SlideShare ist ein Scribd-Unternehmen logo
1 von 4
Downloaden Sie, um offline zu lesen
ใบความรู้
                                      เรือง การคายนําของพืช




           การคายนําของพืชเป็ นการขจัดนําส่ วนเกินออกสู่ ภายนอกเมือรากพืชดูดนําเข้าไปจะถูก
ลําเลียงไปตามท่อลําเลียงนํา และส่ วนต่าง ๆ ของพืช ซึ งจะมีนาเพียงบางส่ วนเท่านันทีถูกใช้ไปใน
                                                              ํ
กระบวนการต่าง ๆ เช่น การสังเคราะห์ดวยแสงของพืชนําส่ วนใหญ่จะถูกขับออกมาสู่ ภายนอก
                                         ้
การคายนําส่ วนใหญ่จะเกิดขึนทีใบเป็ น เนืองจากใบมีท่อลําเลียงนํา และท่อลําเลียงอาหาร เซลล์ที
ผิวใบไม่ได้เรี ยงตัวชิดกันไปทังหมด แต่จะมีรูเล็ก ๆ จํานวนมากเรี ยกว่า รู ใบ หรื อ ปากใบ บริ เวณ
ใต้ปากใบ จะมีช่องว่างหรื อโพรงอากาศเมือนําจากท่อลําเลียงนําแพร่ ออกมาทีเซลล์ของผิวใบ
                                                        ่
แล้วก็จะแพร่ ออกทางปากใบในรู ปของไอนํา ปากใบอยูระหว่างเซลล์คุม 2 เซลล์ ทําหน้าทีควบคุมการ
ปิ ดเปิ ดของปากใบ เป็ นทางผ่านเข้าออกของนํา และเป็ นทางเข้าของแก๊สคาร์ บอนไดออกไซด์ เพือใช้
ในการสังเคราะห์ดวยแสง และเป็ นทางออกของแก๊สออกซิ เจนทีเกิดขึนด้วย สําหรับพืชทีมีใบจมอยูใน
                     ้                                                                             ่
นํา เช่น สาหร่ าย จะไม่มีปากใบ ปากใบหรื อรู ใบพบมากทีบริ เวณท้องใบมากกว่าด้านหลังของใบ เพือ
ลดการสู ญเสี ยนํา การคายนําของพืชนอกจากจะเกิดขึนทีบริ เวณปากใบแล้ว ทีผิวใบและบริ เวณรอย
แตกของลําต้นและกิง ก็เกิดขึนได้ แต่นอยมาก
                                       ้
          การคายนําของพืช แบ่งเป็ น 2 วิธีคือ
             1. การคายนําในรู ปของไอนํา เกิดได้ 3 ลักษณะ ดังนี
                1.1 การคายนําทางปากใบ เรี ยกว่า สโตมาทอล ทรานสพิเรชัน (stomatal transpiration)
เป็ นการคายนําทีเกิดขึนมากถึง 90%
                   ลักษณะของปากใบ ปากใบของพืชประกอบด้วยช่องเล็กๆ ในเนือเยือชันนอกสุ ด
ของใบ เรี ยกว่าชันเอพิเดอร์ มีส (epidermis layer) ) เซลล์ชนนีเป็ นชันทีอยูนอกสุ ดปกคลุมส่ วนทีอยู่
                                                           ั              ่
ข้างในทังทางด้านบน คือ เอพิเดอร์ มิสด้านบน (upper epidermis) และทางด้านล่าง คือเอพิเดอร์ มิส
                                   ั                      ่ ้
ด้านล่าง (lower epidermis) เซลล์ชนนีไม่มีคลอโรฟี ลล์อยูดวย จึงทําให้สังเคราะห์ดวยแสงไม่ได้
                                                                                      ้
เซลล์เอพิเดอร์ มิสบางเซลล์เปลียนแปลงไปทําหน้าทีเป็ น เซลล์คุม (guard cell) อยูดวยกันเป็ นคู่
                                                                                  ่ ้
มีรูปร่ างคล้ายเมล์ดถัวแดงประกบกัน ผนังด้านในของเซลล์คุมหนากว่าผนังเซลล์ดานนอกระหว่าง
                                                                         ้
                                                            ่
เซลล์คุมเป็ นปากใบ (stomata) พบว่าทางด้านล่างของใบมีปากใบอยูมากกว่าทางด้านบน




