More Related Content
Similar to การกินอย่างมีคุณค่า
Similar to การกินอย่างมีคุณค่า (20)
การกินอย่างมีคุณค่า
- 1. หน่วยที่ 4 การจัดทำสาระหลักสูครสถานศึกษา 1. ที่มาของหลักสูตรสถานศึกษา พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 มาตรา 27 กล่าวว่า ให้คณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐานกำหนดหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อความเป็นไทย ความเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ การดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพตลอดจนเพื่อการศึกษาต่อ ให้สถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีหน้าที่ทำสาระหลักสูตรตามวัตถุประสงค์ในวรรค หนึ่งส่วนที่เกี่ยวกับสภาพปัญหาในชุมชนและสังคม ภูมิปัญญาท้องถิ่นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว สังคม และประเทศชาติ จากมาตรา 27 ดังกล่าวข้างต้นผู้รับผิดชอบในการจัดหลักสูตรจึงมี 2 ระดับได้แก่ ระดับชาติให้คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนดหลักสูตรแกนกลางส่วนระดับท้องถิ่นให้สถานศึกษาขั้นพื้นฐานจัดทำสาระหลักสูตรที่เกี่ยวกับท้องถิ่นสถานศึกษาทุกแห่งจึงต้องจัดทำหลักสูตรที่เหมาะสมกับท้องถิ่น ซึ่งเรียกว่า “หลักสูตรสถานศึกษา” ดังแผนภูมิที่ 19 เนื้อหา 4.1 ความหมายและความสำคัญของหลักสูตรสถานศึกษา
- 4. สถานศึกษาจะต้องทำงานร่วมกับครอบครัวและชุมชน ท้องถิ่น วัดหน่วย งานและสถานศึกษา ทั้งภาครัฐและเอกชนในท้องถิ่น เพื่อให้เกิดผลตามจุดมุ่งหมาย ของหลักสูตรสองประการ ซึ่งจุดมุ่งหมายทั้งสองประการนี้ให้แนวทางที่สำคัญซึ่ง สถานศึกษาต้องพัฒนาหลักสูตรภายในบริบทและแนวทางนั้น ๆ ดังนี้ 1. หลักสูตรสถานศึกษาควรพัฒนาให้เด็กเกิดความสนุกสนานและความ เพลิดเพลินในการเรียนรู้เปรียบเสมือนเป็นวิธีสร้างกำลังใจและเร้าใจให้เกิดความ ก้าวหน้าแก่ผู้เรียนให้ได้มากที่สุด มีความรู้สูงสุด สำหรับผู้เรียนทุกคน ควรสร้าง ความเข้มแข็ง ความสนใจ และประสบการณ์ให้ผู้เรียนและพัฒนาความมั่นใจ ให้ เรียนและทำงานอย่างเป็นอิสระและร่วมใจกัน ควรให้ผู้เรียนมีทักษะการเรียนรู้ สำคัญ ๆ ในการอ่านออกเขียนได้ คิดเลขเป็น ได้ข้อมูลสารสนเทศ และ เทคโนโลยีสื่อสาร ส่งเสริมจิตใจที่อยากรู้ อยากเห็น และมีกระบวนการคิดอย่างมี เหตุผล
- 5. 2. หลักสูตรสถานศึกษาควรส่งเสริมการพัฒนาด้านจิตวิญญาณ จริยธรรม สังคม วัฒนธรรม และโดยเฉพาะพัฒนาหลักการในการจำแนกระหว่างถูกและผิด เข้าใจและศรัทธาในความเชื่อของตน ความเชื่อและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน มีอิทธิพลต่อตัวบุคคลและสังคม หลักสูตรสถานศึกษาต้องพัฒนา หลักคุณธรรมและความอิสระของผู้เรียนและช่วยให้เป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบ สามารถช่วยพัฒนา สังคมให้เป็นธรรมขึ้น มีความเสมอภาค ควรพัฒนาความตระหนัก เข้าใจ และยอมรับสภาพแวดล้อม ที่ตนดำรงชีวิตอยู่ ยึดมั่นในข้อตกลงร่วมกันต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งในระดับส่วนตน ระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับโลก หลักสูตรสถานศึกษาควรสร้างให้ผู้เรียนมีความพร้อมในการเป็นผู้บริโภคที่ ตัดสินใจแบบมีข้อมูลและเป็นอิสระและเข้าใจในความรับผิดชอบ สำหรับกระบวนการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษานั้น แบ่งออกได้ หลายขั้นตอนแต่ใน เอกสารนี้ จะขอกล่าวถึงขั้นตอนของการจัดทำสาระหลักสูตรสถานศึกษาเท่านั้นดังต่อไปนี้ 1. การศึกษาข้อมูลสารสนเทศของสถานศึกษา 2. กำหนดวิสัยทัศน์ ภารกิจ เป้าหมาย และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 3. กำหนดโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา 4. กำหนดสาระการเรียนรู้ และผลการเรียนรู้ที่ความหวังรายปี หรือรายภาค 5. กำหนดคำอธิบายรายวิชา 6. กำหนดหน่วยการเรียนรู้
- 6. เนื้อหา 4.2 การศึกษาข้อมูลสารสนเทศของสถานศึกษา ข้อมูลสารสนเทศของสถานศึกษา จะเป็นข้อมูลที่ทำให้มองเห็นสภาพปัจจุบัน ทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษาได้แก่ ชุมชน ท้องถิ่น ตลอดจนบุคลากรต่าง ๆ ใน ด้านต่าง ๆ วัฒนาพร ระงับทุกข์ (2545 : 29 ) กล่าวว่าสถานศึกษาควรดำเนินการตั้งคณะ ทำงานศึกษาสภาพของสถานศึกษา แล้วดำเนินตามขั้นตอนต่อไปนี้ 1. วางแผนเก็บรวบรวมข้อมูล 2. เก็บรวบรวมข้อมูล จากแหล่งที่มีอยู่แล้ว เช่น เอกสารหลักฐาน ที่ปรากฏ สภาพบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับประเด็นที่ศึกษา 3. ประมวลข้อมูลที่ได้จากแหล่งต่าง ๆ แล้วเรียบเรียงตามประเด็น ที่ศึกษา 4. ตรวจสอบความถูกต้อง ครอบคลุม เพียงพอ ให้รวบรวมเพิ่มเติม หรือปรับปรุงแก้ไข
- 7. 5. เสนอผลการศึกษาต่อผู้เกี่ยวข้อง เพื่อทำความเข้าใจและ ยอมรับร่วมกันหากมีประเด็นเสนอแนะเพิ่มเติม ให้ทบทวน ปรับปรุงแก้ไข เพิ่มเติม นอกจากนี้ยังเสนอแนะข้อมูลที่ควรได้ดำเนินการศึกษาและรวบรวมดังนี้ ( วัฒนาพร ระงับทุกข์ , 2545 : 76 – 77 ) 1. ข้อมูลทั่วไปและสภาพแวดล้อมของโรงเรียน เป็นข้อมูล เกี่ยวกับความเป็นมาของโรงเรียน พัฒนาการ การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เกียรติ ประวัติ ความสำเร็จในการจัดการศึกษา สัญลักษณ์ ค่านิยม ปรัชญา ที่ตั้ง โรงเรียน 2. ข้อมูลด้านการบริหารจัดการของโรงเรียน เป็นข้อมูล เกี่ยวกับสภาพการบริหารจัดการ อาคารเรียน สิ่งอำนวยความสะดวก ห้องเรียน ห้องพิเศษ ห้องบริการ ห้องสมุด สื่อ วัสดุอุปกรณ์ เทคโนโลยี และแหล่งการ เรียนรู้ ทั้งในและนอกโรงเรียน
