Suche senden
Hochladen
The Reading of Population Survey 2011
•
1 gefällt mir
•
1,259 views
Boonlert Aroonpiboon
Folgen
การสำรวจการอ่านหนังสือของประชากร พ.ศ. 2554 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ
Weniger lesen
Mehr lesen
Bildung
Melden
Teilen
Melden
Teilen
1 von 234
Jetzt herunterladen
Downloaden Sie, um offline zu lesen
Empfohlen
สืบค้นหนังสือราชการ 6 เมนูย่อย
สืบค้นหนังสือราชการ 6 เมนูย่อย
photnew
ICT Usage Survey, Thailand 2557
ICT Usage Survey, Thailand 2557
Boonlert Aroonpiboon
สถิตเด็กและเยาวชนปี 2548-2551
สถิตเด็กและเยาวชนปี 2548-2551
Mr-Dusit Kreachai
สรุปผลที่สำคัญเด็กและเยาวชน ปี 2551
สรุปผลที่สำคัญเด็กและเยาวชน ปี 2551
Mr-Dusit Kreachai
พจนานุกรมข้อมูล - ประเด็นอื่นๆ
พจนานุกรมข้อมูล - ประเด็นอื่นๆ
Be SK
สถานการณ์เมืองในภาคต่างๆ
สถานการณ์เมืองในภาคต่างๆ
FURD_RSU
พจนานุกรมข้อมูล - การป้องกันการตายของมารดา ทารกแรกเกิดและเด็ก และการให้ความช่...
พจนานุกรมข้อมูล - การป้องกันการตายของมารดา ทารกแรกเกิดและเด็ก และการให้ความช่...
Be SK
Thailand internet user profile 2015
Thailand internet user profile 2015
Mayuree Srikulwong
Empfohlen
สืบค้นหนังสือราชการ 6 เมนูย่อย
สืบค้นหนังสือราชการ 6 เมนูย่อย
photnew
ICT Usage Survey, Thailand 2557
ICT Usage Survey, Thailand 2557
Boonlert Aroonpiboon
สถิตเด็กและเยาวชนปี 2548-2551
สถิตเด็กและเยาวชนปี 2548-2551
Mr-Dusit Kreachai
สรุปผลที่สำคัญเด็กและเยาวชน ปี 2551
สรุปผลที่สำคัญเด็กและเยาวชน ปี 2551
Mr-Dusit Kreachai
พจนานุกรมข้อมูล - ประเด็นอื่นๆ
พจนานุกรมข้อมูล - ประเด็นอื่นๆ
Be SK
สถานการณ์เมืองในภาคต่างๆ
สถานการณ์เมืองในภาคต่างๆ
FURD_RSU
พจนานุกรมข้อมูล - การป้องกันการตายของมารดา ทารกแรกเกิดและเด็ก และการให้ความช่...
พจนานุกรมข้อมูล - การป้องกันการตายของมารดา ทารกแรกเกิดและเด็ก และการให้ความช่...
Be SK
Thailand internet user profile 2015
Thailand internet user profile 2015
Mayuree Srikulwong
Excel quiz
Excel quiz
Boonlert Aroonpiboon
Scival for Research Performance
Scival for Research Performance
Boonlert Aroonpiboon
20190726 icde-session-chularat-nstda-4
20190726 icde-session-chularat-nstda-4
Boonlert Aroonpiboon
20190409 social-media-backup
20190409 social-media-backup
Boonlert Aroonpiboon
20190220 open-library
20190220 open-library
Boonlert Aroonpiboon
20190220 digital-archives
20190220 digital-archives
Boonlert Aroonpiboon
OER KKU Library
OER KKU Library
Boonlert Aroonpiboon
Museum digital-code
Museum digital-code
Boonlert Aroonpiboon
OER MOOC - Success Story
OER MOOC - Success Story
Boonlert Aroonpiboon
LAM Code of conduct
LAM Code of conduct
Boonlert Aroonpiboon
RLPD - OER MOOC
RLPD - OER MOOC
Boonlert Aroonpiboon
New Technology for Information Services
New Technology for Information Services
Boonlert Aroonpiboon
New Technology for Information Services
New Technology for Information Services
Boonlert Aroonpiboon
digital law for GLAM
digital law for GLAM
Boonlert Aroonpiboon
20180919 digital-collections
20180919 digital-collections
Boonlert Aroonpiboon
Field-Weighted Citation Impact (FWCI)
Field-Weighted Citation Impact (FWCI)
Boonlert Aroonpiboon
20180828 digital-archives
20180828 digital-archives
Boonlert Aroonpiboon
Local Wisdom Information : How to
Local Wisdom Information : How to
Boonlert Aroonpiboon
201403 etda-library-settup
201403 etda-library-settup
Boonlert Aroonpiboon
201403 etda-library
201403 etda-library
Boonlert Aroonpiboon
Weitere ähnliche Inhalte
Mehr von Boonlert Aroonpiboon
Excel quiz
Excel quiz
Boonlert Aroonpiboon
Scival for Research Performance
Scival for Research Performance
Boonlert Aroonpiboon
20190726 icde-session-chularat-nstda-4
20190726 icde-session-chularat-nstda-4
Boonlert Aroonpiboon
20190409 social-media-backup
20190409 social-media-backup
Boonlert Aroonpiboon
20190220 open-library
20190220 open-library
Boonlert Aroonpiboon
20190220 digital-archives
20190220 digital-archives
Boonlert Aroonpiboon
OER KKU Library
OER KKU Library
Boonlert Aroonpiboon
Museum digital-code
Museum digital-code
Boonlert Aroonpiboon
OER MOOC - Success Story
OER MOOC - Success Story
Boonlert Aroonpiboon
LAM Code of conduct
LAM Code of conduct
Boonlert Aroonpiboon
RLPD - OER MOOC
RLPD - OER MOOC
Boonlert Aroonpiboon
New Technology for Information Services
New Technology for Information Services
Boonlert Aroonpiboon
New Technology for Information Services
New Technology for Information Services
Boonlert Aroonpiboon
digital law for GLAM
digital law for GLAM
Boonlert Aroonpiboon
20180919 digital-collections
20180919 digital-collections
Boonlert Aroonpiboon
Field-Weighted Citation Impact (FWCI)
Field-Weighted Citation Impact (FWCI)
Boonlert Aroonpiboon
20180828 digital-archives
20180828 digital-archives
Boonlert Aroonpiboon
Local Wisdom Information : How to
Local Wisdom Information : How to
Boonlert Aroonpiboon
201403 etda-library-settup
201403 etda-library-settup
Boonlert Aroonpiboon
201403 etda-library
201403 etda-library
Boonlert Aroonpiboon
Mehr von Boonlert Aroonpiboon
(20)
Excel quiz
Excel quiz
Scival for Research Performance
Scival for Research Performance
20190726 icde-session-chularat-nstda-4
20190726 icde-session-chularat-nstda-4
20190409 social-media-backup
20190409 social-media-backup
20190220 open-library
20190220 open-library
20190220 digital-archives
20190220 digital-archives
OER KKU Library
OER KKU Library
Museum digital-code
Museum digital-code
OER MOOC - Success Story
OER MOOC - Success Story
LAM Code of conduct
LAM Code of conduct
RLPD - OER MOOC
RLPD - OER MOOC
New Technology for Information Services
New Technology for Information Services
New Technology for Information Services
New Technology for Information Services
digital law for GLAM
digital law for GLAM
20180919 digital-collections
20180919 digital-collections
Field-Weighted Citation Impact (FWCI)
Field-Weighted Citation Impact (FWCI)
20180828 digital-archives
20180828 digital-archives
Local Wisdom Information : How to
Local Wisdom Information : How to
201403 etda-library-settup
201403 etda-library-settup
201403 etda-library
201403 etda-library
The Reading of Population Survey 2011
1.
2.
3.
หนวยงานที่เผยแพร สํานักสถิติพยากรณ สํานักงานสถิติแหงชาติ ศูนยราชการเฉลิมพระเกียรติ 80
พรรษาฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี ชั้น 2 ถนนแจงวัฒนะ เขตหลักสี่ กทม. 10210 โทรศัพท 0 2141 7498 โทรสาร 0 2143 8132 ไปรษณียอิเล็กทรอนิกส : services@nso.go.th Distributed by Statistical Forecasting Bureau National Statistical Office, The Government Complex, Building B, 2nd Floor, Chaeng Watthana Rd., Laksi, Bangkok 10210, THAILAND Tel. : + 66 2141 7498 Fax : + 66 2143 8132 E-mail : services@nso.go.th ปที่จัดพิมพ 2555 Published 2012
4.
