Weitere ähnliche Inhalte
Ähnlich wie เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
Ähnlich wie เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (20)
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
- 2. ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร
• ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
1.ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ปัจจุบันเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อ สารมีบทบาทต่ อชี วิ ต
ประจาวันเป็ นอย่ างมาก เช่ น มีการใช้ คอมพิวเตอร์ ในการทางาน ใช้ อนเตอร์ เน็ตเพือสืบค้นข้ อมูล หรือรับ – ส่ งข้ อมูล
ิ ่
ระหว่างกัน ตลอดจนใช้ โทรศัพท์ เคลือนที่ (Mobile Phone) หรือโทรศัพท์ มือถือในการติดต่ อสื่อสารองค์กรทั้ง
่
ภาครัฐ แ ล ะ เ อ ก ช น ไ ด้ นาเ ท ค โ น โ ล ยีสารสนเทศ และการสื่อสารเข้ ามาใช้ งานในทุกระดับชั้นขององค์กร เช่ น งาน
ด้ านบริหาร การจัดการ และการปฏิบัตการ รัฐบาลได้ เห็นความสาคัญของระบบเทคโนโลยีทางด้ านคอมพิวเตอร์ และ
ิ
ระบบสื่อสาร จึงประกาศให้ ปี พ.ศ. 2538 เป็ นชีวตความเป็ นอยู่ในปัจจุบัน มีความเกียวข้ องกับเทคโนโลยีสารสนเทศและ
ิ ่
การสื่อสารต่ างๆมากมาย ปี แห่ งเทคโนโลยีสารสนเทศไทยมีการลงทุนเกียวกับโครงการพืนฐานทางด้ านเทคโนโลยี
่ ้
สารสนเทศ และการสื่อสารเป็ นจานวนมาก เช่ น มีการขยายระบบโทรศัพท์ และขยายเครือข่ ายการสื่อสาร มี การสร้ าง
ระบบฐานข้ อมูล ทะเบียนราษฎร์ และการสร้ างระบบจัดเก็บภาษีอากรด้ วยคอมพิวเตอร์ การเรียนทางไกลผ่านทาง
เครือข่ ายคอมพิวเตอร์
- 3. • 2. การสังซื้ อสิ นค้าและชาระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ การเบิกเงิน
่
ด้วยบัตรเอทีเอ็มจากตูเ้ อทีเอ็มของธนาคารต่างๆ คาว่า “เทคโนโลยีสารสนเทศ
(Information Technology : IT) เรี ยกย่อว่า “ไอที” ประกอบด้วยคาว่า
“เทคโนโลยี” และคาว่า “สารสนเทศ” นามารวมกันเป็ น “เทคโนโลยีสารสนเทศ” คา
ว่าเทคโนโลยี
• 3. สารสนเทศและการสื่ อสาร (Information and Communication
Technology : ICT) หรื อเรี ยกย่อว่า “ไอซี ที” ประกอบด้วยคาที่มีความหมาย
ดังนี้ – เทคโนโลยี (Technology) หมายถึง การนาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์
มาประยุกต์ในการพัฒนาเครื่ องมือ เครื่ องใช้ อุปกรณ์ วิธีการหรื อกระบวนการ เพื่อ
ช่วยในการหรื อแก้ปัญหาต่างๆทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อบุคคล กลุ่มบุคคล หรื อ
องค์กร – สารสนเทศ (Information) หมายถึง ผลลัพธ์ที่เกิดจากการนาข้อมูลมา
ผ่านกระบวนการต่างๆอย่างมีระบบ จนได้สิ่งที่เป็ นประโยชน์ มีคุณค่าและสาระ หรื อ
มีเนื้อหาและรู ปแบบที่เหมาะสมตามความต้องการของผูใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ
้
หมายถึง การนาความรู ้ทางด้านวิทยา
- 4. • ศาสตร์ มาประยุกต์ใช้ เพื่อสร้ างหรื อจัดการกับ สารสนเทศอย่างเป็ นระบบและรวดเร็ ว โดย
อาศัยเทคโนโลยีทางด้ านคอมพิวเตอร์ ทังนี ้เพื่อให้ เกิดประโยชน์ตอบุคคล กลุมบุคคล หรื อ
้ ่ ่
องค์กร ทั ้งนี ้เทคโนโลยีสารสนเทศยังต้ องพึงพาเทคโนโลยีด้านการสื่อสารและโทร คมนาคม
่
ซึงเป็ นวิธีการที่จะส่งข้ อมูลจากที่หนึงไปอีกที่หนึง เพื่อการแลกเปลี่ยนหรื อเผยแพร่ข้อมูลและ
่ ่ ่
สารสนเทศได้ อย่างรวดเร็ ว ทันต่อการใช้ ประโยชน์ ผ่านอุปกรณ์สื่อสาร เช่น วิทยุ โทรศัพท์
