More Related Content
Similar to การเมืองการปกครองอาณาจักรสุโขทัย (20)
การเมืองการปกครองอาณาจักรสุโขทัย
- 2. ความเป็นมาก่อนการสถาปนา
เมืองสุโขทัยเป็นราชธานี
ความเป็นมาก่อนการสถาปนา
เมืองสุโขทัยเป็นราชธานี
อาณาจักรโบราณบนผืนแผ่นดินไทยมีทั้งที่เป็น
อาณาจักรของชนชาติต่างเช่น มอญ เขมร และทั้งที่เป็น
อาณาจักรของคนไทย บางอาณาจักรพัฒนาขึ้นมาจาก
การเป็นเมืองที่มีอำานาจทางการเมืองเข้มแข็งหรือการรับ
อารยธรรมจากต่างชาติ ความเจริญทางอารยธรรมของ
อาณาจักรโบราณเหล่านี้ ได้สืบทอดต่อมาจนเมื่อมีคน
ไทยตั้งบ้านเมืองของตนขึ้นที่ลุ่มแม่นำ้ายม จังหวัดสุโขทัย
สถาปนาขึ้นใน พ.ศ. 1792 ก่อนการสถาปนา
อาณาจักรสุโขทัยนั้น ดินแดนแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของ
ชุมชนตั้งแต่อดีต ทั้งชุมชนชาวมอญ ละว้า ลาว และ
อาณาจักรโบราณบนผืนแผ่นดินไทยมีทั้งที่เป็น
อาณาจักรของชนชาติต่างเช่น มอญ เขมร และทั้งที่เป็น
อาณาจักรของคนไทย บางอาณาจักรพัฒนาขึ้นมาจาก
การเป็นเมืองที่มีอำานาจทางการเมืองเข้มแข็งหรือการรับ
อารยธรรมจากต่างชาติ ความเจริญทางอารยธรรมของ
อาณาจักรโบราณเหล่านี้ ได้สืบทอดต่อมาจนเมื่อมีคน
ไทยตั้งบ้านเมืองของตนขึ้นที่ลุ่มแม่นำ้ายม จังหวัดสุโขทัย
สถาปนาขึ้นใน พ.ศ. 1792 ก่อนการสถาปนา
อาณาจักรสุโขทัยนั้น ดินแดนแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของ
ชุมชนตั้งแต่อดีต ทั้งชุมชนชาวมอญ ละว้า ลาว และ
- 6. 1. การปกครองสมัยสุโขทัยตอนต้น (พ.ศ.
1792 -1841)
พ่อขุนศรีอินทราทิตย์จัดการปกครองใหม่เป็น
แบบ บิดาปกครองบุตร หรือ พ่อปกครองลูก หรือ ปิตุ
ลาธิปไตย
1. การปกครองสมัยสุโขทัยตอนต้น (พ.ศ.
1792 -1841)
พ่อขุนศรีอินทราทิตย์จัดการปกครองใหม่เป็น
แบบ บิดาปกครองบุตร หรือ พ่อปกครองลูก หรือ ปิตุ
ลาธิปไตย
- 7. มีลักษณะสำาคัญ 4 ประการ คือ
1.รูปแบบราชาธิปไตย
2. รูปแบบบิดาปกครองบุตร มีคำานำาหน้าพระนาม
ว่า พ่อขุน
3. ลักษณะลดหลั่นกันลงมาเป็นขั้น ๆ
4. การยึดหลักธรรมในพุทธศาสนาในการบริหาร
บ้านเมือง
มีลักษณะสำาคัญ 4 ประการ คือ
1.รูปแบบราชาธิปไตย
2. รูปแบบบิดาปกครองบุตร มีคำานำาหน้าพระนาม
ว่า พ่อขุน
3. ลักษณะลดหลั่นกันลงมาเป็นขั้น ๆ
4. การยึดหลักธรรมในพุทธศาสนาในการบริหาร
บ้านเมือง
- 8. 2. การปกครองสมัยสุโขทัยตอนปลาย (พ.ศ.
