SlideShare ist ein Scribd-Unternehmen logo
1 von 5
Downloaden Sie, um offline zu lesen
ความรูเหลือใชจากธุรกิจสูอุดมศึกษา 
ดร.ดนัย เทียนพุฒ 
นักวิชาการผูทรงคุณวุฒิและที่ปรึกษาธุรกิจ 
 

ความเชื่อตั้งแตอดีตจนถึงปจจุบนมีมาวา “มหา’ลัยเปนศูนยรวมของสรรพความรู
ั
(Knowledge Database)”

และยังคงมีตอเนื่องไปอีกนาน ซึงเปนสภาพที่เราสามารถเห็นกันไดใน
่

ประเทศกําลังพัฒนา 
ความจริงธุรกิจมีองคความรู (Body of Knowledge) มากมายที่ยงใหญและพัฒนาอยาง
ิ่
ตอเนื่องมาโดยตลอดแตอาจเปนความรูในเฉพาะทาง ไมวาจะเปน GE, GM, Ford, Google, Microsoft, 
Apple

บริษัทชั้นนําเหลานี้สามารถสอนใหมหา’ลัยรูวาโลกความจริงและธุรกิจเขากําลังทําอะไรอยูและ


เสนอเทคโนโลยีหรือองคความรูใหม ๆ อะไรที่มหา’ลัยจะตองเดินตาม  
 

 

ตัวอยางชัดเจนเกิดขึ้นเมื่อ Nonaka และ Takauchi ไดศึกษาบริษทญี่ปุนที่ประสบ
ั

ความสําเร็จอยางยั่งยืนนันมีวิธีการสรางความรูกนไดอยางไร จนกระทั่งสรุปผลการศึกษาออกมาเขียนเปน
้
ั
่
ตํารา “Knowledge‐Creating Company” โดงดังกลายเปนผูเชียวชาญดานการจัดการความรู
(Knowledge Management : KM) ของโลก
 

 

หากจะมีธุรกิจที่อาศัยการเรียนรูจากมหา’ลัยก็มักเปนธุรกิจ SMEs และ ธุรกิจที่กาลัง
ํ

เติบโตตองการ “ทางลัด” จากการศึกษาและวิจัยสรางองคความรูจากอาจารยในมหา’ลัยชั้นนําของโลก
เชน Harvard, INSEAD, Michigan, UC Berkeley, Stamford, UCLA ฯลฯ ใหจัดโปรแกรมพัฒนาความ
เปนผูนาเชิงกลยุทธ การจัดการขั้นสูง ดังเชน Samsung กําลังพัฒนาผูบริหารในเครือดวยแนวทางนี้ แต
ํ
สุดทายก็จะสรางองคความรูเองและกาวกระโดดหนีสถาบันการศึกษาไปในเวลาไมนานนัก เพราะไปอาศัย
ความรูใหมจากที่ปรึกษาธุรกิจซึ่งกาวเหนือกวาสถาบันการศึกษา 
สิ่งเหลานี้บงบอกไดอยางชัดเจนวา ธุรกิจมีการสรางองคความรูใหมๆ อยูตลอดเวลา 



ทานผูอานคงไมแปลกใจวา Kotler, Porter, Kaplan & Norton สรางเทคนิคและ

ทฤษฎีการแขงทังกลยุทธ การตลาด การแขงขันของประเทศ ที่องคกรทั้งภาคธุรกิจและหนวยงานภาครัฐ
้
แมกระทังสถาบันการศึกษายอมรับและนํามาใชกันอยางแพรหลาย 
่
เหตุผลสําคัญที่ธุรกิจมีองคความรูเหลานีไดเพราะ 
้
(1)

โลกาภิวฒน เทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือไลฟสไตลของผูบริโภค ฯลฯ
ั
ที่มีมากขึ้นและเปลี่ยนแปลงอยางรวดเร็วจนทําใหธุรกิจชันนําตองกาวไปสูการพัฒนา
้
และสรางความรูขึ้นมาใชเอง 

(2)

ธุรกิจอาจจะรอไมไดในตางประเทศจะอาศัยหองแลปทีกาวล้าหนาของมหา’ลัยชวย
่ ํ
สรางความรูใหธุรกิจ ซึงยังประโยชนใหอาจารยในมหา’ลัยไดลงมาจาก “หอคอย
่
งาชาง” ไดยืนสูดอากาศกลินไอของโลกความจริงทางธุรกิจ 
่

 

ความรูเหลือใชจากธุรกิจสูอุดมศึกษา

 

เมื่อผูเขียนรับผิดชอบในการเปนทีปรึกษาใหกับธุรกิจเพื่อทําในสิ่งใหมๆ วิธีการใหม ๆ
่
ตามที่ธุรกิจตองการ ไมวาจะเปนวิธีการสรางวิสยทัศนดวยเทคนิคใหมๆ เชน Scenario Analysis (เกาแลว

ั
ในตางประเทศ) การสรางนวัตกรรมใหมดวย Innovation 3.0 เพื่อสราง “นวัตกรรมเชิงมูลคา” (Value 

Innovation)

ใหกับธุรกิจ การจัดทํากลยุทธแนวใหมดวย BSC &KPIs ซึ่งบูรณาการอยางลงตัวหรือ


แมกระทังการสราง KS (Knowledge Sharing) ดวยเทคนิค Knowledge Café, KM Mind Map และ AAR 
่
(After Action Review) 