คํานํา ผลการสํารวจเกี่ยวกับการอานหนังสือของประชากรนอกเวลาเรียน/นอกเวลาทํางาน ซึ่งรวม การอานหนังสือทุกประเภท และการอานทางสื่ออิเล็กทรอนิกสอื่น
ๆ เชน อินเทอรเน็ต ซีดี ฯลฯ ยกเวน SMS หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส (E-mail) พบประเด็นที่สําคัญดังนี้ เด็กเล็กอายุต่ํากวา 6 ป ที่อานเอง หรือผูใหญอานใหฟงมีรอยละ 53.5 เด็กผูหญิงมีอัตราการอานหนังสือมากกวาผูชายเล็กนอย (รอยละ 54.3 และ 52.7 ตามลําดับ) โดยเด็กเล็กในกรุงเทพมหานครมีอัตราการอานหนังสือสูงสุด (รอยละ 63.0) สวนผูที่มีอายุ 6 ปขึ้นไปมีอัตราการอานหนังสือนอกเวลาเรียน/นอกเวลาทํางานรอยละ 68.6 โดยผูชายมี อัตราการอานหนังสือสูงกวาผูหญิงเล็กนอย และกลุมวัยเด็กมีอัตราการอานหนังสือสูงกวาวัยอื่น รองลงมา คือ กลุมเยาวชน กลุมวัยทํางาน และกลุมวัยสูงอายุ และในการสํารวจครั้งนี้ผูที่มีอายุ 6 ปขึ้นไปไดให ขอเสนอแนะในการรณรงคใหคนรักการอานหนังสือในหลายประเด็นที่นาสนใจ เชน หนังสือควรมี ราคาถูกลง และมีเนื้อหาสาระนาสนใจ รวมทั้งควรมีหองสมุดประจําหมูบาน/ชุมชน เปนตน เมื่อเปรียบเทียบอัตราการอานหนังสือของประชากร ซึ่งสํารวจไวในป 2551 พบวา ประชากร มีอัตราการอานหนังสือเพิ่มขึ้น โดยจะเห็นไดชัดในกลุมเด็กเล็กอายุต่ํากวา 6 ปที่มีอัตราการอานหนังสือ เพิ่มขึ้นมาก คือ จากรอยละ 36.0 เปนรอยละ 53.5 สําหรับกลุมผูที่มีอายุ 6 ปขึ้นไปมีอัตราการอาน หนังสือเพิ่มขึ้นเพียงเล็กนอย จากรอยละ 66.3 เปนรอยละ 68.6 ทั้งนี้อาจเนื่องจากมีการรณรงคสงเสริม การอานรวมกันหลายภาคสวน สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2552 คณะรัฐมนตรีไดอนุมัติใหการอาน เปนวาระแหงชาติ โดยกําหนดใหวันที่ 2 เมษายน ของทุกปเปนวันรักการอาน และป 2552 -2561 เปน ทศวรรษแหงการอาน
5.
57.1 49.1 53.3 53.8 63.0 50.6 59.2 54.3 52.7 53.5 31.3 39.9 43.0 32.4 45.3 34.1 40.8 35.2 36.7 0 10 20
30 40 50 60 70 บทสรุปผูบริหาร สํานักงานสถิติแหงชาติ ดําเนินการสํารวจ การอานหนังสือของประชากรพ.ศ.2554โดยเก็บรวบรวม ขอมูลในระหวางเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนพ.ศ.2554 จากจํานวนครัวเรือนตัวอยางประมาณ53,000ครัวเรือน การสํารวจที่ผานมาในป 2546 -2548 สํารวจ เฉพาะการอานหนังสือของประชากรที่มีอายุตั้งแต 6 ปขึ้นไป และตั้งแตป 2551 ไดสํารวจเพิ่มเรื่อง การอานหนังสือของเด็กเล็ก(ผูที่มีอายุต่ํากวา6ป)ดวย ผลการสํารวจที่สําคัญในป 2554 สรุปไดดังนี้ 1. การอานหนังสือของเด็กเล็ก การอานหนังสือของเด็กเล็ก ในที่นี้หมายถึง การอานหนังสือของเด็กเล็กที่อานในชวงนอกเวลาเรียน ดวยตัวเอง และรวมทั้งที่ผูใหญอานใหฟงดวย 1.1 อัตราการอานหนังสือนอกเวลาเรียน จากผลการสํารวจป 2554 พบวา เด็กเล็กมี อัตราการอานหนังสือรอยละ 53.5 เด็กผูหญิงมีอัตรา การอานหนังสือสูงกวาเด็กผูชายเล็กนอย (รอยละ 54.3 และรอยละ 52.7 ตามลําดับ) นอกจากนี้อัตราการอาน หนังสือของเด็กเล็กมีความแตกตางกันระหวาง เขตการปกครองและภาค โดยในเขตเทศบาลมีอัตรา การอานหนังสือสูงกวานอกเขตเทศบาล เด็กเล็กใน กรุงเทพมหานครมีอัตราการอานหนังสือสูงสุด (รอยละ63.0) ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเด็กเล็ก มีอัตราการอานหนังสือต่ําสุด (รอยละ 49.1) เมื่อเปรียบเทียบกับการสํารวจป 2551 พบวา เด็กเล็กเกินครึ่งหนึ่ง (รอยละ 53.5) มีการอานหนังสือ นอกเวลาเรียนโดยมีอัตราการอานเพิ่มขึ้นรอยละ17.5 เด็กหญิงมีอัตราการอานหนังสือเพิ่มขึ้นมากกวา เด็กผูชาย เด็กเล็กที่อาศัยในเขตเทศบาลและภาคกลาง มีอัตราการอานหนังสือเพิ่มขึ้นมากกวาพื้นที่อื่น แผนภูมิ 1 อัตราการอานหนังสือของเด็กเล็กนอกเวลาเรียน1/ จําแนกตามเพศเขตการปกครองและภาคพ.ศ.2551และ2554 การอานหนังสือ หมายถึง การอานหนังสือทุกประเภทนอกเวลาเรียน/นอกเวลาทํางาน รวมทั้งการอานทางสื่ออิเล็กทรอนิกสอื่น ๆ เชน อินเทอรเน็ต ซีดี ฯลฯ ยกเวน SMS หรือ จดหมายอิเล็กทรอนิกส (E-mail) ตะวันออกเฉียงเหนือ ทั่วราชอาณาจักร ชาย หญิง ในเขตเทศบาล นอกเขตเทศบาล กรุงเทพมหานคร กลาง เหนือ ใต 36.0 รอยละ 2551 2554 1/ อัตราการอานหนังสือหมายถึงรอยละของจํานวนประชากรที่อานหนังสือ ตอจํานวนประชากรทั้งสิ้นในแตละกลุม
6.
77.2 64.1 84.2 71.3 65.9 63.0 69.7 0 20 40 60 80 100 68.8 67.5 71.6 64.8 68.4 65.166.7 57.7 68.666.369.1 61.2 0 10 20 30 40 50 60 70 80 1.2 ความถี่ของการอานหนังสือนอกเวลาเรียน เด็กเล็กที่อานหนังสือมีประมาณ
2.7 ลานคน ในจํานวนนี้เปนผูที่อานหนังสือสัปดาหละ 2 – 3 วัน มากที่สุด(รอยละ 42.0) รองลงมาคือ อานทุกวันและ อานสัปดาหละ 4 – 6 วัน ใกลเคียงกัน (รอยละ 22.0 และ19.7ตามลําดับ)และพบวามีเด็กเล็กที่อานหนังสือ แตอานนาน ๆ ครั้งอยูรอยละ 6.2 เด็กเล็กมีความถี่ในการอานหนังสือเพิ่มขึ้นคือ เด็กเล็กที่อานอยางนอย 1 วันตอสัปดาหมีเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่รอยละของเด็กเล็กที่อานนาน ๆ ครั้ง มีแนวโนมลดลง แผนภูมิ 2 รอยละของเด็กเล็กที่อานหนังสือนอกเวลาเรียน จําแนกตาม ความถี่ของการอานหนังสือ พ.ศ. 2551 และ 2554 18.5 22.0 17.3 19.7 39.6 42.0 9.7 10.114.9 6.2 0 20 40 60 80 100 2. การอานหนังสือของประชากร(อายุตั้งแต6ปขึ้นไป) 2.1 อัตราการอานหนังสือนอกเวลาเรียน/นอกเวลา ทํางาน จากผลการสํารวจป 2554 พบวา คนไทยอายุ ตั้งแต 6 ปขึ้นไป มีอัตราการอานหนังสือรอยละ 68.6 ผูชายมีอัตราการอานหนังสือสูงกวาผูหญิงเล็กนอย (รอยละ68.8 และ 68.4 ตามลําดับ)และเมื่อเปรียบเทียบ กับการสํารวจที่ผานมา พบวา อัตราการอานหนังสือ เพิ่มขึ้นเล็กนอยจากป 2551 ทั้งผูชายและผูหญิง แผนภูมิ 3 อัตราการอานหนังสือนอกเวลาเรียน/นอกเวลาทํางาน ของประชากรอายุตั้งแต 6 ปขึ้นไป จําแนกตามเพศ พ.ศ. 2546 – 2554 เมื่อพิจารณาอัตราการอานหนังสือตาม เขตการปกครองและภาค พบวา ประชากรที่อาศัยอยู ในเขตเทศบาลมีอัตราการอานหนังสือสูงกวา นอกเขตเทศบาล (รอยละ 77.2 และ 64.1 ตามลําดับ) กรุงเทพมหานคร มีอัตราการอานหนังสือสูงที่สุด (รอยละ 84.2) และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอัตรา การอานหนังสือต่ําสุด (รอยละ 63.0) แผนภูมิ 4 อัตราการอานหนังสือนอกเวลาเรียน/นอกเวลาทํางานของ ประชากรอายุตั้งแต 6ปขึ้นไป จําแนกตามเขตการปกครอง และภาค พ.ศ. 2554 รอยละ รวม ชาย หญิง 2546 2548 2551 พ.ศ. รอยละ นอกเขต เทศบาล กรุงเทพ กลาง เหนือ ตะวันออก เฉียงเหนือ ใต ทั่วราชอาณาจักร รอยละ 68.6 ในเขต เทศบาล มหานคร 2554 ทุกวัน สัปดาหละ 1 วัน สัปดาหละ 2-3 วัน สัปดาหละ 4-6 วัน นาน ๆ ครั้ง รอยละ พ.ศ. 2551 2554
7.