1841-1981)
การปกครองแบบบิดาปกครองบุตรเริ่มเสื่อม
ลง เพราะสถาบันพระมหากษะตริย์ไม่มั่นคง เมือง
ต่าง ๆ แยกตัวเป็นอิสระ พระมหาธรรมราชาที่ 1
จึงทรงทำานุบำารุงส่งเสริมพระพุทธศาสนา ลักษณะ
การปกครองสุโขทัยตอนปลายจึงเป็นแบบ
ธรรมราชา
2. การปกครองสมัยสุโขทัยตอนปลาย (พ.ศ.
1841-1981)
การปกครองแบบบิดาปกครองบุตรเริ่มเสื่อม
ลง เพราะสถาบันพระมหากษะตริย์ไม่มั่นคง เมือง
ต่าง ๆ แยกตัวเป็นอิสระ พระมหาธรรมราชาที่ 1
จึงทรงทำานุบำารุงส่งเสริมพระพุทธศาสนา ลักษณะ
การปกครองสุโขทัยตอนปลายจึงเป็นแบบ
ธรรมราชา
- 9. แบ่งเป็น 3 ลักษณะ คือ
1. การปกครองแบบพ่อปกครองลูก พระมหา
กษัตริย์เหมือนพ่อของประชาชน และปลูกฝังความรู้สึก
ผูกพันญาติมิตร เด่นชัดในสมัยพ่อขุนรามคำาแหงมหาราช
2. การปกครองแบบธรรมราชาหรือธรรมาธิปไตย
ทรงยึดและเผยแพร่ธรรมะ สู่ประชาชน รุ่งเรืองมากใน
สมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1
3. ทรงปกครองโดยยึดหลักสิทธิเสรีภาพ ให้มีสิทธิ
เสรีภาพในการประกอบอาชีพด้านต่าง ๆ ตามความถนัด
เป็นต้น
แบ่งเป็น 3 ลักษณะ คือ
1. การปกครองแบบพ่อปกครองลูก พระมหา
กษัตริย์เหมือนพ่อของประชาชน และปลูกฝังความรู้สึก
ผูกพันญาติมิตร เด่นชัดในสมัยพ่อขุนรามคำาแหงมหาราช
2. การปกครองแบบธรรมราชาหรือธรรมาธิปไตย
ทรงยึดและเผยแพร่ธรรมะ สู่ประชาชน รุ่งเรืองมากใน
สมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1
3. ทรงปกครองโดยยึดหลักสิทธิเสรีภาพ ให้มีสิทธิ
เสรีภาพในการประกอบอาชีพด้านต่าง ๆ ตามความถนัด
เป็นต้น
- 10. การปกครองของอาณาจักรสุโขทัย
แบ่งการปกครองออกเป็น 4 ประเภท
การปกครองของอาณาจักรสุโขทัย
แบ่งการปกครองออกเป็น 4 ประเภท
1. เมืองหลวง หรือราชธานี
2. เมืองลูกหลวง เป็นเมืองหน้าด่าน
ทิศเหนือ เมืองศรีสัชชนาลัย(สวรรคโลก)
ทิศตะวันออก เมืองสองแคว (พิษณุโลก)
ทิศใต้ เมืองสระหลวง (พิจิตร)
ทิศตะวันตก เมืองกำาแพงเพชร
3.เมืองพระยามหานคร
นครสวรรค์ เชียงทอง บางพาน (เมืองหล่ม เมือง
เพชรบูรณ์ เมืองศรีเทพ เมืองแพรก(สรรค์บุรี) เมือง
สุพรรณบุรี(อู่ทอง) เมืองราชบุรี เมืองตะนาวศรี)
1. เมืองหลวง หรือราชธานี
2. เมืองลูกหลวง เป็นเมืองหน้าด่าน
ทิศเหนือ เมืองศรีสัชชนาลัย(สวรรคโลก)
ทิศตะวันออก เมืองสองแคว (พิษณุโลก)
ทิศใต้ เมืองสระหลวง (พิจิตร)
ทิศตะวันตก เมืองกำาแพงเพชร
3.เมืองพระยามหานคร
