Weitere ähnliche Inhalte
Ähnlich wie World-Class Standard School (20)
Mehr von Boonlert Aroonpiboon (20)
World-Class Standard School
- 2. แนวทางการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากล ฉบับปรับปรุง
ปีที่พิมพ์ พ.ศ. 2555
จ�ำนวนพิมพ์ 10,000 เล่ม
ลิขสิทธิ์เป็นของ ส�ำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย
ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ
ISBN 978-616-202-678-2
พิมพ์ที่ โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จ�ำกัด
79 ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
โทร. 0-2561-4567 โทรสาร 0-2579-5101
นายโชคดี ออสุวรรณ ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา
- 3. สารจากเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ก�ำหนดนโยบายให้โรงเรียนมาตรฐานสากล
(World-ClassStandardSchool) เป็นนวัตกรรมการจัดการศึกษาที่ใช้เป็นยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อน
การพัฒนายกระดับการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพมาตรฐานเทียบเท่าสากล ผู้เรียนมีศักยภาพและ
ความสามารถทัดเทียมกับผู้เรียนนานาประเทศ
โครงการโรงเรียนมาตรฐานสากล เริ่มด�ำเนินการตั้งแต่ปี2553 มีวัตถุประสงค์ส�ำคัญ3 ประการ
คือ พัฒนาผู้เรียนให้มีศักยภาพเป็นพลโลก จัดการเรียนการสอนเทียบเคียงมาตรฐานสากล และบริหาร
จัดการด้วยระบบคุณภาพ โดยมีโรงเรียนเป้าหมาย500 โรงเรียนเป็นกลุ่มบุกเบิก เพื่อให้การด�ำเนินการ
บรรลุวัตถุประสงค์ และมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อให้การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในโรงเรียน
มาตรฐานสากลบังเกิดผลเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจึงได้
ทบทวนและก�ำหนดแนวทาง โดยจัดท�ำเอกสารแนวทางการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐาน
สากล (ฉบับปรับปรุง) ขึ้น ทั้งนี้รายละเอียดของเอกสารจะช่วยให้โรงเรียนมีความรู้ความเข้าใจ
และสามารถใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เรียกว่า “บันได 5 ขั้น ของการพัฒนาผู้เรียน
สู่มาตรฐานสากล” (Five Steps for Student Development)
ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารแนวทางการจัด
การเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากล (ฉบับปรับปรุง) ฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน
ครูผู้สอน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ขอขอบคุณคณะท�ำงานและทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการจัดท�ำ
เอกสารให้ส�ำเร็จบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายได้เป็นอย่างดี
(นายชินภัทร ภูมิรัตน)
เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
- 4. สารจากเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ตอนที่ 1 สวนนํา 1
หลักการและเหตุผลของการจัดโรงเรียนมาตรฐานสากล 3
ลักษณะของโรงเรียนมาตรฐานสากล 11
การดําเนินงานของโรงเรียนมาตรฐานสากล 12
ความสําเร็จของโรงเรียนมาตรฐานสากล 14
เปาหมายความสําเร็จในการดําเนินงานดานผูเรียน 15
ตอนที่ 2 หลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียน 19
คุณลักษณะและศักยภาพผูเรียนที่เปนสากล 21
การจัดทําหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนสูสากล 23
กระบวนการพัฒนาผูเรียนสูคุณภาพที่คาดหวัง 24
การศึกษาคนควาดวยตนเอง (Independent Study : IS) เครื่องมือสําคัญ
ในการพัฒนา 25
เปาหมายคุณภาพผูเรียนในสาระการศึกษาคนควาดวยตนเอง 27
ตอนที่ 3 การจัดหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนมาตรฐานสากล 33
ระดับประถมศึกษา 35
ระดับมัธยมศึกษา 38
ตัวอยางโครงสรางหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนมาตรฐานสากล
ระดับชั้นประถมศึกษา 40
ตัวอยางโครงสรางหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนมาตรฐานสากล
ระดับชั้นมัธยมศึกษา 41
ตัวอยางคําอธิบายรายวิชา 42
สารบัญ
- 5. ตอนที่ 4 การจัดการเรียนรูในโรงเรียนมาตรฐานสากล 49
แนวทางการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแหงชาติ
พุทธศักราช 2542 52
ธรรมชาติของผูเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา 53
การจัดการเรียนรูตองเนนการทํางานของสมอง 55
การจัดการเรียนรูตามแนวทฤษฎีการสรางความรู 57
การศึกษาคนควาดวยตนเอง 60
แนวทางการจัดการเรียนรูที่ผูเรียนศึกษาคนควาดวยตนเอง 62
บทบาทของผูสอน 65
บทบาทของผูเรียน 66
การจัดการเรียนรูระดับประถมศึกษา 68
บันได 5 ขั้น ของการพัฒนาผูเรียนสูมาตรฐานสากล 70
การจัดกิจกรรมเพื่อนําความรูหรือประสบการณไปใชบริการสังคม 71
ตอนที่ 5 การวัดและประเมินผล 73
แนวทางการวัดและประเมินผล 75
ตัวอยางการวัดและประเมินผล ระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 1-3 76
ตัวอยางการวัดและประเมินผล ระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 4-6 77
ตัวอยางการวัดและประเมินผล ระดับมัธยมศึกษา 86
แนวทางการวัดและประเมินผล ระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 1-3 88
แนวทางการวัดและประเมินผล ระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 4-6 89
แนวทางการวัดและประเมินผล ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1-3 91