2.2 อายุ การอานหนังสือของประชากรมีความแตกตางกัน ตามวัย กลุมวัยเด็กมีอัตราการอานหนังสือสูงสุดถึง รอยละ
91.6 รองลงมาคือ กลุมเยาวชน กลุมวัยทํางาน และต่ําสุดคือ กลุมวัยสูงอายุ (รอยละ 78.6 65.7 และ 44.3ตามลําดับ)และเมื่อเปรียบเทียบระหวางการสํารวจ ที่ผานมา พบวา ป 2554 การอานหนังสือของประชากร เกือบทุกกลุมวัย มีอัตราการอานหนังสือเพิ่มขึ้นจาก ป2551 มีเพียงกลุมเยาวชนเทานั้นที่มีอัตราการอานคงที่ แผนภูมิ 5 อัตราการอานหนังสือนอกเวลาเรียน/นอกเวลาทํางานของ ประชากรอายุตั้งแต 6 ปขึ้นไป จําแนกตามกลุมวัย พ.ศ. 2546 – 2554 2.3 ระดับการศึกษา จากผลการสํารวจ พบวา การศึกษาและอัตรา การอานหนังสือ มีความสัมพันธกันเชิงบวก กลาวคือ ผูมีระดับการศึกษาที่สูงกวา มีอัตราการอานหนังสือสูง กวาผูมีการศึกษาระดับต่ํากวา แผนภูมิ 6 รอยละของประชากรอายุตั้งแต 6ปขึ้นไป จําแนกตาม การอานหนังสือนอกเวลาเรียน/นอกเวลาทํางาน และ ระดับการศึกษาสูงสุดพ.ศ. 2554 2.4 ประเภทของหนังสือที่อานนอกเวลาเรียน/ นอกเวลาทํางาน หนังสือพิมพเปนประเภทของหนังสือที่มีผูอาน สูงสุด คือ รอยละ 63.4 รองลงมาคือ ตํารา/หนังสือ/ เอกสารที่ใหความรู นวนิยาย/การตูน/หนังสืออานเลน นิตยสาร และแบบเรียน/ตําราเรียนตามหลักสูตรซึ่งมี สัดสวนใกลเคียงกันคือรอยละ 32.4 - 36.6 สําหรับ วารสาร/เอกสารประเภทอื่นๆที่ออกเปนประจํา และ หนังสือ/เอกสารเกี่ยวกับคําสอนทางศาสนา มีผูอาน นอยกวารอยละ30(รอยละ29.7และ 27.2ตามลําดับ) และหนังสือประเภทอื่น ๆ มีผูอานเพียงรอยละ 2.0 คนที่มีวัยแตกตางกัน มีความสนใจเลือก ประเภทหนังสือที่อานแตกตางกัน โดยวัยเด็กอาน แบบเรียน/ตําราเรียนตามหลักสูตรสูงสุดรอยละ 93.4 รองลงมาคือนวนิยาย/การตูน/หนังสืออานเลน สําหรับ วัยเยาวชนและวัยทํางานสวนใหญอานหนังสือพิมพ แตลําดับรองลงมา มีความแตกตางกันคือวัยเยาวชน ชอบอานนวนิยาย/การตูน/หนังสืออานเลนตาง ๆ และแบบเรียน/ตําราเรียนตามหลักสูตร สวนวัยทํางาน ชอบอานนิตยสาร สําหรับวัยสูงอายุสวนใหญอาน หนังสือ/เอกสารเกี่ยวกับคําสอนทางศาสนา รองลงมา คือ หนังสือพิมพ 68.6 91.6 78.6 44.3 61.2 69.1 66.3 81.587.784.5 78.683.180.4 65.0 54.3 64.3 65.7 39.3 37.4 24.4 0 20 40 60 80 100 รอยละ 2546 2548 2551 พ.ศ. ประถมศึกษา ปริญญาตรี/สูงกวา อนุปริญญา มัธยมศึกษาตอนปลาย มัธยมศึกษาตอนตน กอนประถมศึกษา ไมไดรับการศึกษา 94.6 85.8 79.3 76.0 66.5 60.3 12.4 5.4 14.2 20.7 24.0 33.5 39.7 87.6 รอยละ อาน ไมอาน 2554 รวม วัยเด็ก (6-14 ป) วัยเยาวชน (15-24 ป) วัยทํางาน (25-59 ป) วัยสูงอายุ (60 ปขึ้นไป) ระดับการศึกษาสูงสุด 0 20 40 60 80 100
8.
0 10 20 30 40 50 60 ตาราง 1 รอยละของประชากรอายุตั้งแต
6 ปขึ้นไปที่อานหนังสือ นอกเวลาเรียน/นอกเวลาทํางาน จําแนกตามประเภท ของหนังสือที่อาน และกลุมวัย พ.ศ. 2554 1/ ตอบไดมากกวา 1 ประเภท 2.5 ประเภทเนื้อหาสาระของหนังสือที่อานนอกเวลา เรียน/นอกเวลาทํางาน เนื้อหาสาระที่ผูอานหนังสือชอบอานมากที่สุด คือ ขาว รองลงมาคือ สารคดี/ความรูทั่วไป บันเทิง และความรูวิชาการ (รอยละ 48.0 39.2 35.1 และ 27.8 ตามลําดับ) สวนเนื้อหาสาระประเภทความคิดเห็น/ วิเคราะห โฆษณา และอื่น ๆ มีผูอานเพียงเล็กนอย แผนภูมิ 7 รอยละของประชากรอายุตั้งแต 6 ปขึ้นไปที่อานหนังสือ นอกเวลาเรียน/นอกเวลาทํางาน จําแนกตามประเภท เนื้อหาสาระของหนังสือที่อาน1/ พ.ศ.2554 2.6 เวลาเฉลี่ยที่ใชอานหนังสือนอกเวลาเรียน/ นอกเวลาทํางาน สําหรับผูอานหนังสือที่มีอายุตั้งแต 6 ปขึ้นไป ทั้งหมด ใชเวลาอานหนังสือนอกเวลาเรียน/นอกเวลา ทํางานเฉลี่ย 35 นาทีตอวัน โดยกลุมเด็กและเยาวชน ใชเวลาอานหนังสือฯเฉลี่ย39-43นาทีตอวันมากกวา กลุมวัยทํางานและสูงอายุที่ใชเวลาอานหนังสือฯ เฉลี่ย ประมาณ 31 - 32 นาทีตอวัน เมื่อเปรียบเทียบกับป 2551 พบวา กลุมเด็กที่ อานหนังสือใชเวลาอานเพิ่มขึ้นเล็กนอย ในขณะที่ กลุมวัยอื่นใชเวลาอานหนังสือลดลง แผนภูมิ 8 เวลาที่ใชอานหนังสือนอกเวลาเรียน/นอกเวลาทํางาน เฉลี่ยตอวันของประชากรอายุตั้งแต 6ปขึ้นไปที่อาน หนังสือ จําแนกตามกลุมวัยพ.ศ.2551 และ2554 2.7 วิธีการรณรงคใหคนรักการอานหนังสือ จากการสํารวจความคิดเห็นของประชากรที่มี อายุตั้งแต 6 ปขึ้นไป เกี่ยวกับวิธีการรณรงคใหคนรัก การอานหนังสือพบวาวิธีการรณรงคที่ไดรับการเสนอแนะ มากที่สุด 5 ลําดับแรกคือ หนังสือควรมีราคาถูกลง (รอยละ 31.3) หนังสือควรมีเนื้อหาสาระนาสนใจ (รอยละ21.8) ควรมีหองสมุดประจําหมูบานหรือชุมชน (รอยละ 20.5) สงเสริมใหพอแมปลูกฝงใหเด็กรัก การอานหนังสือ (รอยละ 17.8) และรูปเลมกะทัดรัด/ ปกสวยงามนาอาน/มีรูปภาพประกอบ (รอยละ 13.3) ขาว บันเทิงสารคดี/ ความรูทั่วไป ความรู วิชาการ ความคิดเห็น/ วิเคราะห โฆษณา อื่น ๆ 48.0 39.2 35.1 27.8 3.6 1.5 0.3 รอยละ 46 37 393839 43 31 32 39 35 0 10 20 30 40 50 รวม (6-14 ป) วัยเยาวชน (15-24 ป) วัยทํางาน (25-59 ป) วัยสูงอายุ กลุมวัย (60 ปขึ้นไป) เวลา (นาที) 2551 2554 1/ ตอบไดไมเกิน 2 ประเภท ประเภทของหนังสือ ที่อาน รวม วัยเด็ก วัยเยาวชน วัยทํางาน วัยสูงอายุ (6 – 14 ป) (15 – 24 ป) (25 – 59 ป) (60 ปขึ้นไป) รวม 100.0 100.0 100.0 100.0 100.0 (42,925,164) (7,867,638) (8,173,565) (23,223,671) (3,660,290) หนังสือพิมพ 63.4 17.1 63.8 80.5 53.9 ตํารา/หนังสือ/เอกสาร 36.6 47.3 50.3 30.9 19.2 ที่ใหความรู นวนิยาย/การตูน/ 35.8 65.3 56.5 23.0 7.1 หนังสืออานเลนตาง ๆ นิตยสาร 35.6 12.0 49.6 41.8 15.7 แบบเรียน/ตําราเรียน 32.4 93.4 56.4 8.1 2.0 ตามหลักสูตร วารสาร/เอกสารประเภทอื่นๆ 29.7 12.5 34.1 35.1 22.2 ที่ออกเปนประจํา หนังสือ/เอกสารเกี่ยวกับ 27.2 13.0 15.1 29.0 72.8 คําสอนทางศาสนา อื่น ๆ 2.0 1.2 3.1 2.0 1.1 กลุมวัย 1/ วัยเด็ก
9.