ทั้งหมดของความรูและเครืองมือทางธุรกิจเหลานี้ ผูเขียนไมเคยไดเรียนรูหรือตองกลับเขา
่
ไปเรียนจากสถาบันอุดมศึกษาไทยสักแหงเลย 
 ระดับความรูของธุรกิจที่มอยางไมรจบ 

ี
ู

เปนความทาทายอยางยิ่ง หากจะสังเคราะหใหเห็นวา ธุรกิจมีความรูทอยูจะพอแบง
ี่
ระดับใหเห็นไดเปน 3 ระดับดังนี ้
ระดับสูงสุดคือ สินทรัพยทนทางปญญา (Intellectual Capital Asset) ซึ่งเปนสิงทีสุด
ุ
่ ่
ยอดของมนุษยชาติสําหรับจะใชสรางองคความรูใหมๆ อยางตอเนื่อง ซึ่งอยูในรูปของ “โมเดลทางความรู
(Knowledge Model)” แตไมเผยแพรไปสูภายนอกเพราะเปน “รหัสลับเชิงนวัตกรรม” เมื่อใชไปจนลาสมัย


และมีสิ่งใหมที่ดีกวา สมบูรณกวา จึงจะปลอยสินทรัพยทางความรู (KA) อันลาสมัยเหลานี้ออกมาให
มหา’ลัยไดเรียนรูและนําไปทดลองใชในการเรียนการสอน 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

รูปที่ 1 ระดับความรูของธุรกิจ 
 

ระดับรอง เปนสินทรัพยความรู (Knowledge Asset: KA) ซึ่งธุรกิจไดสังเคราะหขึ้นมา
จากประสบการณในการตอบสนองลูกคา การแขงขันในอุตสาหกรรม หรือแมกระทังการปรับตัวเพือความ
่
่
อยูรอดมีใน 4 รูปแบบดวยกันคือ (1) Routine KA เชน โนว-ฮาวของการปฏิบัติงานในแตละวันของแตละ
คนหรือองคกร (2) Experimental KA ความรูทเี่ ปนประสบการณของแตละคน (3) Systemic KA ระบบ
และแพคเกจของความรูซึ่งอยูในรูปเอกสาร คูมือ ฐานขอมูล สิทธิบัตรหรือไลเซนสและ (4) Conceptual KA
เปนความรูทกระจางชัดโดยผานออกมาในลักษณะภาพ (Image) สัญลักษณ (Symbol) และตัวความรู
ี่
(Knowledge) เชน แนวคิดผลิตภัณฑ

ดีไซน มูลคาของแบรนด 

ระดับลาง คือ พอรตโฟลิโอความรู ซึ่งจะมี “โบรกเกอรความรู “ (Knowledge Broker)
เปนผูจัดแจงเลือกความรูเหลือใช (Waste Knowledge/Useless Knowledge) เผยแพรออกมาหรือให
มหา’ลัยไดนําไปศึกษาคนควาหรือทดลองใช แตก็ยงเปนสิ่งที่ล้ําหนาหรือทันสมัยกวาสิงที่มหา’ลัยมีอยู 
ั
่
 
 ประสบการณลาสุดในการนํา CBL จากธุรกิจมาสูอุดมศึกษาไทย 



ในขณะที่ผูเขียนรับผิดชอบสอนวิชา EAD7205 ภาวะผูนําเชิงกลยุทธเพื่อบริหารการ 

เปลี่ยนแปลงทางการศึกษา หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิตสาขาบริหารการศึกษาและภาวะผูนํา ม.เซนต

จอหน เมื่อ 2 ปกอนคิดหาเทคนิคการสอนแบบใหมกับ นศ.ป.เอก รุนที่ 8 หลังจากไดศึกษาและคนความา
ระยะหนึ่ง พบวา 
“การเรียนรูบนความทาทาย หรือ CBL (Challenge Based Learning) เปนวิธีการที่
บริษัท Apple นําไปใชปฏิรูปการเรียนรูดานการศึกษาของสหรัฐอเมริกา” 
ผูเขียนศึกษาแลวพบวา นาจะสนใจในการนํามาใชจัดการเรียนการสอนในระดับปริญญา
เอกไดทดลองใชไป 2 รุนคือรุนที่ 8 และรุนที่ 9 ซึ่งผลสัมฤทธิทางการเรียนของ นศ.ป.เอก ทั้ง 2 รุนในวิชา 
์
EAD7205 สูงขึ้นกวา ป.เอกรุนที่ 7

ซึงผูเขียนสอนในรูปแบบเดิม พรอมกับการวัดผลสําเร็จของรายวิชา
่

ดวยการให นศ.ป.เอก ทัง 2 รุน เขียน CBL พรอมบทความประมวลสรุปขอความรูที่ไดทั้งในชั้นเรียนและ
้
จากการศึกษาดูงานรวมเลมเปน “พอกเก็ตบุคบทความทางวิชาการ”
ั
ขณะเดียวกันก็ไดนํา CBL ไปทดลองใชกบ นศ.MBA วิชา OD & Change Management
ม.วลัยลักษณ กับ นศ.M.Ed.วิชา การบริหาร HR ในทางการศึกษา ม.เซนตจอหน ดวย 
ซึ่งผลไดเปนทีนาพอใจในการเรียนรูสําหรับ นศ.ป.โท ในระดับนี ้
่
เมื่อทดลองนําวิธีการ CBL จากบริษท Apple มาใชในสถาบันการศึกษาโดยเฉพาะ
ั
อุดมศึกษาไทย ผูเขียนไมไดหยุดแคนั้น  ไดขยายความรูใหมนี้ เขาไปในกระบวนการพัฒนาธุรกิจดังนี้
1) ไดนําวิธการ CBL ซึ่งพัฒนาใหมใหเหมาะกับบริบทของประเทศไทยแลวนํามาใชกลับ
ี