- 8. 3. ข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียน เป็นข้อมูลจำนวนนักเรียน สภาพตัวป้อน ในเขตพื้นที่บริการ อัตราการเข้าเรียนย้อนหลัง 3 ปี อัตราการจบการศึกษา อัตรา การเรียนต่อประกอบอาชีพของนักเรียนที่จบ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนย้อนหลัง 3 ปี จำแนกเป็นระดับชั้น รายวิชา และภาพรวมของโรงเรียน ผลการประเมินคุณภาพของ นักเรียนตามมาตรฐาน คุณภาพการศึกษาและตัวชี้วัด ความถนัด และความสนใจทาง การเรียนของนักเรียน ความต้องการ และความคาดหวังของนักเรียนที่มีต่อการจัด หลักสูตร และการเรียนการสอนของโรงเรียน 4. ข้อมูล เกี่ยวกับครู อาจารย์ บุคลากร เป็นข้อมูลด้านอัตรากำลัง วุฒิการศึกษา ประสบการณ์ อายุเฉลี่ย อัตราครูต่อนักเรียนความสามารถพิเศษ และ ศักยภาพที่เป็นจุดเด่น การได้รับการอบรมในด้านต่าง ๆ ในรอบ 2 ปี ที่ผ่านมา ความ คาดหวังของครูอาจารย์ และบุคลากรที่มีต่อนักเรียน และการจัดการศึกษาของโรงเรียน 5. ข้อมูลเกี่ยวกับชุมชน ผู้ปกครอง กรรมการสถานศึกษาศิษย์เก่า สภาพสังคมในชุมชนที่โรงเรียนตั้งอยู่ ( ประชากร ครอบครัว วัฒนธรรม ประเพณี ค่านิยม อาชีพ สุขภาพอนามัย เพศศึกษา การเมือง ) สภาพเศรษฐกิจ ( รายได้ การ กระจายรายได้ การมีงานทำ ) ลักษณะของความร่วมมือหรือการสนับสนุนของ
- 9. กลุ่มบุคคลที่มีผลต่อการดำเนินงานของโรงเรียน เช่น กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของ โรงเรียน บุคคลหรือองค์กรผู้สนับสนุน ความต้องการและความคาดหวังของผู้ปกครอง กรรมการ สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ศิษย์เก่าและชุมชนที่มีต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียน ข้อมูลสารสนเทศที่เก็บรวบรวมได้ดังกล่าวเมื่อนำมาวิเคราะห์สถานศึกษา จะ ทราบถึง จุดแข็งหรือข้อได้เปรียบ จุดอ่อนหรือข้อเสียเปรียบโอกาสที่จะดำเนินการได้และ อุปสรรคหรือปัจจัยคุกคามการดำเนินงาน สถานศึกษา สามารถนำผลวิเคราะห์นี้มากำหนด รายละเอียดตามขั้นตอน การกำหนด สาระหลักสูตรสถานศึกษา เช่น วิสัยทัศน์ ภารกิจ เป้าหมาย คุณลักษณะอันพึงประสงค์ โครงสร้างหลักสูตร เวลาเรียน สาระการเรียนรู้ และผลการเรียนรู้ที่คาดหวังของสถานศึกษาต่อไป
- 10. สถานศึกษาจำเป็นต้องกำหนดวิสัยทัศน์เพื่อมองอนาคตว่า โลกและสังคม รอบ ๆ จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร และสถานศึกษาจะต้องปรับคัว ปรับหลักสูตร อย่างไร จึงจะพัฒนาผู้เรียนให้เหมาะสมกับยุคสมัย ในการสร้างหลักสูตรสถานศึกษา สถานศึกษาต้องมีวิสัยทัศน์ ซึ่งทำได้โดยอาศัยความร่วมมือของชุมชน พ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ ผู้เรียน ภาคธุรกิจ ภาครัฐในชุมชน ร่วมกันกับคณะกรรมการสถานศึกษา แสดงความประสงค์อันสูงส่งหรือวิสัยทัศน์ที่ปรารถนาให้สถานศึกษาเป็นสถาบันพัฒนา ผู้เรียนที่มีพันธกิจหรือภาระหน้าที่ร่วมกันในการกำหนดงานหลักที่สำคัญ ๆ ของสถานศึกษา พร้อมด้วยเป้าหมาย แผนปฏิบัติการและการติดตามผล ตลอดจนจัดทำรายงาน แจ้งสาธารณชน และส่งผลย้อนกลับให้สถานศึกษา เพื่อการปฏิบัติงานที่เหมาะสมตามหลักสูตรของสถานศึกษา และจุดหมายของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของชาติที่กำหนดไว้ เนื้อหา 4.3 การกำหนดวิสัยทัศน์ ภารกิจ เป้าหมาย และคุณลักษณะ อันพึงประสงค์
- 11. กระบวนการสร้างวิสัยทัศน์ โดยอาศัยบุคคลต่าง ๆ เข้าไปมีส่วนร่วมนี้ เป็นกระบวนการที่มีพลังผลักดันให้แผนกลยุทธ์ที่สถานศึกษาสร้างขึ้นดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีทิศทางก่อให้เกิดเจตคติในทางสังคมที่สร้างสรรค์ดีงามแก่สังคมของสถานศึกษา มีระบบและหน่วยสนับสนุนในการปฏิบัติงานเกิดขึ้นอย่างเป็นเครือขายเพียบพร้อมเช่น ระบบคุณภาพระบบหลักสูตร สาระการเรียนรู้ การเรียนการสอน สื่อการเรียนรู้ การวัดประเมินผล การติดตาม การรายงานฐานข้อมูลการเรียนรู้ การวิจัยแบบมีส่วนร่วม มีระบบสนับสนุนครูอาจารย์ เป็นต้น กระบวนการสร้างวิสัยทัศน์ด้วยวิธี ดังกล่าวนี้จะนำไปสู่การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหลักสูตร การกำหนดสาระการเรียนรู้หรือตัวข้อเรื่องในท้องถิ่นสนองตอบความต้องการของชุมชน วิสัยทัศน์ - เป็นเจตนารมณ์ อุดมการณ์ หลักการ ความเชื่อ อนาคตที่พึงประสงค์ เป็นการคิดไปข้างหน้า มีเอกลักษณ์ - สามารถสร้างศรัทธา และจุดประกายความคิดในสภาพการพัฒนาสูงสุด
- 13. คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่สถานศึกษาจะกำหนดในคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ นั้น สามารถกำหนดขึ้นได้ตามความต้องการ โดยให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา และความจำเป็นที่จะต้องมีการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมดังกล่าวให้แก่ ผู้เรียน เพิ่มจากที่กำหนดไว้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ ในแต่ละภาคเรียนหรือปีการศึกษา ครูผู้สอนต้องจัดให้มีการวัดและประเมินผล ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของของผู้เรียน โดยเป็นการประเมินเชิงวินิจฉัยเพื่อการ ปรับปรุงพัฒนาและการส่งต่อ ทั้งนี้ ควรประสานสัมพันธ์กับนักเรียน ผู้ปกครอง และ ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์รายปี หรือรายภาค
- 14. ตัวอย่าง วิสัยทัศน์ ภารกิจ เป้าหมาย และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ วิสัยทัศน์ ภารกิจ วิสัยทัศน์ ภารกิจ 1. จัดหลักสูตรสถานศึกษา ตามเจตนารมณ์ของหลักสูตร แกนกลาง และเสริมสาระการเรียนรู้ที่มุ่งความเป็นเลิศทางวิชาการ เช่น ด้าน คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และคอมพิวเตอร์ เป็นต้น โรงเรียนชุมชนแออัดรัฐร่วมใจ โรงเรียนธนล้ำเลิศวิทยา “ เป็นสถานศึกษาที่ชุมชนและรัฐร่วมใจกันจัดหลักสูตร เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันอบายมุขด้วยกิจกรรม เชิงสร้างสรรค์ นักเรียนมีจริยธรรม ค่านิยมที่จะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข มีความรู้ ความคิด ทักษะ ความสามารถ พื้นฐานทางวิชาการ และอาชีพ เพียงพอที่จะดำรงชีวิตแบบพอเพียง” 1. จัดหลักสูตรที่มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุมาตรฐานการเรียนรู้ ของหลักสูตรแกนกลางและบูรณาการสาระการเรียนรู้ที่สนองการแก้ปัญหาความต้องการชุมชนและผู้เรียน “ โรงเรียนธนล้ำเลิศวิทยามุ่งความเป็นเลิศ ทางวิชาการคู่คุณธรรมและความเป็นไทย พร้อมสนอง ความถนัดความสนใจ ผู้เรียนแต่ละบุคคลเต็มตามศักยภาพ มีการพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ ในโรงเรียนระบบการพัฒนาบุคลากรให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางวิทยาการและเทคโนโลยี เพื่อเอื้ออำนวยให้ผู้เรียน ใฝ่รู้ใฝ่เรียน คิดเป็นแก้ปัญหาเป็น มีทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง สามารถดำรงชีวิตในสังคมอย่างมีความสุข”