เครื่ องโทรสาร คอมพิวเตอร์ คลื่นวิทยุ และดาวเทียม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ตามแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารประเทศไทย พ.ศ. 2545 – 2549
หมายถึง เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้ องกับข่าวสารข้ อมูล และการสื่อสารนับตังแต่การสร้ าง การนา
้
มาวิเคราะห์หรื อการประมวลผล การรับและการส่งข้ อมูล การจัดเก็บ และการนาข้ อมูล
กลับไปใช้ งานใหม่ ระบบการสื่อสารและโทรคมนาคมที่เชื่อมโยงอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ทวมุม ั่
โลก
• นางสาวเจนจิรา ศรี คงคา ม4/10 เลขที่ 12
- 5. องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
• องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
• มี 5 องค์ประกอบ ได้ แก่ ฮาร์ ดแวร์ ซอฟต์ แวร์ ข้ อมูล บุคลากร และขั้นตอนการปฏิบัตงาน ิ
• ฮาร์ ดแวร์ เป็ นองค์ประกอบสาคัญ หมายถึง เครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ รอบข้ าง
• ซอฟต์ แวร์ หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เป็ นชุดคาสั่งที่สั่งให้ ฮาร์ ดแวร์ ทางาน
• ข้ อมูล เป็ นส่ วนที่จะนาไปจัดเก็บในเครื่องคอมพิวเตอร์
• บุคลากรเป็ นผู้ที่มีส่วนเกียวข้ องกับงานคอมพิวเตอร์
่
• ขั้นตอนการปฏิบตงาน เป็ นสิ่งที่จะต้ องเข้ าใจเพือให้ ทางานได้ ถูกต้ องเป็ นระบบ
ั ิ ่
• 1. ฮาร์ ดแวร์
• ฮาร์ ดแวร์ เป็ นองค์ประกอบสาคัญของระบบสารสนเทศ หมายถึง เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ รอบข้ าง รวมทั้ง
อุปกรณ์ สื่อสารสาหรับเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ เข้ าเป็ นเครือข่ าย เช่ น เครื่องพิมพ์ เครื่องกราดตรวจเมื่อพิจารณาเครื่อง
คอมพิวเตอร์ สามารถแบ่ งเป็ น 3 หน่ วย คือ
• หน่ วยรับข้ อมูล (input unit) ได้ แก่ แผงแป้ นอักขระ เมาส์
• หน่ วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU)
• หน่ วยแสดงผล (output unit) ได้ แก่ จอภาพ เครื่องพิมพ์
- 7. • 2 . ซอฟต์ แวร์
• ซอฟต์ แวร์ หรื อโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เป็ นองค์ ประกอบที่สาคัญประการที่สอง ซึ่งก็
คือลาดับขันตอนของคาสั่งที่จะสั่งงานให้ ฮาร์ ดแวร์ ทางาน เพื่อประมวลผลข้ อมูลให้
้
ได้ ผลลัพธ์ ตามความต้ องการของการใช้ งาน ในปั จจุบันมีซอฟต์ แวร์ ระบบ
ปฏิบัตงาน ซอฟต์ แวร์ ควบคุมระบบงาน ซอฟต์ แวร์ สาเร็จ และซอฟต์ แวร์ ประยุกต์
ิ
สาหรั บงานต่ างๆ ลักษณะการใช้ งานของซอฟต์ แวร์ ก่อนหน้ านี ้
• ซอฟต์ แวร์ คือ ชุดคาสั่งที่ส่ ังงานคอมพิวเตอร์ แบ่ งออกได้ หลายประเภท เช่ น
• 1. ซอฟต์ แวร์ ระบบ คือ ซอฟต์ แวร์ ท่ ใช้ จัดการกับระบบคอมพิวเตอร์ และ
ี
อุปกรณ์ ต่างๆ ที่มีอยู่ในระบบ เช่ น ระบบปฏิบัตการวินโดว์ ส ระบบปฏิบัตการดอส
ิ ิ
ระบบปฏิบัตการยูนิกซ์
ิ
• 2. ซอฟต์ แวร์ ประยุกต์ คือ ซอฟต์ แวร์ ท่ พฒนาขึนเพื่อใช้ งานด้ านต่ างๆ ตาม
ี ั ้
ความต้ องการของผู้ใช้ เช่ น ซอฟต์ แวร์ กราฟิ ก ซอฟต์ แวร์ ประมวลคา
ซอฟต์ แวร์ ตารางทางาน ซอฟต์ แวร์ นาเสนอข้ อมูล
- 8. • 3. ข้ อมูล
• ข้ อมูล เป็ นองค์ ประกอบที่สาคัญอีกประการหนึ่งของระบบสารสนเทศ อาจจะเป็ นตัวชี้ความสาเร็จหรือ
ความล้ มเหลวของระบบได้ เนื่องจากจะต้ องมีการเก็บข้ อมูลจากแหล่ งกาเนิด ข้ อมูลจะต้ องมีความถูกต้ อง
มีการกลันกรองและตรวจสอบแล้ วเท่ านั้นจึงจะมีประโยชน์ ข้ อมูลจาเป็ นจะต้ องมีมาตรฐาน โดยเฉพาะ
่
อย่ างยิงเมื่อใช้ งานในระดับกลุ่มหรือระดับองค์ กร ข้ อมูลต้ องมีโครงสร้ างในการจัดเก็บที่เป็ นระบบระเบียบ
่