                                       ลักษณะของเซลล์ คุม

                   เซลล์ คุม (guard cell) ทําหน้าทีปิ ดและเปิ ดปากใบ เซลล์คุมแตกต่างจากเซลล์
                                             ่ ้
เอพิเดอร์ มิสอืนคือเซลล์คุมมีคลอโรฟี ลล์อยูดวย จึงสามารถสังเคาระห์ดวยแสงได้และการสังเคราะห์
                                                                       ้
ด้วยแสงนีเป็ นกลไกสําคัญทีทําให้เกิดการเปิ ดปิ ดของปากใบ การคายนําและการลําเลียงสารของพืช
ผิวของเซลล์ชนเอพิเดอร์ มิสมีสารพวกขีผึง เรี ยกว่า คิวทิน ฉาบอยูช่วยป้ องกันการระเหยของนํา
               ั                                                  ่
ออกจากผิวใบปากใบพืช




                                เซลล์ คุมและการเปิ ดปิ ดของปากใบ

             1.2 การคายนําทางผิวใบ บริ เวณผิวใบมีคิวทิน (Cuticular transpiration) เป็ นสารคล้าย
              ่
ขีผึงเคลือบอยูจึงทําให้พืชคายนําทางผิวใบเพียง 10%
1.3 การคายนําทางเลนติเซล (Lenticular transpiration) เป็ นการคายนําออกทางรอยแตก
ทีผิวของลําต้น กิง ที เรี ยกว่า เลนติเซล (lenticels) ซึ งเกิดขึนน้อยมาก




                                        เลนติเซล (lenticels)
                    ทีมา : http://www.csdl.tamu.edu/FLORA/tfplab/vegchar.htm

       2. การคายนําในรู ปหยดนํา เป็ นการคายนําในรู ปหยดนําเล็ก ๆ ทางรู เปิ ดเล็ก ๆ ตามปลายเส้น
ใบทีขอบใบทีเรี ยกว่า โฮดาโธด (hydathode) การคายนํานี เรี ยกว่า กัตเตชัน (guttation) ซึ งเกิดขึนเมือ
อากาศมีความชืนมาก ๆ อุณหภูมิตาและลมสงบ
                               ํ