หลักสูตรที่จัดทํา Workshop ในการประมวลความรูของหลักสูตรธรรมาภิบาลสําหรับผูบริหารทาง
การแพทย 2 รุนของสถาบันพระปกเกลารวมกับแพทยสภา และอีกหลายๆ หลักสูตรของสถาบัน
พระปกเกลา 
2) ไดนําไปใชในการทํา Workshop สําหรับการคิดใหมในการนํา “คุณคาหรือ DNA‐ The  
Architecture of Craftsmanship)” ของ บมจ.แพรนดากรุปไปสูการปฏิบัติ

ซึ่งผลลัพธเปนทีพึงพอใจของ
่

ประธานบริษทและทีมผูบริหารระดับสูง ตลอดการเขารวมทํา Workshop ดังกลาว 
ั
โดยสรุปการทีผูเขียนทํางานในดานที่ปรึกษาธุรกิจและในสถาบันอุดมศึกษา จึงมีวธการ
่
ิี
สรางความรูและทดลองใชความรูจากภาคธุรกิจมาสูระบบอุดมศึกษาไทย หลังจากปรับพัฒนาใหมแลวจึง
นําไปใชใหมในธุรกิจ   
 
 

รูปที่ 2 การสรางและทดลองใชองคความรูจากธุรกิจ 
ดังนัน ระบบอุดมศึกษาหากยังจะเดินตามกรอบการศึกษาไทยอีก 15 ปขางหนา ทาทาง
้
คงจะไมไปไหนเพราะมหา’ลัยในระดับโลกที่เขาสรางองคความรูไดนั้นสวนใหญมีอายุมากกวา 150 ปขึ้นไป
มีอาจารยสวนใหญเกษียณอายุมาจากธุรกิจเขามาเปนผูสอน ไมใชประเภทเรียนรวดเดียว 3 มวนจบ


(ป.ตรี-ป.โท-ป.เอก) กวาจะไดใชงานไดความรูที่มก็เกาเสียกอน ซึ่งในปจจุบันมหา’ลัยในยุโรปไดนําแนวคิด
ี
STEM skill (วิทยาศาสตรเฉพาะทาง-S

เทคโนโลยี-T วิศวกรรม-E และคณิตศาสตร-M) มาเรงพัฒนา

ื้
งานวิจยทางนวัตกรรมดานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ซึ่งมหา’ลัยในยุโรปมีพนฐานดานนี้อยูแลว
ั
(มหา’ลัยไทยที่เนนดานการสอน และดานสังคมศาสตร หากจะยืมมาใชบางคงตองพัฒนาอยางหนัก)

ั
ั้ ้
มหา’ลัยไทยคงตองมุงสรางอาจารยใหเกงทั้งดานการสอนและวิจย แตทั้งนี้ทงนันไมใช
เพื่อตําแหนงทางวิชาการ ผศ. รศ. ศ. อยางเดียวแบบเอาเปนเอาตาย (แมวาจะจําเปนแตคงไมใชทําวิจัย
และผลงานเพียงอยางละเลม เพื่อใหไดเงินคาตําแหนงไปตลอดชีวิต) เพื่อตอบโจทยตัวชี้วัดดานประกัน
ั
คุณภาพเพียงอยางไมรูจบ โดยไมมี “องคความรูอะไรใหม ทฤษฎีใหม” ใหสงคมและประเทศนํามาใชได
 

Weitere ähnliche Inhalte

Ähnlich wie ความรู้เหลือใช้จากธุรกิจสู่อุดมศึกษา

รายงานเพื่อการเรียนรู้
รายงานเพื่อการเรียนรู้รายงานเพื่อการเรียนรู้
รายงานเพื่อการเรียนรู้นะนาท นะคะ
 
การพัฒนาเว็บไซต์องค์กร และทีมงานให้เดินไปถึงเป้าหมาย ประเทศไทย 4.0
การพัฒนาเว็บไซต์องค์กร และทีมงานให้เดินไปถึงเป้าหมาย ประเทศไทย 4.0การพัฒนาเว็บไซต์องค์กร และทีมงานให้เดินไปถึงเป้าหมาย ประเทศไทย 4.0
การพัฒนาเว็บไซต์องค์กร และทีมงานให้เดินไปถึงเป้าหมาย ประเทศไทย 4.0Worajedt Sitthidumrong
 
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้Pypaly Pypid
 
การทำงานมัธยม
การทำงานมัธยมการทำงานมัธยม
การทำงานมัธยมOrange Wongwaiwit
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11kanwan0429
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11kanwan0429
 
การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้
การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้
การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้rungnapa
 
การสืบทอดธุรกิจครอบครัว ดร.ดนัย เทียนพุฒ
การสืบทอดธุรกิจครอบครัว ดร.ดนัย เทียนพุฒการสืบทอดธุรกิจครอบครัว ดร.ดนัย เทียนพุฒ
การสืบทอดธุรกิจครอบครัว ดร.ดนัย เทียนพุฒDrDanai Thienphut
 
