ป กรณ์ แ ปลงสั ญ ญาณต่ อ เชื ่ อ ม
ระหว่ า งสายโทรศั พ ท์ ก ั บ เครื ่ อ งคอมพิ ว เตอร์
ของผู ้ ใ ช้ ท ี ่ เ รี ย กว่ า โมเด็ ม (Modem)
• การเข้ า สู ่ Internet โดยตรง ผู ้ ใ ช้ จ ะเข้ า ได้
เร็ ว กว่ า วิ ธ ี ก ารใช้ โ มเด็ ม และการเข้ า ถึ ง
Internet ด้ ว ยวิ ธ ี น ี ้ จ ะทำ า ให้ ผ ู ้ ใ ช้ ส ามารถ
เรี ย กดู ข ้ อ มู ล ที ่ เ ป็ น กราฟฟิ ก ซึ ่ ง มี ท ั ้ ง
ข้ อ ความ เสี ย ง ภาพ ภาพและข้ อ ความ
เคลื ่ อ นไหวได้ ร วดเร็ ว มาก ด้ ว ยวิ ธ ี น ี ้ ผ ู ้ ใ ช้
- 50. บริการบนอินเทอร์เน็ต
• ไปรษณี ย ์ อ ิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ (E-Mail)
• สนทนาแบบออนไลน์
• “กระดานข่ า ว” หรื อ บู เ ลติ น บอร์ ด บนเครื อ
ข่ า ยอิ น เทอร์ เ น็ ต
• Ftp (File Transfer Protocol) บริ ก ารโอนย้ า ย
ไฟล์ ข ้ อ มู ล หรื อ ไฟล์ โ ปรแกรมต่ า ง ๆ
• Telnet
• Archie
• Gopher
• Hytelnet
• WAIS (Wide Area Information Service)
• บริ ก ารความสะดวกอื ่ น ๆ
- 51. การสืบค้นข้อมูลจาก
อินเทอร์เน็ต
• WWW เป็ น การทำ า งานของเครื ่ อ ง
คอมพิ ว เตอร์ ใ นลั ก ษณะที ่ เ ชื ่ อ มโยงกั น
ผู ้ ท ี ่ ท ำ า ให้ Internet เป็ น ที ่ ร ู ้ จ ั ก กั น แพร่
หลาย คื อ Dr.Tim Berners-Lee โดย
ในปี ค.ศ.1990 ขณะที ่ เ ขา เป็ น นั ก
ฟิ ส ิ ก ส์ อ ยู ่ ท ี ่ ห ้ อ งปฏิ บ ั ต ิ ก ารอนุ ภ าค
ฟิ ส ิ ก ส์ ณ กรุ ง เจนี ว า ประเทศ
สวิ ส เซอร์ แ ลนด์ เขามี ค วามคิ ด ว่ า งาน
ของเขาจะง่ า ยขึ ้ น ถ้ า เขาและเพื ่ อ นร่ ว ม
งานสามารถเชื ่ อ มโยงเครื ่ อ ง
คอมพิ ว เตอร์ แ ต่ ล ะเครื ่ อ งเข้ า ด้ ว ยกั น
- 52. การเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ต
เวิลด์ไวด์เว็บ
• เชื่อมต่อกับโฮสต์ โดยใช้มาตรฐาน
TCP/IP หรือเชื่อมต่อกับ ISP ด้วย
โปรโตคอล PPP (Point-to-Point
Protocol)
• สมัครเข้าเป็นสมาชิก ISP หรือ
สถานศึกษาของตนเองในกรณีที่เป็น
นักศึกษา ซึงจะได้ชื่อผู้ใช้ (User
่
Account) และรหัสผ่าน (Passwor
- 53. การเชื่อมต่อไปยังผูให้บริการ
้
อินเทอร์เน็ต
• เครื ่ อ งมื อ ในการค้ น ข้ อ มู ล บน WWW.