เพือการสื บค้ นที่รวดเร็วมีประสิ ทธิภาพ
่
• 4. บุคลากร
• บุคลากรในระดับผู้ใช้ ผู้บริหาร ผู้พฒนาระบบ นักวิเคราะห์ ระบบ และนักเขียนโปรแกรม เป็ น
ั
องค์ ประกอบสาคัญในความสาเร็จของระบบสารสนเทศ บุคลากรมีความรู้ ความสามารถทางคอมพิวเตอร์
มากเท่ าใดโอกาสที่จะใช้ งานระบบสารสนเทศและระบบคอมพิวเตอร์ ได้ เต็มศักยภาพและคุ้มค่ ายิงมากขึน
่ ้
เท่ านั้น โดยเฉพาะระบบสารสนเทศในระดับบุคคลซึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์ มีขีดความสามารถมากขึน ทาให้
้
ผู้ใช้ มีโอกาสพัฒนาความสามารถของตนเองและพัฒนาระบบงานได้ เองตามความต้ องการ สาหรับระบบ
สารสนเทศในระดับกลุ่มและองค์ กรที่มีความซับซ้ อนจะต้ องใช้ บุคลากรในสาขาคอมพิวเตอร์ โดยตรงมา
พัฒนาและดูแลระบบงาน
- 9. • 5. ขั ้นตอนการปฏิบติงาน
ั
• ขันตอนการปฏิบติงานที่ชดเจนของผู้ใช้ หรื อของบุคลากรที่เกี่ยวข้ องก็เป็ นเรื่ องสาคัญอีก
้ ั ั
ประการหนึง เมื่อได้ พฒนาระบบงานแล้ วจาเป็ นต้ องปฏิบติงานตามลาดับขันตอนในขณะที่
่ ั ั ้
ใช้ งานก็จาเป็ นต้ องคานึงถึงลาดับขั ้นตอนการปฏิบติของคนและความสัมพันธ์กบเครื่ อง ทัง้
ั ั
ในกรณีปกติและกรณีฉกเฉิน เช่น ขันตอนการบันทึกข้ อมูล ขันตอนการประมวลผล ขันตอน
ุ ้ ้ ้
ปฏิบติเมื่อเครื่ องชารุดหรื อข้ อมูลสูญหาย และขันตอนการทาสาเนาข้ อมูลสารองเพื่อความ
ั ้
ปลอดภัย เป็ นต้ น สิงเหล่านี ้จะต้ องมีการซักซ้ อม มีการเตรี ยมการ และการทาเอกสารคูมือ
่ ่
การใช้ งานที่ชดเจน
ั
•
• นางสาว ณัฐสุดา พูนพ่วง ม.4/10 เลขที่ 22
- 10. ประโยชน์และตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสื่ อสาร
• ประโยชน์ และตัวอย่ างของการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร
• 1.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสารถูกนามาใช้ เพืออานวยความสะดวกในการบริหารด้ าน
่
• การบริหารด้ านการศึกษา เช่ น ระบบการลงทะเบียน และระบบการจัดตารางสอน นอกจากนียงใช้ เป็ น
้ั
เครื่องมือในการเพิมโอกาสทางด้ านการศึกษาและเพิมประสิ ทธิภาพการเรียนการสอน การศึกษา
่ ่
ทางไกลผ่ านทางดาวเทียม บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ยงช่ วยเสริม ประสิ ทธิภาพการเรียนการสอนในวิชา
ั
ต่ างๆ บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์
• 2. เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่ อสารถูกนามาใช้ เริ่มตั้งแต่ การทาทะเบียนคนไข้ การรักษาพยาบาล
ทั่วไป ตลอดจนการวินิจฉัยและรักษาโรคต่ างๆ ได้ อย่ างรวดเร็วและแม่ นยา นอกจากนียงใช้ ในห้ องทดลอง
้ั
การศึกษาและการวิจัยทางการแพทย์ งานศึกษาโมเลกุลสารเคมี สามารถค้ นคว้ าข้ อมูลทางการแพทย์ รักษา
คนไข้ ด้วยระบบการรักษาทางไกลตลอดเวลาผ่ านเครือข่ ายการสื่ อ สารเครื่องเอกซเรย์ คอมพิวเตอร์ ที่ เ รี ย
กว่ า อี เอ็ ม ไอสแกนเนอร์ (EMI scanner) ถูกนามาใช้ ถ่ายภาพสมองมนุษย์ เพือตรวจหาความผิ ด
่
ปกติ ใ นสมอง และต่ อ มาได้ พั ฒ นาให้ ถ่ ายภาพหน้ าตัด ได้ ทั่วร่ างกาย เรียกชื่อว่ า ซีเอที (CAT-
Computerized Axial Tomographyscanner: CAT scanner) เป็ นต้ น
- 12. • 3. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารถูกนามาใช้ ประโยชน์ในด้ าน
การเกษตรกรรม เช่น การจัดทาระบบข้ อมูลเพื่อการเกษตรและ
พยากรณ์ผลผลิตด้ านการเกษตร นอกจากนี ้ ยังช่วยพัฒนา
• ความก้ าวหน้ าทางด้ านอุตสาหกรรม การประดิษฐ์ ห่นยนต์เพื่อใช้ ทางาน
ุ
บ้ าน และหุ่นยนต์เพื่องานอุตสาหกรรมที่ต้องเสี่ยงภัยและเป็ นอันตราย
