Suche senden
Hochladen
คู่มือพระวิทยากร
•
3 gefällt mir
•
4,803 views
niralai
Folgen
คู่มือพระวิทยากร
Weniger lesen
Mehr lesen
Bildung
Melden
Teilen
Melden
Teilen
1 von 27
Jetzt herunterladen
Downloaden Sie, um offline zu lesen
Empfohlen
พิธีมอบตัวเป็นศิษย์
พิธีมอบตัวเป็นศิษย์
niralai
บทบรรยายพระคุณแม่
บทบรรยายพระคุณแม่
niralai
บทบรรยายรายการขอขมาบูชาครู2
บทบรรยายรายการขอขมาบูชาครู2
niralai
บทกลอนแด่แม่
บทกลอนแด่แม่
niralai
บทสรภัญญะบูชาพระคุณบิดามารดา
บทสรภัญญะบูชาพระคุณบิดามารดา
niralai
พิธีอธิษฐานจิตเพื่อเพื่อชีวิตใหม่
พิธีอธิษฐานจิตเพื่อเพื่อชีวิตใหม่
niralai
รวมบทกลอนสำหรับงานค่าย2
รวมบทกลอนสำหรับงานค่าย2
niralai
คำปฎิญาณพิธีจุดเทียนปัญญา2
คำปฎิญาณพิธีจุดเทียนปัญญา2
niralai
Empfohlen
พิธีมอบตัวเป็นศิษย์
พิธีมอบตัวเป็นศิษย์
niralai
บทบรรยายพระคุณแม่
บทบรรยายพระคุณแม่
niralai
บทบรรยายรายการขอขมาบูชาครู2
บทบรรยายรายการขอขมาบูชาครู2
niralai
บทกลอนแด่แม่
บทกลอนแด่แม่
niralai
บทสรภัญญะบูชาพระคุณบิดามารดา
บทสรภัญญะบูชาพระคุณบิดามารดา
niralai
พิธีอธิษฐานจิตเพื่อเพื่อชีวิตใหม่
พิธีอธิษฐานจิตเพื่อเพื่อชีวิตใหม่
niralai
รวมบทกลอนสำหรับงานค่าย2
รวมบทกลอนสำหรับงานค่าย2
niralai
คำปฎิญาณพิธีจุดเทียนปัญญา2
คำปฎิญาณพิธีจุดเทียนปัญญา2
niralai
คู่มือวิทยากรโครงการอบรมคุณธรรม ค่ายพุทธบุตร
คู่มือวิทยากรโครงการอบรมคุณธรรม ค่ายพุทธบุตร
niralai
มาลาบูชาครู
มาลาบูชาครู
niralai
บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่2(วรเชษฐ์ )
บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่2(วรเชษฐ์ )
niralai
พิธีปิดค่ายจริยธรรม
พิธีปิดค่ายจริยธรรม
niralai
คู่มือพระวิทยากรค่ายคุณธรรม ฉบับสมบูรณ์
คู่มือพระวิทยากรค่ายคุณธรรม ฉบับสมบูรณ์
niralai
พิธีจุดเทียนแด่แม่ร่วมกับจุดเทียนปัญญา
พิธีจุดเทียนแด่แม่ร่วมกับจุดเทียนปัญญา
niralai
ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์
Padvee Academy
บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่3
บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่3
niralai
แหล่ลา
แหล่ลา
Tongsamut vorasan
บทบรรยายรายการขอขมาบูชาครู5
บทบรรยายรายการขอขมาบูชาครู5
niralai
บทบรรยายรายการขอขมาบูชาครู3
บทบรรยายรายการขอขมาบูชาครู3
niralai
คำกลอนสอนศิษย์
คำกลอนสอนศิษย์
PomPam Comsci
บทกลอนเกี่ยวกับครู
บทกลอนเกี่ยวกับครู
niralai
คำกล่าวเปิดค่ายจริยธรรม
คำกล่าวเปิดค่ายจริยธรรม
niralai
คำขอขมาพระอาจารย์และครูอาจารย์
คำขอขมาพระอาจารย์และครูอาจารย์
niralai
กลอนครูและคำคม
กลอนครูและคำคม
niralai
คำปฎิญาณพิธีจุดเทียนอุดมการณ์
คำปฎิญาณพิธีจุดเทียนอุดมการณ์
niralai
คำคมคารมธรรม
คำคมคารมธรรม
niralai
คู่มือค่ายพุทธบุตรอุ่นใจธรรม
คู่มือค่ายพุทธบุตรอุ่นใจธรรม
niralai
พระเวสสันดร กัณฑ์มัทรี 30 35
พระเวสสันดร กัณฑ์มัทรี 30 35
Milky' __
คู่มือโฆษกเสียงทอง
คู่มือโฆษกเสียงทอง
niralai
ข้อคิด...สะกิดใจ
ข้อคิด...สะกิดใจ
Na Tak
Weitere ähnliche Inhalte
Was ist angesagt?
คู่มือวิทยากรโครงการอบรมคุณธรรม ค่ายพุทธบุตร
คู่มือวิทยากรโครงการอบรมคุณธรรม ค่ายพุทธบุตร
niralai
มาลาบูชาครู
มาลาบูชาครู
niralai
บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่2(วรเชษฐ์ )
บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่2(วรเชษฐ์ )
niralai
พิธีปิดค่ายจริยธรรม
พิธีปิดค่ายจริยธรรม
niralai
คู่มือพระวิทยากรค่ายคุณธรรม ฉบับสมบูรณ์
คู่มือพระวิทยากรค่ายคุณธรรม ฉบับสมบูรณ์
niralai
พิธีจุดเทียนแด่แม่ร่วมกับจุดเทียนปัญญา
พิธีจุดเทียนแด่แม่ร่วมกับจุดเทียนปัญญา
niralai
ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์
Padvee Academy
บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่3
บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่3
niralai
แหล่ลา
แหล่ลา
Tongsamut vorasan
บทบรรยายรายการขอขมาบูชาครู5
บทบรรยายรายการขอขมาบูชาครู5
niralai
บทบรรยายรายการขอขมาบูชาครู3
บทบรรยายรายการขอขมาบูชาครู3
niralai
คำกลอนสอนศิษย์
คำกลอนสอนศิษย์
PomPam Comsci
บทกลอนเกี่ยวกับครู
บทกลอนเกี่ยวกับครู
niralai
คำกล่าวเปิดค่ายจริยธรรม
คำกล่าวเปิดค่ายจริยธรรม
niralai
คำขอขมาพระอาจารย์และครูอาจารย์
คำขอขมาพระอาจารย์และครูอาจารย์
niralai
กลอนครูและคำคม
กลอนครูและคำคม
niralai
คำปฎิญาณพิธีจุดเทียนอุดมการณ์
คำปฎิญาณพิธีจุดเทียนอุดมการณ์
niralai
คำคมคารมธรรม
คำคมคารมธรรม
niralai
คู่มือค่ายพุทธบุตรอุ่นใจธรรม
คู่มือค่ายพุทธบุตรอุ่นใจธรรม
niralai
พระเวสสันดร กัณฑ์มัทรี 30 35
พระเวสสันดร กัณฑ์มัทรี 30 35
Milky' __
Was ist angesagt?
(20)
คู่มือวิทยากรโครงการอบรมคุณธรรม ค่ายพุทธบุตร
คู่มือวิทยากรโครงการอบรมคุณธรรม ค่ายพุทธบุตร
มาลาบูชาครู
มาลาบูชาครู
บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่2(วรเชษฐ์ )
บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่2(วรเชษฐ์ )
พิธีปิดค่ายจริยธรรม
พิธีปิดค่ายจริยธรรม
คู่มือพระวิทยากรค่ายคุณธรรม ฉบับสมบูรณ์
คู่มือพระวิทยากรค่ายคุณธรรม ฉบับสมบูรณ์
พิธีจุดเทียนแด่แม่ร่วมกับจุดเทียนปัญญา
พิธีจุดเทียนแด่แม่ร่วมกับจุดเทียนปัญญา
ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์
บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่3
บทยรรยายแสงเทียนแด่แม่3
แหล่ลา
แหล่ลา
บทบรรยายรายการขอขมาบูชาครู5
บทบรรยายรายการขอขมาบูชาครู5
บทบรรยายรายการขอขมาบูชาครู3
บทบรรยายรายการขอขมาบูชาครู3
คำกลอนสอนศิษย์
คำกลอนสอนศิษย์
บทกลอนเกี่ยวกับครู
บทกลอนเกี่ยวกับครู
คำกล่าวเปิดค่ายจริยธรรม
คำกล่าวเปิดค่ายจริยธรรม
คำขอขมาพระอาจารย์และครูอาจารย์
คำขอขมาพระอาจารย์และครูอาจารย์
กลอนครูและคำคม
กลอนครูและคำคม
คำปฎิญาณพิธีจุดเทียนอุดมการณ์
คำปฎิญาณพิธีจุดเทียนอุดมการณ์
คำคมคารมธรรม
คำคมคารมธรรม
คู่มือค่ายพุทธบุตรอุ่นใจธรรม
คู่มือค่ายพุทธบุตรอุ่นใจธรรม
พระเวสสันดร กัณฑ์มัทรี 30 35
พระเวสสันดร กัณฑ์มัทรี 30 35
Andere mochten auch
คู่มือโฆษกเสียงทอง
คู่มือโฆษกเสียงทอง
niralai
ข้อคิด...สะกิดใจ
ข้อคิด...สะกิดใจ
Na Tak
บทพิจารณาอาหาร
บทพิจารณาอาหาร
niralai
หนังสือแจ้งการประชุมฯสมัยสามัญ ๕๔
หนังสือแจ้งการประชุมฯสมัยสามัญ ๕๔
หนุ่มน้อย ดาร์จีลิ่ง
สรุปการประชุมสัมมนาพระธรรมทูตสายต่างประเทศอินเดีย ๒๕๕๔
สรุปการประชุมสัมมนาพระธรรมทูตสายต่างประเทศอินเดีย ๒๕๕๔
หนุ่มน้อย ดาร์จีลิ่ง
หนังสือเชิญ สัมมนา
หนังสือเชิญ สัมมนา
Bundit Umaharakham
คำขอขมากรรมและอธิษฐานจิต
คำขอขมากรรมและอธิษฐานจิต
Wave RedCyber
บทบรรยายอำลาเพื่อน
บทบรรยายอำลาเพื่อน