(Browser Programs)
• โปรแกรม Internet Explorer
• การใช้ เ มนู ต ่ า งๆ ในโปรแกรม
Internet Explorer
- 54. การค้นหาข้อมูลในเวิลด์
ไวด์เว็บ
• Search Engine เป็นเว็บไซต์ค้นหา
ข้อมูลที่ใช้โปรแกรมอัตโนมัติรวบรวม
ข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ต่าง ๆ โดย
ละเอียด เหมาะกับการหาข้อมูลแบบ
เฉพาะเจาะจง Search Engine ที่ได้รับ
ความนิยม คือ Google, Catcha และ
Sanook
• Search Directories เป็นเว็บไซต์ค้นหา
ข้อมูลโดยจัดเป็นหมวดหมู่ทเหมาะสม
ี่
แต่ปริมาณข้อมูลอาจไม่ครอบคลุมทุก
- 57. เทคนิคการสืบค้นสารสนเทศ
บน WWW
1. การตั ้ ง หรื อ กำ า หนดคำ า ถามและขอบเขตของ
คำ า ถามนั ้ น
2. การจำ า แนกแนวคิ ด ในคำ า ถามนั ้ น ๆ
3. การกำ า หนดคำ า ค้ น หรื อ การแปลคำ า ถามที ่ ต ้ อ งการ
สื บ ค้ น ออกมาเป็ น คำ า ค้ น ให้ ถ ู ก ต้ อ ง
4. การเชื ่ อ มคำ า
5. การเลื อ กใช้
6. ทำ า การสื บ ค้ น และประเมิ น ผลข้ อ มู ล ที ่ ไ ด้ ร ั บ ปกติ
ผลจะให้ แ ตกต่ า งกั น ไป แต่ ค วร
ตรวจสอบไม่ เ กิ น 50 อั น ดั บ แรกที ่ ส ่ ง มาให้ อาจ
- 58. แหล่งสารสนเทศในการสืบค้นด้วยระบบ
โอแพค (OPAC)
1. การสื บ ค้ น ทรั พ ยากรสารสนเทศของ
ห้ อ งสมุ ด มหาวิ ท ยาลั ย เกษตรศาสตร์
2. การสื บ ค้ น ทรั พ ยากรสารสนเทศ ของ
สถาบั น วิ ท ยบริ ก ารจุ ฬ าลงกรณ์
มหาวิ ท ยาลั ย ด้ ว ย Web OPAC
3. ระบบสื บ ค้ น สารสนเทศของสำ า นั ก หอ
สมุ ด กลางมหาวิ ท ยาลั ย
ศรี น คริ น ทรวิ โ รฒประสานมิ ต ร
- 60. พัฒนาการของสารสนเทศ
• คลื ่ น ยุ ค ที ่ 1 ยุ ค ปฏิ ว ั ต ิ ท าง
เกษตรกรรม
• คลื ่ น ยุ ค ที ่ 2 ยุ ค ปฏิ ว ั ต ิ ท าง
อุ ต สาหกรรม
• คลื ่ น ยุ ค ที ่ 3 ยุ ค เทคโนโลยี ร ะดั บ
สู ง
- 61. พัฒนาการของงาน
สารสนเทศ
• จากพั ฒ นาการในการใช้ ส ื ่ อ สารสนเทศประเภท
สิ ่ ง พิ ม พ์ ที ่ ท ำ า ให้ ป ริ ม าณของสิ ่ ง พิ ม พ์ มี
จำ า นวนมาก จึ ง ทำ า ให้ เ กิ ด สถาบั น ส่ ง เสริ ม การ
ศึ ก ษาค้ น คว้ า ซึ ่ ง เป็ น จุ ด กำ า เนิ ด ของวิ ช า
สารนิ เ ทศศาสตร์ (Information Science) ใน
ปี ค.ศ. 1895 พอล ออทเล็ ท (Paul Otlet) และ
เฮ็ น รี ลา ฟองเทน (Henri La Fontain) ได้
ก่ อ ตั ้ ง สถาบั น บรรณานุ ก รมระหว่ า งประเทศ
(Institute International de Bibliographie)
ในกรุ ง บรั ส เซล ประเทศเบลเยี ่ ย ม ซึ ่ ง เป็ น
สถาบั น ที ่ ผ ลิ ต สิ ่ ง พิ ม พ์ “ บรรณานุ ก รมสำ า หรั บ
ค้ น สารสนเทศวิ ท ยาศาสตร์ แ ละเทคโนโลยี ”