ต่อสุขภาพ รวมถึงงานที่ต้องทาช้ าๆ เช่น โรงงานประกอบรถยนต์ และ
โรงงานแบตเตอรี่ ปั จจุบนเทคโนโลยีสารสนเทศการสื่อสารเข้ ามามี
ั
บทบาทอย่างมากในการผลิตและควบคุมคุณภาพสินค้ า การส่งสินค้ า
ตามใบสังสินค้ า การควบคุมวัสดุคงคลัง และการคิดราคาต้ นทุนสินค้ า
่
- 13. • 4. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารถูกนามาใช้ ในด้ านการเงินและการ
ธนาคาร โดยใช้ ช่วยงานด้ านการบัญชี การฝากถอนเงิน โอนเงิน บริ จาค
สินเชื่อ แลกเปลี่ยนเงินตรา บริ การข่าวสารการธนาคาร การใช้ คอมพิวเตอร์
ด้ านการเงินการธนาคารที่ร้ ูจกและนิยมใช้ กนทัวไป เช่น บริ การฝากถอนเงิน
ั ั ่
การโอนเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ ทาให้ เกิดความสะดวกรวดเร็ วต่อการดาเนิน
ธุรกิจต่างๆ
• 5. มี การใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกัน อย่างแพร่หลาย เช่น ใช้
ในการควบคุมประสานงาน วงจรสื่อสารทหาร การแปลรหัสลับในงานจาร
กรรมระหว่างประเทศ การส่งดาวเทียมและการคานวณวิ ถี การโคจรของ
จรวดไปสู่ อวกาศสานักงานตารวจแห่งชาติ ของประเทศไทยมรศูนย์ประมวล
ข่าวสาร มีระบบจัดทาทะเบียนปื น ทะเบียนประวัตอาชญากร ทาให้ เกิด
ิ
ความสะดวกและรวดเร็ วในการสืบค้ นข้ อมูลเพื่อการสืบสวนคดีตางๆ
่
- 14. • 6. มีการใช้ เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารในส่วนที่ เกี่ยวการ
เดินทาง เช่น การเดินทางโดยรถไฟ มีการเชื่อมโยงข้ อมูลการจองที่นงไป
ั่
ยังทุกสถานี ทาให้ สะดวกต่อผู้โดยสารการเช็คอินของสายการบิน ได้ จด ั
ทาเครื่ องมือที่สะดวกต่อลูกค้ า ในรูปแบบของการเช็คอินด้ วยตนเอง
• 7. มีการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการออกแบบ หรื อจา
ลองสภาวการณ์ตางๆ เช่น การรับแรงสันสะเทือนของอาคารเมื่อเกิด
่ ่
แผ่นดินไหว โดยการคานวณและแสดงภาพสถานการณ์ ใกล้ เคียงความ
จริงตัวอย่างซอฟต์แวร์ คานวณการเกิดแผ่นดินไหว
- 15. • 8. องค์กรในภาคธุรกิจใช้ ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ในการบริ หารจัดการ เพื่อช่วยเพิ่มความยืดหยุนให้ กับองค์กรในการทางาน
่
ทาให้ การประสานงานหรื อการทากิจ กรรมต่างๆ ของแต่ละหน่วยงานใน
องค์กร หรื อระหว่างองค์กรเป็ นไปได้ อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ ้น นอกจากนี ้
ยังสามารถนามาใช้ ปรับปรุงการให้ บริ การกับลูกค้ าซึงเป็ นการสร้ างภาพพจน์
่
ที่ดีขององค์กรต่อลูกค้ าทัว ไปสิง เหล่ า นี ้นับเป็ นการสร้ างโอกาสความ
่ ่
ได้ เปรี ยบในการแข่งขันให้ กบองค์กร เช่น การให้ บริ การชาระค่าสินค้ า ผ่าน
ั
จุดชาระค่าบริ การการสัง ซื ้อสินค้ า ทางอินเทอร์ เน็ต และการตรวจสอบราคา
่
สินค้ าผ่านเครื่ องอ่านราคาสินค้ า
• นางสาวณัฐณิชา กุลพัฒนานันท์ ม.4/10 เลขที่ 6
- 16. แนวโน้มการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร
แนวโน้มการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร
1.4.1 ด้านอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร เมื่อพิจารณาเครื อข่ายการสื่ อสาร
ทัวไปจากอดีตจนถึงปั จจุบน เห็นได้ชดว่ามนุษย์ใช้อุปกรณ์การสื่ อสารแบบพกพามาก
่ ั ั
ขึ้นเรื่ อยๆ เริ่ มจากวิทยุเรี ยกตัว (pager) ซึ่ งเป็ นเครื่ องรับข้อความ มาเป็ น
โทรศัพท์เคลื่อนที่ อุปกรณ์สื่อสารชนิดนี้ได้ถูกพัฒนาจนสามารถใช้งานด้านอื่นๆได้
นอกจากการพูดคุยธรรมดา โทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นใหม่สามารถใช้ถ่ายรู ป ฟังเพลง ฟัง