niralai
ธัมมะฐิตะกะถา (เทศน์ทำบุญอุทิศให้ยายยาน มาลีหวล)
ธัมมะฐิตะกะถา (เทศน์ทำบุญอุทิศให้ยายยาน มาลีหวล)
Kiat Chaloemkiat
ความหมายของครู
ความหมายของครู
niralai
บทสวดมนตร์จากพระโอษฐ์
บทสวดมนตร์จากพระโอษฐ์
niralai
กำเนิดจักรวาล
กำเนิดจักรวาล
niralai
อาจาระของพระภิกษุสามเณร
อาจาระของพระภิกษุสามเณร
niralai
บทสวดมนต์แปลสามเณรภาคฤดูร้อน
บทสวดมนต์แปลสามเณรภาคฤดูร้อน
niralai
สัญญาใจค่ายจริยธรรม
สัญญาใจค่ายจริยธรรม
niralai
อำลา อาลัย จากใจครู
อำลา อาลัย จากใจครู
นายสมหมาย ฉิมมาลี
คู่มืออบรมยุวพุทธ
คู่มืออบรมยุวพุทธ
niralai
หน้าที่ของเลขานุการ
หน้าที่ของเลขานุการ
niralai
สมุดประจำตัวกิจกรรมเยาวชนภาคฤดูร้อน
สมุดประจำตัวกิจกรรมเยาวชนภาคฤดูร้อน
niralai
Andere mochten auch
(19)
คู่มือโฆษกเสียงทอง
คู่มือโฆษกเสียงทอง
ข้อคิด...สะกิดใจ
ข้อคิด...สะกิดใจ
บทพิจารณาอาหาร
บทพิจารณาอาหาร
หนังสือแจ้งการประชุมฯสมัยสามัญ ๕๔
หนังสือแจ้งการประชุมฯสมัยสามัญ ๕๔
สรุปการประชุมสัมมนาพระธรรมทูตสายต่างประเทศอินเดีย ๒๕๕๔
สรุปการประชุมสัมมนาพระธรรมทูตสายต่างประเทศอินเดีย ๒๕๕๔
หนังสือเชิญ สัมมนา
หนังสือเชิญ สัมมนา
คำขอขมากรรมและอธิษฐานจิต
คำขอขมากรรมและอธิษฐานจิต
บทบรรยายอำลาเพื่อน
บทบรรยายอำลาเพื่อน
ธัมมะฐิตะกะถา (เทศน์ทำบุญอุทิศให้ยายยาน มาลีหวล)
ธัมมะฐิตะกะถา (เทศน์ทำบุญอุทิศให้ยายยาน มาลีหวล)
ความหมายของครู
ความหมายของครู
บทสวดมนตร์จากพระโอษฐ์
บทสวดมนตร์จากพระโอษฐ์
กำเนิดจักรวาล
กำเนิดจักรวาล
อาจาระของพระภิกษุสามเณร
อาจาระของพระภิกษุสามเณร
บทสวดมนต์แปลสามเณรภาคฤดูร้อน
บทสวดมนต์แปลสามเณรภาคฤดูร้อน
สัญญาใจค่ายจริยธรรม
สัญญาใจค่ายจริยธรรม
อำลา อาลัย จากใจครู
อำลา อาลัย จากใจครู
คู่มืออบรมยุวพุทธ
คู่มืออบรมยุวพุทธ
หน้าที่ของเลขานุการ
หน้าที่ของเลขานุการ
สมุดประจำตัวกิจกรรมเยาวชนภาคฤดูร้อน
สมุดประจำตัวกิจกรรมเยาวชนภาคฤดูร้อน
Ähnlich wie คู่มือพระวิทยากร
บทที่ 2วิจัยการอ่าน
บทที่ 2วิจัยการอ่าน
Kanjana Pothinam
พุทธวิธีในการสอน(ศึกษาวิจัยจากพระไตรปิฎก)
พุทธวิธีในการสอน(ศึกษาวิจัยจากพระไตรปิฎก)
niralai
ครูผู้ช่วย ภารกิจ
ครูผู้ช่วย ภารกิจ
She's Kukkik Kanokporn
ระดับครูผู้ช่วย
ระดับครูผู้ช่วย
ณัฐธีรา มะโพธิ์ศรี
ครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วย
Korakob Noi
เทคนิคการสอน
เทคนิคการสอน
kittitach06709
อาชีพครู
อาชีพครู
SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
ระดับครูผู้ช่วย
ระดับครูผู้ช่วย
Vachii Ra
ครูมืออาชีพ
ครูมืออาชีพ
Toystory PuccafunnyLove
ภารกิจระดับครูผู้ช่วย
ภารกิจระดับครูผู้ช่วย
Piyatida Prayoonprom
ครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วย
Piyatida Prayoonprom
ครุผู้ช่วยช่วยTtg
ครุผู้ช่วยช่วยTtg
สุทรรศนีย์ รัตนก้านตง
เบญ
เบญ
ben_za
ภารกิจครูมือใหม่
ภารกิจครูมือใหม่
Beeby Bicky
ฟ้า
ฟ้า
fa_o
อาม
อาม
arm_2010
การออกแบบการสอนระดับครูผู้ช่วย
การออกแบบการสอนระดับครูผู้ช่วย
MuBenny Nuamin
ระดับครผู้ช่วย
ระดับครผู้ช่วย
tyehh
Presentation 5
Presentation 5
tyehh
นำเสนอ
นำเสนอ
ซาวาดะ สึนะโยชิคุง
Ähnlich wie คู่มือพระวิทยากร
(20)
บทที่ 2วิจัยการอ่าน
บทที่ 2วิจัยการอ่าน
พุทธวิธีในการสอน(ศึกษาวิจัยจากพระไตรปิฎก)
พุทธวิธีในการสอน(ศึกษาวิจัยจากพระไตรปิฎก)
ครูผู้ช่วย ภารกิจ
ครูผู้ช่วย ภารกิจ
ระดับครูผู้ช่วย
ระดับครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วย
เทคนิคการสอน
เทคนิคการสอน
อาชีพครู
อาชีพครู
ระดับครูผู้ช่วย
ระดับครูผู้ช่วย
ครูมืออาชีพ
ครูมืออาชีพ
ภารกิจระดับครูผู้ช่วย
ภารกิจระดับครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วย
ครุผู้ช่วยช่วยTtg
ครุผู้ช่วยช่วยTtg
เบญ
เบญ
ภารกิจครูมือใหม่
ภารกิจครูมือใหม่
ฟ้า
ฟ้า
อาม
อาม
การออกแบบการสอนระดับครูผู้ช่วย
การออกแบบการสอนระดับครูผู้ช่วย
ระดับครผู้ช่วย
ระดับครผู้ช่วย
Presentation 5
Presentation 5
นำเสนอ
นำเสนอ
Mehr von niralai
334กุศลกรรมบถ10
334กุศลกรรมบถ10
niralai
332วันอาสาฬหบูชา
332วันอาสาฬหบูชา
niralai
331วันเข้าพรรษา
331วันเข้าพรรษา
niralai
338มารยาทไทย
338มารยาทไทย
niralai
337ประวัติพระพุทธศาสนา
337ประวัติพระพุทธศาสนา
niralai
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)
niralai
336เบญจศีล
336เบญจศีล
niralai
340วัฒนธรรมชาวพุทธ
340วัฒนธรรมชาวพุทธ
niralai
339ระวังอย่าให้อาย!
339ระวังอย่าให้อาย!
niralai
345สถานการณ์วัยรุ่นไทย
345สถานการณ์วัยรุ่นไทย
niralai
344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ
344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ
niralai
343ศิลปการพูด
343ศิลปการพูด
niralai
342วิธีสร้างสุข5
342วิธีสร้างสุข5
niralai
341วันออกพรรษา
341วันออกพรรษา
niralai
346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา
346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา
niralai
347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี
347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี
niralai
348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12
348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12
niralai
350สารานิยธรรม6
350สารานิยธรรม6
niralai
349สังคหวัตถุ4
349สังคหวัตถุ4
niralai
351หน้าที่ชาวพุทธ3
351หน้าที่ชาวพุทธ3
niralai
Mehr von niralai
(20)
334กุศลกรรมบถ10
334กุศลกรรมบถ10
332วันอาสาฬหบูชา
332วันอาสาฬหบูชา
331วันเข้าพรรษา
331วันเข้าพรรษา
338มารยาทไทย
338มารยาทไทย
337ประวัติพระพุทธศาสนา
337ประวัติพระพุทธศาสนา
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)
336เบญจศีล
336เบญจศีล
340วัฒนธรรมชาวพุทธ
340วัฒนธรรมชาวพุทธ
339ระวังอย่าให้อาย!
339ระวังอย่าให้อาย!
345สถานการณ์วัยรุ่นไทย
345สถานการณ์วัยรุ่นไทย
344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ
344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ
343ศิลปการพูด
343ศิลปการพูด
342วิธีสร้างสุข5
342วิธีสร้างสุข5
341วันออกพรรษา
341วันออกพรรษา
346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา
346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา
347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี
347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี
348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12
348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12
350สารานิยธรรม6
350สารานิยธรรม6
349สังคหวัตถุ4
349สังคหวัตถุ4
351หน้าที่ชาวพุทธ3
351หน้าที่ชาวพุทธ3
คู่มือพระวิทยากร
1.
2.