ขึ ้ น มาเป็ น เล่ ม แรกในปี ค.ศ. 1904 นั บ ว่ า เป็ น
- 62. การจัดการกับสารสนเทศ
มากเกินไป
• ปั จ จุ บ ั น ผู ้ บ ริ ห ารต่ า งยอมรั บ ว่ า สารสนเทศ เป็ น
ทรั พ ยากรที ่ ส ำ า คั ญ อย่ า งหนึ ่ ง ที ่ ม ี ต ่ อ การบริ ห ารจั ด การ
ของหน่ ว ยงาน จนกลายเป็ น “ ทรั พ ยากรสำ า คั ญ อั น ดั บ สี ่
ขององค์ ก ร ” ต่ อ จาก Man, Machine และ Money ผู ้
บริ ห ารจะต้ อ งคอยฟั ง ข่ า วสารอยู ่ ต ลอดเวลา เพื ่ อ สแกน
ข่ า วหาเรื ่ อ งที ่ น ่ า สนใจจากหนั ง สื อ พิ ม พ์ รั บ ฟั ง ข่ า วทาง
วิ ท ยุ อ่ า นรายงานที ่ ม ี ผ ู ้ จ ั ด เตรี ย มเสนอให้ ต ั ด สิ น ใจ รวม
ทั ้ ง พบปะกั บ ผู ้ บ ริ ห ารระดั บ สู ง อื ่ น ๆ เพื ่ อ ให้ ข ้ อ มู ล
ข่ า วสาร การเปิ ด คอมพิ ว เตอร์ ด ู จ ดหมายอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์
ถ้ า ผู ้ บ ริ ห ารเหล่ า นี ้ ไ ม่ ไ ด้ ร ั บ สารสนเทศที ่ จ ำ า เป็ น อย่ า งพอ
เพี ย งแล้ ว จะไม่ ส ามารถบริ ห ารจั ด การหน่ ว ยงานของตน
ให้ ด ำ า เนิ น ไปได้ อ ย่ า งราบรื ่ น แต่ ป ั จ จุ บ ั น ผู ้ บ ริ ห ารเหล่ า
นี ้ กลั บ ต้ อ งเผชิ ญ กั บ สถานการณ์ ต รงข้ า มจากการ
ไม่ ม ี ส ารสนเทศที ่ จ ะตั ด สิ น ใจ คื อ เขากำ า ลั ง ประสบปั ญ หา
เรื ่ อ งการรั บ สารสนเทศมากเกิ น ไป (Information
Overload) เกิ น ความจำ า เป็ น เขาได้ ร ั บ ข่ า วสารที ่ ไ ม่ เ ป็ น
- 63. สภาพกระแสสารสนเทศ
ท่วมท้น
• ปั ญ หาในการคั ด เลื อ ก
• ปั ญ หาในการจั ด หาวั ส ดุ
สารสนเทศ
• ปั ญ หาเรื ่ อ งสถานที ่ เ ก็ บ
• ปั ญ หาทางการจั ด หมวดหมู ่ แ ละ
การจั ด ทำ า รายการ
• ปั ญ หาทางด้ า นบริ ก าร
• ปั ญ หาทางด้ า นอนุ ร ั ก ษ์ ว ั ส ดุ
สารสนเทศ
•
- 64. อิทธิพลของคอมพิวเตอร์และ
เทคโนโลยีโทรคมนาคม
• คอมพิ ว เตอร์ ไ ด้ เ ข้ า มาช่ ว ยลดการ
ทำ า งานด้ า นเทคนิ ค การค้ น หาข้ อ มู ล ที ่
ซั บ ซ้ อ น
• ด้ า นบุ ค ลากร
• การสร้ า งข่ า ยงานระหว่ า งห้ อ งสมุ ด
• โครงสร้ า งองค์ ก ารและการบริ ห ารงาน
ห้ อ งสมุ ด
• ด้ า นบริ ก ารสารสนเทศห้ อ งสมุ ด
• การสร้ า งกระบวนวิ ช าที ่ เ บี ่ ย งเบนจาก
บรรณารั ก ษศาสตร์ แ บบเดิ ม
- 66. แนวทางใหม่ในการจัดการกับ
สารสนเทศ
• กระบวนการพื ้ น ฐานในการจั ด การ
กั บ สารสนเทศ
• แนวทางใหม่ ส ำ า หรั บ จั ด การกั บ
สารสนเทศท่ ว มท้ น
- 67. การเลือกใช้สอสารสนเทศหรือวัสดุทให้
ื่ ี่
บริการในห้องสมุด
1. สื ่ อ สารสนเทศลายลั ก ษณ์ อ ั ก ษร
2. สารสนเทศไม่ ต ี พ ิ ม พ์
3. วั ส ดุ แ ผนที ่
4. สไลด์
5. ฟิ ล ์ ม สตริ ป
6. ภาพยนตร์
7. วั ส ดุ บ ั น ทึ ก เสี ย งและภาพ
8. ชุ ด การสอน
9. ตู ้ อ ั น ตรทั ศ น์
10.แผ่ น โปร่ ง ใส
11.หุ ่ น จำ า ลอง
12.ของตั ว อย่ า ง
13.สารสนเทศย่ อ ส่ ว น
- 68. สารสนเทศโทรคมนาคม
1. โทรเลข
2. วิ ท ยุ
3. โทรพิ ม พ์
4. โทรศั พ ท์
5. โทรทั ศ น์
6. โทรสารหรื อ โทรภาพ
7. โทรประชุ ม
- 69. สารสนเทศของจริง
• วั ต ถุ (Object)
• ของตั ว อย่ า ง (Specimens)
• ซากสิ ่ ง ต่ า ง ๆ (Remains)
• สิ ่ ง ที ่ ป รากฏชั ด
(Evidences)
• งานศิ ล ปะ (Artefacts)
• บุ ค คล (People)
- 70. ฐานข้อมูล CD-ROM
1. ฐานข้ อ มู ล ERIC
2. ฐานข้ อ มู ล DAO
3. ฐานข้ อ มู ล Library Literature
a Info Science Fulltext
4. ฐานข้ อ มู ล ABI/INFORM
- 72. ความหมายของรายงานและ
การค้นคว้าวิจัย
• รายงาน (Report) คือ ผลสรุปของการ
ค้นคว้าหาข้อมูลสารสนเทศ แล้วทำาการ
รวบรวม สรุปผลออกมาเพื่อนำาเสนอให้ผที่ ู้
เกี่ยวข้อได้รับทราบ ด้วยการทำาเป็นเอกสารที่
ง่ายต่อความเข้าใจ รายงานส่วนใหญ่มักนำา
มาใช้ในทางวิชาการและในทางธุรกิจ
• การค้นคว้าวิจัย หมายถึง การค้นหาข้อเท็จ
จริงอย่างจริงจัง รอบคอบ และมีระบบ เพื่อที่
จะได้ข้อมูลอย่างสมจริงในเรื่องนั้นๆ และนำา
มาวิเคราะห์เพื่อให้เกิดความรู้อย่างสมบูรณ์
- 73. วัตถุประสงค์และลักษณะของ
รายงาน
• เพื ่ อ ฝึ ก ให้ น ั ก ศึ ก ษามี โ อกาสและสามารถ
ศึ ก ษาด้ ว ยตนเอง ซึ ่ ง จะช่ ว ยให้ เ ห็ น แนวทาง
ในการศึ ก ษาวิ ช าการหนึ ่ ง ๆ ได้ ห ลาย
แนวทาง
• เพื ่ อ ให้ น ั ก ศึ ก ษาได้ ศ ึ ก ษาอย่ า งกว้ า งขวาง
และลึ ก ซึ ้ ง ยิ ่ ง ขึ ้ น โดยการศึ ก ษาจากตำ า รา
หลาย ๆ เล่ ม และจากแหล่ ง สารสนเทศต่ า ง
ๆ
• เพื ่ อ ส่ ง เสริ ม ให้ น ั ก ศึ ก ษารู ้ จ ั ก คิ ด อย่ า งมี
ระบบ มี เ หตุ ผ ล รู ้ จ ั ก วางแผน และประเมิ น
ผลที ่ ไ ด้ จ ากข้ อ มู ล ที ่ ค ้ น คว้ า
• เพื ่ อ ส่ ง เสริ ม ให้ น ั ก ศึ ก ษาเกิ ด ความสามารถ
ในการใช้ ภ าษา รวบรวม และเรี ย บเรี ย ง
ความรู ้ ค วามคิ ด อย่ า งเป็ น ระบบ
• เพื ่ อ ส่ ง เสริ ม ให้ น ั ก ศึ ก ษามี ค วามสามั ค คี ใ น
- 74. ลักษณะของรายงานที่ดี
1. ระลึ ก ถึ ง ผู ้ อ ่ า นเป็ น หลั ก โดยรายงานในสิ ่ ง ที ่
ผู ้ ร ั บ รายงานต้ อ งการหรื อ ควรทราบ
2. ควรเขี ย นตรงเป้ า หมายหรื อ หั ว เรื ่ อ งข้ อ เรื ่ อ ง
3. มี เ นื ้ อ หาสาระดี น่ า สนใจ ไม่ ก ล่ า วสิ ่ ง ที ่ เ กิ น
ความจริ ง
4. ข้ อ ความกะทั ด รั ด ไม่ ก ำ า กวม
5. รายละเอี ย ดสำ า คั ญ แจ่ ม แจ้ ง
6. มี ล ั ก ษณะจู ง ใจให้ ต ิ ด ตามอ่ า น
7. ประหยั ด เวลาผู ้ อ ่ า น โดยใช้ ภ าษาที ่ เ ข้ า ใจ
ง่ า ย ตรงไปตรงมา
- 75. วัตถุประสงค์และประโยชน์ของ
การค้นคว้าวิจัย
• เพื ่ อ ให้ เ กิ ด ความรู ้ ใ หม่ ๆ หรื อ เกิ ด
ความเข้ า ใจอย่ า งสมบู ร ณ์ ใ นเรื ่ อ งนั ้ น
ๆ
• เพื ่ อ ให้ ม ี พ ั ฒ นาการทางวิ ช าการใน
ด้ า นนั ้ น ๆ
• เพื ่ อ นำ า ผลการวิ จ ั ย มาใช้ แ ก้ ป ั ญ หา
หรื อ ปรั บ ปรุ ง งานนั ้ น ๆ
• เพื ่ อ ใช้ ผ ลการวิ จ ั ย เป็ น แนวทางในการ
วางแผนงานที ่ ร ิ เ ริ ่ ม ขึ ้ น ใหม่ หรื อ
- 77. ประเภทของรายงานทาง
ธุรกิจ
1. รายงานแบบธรรมดา (Routine
Report or Regular Report) คือ
รายงานที่ทำาตามเวลาที่กำาหนดไว้โดย
สมำ่าเสมอ เช่น รายชั่วโมง รายวัน ราย
สัปดาห์ รายเดือน หรือรายปี เช่น รายงาน
การปฏิบัติงานของฝ่ายสินเชือ ่ รายงาน
ประจำาปีของบริษัทหรือธนาคาร เป็นต้น
2. รายงานแบบพิ เ ศษ (Special Report)
เป็นรายงานที่จัดทำาเป็นครั้งคราวตามความ
ต้องการและความจำาเป็น วัตถุประสงค์เพื่อ
- 79. ขั้นตอนการเขียนรายงาน
1. การเลื อ กหั ว เรื ่ อ งที ่ จ ะทำ า รายงาน
2.
รู ้ จ ั ก แหล่ ง ในการค้ น คว้ า และการรวบ
3.
อ่ า นข้ อ มู ล ของเนื ้ อ หารายงานที ่ จ ะเข
4. การทำ า โครงเรื ่ อ ง
5. การบั น ทึ ก ข้ อ มู ล จากเอกสาร
อ้ า งอิ ง
6. การเรี ย บเรี ย งเนื ้ อ เรื ่ อ งรายงาน
- 80. รูปแบบของรายงานทาง
วิชาการ
1. ส่ ว นประกอบตอนต้ น หรื อ ส่ ว น
หน้ า
2. ส่ ว นประกอบตอนกลางหรื อ ส่ ว น
เนื ้ อ เรื ่ อ ง
3. ส่ ว นประกอบตอนท้ า ยหรื อ ส่ ว น
อ้ า งอิ ง
- 82. วิธีการเขียนบรรณานุกรม
1. บรรณานุ ก รมของหนั ง สื อ
2. บรรณานุ ก รมบทความในหนั ง สื อ ภาษาไทย
3. บรรณานุ ก รมหนั ง สื อ พิ ม พ์
4. บรรณานุ ก รมของสารานุ ก รม
5. บรรณานุ ก รมบทวิ จ ารณ์ ห นั ง สื อ ในวารสาร
6. บรรณานุ ก รมวิ ท ยานิ พ นธ์
7. บรรณานุ ก รมของการสั ม ภาษณ์
8. บรรณานุ ก รมของเอกสารแปล
9. บรรณานุ ก รมจากกฎหมายที ่ ป ระกาศใน
ราชกิ จ จานุ เ บกษา
10. บรรณานุ ก รมจากโสตทั ศ นวั ส ดุ
11. บรรณานุ ก รมจากรายการวิ ท ยุ โ ทรทั ศ น์
12. บรรณานุ ก รมจากสื ่ อ อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์