                                        กัตเตชัน (guttation)
        ทีมา : http://www.school.net.th/library/create-web/10000/science/10000-6597.html
ปัจจัยทีมีผลต่ อการคายนํา
           อุณหภูมิ ขณะทีปากใบเปิ ดถ้าอุณหภูมิของอากาศสู งขึน อากาศจะแห้ง นําจะแพร่ ออกจาก
ปากใบมากขึน ทําให้พืชขาดนํามากขึน
           ความชื น ถ้าความชืนในอากาศลดลงปริ มาณนําในใบและในอากาศแตกต่างกันมากขึน จึงทํา
ให้ไอนําแพร่ ออกจากปากใบมากขึน เกิดการคายนําเพิมมากขึน
           ลม ลมทีพัดผ่านใบไม้จะทําให้ความกดอากาศทีบริ เวณผิวใบลดลง ไอนําบริ เวณปากใบจะ
แพร่ ออกสู่ อากาศได้มากขึน และขณะทีลมเคลือนผ่านผิวใบจะนําความชืนไปกับอากาศด้วย ไอนําจาก
ปากใบก็จะแพร่ ได้มากขึนเช่นกัน แต่ถาลมพัดแรงเกินไปปากใบก็จะปิ ด
                                     ้
                                                              ั
           สภาพนําในดิน การเปิ ดปิ ดของปากใบมีความสัมพันธ์กบสภาพของนําในดินมากกว่าสภาพ
ของนําในใบพืช เมือดินมีนาน้อยลงและพืชเริ มขาดแคลนนํา พืชจะสังเคราะห์กรดแอบไซซิ ก (abscisic
                            ํ
acid) หรื อ ABA มีผลทําให้ปากใบปิ ดการคายนําจึงลดลง
           ความเข้ มของแสง ขณะทีพืชได้รับนําอย่างเพียงพอปากใบจะเปิ ดมากเมือความเข้มแสงสู งขึน
และปากใบจะเปิ ดน้อยลงเมือความเข้มของแสงลดลง เนืองจากความเข้มของแสงเกียวข้องกับอัตราการ
สังเคราะห์ดวยแสงซึ งมีผลต่อการเปลียนแปลงความเข้มข้นของคาร์ บอนไดออกไซด์ นําตาล ไอออน
             ้
                              ่
และสารอินทรี ยบางชนิ ดทีอยูในเซลล์คุม ดังนันเมือความเข้มข้นของแสงมากขึนจะเป็ นผลให้การคาย
                 ์
นําในใบมาก แต่ในบางกรณี ถึงแม้ความเข้มของแสงมากแต่นาในดินน้อย พืชเริ มขาดนําปากใบจะปิ ด
                                                          ํ
           โดยทัวไปปากใบพืชจะเปิ ดในเวลากลางวันเพือนําคาร์ บอนไดออกไซด์ไปใช้ในการ
สังเคราะห์ดวยแสงและปิ ดในเวลากลางคืน แต่พืชอวบนํา เช่น กระบองเพชรทีเจริ ญในทีแห้งแล้ง
               ้
ปากใบจะเปิ ดในเวลากลางคืน และปิ ดในเวลากลางวันเพือลดการสู ญเสี ยนํา ในเวลากลางคืนพืช
ตระกูลนีจะตรึ งคาร์ บอนไดออกไซด์แล้วเปลียนเป็ นกรดอินทรี ยเ์ ก็บสะสมไว้ในแวคิลโอล ในเวลา
กลางวันพืชจะนําคาร์ บอนไดออกไซด์จากกรดอินทรี ยมาใช้ในการสังเคราะห์ดวยแสง พืชบางชนิดยังมี
                                                    ์                   ้
การปรับโครงสร้างให้มีประสิ ทธิ ภาพในการดูดนํา โดยมีรากแผ่ขยายเป็ นบริ เวณกว้างหรื อมีรากหยังลึก
ลงไปในดิน เช่น หญ้าแฝก พืชบางชนิดลําต้นและใบอวบนําเพือสะสมนํา มีขนปกคลุมปากใบจํานวน
มาก มีคิวทินหนาทีผิวใบ รู ปร่ างของใบมีขนาดเล็กลงหรื อเปลียนไปเป็ นหนาม บางชนิ ดมีโครงสร้าง
ทีช่วยลดการคายนํา เช่น ปากใบอยู่ตํากว่ าระดับผิวใบ เช่น ปากใบของต้นยีโถ

Weitere ähnliche Inhalte

Was ist angesagt?

การลำเลียงน้ำของพืช
การลำเลียงน้ำของพืชการลำเลียงน้ำของพืช
การลำเลียงน้ำของพืชAnana Anana
 
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมบทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมPinutchaya Nakchumroon
 
ขนราก
ขนรากขนราก
ขนรากdnavaroj
 
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะแบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะJariya Jaiyot
 
เนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืชเนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืชThanyamon Chat.
 
การคายน้ำและการแลกเปลี่ยนแก๊ส
การคายน้ำและการแลกเปลี่ยนแก๊สการคายน้ำและการแลกเปลี่ยนแก๊ส
การคายน้ำและการแลกเปลี่ยนแก๊สThanyamon Chat.
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 1
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 1แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 1
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 1dnavaroj
 
ใบความรู้เรื่องแสง
ใบความรู้เรื่องแสงใบความรู้เรื่องแสง
ใบความรู้เรื่องแสงพัน พัน
 
Slชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
SlชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะSlชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
Slชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะkrupornpana55
 
การลำเลียงในพืช
การลำเลียงในพืชการลำเลียงในพืช
การลำเลียงในพืชพัน พัน
 
การปฏิสนธิและการเจริญเติบโตของพืชดอก
การปฏิสนธิและการเจริญเติบโตของพืชดอกการปฏิสนธิและการเจริญเติบโตของพืชดอก
การปฏิสนธิและการเจริญเติบโตของพืชดอกThanyamon Chat.
 