หลักสูตรท้องถิ่น
หลักสูตรท้องถิ่นหลักสูตรท้องถิ่น
หลักสูตรท้องถิ่นhoneylamon
 
5 170819173404
5 1708191734045 170819173404
5 170819173404gam030
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5nattawad147
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5benty2443
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5wanneemayss
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5nattawad147
 

Ähnlich wie ความรู้เหลือใช้จากธุรกิจสู่อุดมศึกษา (20)

รายงานเพื่อการเรียนรู้
รายงานเพื่อการเรียนรู้รายงานเพื่อการเรียนรู้
รายงานเพื่อการเรียนรู้
 
การพัฒนาเว็บไซต์องค์กร และทีมงานให้เดินไปถึงเป้าหมาย ประเทศไทย 4.0
การพัฒนาเว็บไซต์องค์กร และทีมงานให้เดินไปถึงเป้าหมาย ประเทศไทย 4.0การพัฒนาเว็บไซต์องค์กร และทีมงานให้เดินไปถึงเป้าหมาย ประเทศไทย 4.0
การพัฒนาเว็บไซต์องค์กร และทีมงานให้เดินไปถึงเป้าหมาย ประเทศไทย 4.0
 
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
 
การทำงานมัธยม
การทำงานมัธยมการทำงานมัธยม
การทำงานมัธยม
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11
 
บทที่ 11
บทที่ 11บทที่ 11
บทที่ 11
 
การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้
การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้
การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้
 
การสืบทอดธุรกิจครอบครัว ดร.ดนัย เทียนพุฒ
การสืบทอดธุรกิจครอบครัว ดร.ดนัย เทียนพุฒการสืบทอดธุรกิจครอบครัว ดร.ดนัย เทียนพุฒ
การสืบทอดธุรกิจครอบครัว ดร.ดนัย เทียนพุฒ
 
หลักสูตรท้องถิ่น
หลักสูตรท้องถิ่นหลักสูตรท้องถิ่น
หลักสูตรท้องถิ่น
 
5 170819173404
5 1708191734045 170819173404
5 170819173404
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 
5 170819173404
5 1708191734045 170819173404
5 170819173404
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 
5 170819173404
5 1708191734045 170819173404
5 170819173404
 
5 170819173404
5 1708191734045 170819173404
5 170819173404
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 

Mehr von DrDanai Thienphut

Change for the future : New concept and New management tools
Change for the future : New concept and New management toolsChange for the future : New concept and New management tools
Change for the future : New concept and New management toolsDrDanai Thienphut
 
Postgraduate education @ sju PhD 27 08-17
Postgraduate education @ sju  PhD 27 08-17Postgraduate education @ sju  PhD 27 08-17
Postgraduate education @ sju PhD 27 08-17DrDanai Thienphut
 
ไทยเที่ยวไทย :คอนซูเมอร์แฟร์ที่คิดไกลระดับนานาชาติ
ไทยเที่ยวไทย :คอนซูเมอร์แฟร์ที่คิดไกลระดับนานาชาติไทยเที่ยวไทย :คอนซูเมอร์แฟร์ที่คิดไกลระดับนานาชาติ
ไทยเที่ยวไทย :คอนซูเมอร์แฟร์ที่คิดไกลระดับนานาชาติDrDanai Thienphut
 
Result based HRM ฺ : Dr.Danai Thienphut
Result based HRM ฺ : Dr.Danai ThienphutResult based HRM ฺ : Dr.Danai Thienphut
Result based HRM ฺ : Dr.Danai ThienphutDrDanai Thienphut
 
บทความ ถึงเวลายกระดับการท่องเที่ยวชุมชนหรือยัง
บทความ ถึงเวลายกระดับการท่องเที่ยวชุมชนหรือยังบทความ ถึงเวลายกระดับการท่องเที่ยวชุมชนหรือยัง
บทความ ถึงเวลายกระดับการท่องเที่ยวชุมชนหรือยังDrDanai Thienphut
 
ท่องเที่ยวชุมชน : การตลาดเพิ่มมูลค่า หรือ ฉกฉวยวิถีชีวิตและสินทรัพย์ชุมชน
ท่องเที่ยวชุมชน : การตลาดเพิ่มมูลค่า หรือ ฉกฉวยวิถีชีวิตและสินทรัพย์ชุมชนท่องเที่ยวชุมชน : การตลาดเพิ่มมูลค่า หรือ ฉกฉวยวิถีชีวิตและสินทรัพย์ชุมชน
ท่องเที่ยวชุมชน : การตลาดเพิ่มมูลค่า หรือ ฉกฉวยวิถีชีวิตและสินทรัพย์ชุมชนDrDanai Thienphut
 
กลยุทธสำหรับการตลาดเมือง
กลยุทธสำหรับการตลาดเมือง  กลยุทธสำหรับการตลาดเมือง
กลยุทธสำหรับการตลาดเมือง DrDanai Thienphut
 
กลยุทธการวิจัยและพัฒนานำสู่ Digital Economy (R and D Strategy)
กลยุทธการวิจัยและพัฒนานำสู่ Digital Economy (R and D Strategy) กลยุทธการวิจัยและพัฒนานำสู่ Digital Economy (R and D Strategy)
กลยุทธการวิจัยและพัฒนานำสู่ Digital Economy (R and D Strategy) DrDanai Thienphut
 