- 15. โรงเรียนชุมชนแออัดรัฐร่วมใจ โรงเรียนธนล้ำเลิศวิทยา 2. จัดกระบวนการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยเน้นกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่สามารถนำไปใช้แก้ปัญหาหรือสนองความต้องการโดยรีบด่วนเป็นลำดับต้น 3. จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเน้นกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์และตามความถนัด ความสนใจอย่างหลากหลาย โดยความร่วมมือจากบุคลากรทุกฝ่าย ทั้งภายในและนอกสถานศึกษา 4. ส่งเสริมกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตทั้งโดยสอดแทรกในกลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 5. ส่งเสริมจริยธรรม คุณธรรม ค่านิยม ที่พึงประสงค์ด้วยวิธีการเชิงบวกและสร้างสรรค์ในหลายรูปแบบเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข 2. จัดกระบวนการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ด้วยระบบการจัดการเรียนรู้ร่วมสมัยและผ่านการศึกษาวิจัยมาดีแล้ว 3. จัดสร้างและพัฒนาห้องปฏิบัติการที่ทันสมัยเหมาะสมกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ เพื่ออำนวยแก่ผู้เรียนและผู้สอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ 4. จัดโครงสร้างของหลักสูตรที่เอื้อต่อการพัฒนาความถนัด ความสนใจของผู้เรียนแต่ละคนในการศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ตนสนใจและส่งเสริมด้านกิจกรรมผู้เรียน 5. ส่งเสริมจริยธรรม คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม ที่พึงประสงค์ด้วยกิจกรรมหลายรูปแบบเพื่อการดำเนินชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเป็นสุข
- 16. โรงเรียนชุมชนแออัดรัฐร่วมใจ โรงเรียนธนล้ำเลิศวิทยา 6. จัดการเรียนรู้ที่พัฒนาผู้เรียนทั้งวิชาการและอาชีพตามสภาพผู้เรียนและชุมชนโดยเน้นเศรษฐกิจพอเพียง 7. จัดการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมเสริมเพื่อสร้างสุขภาพกายและจิตให้สมบูรณ์ 8. พัฒนาบุคลากรทุกฝ่ายในสถานศึกษาให้ทำงานในหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ 9. ประสานความร่วมมือกับบุคลากรและองค์กรภายนอกทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อร่วมกันจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุเป้าหมายของสถานศึกษา 10. จัดสิ่งแวดล้อมทางกายภาพของสถานศึกษา เช่น อาคาร ห้องเรียน สิ่งแวดล้อมของโรงเรียน เป็นต้น ให้มีบรรยากาศน่าอยู่ น่าเรียน 6. จัดกิจกรรมทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนเพื่อส่งเสริมความเป็นไทย การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 7. จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนมีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งทางกายและทางจิตดำรงตนอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข 8. จัดระบบการพัฒนาบุคลากรทุกฝ่ายของสถานศึกษาให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ 9. ร่วมมือกับชุมชน องค์กรภายนอกสถานศึกษาในการพัฒนากิจการของสถานศึกษา 10. จัดสภาพแวดล้อมและบรรยากาศในสถานศึกษาให้เป็นที่ประทับใจของนักเรียน ครูและบุคคลทั่วไป
- 17. เป้าหมาย เป้าหมาย โรงเรียนชุมชนแออัดรัฐร่วมใจ โรงเรียนธนล้ำเลิศวิทยา โรงเรียนชุมชนแออัดรัฐร่วมใจมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะดังต่อไปนี้ 1. เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยในตนเอง มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่ดีงาม สามารถเป็นภูมิคุ้มกันตนเองจากอบายมุขได้ ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ 2. ใฝ่รู้มีทักษะและกระบวนการในการเรียนรู้ แก้ปัญหา เผชิญสถานการณ์และทักษะในการดำรงชีวิตร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข 3. มีความรู้ความสามารถและศักยภาพสูงสุด ตามวัย ทั้งด้านวิชาการและอาชีพ โรงเรียนธนล้ำเลิศวิทยา มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะ ดังต่อไปนี้ 1. เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยในตนเอง มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่ดีงาม ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ 2. มีความคิดสร้างสรรค์ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน รักการอ่าน การเขียน รักการค้นคว้า มีทักษะการใช้เทคโนโลยีเพื่อการแสวงหาความรู้และแก้ปัญหาด้วยตนเองได้ดี 3. มีความรู้อันเป็นสากล โดยเฉพาะคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เท่าทันการเปลี่ยนแปลงและความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการ มีทักษะเฉพาะด้านความถนัด ความสนใจ เต็มศักยภาพ