สารบัญแผนภูมิ แผนภูมิ 1 อัตราการอานหนังสือของเด็กเล็กนอกเวลาเรียนจําแนกตามเพศ
เขตการปกครอง และภาค พ.ศ. 2551 และ 2554 แผนภูมิ 2 รอยละของเด็กเล็กที่มีผูใหญอานหนังสือใหฟงจําแนกตามเหตุผลที่ผูใหญ อานหนังสือใหฟง พ.ศ. 2554 แผนภูมิ 3 รอยละของเด็กเล็กที่อานหนังสือนอกเวลาเรียน จําแนกตามความถี่ ของการอานหนังสือพ.ศ.2551และ2554 แผนภูมิ 4 เวลาที่ใชอานหนังสือนอกเวลาเรียนเฉลี่ยตอวันของเด็กเล็กที่อานหนังสือ จําแนกตามเพศ เขตการปกครอง และภาค พ.ศ.2554 แผนภูมิ 5 รอยละของเด็กเล็กที่อานหนังสือนอกเวลาเรียนจําแนกตามการซื้อหนังสือให เด็กเล็กในรอบปที่แลว และผูเลือกหนังสือ พ.ศ. 2554 แผนภูมิ 6 รอยละของเด็กเล็กที่อานหนังสือนอกเวลาเรียน จําแนกตามจํานวนหนังสือ ที่ซื้อในรอบปที่แลว เขตการปกครอง และภาค พ.ศ. 2554 แผนภูมิ 7 รอยละของเด็กเล็กที่อานหนังสือนอกเวลาเรียน จําแนกตามคาใชจายสําหรับ ซื้อหนังสือใหเด็กเล็กเฉลี่ยตอเดือน เขตการปกครอง และภาค พ.ศ. 2554 แผนภูมิ 8 รอยละของเด็กเล็กที่ไมอานหนังสือนอกเวลาเรียน จําแนกตามสาเหตุที่ เด็กเล็กไมอานหนังสือ พ.ศ. 2554 แผนภูมิ 9 รอยละของเด็กเล็กที่ไมอานหนังสือนอกเวลาเรียนจําแนกตามสาเหตุที่ ผูใหญไมอานหนังสือใหเด็กเล็กฟง 5 ลําดับแรก พ.ศ. 2554 แผนภูมิ 10 อัตราการอานหนังสือนอกเวลาเรียน/นอกเวลาทํางานของประชากรอายุ ตั้งแต 6 ปขึ้นไป จําแนกตามเพศ พ.ศ. 2546 - 2554 แผนภูมิ 11 อัตราการอานหนังสือนอกเวลาเรียน/นอกเวลาทํางานของประชากรอายุ ตั้งแต 6 ปขึ้นไป จําแนกตามเขตการปกครอง และภาคพ.ศ. 2554 แผนภูมิ 12 อัตราการอานหนังสือนอกเวลาเรียน/นอกเวลาทํางานของประชากรอายุ ตั้งแต 6 ปขึ้นไป จําแนกตามกลุมวัย พ.ศ. 2546 – 2554 แผนภูมิ 13 รอยละของประชากรอายุตั้งแต 6 ปขึ้นไป จําแนกตามการอานหนังสือ นอกเวลาเรียน/นอกเวลาทํางานและระดับการศึกษาสูงสุด พ.ศ. 2554
10.
สารบัญแผนภูมิ (ตอ) แผนภูมิ 14
อัตราการอานหนังสือของประชากรอายุตั้งแต15ปขึ้นไปจําแนกตาม การทํางานในรอบปที่แลว พ.ศ. 2554 แผนภูมิ 15 อัตราการอานหนังสือนอกเวลาทํางานของผูทํางานอายุตั้งแต 15 ปขึ้นไป จําแนกตามอาชีพ พ.ศ. 2554 แผนภูมิ 16 อัตราการอานหนังสือนอกเวลาทํางานของผูทํางานอายุตั้งแต15ปขึ้นไป จําแนกตามกลุมอุตสาหกรรมและสถานภาพการทํางาน พ.ศ. 2554 แผนภูมิ 17 รอยละของประชากรอายุตั้งแต 6 ปขึ้นไปที่อานหนังสือนอกเวลาเรียน/นอกเวลา ทํางานจําแนกตามประเภทหนังสือที่อานและความถี่ของการอานหนังสือพ.ศ. 2554 แผนภูมิ 18 รอยละของประชากรอายุตั้งแต 6 ปขึ้นไปที่อานหนังสือนอกเวลาเรียน/ นอกเวลาทํางานจําแนกตามประเภทเนื้อหาสาระของหนังสือที่อาน พ.ศ. 2554 แผนภูมิ 19 เวลาที่ใชอานหนังสือนอกเวลาเรียน/นอกเวลาทํางานเฉลี่ยตอวัน ของประชากรอายุตั้งแต 6 ปขึ้นไปที่อานหนังสือ จําแนกตามเพศ กลุมวัย เขตการปกครอง และภาค พ.ศ. 2554 แผนภูมิ 20 รอยละของประชากรอายุตั้งแต 6 ปขึ้นไปที่อานหนังสือนอกเวลาเรียน/ นอกเวลาทํางานจําแนกตามประเภทหองสมุดที่ไปใชบริการยืมหรือ อานหนังสือพ.ศ. 2554 แผนภูมิ 21 รอยละของประชากรอายุตั้งแต 6 ปขึ้นไปที่อานหนังสือนอกเวลาเรียน/ นอกเวลาทํางานจําแนกตามจํานวนหนังสือที่ซื้อในรอบปที่แลว พ.ศ. 2554 แผนภูมิ 22 รอยละของประชากรอายุตั้งแต 6 ปขึ้นไปที่อานหนังสือนอกเวลาเรียน/ นอกเวลาทํางาน จําแนกตามคาใชจายในการซื้อหนังสือเฉลี่ยตอเดือน เขตการปกครอง และภาค พ.ศ. 2554
11.
สารบัญตาราง ตาราง 1 รอยละของประชากรอายุตั้งแต
6 ปขึ้นไปที่อานหนังสือนอกเวลาเรียน/ นอกเวลาทํางาน จําแนกตามประเภทของหนังสือที่อานและกลุมวัยพ.ศ. 2554 ตาราง 2 รอยละของประชากรอายุตั้งแต 6 ปขึ้นไปที่อานหนังสือนอกเวลาเรียน/ นอกเวลาทํางาน จําแนกตามประเภทเนื้อหาสาระของหนังสือที่อาน และกลุมวัยพ.ศ. 2554 ตาราง 3 รอยละของประชากรอายุตั้งแต 6 ปขึ้นไปที่อานหนังสือนอกเวลาเรียน/ นอกเวลาทํางาน จําแนกตามสถานที่อานหนังสือ และกลุมวัย พ.ศ. 2554 ตาราง 4 รอยละของประชากรอายุตั้งแต 6 ปขึ้นไปที่อานหนังสือนอกเวลาเรียน/ นอกเวลาทํางานจําแนกตามเหตุผลที่อานหนังสือ และกลุมอายุพ.ศ. 2554 ตาราง 5 รอยละของประชากรอายุตั้งแต 6ปขึ้นไปที่ไมอานหนังสือนอกเวลาเรียน/ นอกเวลาทํางานจําแนกตามสาเหตุที่ไมอานหนังสือและกลุมอายุพ.ศ. 2554
12.
บทที่ 1 บทนํา 1. ความเปนมา เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายสงเสริมให ประชาชนรักการอานอยางจริงจัง
และเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2552 มีมติคณะรัฐมนตรีใหการสงเสริม การอานเปนวาระแหงชาติ โดยกําหนดใหวันที่ 2 เมษายนของทุกปเปนวันรักการอาน และในป 2552-2561 เปนทศวรรษแหงการอานของประเทศ รวมทั้งใหมีคณะกรรมการสงเสริมการอานเพื่อสราง สังคมแหงการเรียนรูตลอดชีวิต ดังนั้นจึงมีความจําเปน ตองการทราบขอมูลสถิติเกี่ยวกับพฤติกรรมการอาน หนังสือของประชากร สําหรับนําไปใชกําหนด ทิศทางและมาตรการตางๆ ของหนวยงานที่เกี่ยวของ เพื่อใหเปนไปตามนโยบายขางตน สํานักงานสถิติ แหงชาติ ไดจัดทําโครงการสํารวจการอานหนังสือ ของประชากรมาแลว 3 ครั้ง ในป 2546 2548 และ 2551 และการสํารวจ ป 2554 นี้นับเปนครั้งที่ 4 เพื่อใหมีขอมูลสําหรับใชพัฒนาและสงเสริมให ประชาชนรักการอาน ตลอดจนติดตามประเมินผล การดําเนินงานเรื่องดังกลาว ซึ่งมีความจําเปนและ สําคัญยิ่ง เนื่องจากการอานหนังสือทําใหผูอานมี ความรอบรู เปนการเพิ่มพูนศักยภาพในการดําเนินชีวิต และการทํางาน สามารถเรียนรูไดตลอดชีวิต จึง นับเปนการพัฒนาทรัพยากรมนุษยที่สําคัญอยางหนึ่ง ซึ่งสงผลตอการพัฒนาประเทศโดยตรง 2. วัตถุประสงค เพื่อเก็บรวบรวมขอมูลดังตอไปนี้ 1. จํานวนผูอานหนังสือและไมอานหนังสือ พรอมทั้งลักษณะทางประชากร 2. รายละเอียดเกี่ยวกับการอานหนังสือ เชน ประเภทหนังสือที่อาน ความถี่ในการอาน เวลาที่ใชอาน หนังสือเฉลี่ยตอวัน สถานที่ที่อาน เปนตน 3. ความคิดเห็นในเรื่องของวิธีการจูงใจให ประชาชนรักการอานหนังสือ 3. ประโยชน 1. เพื่อใหมีขอมูลสถิติพื้นฐานเรื่องการอาน หนังสือของประชากร 2. เพื่อใหหนวยงานภาครัฐและเอกชนที่ เกี่ยวของนําขอมูลไปใชกําหนดนโยบาย และสงเสริม การอานหนังสือใหมากขึ้น และเหมาะสม เชน • ทําการรณรงคหรือจัดการสงเสริมการอาน ในรูปแบบที่เหมาะสมกับกลุมวัย • จัดหาหนังสือที่มีเนื้อหาสาระสอดคลอง กับความตองการของประชาชน • จัดหาสถานที่อานหนังสือใหแพรหลายและ เพียงพอกับประชาชนในทองที่ตาง ๆ 4. ขอบขายของการสํารวจ ครัวเรือนที่อยูในขอบขายของการสํารวจ ไดแก ครัวเรือนสวนบุคคล ทั้งในเขตเทศบาลและนอกเขต เทศบาลทั่วประเทศ 5. เวลาอางอิง ในรอบ 12 เดือนที่แลว หมายถึง ระยะเวลานับจากเดือนกอนเดือน สัมภาษณยอนหลังไป 12 เดือน เชน เดือนที่สัมภาษณ คือ พฤษภาคม 2554 “ในรอบ 12 เดือนที่แลว” คือ พฤษภาคม 2553 – เมษายน 2554
13.