โปรไฟล์ ดร.ดนัย เทียนพุฒ 2559
โปรไฟล์ ดร.ดนัย เทียนพุฒ  2559โปรไฟล์ ดร.ดนัย เทียนพุฒ  2559
โปรไฟล์ ดร.ดนัย เทียนพุฒ 2559DrDanai Thienphut
 
Teaching and learning development strategy
Teaching and learning development strategyTeaching and learning development strategy
Teaching and learning development strategyDrDanai Thienphut
 
บทความ ความท้าทายใหม่ในการจัดทำกลยุทธ
บทความ ความท้าทายใหม่ในการจัดทำกลยุทธบทความ ความท้าทายใหม่ในการจัดทำกลยุทธ
บทความ ความท้าทายใหม่ในการจัดทำกลยุทธDrDanai Thienphut
 
Inter Human Capital Management Seminar PhD. Assignment
Inter Human Capital Management Seminar PhD. AssignmentInter Human Capital Management Seminar PhD. Assignment
Inter Human Capital Management Seminar PhD. AssignmentDrDanai Thienphut
 
สัมมนาหัวข้อ ธรรมาภิบาลภาคเอกชน หลักสูตรปธพ. รุ่นที่ 4
สัมมนาหัวข้อ ธรรมาภิบาลภาคเอกชน หลักสูตรปธพ. รุ่นที่ 4สัมมนาหัวข้อ ธรรมาภิบาลภาคเอกชน หลักสูตรปธพ. รุ่นที่ 4
สัมมนาหัวข้อ ธรรมาภิบาลภาคเอกชน หลักสูตรปธพ. รุ่นที่ 4DrDanai Thienphut
 
คำถามประจำสัปดาห์ที่ 22 พ.ย.58
คำถามประจำสัปดาห์ที่ 22 พ.ย.58 คำถามประจำสัปดาห์ที่ 22 พ.ย.58
คำถามประจำสัปดาห์ที่ 22 พ.ย.58 DrDanai Thienphut
 

Mehr von DrDanai Thienphut (20)

Change for the future : New concept and New management tools
Change for the future : New concept and New management toolsChange for the future : New concept and New management tools
Change for the future : New concept and New management tools
 
PKRU Scenario 2040
PKRU Scenario 2040PKRU Scenario 2040
PKRU Scenario 2040
 
Planning with PDCA
Planning with PDCAPlanning with PDCA
Planning with PDCA
 
Postgraduate education @ sju PhD 27 08-17
Postgraduate education @ sju  PhD 27 08-17Postgraduate education @ sju  PhD 27 08-17
Postgraduate education @ sju PhD 27 08-17
 
Minimum wage 2018
Minimum wage 2018Minimum wage 2018
Minimum wage 2018
 
SMEs upscaling
SMEs upscaling SMEs upscaling
SMEs upscaling
 
Study trip at Angor Wat
Study trip at Angor WatStudy trip at Angor Wat
Study trip at Angor Wat
 
ไทยเที่ยวไทย :คอนซูเมอร์แฟร์ที่คิดไกลระดับนานาชาติ
ไทยเที่ยวไทย :คอนซูเมอร์แฟร์ที่คิดไกลระดับนานาชาติไทยเที่ยวไทย :คอนซูเมอร์แฟร์ที่คิดไกลระดับนานาชาติ
ไทยเที่ยวไทย :คอนซูเมอร์แฟร์ที่คิดไกลระดับนานาชาติ
 
Result based HRM ฺ : Dr.Danai Thienphut
Result based HRM ฺ : Dr.Danai ThienphutResult based HRM ฺ : Dr.Danai Thienphut
Result based HRM ฺ : Dr.Danai Thienphut
 
บทความ ถึงเวลายกระดับการท่องเที่ยวชุมชนหรือยัง
บทความ ถึงเวลายกระดับการท่องเที่ยวชุมชนหรือยังบทความ ถึงเวลายกระดับการท่องเที่ยวชุมชนหรือยัง
บทความ ถึงเวลายกระดับการท่องเที่ยวชุมชนหรือยัง
 
ท่องเที่ยวชุมชน : การตลาดเพิ่มมูลค่า หรือ ฉกฉวยวิถีชีวิตและสินทรัพย์ชุมชน
ท่องเที่ยวชุมชน : การตลาดเพิ่มมูลค่า หรือ ฉกฉวยวิถีชีวิตและสินทรัพย์ชุมชนท่องเที่ยวชุมชน : การตลาดเพิ่มมูลค่า หรือ ฉกฉวยวิถีชีวิตและสินทรัพย์ชุมชน
ท่องเที่ยวชุมชน : การตลาดเพิ่มมูลค่า หรือ ฉกฉวยวิถีชีวิตและสินทรัพย์ชุมชน
 
กลยุทธสำหรับการตลาดเมือง
กลยุทธสำหรับการตลาดเมือง  กลยุทธสำหรับการตลาดเมือง
กลยุทธสำหรับการตลาดเมือง
 
Transformative HR 2016
Transformative HR 2016 Transformative HR 2016
Transformative HR 2016
 
กลยุทธการวิจัยและพัฒนานำสู่ Digital Economy (R and D Strategy)
กลยุทธการวิจัยและพัฒนานำสู่ Digital Economy (R and D Strategy) กลยุทธการวิจัยและพัฒนานำสู่ Digital Economy (R and D Strategy)
กลยุทธการวิจัยและพัฒนานำสู่ Digital Economy (R and D Strategy)
 