- 18. โรงเรียนชุมชนแออัดรัฐร่วมใจ โรงเรียนธนล้ำเลิศวิทยา 4. มีประสิทธิภาพในการผลิตและการบริโภค มีค่านิยมในการผลิตมากกว่าการบริโภคเพื่อการดำรงชีวิตอย่างเพียงพอ 5. มีค่านิยมที่ดีต่อการรักษาสุขภาพกายและจิต ดูแลตนเองให้มีสุขภาพและบุคลิกภาพที่ดี 6. ภูมิใจในความเป็นไทย รักชุมชน มุ่งพัฒนาสิ่งที่ดีงามแก่ชุมชน เป็นพลเมืองดี ยึดมั่นในวิถีชีวิตและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข 7. มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ ภาษา ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนทรัพยากรธรรมชาติและพัฒนาสิ่งแวดล้อม 4. มีทักษะชีวิตสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเป็นสุข 5. มีประสิทธิภาพในการผลิตและการบริโภค มีค่านิยมเป็นผู้ผลิตมากกว่าผู้บริโภค 6. ภูมิใจในความเป็นไทย รักชุมชน เป็นพลเมืองดี ยึดมั่น ในวิถีชีวิตและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข 7. มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ภาษา ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนทรัพยากรธรรมชาติและพัฒนาสิ่งแวดล้อม 8. รักประเทศชาติและท้องถิ่น มุ่งทำประโยชน์และสร้างสิ่งที่ดีงามให้แก่สังคม
- 20. เนื้อหา 4.4 การกำหนดโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา หลังจากการกำหนดวิสัยทัศน์ ภารกิจ เป้าหมาย และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ แล้ว สถานศึกษาจะต้องกำหนดโครงสร้างหลักสูตร ซึ่งเป็นการกำหนดเวลาเรียนของ ของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้อย่างชัดเจน เพื่อจะได้นำไปสู่การกำหนดเวลาเรียนของ แต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้แต่ละชั้นปี โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา ประกอบด้วย 1. จำนวนชั่วโมงหรือหน่วยกิตของกลุ่มสาระการเรียนรู้พื้นฐานแต่ละชั้นปี 2. จำนวนชั่วโมงหรือหน่วยกิตของกลุ่มสาระการเรียนรู้เพิ่มเติมแต่ละชั้นปี 3. จำนวนชั่วโมงของกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนแต่ละชั้นปี วัฒนาพร ระงับทุกข์ (2545 : 80 - 92 ) กล่าวว่า การกำหนดโครงสร้างหลักสูตร สถานศึกษาเป็นการนำแนวการจัดหลักสูตรและเวลาเรียนของแต่ละช่วงชั้นที่หลักสูตร แกนกลางกำหนดไว้ มาพิจารณาเพื่อจัดโครงสร้างของหลักสูตรสถานศึกษาให้มีความ ครบถ้วน ครอบคลุมทุกมาตรฐานการเรียนรู้ สนองจุดเน้นตามวิสัยทัศน์ ภารกิจ
- 21. และเป้าหมาย ของสถานศึกษา และสอดคล้องกับข้อมูลสารสนเทศและชุมชนท้องถิ่น จำแนกเป็นขั้นตอนในการจัดโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษาได้ดังนี้ 1. กำหนดเวลาเรียนของช่วงชั้นที่รับผิดชอบ โดยพิจารณากรอบเวลาเรียนของ หลักสูตรแกนกลาง ซึ่งกำหนดขอบเขตเวลา โดยประมาณ เช่น ป .1 – 3 และ ป .4 – 6 เวลาเรียนกำหนดไว้ 800 – 1,000 ชั่วโมงต่อปี โรงเรียนจะกำหนดเท่าใดต้องพิจารณา ปัจจัยอื่นที่มีผลต่อการกำหนดเวลาเรียนด้วย ได้แก่ วิสัยทัศน์ของสถานศึกษา เวลาที่ ต้องใช้ในการจัดการเรียนรู้ให้บรรลุมาตรฐานของสาระการเรียนรู้พื้นฐานความรู้ ความสามารถของผู้เรียน ศักยภาพของโรงเรียนในการจัดการเรียนรู้ เป็นต้น โดย พิจารณาแล้วอาจกำหนดว่า ชั้น ป .1- 3 จะใช้เวลาเรียนประมาณ 800 ชั่วโมง ป .4 – 6 1,000 ชั่วโมง เนื่องจากผู้เรียนต้องการเลือกเรียนเพิ่มเติมในบางรายวิชาที่สนใจ เป็นต้น 2. กำหนดสัดส่วนการจัดเวลาเรียนระหว่างสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่มกับกิจกรรม พัฒนาผู้เรียน ขั้นตอนในการพิจารณาว่า 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้จะเรียนร้อยละเท่าใด กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนร้อยละเท่าใด เช่น ป .4 – 6 กำหนดเวลาเรียน 1,000 ชั่วโมง สัดส่วนระหว่างสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่ม กับกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็น 80 : 20 ดังนั้น จึงกำหนดให้เรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ 800 ชั่วโมง กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 200 ชั่วโมง เป็นต้น
- 22. 3. กำหนดสัดส่วนการจัดการเรียนระหว่างสาระการเรียนรู้พื้นฐานกับสาระการ เรียนรู้เพิ่มเติม การพิจารณาสัดส่วนนี้ก็เช่นเดียวกับ ข้อ 2 และ ข้อ 1 ที่นำปัจจัยที่มี ผลในการกำหนดเวลาเรียนตามที่กล่าวในข้อ 1 มาพิจารณา เช่น ชั้น ป .4 – 6 ให้เวลา เรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ต่อกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็น 80 : 20 หรือ 800 ชั่วโมง ต่อ 200 ชั่วโมง เมื่อมาพิจารณาสัดส่วนของกลุ่มสาระการเรียนรู้พื้นฐานต่อสาระการ เรียนรู้เพิ่มเติม เป็น 80 : 20 เวลาเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ 800 ชั่วโมง จึงเป็น เวลาเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้พื้นฐานเป็น 640 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม เป็น 160 ชั่วโมง 4. กำหนดเวลาเรียนของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ในสาระการเรียนรู้พื้นฐานซึ่ง ต้องคำนึงถึงข้อเสนอในหลักสูตรแกนกลางที่ได้กำหนดสัดส่วนเวลาของแต่ละกลุ่ม สาระการเรียนรู้ด้วยประกอบกับ ปัจจัยต่าง ๆ ในข้อ 1 5. กำหนดการเรียนของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ในสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม โดยพิจารณาจากมาตรฐานการเรียนรู้และสาระที่ควรจัดเพิ่มเติมให้กับผู้เรียนตามระดับ ความยากง่าย ความเข้มของสาระที่จัดเพิ่มเติม
- 27. เนื้อหา 4.5 การกำหนดสาระการเรียนรู้และผลการเรียนรู้ ที่คาดหวังรายปีหรือรายภาค การกำหนดสาระการเรียนรู้และผลการเรียนรู้ที่คาดหวังรายปีหรือรายภาคจากหลักสูตรแกนกลางมีขั้นตอน ดังนี้ 1. การกำหนดสาระการเรียนรู้ช่วงชั้นจากมาตรฐานการเรียนรู้ ช่วงชั้นเป็นการวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้นของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้จากหลักสูตรแกนกลางว่าใน 3 ชั้น นั้น มีสาระการเรียนรู้ใดบ้างที่ควรจะจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนแต่ละชั้นอย่างเหมาะสม ดังตัวอย่างต่อไปนี้ กำหนดสาระการเรียนรู้ช่วงชั้นจากมาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ สาระที่ 1 สิ่งมีชีวิตกับกระบวนการดำรงชีวิต มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจหน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิตที่ทำงานสัมพันธ์กัน มีกระบวนการสืบเสาะความรู้ แนะนำความรู้ไปใช้ในการดำรงชีวิตของตนเองและดูแลสิ่งมีชีวิต ตาราง