แนวทางการวัดและประเมินผล ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4-6 93
ตัวอยางระดับคุณภาพการประเมินผล ระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 1-3 96
ตัวอยางระดับคุณภาพการประเมินผล ระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 4-6 98
ตัวอยางระดับคุณภาพการประเมินผล ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1-3 102
ตัวอยางระดับคุณภาพการประเมินผล ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4-6 107
แนวทางการรายงานผลการเรียนรูสาระการศึกษาคนควาดวยตนเอง
(Independent Study : IS) 113
การรายงานภาพรวมระดับหองเรียน 116
ภาคผนวก 117
เอกสารอางอิง 153
คณะทํางาน 154
- 9. แนวทางการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากลฉบับปรับปรุง
3
ส่วนน�ำ
หลักการและเหตุผลของการจัดโรงเรียนมาตรฐานสากล
กระแสโลกาภิวัตน์ และความเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดขึ้น
อย่างรวดเร็ว ทั้งด้านวิทยาการ และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
ท�ำให้แต่ละประเทศไม่สามารถปิดตัวอยู่โดยล�ำพัง ต้องร่วมมือและพึ่งพาอาศัย
ซึ่งกันและกัน การด�ำรงชีวิตของคนในแต่ละประเทศ มีการติดต่อสื่อสารซึ่งกัน
และกันมากขึ้น มีความร่วมมือในการปฏิบัติภารกิจและแก้ปัญหาต่าง ๆ ร่วมกัน
มากขึ้น ในขณะเดียวกัน สังคมโลกในยุคปัจจุบัน เต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสาร
ท�ำให้คนต้องคิด วิเคราะห์ แยกแยะ และมีการตัดสินใจที่รวดเร็ว เพื่อให้ทันกับ
เหตุการณ์ในสังคม ที่มีความสลับซับซ้อนมากขึ้น สิ่งเหล่านี้น�ำไปสู่สภาวการณ์
ของการแข่งขันทางเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ
อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเป็นแรงผลักดันส�ำคัญที่ท�ำให้หลายประเทศต้องปฏิรูป
การศึกษา คุณภาพของการจัดการศึกษาจึงเป็นตัวบ่งชี้ส�ำคัญประการหนึ่ง ส�ำหรับ
ความพร้อมในการเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 และศักยภาพในการแข่งขันในเวทีโลก
ของแต่ละประเทศ ประเทศที่จะอยู่รอดได้หรือคงความได้เปรียบก็คือประเทศ
ที่มีอ�ำนาจทางความรู้และเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ซึ่งในยุคโลกไร้พรมแดน
คนต่างชาติจะเข้ามาท�ำงาน และประกอบอาชีพในประเทศไทยมากขึ้น
ขณะเดียวกันคนไทยก็มีโอกาสไปท�ำงานและประกอบอาชีพในต่างประเทศ
มากขึ้นด้วยเช่นกัน
นอกจากนั้น ปัจจุบันปรากฏสภาพปัญหา ที่คนทั่วโลกต้องเผชิญ
กับวิกฤตการณ์ร่วมกันในเรื่องความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและ
สภาพแวดล้อมและอุบัติภัยต่างๆที่เกิดบ่อยๆและรุนแรงมากยิ่งขึ้นส่งผลกระทบ
อย่างรุนแรงต่อมวลมนุษย์โดยทั่วไป สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มว่าคนยุคใหม่
จะต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงที่หลากหลาย เป็นสัญญาณเตือนว่า
โลกในยุคหน้า จะมีปรากฏการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นเกินกว่าจะคาดคิด ด้วยเหตุนี้
จึงจ�ำเป็นอย่างยิ่งที่แต่ละประเทศต้องเตรียมคนรุ่นใหม่ ที่มีทักษะและ
ความสามารถในการปรับตัว มีคุณลักษณะส�ำคัญในการด�ำรงชีวิตในโลกยุคใหม่ได้
อย่างรู้เท่าทัน สงบ สันติ มีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี เหมาะสมและเพียงพอ
1
- 10. แนวทางการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากลฉบับปรับปรุง
4
การจัดหลักสูตรและกิจกรรมการเรียนการสอนจ�ำเป็นต้องมีความ
เป็นพลวัต ก้าวทันกับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ส�ำนักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ผลักดันให้มีการปรับเปลี่ยนหลักสูตรและกิจกรรม
การเรียนการสอน เพื่อเพิ่มศักยภาพการจัดการศึกษาไทยให้พร้อมส�ำหรับ
การแข่งขันในเวทีโลกในยุคศตวรรษที่ 21 สรุปได้ดังนี้
1) โรงเรียนต้องเป็นหน่วยบริการทางการศึกษาในมิติที่กว้างขึ้น
เพราะในปัจจุบันสังคมโลกเป็นสังคมที่ไร้พรมแดน ที่มีการติดต่อประสาน
สัมพันธ์ระหว่างประเทศต่าง ๆ มากขึ้น อีกทั้งการก้าวไปสู่ประชาคมอาเซียน
ในปี พ.ศ. 2558 จะมีผลต่อการเปิดเสรีทางการศึกษา ซึ่งจะท�ำให้เกิดการ
แข่งขันในการจัดการศึกษาของสถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้น
ในอนาคตโรงเรียนแต่ละแห่งจะต้องมีการแข่งขันด้านคุณภาพมากขึ้น โรงเรียน
ในประเทศไทยเองจ�ำเป็นต้องพัฒนาให้เป็นหน่วยบริการทางการศึกษา
ที่มีคุณภาพ เพื่อรองรับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นจากการเปิดเสรีทางการศึกษา
2) หลักสูตรการเรียนการสอนต้องมีความเป็นสากลมากขึ้น เนื่องจาก
ยุคโลกาภิวัตน์ มีการเชื่อมโยงด้านการค้าและการลงทุน ท�ำให้ตลาดแรงงาน
ในอนาคตต้องการคนที่มีศักยภาพในหลายด้าน รวมทั้งความสามารถด้าน
ภาษาต่างประเทศ การคิดวิเคราะห์ การสื่อสาร คุณลักษณะในการเป็นพลโลก
การจัดหลักสูตรและการเรียนการสอนจึงต้องปรับให้มีความเป็นสากลมากขึ้น
นอกจากนี้การเปิดเสรีทางการศึกษา ท�ำให้สถาบันการศึกษาจากต่างประเทศ
เข้ามาลงทุนด้านการจัดการศึกษาในประเทศไทย โรงเรียนควรหาภาคีเครือข่าย
ในการจัดหลักสูตรนานาชาติ หลักสูตรสมทบ หรือหลักสูตรร่วมกับสถาบัน
ต่างประเทศ เพื่อความเป็นสากลของการศึกษา
- 12. แนวทางการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากลฉบับปรับปรุง
6
จากแนวคิดดังกล่าว กระทรวงศึกษาธิการจึงมีการทบทวนและปรับปรุง
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน และได้ประกาศใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เพื่อเป็นกรอบทิศทางในการพัฒนาเยาวชนของ
ชาติเข้าสู่โลกยุคศตวรรษที่ 21 โดยมุ่งส่งเสริมผู้เรียนให้มีคุณธรรมบนพื้นฐาน
ของความเป็นไทยควบคู่กับความเป็นสากล รักความเป็นไทย มีทักษะในการคิด
มีทักษะในการแก้ปัญหา มีทักษะด้านเทคโนโลยี มีความคิดสร้างสรรค์
มีความสามารถในการสื่อสาร และมีทักษะชีวิต สามารถท�ำงานร่วมกับผู้อื่น
และอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมโลกได้อย่างสันติ ในระดับที่ไม่ต�่ำกว่านักเรียน
ของนานาอารยประเทศ ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศแบบยั่งยืน เป็นการเพิ่ม
ขีดความสามารถให้คนไทยก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้า
ของโลก มีศักยภาพในการแข่งขันในเวทีโลก
- 13. แนวทางการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากลฉบับปรับปรุง
7
ส่วนน�ำ
อย่างไรก็ตามผลการติดตามการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 พบว่า กระบวนการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียน
ส่วนใหญ่ ยังไม่สามารถพัฒนาผู้เรียนให้เกิดคุณภาพตามเจตนารมณ์ของ
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. ทักษะและความสามารถในการใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและ
การศึกษาหาความรู้ ทั้งด้านการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน
2. ทักษะความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสารและ
การศึกษา หาความรู้ ทั้งด้านการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน
3. ทักษะและความสามารถในการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
(Independent Study) และเรียนรู้จากการปฏิบัติทดลอง
4. ทักษะและความสามารถในการคิดรูปแบบต่างๆเช่นการคิดวิเคราะห์
การคิดเชิงวิทยาศาสตร์ การคิดสร้างสรรค์ และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
เป็นต้น
5. ทักษะและความสามารถในการท�ำงานและแข่งขันกับชาวต่างชาติ
6. โอกาสในการใช้ ICT เพื่อการเรียนรู้และการด�ำรงชีวิต
7. ความเป็นผู้มีจิตสาธารณะ และมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อต่อปัญหาอุปสรรค
- 14. แนวทางการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากลฉบับปรับปรุง
8
สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ ครูต้องมีความรู้ความเข้าใจในเป้าหมาย
ของหลักสูตรและกระบวนการจัดการเรียนรู้อย่างถ่องแท้ สามารถน�ำไปถ่ายทอด
แก่ผู้เรียน และประยุกต์ใช้สื่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ตลอดจนนวัตกรรมและเทคโนโลยี
ที่เอื้อต่อการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้เล็งเห็นความจ�ำเป็น
อย่างรีบด่วนที่จะต้องเร่งหาวิธีการที่มีประสิทธิภาพ ในการพัฒนาทักษะและ
ความสามารถต่าง ๆ ดังกล่าวให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน เพื่อให้เป็นพื้นฐานที่จะเติบโต
เป็นคนไทยที่มีความคิดเป็นสากล มีความสามารถในการร่วมมือท�ำงานและ
แข่งขันกับนานาชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะสิ่งเหล่านี้จะท�ำให้ประเทศไทย
ด�ำรงอยู่ในเวทีระดับนานาชาติได้อย่างรู้เท่าทัน สมศักดิ์ศรี เคียงบ่าเคียงไหล่
ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ได้รับประโยชน์ในสิ่งที่ควรจะได้รับ และมีคุณภาพชีวิต
ที่ดี สามารถด�ำรงชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสงบ สันติ ถ้อยทีถ้อยอาศัยและช่วยเหลือ
ซึ่งกันและกัน
โรงเรียนมาตรฐานสากลจึงเป็นนวัตกรรมการจัดการศึกษาที่ส�ำนักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานน�ำมาใช้เป็นมาตรการเร่งด่วนในการยกระดับ
การจัดการศึกษาให้มีคุณภาพมาตรฐานเทียบเท่าสากล เริ่มด�ำเนินการน�ำร่อง
ในปีการศึกษา 2553 กับโรงเรียนจ�ำนวน 500 โรงเรียน ทั้งระดับประถมศึกษา
และมัธยมศึกษา ด้วยการให้โรงเรียนในโครงการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา
และจัดกระบวนการเรียนรู้ให้ผู้เรียนบรรลุคุณภาพตามมาตรฐานที่ก�ำหนด
ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และเพิ่มเติม
สาระการเรียนรู้ความเป็นสากล
- 15. แนวทางการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากลฉบับปรับปรุง
9
ส่วนน�ำ
อย่างไรก็ตามจากการก�ำกับติดตามการด�ำเนินงานของโรงเรียนใน
โครงการโรงเรียนมาตรฐานสากล ในปีการศึกษา2553-2554 พบปัญหาอุปสรรค
ในการปฏิบัติบางประการ ได้แก่ การใช้ค�ำบางค�ำอาจท�ำให้เกิดการเข้าใจผิดว่า
มีความซ�้ำซ้อนกับหลักสูตรบางหลักสูตร และการจัดสาระเพิ่มเติมในหลักสูตร
ของสถานศึกษาหลายแห่งยังไม่สอดคล้องกับโครงสร้างเวลาเรียนที่ก�ำหนด
ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
นอกจากนั้น เสียงสะท้อนของสังคมทั่วไปบ่งชี้ให้เห็นว่า ทักษะและ
ความสามารถที่จ�ำเป็นที่จะช่วยท�ำให้เด็กและเยาวชนไทยสามารถพัฒนาตนเอง
ไปสู่ความเป็นสากล ได้แก่ ทักษะและความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิด
สร้างสรรค์ การแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง รวมถึงทักษะและความสามารถ
