บรรยากาศ
- 55. เมฆชั้นต่ำ ( พื้น - 2 km) เมฆชั้นกลาง (2 - 6 km) เมฆชั้นสูง (6 - 18 km) Cirrocumulus|Cc เซอโรคิวมูลัส : Cirrostratus|Cs เซอโรสเตรตัส : Cirrus|Ci เซอรัส : Altocumulus|Ac อัลโตคิวมูลัส : Altostratus|As อัลโตสเตรตัส : Cumulus|Cu คิวมูลัส : Stratus|St สเตรตัส : Stratocumulus|Sc สเตรโตคิวมูลัส : Nimbostratus|Ns นิมโบสเตรตัส : Cumulonimbus|Cb คิวมูโลนิมบัส : เมฆก่อตัวในแนวตั้ง ( พื้น - 18 km) มีลักษณะเป็นเกร็ดบาง หรือระลอกคลื่นเล็กๆ โปร่งแสง เรียงรายกันอย่างมีระเบียบ แผ่น บางสีขาว โปร่ง แสง ปกคลุมท้องฟ้า กินอาณา บริเวณ กว้าง ทำให้เกิดดวงอาทิตย์ / ดวงจันทร์ทรงกลด ริ้ว สีขาวเป็นเส้นบาง โปร่งแสง มีลักษณะ คล้ายขนนก เนื่องจาก ถูกกระแสลม ชั้นบนพัด เมฆก้อน ลอยติดกัน คล้ายฝูงแกะ คล้ายเมฆเซอโรคิวมูลัส แต่มีขนาดใหญ่กว่ามาก เมฆแผ่น หนา สีเทา ปกคลุมท้องฟ้า เป็นอาณาบริเวณกว้าง บางครั้งหนามากจน บดบัง ดวงอาทิตย์ได้ เมฆก้อน ลอยต่ำ รูปทรงไม่ ชัดเจน มักมีสีเทา มีช่องว่างระหว่าง ก้อน ไม่มาก มักพบ เห็นเมื่อสภาพอากาศไม่ดี เมฆแผ่นบาง ลอยสูงเหนือพื้น มากนัก มักเกิดขึ้นตอนเช้า หรือหลังฝนตก หาก ลอยต่ำ ปกคลุมพื้น เรียกว่า หมอก เมฆสีเทา ทำให้ เกิด ฝน แต่ไม่มีพายุฝนฟ้าคะนอง มักปรากฏให้เห็นสายฝนตกลงจากฐานเมฆ เมฆ ปุกปุย ฐานราบ ยอดมน ทรงดอกกะหล่ำ มักเกิดขึ้นในวันที่มีอากาศดี และมีการก่อตัวในแนวดิ่ง เมฆ ขนาดยักษ์ รูปทรงดอก กระหล่ำ ทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง หาก ลม ชั้น บนพัดแรง ยอดเมฆจะแผ่ออกคล้ายทั่ง แผนภาพเมฆ © 2003 The LESA Project
- 56. เซอ รัส Ci เซอโรคิวมูลัส Cc เซอโรสเตรตัส Cs อัลโตคิวมูลัส Ac อัลโตสเตรตัส As นิมโบสเตรตัส Ns สเตรโตคิวมูลัส Sc สเตรตัส St คิวมูลัส Cu คิวมูโลนิมบัส Cb Ci Cb Cu Cs Cc Ac As Ns St ดวงอาทิตย์ทรงกลด เมฆก่อตัว แนวตั้ง ฝนตก พายุฝนฟ้าคะนอง 6 km 2 km บังดวงอาทิตย์ 18 km Sc เซอรัส สัญลักษณ์ สัดส่วนเมฆปกคลุมท้องฟ้า 1/10 2-3/10 4/10 5/10 ไม่มีเมฆ 7-8/10 9/10 10/10 มีสิ่งกีดขวาง 6/10 เมฆยิ่งสูง ก้อนยิ่งเล็ก แผ่นยิ่งบาง การเรียกชื่อเมฆ ระดับของเมฆ เซอโรคิวมูลัส อัลโตคิวมูลัส คิวมูลัส คิวมูโลนิมบัส เซอโรสเตรตัส อัลโตสเตรตัส สเตรตัส นิมโบสเตรตัส สเตรโตคิวมูลัส Cirro ( ชั้นสูง ) Alto ( ชั้นกลาง ) เมฆแผ่น ( เมฆฝน ) ( เมฆฝน ) Strato ( ชั้น ต่ำ ) เมฆก้อน
- 78. แกนควบแน่น ละอองน้ำในเมฆ และหยดน้ำฝน ไอน้ำ เป็นน้ำในสถานะก๊าซ ไอน้ำเป็นก๊าซไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และมองไม่เห็น เมฆที่เรามองเห็นเป็นหยดน้ำในสถานะของเหลว หรือเกล็ดน้ำแข็งในสถานะของแข็ง