- 28. มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น ป .4 - 6 มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น ป .4 - 6 1. สำรวจ ตรวจสอบ สืบค้นข้อมูล อภิปราย และอธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของพืช วัฎจักรชีวิต การสืบพันธุ์และการขยายพันธุ์พืช ปัจจัยบางประการที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต และสังเคราะห์ด้วยแสง การตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมและนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ - การทดลองและการสังเกตเกี่ยวกับหน้าที่ของราก ลำต้น ใบ - การสำรวจ การสังเกต ส่วนประกอบของดอกและการสืบค้นข้อมูลหน้าที่ของดอก - การทดลองปัจจัยบางประการที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช - การทดลองปัจจัยบางประการที่จำเป็นต่อการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช - การสำรวจ การสังเกตเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของพืชดอก ตั้งแต่ต้นอ่อนจนมีดอก มีผล และการดูแลรักษาพืช - การทดลองเกี่ยวกับการตอบสนองของพืชต่อสิ่งเร้า เช่น แสง เสียง สัมผัส ฯลฯ
- 29. มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น ป .4 - 6 มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น ป .4 - 6 2. สำรวจตรวจสอบสืบค้นข้อมูลอภิปรายและอธิบายการทำงานที่สัมพันธ์กันของอวัยวะต่าง ๆ ของสัตว์ ปัจจัยบางประการที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต วัฎจักรชีวิต การสืบพันธุ์ พฤติกรรมของสัตว์ และการนำความรู้ไปใช้ 3. ....................................................... - การสืบค้นข้อมูลและการอภิปรายเกี่ยวกับการสืบพันธุ์ของพืชดอก - การทดลองและการสังเกตเกี่ยวกับการขยายพันธุ์พืชด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ปักชำ ตอนกิ่ง ติดตา ทาบกิ่ง - การนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ - การสำรวจชีวิตสัตว์ในท้องถิ่น และการสังเกต การสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงรูปร่างในขณะเจริญเติบโต - การสืบค้นข้อมูลและการอภิปรายเกี่ยวกับการสืบพันธุ์ของสัตว์และนำความรู้ไปใช้ในการขยายพันธุ์สัตว์ และดูแลสัตว์ในท้องถิ่น - การสำรวจและสืบค้นข้อมูล เกี่ยวกับพฤติกรรมของสัตว์ที่ตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม ................................................................................
- 30. 2. กำหนดสาระการเรียนรู้รายปีหรือรายภาค จากสาระการเรียนรู้ช่วงชั้น เป็นการนำสาระการเรียนรู้ช่วงชั้นที่วิเคราะห์จากข้อ 1 มาจำแนกเป็นสาระการเรียนรู้รายปีหรือรายภาค ดังตัวอย่างในข้อ 1 ก็นำมาจำแนกเป็นสาระการเรียนรู้ของชั้น ป .4 ป .5 และ ป .6 ดังตัวอย่างต่อไปนี้ กำหนดสาระการเรียนรู้รายปีหรือรายภาคจากสาระการเรียนรู้ช่วงชั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ สาระที่ 1 สิ่งมีชีวิตกับกระบวนการดำรงชีวิต มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจหน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์ของ โครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิตที่ ทำงานสัมพันธ์กันมีกระบวนการสืบเสาะความรู้ แนะนำ ความรู้ไปใช้ในการดำรงชีวิตของตนเองและดูแลสิ่งมีชีวิต ตาราง
- 31. สาระการเรียนรู้ ช่วงชั้น ป .4 - 6 สาระการเรียนรู้รายปีหรือรายภาค ชั้น ป .4 ชั้น ป .5 ชั้น ป .6 มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น ข้อ 1 - การทดลองและการสังเกตเกี่ยวกับหน้าที่ของ ราก ลำต้น ใบ - การสำรวจ การสังเกต ส่วนประกอบของ ดอก และการสืบค้นข้อมูล หน้าที่ของดอก - การทดลองปัจจัยบางประการที่จำเป็นต่อการ เจริญเติบโตของพืช - การทดลองและการสังเกตเกี่ยวกับหน้าที่ของราก ลำต้น ใบ - การสำรวจ การสังเกตส่วนประกอบของดอก และการสืบค้นข้อมูล หน้าที่ของดอก - การทดลองปัจจัยบางประการที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช - การสำรวจ การสังเกตและ การอภิปรายพืชในท้องถิ่นที่ไม่มีดอกใบเลี้ยงเดี่ยวใบ เลี้ยงคู่
- 32. สาระการเรียนรู้ ช่วงชั้น ป .4 - 6 สาระการเรียนรู้รายปีหรือรายภาค ชั้น ป .4 ชั้น ป .5 ชั้น ป .6 - การทดลองปัจจัยบางประการที่จำเป็นต่อการ สังเคราะห์ด้วยแสงของพืช - การสำรวจ การสังเกตเกี่ยวกับการ เปลี่ยนแปลงของพืชดอก ตั้งแต่ต้นอ่อนจนมี ผล และการดูแลรักษาพืช - การทดลองเกี่ยวกับการตอบสนองของพืชต่อ สิ่งเร้า เช่น แสง เสียง สัมผัส ฯลฯ - การทดลองปัจจัยบางประการที่จำเป็นต่อการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช - การสำรวจการสังเกตเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของพืชดอก ตั้งแต่ต้นอ่อนจนมีผลและการดูแลรักษาพืช - การทดลองเกี่ยวกับการตอบสนองของพืชต่อสิ่งเร้า เช่น แสง เสียง สัมผัส ฯลฯ
- 33. สาระการเรียนรู้ ช่วงชั้น ป .4 - 6 สาระการเรียนรู้รายปีหรือรายภาค ชั้น ป .4 ชั้น ป .5 ชั้น ป .6 - การสืบค้นและการอภิปรายเกี่ยวกับการ สืบพันธุ์ของพืชดอก - การทดลองและการสังเกตเกี่ยวกับการ ขยายพันธุ์พืชด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น ปักชำ ตอนกิ่ง ติดตา ทาบกิ่ง - การนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ - การสืบค้นและการอภิปรายเกี่ยวกับการสืบพันธุ์ของพืชดอกและการนำไปใช้ประโยชน์ - การทดลองและการสังเกตเกี่ยวกับการขยายพันธุ์พืชด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น ปักชำ ตอนกิ่ง ติดตา ทาบกิ่ง และการนำไปใช้ประโยชน์