ด้านเทคโนโลยี และทักษะและความสามารถในการท�ำงานร่วมกับผู้อื่น ยังไม่อยู่
ในระดับที่น่าพอใจ
ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ผลการ
ทดสอบความถนัดทั่วไป (GAT) และผลการทดสอบความถนัดทางวิชาการ
และวิชาชีพ (PAT) ของนักเรียนในภาพรวมอยู่ในระดับต�่ำและมีการกระจายสูง
ยังไม่เป็นที่พึงพอใจ
- 16. แนวทางการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากลฉบับปรับปรุง
10
ผลการเข้าร่วมโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (Programme
for International Student Assessment : PISA) จัดโดย Organization for
Economic Co-operation and Development : OECD) มีประเทศเข้าร่วม
โครงการประมาณ70 ประเทศ คะแนนเฉลี่ยของนักเรียนไทยต�่ำกว่าคะแนนเฉลี่ย
ของนานาชาติมาก
ส่วนผลการเข้าร่วมโครงการการศึกษาแนวโน้มการจัดการศึกษา
ด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ระดับนานาชาติ (Trended in International
Mathematics and Science Study : TIMSS) จัดโดย The International
AssociationfortheEvaluationofEducationalAchievement:IEA มีประเทศ
เข้าร่วมโครงการประมาณ 60 ประเทศ คะแนนของนักเรียนไทยโดยเฉลี่ย
ต�่ำกว่าค่าเฉลี่ยของนักเรียนนานาชาติมากเช่นกัน
จากข้อมูลดังกล่าวท�ำให้สังคมทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
สรุปและเชื่อว่าคุณภาพการศึกษาของประเทศไทยเมื่อเทียบกับคุณภาพการศึกษา
ของนานาชาติยังอยู่ในระดับต�่ำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น
ที่ต่างชาติมีต่อประเทศไทย ตลอดจนการลงทุนของต่างชาติในประเทศไทยมาก
จึงจ�ำเป็นต้องพัฒนาและปรับปรุงการศึกษาไทยให้มีคุณภาพทัดเทียมกับ
การศึกษาของนานาชาติ
ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจึงได้พิจารณาทบทวน
จุดที่เป็นปัญหาในการด�ำเนินงานของโรงเรียนมาตรฐานสากล และพัฒนา
ปรับปรุงแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดหลักสูตรการจัดการเรียนการสอน และ
การบริหารจัดการส�ำหรับโรงเรียนในโครงการ โดยเริ่มต้นใช้ในปีการศึกษา
2555 ทั้งนี้ เพื่อให้การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในโรงเรียนมาตรฐานสากลเป็นไป
อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- 18. แนวทางการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากลฉบับปรับปรุง
12
3 การด�ำเนินงานของโรงเรียนมาตรฐานสากล
การด�ำเนินงานของโรงเรียนมาตรฐานสากล จะประสบความส�ำเร็จได้
จะต้องมีการพัฒนาหลายมิติไปพร้อมกัน โดยจะต้องด�ำเนินการทั้งระบบ คือ
ด้านหลักสูตร ด้านการจัดการเรียนการสอน และด้านการบริหารจัดการ มิใช่
เป็นการจัดการศึกษาเพียงบางส่วนของโรงเรียน หรือเพียงจัดเป็นแผนการเรียน
มาตรฐานสากล การจัดการศึกษาของโรงเรียนมาตรฐานสากลจะต้องมี
จุดมุ่งหมายและทิศทางที่ชัดเจน ดังนี้
3.1 เพื่อยกระดับการจัดการเรียนการสอนให้เทียบเคียงมาตรฐานสากล
หรือมาตรฐานของประเทศชั้นน�ำที่มีคุณภาพการศึกษาสูง ได้แก่ ประเทศ
ที่ประสบความส�ำเร็จสูงในการเข้าร่วมโครงการ PISA หรือ TIMSS โดยค�ำนึง
ถึงความแตกต่างของผู้เรียนทางด้านสติปัญญา ความสามารถ และความถนัด
มีการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมในการเพิ่มพูนศักยภาพของผู้เรียน ส่งเสริม
พหุปัญญาของผู้เรียน บนพื้นฐานของความเข้าใจและรู้ใจ มีการใช้กระบวนการ
คัดกรองในระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียนเป็นรายบุคคล เพื่อให้สามารถพัฒนา
ไปสู่จุดสูงสุดแห่งศักยภาพ
3.2 เพื่อยกระดับการบริหารจัดการของโรงเรียนให้มีการบริหารด้วย
ระบบคุณภาพตามเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Award :
TQA) ทั้งนี้เพื่อให้การพัฒนาศักยภาพของโรงเรียนด�ำเนินไปตามมาตรฐานสากล
หรือมาตรฐานของประเทศชั้นน�ำที่มีคุณภาพการศึกษาสูงทั้งหลาย
- 20. แนวทางการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากลฉบับปรับปรุง
14
ความส�ำเร็จของโรงเรียนมาตรฐานสากล
ความส�ำเร็จขั้นสุดท้ายของโรงเรียนมาตรฐานสากล คือ คุณภาพของ
ผู้เรียน โรงเรียนที่ได้รับการประเมินว่ามีหลักสูตร กิจกรรมการเรียนการสอน
และการบริหารจัดการที่ดีเยี่ยม แต่การประเมินคุณภาพของผู้เรียนยังไม่ผ่าน
เกณฑ์ตามที่โรงเรียนได้ก�ำหนดไว้ ก็ไม่ถือว่าโรงเรียนนั้นประสบความส�ำเร็จ
ในการเป็นโรงเรียนมาตรฐานสากล
ความส�ำเร็จของโรงเรียนในการด�ำเนินงานตามโครงการโรงเรียน
มาตรฐานสากลจะพิจารณาจากคุณภาพของผู้เรียนที่เพิ่มขึ้นตามเป้าหมาย
ที่แต่ละโรงเรียนก�ำหนดและท�ำความตกลงไว้กับโครงการเป็นส�ำคัญ
ความส�ำเร็จด้านการพัฒนาหลักสูตร การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
และการบริหารจัดการโรงเรียนด้วยระบบบริหารคุณภาพ ถือเป็นความส�ำเร็จ
ในการด�ำเนินงานของโรงเรียนมาตรฐานสากล บนพื้นฐานความเชื่อว่า
ถ้าโรงเรียนมีหลักสูตร การจัดการเรียนการสอน และมีระบบการบริหารจัดการ
โรงเรียนที่ดี ก็จะช่วยท�ำให้ผู้เรียนมีคุณภาพที่ดีขึ้นเป็นล�ำดับ
ความส�ำเร็จของการด�ำเนินงานโรงเรียนมาตรฐานสากลสรุปได้ ดังนี้
4
เป็นเลิศวิชาการ
ผู้เรียน
สื่อสารสองภาษา ล�้ำหน้าทางความคิด
ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก
ผู้เรียนมีศักยภาพ
เป็นพลโลก
การบริหารจัดการด้วยระบบคุณภาพ ตามเกณฑ์ระดับคุณภาพแห่งชาติ
(Thailand Quality Award : TQA)
ระดับคุณภาพ สพฐ.