บทที่ ๑
บทบาทและเทคนิคการเปนวิทยากร ็ การเป็ นวิทยากรนันใคร ๆ ก็เป็ นได ้ แต่การเป็ นวิทยากรทีดคงไม่ง่ายอย่างทีคดกัน เพราะการทาหน ้าทีวทยากร ้ ่ ี ่ ิ ่ ิ ่ มีความจาเป็ นต ้องอาศัยการพูดหรือการสือสารเป็ นอย่างมาก ถ ้าไม่ได ้รับการฝึ กฝนอบรมเป็ นอย่างดีก็คงจะทา หน ้าทีวทยากรได ้ไม่สาเร็จหรือสาเร็จได ้ก็ไม่ดเปรียบไปแล ้วการพูดก็เหมือนการว่ายน้ า ถ ้ามัวแต่อานหรือท่องตารา ่ ิ ี ่ ่ ึ โดยไม่ลงน้ าหรือกระโดดลงน้ าเสียบ ้างก็ไม่อาจจะว่ายน้ าเป็ นได ้เลย ผู ้ทีศกษา หลักการ ทฤษฎี วิชาว่ายน้ าเพียงแต่ ่ ่ ึ อ่านตาราก็คงจะจมน้ าตายเมือต ้องลงสระเสมือนผู ้ทีศรัทธาวิชาการพูด เพียงแต่ศกษาทฤษฎีก็อาจตกม ้าตายเมือ ่ ขึนเวที ้ ดังนัน การเป็ นวิทยากรทีดและมีประสิทธิภาพนัน จะต ้องเป็ นผู ้มีความรู ้ความสามารถ ทักษะ เทคนิคต่าง ๆ ใน ้ ่ ี ้ ่ หลาย ๆ ด ้าน เช่นการพูด การสือสาร การจัดกิจกรรม ฯลฯ ตลอดจนจะต ้องเป็ นผู ้มีคณลักษณะทีจาเป็ นอีกมากมาย ุ ่ ่ ซึงจะได ้นาเสนอต่อไป วิทยกรคือใคร วิทยากร คือ ผู ้ทีทาหน ้าทีเป็ นตัวการสาคัญ ทีจะทาให ้ผู ้เข ้ารับการอบรม เกิดความรู ้ความเข ้าใจ เกิดทักษะ ่ ่ ่ เกิดทัศนคติทดเกียวกับเรืองทีอบรม จนกระทังผู ้เข ้ารับการอบรมเกิดการเรียนรู ้และสามารถจุดประกายความคิด เกิด ี่ ี ่ ่ ่ ่ การเปลียนแปลงทัศนคติ หรือพฤติกรรมไปตามวัตถุประสงค์ของเรืองหรือวิชานัน ๆ ่ ่ ้ พิจารณาให ้ดีแล ้วจะเห็นได ้ว่าวิทยากรควรมีบทบาททีสาคัญหลายระการตามแผนภูมตอไปนี้ ่ ิ ่ วิทยากร (RESOURCE PERSON) ผู ้บรรยาย ผู ้ทาให ้เกิดการเรียนรู ้ (LECTURER) (INSTRUCTOR) ผู ้สอน ผู ้ฝึ ก (TEACHER) (TRAIINER) พีเลียง ่ ้ (MENTOR) เมือทราบความหมายและบทบาทของวิทยากรแล ้วก็ควรพิจารณาด ้วยว่าทาอย่างไรจึงจะเป็ นวิทยากรที่ดและมี ่ ี ประสิทธิภาพได ้กรณี นีมผู ้รู ้ได ้กล่าวถึงไว ้อย่างหลากหลายต่างกรรมต่างวาระกันอันอาจจะสรุปรวมเป็ นคุณสมบัต ิ ของวิทยากรทีดและมี ้ ี ่ ี ประสิทธืภาพได ้ดังนี้ ๑ คุณลักษณะทั่วไป ๑. มั่นใจในตนเอง เตรียมพร ้อม ซ ้อมดี มีสอและวิธการ ทีเหมาะสม ่ื ี ่ ๒. เป็ นคนช่างสังเกต คอยสังเกตพฤติกรรมทางกาย วาจา ตลอดจนกระบวนการกลุมของผู ้เข ้ารับการอบรม ่ ๓. มีความคิดริเริมสร ้างสรรค์ ่ ๔. แก ้ปั ญหาเฉพาะหน ้าเก่ง ่ ้ ้ ้ ้ ่ ๕. มีการวางแผนทีด ี ทังเนือหาและลาดับขันตอนการนาเสนอรวมทังสือและเครืองมือการสือสาร ่ ่ ั ๖. มีมนุษย์สมพันธ์ทดและประสานงานเก่ง ี่ ี ๗. มีบคลิกภาพทีด ี ุ ่ ๘. มีความเป็ นกัลยาณมิตร ยิมแย ้มแจ่มใส เป็ นกันเอง คอยช่วยเหลือด ้วยน้ าใจ มีความเมตตา ยอมรับในความ ้ แตกต่างระหว่างบุคคลและมีความเห็นใจของผู ้เข ้ารับากรอบรม ๙. เป็ นนักประชาธิปไตย มีความยืดหยุน รับฟั งความคิดเห็นของผู ้อืน ไม่สรุปตัดบทง่าย ๆ เมือมีผู ้เสนอความ ่ ่ ่ คิดเห็นทีแตกต่างออกไป ่ ๑๐.มีความจิรงใจในการถ่ายทอดความรู ้ ๑๑.ปฏิบัตตนต่อผู ้เข ้ารับการอบรมอย่างเสมอภาค ทัดเทียม วางตนเหมาะสมกับทุกคน ิ
3.
๑๒.มีแบบฉบับลีลาทีเป็ นของตนเองยอมรับจุดเด่นและจุดด ้อยของตนและ
มึความภูมใจและเข ้าใจ ในบุคลิกภาพ ่ ิ ของตนเอง และใช ้ให ้เกิดประโยชน์ตอ การเป็ นวิทยากร ่ ๒. ต ้องรู ้จริง ๑. ต ้องเป็ นคนรอบรู ้ ศึกษาหาความรู ้อยูเสมอ ่ ๒. ต ้องรู ้รายละเอียดในเรืองนั นอย่างเพียงพอ ่ ้ ๓. ต ้องเข ้าใจเหตุผลของรายละเอียดนัน ้ ๔. ต ้องรู ้สมมติฐานหรือความเป็ นมาของสิงนัน่ ้ ิ่ ้ ๕. ต ้องสามารถประยุกต์สงนันให ้เห็นเป็ นจริงได ้ ๓. ถ่ายทอดเป็ น ึ ๑. มีเทคนิคต่าง ๆ เช่น การบรรยาย การนาอภิปราย การสัมมนา กรณีศกษา การจัดกิจกรรม ฯลฯ เพือทาให ้เกิด ่ ความรู ้ เข ้าใจง่าย ได ้สาระ ๒. พูดเป็ น คือ พูดแล ้วทาให ้ผู ้ฟั งเข ้าใจตามทีพูดได ้อย่างรวดเร็ว สามารถพูดเรืองยาก ซับซ ้อนให ้เข ้าใจง่าย ่ ่ ๓. ฟั งเป็ น คือ ตังใจฟั ง ฟั งให ้ตลอด ขณะทีฟังต ้องควบคุมอารมณ์ ขณะทีฟังอย่าคิดคาตอบทันที และเท่อฟั ง จง ้ ่ ่ ฟั ง เอาความหมายมากกว่าถ ้อยคา ๔. นาเสนอเป็ นประเด็นปละสรุปประเด็นให ้ชัดเจน ๕. มีอารมณ์ขน สร ้างบรรยากาศในการอบรมได ้อย่างเหมาะสม ั ่ ๖. มีประสิทธิภาพในการอบรม สามารถเชือมโยงทฤษฎีเข ้ากับการปฏิบตได ้ดี มองเห็นเป็ นรูปธรรม ั ิ ๗. ใช ้ภาษาพูดได ้ดี ใช ้ภาษาง่าย ๆ รู ้จักเลือกภาษาให ้ตรงกับเนือหาและตรงกับความต ้องการและพืนฐานความรู ้ ้ ้ ของผู ้ฟั ง ๔. มีหลักจิตวิทยาในการสอนผู ้ใหญ่ ๑. ความสนใจในการรับฟั งจะเกิดขึนจากการรับรู ้ถึงเรืองทีวทยากรจะพูดหรือบรรยาย ้ ่ ่ ิ ๒. มุงประโยชน์ในการรับฟั งเป็ นสาคัญ ่ ๓. จะตังใจแลเรียนรู ้ได ้ดี ถ ้าวิทยากรแยกเรืองทีสอนออกเป็ นประเด็น / ขันตอน ้ ่ ่ ้ ๔. จะเรียนรู ้ได ้ดีถ ้าได ้ฝึ กปฏิบัตไปด ้วยพร ้อม ๆ กับการรับฟั ง ิ ๕. จะเรียนรู ้ได ้ดียงขึน ถ ้าฝึ กแล ้วได ้ทราบผลของการปฏิบตอย่างรวดเร็ว ิ่ ้ ั ิ ๖. จะ เรียนรู ้ได ้ดีเมือมีการฝึ กหัดอยูเสมอ ่ ่ ๗. จะเรียนรู ้ได ้ดีเมือเปิ ดโอกาสให ้ใช ้เวลาในการทาความเข ้าใจ อย่าเร่งรัด เพราะแต่ละคนมีความสามารถในการ ่ เรียนรู ้ต่างกัน ๕. มีจรรยาบรรณของวิทยากร ๑. เมือจะสอนต ้องมั่นใจว่ามีความรู ้จิรงในเรืองทีจะสอน ่ ่ ่ ๒. ต ้องมุงประโยชน์ของผู ้ฟั งเป็ นทีตง ่ ่ ั้ ่ ๓. ไม่ควรฉกฉวยโอกาสในการเป็ นวิทยากรเพือแสวงหาผลประโยชน์สวนตัว ่ ๕. ความประพฤติและการปฏิบตตนของวิทยากร ควรจะสอดคล ้องกับเรืองทีสอน ั ิ ่ ่ นอกจากนียังมีข ้อเสนอแนะทีสาคัญในการเป็ นวิทยากรทีควรเสนอไว ้เพิมเติมอีกด ้วยว่าวิทยากรทีดจะ ้ ่ ่ ่ ่ ี ๑. ต ้องมีกจกรรมมากกว่าการบรรยาย ิ ๒. ต ้องมีการเตรียมตัวทีด ี ่ ื่ ๓. ต ้องมีสอช่วยให ้เกิดการเรียนรู ้ได ้ดี ๔. ต ้องมีกจกรรมทีสอดคล ้องกับเนือหา เวลา และตรงเวลา ิ ่ ้ ๕. ต ้องให ้คนติดใจในการเรียนรู ้ มิใช่ตดใจในลีลาการแสดงเพราะวิทยากรไม่ใช่นักแสดง ิ ๖. ต ้องคานึงอยูตลอดเวลาว่าวิทยากรมีหน ้าทีไปทาให ้เขารู ้อย่าไปอวดความรู ้แก่เขาและวิทยากรไม่มหน ้าทีพูดให ้ ่ ่ ี ่ คนอืนงง ่ เทคนิคการเตรียมตัวเป็ นวิทยากรทีด ี ่ ่ ่ บางคนเชือว่าการเป็ นวิทยากรทีดเกิดจากพรสวรรค์แต่บางท่านก็เชือว่าเกิดจากพรแสวง จะโดยพรประเภทใดก็ ่ ี ่ ี ี ่ ตามวิทยากรทีดก็ควรจะรู ้จักเทคนิควิธการเตรียมตัว ซึงอาจกระทาได ้หลายวิธด ้วยกันกล่าวคือ ี ๑. การหาข ้อมูล โดยวิธตาง ๆ เช่น ี ่ ๑.๑ อ่านตาราหลาย ๆ ประเภท ๑.๒ ฟั งจากคนอืนเล่า หรือฟั งจากเทปวิทยุ ่ ๑.๓ ศึกษาจากวิดทัศน์ รายการโทรทัศน์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ี ๒. สะสมข ้อมูลต่าง ๆ โดยจัดเก็บเป็ นระบบหรือแบ่งเป็ นประเภทเช่น
4.