- 34. สาระการเรียนรู้ ช่วงชั้น ป .4 - 6 สาระการเรียนรู้รายปีหรือรายภาค ชั้น ป .4 ชั้น ป .5 ชั้น ป .6 มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น ข้อ 2 - การสำรวจชีวิตสัตว์ในท้องถิ่นและ การสังเกตการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการ เปลี่ยนแปลงรูปร่างในขณะเจริญเติบโต - การสำรวจชีวิตสัตว์ในท้องถิ่นและการสังเกตการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงรูปร่างในขณะเจริญเติบโต - การสืบค้นข้อมูลการสำรวจและ การสังเกตสัตว์ในท้องถิ่นที่ไม่มีกระดูกสันหลังและสัตว์มีกระดูก สันหลัง - การสำรวจและการสังเกตลักษณะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมของคนในครอบครัวและพืช สัตว์ ใกล้ตัว - การสำรวจและการอภิปรายเกี่ยวกับการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ของสัตว์ที่เกี่ยวข้องกับการหายใจและการเคลื่อนที่
- 35. สาระการเรียนรู้ ช่วงชั้น ป .4 - 6 สาระการเรียนรู้รายปีหรือรายภาค ชั้น ป .4 ชั้น ป .5 ชั้น ป .6 - การสืบค้นข้อมูลและอภิปรายเกี่ยวกับการ สืบพันธุ์ของสัตว์และการนำความรู้ไปใช้ ในการขยายพันธุ์สัตว์และดูแลสัตว์ใน ท้องถิ่น - การสำรวจและการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ พฤติกรรมของสัตว์ที่ตอบสนองต่อ สิ่งแวดล้อม - การสืบค้นข้อมูลและอภิปรายเกี่ยวกับการสืบพันธุ์ของสัตว์และการนำความรู้ไปใช้ในการขยายพันธุ์สัตว์และดูแลสัตว์ในท้องถิ่น - การสำรวจและการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของสัตว์ที่ตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น ข้อ 3 ...................................................................... ................................ ................................. ................................
- 36. 3. กำหนดผลการเรียนรู้ที่คาดหวังรายปีหรือรายภาคจากมาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น เป็นการจำแนกมาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้นออกเป็นผลการเรียนรู้ที่คาดหวังของชั้น ป .4 ป .5 และ ป .6 ดังตัวอย่างต่อไปนี้ กำหนดผลการเรียนรู้ที่คาดหวังรายปีหรือรายภาคจากมาตรฐาน การเรียนรู้ช่วงชั้น กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ สาระที่ 1 สิ่งมีชีวิตกับกระบวนการดำรงชีวิต มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจหน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์ของ โครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิตที่ ทำงานสัมพันธ์กันมีกระบวนการสืบเสาะความรู้ แนะนำความรู้ไปใช้ในการดำรงชีวิตของตนเองและ ดูแลสิ่งมีชีวิต ตาราง
- 37. สาระการเรียนรู้ ช่วงชั้น ป .4 - 6 ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังรายปีหรือรายภาค ชั้น ป .4 ชั้น ป .5 ชั้น ป .6 มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น ข้อ 1 - สำรวจตรวจสอบ สืบค้นข้อมูล อภิปราย และอธิบายโครงสร้างและหน้าที่ต่าง ๆ ของ พืช วัฎจักรชีวิตการสืบพันธุ์และการ ขยายพันธุ์ปัจจัยบางประการที่จำเป็นต่อการ เจริญเติบโต การสังเคราะห์ด้วยแสง การตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมและนำ ความรู้ไปใช้ประโยชน์ - ทดลองและอธิบายหน้าที่ของราก ลำต้น ใบ - เขียนภาพแสดงส่วนประกอบของดอกและอธิบายหน้าที่ของดอก - ทดลองหาปัจจัยบางประการที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช - ระบุพืชในท้องถิ่นที่มีดอก ไม่มีดอก ใบเลี้ยงเดี่ยว ใบเลี้ยงคู่ - อธิบายการสืบพันธุ์ของดอกและยกตัวอย่างการนำไปใช้
- 38. สาระการเรียนรู้ ช่วงชั้น ป .4 - 6 ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังรายปีหรือรายภาค ชั้น ป .4 ชั้น ป .5 ชั้น ป .6 - ทดลองหาปัจจัยบางประการที่จำเป็นต่อการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช - อธิบายการเปลี่ยนแปลงของพืชดอก ตั้งแต่ต้นอ่อนจนมีผล และ - การดูแลรักษาพืชที่ตนรับผิดชอบตั้งแต่ต้นอ่อนจนมีดอกมีผลพร้อมทั้งเขียนแผนภาพแสดงวัฎจักร ของพืช - ทดลองแสดงการตอบสนองของพืชต่อสิ่งเร้า เช่น แสง เสียง สัมผัส - แสดงการขยายพันธุ์พืชด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น ปัก ชำ ตอนกิ่ง ติดตา ทาบกิ่ง
- 39. สาระการเรียนรู้ ช่วงชั้น ป .4 - 6 ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังรายปีหรือรายภาค ชั้น ป .4 ชั้น ป .5 ชั้น ป .6 มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น ข้อ 2 - สำรวจตรวจสอบ สืบค้นข้อมูล อภิปราย และอธิบายการทำงานที่สัมพันธ์กันของ อวัยวะต่าง ๆ ของสัตว์ ปัจจัยบางประการ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตวัฎจักรชีวิต การสืบพันธุ์พฤติกรรมของสัตว์ และ การนำความรู้ไปใช้ - ระบุชื่อ และชนิดของสัตว์ที่พบในท้องถิ่น อธิบายการเปลี่ยนแปลงรูปร่างในขณะเจริญเติบโต รวมทั้งเขียนแผนภาพแสดง วัฎจักรของสัตว์ เสนอแนะแนวทางอนุรักษ์สัตว์ในท้องถิ่น - ระบุสัตว์ในท้องถิ่นที่ไม่มีกระดูกสันหลังและสัตว์มีกระดูกสันหลังและเสนอแนะแนวทางอนุรักษ์และแสดงความเมตตา ต่อสัตว์ - อธิบายและระบุลักษณะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมของคนในครอบครัวและ พืช – สัตว์ ใกล้ตัว - อธิบายการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ของสัตว์ที่เกี่ยวข้องกับการหายใจและการเคลื่อนที่พร้อมทั้งเขียนแผนภาพประกอบ
- 40. สาระการเรียนรู้ ช่วงชั้น ป .4 - 6 ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังรายปีหรือรายภาค ชั้น ป .4 ชั้น ป .5 ชั้น ป .6 - อธิบายการสืบพันธุ์ของสัตว์ยกตัวอย่างการนำความรู้ไปใช้ในการขยายพันธุ์สัตว์และดูแลสัตว์ในท้องถิ่น - อธิบายพฤติกรรมของสัตว์ที่ตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น ข้อ 3 ...................................................................... ........................................ ..................................... .........................
