ภาษาซี
- 2. 1. กำหนดปัญหำและวิเครำะห์ปัญหำ ประกอบด้วยขั้นตอนต่ำงๆ ดังนี้
1.กำหนดวัตถุประสงค์ของงำน เพื่อพิจารณาว่าโปรแกรมต้องทาการ
ประมวลผลอะไรบ้าง
2. พิจำรณำข้อมูลนำเข้ำ เพื่อให้ทราบว่าจะต้องนาข้อมูลอะไรเข้า
คอมพิวเตอร์ ข้อมูลมีคุณสมบัติเป็นอย่างไร ตลอดจนถึงลักษณะและรูปแบบของ
ข้อมูลที่จะนาเข้า
3. พิจำรณำกำรประมวลผล เพื่อให้ทราบว่าโปรแกรมมีขั้นตอนการ
ประมวลผลอย่างไรและมีเงื่อนไปการประมวลผลอะไรบ้าง
4. พิจำรณำข้อสนเทศนำออก เพื่อให้ทราบว่ามีข้อสนเทศอะไรที่จะแสดง
ตลอดจนรูปแบบและสื่อที่จะใช้ในการแสดงผล
ขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรม
- 4. 2.1 ซูโดโค้ด (Pseudocode)
เป็นคาอธิบายขั้นตอนการทางานของโปรแกรม โดยใช้ถ้อยคาผสมระหว่าง
ภาษาอังกฤษและภาษาการเขียนโปรแกรมแบบโครงสร้าง จะช่วยให้ผู้เขียนโปรแกรม
สำมำรถพัฒนำขั้นตอนต่ำง ๆ ให้เป็นโปรแกรมได้ง่ำยขึ้น ส่วนใหญ่มักใช้คาเฉพาะ
(Reserve Word) ที่มีในภาษาการเขียนโปรแกรมและมักเขียนด้วยตัวอักษรตัวใหญ่ ซู
โดโค้ดที่ดี จะต้องมีความชัดเจน สั้น และได้ใจความ ข้อมูลต่าง ๆ ที่ใช้จะถูกเขียนอยู่
ในรูปของตัวแปร
รูปแบบ
Algorithm <ชื่อของอัลกอริทึม>
1……………………………….
2……………………………….
…………………………………
END
- 10. 4. กำรทดสอบและแก้ไขโปรแกรม (Program Testing and Debugging)
หลังจากเขียนโปรแกรมแล้วจาเป็นต้องทดสอบโปรแกรมเพื่อหาจุดผิดพลาดของ
โปรแกรมว่ามีหรือไม่ และตรวจสอบจนไม่พบที่ผิดอีก จุดผิดพลาดของโปรแกรมนี้
เรียกว่า บัก (Bug) ส่วนการแก้ไขข้อผิดพลาดให้ถูกต้อง เรียกว่า ดีบัก (Debug) โดยทั่วไป
แล้วข้อผิดพลาดจากการเขียนโปรแกรมมี 2 ประเภท คือ
4.1 การเขียนคาสั่งไม่ถูกต้องตามหลักการเขียนโปรแกรมภาษานั้นๆ ซึ่งเรียกว่า
Syntax Error หรือ Coding Error ข้อผิดพลาดประเภทนี้เรามักพบตอนแปลภาษา
โปรแกรมเป็นรหัสภาษาเครื่อง
4.2 ข้อผิดพลาดทางตรรกะ หรือ Logic Error เป็นข้อผิดพลาดที่โปรแกรมทางานได้
แต่ผลลัพธ์ออกมาไม่ถูกต้อง
- 16. 1. ส่วนหัว (Head) เป็นส่วนหัวของโปรแกรมทุกโปรแกรม ส่วนนี้จะต้องอยู่
บนสุดของโปรแกรมเสมอ บางที่เรียกส่วนนี้ว่า Preprocessor ใช้เพื่อระบุชื่อ header file
เพื่อควบคุมการทางานของ ฟังก์ชันมาตรฐาน ที่ถูกเรียกใช้งานในส่วนของ main
function
- 17. 2. ส่วนฟังก์ชันหลัก ( main Function) เป็นส่วนเขียนคาสั่งควบคุมการทางานโดยจะ