๒.๑ ประเภทเพลง ๒.๒ ประเภทคาขวัญ
คากลอน สุภาษิต คาคม คาพังเพย และคาปรพันธ์ตาง ๆ ่ ๒.๓ ประเภทคาผวน ๒.๔ ภาษาหักมุม (คิดสวนทางเพือให ้ผู ้ฟั งฮา) ่ ้ ๒.๕ ลูกเล่นเป็ นชุด หรือประเภทนิทานสัน ๆ ๒.๖ ประเภทเชาว์ เช่น คาถามอะไรเอ่ย ฯลฯ ๒.๗ ประเภทเกมหรือกิจกรรม ๓. ศึกษาข ้อมูลแต่ละประเภท พยายามจับประเด็นและหักมุมนาเข ้าในเรืองทีจะเสนอให ้ได ้ ่ ่ ๔. หัดเล่า ให ้เพือนหรือคนอืนฟั งในวงเล็ก ๆ ก่อนโดยคานึงถึง ่ ่ ๔.๑ การเริมเล่าให ้เด็กฟั งและขยายวงถึงผู ้ใหญ่ ่ ๔.๒ ต ้องพยายามหักมุมตอนท ้ายให ้ได ้ ๔.๓ ใช ้น้ าเสียงทีเหมาะสมในการเล่า ่ ๔.๔ ใช ้ลีลาหรือกิรยาท่าทางประกอบการเล่า ิ อย่างไรก็ดมผู ้เปรียบเทียบว่าการเป็ นนักพูดหรือวิทยากรทีดก็เหมือนกับเด ้กหัดขีจักรยานนั่นเอง โดย ี ี ่ ี ่ ยกตัวอย่างแสดงไว ้ให ้เห็นชัดเจนดังนี้ ๑. เด็กอยากได ้จักรยาน : อยากเป็ นวิทยากรมืออาชีพ ๒. หัดขีแล ้วมักจะล ้ม : ฝึ กพูดอาจจะไม่สาเร็จในบางครัง ่ ้ ๓. หัดขีให ้เป็ น : ฝึ กพูดให ้เป็ นวิธการ / หลักการ ่ ี ๔. ขีทกวันก็จะเกิดความชานาญ : ฝึ กหรือแสดงบ่อย ๆ จะชานาญ ่ ุ เทคนิคการสร ้างการจูงใจ / อารมณ์ขน ั วิทยากรสามารถเรียนรู ้ และสรรหาเทคนิควิธการต่าง ๆ มาใช ้ในการทาหน ้าทีวทยากร เพือให ้เกิดความสมบูรณ์ ี ่ ิ ่ ความมั่นใจ ตลอดจนมีบรรยากาศทีดในการฝึ กอบรม ทาให ้วิทยากรและผู ้เข ้ารับการอบรมมีความสุขในการร่วม ี กิจกรรมการฝึ กอบรม บรรลุจดประสงค์ท ี่ วางไว ้ด ้วยวิธการต่าง ๆ ดังนี้ เช่น ุ ี ๑. การสร ้างข ้อตกลงก่อนการบรรยาย เช่น ก่อนบรรยายอาจสร ้างข ้อตกลงเบืองต ้นดังนี้ ้ ข ้อตกลงเบืองต ้นก่อนบรรยาย ๓ ประการ ้ ขณะทีผู ้เข ้ารับการอบรมนั่งฟั งวิทยากรบรรยาย ถ ้าผู ้เข ้ารับการอบรมนั่งฟั งวิทยากรบรรยาย ถ ้าผู ้เข ้ารับการอบรม ่ ้ เกิดความซาบซึง (ง่วง) วิทยากรอนุญาตให ้แสดงพฤติกรรมได ้ใน ๓ กรณี ดังนี้ กรณีท ี่ ๑ ฟั งแล ้วใช่ กรณีผู ้เข ้ารับการอบรมง่วงนอนก็จะหลับตาลงเบา ๆ แล ้วพยักหน ้า (ฮา) กรณีท ี่ ๒ ฟั งแล ้วเห็นด ้วย กรณีผู ้เข ้ารับการอบรมง่วงนอนมากก็จะหลับตาพยักหน ้าก ้มลงลึก ๆ (ฮา) กรณีท ี่ ๓ ฟั งแล ้วเห็นด ้วยอย่างยิง กรณีทผู ้เข ้ารับการอบรมง่วงนอนมาก ๆ ก็จะหลับตาสับปะหงกโดยแหงนหน ้า ่ ี่ ขึนข ้างบน (ฮา) ้ ้ วิทยากร : ชีแนะต่อไปว่ากรณีท ี่ ๓ ขออย่างเดียวอย่ากรนเพราะจะทาให ้รบกวนสมาธิคนทีอยูข ้าง ๆ หรือระวังจะ ่ ่ ตกจากเก ้าอี้ (ฮา) คาถามจากผู ้บรรยาย ยกมืใครเข ้าใจ อขึน ้ ยกมือขึนใครไใม่เข ้าใจ ้ ยกมือขึนใครไม่ยกมือ ้ ๒. การเล่าเรืองโดยใช ้คากลอนช่วย เช่น ่ วิทยากร : เล่าว่า วันหนึงตีนได ้พูดกับตาว่า “ ตีน มีบญคุณกับตากมาก แล ้วก็ยกกลอน ตีนกับตา (ตีนซิแน่) เล่า ่ ุ ให ้ตาฟั งดังนี้ ตีนซิแน่ ตีนกับตา อยู่กนมา แสนผาสุก ั จะนั่งลุก ยืนเดิน เพลินหนักหนา มาวันหนึง ตีนทะลึง เอ่ยปรัชญา ่ ่ ว่ามีคณ แก่ตา เสียจริงจริง ุ ตีนช่วยพา ตาไป ทีตาง ๆ ่ ่ ตาจึงได ้ ชมนาง และสรรพสิง ่ เพราะฉะนัน ดวงตา จงประวิง ้ ่ ว่าตีนนี้ เป็ นสิงควรบูชา วิทยากร : หลังจากตาได ้ฟั งตีน ก็รู ้สึกหวันไส ้และโมโห ตา จึงพูดกับตีนว่า ทีจริงตาสาคัญกว่า ตีน โดยยกกลอน ่ ่ ตีนกับตา (ตาก็แน่) เล่าให ้ตีนฟั งดังนี้
5.
ตาก็แน่ ตาได ้ฟั ง
ตีนคุยโม ้ ก็หมั่นไส ้ จึงร ้องบอก ออกไป ด ้วยโทสา ว่าทีตน เดินเหินได ้ ก็เพราะตา ่ ี ดูมรรคา เศษแก ้วหนาม ไม่ตาตีน เพราะฉะนัน ตาจึง สาคัญกว่า ้ ตีนไม่ควร จะมา คิดดูหมิน ่ สรุปว่า ตามีคา สูงกว่าตีน ่ ทัวธานินทร์ ตีนไปได ้ ก็เพราะตา ่ วิทยากร : หลังจากตีนได ้ฟั งตาพูดก็โกรธมาก ยกกลอน ตากับตีน (แต่ก็ตาย) แต่ก็ตาย ตีนได ้ฟั ง ให ้คลังแค ้น แสนจะโกรธ ่ เร่งกระโดด ออกไป ใกล ้หน ้าผา เพราะอวดดี คุยเบ่ง เก่งกว่าตา ดวงชีวา จะดับไป ไม่รู ้เลย ตาเห็นตีน ทาเก่ง เร่งกระโดด ก็พโรธ เร่งระงับ หลับตาเฉย ิ ตีนพาตา ถลาล ้ม ทังก ้มเงย ้ ตกผาเลย ตายห่า ทังตาตีน ้ ้ ่ ่ สุรปข ้อคิด การทางานนันจะเก่งคนเดียวไม่ได ้ จะต ้องร่วมมือกัน พึงพาอาศัยซึงกันและกัน มีความสามัคคี จึงจะทา ให ้งานสาเร็จ ๓. การนาเสนอเรืองใกล ้ตัวของผู ้เข ้ารับการอบรม)จีจุด) ่ ้ เช่น เสนอเรือง การนั่งอบรม ่ วิทยากร : เสนอแผ่นใสพร ้อมเปิ ดแผ่นใสเป็ นลาดับและถามสมาชิก นั่งตรงไหนดี เวลามา ดูดนตรี อบรม มาก่อน นั่งหน ้า นั่งหลัง มาช ้า นั่งหลัง นั่งกลาง มาหลัง (มีหวัง)ยืน นั่งหน ้า(ฮา…) วิทยการ สรุปในเชิงมุขตลก ดังนี้ มาก่อนเวลา มักจะ เป็ นคนมองโลกในแง่ร ้าย(กังวลไปหมด) มาตรงเวลา มักจะ เป็ นคนธรรมดา มาตามเวลา(หลังเวลา) มักจะ เป็ นคนมองโลกในแง่ด ี (ฮา) เหตุผลเพราะคิดว่าอะไรก็ได ้ สบาย ๆ วิทยากรมาก็พูดไปไม่เห็นจาเป็ นต ้องรอเราเลย (ฮา) ๔. ใช ้ข ้อความจากแผ่นใสนาเสนอนาเข ้าสูเรือง เช่น ่ ่ สามศรีพน ้อง : จะเลือกคนไหนดี ี่ ดารา พีสาวคนโต จบ ป.๔ สวยเข ้าชันไปวัดตอนเช ้า ๆ ได ้ การบ ้านการเรือนดีมาก ได ้รับมรดกทีดน ๑๐ ไร่ บ ้าน ๑ ่ ้ ่ ิ หลัง เงินสด ๑ ล ้านบาท ้ ั ดุจเดือน คนกลางจบ ปวช. สวยขันเทพีระดับจังหวัด นิสยจู ้จีจกจิก ได ้รับมรดกบ ้านพร ้อมทีดน ๕ ไร่ เงินสด ๒ ้ ุ ่ ิ ล ้านบาท ั ดุจดาว น ้องคนเล็ก จบปริญญาตรี สวยน ้อง ๆ ดารา นิสยเย่อหยิง ได ้รับมรดกรถยนต์ ๒ คัน เงินสด ๕ ล ้านบาท ่ ……………………………………………………………………………………………………… ข ้อมูลเพิมเติม ่ ดารา อายุ ๕๙ ปี ดุจเดือน อายุ ๕๘ ปี ดุจดาวอายุ ๕๗ ปี (ฮา…) วิธใช ้ วิทยากรนาเสนิแผ่นใส โดยปิ ดส่วนทีเป็ นข ้อมูลเพิมเติมไว ้ก่อนแล ้วสมมติวาสมาชิกเป็ นชายหนุ่มอายุ ๒๕ ปี ี ่ ่ ่ ต ้องการคูครองสักหนึงคน โดยวิทยากรกาหนดให ้สมาชิกหนึงคนในสามคนทีนาเสนอ แล ้วสอบถามสมาชิกพร ้อม ่ ่ ่ ่ ทังเหตุผลมในการเลือก และนาเสนอข ้อมูลเพิมเติม ้ ่
6.