บทที่ 2 แสง ม.2
บทที่ 2 แสง ม.2บทที่ 2 แสง ม.2
บทที่ 2 แสง ม.2Wichai Likitponrak
 
แรงและการเคลื่อนที่
แรงและการเคลื่อนที่แรงและการเคลื่อนที่
แรงและการเคลื่อนที่Supaluk Juntap
 
Mindmap การลำเลียงสารผ่านเข้าออกเซลล์
Mindmap การลำเลียงสารผ่านเข้าออกเซลล์Mindmap การลำเลียงสารผ่านเข้าออกเซลล์
Mindmap การลำเลียงสารผ่านเข้าออกเซลล์กมลรัตน์ ฉิมพาลี
 

Was ist angesagt? (20)

ราก (T)
ราก (T)ราก (T)
ราก (T)
 
การลำเลียงน้ำของพืช
การลำเลียงน้ำของพืชการลำเลียงน้ำของพืช
การลำเลียงน้ำของพืช
 
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมบทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
 
translocation in plant
translocation in planttranslocation in plant
translocation in plant
 
ขนราก
ขนรากขนราก
ขนราก
 
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะแบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
 
ม.6 นิเวศ
ม.6 นิเวศม.6 นิเวศ
ม.6 นิเวศ
 
เนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืชเนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืช
 
การคายน้ำและการแลกเปลี่ยนแก๊ส
การคายน้ำและการแลกเปลี่ยนแก๊สการคายน้ำและการแลกเปลี่ยนแก๊ส
การคายน้ำและการแลกเปลี่ยนแก๊ส
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 1
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 1แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 1
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 1
 
ใบความรู้เรื่องแสง
ใบความรู้เรื่องแสงใบความรู้เรื่องแสง
ใบความรู้เรื่องแสง
 
stem structure
stem structurestem structure
stem structure
 
Slชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
SlชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะSlชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
Slชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
 
การลำเลียงในพืช
การลำเลียงในพืชการลำเลียงในพืช
การลำเลียงในพืช
 
การปฏิสนธิและการเจริญเติบโตของพืชดอก
การปฏิสนธิและการเจริญเติบโตของพืชดอกการปฏิสนธิและการเจริญเติบโตของพืชดอก
การปฏิสนธิและการเจริญเติบโตของพืชดอก
 
บทที่ 2 แสง ม.2
บทที่ 2 แสง ม.2บทที่ 2 แสง ม.2
บทที่ 2 แสง ม.2
 
แรงและการเคลื่อนที่
แรงและการเคลื่อนที่แรงและการเคลื่อนที่
แรงและการเคลื่อนที่
 
8. ชุดที่ 5 การลำเลียง
8. ชุดที่ 5 การลำเลียง8. ชุดที่ 5 การลำเลียง
8. ชุดที่ 5 การลำเลียง
 
Mindmap การลำเลียงสารผ่านเข้าออกเซลล์
Mindmap การลำเลียงสารผ่านเข้าออกเซลล์Mindmap การลำเลียงสารผ่านเข้าออกเซลล์
Mindmap การลำเลียงสารผ่านเข้าออกเซลล์
 
โลกของเรา (The Earth)
โลกของเรา (The Earth)โลกของเรา (The Earth)
โลกของเรา (The Earth)
 

Ähnlich wie การคายน้ำของพืช

การคายน้ำ
การคายน้ำการคายน้ำ
การคายน้ำNokko Bio
 
12.การคายน้ำและการแลกแก๊สลำเลียงพืช
12.การคายน้ำและการแลกแก๊สลำเลียงพืช12.การคายน้ำและการแลกแก๊สลำเลียงพืช
12.การคายน้ำและการแลกแก๊สลำเลียงพืชWichai Likitponrak
 
การปรับตัวของพืชเพื่อรับแสง
การปรับตัวของพืชเพื่อรับแสงการปรับตัวของพืชเพื่อรับแสง
การปรับตัวของพืชเพื่อรับแสงAnana Anana
 
การคายน้ำของพืช
การคายน้ำของพืชการคายน้ำของพืช
การคายน้ำของพืชnokbiology
 
Stemแก้net
Stemแก้netStemแก้net
Stemแก้netAnana Anana
 
Biomapcontest2014 กะหล่ำปุ้ง
Biomapcontest2014 กะหล่ำปุ้งBiomapcontest2014 กะหล่ำปุ้ง
Biomapcontest2014 กะหล่ำปุ้งWichai Likitponrak
 