- 41. 4. กำหนดสาระการเรียนรู้รายปีหรือรายภาคและผลการเรียนรู้ที่คาดหวังรายปี หรือรายภาค เป็นการนำผลการกำหนดสาระการเรียนรู้และผลการเรียนรู้ที่คาดหวังมาสัมพันธ์กันเป็นรายปีหรือรายภาค ดังตัวอย่างต่อไปนี้ กำหนดสาระการเรียนรู้และผลการเรียนรู้รายปีหรือรายภาค กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ สาระที่ 1 สิ่งมีชีวิตกับกระบวนการดำรงชีวิต มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจหน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์ของ โครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิต ที่ทำงานสัมพันธ์กันมีกระบวนการสืบเสาะความรู้ แนะนำความรู้ไปใช้ในการดำรงชีวิตของตนเองและ ดูแลสิ่งมีชีวิต ตาราง
- 42. สาระการเรียนรู้รายปีหรือรายภาค ชั้น ป .4 ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังรายปีหรือรายภาค ชั้น ป .4 มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น ข้อ 1 1. การทดลองและการสังเกตเกี่ยวกับหน้าที่ ของราก ลำต้น ใบ 2. สำรวจ การสังเกตส่วนประกอบของดอก และการสืบค้นข้อมูลหน้าที่ของดอก 3. การทดลองปัจจัยบางประการที่จำเป็นต่อ การเจริญเติบโตของพืช 4. การทดลองปัจจัยบางประการที่จำเป็นต่อ การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช 1. ทดลองและอธิบายหน้าที่ของราก ลำต้น ใบ 2. เขียนภาพแสดงส่วนประกอบของดอกและอธิบายหน้าที่ของดอก 3. ทดลองหาปัจจัยบางประการที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช 4. ทดลองหาปัจจัยบางประการที่จำเป็นต่อการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
- 43. สาระการเรียนรู้รายปีหรือรายภาค ชั้น ป .4 ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังรายปีหรือรายภาค ชั้น ป .4 5. การสำรวจการสังเกตเกี่ยวกับการ เปลี่ยนแปลงของพืชดอกตั้งแต่ต้นอ่อนจนมีดอก มีผล และการดูแลรักษาพืช 6. การทดลองเกี่ยวกับการตอบสนองของพืชต่อ สิ่งเร้า เช่น แสง เสียง สัมผัส 5.1 อธิบายการเปลี่ยนแปลงของพืชดอกตั้งแต่ต้นอ่อนจน มีดอกผล 5.2 ดูแลรักษาพืชที่ตนรับผิดชอบตั้งแต่ต้นอ่อนจนมีผลพร้อมทั้งเขียนแผนภาพแสดงวัฎจักรของพืช 6. ทดลองแสดงการตอบสนองของพืชต่อสิ่งเร้า เช่น แสง เสียง สัมผัส มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น ข้อ 2 1. การสำรวจชีวิตของสัตว์ในท้องถิ่นและการสังเกต การสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง ในขณะเจริญเติบโต 1. ระบุชื่อและชนิดของสัตว์ที่พบในท้องถิ่น การเปลี่ยนแปลงรูปร่างในขณะเจริญเติบโต รวมทั้งเขียนแผนภาพแสดงวัฎจักรของสัตว์ เสนอแนะแนวทางอนุรักษ์สัตว์ในท้องถิ่น มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น ข้อ 3 ................................................................................... .....................................................................................