6. รายการขอมูลที่เก็บรวบรวม 1.ลักษณะทั่วไปของสมาชิกในครัวเรือน 2.การอานหนังสือของเด็กเล็ก(อายุต่ํากวา6ป) 3. การอานหนังสือของประชากร
(อายุตั้งแต 6 ปขึ้นไป) 4. สภาพที่อยูอาศัยและการเปนเจาของทรัพยสิน 7. ระเบียบวิธีการสํารวจ สํารวจนี้เปนการสํารวจดวยตัวอยาง (Sample Survey Method) โดยใชแผนการสุมตัวอยางแบบ Stratified Two Stage Sampling โดยมีจังหวัดเปน สตราตัม (Stratum) ซึ่งมีทั้งสิ้น 76 สตราตัม และใน แตละสตราตัม (จังหวัด) ไดแบงออกเปน 2สตราตัมยอย ตามลักษณะการปกครองคือในเขตเทศบาลและนอกเขต เทศบาล โดยมีชุมรุมอาคาร (สําหรับในเขตเทศบาล) และหมูบาน (สําหรับนอกเขตเทศบาล) เปนตัวอยาง ขั้นที่หนึ่ง ครัวเรือนสวนบุคคลเปนตัวอยางขั้นที่สอง ซึ่งมีจํานวนครัวเรือนตัวอยางทั้งสิ้น 53,000ครัวเรือน การเก็บรวบรวมขอมูล โดยใหเจาหนาที่ของ สํานักงานสถิติแหงชาติ ไปสัมภาษณสมาชิกของ ครัวเรือนตัวอยางในเดือนพฤษภาคม และมิถุนายน พ.ศ. 2554 8. คํานิยาม 8.1 การอานหนังสือ หมายถึง การอานหนังสือทุกประเภทนอกเวลา เรียน/นอกเวลาทํางาน แตรวมการอานในชวงเวลาพัก การอานหนังสือรวมทั้งการอานทางสื่ออิเล็กทรอนิกส อื่น ๆ เชน อินเทอรเน็ต ซีดี e-book reader ฯลฯ ยกเวน SMS หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส (E-mail) สําหรับการอานหนังสือของเด็กเล็ก (อายุต่ํากวา 6ป) ในที่นี้หมายถึงการอานหนังสือในชวงนอกเวลาเรียน ซึ่งเด็กเล็กอานดวยตนเอง รวมทั้งการที่ผูใหญอาน หนังสือใหฟงดวย 8.2 หนังสือพิมพ หมายถึง สิ่งพิมพที่ออกเปนระยะ ๆ อยาง สม่ําเสมอ มีเนื้อหาสวนใหญเปนเรื่องเกี่ยวกับขาว และสถานการณปจจุบัน มักจะออกเปนรายวัน แต อาจออกเปนราย2วัน5วัน7วัน10วันหรืออื่นๆก็ได แตไมทิ้งชวงนานเกินไป ไมเย็บเลม และไมมีปก ขนาดของหนังสือพิมพ มีขนาดไมแนนอน สวนใหญมีขนาดประมาณ 40 X 55 ซม. 8.3 นิตยสาร หมายถึง สิ่งพิมพที่ออกเปนระยะ ๆ อยาง สม่ําเสมอ สวนใหญจะออกเปนรายสัปดาห รายปกษ หรือรายเดือน มักจะมีขนาดเล็กกวาหนังสือพิมพ มีปก เย็บเลม มีการจัดหนา โดยใชสีสันและรูปภาพสวยงาม พิถีพิถันกวาหนังสือพิมพ เนื้อหาอาจเกี่ยวกับขาวสาร ความรู สารคดี นิยาย หรืออื่น ๆ 8.4 วารสารหรือเอกสารประเภทอื่น ๆ ที่ออก เปนประจํา หมายถึง สิ่งพิมพที่ออกเปนประจําแตมีรูปราง ลักษณะที่ไมสามารถจัดประเภทเปนหนังสือพิมพหรือ นิตยสารได วารสารสวนใหญมักจะมีเนื้อหาทางวิชาการ แตอาจมีวารสารบางประเภทที่เนนในเรื่องขาว และ ความคิดเห็นแตไมมีการตกแตงรูปเลมเหมือนนิตยสาร วารสาร สวนใหญจะมีคําวา “วารสาร” นําหนาชื่อหนังสือ และเนื้อหาจะหนักกวานิตยสาร ตัวอยางหนังสือวารสาร เชน วารสารขาราชการ วารสารที่ดิน วารสารบริหารธุรกิจ เปนตน สวนเอกสารประเภทอื่น ๆ ที่ออกเปนประจํา อาจออกมาในลักษณะของแผนพับ แผนปลิว จุลสาร (Bulletin) จดหมายขาว(Newsletter)หรืออื่นๆ สวนใหญ จะจัดทําโดยสถาบันหรือองคการตาง ๆ โดยมีวัตถุประสงค เพื่อการประชาสัมพันธ หรือสงเสริมกิจกรรมของ หนวยงานนั้นโดยเฉพาะ เชน สารสถิติ สารผูใหญ
14.
ขาวสารการเกษตร ขาวสารการบินพาณิชย จุลสาร การทองเที่ยวจุลสารดาวเทียมจดหมายขาวไทยคดีศึกษา เปนตน 8.5
นวนิยาย การตูน หรือหนังสืออานเลนตาง ๆ หมายถึง สิ่งพิมพที่มักออกไมมีระยะเวลาที่ แนนอน มุงใหอานเพื่อความเพลิดเพลินใจ เชน หนังสือนวนิยาย นิทาน การตูน เปนตน หนังสือนวนิยายหรือเรื่องอานเลนตาง ๆ ในที่นี้ ตองพิมพเปนเลม ไมใชนวนิยายหรือเรื่องอานเลนที่ พิมพเปนตอน ๆ ในหนังสือประเภทอื่น ตัวอยางหนังสือ นวนิยายเชนเพชรพระอุมาคาของคน คูกรรมเปนตน หนังสือการตูน ไดแก ขายหัวเราะ และ การตูนญี่ปุน เปนตน 8.6 แบบเรียนหรือตําราเรียนตามหลักสูตรหรือ เอกสาร/หนังสือ/คูมือที่อานเพิ่มเติมเพื่อสอบ หรือการเรียน หมายถึง สิ่งพิมพ หนังสือ หรือตําราที่ โรงเรียนมหาวิทยาลัย หรือสถาบันการศึกษากําหนดให ใชในการเรียนการสอนตามหลักสูตร รวมทั้ง เอกสาร หนังสือ หรือคูมือที่ใชอานเพิ่มเติมเพื่อสอบหรือ การเรียนดวย เชน คูมือเตรียมสอบ หนังสือแนวขอสอบ และหนังสือประกอบการเรียนพิเศษ เปนตน 8.7 ตํารา หนังสือ หรือเอกสารที่ใหความรูตาง ๆ ความรูทั่วไป หมายถึง สิ่งพิมพหรือเอกสารที่มุงใหความรู ตาง ๆ แกผูอานเปนประการสําคัญ สวนใหญมักจะ ออกในลักษณะของหนังสือ (Book) มีการเย็บเลม ไมรวมแบบเรียนหรือตําราเรียนตามหลักสูตร หรือ เอกสาร/หนังสือ/คูมือเพิ่มเติมเพื่อสอบหรือการเรียน ตํารา หนังสือ หรือเอกสารที่ใหความรู ในที่นี้ ตองใชในวัตถุประสงคอานเพื่อใหมีความรูทั่ว ๆ ไป เพื่อเสริมความรู ไมใชมุงเพื่อสอบหรือการเรียน 8.8 หนังสือหรือเอกสารเกี่ยวกับคําสอนทางศาสนา หมายถึง หนังสือหรือเอกสารที่นําเสนอเรื่อง เกี่ยวกับหลักหรือคําสอนทางศาสนา หลักการปฏิบัติ ทางศาสนา ประวัติบุคคลสําคัญทางศาสนา และเรื่องเลา ทางศาสนา 8.9 ขาว หมายถึง การรายงานเหตุการณปจจุบันหรือ ขาวสารที่นาสนใจ เพื่อใหประชาชนไดรับทราบ ขาวสารที่เสนอ โดยลักษณะของขาวนั้นจะตองเปน ขอมูล ขอเท็จจริงหรือเรื่องราวใหม ๆ และทันตอเวลา โดยเฉพาะอยางยิ่งในทัศนะของผูรับสาร การเสนอขาว อาจใชการพูด การเขียนการใชภาพแถบบันทึกวีดีทัศน หรือภาพยนตร หรือสื่ออื่น ๆ ที่สามารถเขาถึงประชาชน ไดอยางทั่วถึง ทั้งนี้ตองไมมีการแสดงความคิดเห็นใน การเสนอขาว ขาวอาจจําแนกเปน ขาวที่นาสนใจทั่ว ๆ ไป ในประเทศ ขาวในประเทศ ขาวตางประเทศและ ขาวระหวางประเทศ ขาวและความเคลื่อนไหวใน วงการกีฬา ความเคลื่อนไหวในวงการธุรกิจบันเทิง และขาวประเภทอื่น ๆ 8.10 สารคดีหรือความรูทั่วไป หมายถึง เนื้อหาที่เกี่ยวกับความรูหรือสารคดี โดยมีจุดประสงคใหผูอานไดรับความรูในเรื่องตาง ๆ ไดแก ความรูเกี่ยวกับการเมืองการปกครองการดําเนินงาน ของรัฐ เศรษฐกิจ การประกอบอาชีพ ศาสนา จริยศึกษา สุขภาพ อนามัย ศิลปะ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร รวมทั้งเรื่องที่เกี่ยวของกับเด็ก สตรี และแมบาน
15.