เขียนอยู่ภายในเครื่องหมาย { } ในการเขียนโปรแกรมภาษาซี จะต้องมีฟังก์ชันอย่าง
น้อย 1 ฟังก์ชัน ชื่อ main() โดยทั่วไปผู้เขียนสามารถตั้งชื่อฟังก์ชันได้เอง แต่สาหรับ
ฟังก์ชัน main() จะเป็นฟังก์ชันบังคับของโปรแกรม เพื่อใช้เป็น จุดเริ่มต้นการ
ประมวลผลโปรแกรม และเป็นจุดเริ่มต้นในการเรียกใช้ฟังก์ชันอื่น สรุปว่า ทุกโปรแกรม
จะต้องมีฟังก์ชัน main()
- 18. ชนิดของตัวแปร
ขนำด
(bits)
ขอบเขต ข้อมูลที่เก็บ
char 8 -128 ถึง 127 ข้อมูลชนิดอักขระ ใช้เนื้อที่ 1 byte
unsigned char 8 0 ถึง 255 ข้อมูลชนิดอักขระ ไม่คิดเครื่องหมาย
int 16 -32,768 ถึง 32,767 ข้อมูลชนิดจานวนเต็ม ใช้เนื้อที่ 2 byte
unsigned int 16 0 ถึง 65,535 ข้อมูลชนิดจานวนเต็ม ไม่คิดเครื่องหมาย
short 8 -128 ถึง 127 ข้อมูลชนิดจานวนเต็มแบบสั้น ใช้เนื้อที่ 1 byte
unsigned short 8 0 ถึง 255 ข้อมูลชนิดจานวนเต็มแบบสั้น ไม่คิดเครื่องหมาย
long 32 -2,147,483,648 ถึง 2,147,483,649 ข้อมูลชนิดจานวนเต็มแบบยาว ใช้เนื้อที่ 4 byte
unsigned long 32 0 ถึง 4,294,967,296 ข้อมูลชนิดจานวนเต็มแบบยาว ไม่คิดเครื่องหมาย
float 32 3.4*10e(-38) ถึง 3.4*10e(38) ข้อมูลชนิดเลขทศนิยม ใช้เนื้อที่ 4 byte
double 64 3.4*10e(-308) ถึง 3.4*10e(308) ข้อมูลชนิดเลขทศนิยม ใช้เนื้อที่ 8 byte
long double 128 3.4*10e(-4032) ถึง 1.1*10e(4032) ข้อมูลชนิดเลขทศนิยม ใช้เนื้อที่ 16 byte
ชนิดของตัวแปรในภาษาซี
- 19. อักขระ Escape sequence
Escape Sequence คือรหัสพิเศษที่แทรกลงไปในค่าคงที่สตริง เพื่อใช้ควบคุมการ
แสดงผลของตัวอักษรในลักษณะต่างๆ โดยการเขียนจะต้องมีเครื่องหมาย (Back-Slash)
นาหน้า รหัสควบคุมการแสดงผลดูได้จากตารางต่อไปนี้
- 20. รหัสรูปแบบ Format code
เป็นรหัสที่ใช้ควบคุมการรับ และ แสดงผลข้อมูล ในภาษาซี ซึ่งมักจะใช้ร่วมกับ
ฟังก์ชัน printf และ scanf เพื่อบอกว่าข้อมูลที่แสดง หรือรับเข้ามานั้นเป็นชนิดอะไร ดัง
ตาราง
ตัวอย่าง
printf("Enterradius: "); // แสดง
ข้อความว่า Enter number :
scanf("%d",&number); // รอรับ
จานวนเต็มมาเก็บไว้ที่ตัวแปร radius
หรือ
char scl[20]="chauat school"; // scl เก็บคา
ว่า chauat school
printf("Thisis %s",scl); // ให้แสดง
ข้อความ This is chauat school