วิทยุ ดูโทรทัศน์ บันทึกงานสั้นๆ โทรศัพท์บางรุ่ นมีลกษณะเป็ นเครื่ องช่วยงานส่ วน
ั
บุคคล (Personal Digital Assistant : PDA) ซึ่ งสามารถเชื่อต่อกับ
อินเทอร์เน็ตได้ อีกทั้งยังมีหน้าจอแบบสัมผัส ทาให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น บาง
รุ่ นมีอุปกรณ์สไตลัส (stylus) คือใช้ปากกาป้ อนข้อมูลทางหน้าจอ บางรุ่ นสามารถ
สังการด้วยเสี ยง ตัวอย่างอุปกรณ์สื่อสารและสารสนเทศแบบพกพา
่
- 18. • ในอนาคตอันใกล้ มนุษย์จะมีอปกรณ์ที่ทนสมัยใช้ กนมากขึ ้น นอกเหนือจาก
ุ ั ั
การพูดคุยแบบเห็นหน้ าผ่านอินเทอร์ เน็ต มนุษย์สามารถพูดคุยแบบเห็นหน้ า
ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ทาให้ สามารถติดต่อกันได้ ด้วยค่าใช้ จ่ายที่ถกลงู
สามารถส่งข้ อความ ภาพ และเสียง ได้ โดยง่ายดาย สะดวกรวดเร็ ว อีกทังยัง ้
ค้ นหาข้ อมูลด้ วยภาษาที่เป็ นธรรมชาติมากขึ ้นด้ วยเว็บรุ่นที่สาม ( Web
3.0 ) แทนที่จะเป็ นการใช้ คาหลักเหมือนดังที่ใช้ ในปั จจุบน ตัวอย่างการใช้
ั
งานอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แบบพกพารุ่นใหม่
• ดังนันอุปกรณ์สาหรับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในอนาคตมี
้
แนวโน้ มเป็ นดังนี ้คือ มีขนาดเล็กลง พกพาได้ ง่าย แต่มีประสิทธิภาพสูงขึ ้น
เช่น เก็บข้ อมูลได้ มากขึ ้น ประมวลผลได้ เร็ วขึ ้น ใช้ งานได้ หลากหลายมากขึ ้น
โดยมีการผนวกอุปกรณ์หลายๆอย่างไว้ ในเครื่ องเดียว ( all-in-one ) ที่
รูปที่ 1.25 ตัวอย่างอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในอนาคต
- 19. • สาคัญอุปกรณ์เหล่านี้ตองใช้งานง่ายขึ้น รวมถึงสามารถสังงานด้วยเสี ยงได้ นอกจากนี้ ยังมีระบบ
้ ่
รักษาความปลอดภัยที่ดีข้ ึน โดยอาศัยลายนิ้วมือหรื อจอม่านตา แทนการพิมพ์รหัสแบบในปั จจุบน ั
ตัวอย่างอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสารในอนาคต
1.4.2 ด้านระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ ระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ในอดีตมักเป็ นระบบที่ใช้
คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เชื่อมต่อตรงเพียงชุดเดียว ( stand alone )
• ต่อมามีการเชื่อต่อคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันภายในองค์กร เพื่อทาให้สามารถใช้ขอมูลร่ วมกัน หรื อ
้
ใช้เครื่ องพิมพ์ร่วมกัน จนเกิดเป็ นระบบรับและให้บริ การ หรื อเรี ยกว่าระบบรับ-ให้บริ การ (
client-server system ) โดยมีเครื่ องให้บริ การ ( server ) และเครื่ องรับบริ การ (
client )รู ปที่ 1.26 คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เชื่อมต่อตรงเพียงชุดเดียว ( stand alone )
• การให้บริ การบนเว็บก็นาหลักการของระบบรับ-ให้บริ การมาใช้ช่วยให้การทางานง่าย สะดวก
รวดเร็ว เพราะสามารถทางานจากที่ใดก็ได้โดยผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยมีเว็บเซิ ร์ฟเวอร์ (
web server ) เป็ นเครื่ องให้บริ การ
- 20. • เมื่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็ นไปอย่างแพร่ หลาย การพัฒนาระบบเครื อข่ายเพื่อให้
ผูใช้สามารถสื่ อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้โดยตรง โดยที่เครื่ องให้บริ การมีหน้าที่
้
เพียงแค่เก็บตาแหน่งของเครื่ องผูใช้งานที่มีขอมูลนั้นๆอยู่ เพื่อให้เครื่ องอื่นสามารถ
้ ้
่ ้ ่
ทราบที่อยูที่มีขอมูลดังกล่าว และเข้าถึงข้อมูลนั้นได้ เรี ยกระบบแบบนี้วาเครื อข่าย
ระดับเดียวกัน ( Peer-to-Peer network: P2P network)