8.11 ความคิดเห็นหรือวิเคราะห หมายถึง บทความ
บทบรรณาธิการ หรือ ขอเขียนแบบอื่น ๆ ที่แสดงทัศนะหรือความคิดเห็น ตลอดจนการวิเคราะหวิจารณในเรื่องตาง ๆ เชน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเมือง การปกครอง การดําเนินงานของรัฐ เศรษฐกิจ การประกอบอาชีพ ศาสนา จริยศึกษา สุขภาพ อนามัย ศิลปะ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร รวมทั้งเรื่องที่เกี่ยวของกับเด็ก สตรี และ แมบาน นอกจากนี้ยังรวมถึงบทความที่เสนอความคิดเห็น วิพากษ วิจารณเกี่ยวกับเรื่องทั่วๆไปเชนการพยากรณ ชีวิต การวิเคราะหขาวและเหตุการณตางประเทศ การวิเคราะหและวิจารณขาวแบบชาวบาน เปนตน 8.12 บันเทิง หมายถึง เนื้อหาที่มีจุดมุงหมายใหผูอานไดรับ ความเพลิดเพลิน แบงออกเปน 2 ประเภท คือ 1) แสดงดวยภาพไดแก ภาพเขียนหรือภาพถาย เชน การตูนสําหรับเด็ก ภาพลอทางการเมือง เปนตน 2) บรรยายดวยขอเขียน ไดแก เรื่องสนุก ๆ เชน นวนิยาย เรื่องแปล เรื่องสั้น เปนตน 8.13 ธุรกิจหรือโฆษณา หมายถึง เนื้อหาที่เกี่ยวของกับธุรกิจการคา อุตสาหกรรม รวมถึงขาวเพื่อการเผยแพร และ การประชาสัมพันธ (Publicity and public relations) และเนื้อหาที่เปนประกาศสรรพคุณ คุณภาพ หรือ คุณประโยชนของสินคาและบริการ (Advertisements)
16.
57.1 49.1 53.3 53.8 63.0 50.6 59.2 54.3 52.7 53.5 31.3 39.9 43.0 32.4 45.3 34.1 40.8 35.2 36.7 0 10 20
30 40 50 60 70 บทที่ 2 สรุปผลการสํารวจ การสํารวจการอานหนังสือของประชากร พ.ศ. 2554 เปนการเก็บรวบรวมขอมูล เกี่ยวกับการอานหนังสือ ทุกประเภทเฉพาะนอกเวลาเรียน/นอกเวลาทํางานของ ประชากร รวมทั้งการอานทางสื่ออิเล็กทรอนิกส อื่น ๆ เชน อินเทอรเน็ต ซีดี ฯลฯ ยกเวน SMS หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส (E-mail) การสํารวจที่ผานมาในป 2546 - 2548 สํานักงาน สถิติแหงชาติ สํารวจเฉพาะการอานหนังสือของ ประชากรที่มีอายุตั้งแต 6 ปขึ้นไป และตั้งแตป 2551 ไดสํารวจเพิ่มเรื่องการอานหนังสือของเด็กเล็ก (ผูที่มี อายุต่ํากวา 6 ป) ดวย ผลการสํารวจที่สําคัญในป 2554 สรุปไดดังนี้ 1. การอานหนังสือของเด็กเล็ก การอานหนังสือของเด็กเล็ก ในที่นี้หมายถึง การอานหนังสือของเด็กเล็กที่อานในชวงนอกเวลาเรียน ดวยตัวเอง และรวมทั้งที่ผูใหญอานใหฟงดวย 1.1 อัตราการอานหนังสือนอกเวลาเรียน จากผลการสํารวจป 2554 พบวา เด็กเล็กมี อัตราการอานหนังสือรอยละ 53.5 เด็กผูหญิงมีอัตรา การอานหนังสือสูงกวาเด็กผูชายเล็กนอย (รอยละ 54.3 และรอยละ 52.7 ตามลําดับ) นอกจากนี้อัตราการอาน หนังสือของเด็กเล็กมีความแตกตางกันระหวาง เขตการปกครองและภาค โดยในเขตเทศบาลมีอัตรา การอานหนังสือสูงกวานอกเขตเทศบาล เด็กเล็กใน กรุงเทพมหานครมีอัตราการอานหนังสือสูงสุด (รอยละ 63.0) ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เด็กเล็กมี อัตราการอานหนังสือต่ําสุด (รอยละ 49.1) เมื่อเปรียบเทียบกับการสํารวจป 2551 พบวา เด็กเล็กเกินครึ่งหนึ่ง (รอยละ 53.5) มีการอานหนังสือ นอกเวลาเรียน โดยมีอัตราการอานเพิ่มขึ้นรอยละ 17.5 เด็กหญิงมีอัตราการอานหนังสือเพิ่มขึ้นมากกวา เด็กผูชาย เด็กเล็กที่อาศัยในเขตเทศบาลและภาคกลาง มีอัตราการอานหนังสือเพิ่มขึ้นมากกวาพื้นที่อื่น แผนภูมิ 1 อัตราการอานหนังสือของเด็กเล็กนอกเวลาเรียน1/ จําแนกตามเพศ เขตการปกครอง และภาค พ.ศ. 2551 และ 2554 ตะวันออกเฉียงเหนือ ทั่วราชอาณาจักร ชาย หญิง ในเขตเทศบาล นอกเขตเทศบาล กรุงเทพมหานคร กลาง เหนือ ใต 36.0 รอยละ 2551 2554 1/ อัตราการอานหนังสือหมายถึงรอยละของจํานวนประชากร ที่อานหนังสือตอจํานวนประชากรทั้งสิ้นในแตละกลุม
17.
66.2 55.1 37.9 20.3 0.2 0 10 20
30 40 50 60 70 18.5 22.0 17.3 19.7 39.6 42.0 9.7 10.114.9 6.2 0 20 40 60 80 100 1.2 เหตุผลที่ผูใหญอานหนังสือใหเด็กเล็กฟง สําหรับเด็กเล็กที่อานหนังสือนั้น เกือบ ทั้งหมด (รอยละ 96.8) มีผูใหญอานหนังสือใหฟง และมีเพียงรอยละ3.2เทานั้นที่เด็กเล็กอานดวยตนเอง โดยไมมีผูใหญอานหนังสือใหฟง เมื่อสอบถาม ผูใหญถึงเหตุผลที่อานหนังสือใหเด็กเล็กฟง พบวา ผูใหญสวนใหญอานใหฟงเพื่อเพิ่มพูนความฉลาด หรือความรูใหกับเด็กเล็กรอยละ 66.2 รองลงมา คือ เพื่อทําใหเด็กเพลิดเพลินหรืออารมณดีรอยละ 55.1 เพื่อสงเสริมใหเด็กเล็กรักการอานรอยละ 37.9 และ เพื่อทําใหเกิดความอบอุนในครอบครัวรอยละ 20.3 สวนเหตุผลอื่น ๆ มีเพียงรอยละ 0.2 เทานั้น แผนภูมิ 2 รอยละของเด็กเล็กที่มีผูใหญอานหนังสือใหฟง จําแนกตามเหตุผลที่ผูใหญอานหนังสือใหฟง พ.ศ. 2554 1.3 ความถี่ของการอานหนังสือนอกเวลาเรียน เด็กเล็กที่อานหนังสือมีประมาณ 2.7 ลานคน ในจํานวนนี้เปนผูที่อานหนังสือสัปดาหละ 2 – 3 วัน มากที่สุด (รอยละ 42.0) รองลงมาคือ อานทุกวัน และ อานสัปดาหละ 4 – 6 วัน ใกลเคียงกัน (รอยละ 22.0 และ 19.7 ตามลําดับ) และพบวา มีเด็กเล็กที่อาน หนังสือแตอานนาน ๆ ครั้งอยูรอยละ 6.2 เด็กเล็กมีความถี่ในการอานหนังสือเพิ่มขึ้น คือเด็กเล็กที่อานอยางนอย1วันตอสัปดาหมีเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่รอยละของเด็กเล็กที่อานนาน ๆ ครั้ง มี แนวโนมลดลง แผนภูมิ 3 รอยละของเด็กเล็กที่อานหนังสือนอกเวลาเรียน จําแนกตามความถี่ของการอานหนังสือพ.ศ.2551 และ 2554 1.4 เวลาเฉลี่ยที่ใชอานหนังสือนอกเวลาเรียน เด็กเล็กที่อานหนังสือใชเวลาอานหนังสือ นอกเวลาเรียนเฉลี่ย 26 นาทีตอวัน โดยเด็กชายและ เด็กหญิงใชเวลาอานหนังสือฯเฉลี่ยในแตละวันเทากัน (ประมาณ 26 นาที) เมื่อพิจารณาตามพื้นที่อยูอาศัย พบวาเด็กเล็กที่อาศัยในเขตเทศบาลใชเวลาอานหนังสือฯ มากกวานอกเขตเทศบาล (28 นาที และ 25 นาที ตามลําดับ) เด็กเล็กที่อาศัยอยูในกรุงเทพมหานคร ใชเวลาอานหนังสือฯ เฉลี่ยสูงสุด คือ 35 นาทีตอวัน รองลงมาคือภาคใต (27 นาทีตอวัน) สวนเด็กเล็กที่ อาศัยอยูภาคอื่นใชเวลาอานหนังสือฯ ต่ํากวาคาเฉลี่ย ของทั้งประเทศโดยเด็กเล็กที่อาศัยอยูภาคเหนือใชเวลา อานหนังสือฯ เฉลี่ยต่ําสุด (23 นาทีตอวัน) รอยละ ความรู เพิ่มพูนความฉลาด/ อารมณดี ทําใหเด็กเพลิดเพลิน/ สงเสริมใหเด็ก รักการอาน เพื่อใหเกิดความอบอุน ในครอบครัว อื่น ๆ ทุกวัน สัปดาหละ 1 วัน สัปดาหละ 2-3 วัน สัปดาหละ 4-6 วัน นาน ๆ ครั้ง รอยละ พ.ศ. 2551 2554
18.