- 44. เนื้อหา 4.6 การจัดทำคำอธิบายรายวิชา การจัดทำคำอธิบายรายวิชา กระทำโดยการนำเอาผลการเรียนรู้ที่คาดหวังรายปีหรือ รายภาค สาระการเรียนรู้รายปีหรือรายภาค รวมทั้งเวลาและจำนวนหน่วยกิตที่กำหนดใน เนื้อหา 5.4 และ 5.5 มาเขียนเป็นคำอธิบายรายวิชา โดยให้ประกอบด้วย ชื่อรายวิชา จำนวนเวลาหรือจำนวนหน่วยกิต ผลการเรียนรู้และสาระการเรียนรู้ของรายวิชานั้น ๆ ซึ่ง สามารถเขียนคำอธิบายรายวิชาได้หลายรูปแบบ เช่น รูปแบบที่ 1 เขียนเป็นความเรียงเสนอภาพรวมของผลการเรียนรู้และสาระ การเรียนรู้ทั้ง 3 ด้าน รูปแบบที่ 2 เขียนแยกเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย - ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง : เขียนเป็นความเรียง สรุปภาพรวมของผลการ เรียนรู้ทั้ง 3 ด้าน - สาระการเรียนรู้ : เขียนเป็นความเรียงของขอบข่ายเนื้อหา รูปแบบที่ 3 เขียนเป็นความเรียงประกอบด้วย 3 ส่วน คือ - ขอบข่ายกิจกรรมที่กำหนดกว้าง ๆ สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ของรายวิชา - ขอบข่ายเนื้อหาที่สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ของรายวิชา
- 45. - ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียนอย่างกว้าง ๆ รูปแบบที่ 4 เขียนเป็นความเรียงประกอบด้วย 4 ส่วน คือ - จุดประสงค์รายวิชาที่สอดคล้องกับผลการเรียนรู้รายวิชา - ขอบข่ายสาระการเรียนรู้ - กิจกรรมการเรียนรู้ - วิธีการวัดและประเมินผล รูปแบบที่ 5 เขียนแยกเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย - ผลการเรียนรู้ : เขียนให้ครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน เป็นข้อ ๆ โดยไม่แยกด้าน - สาระการเรียนรู้ เขียนเป็นข้อ ๆ สำหรับคำอธิบายรายวิชามีแนวทางการกำหนดดังนี้ ชื่อรายวิชาของสาระการเรียนรู้ ให้ใช้ตามชื่อกลุ่มสาระการเรียนรู้ ส่วนชื่อรายวิชาที่สถานศึกษาจัดทำเพิ่มเติมสามารถ กำหนดตามความเหมาะสม ทั้งนี้ต้องสื่อความหมายให้ชัดเจนมีความสอดคล้องกับสาระ การเรียนรู้ที่กำหนดไว้ในรายวิชานั้น ๆ
- 46. ตัวอย่าง รายวิชาและคำอธิบายรายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 รายวิชา วิทยาศาสตร์ 4 เวลา 120 ชั่วโมง คำอธิบายรายวิชา ศึกษาวิเคราะห์หน้าที่และส่วนประกอบของราก ลำต้น ใบ ดอก ปัจจัยบาง ประการที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช การสังเคราะห์ด้วยแสง การตอบสนอง ต่อสภาพแวดล้อมของพืช พืช – สัตว์ในท้องถิ่น การเจริญเติบโตและวัฎจักรชีวิตของ พืช – สัตว์ .................................................................................................................... โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจ ตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ความคิด ความเข้าใจ สามารถ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีวิชาวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม หมายเหตุ เนื่องจากการวิเคราะห์และกำหนดสาระการเรียนรู้และผลการเรียนรู้ที่ คาดหวังรายปีหรือรายภาคในเอกสารนี้ไม่ครบสมบูรณ์ทุกมาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น ป .4 – 6 ดังนั้นคำอธิบายรายวิชาข้างต้นจึงมีสาระการเรียนไม่สมบูรณ์เพียงให้เห็น แนวทางเท่านั้น
- 47. เนื้อหา 4.7 การจัดทำหน่วยการเรียนรู้ การจัดทำหน่วยการเรียนรู้ โดยการนำเอาสาระการเรียนรู้รายปีหรือรายภาคที่ กำหนดไว้ไปบูรณาการจัดทำเป็นหน่วยการเรียนรู้ย่อย ๆ เพื่อความสะดวกในการจัดการ เรียนรู้และผู้เรียนได้เรียนในลักษณะองค์รวม หน่วยการเรียนรู้แต่ละหน่วยประกอบด้วย ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง สาระการเรียนรู้และจำนวนเวลาสำหรับการจัดการเรียนรู้ ซึ่ง เมื่อเรียนครบทุกหน่วยย่อยแล้ว ผู้เรียนสามารถบรรลุผลตามการเรียนรู้ที่คาดหวังรายปี หรือรายภาคของทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ในการจัดทำหน่วยการเรียนรู้ อาจบูรณาการทั้งภายในและระหว่างกลุ่มสาระการ เรียนรู้หรือเป็นการบูรณาการเฉพาะเรื่องตามลักษณะการเรียนรู้หรือเป็นการบูรณาการที่ สอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้เรียน โดยพิจารณาจากมาตรฐานการเรียนรู้ที่มีความเกี่ยวเนื่อง สัมพันธ์กับการเรียนรู้สำหรับหน่วยการเรียนรู้ในแต่ละช่วงชั้น สถานศึกษาต้องจัดการ ให้ผู้เรียนได้เรียนโดยการปฏิบัติโครงงานอย่างน้อย 1 โครงงาน
- 48. ตัวอย่าง หน่วยการเรียนรู้ วิชา วิทยาศาสตร์ 4 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ 4 หน่วย เวลา 120 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ เวลา ( ชั่วโมง ) 1 2 การดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต - หน้าที่และส่วนประกอบของราก ลำต้น ใบ ดอก - ปัจจัยบางประการที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช - การสังเคราะห์ด้วยแสง - การตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมของพืช - พืช – สัตว์ในท้องถิ่น - การเจริญเติบโตและวัฎจักรชีวิตของ พืช – สัตว์ ....................................................................................... 40
- 49. สรุปแนวความคิดต่อเนื่องประจำหน่วย พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพุทธศักราช 2542 มาตรา 27 กำหนดให้มี หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศเป็นหลักการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศ เป็นหลักสูตรแกนกลาง สถานศึกษาต้องไปจัดทำหลักสูตรที่บูรณาการหลักสูตรแกน กลางกับสภาพท้องถิ่นของสถานศึกษาจัดทำเป็นหลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรสถานศึกษาจึงเป็นหลักสูตรที่เหมาะสมกับสภาพของท้องถิ่นและ สนองความถนัด ความสนใจของผู้เรียน ในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษามีหลายขั้นตอน ขั้นตอนที่สำคัญ คือการจัด ทำสาระหลักสูตรสถานศึกษา ขั้นตอนแรกของการจัดทำสาระหลักสูตรสถานศึกษา ได้แก่ การศึกษาข้อมูล สารสนเทศของสถานศึกษา รวมทั้งข้อมูลสนเทศของชุมชน ท้องถิ่นที่สถานศึกษาอยู่ ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการกำหนดรายละเอียดของขั้นตอนต่อ ๆ ไป
- 50. หลังจากรวบรวมสารสนเทศของสถานศึกษาและวิเคราะห์ลักษณะเด่นที่แสดงจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาสและอุปสรรคจากข้อมูลที่ได้แล้ว คณะกรรมการสถานศึกษาที่รับผิดชอบ การจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาจะกำหนดวิสัยทัศน์ ภารกิจ เป้าหมาย คุณลักษณะที่พึง ประสงค์ จากนั้นจะวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้นเอาหลักสูตรแกนกลางออกมาเป็น สาระการเรียนรู้ช่วงชั้น ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ที่กำหนดในขั้นนี้เป็นสาระการรู้ 3 ชั้นเรียน จึงวิเคราะห์ต่อไป โดย จำแนกเป็นสาระการเรียนรู้แต่ละชั้นปี ซึ่งทำให้เริ่มมองออกแล้วว่าแต่ละปีควรสอนสาระ การเรียนรู้ใดบ้าง หลังจากนั้นย้อนกลับมาวิเคราะห์แต่ละมาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น (3 ปี ) อีกครั้ง โดยจำแนกออกเป็นผลการเรียนรู้ที่คาดหวังรายปีหรือรายภาคได้เป็นแต่ละปี