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดีรูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดีอาภัสรา ยิ่งคำแหง
 
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดีรูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดีอาภัสรา ยิ่งคำแหง
 
Powerpoint โครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
Powerpoint โครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดีPowerpoint โครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
Powerpoint โครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดีอาภัสรา ยิ่งคำแหง
 
เนื้อเยื่อพืช (T)
เนื้อเยื่อพืช (T)เนื้อเยื่อพืช (T)
เนื้อเยื่อพืช (T)Thitaree Samphao
 
ธนาคารความรู้ การดำรงชีวิตของพืช
ธนาคารความรู้ การดำรงชีวิตของพืชธนาคารความรู้ การดำรงชีวิตของพืช
ธนาคารความรู้ การดำรงชีวิตของพืชKunnanatya Pare
 
นำเสนอกล้วยไม้เเคทลียา
นำเสนอกล้วยไม้เเคทลียานำเสนอกล้วยไม้เเคทลียา
นำเสนอกล้วยไม้เเคทลียาguest096f5a
 
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้นโครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้นมัทนา อานามนารถ
 

Ähnlich wie การคายน้ำของพืช (20)

การคายน้ำ
การคายน้ำการคายน้ำ
การคายน้ำ
 
12.การคายน้ำและการแลกแก๊สลำเลียงพืช
12.การคายน้ำและการแลกแก๊สลำเลียงพืช12.การคายน้ำและการแลกแก๊สลำเลียงพืช
12.การคายน้ำและการแลกแก๊สลำเลียงพืช
 
การปรับตัวของพืชเพื่อรับแสง
การปรับตัวของพืชเพื่อรับแสงการปรับตัวของพืชเพื่อรับแสง
การปรับตัวของพืชเพื่อรับแสง
 
การคายน้ำของพืช
การคายน้ำของพืชการคายน้ำของพืช
การคายน้ำของพืช
 
4
44
4
 
Handling and nama plant
Handling and nama plantHandling and nama plant
Handling and nama plant
 
Stemแก้net
Stemแก้netStemแก้net
Stemแก้net
 
Biomapcontest2014 กะหล่ำปุ้ง
Biomapcontest2014 กะหล่ำปุ้งBiomapcontest2014 กะหล่ำปุ้ง
Biomapcontest2014 กะหล่ำปุ้ง
 
Basic cell
Basic cellBasic cell
Basic cell
 
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดีรูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
 
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดีรูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
 
สรุปเซลล์
สรุปเซลล์สรุปเซลล์
สรุปเซลล์
 
Powerpoint โครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
Powerpoint โครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดีPowerpoint โครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
Powerpoint โครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
 
เนื้อเยื่อพืช (T)
เนื้อเยื่อพืช (T)เนื้อเยื่อพืช (T)
เนื้อเยื่อพืช (T)
 
ธนาคารความรู้ การดำรงชีวิตของพืช
ธนาคารความรู้ การดำรงชีวิตของพืชธนาคารความรู้ การดำรงชีวิตของพืช
ธนาคารความรู้ การดำรงชีวิตของพืช
 
นำเสนอกล้วยไม้เเคทลียา
นำเสนอกล้วยไม้เเคทลียานำเสนอกล้วยไม้เเคทลียา
นำเสนอกล้วยไม้เเคทลียา
 
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
 
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้นโครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
 
001 3
001 3001 3
001 3
 
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
 

Mehr von dnavaroj

เอกสารประกอบการอบรม Analysis
เอกสารประกอบการอบรม Analysisเอกสารประกอบการอบรม Analysis
เอกสารประกอบการอบรม Analysisdnavaroj
 
บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา โรงเรีย...
บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา  โรงเรีย...บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา  โรงเรีย...
บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา โรงเรีย...dnavaroj
 
รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559
รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559
รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559dnavaroj
 
บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...
บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...
บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...dnavaroj
 
Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.
Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.
Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.dnavaroj
 
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 2558
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5   2558แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5   2558
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 2558dnavaroj
 
Science.m.3.2
Science.m.3.2Science.m.3.2
Science.m.3.2dnavaroj
 
Science.m.3.1
Science.m.3.1Science.m.3.1
Science.m.3.1dnavaroj
 
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)dnavaroj
 
สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้
สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้
สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้dnavaroj
 