• ปั จจุบนมีการใช้แลนไร้สาย ( wireless LAN ) ในสถาบันการศึกษา และองค์กร
ั
หลายแห่ง การให้บริ การแลนไร้สาย หรื อ ( Wi-Fi ) ตามห้างสรรพสิ นค้า ร้านขาย
เครื่ องดื่ม หรื อห้องรับรองของโรงแรมใหญ่ ภายใต้ความร่ วมมือของผูให้บริ การ ทาให้
้
นักธุรกิจสามารถดาเนินธุรกรรมผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายได้ หรื อบางราย
อาจซื้ อบริ การอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายผ่านทางโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ยงเริ่ มมีการ
ั
ใช้เทคโนโลยีติดตามตาแหน่งรถด้วยจีพีเอส ( Global Positioning
System: GPS ) กับรถแท็กซี่ เพื่อความปลอดภัยทั้งผูโดยสารและผูขบรถ
้ ้ั
- 21. • 1.4.3 ด้านเทคโนโลยี ระบบทางานอัตโนมัติที่สามารถตัดสิ นใจได้เองจะเข้ามา
แทนที่มากขึ้น เช่น ระบบแนะนาเส้นทางจราจร ระบบจอดรถ ระบบตรวจหา
ตาแหน่งของวัตถุ ระบบควบคุมความปลอดภัยภายในอาคาร ระบบทางาน
อัตโนมัติเช่นนี้ อาจกลายเป็ นระบบหลักในการดาเนินการของหน่วยงานต่างๆ โดย
เข้ามาแทนที่การทางานของมนุษย์ มีการเชื่อมต่อเครื อข่ายอย่างกว้างขวางไปยัง
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากกว่าที่เป็ นอยูในปั จจุบน ตัวอย่างระบบจอดรถอัตโนมัติ
่ ั
• นางสาว เบญญา เนตรทิพย์ ม.4/10 เลขที่ 15
- 22. ความเปลี่ยนแปลงจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการ
สื่ อสาร
• ความเปลี่ยนแปลงจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร
• ความก้าวหน้าของอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสารเป็ นไปอย่างรวดเร็ ว เพื่อ
สนองความต้องการด้านต่างๆ ของผูใช้ในปั จจุบนซึ่ งมีผใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศและ
้ ั ู้
การสื่ อสารทัวโลกประมาณพันล้านคน และเพิ่มขึ้นเรื่ อยๆ ทุกปี ผูใช้สามารถใช้งานอุปกรณ์
่ ้
ดังกล่าวได้ทุกที่ ทุกเวลา จึงทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ทั้งที่เกิดประโยชน์และโทษ
เช่น
• 1) ด้านสังคม สภาพเหมือนจริ ง การใช้อินเทอร์เน็ตเชื่อมโยงการทางานต่างๆ จนเกิดเป็ น
สังคมที่ติดต่อผ่านทางอินเทอร์เน็ต หรื อที่รู้จกกันว่า ไวเบอร์สเปซ (cyber space) ซึ่ งมี
ั
กิจกรรมต่างๆ เช่น การพูดคุย การซื้ อสิ นค้า และการบริ การ การทางานผ่านเครื อข่าย
คอมพิวเตอร์ทาให้เกิดสภาพที่เหมือนจริ ง (virtual) เช่น เกมเสมือนจริ ง ห้องสมุดเสมือน
จริ ง พิพิธภัณฑ์เสมือนจริ ง ห้องประชุมเสมือนจริ ง และที่ทา
- 23. • งานเสมือนจริ ง ซึ่งทาไห้ลดเวลาในการเดินทางและสามารถใช้งานได้ทุสาหรับเกม
ั ้
เสมือนจริ ง อาจสร้างปั ญหาให้กบผูใช้ท่ีไม่สามารถแยกแยะระหว่างเกมหรื อชีวตจริ ง อาจ
ิ
ใช้ความรุ นแรงเลียนแบบเกม และเกิดปั ญหาอาชญากรรมตามที่เป็ นข่าวในสังคมปั จจุบน ั
การใช้เงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Cash) การใช้เงินตราจะเริ่ มเปลี่ยนรู ปแบบเป็ นการใช้เงิน
อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ทาให้พกเงินสดน้อยลง เพิมความสะดวกในการซื้อสิ นค้าและการ
่
บริ การต่างๆ ด้วยบัตรที่มีลกษณะเป็ นบัตรสมาร์ต หรื อสมาร์ตการ์ด (smart card)
ั
ั
ดังรู ปที่ 1.32 ซึ่งบัตรใบเดียวสามารถใช้ได้กบธุรกรรมหลายประเภท ตั้งแต่เป็ นบัตร
ประจาตัวประชาชน ใบอนุญาตขับขี่ บัตรประจาตัวพนักงานหรื อบัตรประจาตัวนักเรี ยน
นักศึกษา บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต ตลอดจนบัตรสมาชิกห้างสรรพสิ นค้า ร้านค้า และ