(Office of the Basic Education Commission Quality Award : OBECQA)
ระดับคุณภาพโรงเรียน
(School Quality Award : SCQA)
หลักสูตรและกิจกรรม
การเรียนการสอน
ครู
- 24. แนวทางการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากลฉบับปรับปรุง
18
เป้ำหมำยและตัวชี้วัดควำมส�ำเร็จด้ำนผู้เรียน ในกำรด�ำเนินงำนโรงเรียน
มำตรฐำนสำกล มี 5 เป้ำหมำย ดังนี้
1. เปนเลิศทางวิชาการ :
นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนด้ำนต่ำง ๆ อยู่ในระดับสูง เทียบได้
ไม่ต�่ำกว่ำนักเรียนของประเทศที่มีคุณภำพกำรศึกษำสูง
2. สื่อสารสองภาษา :
นักเรียนมีทักษะและควำมสำมำรถด้ำนภำษำอยู่ในระดับสูง เทียบได้
ไม่ต�่ำกว่ำนักเรียนของประเทศที่มีคุณภำพกำรศึกษำสูง
3. ล�้าหน้าทางความคิด :
นักเรียนมีทักษะและควำมสำมำรถในกำรคิดและทักษะและ
ควำมช�ำนำญในกำรใช้ ICT ในระดับสูง เทียบได้ไม่ต�่ำกว่ำนักเรียนของประเทศ
ที่มีคุณภำพกำรศึกษำสูง
4. ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ :
นักเรียนมีทักษะและควำมสำมำรถเกี่ยวกับกำรศึกษำค้นคว้ำตนเอง
(Independent Study) และมีศักยภำพ ทักษะ และควำมสำมำรถในกำรผลิต
ผลงำนต่ำง ๆ อย่ำงมีคุณภำพ เทียบได้ไม่ต�่ำกว่ำนักเรียนของประเทศที่มีคุณภำพ
กำรศึกษำสูง
5. ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก :
นักเรียนมีควำมรู้ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับวิถีชีวิต วัฒนธรรม และ
ลักษณะเฉพำะของชำติต่ำง ๆ ในระดับสูง มีควำมมุ่งมั่นจริงจังในกำรท�ำงำน
ไม่ย่อท้อต่อปัญหำอุปสรรค มีจิตสำธำรณะ มีส�ำนึกในกำรบริกำรสังคม และ
มีควำมรับผิดชอบต่อสังคมอยู่ในระดับสูง เทียบได้ไม่ต�่ำกว่ำนักเรียนของประเทศ
ที่มีคุณภำพกำรศึกษำสูง
1.
2.
3.
4.
5.
- 27. แนวทางการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากลฉบับปรับปรุง
21
หลักสูตรและกำรจัดกำรเรียนกำรสอนในโรงเรียน
คุณลักษณะและศักยภาพผู้เรียนที่เปนสากล
กำรจัดกำรเรียนกำรสอนในโรงเรียนมำตรฐำนสำกล มุ่งเน้นกำร
เสริมสร้ำงควำมรู้ ควำมสำมำรถ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน
ในศตวรรษที่ 21 สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน
พุทธศักรำช 2551 และเป็นไปตำมปฏิญญำว่ำด้วยกำรจัดกำรศึกษำของ
UNESCO ได้แก่
Learning to know :
หมำยถึง กำรเรียนเพื่อให้มีควำมรู้ในสิ่งต่ำง ๆ อันจะเป็นประโยชน์
ต่อไป ได้แก่ กำรรู้จักกำรแสวงหำควำมรู้ กำรต่อยอดควำมรู้ที่มีอยู่ และรวมทั้ง
กำรสร้ำงควำมรู้ขึ้นใหม่
Learning to do :
หมำยถึง กำรเรียนเพื่อกำรปฏิบัติหรือลงมือท�ำ ซึ่งน�ำไปสู่กำรประกอบ
อำชีพจำกควำมรู้ที่ได้ศึกษำมำ รวมทั้งกำรปฏิบัติเพื่อสร้ำงประโยชน์ให้สังคม
Learning to live together :
หมำยถึง กำรเรียนรู้เพื่อกำรด�ำเนินชีวิตอยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่ำง
มีควำมสุขทั้งกำรด�ำเนินชีวิตในกำรเรียน ครอบครัว สังคม และกำรท�ำงำน
Learning to be :
หมำยถึง กำรเรียนรู้เพื่อให้รู้จักตัวเองอย่ำงถ่องแท้ รู้ถึงศักยภำพ
ควำมถนัด ควำมสนใจของตนเอง สำมำรถใช้ควำมรู้ควำมสำมำรถของตนเอง
ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม เลือกแนวทำงกำรพัฒนำตนเองตำมศักยภำพ วำงแผน
กำรเรียนต่อ กำรประกอบอำชีพที่สอดคล้องกับศักยภำพของตนเองได้
Learning to know :
Learning to do :
หมำยถึง กำรเรียนเพื่อกำรปฏิบัติหรือลงมือท�ำ ซึ่งน�ำไปสู่กำรประกอบ
Learning to live together :
Learning to be :
- 28. แนวทางการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากลฉบับปรับปรุง
22
ทั้งนี้เพื่อพัฒนำผู้เรียนให้มีคุณภำพ ทั้งในฐำนะพลเมืองไทยและ
พลเมืองโลกเทียบเคียงกับนำนำอำรยประเทศ โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีศักยภำพ
ที่ส�ำคัญ ดังนี้
1) ความรู้พื้นฐานในยุคดิจิทัล
มีควำมรู้พื้นฐำนที่จ�ำเป็นทำงวิทยำศำสตร์ เศรษฐศำสตร์ เทคโนโลยี
รู้ภำษำ ข้อมูล และทัศนภำพ รู้พหุวัฒนธรรมและมีควำมตระหนักส�ำนึกระดับโลก
2) ความสามารถคิดประดิษฐ์อย่างมีความสามารถในการปรับตัว
สำมำรถจัดกำรกับสภำวกำรณ์ที่มีควำมซับซ้อน เป็นบุคคลที่ใฝ่รู้
สำมำรถก�ำหนด/ตั้งประเด็นค�ำถำม เพื่อน�ำไปสู่กำรศึกษำค้นคว้ำ แสวงหำ
ควำมรู้ มีควำมสำมำรถในกำรคิดวิเครำะห์ คิดสังเครำะห์ ข้อมูล สำรสนเทศ
และสรุปองค์ควำมรู้ ใช้ข้อมูลเพื่อกำรตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและสังคม
ได้อย่ำงเหมำะสม
3) ทักษะการสื่อสารอย่างมีประสิทธิผล
ควำมสำมำรถในกำรรับและส่งสำร กำรเลือกรับหรือไม่รับข้อมูล
ข่ำวสำรด้วยหลักเหตุผลและควำมถูกต้อง มีวัฒนธรรมในกำรใช้ภำษำถ่ำยทอด
ควำมคิด ควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ควำมรู้สึก และทัศนะของตนเอง เพื่อแลกเปลี่ยน
ข้อมูลข่ำวสำรและประสบกำรณ์ อันจะเป็นประโยชน์ต่อกำรพัฒนำตนเองและ
สังคม รวมทั้งมีทักษะในกำรเจรจำต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหำควำมขัดแย้ง
ต่ำง ๆ ตลอดจนสำมำรถเลือกใช้วิธีกำรสื่อสำรที่มีประสิทธิภำพโดยค�ำนึงถึง
ผลกระทบที่มีต่อตนเองและสังคม
4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
ควำมสำมำรถในกำรน�ำกระบวนกำรต่ำง ๆ ไปใช้ในกำรด�ำเนินชีวิต
ประจ�ำวัน กำรเรียนรู้ด้วยตนเอง กำรเรียนรู้อย่ำงต่อเนื่อง เข้ำใจควำมสัมพันธ์
และกำรเปลี่ยนแปลงของเหตุกำรณ์ต่ำง ๆ ในสังคม สำมำรถจัดกำรปัญหำและ
ควำมขัดแย้งต่ำง ๆ อย่ำงเหมำะสม น�ำไปสู่กำรปฏิบัติและน�ำไปใช้ให้เกิด
ประโยชน์ต่อสังคม บริกำรสำธำรณะ ซึ่งหมำยถึงกำรเป็นพลเมืองไทยและ
พลเมืองโลก
5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
กำรสืบค้นหำควำมรู้จำกแหล่งเรียนรู้และวิธีกำรที่หลำกหลำย
เลือกและใช้เทคโนโลยีด้ำนต่ำง ๆ และมีทักษะกระบวนกำรทำงเทคโนโลยี
เพื่อกำรพัฒนำตนเองและสังคม ในด้ำนกำรเรียนรู้ กำรสื่อสำร กำรท�ำงำน
กำรแก้ปัญหำอย่ำงสร้ำงสรรค์ ถูกต้อง เหมำะสม และมีคุณธรรม
1)
2)
3)
4)
5)
- 30. แนวทางการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากลฉบับปรับปรุง
24
กระบวนการพัฒนาผู้เรียนสู่คุณภาพที่คาดหวัง
กำรจัดกำรเรียนกำรสอนเพื่อให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะและศักยภำพ
ควำมเป็นสำกล คือ เป็นบุคคลที่มีคุณภำพ มีทักษะในกำรค้นคว้ำ แสวงหำควำมรู้
และมีควำมรู้พื้นฐำนที่จ�ำเป็น สำมำรถคิดวิเครำะห์ สังเครำะห์ สร้ำงสรรค์
สำมำรถสื่อสำรอย่ำงมีประสิทธิผล มีทักษะชีวิต ร่วมมือในกำรท�ำงำนกับผู้อื่น
ได้เป็นอย่ำงดี จะต้องมีกระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้อย่ำงต่อเนื่อง มีล�ำดับขั้นตอน
ที่เหมำะสม และสอดคล้องกับพัฒนำกำรของผู้เรียนในแต่ละระดับชั้น โดยมี
กระบวนส�ำคัญในกำรจัดกำรเรียนรู้ เรียกว่ำ “บันได 5 ขั้นของกำรพัฒนำผู้เรียน
สู่มำตรฐำนสำกล (Five steps for student development)” ได้แก่
1. การตั้งค�าถาม/สมมติฐาน (Hypothesis Formulation)
เป็นกำรฝึกให้ผู้เรียนรู้จักคิด สังเกต ตั้งค�ำถำมอย่ำงมีเหตุผล
และสร้ำงสรรค์ ซึ่งจะส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดกำรเรียนรู้ในกำรตั้งค�ำถำม(Learning
to Question)
2. การสืบค้นความรู้และสารสนเทศ (Searching for Information)
เป็นกำรฝึกแสวงหำควำมรู้ ข้อมูล และสำรสนเทศ จำกแหล่งเรียน
รู้อย่ำงหลำกหลำย เช่น ห้องสมุด อินเทอร์เน็ต หรือจำกกำรฝึกปฏิบัติ ทดลอง
เป็นต้น ซึ่งจะส่งเสริมเกิดกำรเรียนรู้ในกำรแสวงหำควำมรู้(LearningtoSearch)
3. การสร้างองค์ความรู้ (Knowledge Formation)
เป็นกำรฝึกให้ผู้เรียนน�ำควำมรู้และสำรสนเทศที่ได้จำกกำรแสวงหำ
ควำมรู้ มำถกแถลง อภิปรำย เพื่อน�ำไปสู่กำรสรุปและสร้ำงองค์ควำมรู้(Learning
to Construct)
4. การสื่อสารและน�าเสนออย่างมีประสิทธิภาพ
(Effective Communication)
เป็นกำรฝึกให้ผู้เรียนน�ำควำมรู้ที่ได้มำสื่อสำรอย่ำงมีประสิทธิภำพ
ซึ่งจะส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดกำรเรียนรู้และมีทักษะในกำรสื่อสำร (Learning
to Communicate)
5. การบริการสังคมและจิตสาธารณะ (Public Service)
เป็นกำรน�ำควำมรู้สู่กำรปฏิบัติ ซึ่งผู้เรียนจะต้องเชื่อมโยงควำมรู้
ไปสู่กำรท�ำประโยชน์ให้กับสังคมและชุมชนรอบตัวตำมวุฒิภำวะของผู้เรียน
และจะส่งผลให้ผู้เรียนมีจิตสำธำรณะและบริกำรสังคม (Learning to Serve)
1.
2.
3.
4.
5.
- 31. แนวทางการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากลฉบับปรับปรุง
25
หลักสูตรและกำรจัดกำรเรียนกำรสอนในโรงเรียน
การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (Independent Study : IS)
เครื่องมือส�าคัญในการพัฒนา
กำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ตำมบันได 5 ขั้น สำมำรถด�ำเนินกำรได้
หลำกหลำยวิธีและกำรให้ผู้เรียนได้ เรียนรู้สำระกำรศึกษำค้นคว้ำด้วยตนเอง
(Independent Study : IS) นับเป็นวิธีกำรที่มีประสิทธิภำพวิธีหนึ่งที่ใช้อย่ำง
กว้ำงขวำงในกำรพัฒนำผู้เรียน เพรำะเป็นกำรเปิดโลกกว้ำงให้ผู้เรียนได้ศึกษำค้นคว้ำ
อย่ำงอิสระในเรื่องหรือประเด็นที่ตนสนใจ เริ่มตั้งแต่กำรก�ำหนดประเด็นปัญหำ
ซึ่งอำจเป็น Public Issue และ Global Issue และด�ำเนินกำรค้นคว้ำแสวงหำ
ควำมรู้จำกแหล่งข้อมูลที่หลำกหลำย มีกำรวิเครำะห์ สังเครำะห์ กำรอภิปรำย
แลกเปลี่ยนควำมคิดเห็น เพื่อน�ำไปสู่กำรสรุปองค์ควำมรู้ จำกนั้นก็หำวิธีกำร
ที่เหมำะสมในกำรสื่อสำรน�ำเสนอให้ผู้อื่นได้รับทรำบ และสำมำรถน�ำควำมรู้
หรือประสบกำรณ์ที่ได้จำกกำรศึกษำค้นคว้ำไปท�ำประโยชน์แก่สำธำรณะ ซึ่ง
สิ่งเหล่ำนี้เป็นกระบวนกำรที่เชื่อมโยงต่อเนื่องกันตลอดแนว ภำยใต้สำระ
“กำรศึกษำค้นคว้ำด้วยตนเอง (Independent Study : IS)” ซึ่งแบ่งเป็น3 สำระ
ประกอบด้วย
IS 1- การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้
(Research and Knowledge Formation)
เป็นสำระที่มุ่งให้ผู้เรียนก�ำหนดประเด็นปัญหำ ตั้งสมมติฐำน ค้นคว้ำ
แสวงหำควำมรู้และฝึกทักษะกำรคิดวิเครำะห์ สังเครำะห์ และสร้ำงองค์ควำมรู้
IS 2- การสื่อสารและการน�าเสนอ
(Communication and Presentation)
เป็นสำระที่มุ่งให้ผู้เรียนน�ำควำมรู้ที่ได้รับ มำพัฒนำวิธีกำรกำรถ่ำยทอด/
สื่อสำรควำมหมำย/แนวคิด ข้อมูลและองค์ควำมรู้ ด้วยวิธีกำรน�ำเสนอที่เหมำะสม
หลำกหลำยรูปแบบ และมีประสิทธิภำพ
IS 3- การน�าองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม
(Social Service Activity)
เป็นสำระที่มุ่งให้ผู้เรียน น�ำองค์ควำมรู้/ประยุกต์ใช้องค์ควำมรู้ไปสู่
กำรปฏิบัติ หรือน�ำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม เกิดบริกำรสำธำรณะ (Public
Service)
- 34. แนวทางการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากลฉบับปรับปรุง
28
เปาหมายคุณภาพผู้เรียนในสาระการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (ต่อ)
คุณภำพผู้เรียน ระดับมัธยมศึกษำ
ตอนต้น
ระดับมัธยมศึกษำ
ตอนปลำยป.1 - 3 ป.4 - 6
ระดับประถมศึกษำ
2. กำรสืบค้นควำมรู้
จำกแหล่งเรียนรู้
และสำรสนเทศ
หรือจำกกำรปฏิบัติ
ทดลอง (Searching
for Information)
› ศึกษำ ค้นคว้ำ
แสวงหำข้อมูล
ค�ำตอบจำกบุคคล
ใกล้ตัว/แหล่งข้อมูล
พื้นฐำนง่ำย ๆ
› จัดล�ำดับขั้นตอน
ในกำรรวบรวม
ข้อมูล
› ท�ำงำนบรรลุผล
ส�ำเร็จภำยใต้กำร
ดูแล ก�ำกับ และ
ช่วยเหลือของครู
อย่ำงใกล้ชิด
› ศึกษำ ค้นคว้ำ
แสวงหำข้อมูล
ค�ำตอบจำกสมมติฐำน
ที่ตั้งไว้จำกแหล่ง
ค้นคว้ำใกล้ตัว
(เช่น บุคคล
หนังสือ
หนังสือพิมพ์
กำรปฏิบัติทดลอง
หรืออื่น ๆ)
› ออกแบบ วำงแผน
อย่ำงง่ำยในกำร
รวบรวมและล�ำดับ
ขั้นตอนกำรเก็บ
ข้อมูล
› ท�ำงำนบรรลุผล
ส�ำเร็จภำยใต้กำร
ดูแล ก�ำกับ และ
ช่วยเหลือของครู
อย่ำงใกล้ชิด
› ศึกษำ ค้นคว้ำ
แสวงหำควำมรู้
เกี่ยวกับสมมติฐำน
ที่ตั้งไว้จำกแหล่ง
เรียนรู้หลำกหลำย
(เช่น ห้องสมุด
แหล่งเรียนรู้
ทำงออนไลน์
วำรสำร กำรปฏิบัติ
ทดลอง หรืออื่น ๆ)
› ออกแบบ วำงแผน
รวบรวมข้อมูล
โดยใช้กระบวนกำร
รวบรวมข้อมูลอย่ำง
มีประสิทธิภำพ
› ใช้กระบวนกำรกลุ่ม
ในกำรแลกเปลี่ยน
ควำมคิดเห็นโดย
ใช้ควำมรู้จำกสำขำ
วิชำต่ำง ๆ เพื่อให้
ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน
สมบูรณ์
› ท�ำงำนบรรลุผล
ตำมเป้ำหมำย
ภำยในกรอบกำร
ด�ำเนินงำนที่ก�ำหนด
โดยกำรดูแล ก�ำกับ
และช่วยเหลือของ
ครูอย่ำงต่อเนื่อง
› ศึกษำ ค้นคว้ำ
หำควำมรู้ ข้อมูล
และสำรสนเทศ
โดยระบุแหล่งเรียนรู้
ทั้งปฐมภูมิ และ
ทุติยภูมิ
› ออกแบบ วำงแผน
รวบรวมข้อมูล
โดยใช้กระบวนกำร
รวบรวมข้อมูล
อย่ำงมีประสิทธิภำพ
› ใช้กระบวนกำร
กลุ่มแลกเปลี่ยน
ควำมคิดเห็นโดยใช้
ควำมรู้จำกสำขำ
วิชำต่ำง ๆ และ
พิจำรณำควำม
น่ำเชื่อถือของ
แหล่งเรียนรู้อย่ำงมี
วิจำรณญำณเพื่อให้
ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน
สมบูรณ์
› ท�ำงำนบรรลุผล
ตำมเป้ำหมำยอย่ำง
มีประสิทธิภำพ
โดยค�ำแนะน�ำของ
ครูที่ให้ค�ำปรึกษำ
อย่ำงต่อเนื่อง
- 36. แนวทางการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากลฉบับปรับปรุง
30
เปาหมายคุณภาพผู้เรียนในสาระการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (ต่อ)
คุณภำพผู้เรียน ระดับมัธยมศึกษำ
ตอนต้น
ระดับมัธยมศึกษำ
ตอนปลำยป.1 - 3 ป.4 - 6
ระดับประถมศึกษำ
4. กำรสื่อสำรและ
กำรน�ำเสนอ
อย่ำงมีประสิทธิภำพ
(Effective
Communication)
› เขียน หรือวำดภำพ
และพูดน�ำเสนอ
เพื่อสื่อสำร
เรื่องรำวง่ำย ๆ
ได้อย่ำงชัดเจน
ไม่สับสนโดยใช้สื่อ
ที่เหมำะสม
› เขียนและน�ำเสนอ
เป็นล�ำดับ ขั้นตอน
เข้ำใจง่ำยใน
รูปแบบเดี่ยว
โดยใช้สื่อที่
เหมำะสมกับวัย
› อ้ำงอิงแหล่งควำมรู้
ที่เชื่อถือได้
› เรียบเรียงและ
ถ่ำยทอดควำมคิด
อย่ำงชัดเจน
เป็นระบบ
› น�ำเสนอใน
รูปแบบเดี่ยว
โดยใช้สื่อประกอบ
หลำกหลำย
› เขียนรำยงำน
กำรศึกษำค้นคว้ำ
เชิงวิชำกำร
ควำมยำว 2,500 ค�ำ
› อ้ำงอิงแหล่ง
ควำมรู้ที่เชื่อถือได้
อย่ำงหลำกหลำย
› เผยแพร่ผลงำน
สู่สำธำรณะ
› เรียบเรียง
และถ่ำยทอด
ควำมคิด
อย่ำงสร้ำงสรรค์
เป็นระบบ
› น�ำเสนอใน
รูปแบบเดี่ยว
หรือกลุ่ม
เป็นภำษำไทย
หรือภำษำอังกฤษ
โดยใช้สื่อเทคโนโลยี
ที่หลำกหลำย
› เขียนรำยงำน
กำรศึกษำค้นคว้ำ
เชิงวิชำกำร
เป็นภำษำไทย
ควำมยำว 4,000 ค�ำ
หรือภำษำอังกฤษ
ควำมยำว 2,000 ค�ำ
› อ้ำงอิงแหล่งควำมรู้
ที่เชื่อถือได้ ทั้งใน
และต่ำงประเทศ
› ใช้กำรสนทนำ/
วิพำกษ์ผ่ำนสื่อ
อีเล็กทรอนิกส์
เช่น e-conference,
social media
online