น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้
น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้
น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้dnavaroj
 
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกัน
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกันการสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกัน
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกันdnavaroj
 
การยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่า
การยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่าการยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่า
การยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่าdnavaroj
 
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมแบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมdnavaroj
 
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมแบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมdnavaroj
 
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศแบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศdnavaroj
 
แบบทดสอบ สาระที่ 7 ดาราศาสตร์และอวกาศ
แบบทดสอบ สาระที่ 7    ดาราศาสตร์และอวกาศแบบทดสอบ สาระที่ 7    ดาราศาสตร์และอวกาศ
แบบทดสอบ สาระที่ 7 ดาราศาสตร์และอวกาศdnavaroj
 
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)dnavaroj
 
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5  (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5  (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)dnavaroj
 
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)dnavaroj
 

Mehr von dnavaroj (20)

เอกสารประกอบการอบรม Analysis
เอกสารประกอบการอบรม Analysisเอกสารประกอบการอบรม Analysis
เอกสารประกอบการอบรม Analysis
 
บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา โรงเรีย...
บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา  โรงเรีย...บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา  โรงเรีย...
บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา โรงเรีย...
 
รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559
รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559
รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559
 
บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...
บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...
บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...
 
Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.
Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.
Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.
 
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 2558
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5   2558แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5   2558
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 2558
 
Science.m.3.2
Science.m.3.2Science.m.3.2
Science.m.3.2
 
Science.m.3.1
Science.m.3.1Science.m.3.1
Science.m.3.1
 
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
 
สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้
สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้
สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้
 
น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้
น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้
น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้
 
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกัน
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกันการสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกัน
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกัน
 
การยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่า
การยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่าการยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่า
การยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่า
 
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมแบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
 
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมแบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
 
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศแบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
 
แบบทดสอบ สาระที่ 7 ดาราศาสตร์และอวกาศ
แบบทดสอบ สาระที่ 7    ดาราศาสตร์และอวกาศแบบทดสอบ สาระที่ 7    ดาราศาสตร์และอวกาศ
แบบทดสอบ สาระที่ 7 ดาราศาสตร์และอวกาศ
 
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
 
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5  (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5  (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
 