0.1 0.4 0.1 26 26 28 25 35 25 23 24 27 0 5 10 15 20 25 30 35 40 0.1
0.1 แผนภูมิ 4 เวลาที่ใชอานหนังสือนอกเวลาเรียนเฉลี่ยตอวันของ เด็กเล็กที่อานหนังสือจําแนกตามเพศเขตการปกครอง และภาค พ.ศ. 2554 1.5 การซื้อหนังสือใหเด็กเล็กในรอบปที่แลว เมื่อสอบถามผูตอบสัมภาษณเกี่ยวกับการซื้อ หนังสือใหเด็กเล็กอานนอกเหนือจากซื้อหนังสือเรียน ตามหลักสูตรที่เด็กนักเรียนทุกคนจําเปนตองซื้อ ในรอบปที่แลวพบวารอยละ79.0 ของเด็กเล็กที่อาน หนังสือ มีผูใหญซื้อหนังสือใหอานเพิ่มเติมจาก หนังสือเรียนตามหลักสูตรโดยสวนใหญรอยละ60.9 ผูใหญเปนผูเลือกหนังสือเหลานี้ใหเองและมีรอยละ18.1 ที่เด็กเล็กเปนผูเลือกหนังสือเอง แผนภูมิ 5 รอยละของเด็กเล็กที่อานหนังสือนอกเวลาเรียน จําแนกตามการซื้อหนังสือใหเด็กเล็กในรอบปที่แลว และผูเลือกหนังสือ พ.ศ. 2554 เมื่อพิจารณาการซื้อหนังสือใหเด็กเล็กที่อาน หนังสือ จําแนกตามเขตการปกครองและภาค พบวา ในเขตเทศบาลมีอัตราการซื้อหนังสือใหเด็กเล็กสูงกวา นอกเขตเทศบาล (รอยละ 81.5 และ 77.5 ตามลําดับ) ภาคกลางมีอัตราการซื้อหนังสือใหเด็กเล็กสูงสุด (รอยละ 85.6) สวนภาคเหนือต่ําสุด (รอยละ 75.8) สําหรับจํานวนหนังสือที่ซื้อใหเด็กเล็กพบวาในรอบป ที่แลวเด็กเล็กที่อานหนังสือมีผูใหญซื้อหนังสือให 1 –5 เลมสัดสวนสูงที่สุด(รอยละ44.8) รองลงมาคือ ซื้อหนังสือ6–10เลม(รอยละ19.1) และมากกวา10เลม (รอยละ15.1) มีเพียงรอยละ0.1ที่จําไมไดหรือไมทราบ จํานวนหนังสือที่ซื้อใหเด็กเล็ก ในเขตเทศบาลมีอัตรา การซื้อหนังสือใหเด็กเล็กอานเพิ่มเติมจํานวนหลายเลม คือ ตั้งแต 6 เลมขึ้นไป มากกวานอกเขตเทศบาลและ กรุงเทพมหานครมากกวาภาคอื่น แผนภูมิ 6 รอยละของเด็กเล็กที่อานหนังสือนอกเวลาเรียน จําแนกตามจํานวนหนังสือที่ซื้อในรอบปที่แลว เขตการปกครอง และภาค พ.ศ. 2554 19.1 23.98.1 3.1 14.5 13.5 6.5 8.8 39.2 45.9 26.636.0 42.0 55.8 50.0 44.8 18.2 13.2 16.2 22.4 22.5 5.25.1 7.1 5.8 10.0 4.719.5 6.19.2 4.3 0 20 40 60 80 100 เด็กเลือกเอง18.1% 60.9% ไมซื้อ 21.0% ซื้อ 79.0% การซื้อหนังสือใหเด็กเล็ก ผูเลือกหนังสือ ผูใหญเลือกให ในรอบปที่แลว รอยละ กรุงเทพ มหานคร กลาง เหนือ ตะวันออก เฉียงเหนือ ใตนอกเขต เทศบาล ในเขต เทศบาล ทั่วราช อาณาจักร ทั่วราชอาณาจักร 26 นาทีตอวันเวลา (นาที) ชาย หญิง ในเขต เทศบาล นอกเขต เทศบาล กรุงเทพ มหานคร กลาง เหนือตะวันออก เฉียงเหนือ ใต 79.0 81.5 77.5 76.6 85.6 75.8 76.4 79.5 ไมทราบ > 15 เลม 11-15 เลม 6-10 เลม 1-5 เลม 23.8
19.
63.2 58.6 65.9 44.5 68.7 62.2 67.0
61.6 8.6 9.4 6.2 2.3 3.9 1.9 4.7 4.5 4.58.5 17.0 6.6 6.5 6.312.0 8.6 6.53.7 1.36.5 2.03.3 2.5 1.60.2 0.2 0.9 0 20 40 60 80 100 1 – 100 บาท/เดือน 101 – 200 บาท/เดือน 201 – 300 บาท/เดือน มากกวา 300 บาท/เดือน ไมทราบ (มีเฉพาะทั่วราชอาณาจักร (0.2) นอกเขตเทศบาล (0.2) เหนือ (0.9)) 1/ ตอบไดไมเกิน 2 ประเภท 1.6 คาใชจายสําหรับซื้อหนังสือใหเด็กเล็กเฉลี่ย ตอเดือน สําหรับเด็กเล็กที่อานหนังสือมีผูใหญซื้อ หนังสือใหอานเพิ่มเติมจากหนังสือเรียนตามหลักสูตรนั้น สวนใหญรอยละ63.2เสียคาใชจายในการซื้อหนังสือ เหลานี้เฉลี่ยเดือนละไมเกิน 100 บาท และมีเพียง รอยละ3.3ที่เสียคาใชจายเฉลี่ยตอเดือนมากกวา300บาท กลุมที่เสียคาใชจายสําหรับซื้อหนังสือฯ ใหเด็กเล็ก คอนขางสูงคือมากกวา100บาทตอเดือนนั้นในเขตเทศบาล คอนขางสูงกวานอกเขตเทศบาลและกรุงเทพมหานคร สูงกวาภาคอื่น แผนภูมิ 7 รอยละของเด็กเล็กที่อานหนังสือนอกเวลาเรียน จําแนกตามคาใชจายสําหรับซื้อหนังสือใหเด็กเล็ก เฉลี่ยตอเดือนเขตการปกครองและภาคพ.ศ.2554 1.7 สาเหตุที่เด็กเล็กไมอานหนังสือนอกเวลาเรียน เด็กเล็กที่ไมอานหนังสือนอกเวลาเรียน คือ เด็กเล็กที่ไมไดอานหนังสือดวยตนเองและไมมีผูใหญ อานหนังสือใหฟง มีประมาณ 2.3 ลานคน คิดเปน รอยละ46.5ของเด็กเล็กทั้งสิ้นพบวาสาเหตุที่เด็กเล็ก กลุมนี้ไมอานหนังสือ เพราะวายังเปนเด็กเกินไปคือ มีอายุต่ํากวา 2 ป รอยละ 64.8 สาเหตุรองลงมา คือ อานหนังสือไมออกรอยละ 19.5 ชอบดูโทรทัศน รอยละ10.2ไมชอบอานหนังสือหรือไมสนใจรอยละ4.1 และสาเหตุอื่นอีกเพียงรอยละ 1.4 แผนภูมิ 8 รอยละของเด็กเล็กที่ไมอานหนังสือนอกเวลาเรียน จําแนกตามสาเหตุที่เด็กเล็กไมอานหนังสือพ.ศ.2554 สวนสาเหตุที่ผูใหญไมอานหนังสือให เด็กเล็กฟง 5 ลําดับแรก คือ ไมมีเวลาอานใหฟง (รอยละ46.9) ผูใหญคิดวาเด็กยังเล็กเกินไป(รอยละ28.6) ผูใหญชอบดูโทรทัศน (รอยละ18.1) ผูใหญที่ไมชอบ อานหนังสือหรือไมสนใจอานใหเด็กเล็กฟง(รอยละ11.6) และมีผูใหญที่อานหนังสือไมออก (รอยละ 5.0) แผนภูมิ 9 รอยละของเด็กเล็กที่ไมอานหนังสือนอกเวลาเรียน จําแนกตามสาเหตุที่ผูใหญไมอานหนังสือให เด็กเล็กฟง1/ 5ลําดับแรก พ.ศ. 2554 46.9 28.6 18.1 11.6 5.0 0 10 20 30 40 50 อานหนังสือไมออก เด็กยังเล็กเกินไป ชอบดูโทรทัศน ไมชอบอานหนังสือ หรือไมสนใจ รอยละ ไมมีเวลาอาน กรุงเทพ มหานคร กลาง เหนือ ตะวันออก เฉียงเหนือ ใตนอกเขต เทศบาล ในเขต เทศบาล ทั่วราช อาณาจักร รอยละ 79.0 81.5 77.5 76.6 85.6 75.8 76.4 79.5 2,326,810 คน อานหนังสือไมออก 19.5% ชอบ ดูโทรทัศน 10.2% ไมชอบอานหนังสือ หรือไมสนใจ 4.1% อื่น ๆ 1.4% เด็กยังเล็กเกินไป 64.8%
20.