ข ้อคิด
การตัดสินใจเลือกหรือการประเมินทีดต ้องอาศัยข ้อมูลทีถกต ้องครบถ ้วน เป็ นปั จจุบัน ทันสมัย ่ ี ่ ู ่ ความเชือ…จริงหรือไม่ เด็กอนุบาล เชือ พ่อแม่ ่ เด็กประถม ฯ เชือ ครู ่ เด็กมัธยม ฯ เชือ เพือน ่ ่ ปริญญาตรี เชือ ตารา ่ ปริญญาโท เชือ ตัวเอง ่ ปริญญาเอก (ดร.) ไม่เชือใครเลยแม ้แต่ตวเอง ่ ั ่ ชือ…หมอดู (ฮา) วิธใช ้ วิทยากร ทดสอบสมาชิก โดยใช ้กระดาษปิ ดข ้อความด ้านขวามือแล ้วเปิ ดสอบถามทีละรายการ ี เชิญอ่าน…ครับ ดืมนม ดีกว่าดืม เหล ้า ่ ่ ดืมแล ้วรืนรมย์เพราะดืมนมสองเต ้า ่ ่ ่ ดืมแล ้วงีเง่าเพราะดืมเหล ้าสองกลม ่ ่ ่ ดืมแล ้วระทมเพราะดืมนมผิดเต ้า ่ ่ รายการอาหารจานเด็ด อาหารจานหลัก เมียหลวง อาหารจานรอง อนุภรรยา อาหารจานพิเศษ น ้องหนู (นอกบ ้าน) (ในตู ้กระจก) อาหารว่าง สาวใช ้ อาหารเสริม เลขา ฯ(ทีทางาน) ่ อาหารตา น ้องเมีย (ฮา…) วิธใช ้ วิทยากร ทดสอบสมาชิก โดยใช ้กระดาษปิ ดข ้อความด ้านขวามือแล ้วเปิ ดสอบถามทีละรายการ ี ทดสอบภาษาบาลี อตฺตาหิ อตฺตโน นาโถ (ตนแลเป็ นทีพงแห่งตน) ่ ึ่ ทินงฺมนงฺ จมนงฺ ทิกนงฺ ิ ุ (ทีควรนั่งก็ไม่นั่ง แต่มานั่งทีกจะนั่ง) ่ ่ ู โน มโขนงฺ แสงโสมงฺ สุข ี (ไม่มแม่โขงได ้ดืมแสงโสมก็ไม่มความสุขเหมือนกัน) ี ่ ี วิธใช ้ วิทยากร ทดสอบสมาชิก โดยใช ้กระดาษปิ ดข ้อความแล ้วเปิ ดสอบถามที ละรายการ ี สรุป การเป็ นวิทยากรทีดและมีประสิทธิภาพ เป็ นเรืองทีไม่ง่ายนั กแต่ก็ไม่ยากจนเกินไปทีจะฝึ กหัดได ้ ขอเพียงให ้ท่าน ่ ี ่ ่ ่ สนใจทีจะเรียนรู ้เทคนิควิธการต่าง ๆ ทีหลากหลาย แล ้วทดลองนาไปประยุกต์ใช ้ ตามข ้อเสนอแนะ และตัวอย่างที่ ่ ี ่ ่ นาเสนอไว ้ในตอนต ้นของบทนี้ ท่านก็คงจะพัฒนาไปสูการเป็ นวิทยากรมืออาชีพได ้อย่างรวดเร็ว ส่วนผู ้ทีเป้ น ่ วิทยากรมืออาชีพอยูแล ้ว บทบาทและเทคนิคต่าง ๆ ทีนาเสนอเป็ นเสมือนเครืองเตือนใจและผงชูรสทีจะทาให ้เกิด ่ ่ ่ ่ ความเข ้มข ้นมากยิงขึนเพราะบางครังเรารู ้ทุกเรืองแต่พอถามเรืองเล็ก ๆ น ้อยกลับลืมหรือตอบไม่ได ้อาจตกม ้าตาย ่ ้ ้ ่ ่ ได ้เหมือนกัน …………………………………………..
7.
บทที่ ๒
วิทยากรกับการพูด การพูดเปนวิธีการสื่อสารที่สําคัญที่สุดของคนเรา และเปนทักษะที่จะเปนอยางยิ่งที่จะตองฝกฝนใหเกิดความ ชํานาญอยางตอเนื่องเพราะการพุดเปนศิลปและปจจัยที่จะสงผลใหบุคคลนั้นประสบผลสําเร็จในการสื่อสาร ตลอดจนการแสดงถึงความคิดหรือบอกในสิ่งที่ตนเองคิดเพื่อใหผูรับฟงเกิดความเขาใจและพึงพอใจในที่สุด วิทยากรเปนผูมีหนาที่และบทบาทสําคัญในการถายทอดความรู ความคิด ประสบการณตาง ๆ ใหผูเขารับการ อบรม เพราะฉะนั้นการพูดจึงเปนปจจัยหนึ่งที่มีความจําเปนอยางยิ่งสําหรับวิทยากร วึ่งวิทยากรจะตองศึกษา หลักการ แนวคิดและวิธีการ พัฒนาการพูดตลอดถึงการฝกหรือการสรางประสบการณใหกับตนเองใหมากจนเกิด ความชํานาญจะทําใหการปฏิบัติภารกิจในหนาที่ของวิทยากรเกิดความสมบูรณยิ่งขึ้น การพูดเปน “ศาสตร” ที่สามารถศึกษาได การพูดเปน “ศิลป” ที่สามารถฝกฝนได ฉะนั้นผูที่ทําหนาที่เปน วิทยากรสามารถศึกษาหาความรูไดดวยวิธีการตาง ๆ เชน ศึกษาจากการอานหนังสือตํารารายการโทรทัศน โปรแกรมคอมพิวเตอร ฟงจากผูรู ผูเชี่ยวชาญ รายการวิทยุ วงสนทนา การประชุมสัมมนา การฝกอบรม ฯลฯ และ สามารถที่จะฝกพูดและหาโอกาสพูเพื่อเปนการฝกประสบการณใหเกิดความชํานาญ เพื่อพัฒนาไปสูความสามารถในการพูดที่ดี วิทยากรควรใหความสนใจกับหลักการและวิธีการตาง ๆ เกี่ยวกับการ พูด ซึ่งอาจจะสรุปเปนสาระสําคัญที่นาสนใจไดหลายประเด็นคือ บุคลิกภาพและคุณสมบัติที่ดีของนักพูด ขณะที่วิทยากรไปปรากฎกายตอหนาผูเขารับการอบรมนั้น ความสนใจของผูเขารับการฝกอบรมมิไดอยูที่คําพูด หรือ เนื้อหาที่วิทยากรกลาวถึงแตเพียงอยางเดียว บุคลิกภาพของวิทยากรก็เปนจุดสนใจอีกประการหนึ่งดวยควบคูไปกับ เนื้อหา สาระที่วิทยากรแสดงออกมาดวยการพูด ดังนั้นวิทยากรจึงควรเอาใจใสในเรื่องของบุคลิกภาพของวิทยากรดวย ใน เรื่องนี้อาจ พิจารณาถึงองคประกอบในดานบุคลิกภาพและคุณสมบัติไดจากตารางตอไปนี้ บุคลิกภาพ คุณสมบัติ ๑. รูปรางหนาตา ๑. ความเชื่อมนในตนเอง ๒. การแตงกาย ๒. ความกระตือรือรน / ตั้งใจ ๓. การปรากฏตัว ๓. ความรอบรู ๔. กิริยาทาทาง ๔. ความคิดริเริ่ม ๕. การสบสายตา ๕. ความจํา ๖. การใชน้ําเสียง ๖. ความจริงใจ ๗. การใชถอยคําภาษา ๗. ปฏิภาณไหวพริบ ๘. ความรับผิดชอบ ๙. อารมณขัน นอกจากคุณสมบัติ ๙ ประการในตารางขางตนแลว นักพูดหรือวิทยกรที่ดียังควรมีคุณสมบัติอีก ๕ ประการ คือ “ เปนนัก ฟง ยังศึกษา ทาวิจารณ งานริเริ่ม เติมความสุข “ ซึ่งขยายความใหสมบูรณไดวา ๑. เปนนักฟงที่ดี ๒. ศึกษาหาความรูอยูเสมอ ๓. ยอมรับฟงคําวิจารณ ๔. เปนตัวของตัวเอง ๕. มีความสุขในการถายทอดความรูใหผูอื่น ทฤษฎีการพูด ทฤษฎีการพูดมีอยูหลายทฤษฎีดวยกัน แตที่นาสนใจไดแก ทฤษฎี ๓ สบาย ของ รอ.ดร.จิตร จํานงค สุภาพ ซึ่งผูเสนอทฤษฎีไดใหขอสรุปของทฤษฎี ๓ สบาย (The Theory Of Three Pleasant Speech) หมายถึงการพูดที่ฟงสบายหู ดูสบายตา พาสบายใจ ฟงสบายหู ไดแกการพูดดวยวจีสุจริต รูจักการใชถอยคําภาษาที่ถูกตองรูจักใชเสียงและการพุด ที่มีจังหวะ ถูกตอง เหมาะสม
8.
ดูสบาย ไดแกบุคลิกภาพมาตรฐานเบื้องตน ศิลปการแสดง
การพูดเบื้องตน การแสดงทาทางประกอบดี พาสบายใจ ไดแกการเลือกเรื่องดี การเตรียมการพูดที่ดี การจัดลําดับความคิด การสรางโครงเรื่องดี การพูดที่ฟงสบายหู ดูสบายตา และพาสบายใจนี้เจาของทฤษฎีไดเสนอไวดวยวาผูพูดจะจองพูดจากหัวใจทั้งสี่ หองคือ พูดจากใจ คือการแสดงออกมาจากความจริงใจไมเสแสรง มีความมั่นใจ แนใจในตัวผูฟง ที่ขึ้นใจ คือเขาใจเรื่องที่พูดแยางกระจางแจง ถูกตองไมโมเมยกเมฆหรือเดา ดวยความตั้งใจ คือมีความอยากจะพุดกระตือรือรน กระฉับกระเฉงไมเฉื่อยชา หรือแสดงอาการลักษณะเบื่อเซ็ง จนสุดใจ คือเปรียบเสมือนการสวมวิญญาณ ลงไปในคําพูดแตละคําอยางมีชีวิตชีวา มีความรูสึกเหมือนกับตัวเอง อยูในสถานการณนั้นจริง ๆ ผูเขียนเห็นดวยเปนอยางยิ่งวาที่สุดของการพูดทุกครั้ง ควรจะใชทฤษฎี ๓ สบาย ประกอบการพูดใหมากที่สุดและ ควรจะยึดบันได ๑๓ ขั้นที่นําไปสูความสําเร็จในการพูด ตามที่เจาของทฤษฎีเสนอแนะไวดังนี้คือ ๑. เตรียมใหพรอม ๒. ซักซอมใหดี ๓. ทาทีใหสงา ๔. หนาคาใหสุขุม ๕. ทักที่ประชุมไมวกวน ๖. เริ่มตนใหโนมนาว ๗. เรื่องราวกระชับ ๘. ตากจับที่ผูฟง ๙. เสียงดังใหพอดี ๑๐.อยาใหมีเออ อา ๑๑.ดูเวลาใหพอครบ ๑๒.สรุปจบใหจับใจ และ ๑๓.ยิ้มแยมแจมใสตลอดการพูด หลักการพัฒนาการพูด ๑. อานหนังสือ ไดฟงหรือพบประโยคหรือวลี คํากลอน คําขวัญ สําคัญ ๆ ที่ดีมีคุณคาจดไวเปนขอมูล ๒. จัดลําดับความคิดที่จะพุดใหสอดคลองกันหรือรอยรัดเหมือนเขียนเรียงความ ๓. พูดจากหัวใจที่จริงใจดวยความตั้งใจ ๔. วิเคราะหหรือหยั่งสถานการณการพูดการฟง ๕. กอนพูด เตรียมตัว เตรียมรางกายใหพรอม ๖. เตรีนมเครื่องชวยพูดใหพรอม ๗. ตองพูดใหไดเหมือนกับการเขียน ๘. ระลึกเสมอวาการพูดนั้นเปนทั้งศาสตรและศิลป ๙. กําหนดหรือลําดับเรื่องไวในใจและจําใหขึ้นใจ ขอพึงหลีกเลี่ยงในการพูด ๑. อยาออกตัว เชน วันนี้เตรียมมาไมพรอมพูดไมดี ๒. อยาขออภัย เชน การพูดอาจผิดพลาด ๓. อยาถอมตัว เชน ผมไมใชคนเกงมีประสิทธิภาพนอย ๔. อยาออมคอม เชน บรรยายไปเรื่อย ๆ ขาดจุดเดนที่นาสนใจ ถอยคําที่วิทยากรควรหลีกเลี่ยงในการขึ้นตนหรือลงทาย “ ขาพเจารูสึกยินดีและเปนเกียรติอยางยิ่งที่ไดมาพูดในวันนี้ ” “ เตรียมมาไมเต็มที่ ดังนั้นหากผิดพลาดไป ขอโทษ ” “ ผมพูดมาก็มากแลวจึงขอจบเพียงเทานี้ ” “ ขาพเจาไมมีอะไรจะกลาวอีกแลว จึงใครขอยุติไวเพียงแคนี้สวัสดีครับ “ “ ที่พูดมาทั้งหมดนั้น หวังวาคงเปนประโยชนแกทานไมมากก็นอย ขอบคุณมากครับ สวัสดี” “ ความคิดของดิฉันก็มีเพียงเทานี้แหละคะ ขอบคุณทานทั้งหลายที่อุตสาหฟงดิฉันพูดจนจบ” ขอแนะนําสําหรับวิทยากร เมื่อลงจากเวทีแลว สิ่งที่ควรปฏิบัติคือ ๑. ควบคุมจิตใจใหสงบ ๒. อยารูสึกเสียดายถอยคําบางคําที่ลืมพูด ๓. ไมหลงระเริงคําสรรเสริญเยินยอ ๔. อดทนฟงคําวิจารณของผูอื่นอยางสนใจ ๕. บันทึกขอบกพรองเพื่อพิจารณาแกไขตอไป
9.
สรุป
การพูดเปนทั้งศาสตรและศิลป มนุษยเกือบทุกคนพูดไดตั้งแตวัยเด็กและมีการพัฒนาการใชภาษาเพื่อการ สื่อสารมาโดยตลอด แตมิไดหมายความวามนุษยทุกคนจะพูดเปน จึงมีคําพังเพยที่วา “ คารมเปนตอรูปหลอเปน รอง ” การเปนวิทยากรที่ดีตองประกอบดวยบุคลิกภาพและคุณสมบัติหลายประการ รวมถึงการใชพลังทั้งหมด ประสานกัน ระหวางกายกับจิต ปฏิภาณไหวพริบ ถายทอดออกสูผูฟงโดยใช พลังจิต ภาษาพูด ภาษาทาทาง ที่ ไดรับการเตรียมการ ฝกฝนมาอยางดียอมจะกอใหเกิดการประสบความสําเร็จสูง พูดดี มีสาระ นาศรัทธา คิดใหรอบคอบ ชอบดวยใจความ งดงามดวยถอยคํา จดจําดวยสาระ เสริมทักษะดวยคารม ประสมดวยตัวอยาง กระจางดวยเหตุผล แยบยลดวยกลวิธี มีมนุษยสัมพันธ พูดจบแลวนั้นประทับใจ (สุนีย สินธุเดชะ)
10.
บทที่ ๓
วิทยากรกับการฝกอบรม ปจจุบันสภาพเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมของประเทศเปลี่ยนแปลงไปอยางรวดเร็ว ทําใหพัฒนาการดานตาง ๆ ของ ประเทศรุดหนาพรอมทั้งเกิดปญหาที่เนื่องมาจากการพัฒนาที่สลับซับซอนเพิ่มเติมขึ้นคูขนานกันไป การเตรียมทรัพยากร มนุษยใหพรอมที่จะรับมือกับปญหาตาง ๆ อยางรูเทาทันจึงตกเปนภาระหนาที่ของการจัดการศึกษาอยางปฏิเสธไมได นอกจากการรับการศึกษาจากหลักสูตรปกติของสถาบันการศึกษาตาง ๆ แลว การจัดการฝกอบรมก็เปนอีกวิถีทางหนึ่งของ การจัดการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ ดวยเหตุนี้วิทยากรที่ดีจึงควรใสใจกับกระบวนการฝกอบรมทั้งระบบ ทั้งนี้เพื่อใหสามารถ นําความรูความเขาใจไปใชไดอยางถูกตองเหมาะสมกับบุคคลและสถานการณ การฝกอบรมที่จะสงผลใหบุคลากรที่รับการฝกอบรมเปนผูที่มีความรูความเขาใจตลอดจนมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไป ในทางที่ดีเปนบุคลากรที่มีคุณภาพนั้น ยอมขึ้นอยูกับปจจัยหลายประการทั้งในดานบุคคล องคการและกระบวนการการ ฝกอบรมซึ่งจะไดกลาวถึงเปนลําดับดังนี้ การฝกอบรมหมายถึงอะไร การฝกอบรม หมายถึง กระบวนการในการที่จะทําใหผูเขารับการอบรม เกิดความรู ความเขาใจ เกิดความชํานาญ และ เกิดทัศนคติที่เหมาะสม เกี่ยวกับเรื่องที่อบรม จนกระทั่งผูเขารับการอบรมเกิดการเรียนรูและสามารถเปลี่ยนแปลงความคิด หรือพฤติกรรมไปตามวัตถุประสงคของการฝกอบรมอยางมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล การเปลี่ยนแปลงความคิดและพฤติกรรมของคน การเปลี่ยนแปลงความคิดและพฤตืกรรมของคนจากจุดหนึ่งที่เรายังไมพอใจไปยังจุดที่เราพอใจนั้น ควรปฏิบัติดังนี้ 1.ใหความรู (Knowledge) 2.ใหเกิดความเขาใจ (Understand) 3.ใหเกิดทักษะโดยการใหลงมือปฏิบัติจริง (Skill) 4.ใหเกิดทัศนคติ (Attitude) การฝกอบรม คือการทําใหผูเขารับการอบรมเกิดการเรียนรูและปฏิบัติไดจริงมิใชเพียงทําใหไดรับความรูเทานั้น การทําใหเกิดการเรียนรู คือ กระบวนการจัดการเรียนการอน (Instrution) ไมใชเพียงแตการสอน (Teaching) หรือ การ บรรยาย (Lecture) เทานั้น วิทยากรคือผืที่ทําใหเกิดการเรียนรู ดังนั้นการเรียนรูจึงเกิดจากิจกรรมของวิทยากรรวมกับกิจกรรมของผูเขารับการ ฝกอบรมภายใตสถานการณที่วิทยากรเปนผูกําหนดและอํานวยการใหเปนไปโดยยึดผูเขารับการฝกอบรมเปนศูนยกลาง หลักสําคัญที่ทําใหเกิดการเรียนรู มี 2 ประการคือ 1.วิทยากรเปนผูกระตุนและอํานวยความสะดวกในการเรียนรูของผูเขารับการอบรม 2.ผูเขารับการอบรมตองทํากิจกรรมเพื่อใหเกิดการเรียนรูดวยตนเอ บทบาทผูจัดการฝกอบรม ในการจัดการฝกอบรมแตละครั้ง บุคลาการที่มีหนาที่ในการจัดฝกอบรมแบงออกไดเปนหลายประเภท บุคลาการเหลานี้ มีบทบาทหนาที่แตกตางกันไปตามภารกิจแตก็ลวนมีความสําคัญตอการจัดการฝกอบรมทั้งสิ้น อาทิ เชน ผูบริหารองคการ เปนผูที่มีบทบาทสําคัญในการใหการสนับสนุนดานงบประมาณ เวลา ใหคําปรึกษา แนะนํา จัด บุคลากรใหรับผิดชอบงานไดอยางเหมาะสม เห็นคุณคา และความสําคัญของการฝกอบรม
11.