โปรไฟล์ ดร.ดนัย เทียนพุฒ 2559
โปรไฟล์ ดร.ดนัย เทียนพุฒ  2559โปรไฟล์ ดร.ดนัย เทียนพุฒ  2559
โปรไฟล์ ดร.ดนัย เทียนพุฒ 2559
 
Teaching and learning development strategy
Teaching and learning development strategyTeaching and learning development strategy
Teaching and learning development strategy
 
บทความ ความท้าทายใหม่ในการจัดทำกลยุทธ
บทความ ความท้าทายใหม่ในการจัดทำกลยุทธบทความ ความท้าทายใหม่ในการจัดทำกลยุทธ
บทความ ความท้าทายใหม่ในการจัดทำกลยุทธ
 
Inter Human Capital Management Seminar PhD. Assignment
Inter Human Capital Management Seminar PhD. AssignmentInter Human Capital Management Seminar PhD. Assignment
Inter Human Capital Management Seminar PhD. Assignment
 
สัมมนาหัวข้อ ธรรมาภิบาลภาคเอกชน หลักสูตรปธพ. รุ่นที่ 4
สัมมนาหัวข้อ ธรรมาภิบาลภาคเอกชน หลักสูตรปธพ. รุ่นที่ 4สัมมนาหัวข้อ ธรรมาภิบาลภาคเอกชน หลักสูตรปธพ. รุ่นที่ 4
สัมมนาหัวข้อ ธรรมาภิบาลภาคเอกชน หลักสูตรปธพ. รุ่นที่ 4
 
คำถามประจำสัปดาห์ที่ 22 พ.ย.58
คำถามประจำสัปดาห์ที่ 22 พ.ย.58 คำถามประจำสัปดาห์ที่ 22 พ.ย.58
คำถามประจำสัปดาห์ที่ 22 พ.ย.58
 