64.8 71.6 67.5 68.8 57.7 66.7 65.1 68.4 61.2 69.1 66.3
68.6 0 20 40 60 80 77.2 64.1 84.2 71.3 65.9 63.0 69.7 0 20 40 60 80 100 2554 2. การอานหนังสือของประชากร (อายุตั้งแต6ปขึ้นไป) 2.1 อัตราการอานหนังสือนอกเวลาเรียน/นอก เวลาทํางาน จากผลการสํารวจป 2554 พบวา คนไทย อายุตั้งแต6ปขึ้นไป มีอัตราการอานหนังสือรอยละ68.6 ผูชายมีอัตราการอานหนังสือสูงกวาผูหญิงเล็กนอย (รอยละ68.8และ68.4ตามลําดับ)และเมื่อเปรียบเทียบ กับการสํารวจที่ผานมา พบวา อัตราการอานหนังสือ เพิ่มขึ้นเล็กนอยจากป 2551 ทั้งผูชายและผูหญิง แผนภูมิ 10 อัตราการอานหนังสือนอกเวลาเรียน/นอกเวลา ทํางานของประชากรอายุตั้งแต 6 ปขึ้นไป จําแนก ตามเพศ พ.ศ. 2546 – 2554 เมื่อพิจารณาอัตราการอานหนังสือตาม เขตการปกครองและภาค พบวา ประชากรที่อาศัยอยู ในเขตเทศบาลมีอัตราการอานหนังสือสูงกวานอก เขตเทศบาล (รอยละ 77.2 และ 64.1 ตามลําดับ) กรุงเทพมหานคร มีอัตราการอานหนังสือสูงที่สุด (รอยละ 84.2) และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอัตรา การอานหนังสือต่ําสุด (รอยละ 63.0) แผนภูมิ 11 อัตราการอานหนังสือนอกเวลาเรียน/นอกเวลา ทํางานของประชากรอายุตั้งแต6ปขึ้นไป จําแนก ตามเขตการปกครอง และภาค พ.ศ. 2554 2.2 อายุ การอานหนังสือของประชากรมีความแตกตางกัน ตามวัย กลุมวัยเด็กมีอัตราการอานหนังสือสูงสุดถึง รอยละ91.6 รองลงมาคือกลุมเยาวชนกลุมวัยทํางาน และต่ําสุดคือกลุมวัยสูงอายุ(รอยละ78.6 65.7 และ 44.3 ตามลําดับ) และเมื่อเปรียบเทียบระหวางการสํารวจ ที่ผานมาพบวาป 2554การอานหนังสือของประชากร เกือบทุกกลุมวัย มีอัตราการอานหนังสือเพิ่มขึ้นจาก ป2551 มีเพียงกลุมเยาวชนเทานั้นที่มีอัตราการอานคงที่ แผนภูมิ 12 อัตราการอานหนังสือนอกเวลาเรียน/นอกเวลาทํางาน ของประชากรอายุตั้งแต 6 ปขึ้นไป จําแนกตาม กลุมวัย พ.ศ. 2546 – 2554 รอยละ ชาย หญิง 2546 2548 2551 พ.ศ. 2554 64.8 รอยละ ทั่วราชอาณาจักร รอยละ 68.6 ในเขต เทศบาล นอกเขต เทศบาล กรุงเทพ มหานคร กลาง เหนือ ตะวันออก เฉียงเหนือ ใต 68.6 78.6 44.3 61.2 69.1 66.3 91.681.587.784.5 78.683.180.4 65.0 54.3 64.3 65.7 39.337.4 24.4 0 20 40 60 80 100 รอยละ 2546 2548 2551 พ.ศ. รวม วัยเด็ก (6-14 ป) วัยเยาวชน (15-24 ป) วัยทํางาน (25-59 ป) วัยสูงอายุ (60 ปขึ้นไป) รวม
21.
2.3 ระดับการศึกษา จากผลการสํารวจ พบวา
การศึกษาและ อัตราการอานหนังสือ มีความสัมพันธกันเชิงบวก กลาวคือ ผูมีระดับการศึกษาที่สูงกวา มีอัตราการอาน หนังสือสูงกวาผูมีการศึกษาระดับต่ํากวา แผนภูมิ 13 รอยละของประชากรอายุตั้งแต 6 ปขึ้นไป จําแนก ตามการอานหนังสือนอกเวลาเรียน/นอกเวลาทํางาน และระดับการศึกษาสูงสุด พ.ศ. 2554 2.4 การทํางาน จากจํานวนประชากรอายุตั้งแต 15 ปขึ้นไป ทั้งสิ้นประมาณ 54.0 ลานคน พบวามีผูอานหนังสือ จํานวน 35.1 ลานคน หรือคิดเปนรอยละ 64.9 เมื่อ จําแนกตามการทํางานในรอบปที่แลว พบวา อัตรา การอานหนังสือของผูไมทํางานและผูทํางาน ใกลเคียงกัน (รอยละ 65.2 และ 64.8 ตามลําดับ) โดยผูหญิงมีอัตราการอานหนังสือสูงกวาผูชายเล็กนอย ในกลุมผูทํางาน ซึ่งแตกตางจากกลุมผูไมทํางานที่ ผูชายมีอัตราการอานหนังสือสูงกวาผูหญิง แผนภูมิ 14 อัตราการอานหนังสือของประชากรอายุตั้งแต 15 ป ขึ้นไป จําแนกตามการทํางานในรอบปที่แลวพ.ศ.2554 เมื่อพิจารณาอัตราการอานหนังสือของผูทํางาน ในรอบปที่แลว จําแนกตามอาชีพ พบวา ทหาร ผูประกอบวิชาชีพดานตาง ๆ เจาหนาที่เทคนิคและ ผูประกอบวิชาชีพที่เกี่ยวของกับดานตาง ๆ รวมทั้ง เสมียน มีอัตราผูอานหนังสือมากกวารอยละ 90.0 ซึ่งสูงกวาผูทํางานอาชีพอื่น ๆ สวนอาชีพที่มีอัตรา การอานต่ําที่สุด คือ ผูปฏิบัติงานที่มีฝมือใน ดานการเกษตรและประมง (รอยละ 51.2) แผนภูมิ 15 อัตราการอานหนังสือนอกเวลาทํางานของผูทํางาน อายุตั้งแต15ปขึ้นไปจําแนกตามอาชีพพ.ศ.2554 เมื่อเปรียบเทียบอัตราการอานหนังสือของ ผูทํางานตามกลุมอุตสาหกรรมและสถานภาพ การทํางาน พบวา ผูทํางานนอกภาคเกษตรกรรมมี อัตราการอานหนังสือสูงกวาผูทํางานในภาคเกษตรกรรม (รอยละ75.9และ50.8ตามลําดับ)ลูกจางรัฐวิสาหกิจ และลูกจางรัฐบาลมีอัตราการอานหนังสือถึงรอยละ93.7 และ 92.4 ตามลําดับ ซึ่งสูงกวาผูที่มีสถานภาพ การทํางานประเภทอื่น ประถมศึกษา ปริญญาตรี/สูงกวา อนุปริญญา มัธยมศึกษา มัธยมศึกษา กอนประถมศึกษา ไมไดรับการศึกษา รอยละ อาน ไมอาน ระดับการศึกษาสูงสุด 60.3 66.5 76.0 79.3 85.8 94.6 87.6 39.7 33.5 24.0 20.7 14.2 12.4 ตอนปลาย ตอนตน 1000 20 40 60 80 5.4 65.2 64.864.9 69.1 64.2 65.1 62.9 65.6 64.7 0 10 20 30 40 50 60 70 รวม ผูทํางาน ผูไมทํางาน รอยละ รวม ชาย หญิง 98.3 51.2 53.5 67.4 74.3 74.7 89.7 92.5 92.8 96.6 0 20 40 60 80 100 ผูประกอบวิชาชีพดานตาง ๆ เจาหนาที่เทคนิคและ เสมียน พนักงานบริการและขาย ผูปฏิบัติงานที่มีฝมือดานการเกษตร ชางฝมือและผูปฏิบัติงานที่เกี่ยวของ ผูคุมเครื่องจักรโรงงาน เครื่องจักร ผูประกอบอาชีพขั้นพื้นฐาน รอยละ ทหาร อาชีพ ผูประกอบวิชาชีพเกี่ยวของดานตาง ๆ และผูบัญญัติกฎหมาย ผูปฏิบัติงานดานการประกอบ ในรานคาและตลาด ปาไมและประมง ผูจัดการ ขาราชการระดับอาวุโส
Jetzt herunterladen