ผูบริหารการฝกอบรม เปนผูรับผิดชอบในการฝกอบรมจะตองมีความรู ความสามารถหลายดาน
เชน การวางแผน กําหนดโครงการ และการบริหารงบประมาณไดอยางเหมาะสม ตลอดจนเขาใจนวัตกรรมการฝกอบรม เปนตน นอกจากนั้น ผูบริหารงานฝกอบรมเปนบุคคลสําคัย จึงจําเปนตองพัฒนาตนเองและมีคุณสมบัติที่ดีหลายประการ คือ 1.มีความรูความสามารถในการฝกอบรม มีความคิดริเริ่มและคิดกวางไกล 2.เปนนักประสานงานที่ดีสามารถทํางานกับทุกคนได 3.เปนนักวางแผนและนักปฏิบัติที่ดี 4.ศึกษาและมีความเขาใจปรัชญา จิตวิทยาการฝกอบรมจิตวิทยาผูใหญ 5.มีมนุษยสัมพันธดี ยิ้มแย็มแจมใส มีความเปนกัลยาณมิตรกับทุกคน 6.มีความสามารถในการแกปยหาไดดี 7.เปนผูกระตุนที่ดีเพื่อใหผูเขารับการอบรมตื่นตัวและมีความกระตือรือรน 8.เปนผูคิดคํานึงถึงการใหมากกวาการรับ และคํานึงถึงผลประโยชนสวนรวมมากกวาประโยชนสวนตน 9.มีบุคลิกภาพและการแตงกายที่ดี มีความเชื่อมั่นในตนเองและพูดมีศิลปะ 10.เปนผูใหความรวมมือ สงเสริม สนับสนุน เสนอแนะใหวิทยากรปฏิบัติงานตามบทบาทและภารกิจไดอยางเต็มที่ วิทยากร มีความสําคัญอยางมากในเวทีการฝกอบรม เปนผูมีความรูความสามารถในการถายทอด มีเทคนิคในการจัดสื่อ เครื่องมือตลอดจนการนําเสนอที่เหมาะสมกับเวลาและผูเขารับการฝกอบรม ผูเขารับการอบรม มีสวนสําคัญในการทําใหการอบรมสําเร็จถามีความสมัครใจ เต็มใจ กระตือรือรน และใหความรวมมือ ในการปฏิบัติกิจกรรม ตลอดจนการนําความรูไปพัฒนางาน จะเห็นไดวาวิทยากรเปนสื่อกลางที่มีบทบาทสําคัญมาก ในการทําใหผูเขารับการอบรมเกิดความรู ความเขาใจ ทักษะ และทัศนคติที่เหมาะสมเกี่ยวกับเรื่องที่อบรม จนกระทั่งเกิดการเรียนรูและเป,ยนแปลงความคิดหรือพฤติกรรมตามที่ ตองการ บทบาทและหนาที่สําคัญของวิทยากร ในการจัดการฝกอบรม ผูที่มีบทบาทสําคัญที่สุด ที่จะกอใหเกิดการเรียนรูหรือชวยใหการจัดการฝกอบรมเกิด ประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากนอยเพียงใด ก็คือวิทยากรการฝกอบรม วึ่งบทบาทและหนาที่ที่สําคัญของวิทยากรมีอยู 6 ประการใหญ ๆ ดวยกัน คือ 1. จัดเตรียมหลักสูตรการฝกอบรม กําหนดเปาหมาย ปรัชญาของการฝกอบรม และกําหนดรายละเอียดของเนื้อหาในการ ดําเนินการฝกอบรม 2. จัดเตรียมโปรแกรมการฝกอบรม ศึกษาหาขอมูลเกี่ยวกับผุเขารับการฝกอบรมและนําขอมูลเหลานั้นมาใชใหเกิด ประโยชน ในการเตรียมโปรแกรมการฝกอบรมจะเปนไปอยางละเอียดและรอบคอบ รวมทั้งจัดเตรียมทีมงานใหมีความ พรอมในการที่จะเปนวิทยากรฝกอบรม 3. จัดเตรียมวัสดุอุปกรณและเครื่องมือที่จําเปนจะตองใช เพื่อชวยเพิ่มประสิทธิภาพในการฝกอบรม เชน วีดีโอ โปรเจคเตอร เครื่องฉายภาพทึบแสง แผนใสสี สไลด ฯลฯ 4. ประสานงานในเรื่องการจัดเตรียมงาน เตรียมพรอมทุกดานที่เกี่ยวของกับกระบวนการในการจัดฝกอบรม เพื่อความ
12.
สะดวกและราบรื่นในการดําเนินการตามโครงการ เชน สถานที่
อาหาร ระบบไฟฟา แสง สี เสียง ฯลฯ 5. รวมปรึกษาหารือทีมงาน เพื่อวางแผนการจัดกิจกรรมการฝกอบรมใหเปนไปอยางมีประสิทธิภาพ ชวยใหสมาชิกผูเขา รับการฝกอบรมไดรับความรูความเขาใจ บรรลุผลตามจุดมุงหมายที่ตั้งเอาไวซึ่งวิทยากรจะตองดําเนินการดังตอไปนี้ 5.1 สรางบรรยากาศการเรียนรู วิทยากรการฝกอบรม จะตองเปนผูที่สรางบรรยากาศเพื่อจูงใจ สงเสริม และเรงเราให สมาชิกเกิดความสนใจที่จะเรียนรู รวมทั้งจัดประสบการณการเรียนรูหลายรูปแบบที่จะชวยใหผูเขารับการอบรมเกิดความ เขาใจเนื้อหาที่เรียนมากยิ่งขึ้น 5.2 วิทยากรจะตองเปนผูที่ถายทอดขอมูล ความรู ความคิด ประสบการณ ใหผูเขารับการฝกอบรมในฐานะนักวิชาการ เพื่อสรางความรูความเขาใจที่ถูกตองใหผูเขารับการฝกอบรมและวิทยากรจะตองมีทัสนคติที่ดีตอผูเขารับการฝกอบรมดวย 5.3 วิทยากรจะตองทําตัวเปนตนแบบ เปนแมพิมพหรือเปนแบบอยางที่ดีแกผูเขารับการฝกอบรม สิ่งใดที่วิทยากรตองการ ใหผูเขารับการฝกอบรมประพฤติปฏิบัติ วิทยากรควรประพฤติปฏิบัติใหเปนแบบอยางดวย เพื่อความศักดิ์สิทธิ์ในเชิง วิชาการ 5.4 วิทยากรจะตองทําหนาที่เปนคตัวกลาง เชื่อมโยงและประสานความคิด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อความหมายใน การสรางความเชาใจใหกับผูเขารับการฝกอบรมไดเขาใจถูกตองตรงกัน พรอมทั้งคอยชี้แนะและแกปญหากลุมในบาง โอกาส เพราะกระบวนการการเรียนรูโดยอาศัยวิธีการเรียนจากกิจกรรมกลุมสัมพันธเปนไปในลักษระที่กลุมจะตองแสดง ความคิดและทํางานรวมกันเปนทีม 6. เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการในการฝกอบรม วิทยากรจะตองทําหนาที่ประเมินผลการฝกอบรมวาบรรลุเปาหมายมากนอย เพียงใด และแจงผลการประเมินใหกับผูเขารับการฝกอบรมไดทราบดวย จากที่กลาวมาแลวจะเห็นไดวา วิทยากรเปนหัวใจสําคัญที่จะชวยใหการฝกอบรมสัมฤทธิผลหรือลมเหลว เพราะบทบาท ในกระบวนการเรียนการสอนอยูที่วิทยากร ทุกคนเปนวิทยากรได แตจะเปนวิทยากรที่ดีหรือไมเพียงใดขึ้นอยูกับการพัฒนา ตนเองใหมีความรู ความสามารถ ทักษะ บุคลิกภาพ และคุณลักษณะดังตอไปนี้ 1. วิทยากรจะตองเปนผูมีบุคคลิกที่ดี เปนที่นาเชื่อถือ และเปนกันเองกับผูเขารับการฝกอบรม เพื่อสรางบรรยากาศแหง ความสมานฉันทและจูงใจผูเขารับการฝกอบรม 2. วิทยากรจะตองมีทัศนคติที่ดีตอผูเขารับการฝกอบรมทุกคน 3. วิทยากรจะตองมีทักษะในการฟงและการสั่ง ทั้งในรูปของถอยคําสํานวนภาษาและการจับใจความสําคัญ คือสามารถ รับฟงคนอื่นไดอยางเขาใจแจมแจง และจะตองเคารพในความคิดเห็นของผูอื่น 4. วิทยากรจะตองไวตอการรับความรูสึกสามารถ อานใจสังเกตความตองการของผูอื่นและการวิเคราะหสถานการณและ ถูกตอง 5. วิทยากรจะตองใจกวาง กลาที่จะยอมรับความผิดพลาดของตนเอง 6. วิทยากรจะตองเปนผูที่มีความสนใจผูอื่น ไมใชเรียกรองใหผูอื่นมาสนใจวิทยากร 7. วิทยากรจะตองเปนนักมนุษยสัมพันธ อานใจเขาใจเราไมยกตนขมทานหรือแสดงอํานาจ 8. วิทยากรจะตองไมวิพากษวิจารณ หรือแปลพฤติกรรมของผูอื่นโดยไมจําเปน 9. วิทยากรจะตองไมเอาปญหาของตนเองมาเปนจุดสรางความสนใจใหกับผูอื่นจนกระทั่งลืมความตองการหรือ วัตถุประสงคของกลุม 10. วิทยากรจะตองมีเทคนิควิธีการรอบดาน เพื่อชวยใหผูรับการอบรมสนใจและเกิดความรู
13.
11. วิทยากรจะตองรูจักนําความคิดเห็นของผูอื่นมาใชใหเปนประโยชน 12. วิทยากรจะตองมีความสามารถในการวิเคราะห
เชื่อมโยงความคิดและสรุปความคิดเห็นตาง ๆ ไดดี 13. วิทยากรจะตองเปนผูที่มีปฏิภาณไหวพริบดีเยี่ยม แกปญหาเฉพาะหนาอยางเหมาะสม ขั้นตอนของการดําเนินการฝกอบรม ในการฝกอบรมแตละครั้ง แมวาวิทยากรจะมีบทบาทเฉพาะในบางชวงเวลาของการฝกอบรมตามที่ไดพรรณนามาแลว ขางตนก็ตามแตเพื่อใหเกิดประโยชนแกผูที่สนใจศึกษาเรื่องการจัดการฝกอบรมมากยิ่งขึ้น สมควรที่จะนําแผนของการ ดําเนินการฝกอบรม 3 ขั้นตอนคือ การดําเนินงานกอนการฝกอบรม การดําเนินการระหวางการฝกอบรม การดําเนินงาน หลังการฝกอบรม มานําเสนอไวดวยดังนี้ แผนดําเนินการฝกอบรม การดําเนินงาน ผูรับผิดชอบ/กําหนดเวลา การดําเนินการกอนการฝกอบรม 1. ติดตอวิทยากรเปนการภายใน พรอมทั้งแจงรานละเอียดเกี่ยวกับการฝกอบรมที่วิทยากรควรทราบ เชน หัวขอวิชานั้น ๆ จํานวนและคุณสมบัติของผูเขารับการอบรม วันและเวลาสําหรับหัวขอนั้น ๆ เปนตน นอกจากนั้นจะตองสอบถามวิทยากร เกี่ยว กับการจัดรถรับ-สง ดารจัดหองฝกอบรมอุปกรณที่จะใช และ เอกสารประกอบสําหรับหัวขอนั้น ๆ 2. ติตดอสอบถามสถานที่ดูงานหรือทัศนศึกษาเปนการภายในพรอมทั้งแจงวัตถุประสงค ขอบเขตของการดูงาน ตลอดจน จํานวนผูเขาชม วัน เวลาของการดูงาน 3. จัดพิมพหลักสูตรและโครงการฝกอบรม 4. คัดเลือกผูเขารับการฝกอบรม และจัดทําบัญชีรายชื่อผูเขา รับการฝกอบรมสําหรับ - วิทยากร ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติของผูเขารับการฝกอบรมที่วิทยากรควรทราบ เชน ชื่อ อายุ ตําแหนง หนวยงานตนสังกัด วุฒิ ประสบการณการทํางาน เปนตน ผูเขารับการอบรม ซึ่งมีรายละเอียดในเรื่อง ชื่อ ตําแหนง ν หนวยงานตนสังกัด ลงชื่อประจําวัน ν 5. จัดเตรียมเงินที่จะใชจายในโครงการฝกอบรม 6. จัดเตรียมเอกสารพื้นฐานและเอกสารประกอบการฝกอบรม 7. จัดเตรียมประวัติวิทยากรในโครงการ 8. จัดเตรียมแบบประเมินผลและสังเกตการณของแตละรายวิชาและของโครงการโดยสวนรวม 9. การจัดเตรียมสถานที(เชน โตะ เกาอี้ แจกันดอกไม เปนตน) โสตทัศนูปกรณ (เชน เครื่องฉายภาพขามศีรษะ แผนใส ที่ ่ เขียนแผนใส กระดานดํา เปนตน) และอุปกรณอื่น ๆ (เชน ตะกรา เอกสาร กรรไกร ที่เจาะกระดาษ ที่เย็บกระดาษ สกอต เทป ตะกราใสผง เปนตน) เพื่อใชในการฝกอบรม 10. ติดตอประสานงานกับหนวยงานที่เกี่ยวของ เพื่อขอความชวยเหลือในเรื่อง
14.
-การจัดและการใชสถานที่ในการฝกอบรม
-การจัดรถรับ-สงวิทยากร และรับ-สงผูเขารับการอบรมไปดุงาน -การจัดสถานที่จอดรถสําหรับวิทยากร -โสตทัศนูปกรณที่ใชในการฝกอบรม -การจัดเลี้ยงเครื่องดื่มในพิธีเปด-ปดและระหวางฝกอบรม -การจัดพิมพเอกสาร ฯลฯ 11. จัดทํากําหนดการพิะเปดการฝกอบรม 12. ทําหนังสือเชิญวิทยากร และหนังสือขออนุญาตจากผูบังคับบัยชาของวิทยากร พรอมทั้ง รายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตร การฝกอบรม รายชื่อผูเขารับการอบรม แบบประเมินผลการอบรมโดยวิทยากร 13. ทําหนังสือถึงหนวยงาน เพื่อขออนุญาตเขาดูงานในหนวยงานนั้น 14. เตรียมรางคํากลาวรายงาน คํากลาวในพิธีการเปดการฝกอบรม 15. ทําหนังสือเชิญหัวหนาหนวยงานเปนผูกลาวรายงานในพิธีการเปดการฝกอบรม(ควรสงลวงหนาประมาณ 1 สัปดาห) 16. ทําหนังสือเชิญผูมีเกียรติมารวมในพิะเปดการฝกอบรมพรอมทั้งแนบกําหนดการพิธีเปด 17. จัดปายตาง ๆ คือ -ปายวิทยากร(ตั้งโตะ) -ปายชื่อผูเขารับการฝกอบรม(ตั้งโตะ ติดเสื้อ) -ปายลงทะเบียน -ปายบอกทางมายังหองฝกอบรม 18. เตรียมแฟมสําหรับผูเขารับการฝกอบรม ประกอบดวย -กําหนดการพิธีเปดการฝกอบรม -รายละเอียดโครงการ -เอกสารพื้นฐาน -กระดาษจดบันทึก -รายชื่อผูเขารับการอบรม 19. เตรียมแฟมลงทะเบียน แฟมเซ็นชื่อ 20. เตรียมวุฒิบัตร 21. เตรียมการทั่วไปสําหรับวันเปดการฝกอบรม -สถานที่ ไดแก โตะหมูบุชา โตะ เกาอี้ ไมโครโฟน ดอกไม ธูปเทียน -ตอนรับประธาน ผูมีเกียรติ ผูเขารับการฝกอบรม -รับลงทะเบียน -การเลี้ยงน้ําชา -เตรียมสําเนารางคํากลาวรายงาน และคํากลาวในพิธีเปดการฝกอบรม
15.
-สงรางคํากลาวถึงประธานและผูกลาวรายงานกอนวันพิธีเปด 1 วัน 22.
เรียนตเอนประธานและผูกลาวรายงานกอนวันพิธีเปด การดําเนินการระหวางฝกอบรม 1. จัดเตรียมแฟมเซ็นชื่อประจําวัน 2. จัดเตรียมเอกสารที่จะแจกแตละวันและกระดาษบันทึก 3. จัดเตรียมสถานที(จัดโตะ เปลี่ยนปายชื่อวิทยากร เปลี่ยนปายชื่อผูเขารับการฝกอบรม) โสตทัศนูปกรณ(เครื่องขยาย ่ เสียง เครื่องฉายภาพขามศีรษะแผนใส ที่เขียนแผนใสฯลฯ) 4. เตือนวิทยากรกอนการบรรยายลวงหนา 1 สัปดาห 5. เตรียมเครื่องดื่มสําหรับวิทยากรและผูเขารับการฝกอบรม 6. เตรียมรถรับ-สงวิทยากรหรือสถานที่จอดรถสําหรับวิทยากร 7. เตรียมวิทยากรแทนหรือจัดกิจกรรมทดแทน ในกรณีวิทยากรไมมา 8. ตอนรับ อํานวยความสะดวก สงวิทยากร 9. แนะนําและขอบคุณวิทยากร 10. จัดเตรียมเงินสมนาคุณวิทยากร 11. อํานวยความสะดวกใหแกผูเขารับการฝกอบรม 12. สังเกตุการฝกอบรมตลอดระยะเวลาการฝกอบรมตลอดจนดูแลเวลาใหเปนไปตามกําหนดการ 13. แจกแบบประเมินผล รวบรวมผลจากการประเมิน เพื่อทําการวิเคราะหและปรับปรุงแกไข 14. จัดทํากําหนดการพิธีปดการฝกอบรม 15. จัดเตรียมวุฒิบัตร และเสนอเซ็นลวงหนา 16. รางคํากลาวรายงานและคํากลาวปดการฝกอบรม 17. ทําหนังสือเชิญประธานปกการฝกอบรม และแจกวุมิบัตรพรอมทั้งแนบคํากลาวปดการฝกอบรม และกําหนดการพิธีปด การฝกอบรม 18. ทําหนังสือเชิญวิทยากรและผูมีเกียรติในพิธีปดการฝกอบรมพรอมทั้งแนบกําหนดการพิธีปดการฝกอบรม 19. ทําหนังสือขอบคุณวิทยากรและหนวยงานที่ใหการอนุเคราะหชวยเหลือตาง ๆ 20. ทําหนังสือสงตัวผูเขารับการฝกอบรมกลับคืนตนสังกัด 21. เตรียมการทั่วไป สําหรับวันปดการฝกอบรม(กิจกรรมสวนใหญจะคลายคลึงกับวันเปดการฝกอบรม) 22. จัดเตรียมแบบทดสอบหลังการฝกอบรม แบบประเมินผลโครงการ และใหผูรับการฝกอบรมประเมินผลในวันสุดทาย ของการฝกอบรม ระยะหลังการฝกอบรม 1.สงหนังสือขอบคุณวิทยากรและหนวยงานที่เกี่ยวของ 2.สงหนังสือสงตัวผูเขารับการฝกอบรมกลับคืนตนสังกัด 3.รวบรวมและวิเคราะหผลการฝกอบรม 4.รายงานผลการฝกอบรมตอฝายบริหาร
16.
5.ติดตามผลการฝกอบรม
6.รวบรวมและวิเคราะหผลที่ไดจากการติดตาม และทํารายงานเสนอตอฝายบริหาร 7.จัดการเรื่องการเงิน โดยนําหลักฐานการจายเงินตาง ๆ ในโครงการมอบใหฝายการเงิน 8.เปนตัวกลางในการติดตอประสานงานระหวางผูรับการฝกอบรมตอไป 9.จัดทําเนียบรุนผูเขารับการฝกอบรม หมายเหตุ แผนการดําเนินการฝกอบรมนี้เสนอเปนเพียงตัวอยางหรือแนวทางเทานั้น ซึ่งผูดําเนินการฝกอบรมและผูที่ เกี่ยวของสามารถนําไปปรับมใชไดตามความเหมาะสม ประโยชนของการฝกอบรม ขอสรุปของการจัดการฝกอบรมอาจนําเสนอไดโดยประโยชนที่เกิดขึ้นในระดับตาง ๆ ทั้งตอบุคลากร หนวยงานและผูที่ เกี่ยวของอื่น ๆ ดังนี้ ประโยชนตอหนวยงาน 1. เพื่อเพิ่มรายไดและผลกําไรของหนวยงาน 2. เพื่อลดคาใชจายหรือเพิ่มประสิทธิภาพใหแกหนวยงาน 3. เพื่อชวยใหเจาหนาที่หรือพนักงาน สามารถขยายงานไดอยางตอเนื่องทั้งในแนวตั้งและแนวนอน 4. เพื่อปองกันปญหาโดยการเสริมสรางความรู ควงามเขาใจกับบุคลากรเพื่อหลีกเลี่ยงปญหาระหวางการปฏิบัติงานได 5. เปนกรรมวิธีที่กอใหเกิดความสามัคคีของบุคลากรที่ทํางานในหนวยงานเดียวกัน มีการแลกเปลี่ยนประสบการณืซึ่ง กันและกันชวยใหเกิดความเขาใจกันมทากยิ่งขึ้น ประโยชนตอหัวหนางาน 1. ทําใหผลงานรวมของหนวยงานสูงสุดทั้งปริมาณและคุณภาพ 2. ลดคาใชจายในการตรวจสอบ การควบคุมและการทํางานแทนผูบังคับบัญชา 3. ทําใหผูบังคับบัญชาระดับสูงมีความไววางใจในความสามารถในการบริหารงาน ประโยชนตอผูเขารับการอบรม 1. เสริมสรางความรูใหม ๆ ที่ทันสมัยและสรางวิสัยทัศน 2. พัฒนาบุคลิกภาพของตนเองและปรับปรุงวิธีการปฏิบัติงานใหเหมาะสมกับภารกิจที่ตองปฏิบัติ 3. สามารถปฏิบัติงานตามที่ไดรับมอบหมายไดทั้งในเชิงปริมาณและคุรภาพ 4. เสริมสรางขวัญกําลังใจและความเชื่อมั่นในตนเอง มีความพรอมในการปฏิบัติงานสูง 5. เกิดความมุมานะพยายามพัฒนางานเพื่อความกาวหนาในอนาคต(ตําแหนงงาน)
Jetzt herunterladen