ความรู้เหลือใช้จากธุรกิจสู่อุดมศึกษา

  • 1. ความรูเหลือใชจากธุรกิจสูอุดมศึกษา  ดร.ดนัย เทียนพุฒ  นักวิชาการผูทรงคุณวุฒิและที่ปรึกษาธุรกิจ    ความเชื่อตั้งแตอดีตจนถึงปจจุบนมีมาวา “มหา’ลัยเปนศูนยรวมของสรรพความรู ั (Knowledge Database)” และยังคงมีตอเนื่องไปอีกนาน ซึงเปนสภาพที่เราสามารถเห็นกันไดใน ่ ประเทศกําลังพัฒนา  ความจริงธุรกิจมีองคความรู (Body of Knowledge) มากมายที่ยงใหญและพัฒนาอยาง ิ่ ตอเนื่องมาโดยตลอดแตอาจเปนความรูในเฉพาะทาง ไมวาจะเปน GE, GM, Ford, Google, Microsoft,  Apple บริษัทชั้นนําเหลานี้สามารถสอนใหมหา’ลัยรูวาโลกความจริงและธุรกิจเขากําลังทําอะไรอยูและ  เสนอเทคโนโลยีหรือองคความรูใหม ๆ อะไรที่มหา’ลัยจะตองเดินตาม       ตัวอยางชัดเจนเกิดขึ้นเมื่อ Nonaka และ Takauchi ไดศึกษาบริษทญี่ปุนที่ประสบ ั ความสําเร็จอยางยั่งยืนนันมีวิธีการสรางความรูกนไดอยางไร จนกระทั่งสรุปผลการศึกษาออกมาเขียนเปน ้ ั ่ ตํารา “Knowledge‐Creating Company” โดงดังกลายเปนผูเชียวชาญดานการจัดการความรู (Knowledge Management : KM) ของโลก     หากจะมีธุรกิจที่อาศัยการเรียนรูจากมหา’ลัยก็มักเปนธุรกิจ SMEs และ ธุรกิจที่กาลัง ํ เติบโตตองการ “ทางลัด” จากการศึกษาและวิจัยสรางองคความรูจากอาจารยในมหา’ลัยชั้นนําของโลก เชน Harvard, INSEAD, Michigan, UC Berkeley, Stamford, UCLA ฯลฯ ใหจัดโปรแกรมพัฒนาความ เปนผูนาเชิงกลยุทธ การจัดการขั้นสูง ดังเชน Samsung กําลังพัฒนาผูบริหารในเครือดวยแนวทางนี้ แต ํ สุดทายก็จะสรางองคความรูเองและกาวกระโดดหนีสถาบันการศึกษาไปในเวลาไมนานนัก เพราะไปอาศัย ความรูใหมจากที่ปรึกษาธุรกิจซึ่งกาวเหนือกวาสถาบันการศึกษา  สิ่งเหลานี้บงบอกไดอยางชัดเจนวา ธุรกิจมีการสรางองคความรูใหมๆ อยูตลอดเวลา    ทานผูอานคงไมแปลกใจวา Kotler, Porter, Kaplan & Norton สรางเทคนิคและ ทฤษฎีการแขงทังกลยุทธ การตลาด การแขงขันของประเทศ ที่องคกรทั้งภาคธุรกิจและหนวยงานภาครัฐ ้ แมกระทังสถาบันการศึกษายอมรับและนํามาใชกันอยางแพรหลาย  ่
  • 2. เหตุผลสําคัญที่ธุรกิจมีองคความรูเหลานีไดเพราะ  ้ (1) โลกาภิวฒน เทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือไลฟสไตลของผูบริโภค ฯลฯ ั ที่มีมากขึ้นและเปลี่ยนแปลงอยางรวดเร็วจนทําใหธุรกิจชันนําตองกาวไปสูการพัฒนา ้ และสรางความรูขึ้นมาใชเอง  (2) ธุรกิจอาจจะรอไมไดในตางประเทศจะอาศัยหองแลปทีกาวล้าหนาของมหา’ลัยชวย ่ ํ สรางความรูใหธุรกิจ ซึงยังประโยชนใหอาจารยในมหา’ลัยไดลงมาจาก “หอคอย ่ งาชาง” ไดยืนสูดอากาศกลินไอของโลกความจริงทางธุรกิจ  ่   ความรูเหลือใชจากธุรกิจสูอุดมศึกษา   เมื่อผูเขียนรับผิดชอบในการเปนทีปรึกษาใหกับธุรกิจเพื่อทําในสิ่งใหมๆ วิธีการใหม ๆ ่ ตามที่ธุรกิจตองการ ไมวาจะเปนวิธีการสรางวิสยทัศนดวยเทคนิคใหมๆ เชน Scenario Analysis (เกาแลว  ั ในตางประเทศ) การสรางนวัตกรรมใหมดวย Innovation 3.0 เพื่อสราง “นวัตกรรมเชิงมูลคา” (Value   Innovation) ใหกับธุรกิจ การจัดทํากลยุทธแนวใหมดวย BSC &KPIs ซึ่งบูรณาการอยางลงตัวหรือ  แมกระทังการสราง KS (Knowledge Sharing) ดวยเทคนิค Knowledge Café, KM Mind Map และ AAR  ่ (After Action Review)  ทั้งหมดของความรูและเครืองมือทางธุรกิจเหลานี้ ผูเขียนไมเคยไดเรียนรูหรือตองกลับเขา ่ ไปเรียนจากสถาบันอุดมศึกษาไทยสักแหงเลย   ระดับความรูของธุรกิจที่มอยางไมรจบ   ี ู เปนความทาทายอยางยิ่ง หากจะสังเคราะหใหเห็นวา ธุรกิจมีความรูทอยูจะพอแบง ี่ ระดับใหเห็นไดเปน 3 ระดับดังนี ้ ระดับสูงสุดคือ สินทรัพยทนทางปญญา (Intellectual Capital Asset) ซึ่งเปนสิงทีสุด ุ ่ ่ ยอดของมนุษยชาติสําหรับจะใชสรางองคความรูใหมๆ อยางตอเนื่อง ซึ่งอยูในรูปของ “โมเดลทางความรู (Knowledge Model)” แตไมเผยแพรไปสูภายนอกเพราะเปน “รหัสลับเชิงนวัตกรรม” เมื่อใชไปจนลาสมัย  และมีสิ่งใหมที่ดีกวา สมบูรณกวา จึงจะปลอยสินทรัพยทางความรู (KA) อันลาสมัยเหลานี้ออกมาให มหา’ลัยไดเรียนรูและนําไปทดลองใชในการเรียนการสอน 