ร้านอาหารต่างๆ
- 24. • เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ เงินที่เปลี่ยนแปลงไปดังกล่าว ข้ อมูลส่วนบุคคลจะ
ถูกจัดเก็บไว้ ในระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ ้น อาจมีผ้ ประสงค์ร้ายลักลอบนา
ู
ข้ อมูล เช่น ชื่อ-นามสกุล เลขที่บตรประจาตัวประชาชน เบอร์ โทรศัพท์ และ
ั
รหัสที่ใช้ ในการถอนเงิน ซึงเป็ นข้ อมูลส่วนบุคคลมาใช้ ในทางที่ผิด เช่น
่
ลักลอบเข้ าสูระบบฐานข้ อมูลบัญชีเงินฝากของธนาคาร เพื่อโอนเงินเข้ าบัญชี
่
ของตนเอง การโทรศัพท์มาแอบอ้ างเป็ นเจ้ าหน้ าที่ของกรมสรรพากร หลอก
ให้ ทาการโอนเงินจากบัญชีออกไปให้ โดยบอกว่าจะทาการคืนเงินภาษี ทาง
ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ตัวอย่างการก่ออาชญากรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
• บริ การนาเสนอแบบตามคาขอหรื อออนดีมานด์ (on demand) เป็ นการ
เข้ าถึงข้ อมูลตามความต้ องการของผู้ใช้ ได้ ตลอดเวลา เช่น การเลือกชม
รายการโทรทัศน์ หรื อฟั งรายการวิทยุย้อนหลังได้ ทางเว็บไซด์ แทนการ
ติดตามดูรายการโทรทัศน์ หรื อฟั งรายการวิทยุ ตามตารางที่ทางสถานี
กาหนดไว้ ลวงหน้ า
่
- 26. • การศึกษาออนดีมานด์ (education on demand) เป็ นการเปิ ด
เว็บไซต์ของสถาบันการศึกษา ณ ที่ใด เวลา ใดก็ได้ แล้วเลือกวิชาเรี ยน
บทเรี ยนได้ ซึ่งเป็ นลักษณะหนึ่งของอีเลิร์นนิง (e-Learning) ตัวอย่าง
ของการนาเสนอรายการโทรทัศน์แบบออนดีมานด์การได้รับเทคโนโลยีมาก
เกินไป (technology overlord) การพัฒนาของเทคโนโลยีเป็ นไป
อย่างต่อเนื่องและรวดเร็ ว โดยมีรูปแบบที่หลากหลาย ทาให้น่าสนใจ และ
สะดวกในการเข้าถึง สิ่ งเหล่านี้เป็ นแรงดึงดูดให้บุคคลเกิดความลุ่มหลงจน
เกิดเป็ นอาการติดเทคโนโลยี เช่น ติดการใช้โทรศัพท์มือถือ การถ่ายคลิป การ
เข้าถึงข้อมูลในอินเทอร์เน็ต การส่ งข้อความออนไลน์ การใช้อีเมล์
• เล่นเกมออนไลน์ ซึ่งอาจนาไปสู่ ปัญหาสุ ขภาพ รวมถึงการทาลายสัมพันธภาพ
ทางสังคม เช่น ครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรื อเพื่อนร่ วมงานได้ ผูติดเทคโนโลยีมี
้
อาการในลักษณะเดียวกับผูติดสิ่ งเสพติดอย่างการพนัน สุ รา หรื อยาเสพติด
้
- 27. • เริ่ มต้ นจากการแสวงหาเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างสม่าเสมอ เพิ่มระดับการใช้ งาน
เทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง จนถึงในภาวะที่ไม่สามารถหยุดการใช้ งานได้ เกิดความรู้สก ึ
กระวนกระวายใจเมื่อลืมโทรศัพท์มือถือหรื ออยูในสถานที่ที่เชื่อมต่ออินเทอร์ เน็ตไม่ได้
่
ถึงแม้ จะตระหนักถึงผลที่ตามมาเป็ นอย่างดีก็ตาม ดังนันผู้ปกครองจึงควรเอาใจใส่
้
ติดตามเทคโนโลยีให้ อยูในขอบเขตที่เหมาะสม ส่งเสริ มให้ มีการใช้ เวลาว่างในการทา
่
กิจกรรมอื่นๆ ที่เป็ นประโยชน์ แทนการใช้ เทคโนโลยีที่มากเกินไป
• 2) ด้ านเศรษฐกิจ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารส่งผลให้ เกิดสังคม
โลกาภิวฒน์(globalization) เพราะสามารถชมข่าว ชมรายการโทรทัศน์ที่จะส่ง
ั
กระจายผ่านดาวเทียมของประเทศต่างๆ ได้ ทวโลก สามารถรับรู้ขาวสารได้ ทนที ใช้
ั่ ่ ั
อินเทอร์ เน็ตในการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน ระบบเศรษฐกิจซึงแต่เดิมมีขอบเขตจากัด
่
ภายในประเทศ ก็กระจายเป็ นเศรษฐกิจโลก เกิดกระแสการหมุนเวียนแลกเปลี่ยน
สินค้ าและบริ การอย่างกว้ างขวางและรวดเร็ ว ระบบเศรษฐกิจของทุกประเทศในโลก
จึงเชื่อมโยงและผูกพันกันมากขึ ้น
- 29. • 3) ด้านสิ่ งแวดล้อม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร มีประโยชน์ใน
ด้านธรรมชาติและสิ่ งแวดล้อม เช่น ระบบป้ องกันการกัดเซาะชายฝั่ง โดยใช้
ภาพถ่ายดาวเทียม หรื อภาพถ่ายทางอากาศร่ วมกับการจดเก็บรักษาข้อมูล
ระดับน้ าทะเล ความสู งของคลื่นจากระบบเรดาร์ เป็ นการศึกษาเพื่อหาสาเหตุ
และนาข้อมูลมาวางแผนและสร้างระบบเพื่อป้ องกันการกัดเซาะชายฝั่งแต่ละ
แห่งได้อย่างเหมาะสม
• นอกจากนี้ในรถยนต์ท่ีใช้เครื่ องยนต์แบบผสม (hybrid engine) เพื่อ
รักษาสิ่ งแวดล้อมก็ตองใช้เทคโนโลยีเพื่อควบคุมให้เครื่ องยนต์ลดการเผาไหม้
้
น้ ามันเชื้อเพลิง เป็ นการช่วยลดมลภาวะจากก๊าซ-ไนโตรเจนออกไซด์
ไฮโดรคาร์บอน และก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ ที่ทาให้เกิดภาวะโลกร้อน
ตัวอย่างเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสารช่วยรักษาธรรมชาติและ
สิ่ งแวดล้อม
- 30. • ขยะ อิเล็กทรอนิกส์ เช่น เครื่ องคอมพิวเตอร์ จอภาพ คีย์บอร์ ด เมาส์ เครื่ องพิมพ์ ที่เสีย
หรื อไม่ใช้ งานแล้ ว รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ที่ถกทิ ้งเป็ นขยะ ซึงต่างจากขยะทัวไป
ู ่ ่
เช่น ถุงพลาสติก และเศษอาหาร โดยในขยะอิเล็กทรอนิกส์ชิ ้นหนึงๆ มีสวนประกอบที่เป็ น
่ ่
โลหะและพลาสติก รวมถึงวัสดุอื่นๆ ที่ประกอบกันอย่างซับซ้ อน ยากต่อการแยกออกมา
โดยเฉพาะในแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ มีรายงานพบว่าขยะเหล่านี ้นอกจากจะมีปริ มาณ
เพิ่มขึ ้นอย่างรวดเร็ วแล้ ว ยังปลดปล่อยสารพิษปะปนเข้ าสูสงแวดล้ อม การแยกชิ ้นส่วนขยะ
่ ิ่
อิเล็กทรอนิกส์แล้ วนากลับมาหลอมใช้ ใหม่ หรื อรี ไซเคิล จึงทาได้ ยากมากกว่าขยะทัวไป ่
เพราะต้ องมีขั ้นตอนวิธีที่เหมาะสม จึงต้ องมีการศึกษาอย่างละเอียดโดยผู้เชี่ยวชาญและต้ อง
จัดการอย่างมีระบบ ดังนั ้นจึงควรใช้ อปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้ ค้ มค่า จะซื ้อใหม่เมื่ออุปกรณ์
ุ ุ
นันไม่สามารถซ่อมได้ แล้ ว และไม่เปลี่ยนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บอยๆตามกระแสนิยม
้ ่
ตัวอย่างขยะอิเล็กทรอนิกส์
• นางสาว รพีพรรณ ดวงตา ม.4/10 เลขที่ 17
- 32. ตัวอย่างอาชีพทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร
• ตัวอย่างอาชีพทางด้ านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
• 1. ทาหน้ าที่บริ หารและจัดการระบบคอมพิวเตอร์ ในองค์กร โดยดูแลการติดตังและบารุง
้
รักษาระบบปฏิบติการ การติดตังฮาร์ ดแวร์ การติดตังและการปรับปรุงซอฟต์แวร์ สร้ าง
ั ้ ้
ออกแบบและบารุงรักษาบัญชีผ้ ใช้ สาหรับองค์กรขนาดเล็กเจ้ าหน้ าที่ควบคุมระบบอาจต้ อง
ู
ดูแลและบริ หารระบบเครื อข่ายด้ วย
• 2. ทาหน้ าที่บริ หารและจัดการออกแบบระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ และดูแลรักษาความ
• ปลอดภัยของระบบ เครื อข่าย ขององค์กร เช่น ตรวจสอบการใช้ งานเครื อข่ายของพนักงาน
• และติดตั ้งโปรแกรมปองกันผู้บกรุกเครื อข่าย
้ ุ
- 34. • 3. ทาหน้าที่ ซ่อม บารุ งรักษา เครื่ องคอมพิวเตอร์ ติดตั้งโปรแกรม หรื อ
ติดตั้งฮาร์ดแวร์ต่างๆ และแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดจากการใช้งานอุปกรณ์
คอมพิวเตอร์ในองค์กร
• 4. ทาหน้าที่เขียนหรื อพัฒนาโปรแกรมเกมคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบนนี้การ
ั
เขียนเกมคอมพิวเตอร์ เป็ นอาชีพที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศ
ไทย
• นางสาวจินตนา โควณิ ช ม.4/10 เลขที่ 38