นครสวรรค์ เชียงทอง บางพาน (เมืองหล่ม เมือง
เพชรบูรณ์ เมืองศรีเทพ เมืองแพรก(สรรค์บุรี) เมือง
สุพรรณบุรี(อู่ทอง) เมืองราชบุรี เมืองตะนาวศรี)
- 11. 4.เมืองประเทศราช
คือ: เมืองที่ไม่ได้รวมเข้ากับอาณาจักรสุโขทัย แต่
ยอมอ่อนน้อมต่อราชธานีเพื่อความปลอดภัยของตนเอง
ที่ตั้ง: ติดกับเมืองชายแดนของอาณาจักรสุโขทัย
เช่น เมืองหลวงพระบาง เมาะตะมะ
ทิศตะวันออก - เมืองน่าน เมืองเซ่า(เมืองหลวงพระ
บาง) เวียงจันทร์ เวียงคำา
ทิศใต้ - เมืองนครศรีธรรมราช เมืองมะละกา และ
เมืองยะโฮร์
ทิศตะวันตก - เมืองทะวาย เมืองเมาะตะมะ เมืองหง
สาวดี
4.เมืองประเทศราช
คือ: เมืองที่ไม่ได้รวมเข้ากับอาณาจักรสุโขทัย แต่
ยอมอ่อนน้อมต่อราชธานีเพื่อความปลอดภัยของตนเอง
ที่ตั้ง: ติดกับเมืองชายแดนของอาณาจักรสุโขทัย
เช่น เมืองหลวงพระบาง เมาะตะมะ
ทิศตะวันออก - เมืองน่าน เมืองเซ่า(เมืองหลวงพระ
บาง) เวียงจันทร์ เวียงคำา
ทิศใต้ - เมืองนครศรีธรรมราช เมืองมะละกา และ
เมืองยะโฮร์
ทิศตะวันตก - เมืองทะวาย เมืองเมาะตะมะ เมืองหง
สาวดี
- 14. 1. เกษตรกรรม
พื้นฐานทางส่วนใหญ่ขึ้น
อยู่กับเกษตรกรรม เลี้ยง
ตนเองเป็นหลัก พืชที่
ปลูก คือ ข้าว มะม่วง
มะพร้าว มะขาม หมาก
พลู ตาลโตนด ปลูก
ตามที่ราบลุ่มแม่นำ้าและ
ตามริม
แม่นำ้า หากผลิตได้มาก
ชาวเมืองจะนำามาขาย
ตามตลาดนัดหรือ
1. เกษตรกรรม
พื้นฐานทางส่วนใหญ่ขึ้น
อยู่กับเกษตรกรรม เลี้ยง
ตนเองเป็นหลัก พืชที่
ปลูก คือ ข้าว มะม่วง
มะพร้าว มะขาม หมาก
พลู ตาลโตนด ปลูก
ตามที่ราบลุ่มแม่นำ้าและ
ตามริม
แม่นำ้า หากผลิตได้มาก
ชาวเมืองจะนำามาขาย
ตามตลาดนัดหรือ
- 16. 3. การหัตถกรรม
การหัตถกรรมของสุโขทัยส่วนใหญ่เป็นการผลิต
เครื่องปั้นดินเผาหรือที่เรียกว่า เครื่องสังคโลก มี
การพบเตาจำานวนมากในเขตเมืองสุโขทัย เมือง
ศรีสัชนาลัย และบริเวณใกล้เคียง สันนิษฐานได้ว่า
น่าจะเป็นสินค้าออกที่สำาคัญ และสันนิษฐานว่าน่า
จะได้รับวิธีการทำาลวดลายจากจีน เพราะเป็น
ศิลปะจีนสมัยปลายราชวงศ์ซ้องหรือซ่ง บางหลัก
ฐานกล่าวว่าพ่อขุนรามคำาแหงมหาราชนำาช่างปั้น
จากจีนเข้ามาเป็นจำานวนมาก
3. การหัตถกรรม
การหัตถกรรมของสุโขทัยส่วนใหญ่เป็นการผลิต
เครื่องปั้นดินเผาหรือที่เรียกว่า เครื่องสังคโลก มี
การพบเตาจำานวนมากในเขตเมืองสุโขทัย เมือง
ศรีสัชนาลัย และบริเวณใกล้เคียง สันนิษฐานได้ว่า