- 82. หิมะ (Snow) เป็นผลึกน้ำแข็งขนาดประมาณ 1 – 20 มิลลิเมตร ซึ่งเกิดจากไอน้ำจากน้ำเย็นยิ่งยวด ระเหิดกลับเป็นผลึกน้ำแข็ง แล้วตกลงมา
- 99. เอลนีโญ ( El Nino ) เป็นคำภาษาสเปน แปลว่า " บุตรพระคริสต์ " หรือพระเยซู เป็นชื่อของกระแสน้ำอุ่นที่ไหลเลียบชายฝั่งทะเลของประเทศเปรูลงไปทางใต้ทุก ๆ 2 – 3 ปี โดยเริ่มประมาณช่วงเทศกาลคริสต์มาส กระแสน้ำอุ่นนี้จะไหลเข้าแทนที่กระแสน้ำเย็นที่อยู่ตามชายฝั่งเปรูนาน ประมาณ 2 - 3 เดือน และบางครั้งอาจจะยาวนานข้ามปีถัดไป เป็นคาบเวลาที่ไม่แน่นอนและมีผลทางระบบนิเวศและห่วงลูกโซ่อาหาร ปริมาณปลาน้อย นกกินปลาขาดอาหาร ชาวประมงขาดรายได้ รวมทั้งเกิดฝนตกและดินถล่มอย่างรุนแรงในประเทศเปรูและเอกวาดอร์
- 101. สภาวะปกติ โดยปกติ บริเวณเส้นศูนย์สูตรเหนือมหาสมุทรแปซิฟิก ลมสินค้าตะวันออก ( Eastery trade winds ) จะพัดจากประเทศเปรู ( ชายฝั่งทวีปอเมริกาใต้ ) ไปทางตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก แล้วยกตัวขึ้นบริเวณเหนือประเทศอินโดนีเซีย ทำให้มีฝนตกมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทวีปออสเตรเลียตอนเหนือ กระแสลมสินค้าพัดให้กระแสน้ำอุ่นบนพื้นผิวมหาสมุทรแปซิฟิกไปรวมกันทางตะวันตก จนมีระดับสูงกว่าระดับน้ำทะเลปกติประมาณ 60 – 70 เซนติเมตร แล้วจมตัวลง กระแสน้ำเย็นใต้มหาสมุทรซีกเบื้องล่างเข้ามาแทนที่กระแสน้ำอุ่นพื้นผิวซีกตะวันออก นำพาธาตุอาหารจากก้นมหาสมุทรขึ้นมา ทำให้ปลาชุกชุม เป็นประโยชน์ต่อนกทะเลและการทำประมงชายฝั่งของประเทศเปรู
- 103. สภาวะเมื่อเกิด เอลนีโญ เมื่อเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ กระแสลมสินค้าตะวันออกอ่อนกำลัง กระแสลมพื้นผิวเปลี่ยนทิศทาง พัดจากประเทศอินโดนีเซียและออสเตรเลียตอนเหนือไปทางตะวันออก แล้วยกตัวขึ้นเหนือชายฝั่งทวีปอเมริกาใต้ ก่อให้เกิดฝนตกหนักและแผ่นดินถล่มในประเทศเปรูและเอกวาดอร์ กระแสลมพัดกระแสน้ำอุ่นบนพื้นผิวมหาสมุทรแปซิฟิกไปกองรวมกันบริเวณชายฝั่งประเทศเปรู ทำให้กระแสน้ำเย็นใต้มหาสมุทรไม่สามารถลอยตัวขึ้นมาได้ ส่งผลกระทบให้บริเวณชายฝั่งขาดธาตุอาหารสำหรับปลาและนกทะเล ชาวประมงจึงขาดรายได้
- 105. เอลนีโญ ( El Nino - EN ) เป็นคำที่ใช้เรียกปรากฏการณ์ทางสมุทรศาสตร์ที่หมายถึงการที่ผิวน้ำทะเลทางตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนอุ่นขึ้นและแผ่ขยายกว้างไกลออกไปเป็นเวลานานถึง 3 ฤดูกาลหรือมากกว่า ในทางกลับกันถ้าผิวน้ำทะเลบริเวณนี้เย็นลง จะเรียกว่า ลานีญา ปรากฏการณ์เอลนีโญจะเชื่อมโยงกับ ระบบความกดอากาศที่เรียกว่า ความผันแปร ของระบบอากาศในซีกโลกใต้ ( Southern Oscillation - SO ) สรุป