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
 

การคายน้ำของพืช

  • 1. ใบความรู้ เรือง การคายนําของพืช การคายนําของพืชเป็ นการขจัดนําส่ วนเกินออกสู่ ภายนอกเมือรากพืชดูดนําเข้าไปจะถูก ลําเลียงไปตามท่อลําเลียงนํา และส่ วนต่าง ๆ ของพืช ซึ งจะมีนาเพียงบางส่ วนเท่านันทีถูกใช้ไปใน ํ กระบวนการต่าง ๆ เช่น การสังเคราะห์ดวยแสงของพืชนําส่ วนใหญ่จะถูกขับออกมาสู่ ภายนอก ้ การคายนําส่ วนใหญ่จะเกิดขึนทีใบเป็ น เนืองจากใบมีท่อลําเลียงนํา และท่อลําเลียงอาหาร เซลล์ที ผิวใบไม่ได้เรี ยงตัวชิดกันไปทังหมด แต่จะมีรูเล็ก ๆ จํานวนมากเรี ยกว่า รู ใบ หรื อ ปากใบ บริ เวณ ใต้ปากใบ จะมีช่องว่างหรื อโพรงอากาศเมือนําจากท่อลําเลียงนําแพร่ ออกมาทีเซลล์ของผิวใบ ่ แล้วก็จะแพร่ ออกทางปากใบในรู ปของไอนํา ปากใบอยูระหว่างเซลล์คุม 2 เซลล์ ทําหน้าทีควบคุมการ ปิ ดเปิ ดของปากใบ เป็ นทางผ่านเข้าออกของนํา และเป็ นทางเข้าของแก๊สคาร์ บอนไดออกไซด์ เพือใช้ ในการสังเคราะห์ดวยแสง และเป็ นทางออกของแก๊สออกซิ เจนทีเกิดขึนด้วย สําหรับพืชทีมีใบจมอยูใน ้ ่ นํา เช่น สาหร่ าย จะไม่มีปากใบ ปากใบหรื อรู ใบพบมากทีบริ เวณท้องใบมากกว่าด้านหลังของใบ เพือ ลดการสู ญเสี ยนํา การคายนําของพืชนอกจากจะเกิดขึนทีบริ เวณปากใบแล้ว ทีผิวใบและบริ เวณรอย แตกของลําต้นและกิง ก็เกิดขึนได้ แต่นอยมาก ้ การคายนําของพืช แบ่งเป็ น 2 วิธีคือ 1. การคายนําในรู ปของไอนํา เกิดได้ 3 ลักษณะ ดังนี 1.1 การคายนําทางปากใบ เรี ยกว่า สโตมาทอล ทรานสพิเรชัน (stomatal transpiration) เป็ นการคายนําทีเกิดขึนมากถึง 90% ลักษณะของปากใบ ปากใบของพืชประกอบด้วยช่องเล็กๆ ในเนือเยือชันนอกสุ ด ของใบ เรี ยกว่าชันเอพิเดอร์ มีส (epidermis layer) ) เซลล์ชนนีเป็ นชันทีอยูนอกสุ ดปกคลุมส่ วนทีอยู่ ั ่ ข้างในทังทางด้านบน คือ เอพิเดอร์ มิสด้านบน (upper epidermis) และทางด้านล่าง คือเอพิเดอร์ มิส ั ่ ้ ด้านล่าง (lower epidermis) เซลล์ชนนีไม่มีคลอโรฟี ลล์อยูดวย จึงทําให้สังเคราะห์ดวยแสงไม่ได้ ้ เซลล์เอพิเดอร์ มิสบางเซลล์เปลียนแปลงไปทําหน้าทีเป็ น เซลล์คุม (guard cell) อยูดวยกันเป็ นคู่ ่ ้
  • 2. มีรูปร่ างคล้ายเมล์ดถัวแดงประกบกัน ผนังด้านในของเซลล์คุมหนากว่าผนังเซลล์ดานนอกระหว่าง ้ ่ เซลล์คุมเป็ นปากใบ (stomata) พบว่าทางด้านล่างของใบมีปากใบอยูมากกว่าทางด้านบน ลักษณะของเซลล์ คุม เซลล์ คุม (guard cell) ทําหน้าทีปิ ดและเปิ ดปากใบ เซลล์คุมแตกต่างจากเซลล์ ่ ้ เอพิเดอร์ มิสอืนคือเซลล์คุมมีคลอโรฟี ลล์อยูดวย จึงสามารถสังเคาระห์ดวยแสงได้และการสังเคราะห์ ้ ด้วยแสงนีเป็ นกลไกสําคัญทีทําให้เกิดการเปิ ดปิ ดของปากใบ การคายนําและการลําเลียงสารของพืช ผิวของเซลล์ชนเอพิเดอร์ มิสมีสารพวกขีผึง เรี ยกว่า คิวทิน ฉาบอยูช่วยป้ องกันการระเหยของนํา ั ่ ออกจากผิวใบปากใบพืช เซลล์ คุมและการเปิ ดปิ ดของปากใบ 1.2 การคายนําทางผิวใบ บริ เวณผิวใบมีคิวทิน (Cuticular transpiration) เป็ นสารคล้าย ่ ขีผึงเคลือบอยูจึงทําให้พืชคายนําทางผิวใบเพียง 10%