น่าจะเป็นสินค้าออกที่สำาคัญ และสันนิษฐานว่าน่า
จะได้รับวิธีการทำาลวดลายจากจีน เพราะเป็น
ศิลปะจีนสมัยปลายราชวงศ์ซ้องหรือซ่ง บางหลัก
ฐานกล่าวว่าพ่อขุนรามคำาแหงมหาราชนำาช่างปั้น
จากจีนเข้ามาเป็นจำานวนมาก
- 17. ลักษณะสังคมสมัยสุโขทัยลักษณะสังคมสมัยสุโขทัย
สังคมสมัยสุโขทัยแบ่งคนออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ
คือ
1. ชนชั้นปกครอง
1.1 พระมหากษัตริย์ ความเป็นสมมติเทพปรากฏ
ในช่วงปลายสมัยแต่ไม่ชัดเจนเท่ากับในสมัยอยุธยา
1.2 พระราชวงศ์หรือเจ้านาย เป็นผู้มีเชื้อสายร่วม
กับพระมหากษัตริย์
1.3 ขุนนาง คือ ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลบ้านเมือง
ปกครองผู้คนและเป็นผู้นำากำาลังไพร่พลออกทำาสงคราม
สังคมสมัยสุโขทัยแบ่งคนออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ
คือ
1. ชนชั้นปกครอง
1.1 พระมหากษัตริย์ ความเป็นสมมติเทพปรากฏ
ในช่วงปลายสมัยแต่ไม่ชัดเจนเท่ากับในสมัยอยุธยา
1.2 พระราชวงศ์หรือเจ้านาย เป็นผู้มีเชื้อสายร่วม
กับพระมหากษัตริย์
1.3 ขุนนาง คือ ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลบ้านเมือง
ปกครองผู้คนและเป็นผู้นำากำาลังไพร่พลออกทำาสงคราม
- 18. 2. ชนชั้นผู้ถูกปกครอง
2.1 ไพร่หรือไพร่ฟ้า หมายถึง ราษฎรสามัญชนซึ่ง
มีอิสระในการดำาเนินชีวิตของตนเอง แต่ต้องถูกเกณฑ์
แรงงานให้ทางราชการตามกำาหนด
ในระหว่างทั้งสองชนชั้นนี้ ยังมีพระสงฆ์ทำาหน้าที่
ทางศาสนาและเป็นตัวเชื่อมระหว่างทั้งสองชนชั้น
2. ชนชั้นผู้ถูกปกครอง
2.1 ไพร่หรือไพร่ฟ้า หมายถึง ราษฎรสามัญชนซึ่ง
มีอิสระในการดำาเนินชีวิตของตนเอง แต่ต้องถูกเกณฑ์
แรงงานให้ทางราชการตามกำาหนด
ในระหว่างทั้งสองชนชั้นนี้ ยังมีพระสงฆ์ทำาหน้าที่
ทางศาสนาและเป็นตัวเชื่อมระหว่างทั้งสองชนชั้น
- 19. 2.2 ทาส คือ กลุ่มคนที่ไม่มีอิสระและ
เสรีภาพในการดำาเนินชีวิตของตนเองและต้องเสีย
สละแรงงานให้กับนาย
2.2 ทาส คือ กลุ่มคนที่ไม่มีอิสระและ
เสรีภาพในการดำาเนินชีวิตของตนเองและต้องเสีย
สละแรงงานให้กับนาย
- 20. จัดทำาโดย
นางสาว กมลชนก กองตุ้ย
ชั้น ม.6.10 เลขที่ 16
เสนอ
คุณครูเตือนใจ ไชยศิลป์
โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม
จัดทำาโดย
นางสาว กมลชนก กองตุ้ย
ชั้น ม.6.10 เลขที่ 16
เสนอ
คุณครูเตือนใจ ไชยศิลป์
โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม