Weitere ähnliche Inhalte
Ähnlich wie อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ (20)
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
- 2. Computer Case
• Case หรือ "เคส" คือ ตัวถังหรือตัวกล่องคอมพิวเตอร์ หลายคนจะเรียกว่าซีพียูเนื่องจากเข้าใจผิด สาหรับเคสนั้น
ใช้สาหรับบรรจุอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์หลักของคอมพิวเตอร์เอาไว้ข้างใน เช่นCPU เมนบอร์ด การ์ดจอ
ฮาร์ดดิสก์ พัดลมระบายความร้อน และที่ขาดไม่ได้ก็คือ Power Supply ซึ่งจะมีติดอยู่ในเคสเรียบร้อย เคส
คอมพิวเตอร์ควรเลือกที่รูปทรงสูงๆ เพื่อจะได้ติดตั้งอุปกรณ์ได้ง่าย และควรเลือกเคสที่มีช่องสาหรับติดตั้งฮาร์ดดิสก์
ซีดีรอมไดรฟ์ เผื่อเอาไว้หลายๆ ช่อง ในกรณีที่ต้องการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมในภายหลังจะได้ง่ายขึ้น
• Case คือ ฮาร์ดแวร์ที่สาคัญอีกชิ้นหนึ่ง ที่ห่อหุ้มอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ไว้ เป็นฮาร์ดแวร์ที่รองรับฮาร์ดแวร์อื่นๆ เช่น
Motherboard HDD CD-DVD PS พัดลมระบายอากาศ และ และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เป็นต้น มี
ลักษณะ เป็นทรงคล้ายรูปทรงสี่เหลี่ยม มีช่องว่างภายใน ใช้รองรับอุปกรณ์ต่าง ๆ
• ทาไมต้องมี Case ก็เพราะว่า เวลา ยกไปไหน ก็สะดวก ป้ องกันไฟดูด อุปกรณ์ถูกจัดเป็นระเบียบ เก็บไว้ใน
Case ทาให้ง่ายต่อการใช้งาน ป้ องกันอุปกรณ์เสียหาย เช่น โดนน้า โดนหนูเข้าไปอยู่ แมลงสาป รวมไปถึง
การป้ องกัน คลื่นรบกวนจากอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ตัวอื่น ๆ
- 3. CPU or Processor
• โปรเซสเซอร์ (Processor )
ความหมาย หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit) หรือ CPU (ซีพียู) หรือ โปรเซสเซอร์
(Processor) เป็นองค์ประกอบที่สาคัญส่วนหนึ่งของเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกประเภทในโลก เปรียบเสมือนกับ
เป็นมันสมองให้กับคอมพิวเตอร์นั่นเอง ประกอบไปด้วยวงจรทางไฟฟ้ ามากมาย ที่อยู่บนแผ่นซิลิกอนซิป ซึ่งมีขนาด
เล็กมาก ๆ
หน้าที่ของ Processor
• 1. อ่านและแปรคาสั่งที่ถูกเขียนไว้ในโปรแกรม
• 2. ประมวลผลตามคาสั่งที่เขียนไว้ในโปแกรม
• 3. รับส่งข้อมูลโดยติดต่อกับหน่วยความจาภายในเครื่อง
• 4. ติดต่อรับส่งข้อมูลกับผู้ใช้ โดยผ่านหน่วยรับข้อมูลและหน่วยแสดงผล
• 5. ย้ายข้อมูลและคาสั่งจากหน่วยงานหนึ่งไปยังอีกหน่วยงานหนึ่ง
- 4. Ram
• แรม หรือ หน่วยความจาเข้าถึงโดยสุ่ม [1] (อังกฤษ: random access memory: RAM) เป็น
หน่วยความจาหลัก ที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์ยุคปัจจุบัน หน่วยความจาชนิดนี้อนุญาตให้เขียนและอ่านข้อมูลได้
ในตาแหน่งต่าง ๆ อย่างอิสระ และรวดเร็วพอสมควร โดยคาว่าเข้าถึงโดยสุ่มหมายความว่าสามารถเข้าถึงข้อมูลแต่
ละตาแหน่งได้เร็วซึ่งต่างจากสื่อเก็บข้อมูลชนิดอื่น ๆ อย่างเทป หรือดิสก์ ที่มีข้อจากัดของความเร็วในการอ่านและ
เขียนข้อมูลและความเร็วในการเข้าถึงข้อมูล ที่ต้องทาตามลาดับก่อนหลังตามที่จัดเก็บไว้ในสื่อ หรือมีข้อกาจัดแบบ
รอม ที่อนุญาตให้อ่านเพียงอย่างเดียว
• ข้อมูลในแรม อาจเป็นโปรแกรมที่กาลังทางาน หรือข้อมูลที่ใช้ในการประมวลผล ของโปรแกรมที่กาลังทางานอยู่
ข้อมูลในแรมจะหายไปทันที เมื่อระบบคอมพิวเตอร์ถูกปิดลง เนื่องจากหน่วยความจาชนิดนี้จะเก็บข้อมูลได้เฉพาะ
เวลาที่มีกระแสไฟฟ้ าหล่อเลี้ยงเท่านั้น (หน่วยความจาชั่วคราว)
- 5. Main Board or System Board
• เมนบอร์ดคือ
เมนบอร์ด (Mainboard) นั้นมีชื่อเรียกอยู่หลายชื่อด้วยกัน อาทิ มาเธอร์บอร์ด (motherboard), ซิสเต็ม
บอร์ด (system board), ลอจิกบอร์ด (logic board) หรือในบางประเทศก็เรียกว่า โมโบ (mobo) ซึ่ง
เป็นคาย่อจาก motherboard
• เมนบอร์ด คือแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่มีส่วนสาคัญมากของคอมพิวเตอร์ เป็นแผงวงจรหลักที่คอยสั่งการให้
อุปกรณ์ต่างๆที่มีการเชื่อมต่อทางานตามคาสั่ง ซึ่งเมนบอร์ดนั้นจะเป็นแผงวงจรที่รวมเอาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ไว้
ด้วยกัน อาทิ ซ็อกเก็ตสาหรับใส่ ซีพียู (CPU) และหน่วยความจาหลักและหน่วยความจาถาวร มีไบออสเป็นเฟิร์ม
แวร์ พร้อมช่องให้สามารถเสียบอุปกรณ์ เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมอื่นๆ โดยสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งอุปกรณ์ภายใน
และอุปกรณ์เชื่อมต่อภายนอก
- 6. Monitor
• จอภาพ Monitor เป็นอุปกรณ์แสดงผลที่มีชื่อเรียกมากมาย เช่น Monitor, CRT (Cathode Ray Tube)
สามารถแบ่งได้หลายรูปแบบ เช่น แบ่งเป็นจอแบบตัวอักษร (Text) กับจอแบบกราฟิก (Graphic) โดยจอภาพแบบ
ตัวอักษรจะมีหน่วยวัดเป็นจานวนตัวอักษรต่อบรรทัด เช่น 80 ตัวอักษร 25 บรรทัด สาหรับจอภาพแบบกราฟิก จะมีหน่วยวัดเป็น
จุด (Pixel) เช่น 640 pixel x 480 pixel
ลักษณะภายนอกของจอภาพก็คล้ายๆ กับจอโทรทัศน์นั่นเอง สิ่งที่แสดงออกทางจอภาพมีทั้งข้อความ ภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว
โดยรับข้อมูลจากการ์ดแสดงผล (Video Card, Video Adapter) ซึ่งเป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ที่เสียบบนเมนบอร์ด ทา
หน้าที่นาข้อมูลจากหน่วยประมวลผล มาแปลงเป็นสัญญาณภาพ แล้วส่งให้จอภาพแสดงผล
ปัจจุบันมีการพัฒนาจอภาพออกมาหลากหลายลักษณะ โดยเน้นที่จานวนสี ความละเอียด ความคมชัด การประหยัดพลังงาน โดย
สามารถแบ่งประเภทจอภาพ ที่ใช้ในปัจจุบันได้กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี
การทางานของจอภาพ เริ่มจากการกระตุ้นอุปกรณ์หลอดภาพให้ร้อน เกิดเป็นอิเล็กตรอนขึ้น และถูกยิงด้วยปืนอิเล็กตรอน ให้ไปยัง
จุดที่ต้องการแสดงผลบนจอภาพ ซึ่งที่จอภาพจะมีการเคลือบสารฟอสฟอรัสเรืองแสง เมื่ออิเล็กตรอนเหล่านี้วิ่งไปชน ก็จะทาให้
เกิดแสงสว่าง ซึ่งจะประกอบกันเป็นรูปภาพ ในการยิงลาแสดงอิเล็กตรอน มันจะเคลื่อนที่ไปตามแนวขวาง จากนั้นเมื่อ
กวาดภาพ มาถึงสุดขอบด้านหนึ่ง ปืนลาแสงก็จะหยุดยิง และ ปรับปืนอิเล็กตรอนลงมา 1 line และ เคลื่อนที่ไปยังขอบอีกด้าน
หนึ่ง และทาการยิ่งใหม่ ลักษณะการยิงจึงเป็นแบบฟันเลื่อย
ปัจจุบันกระแสจอแบน ได้เข้ามาแซงจอธรรมดา โดยเฉพาะประเด็นขนาดรูปทรง ที่โดดเด่น ประหยัดพื้นที่ในการวาง รวมทั้งจุดเด่น
ของจอภาพแบน ก็คือประหยัดพลังงาน โดยจอภาพขนาด 15 - 17 นิ้ว ใช้พลังงานเพียง 20 - 30 วัตต์ และจะลดลงเหลือ 5 วัตต์
ในโหมด Standby ในขณะที่จอธรรมดา ใช้พลังงานถึง 80 - 100 วัตต์
- 8. Mouse
• เมาส์คืออะไร
• อุปกรณ์ที่ใช้สาหรับชี้พิกัดบนหน้าจอว่าผู้ใช้คอมพิวเตอร์ต้องการเลือกทางานบนตาแหน่งใดๆ ที่ปรากฏบนหน้า
จอคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ตัวนี้ทาให้ผู้ใช้สามารถใช้ คอมพิวเตอร์ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น (สานักงานศาลยุติธรรม
สานักเทคโนโลยีสารสนเทศ 2549)
เมาส์ (mouse) คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมการใช้งานในคอมพิวเตอร์ชิ้นหนึ่ง ซึ่งออกแบบเพื่อให้พอดีกับการใช้
งานโดยส่วนโค้งและส่วนเว้าโค้งเข้าตามกับอุ้งมือของผู้ใช้ โดยภายด้านใต้ของเมาส์จะมีอุปกรณ์ซึ่งตรวจจับการเคลื่อนไหวของ
เมาส์ โดยส่งสัญญาณไปที่คอมพิวเตอร์เพื่อแสดงผลของเคอร์เซอร์ ( cursor ) บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ เมาส์ได้ชื่อ
มาจากรูปร่างของตัวมันเอง และสายไฟ ซึ่งมีลักษณะคล้ายหนูและหางหนู และขณะเดียวกันการเคลื่อนที่ของ
เคอร์เซอร์ (cursor) บนหน้าจอมีลักษณะการเคลื่อนที่ไม่มีทิศทางเหมือนการเคลื่อนที่ของหนู (วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
2549)
เมาส์ (Mouse) หรือ "หนูอิเล็กทรอนิกส์" เป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายหนู มีสายต่ออยู่ที่ปลายลักษณะเดียวกับหาง
หนู เมาส์จะช่วยในการบ่งชี้ตาแหน่งว่าขณะนี้กาลังอยู่ ณ จุดใดบนจอภาพ เรียกว่า ตัวชี้ตาแหน่ง(Pointer) ซึ่งอาศัยการ
เลื่อนเมาส์ แทนการกดปุ่มบังคับทิศทางบนคีย์บอร์ด(keyboard) (ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
2549