  • 3.                                 รูปที่ 1 ระดับความรูของธุรกิจ    ระดับรอง เปนสินทรัพยความรู (Knowledge Asset: KA) ซึ่งธุรกิจไดสังเคราะหขึ้นมา จากประสบการณในการตอบสนองลูกคา การแขงขันในอุตสาหกรรม หรือแมกระทังการปรับตัวเพือความ ่ ่ อยูรอดมีใน 4 รูปแบบดวยกันคือ (1) Routine KA เชน โนว-ฮาวของการปฏิบัติงานในแตละวันของแตละ คนหรือองคกร (2) Experimental KA ความรูทเี่ ปนประสบการณของแตละคน (3) Systemic KA ระบบ และแพคเกจของความรูซึ่งอยูในรูปเอกสาร คูมือ ฐานขอมูล สิทธิบัตรหรือไลเซนสและ (4) Conceptual KA เปนความรูทกระจางชัดโดยผานออกมาในลักษณะภาพ (Image) สัญลักษณ (Symbol) และตัวความรู ี่ (Knowledge) เชน แนวคิดผลิตภัณฑ ดีไซน มูลคาของแบรนด  ระดับลาง คือ พอรตโฟลิโอความรู ซึ่งจะมี “โบรกเกอรความรู “ (Knowledge Broker) เปนผูจัดแจงเลือกความรูเหลือใช (Waste Knowledge/Useless Knowledge) เผยแพรออกมาหรือให มหา’ลัยไดนําไปศึกษาคนควาหรือทดลองใช แตก็ยงเปนสิ่งที่ล้ําหนาหรือทันสมัยกวาสิงที่มหา’ลัยมีอยู  ั ่  
  • 4.  ประสบการณลาสุดในการนํา CBL จากธุรกิจมาสูอุดมศึกษาไทย    ในขณะที่ผูเขียนรับผิดชอบสอนวิชา EAD7205 ภาวะผูนําเชิงกลยุทธเพื่อบริหารการ   เปลี่ยนแปลงทางการศึกษา หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิตสาขาบริหารการศึกษาและภาวะผูนํา ม.เซนต  จอหน เมื่อ 2 ปกอนคิดหาเทคนิคการสอนแบบใหมกับ นศ.ป.เอก รุนที่ 8 หลังจากไดศึกษาและคนความา ระยะหนึ่ง พบวา  “การเรียนรูบนความทาทาย หรือ CBL (Challenge Based Learning) เปนวิธีการที่ บริษัท Apple นําไปใชปฏิรูปการเรียนรูดานการศึกษาของสหรัฐอเมริกา”  ผูเขียนศึกษาแลวพบวา นาจะสนใจในการนํามาใชจัดการเรียนการสอนในระดับปริญญา เอกไดทดลองใชไป 2 รุนคือรุนที่ 8 และรุนที่ 9 ซึ่งผลสัมฤทธิทางการเรียนของ นศ.ป.เอก ทั้ง 2 รุนในวิชา  ์ EAD7205 สูงขึ้นกวา ป.เอกรุนที่ 7 ซึงผูเขียนสอนในรูปแบบเดิม พรอมกับการวัดผลสําเร็จของรายวิชา ่ ดวยการให นศ.ป.เอก ทัง 2 รุน เขียน CBL พรอมบทความประมวลสรุปขอความรูที่ไดทั้งในชั้นเรียนและ ้ จากการศึกษาดูงานรวมเลมเปน “พอกเก็ตบุคบทความทางวิชาการ” ั ขณะเดียวกันก็ไดนํา CBL ไปทดลองใชกบ นศ.MBA วิชา OD & Change Management ม.วลัยลักษณ กับ นศ.M.Ed.วิชา การบริหาร HR ในทางการศึกษา ม.เซนตจอหน ดวย  ซึ่งผลไดเปนทีนาพอใจในการเรียนรูสําหรับ นศ.ป.โท ในระดับนี ้ ่ เมื่อทดลองนําวิธีการ CBL จากบริษท Apple มาใชในสถาบันการศึกษาโดยเฉพาะ ั อุดมศึกษาไทย ผูเขียนไมไดหยุดแคนั้น  ไดขยายความรูใหมนี้ เขาไปในกระบวนการพัฒนาธุรกิจดังนี้ 1) ไดนําวิธการ CBL ซึ่งพัฒนาใหมใหเหมาะกับบริบทของประเทศไทยแลวนํามาใชกลับ ี หลักสูตรที่จัดทํา Workshop ในการประมวลความรูของหลักสูตรธรรมาภิบาลสําหรับผูบริหารทาง การแพทย 2 รุนของสถาบันพระปกเกลารวมกับแพทยสภา และอีกหลายๆ หลักสูตรของสถาบัน พระปกเกลา  2) ไดนําไปใชในการทํา Workshop สําหรับการคิดใหมในการนํา “คุณคาหรือ DNA‐ The   Architecture of Craftsmanship)” ของ บมจ.แพรนดากรุปไปสูการปฏิบัติ ซึ่งผลลัพธเปนทีพึงพอใจของ ่ ประธานบริษทและทีมผูบริหารระดับสูง ตลอดการเขารวมทํา Workshop ดังกลาว  ั โดยสรุปการทีผูเขียนทํางานในดานที่ปรึกษาธุรกิจและในสถาบันอุดมศึกษา จึงมีวธการ ่ ิี สรางความรูและทดลองใชความรูจากภาคธุรกิจมาสูระบบอุดมศึกษาไทย หลังจากปรับพัฒนาใหมแลวจึง นําไปใชใหมในธุรกิจ   
  • 5.     รูปที่ 2 การสรางและทดลองใชองคความรูจากธุรกิจ  ดังนัน ระบบอุดมศึกษาหากยังจะเดินตามกรอบการศึกษาไทยอีก 15 ปขางหนา ทาทาง ้ คงจะไมไปไหนเพราะมหา’ลัยในระดับโลกที่เขาสรางองคความรูไดนั้นสวนใหญมีอายุมากกวา 150 ปขึ้นไป มีอาจารยสวนใหญเกษียณอายุมาจากธุรกิจเขามาเปนผูสอน ไมใชประเภทเรียนรวดเดียว 3 มวนจบ   (ป.ตรี-ป.โท-ป.เอก) กวาจะไดใชงานไดความรูที่มก็เกาเสียกอน ซึ่งในปจจุบันมหา’ลัยในยุโรปไดนําแนวคิด ี STEM skill (วิทยาศาสตรเฉพาะทาง-S เทคโนโลยี-T วิศวกรรม-E และคณิตศาสตร-M) มาเรงพัฒนา ื้ งานวิจยทางนวัตกรรมดานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ซึ่งมหา’ลัยในยุโรปมีพนฐานดานนี้อยูแลว ั (มหา’ลัยไทยที่เนนดานการสอน และดานสังคมศาสตร หากจะยืมมาใชบางคงตองพัฒนาอยางหนัก)  ั ั้ ้ มหา’ลัยไทยคงตองมุงสรางอาจารยใหเกงทั้งดานการสอนและวิจย แตทั้งนี้ทงนันไมใช เพื่อตําแหนงทางวิชาการ ผศ. รศ. ศ. อยางเดียวแบบเอาเปนเอาตาย (แมวาจะจําเปนแตคงไมใชทําวิจัย และผลงานเพียงอยางละเลม เพื่อใหไดเงินคาตําแหนงไปตลอดชีวิต) เพื่อตอบโจทยตัวชี้วัดดานประกัน ั คุณภาพเพียงอยางไมรูจบ โดยไมมี “องคความรูอะไรใหม ทฤษฎีใหม” ใหสงคมและประเทศนํามาใชได