  • 3. 1.3 การคายนําทางเลนติเซล (Lenticular transpiration) เป็ นการคายนําออกทางรอยแตก ทีผิวของลําต้น กิง ที เรี ยกว่า เลนติเซล (lenticels) ซึ งเกิดขึนน้อยมาก เลนติเซล (lenticels) ทีมา : http://www.csdl.tamu.edu/FLORA/tfplab/vegchar.htm 2. การคายนําในรู ปหยดนํา เป็ นการคายนําในรู ปหยดนําเล็ก ๆ ทางรู เปิ ดเล็ก ๆ ตามปลายเส้น ใบทีขอบใบทีเรี ยกว่า โฮดาโธด (hydathode) การคายนํานี เรี ยกว่า กัตเตชัน (guttation) ซึ งเกิดขึนเมือ อากาศมีความชืนมาก ๆ อุณหภูมิตาและลมสงบ ํ กัตเตชัน (guttation) ทีมา : http://www.school.net.th/library/create-web/10000/science/10000-6597.html
  • 4. ปัจจัยทีมีผลต่ อการคายนํา อุณหภูมิ ขณะทีปากใบเปิ ดถ้าอุณหภูมิของอากาศสู งขึน อากาศจะแห้ง นําจะแพร่ ออกจาก ปากใบมากขึน ทําให้พืชขาดนํามากขึน ความชื น ถ้าความชืนในอากาศลดลงปริ มาณนําในใบและในอากาศแตกต่างกันมากขึน จึงทํา ให้ไอนําแพร่ ออกจากปากใบมากขึน เกิดการคายนําเพิมมากขึน ลม ลมทีพัดผ่านใบไม้จะทําให้ความกดอากาศทีบริ เวณผิวใบลดลง ไอนําบริ เวณปากใบจะ แพร่ ออกสู่ อากาศได้มากขึน และขณะทีลมเคลือนผ่านผิวใบจะนําความชืนไปกับอากาศด้วย ไอนําจาก ปากใบก็จะแพร่ ได้มากขึนเช่นกัน แต่ถาลมพัดแรงเกินไปปากใบก็จะปิ ด ้ ั สภาพนําในดิน การเปิ ดปิ ดของปากใบมีความสัมพันธ์กบสภาพของนําในดินมากกว่าสภาพ ของนําในใบพืช เมือดินมีนาน้อยลงและพืชเริ มขาดแคลนนํา พืชจะสังเคราะห์กรดแอบไซซิ ก (abscisic ํ acid) หรื อ ABA มีผลทําให้ปากใบปิ ดการคายนําจึงลดลง ความเข้ มของแสง ขณะทีพืชได้รับนําอย่างเพียงพอปากใบจะเปิ ดมากเมือความเข้มแสงสู งขึน และปากใบจะเปิ ดน้อยลงเมือความเข้มของแสงลดลง เนืองจากความเข้มของแสงเกียวข้องกับอัตราการ สังเคราะห์ดวยแสงซึ งมีผลต่อการเปลียนแปลงความเข้มข้นของคาร์ บอนไดออกไซด์ นําตาล ไอออน ้ ่ และสารอินทรี ยบางชนิ ดทีอยูในเซลล์คุม ดังนันเมือความเข้มข้นของแสงมากขึนจะเป็ นผลให้การคาย ์ นําในใบมาก แต่ในบางกรณี ถึงแม้ความเข้มของแสงมากแต่นาในดินน้อย พืชเริ มขาดนําปากใบจะปิ ด ํ โดยทัวไปปากใบพืชจะเปิ ดในเวลากลางวันเพือนําคาร์ บอนไดออกไซด์ไปใช้ในการ สังเคราะห์ดวยแสงและปิ ดในเวลากลางคืน แต่พืชอวบนํา เช่น กระบองเพชรทีเจริ ญในทีแห้งแล้ง ้ ปากใบจะเปิ ดในเวลากลางคืน และปิ ดในเวลากลางวันเพือลดการสู ญเสี ยนํา ในเวลากลางคืนพืช ตระกูลนีจะตรึ งคาร์ บอนไดออกไซด์แล้วเปลียนเป็ นกรดอินทรี ยเ์ ก็บสะสมไว้ในแวคิลโอล ในเวลา กลางวันพืชจะนําคาร์ บอนไดออกไซด์จากกรดอินทรี ยมาใช้ในการสังเคราะห์ดวยแสง พืชบางชนิดยังมี ์ ้ การปรับโครงสร้างให้มีประสิ ทธิ ภาพในการดูดนํา โดยมีรากแผ่ขยายเป็ นบริ เวณกว้างหรื อมีรากหยังลึก ลงไปในดิน เช่น หญ้าแฝก พืชบางชนิดลําต้นและใบอวบนําเพือสะสมนํา มีขนปกคลุมปากใบจํานวน มาก มีคิวทินหนาทีผิวใบ รู ปร่ างของใบมีขนาดเล็กลงหรื อเปลียนไปเป็ นหนาม บางชนิ ดมีโครงสร้าง ทีช่วยลดการคายนํา เช่น ปากใบอยู่ตํากว่ าระดับผิวใบ เช่น ปากใบของต้นยีโถ