Weitere ähnliche Inhalte
Ähnlich wie Projectm6 2-2554 kor (20)
Mehr von Theyok Tanya (18)
Projectm6 2-2554 kor
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่ างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร 5
ปี การศึกษา 2555
โครงงานการใช้สารสกัดจากใบและเมล็ดน้อยหน่ากาจัดเหา
ชื่อผูทาโครงงาน
้
1.นายศรันย์ สุ ขวนิช เลขที่ 10 ม.6/15
2.นายธี รภัทร กัณฑะสิ ทธิ์ . เลขที่ 19 ม.6/15
3.นายพงศกร สิ ทธิตรี . เลขที่ 20 ม.6/15
ชื่ออาจารย์ที่ปรึ กษาโครงงาน นางเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรี ยนที่ 1-2 ปี การศึกษา 2555
โรงเรี ยนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม 1.นายศรันย์ สุ ขวนิช เลขที่ 10 ม.6/15 2.นายธี รภัทร กัณฑะสิ ทธิ์ . เลขที่ 19 ม.6/15
3.นายพงศกร สิ ทธิตรี . เลขที่ 20 ม.6/15
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)การใช้สารสกัดจากใบและเมล็ดน้อยหน่ากาจัดเหา
ประเภทโครงงาน การประยุกต์ใช้ง่าย
ชื่อผูทาโครงงาน 1.นายศรันย์ สุ ขวนิช เลขที่ 10 ม.6/15 2.นายธี รภัทร กัณฑะสิ ทธิ์ . เลขที่
้ 19 ม .6/15
3.นายพงศกร สิ ทธิตรี . เลขที่ 20 ม.6/15
ชื่อที่ปรึ กษา นางเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน 2-3 สัปดาห์
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
โรคเหาเป็ นโรคที่พบกันบ่อยมากในเด็กนักเรี ยน ระดับประถมศึกษา โดยเฉพาะนักเรี ยนหญิง และเป็ นโรค
เหาที่น่ารังเกียจ สาหรับคนทัวไป และยังทาให้สุขภาพไม่ดี และก่อความราคาญให้กบผูที่เป็ นอีกเนื่องจากมีอาการ
่ ั ้
คันศีรษะ และการรักษาโรคเหาสมัยนี้ ส่ วนใหญ่มกจะใช้สารเคมีซ่ ึ งเมื่อใช้แล้วอาจก่อให้เกิดแนวความคิดว่าถ้า
ั
นาเอาเมล็ดและใบน้อยหน่า มาสกัดเอาสารและผสมกับน้ ามันมะกอก ซึ่ งเป็ นการปรับปรุ งภูมิปัญญาท้องถิ่นที่
ผูจดทาได้รับประสบการณ์มา คือ ย่าของผูจดทาได้ใช้น้ ามันก๊าด เป็ นสารเคมีที่เป็ นอันตรายต่อศีรษะและสุ ขภาพ จึง
้ั ้ั
ั
คิดใช้น้ ามันมะกอกแทน เพื่อนามาช่วยแก้ปัญหาให้กบนักเรี ยนหญิง ที่เป็ นโรคเหา ซึ่ งรักษาโรคเหาได้โดยไม่เป็ น
อันตรายต่อสุ ขภาพ และร่ างกาย อีกทั้งเป็ นการนาสมุนไพรธรรมชาติ ใกล้ตวมาใช้ประโยชน์อีกด้วย
ั
วัตถุประสงค์ (สิ่ งที่ตองการในการทาโครงงาน ระบุเป็ นข้อ)
้
1. เพื่อศึกษาวิธีการกาจัดเหา โดยใช้สารที่สกัดจากเมล็ดและ
ใบน้อยหน่า
ั
2. เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้กบนักเรี ยนหญิงของโรงเรี ยน
3. เพื่อนาสมุนไพรธรรมชาติใกล้ตวมาปรับปรุ งใช้ประโยชน์และเป็ นการนาภูมิปัญญาท้องถิ่นมาปรับปรุ งให้ดี
ั
ยิงขึ้น
่
- 3. 3
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรื อทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
น้อยหน่า
น้อยหน่า (อังกฤษ: Sugar apple ;ชื่อวิทยาศาสตร์ : Annona squamosa Linn.) ชื่ออื่น ๆ หมักเขียบ
(ตะวันออกเฉียงเหนือ) , ลาหนัง (ปัตตานี) , มะนอแน่, มะแน่ (เหนือ) , หน่อเกล๊ะแซ (เงี้ ยว-แม่ฮ่องสอน) , มะออจ้า,
มะโอจ่า (เงี้ ยว-เหนือ) , เตียบ (เขมร)[1] เป็ นพืชยืนต้น ผลมีเนื้อสี ขาว เมล็ดดา รสหวาน ถิ่นกาเนิดอยูในแถบอเมริ กา
่
่ ่ั
กลาง และใต้ แต่จะพบอยูทวไปในเขตร้อน ในประเทศไทยปลูกมากทางภาคกลางและตะวันออกเฉี ยงเหนือ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
น้อยหน่าไม้ยนต้น สู ง 3-5 เมตร ใบเดี่ยว เรี ยงสลับ รู ปใบหอกแกมขอบขนาน กว้าง 3-6 ซม. ยาว 7-13 ซม.
ื
ดอกเดี่ยว ออกที่ซอกใบ ห้อยลง กลีบดอกสี เหลืองแกมเขียว 6 กลีบ เรี ยง 2 ชั้น ๆ ละ 3 กลีบ หนาอวบน้ า มีเกสรตัว
ผูและรังไข่จานวนมาก ผลเป็ นผลกลุ่ม ค่อนข้างกลม[2]
้
สรรพคุณ
ใบสดและเมล็ดน้อยหน่าสามารถใช้ฆ่าเหา และ โรคกลากเกลื้อน โดยเอาใบน้อยหน่าสดมาคั้นเอาแต่น้ า
แล้วพอกหัว ภายใน 7 วัน กลากเกลื้อนและเหาก็จะหาย เป็ นเหา ซึ่ งมีวธีรักษาอยู่ 2 วิธีคือ
ิ
นาใบน้อยหน่าประมาณ 3-4 ใบมาบดหรื อตาให้ ละเอียดแล้วคลุกกับเหล้า 28 ดีกรี คลุกให้เคล้ากัน
จนได้กลิ่นน้อยหน่า แล้วนามาทาหัวให้ทว เอาผ้าคลุมไว้สัก 10-30 นาทีและเอาผ้าออกใช้หวีสาง เหา
ั่
ก็ตกลงมาทันที
นาใบน้อยหน่า 7-8 ใบ มาตาให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ าทาหัวทิ้งไว้สักครู่ แล้วล้างออก ซึ่ งจะช่วย
ทาให้ไข่ฝ่อ และฆ่าเหาได้ และ แก้ขบพยาธิ ลาไส้ ฆ่าเหา แก้หิด แก้กลากเกลื้อน และแก้ฟกบวม
ั
ราก เป็ นยาระบาย ทาให้อาเจียน และแก้พิษงู ถอนพิษเบื่อเมา
เปลือกต้น เป็ นยาสมานลาไส้ สมานแผล แก้ทองร่ วง แก้พิษงู แก้รามะนาด ยาฝาดสมาน
้
ผล ผลดิบ จะเป็ นยาแก้พิษงู แก้ฝีในคอ กลาก เกลื้อน ฆ่าพยาธิ ผิวหนัง และผลแห้ง แก้งูสวัด เริ ม แก้ฝีในหู
ใบน้อยหน่ามีสารแอลคาลอยด์ แอนโนเนอีน (anonaine) และเรซิน (resin) ในเมล็ดมีน้ ามันอยู 45% ซึ่งเป็ น
พิษกับด้วงปี กแข็ง เพลี้ยอ่อนแมลงวัน และมวนปี กแข็งสารสกัดเมทานอลของใบน้อยหน่าเป็ นพิษต่อไร
ทะเล และใบน้อยหน่ายังเป็ นพิษต่อเพลี้ยอ่อนถัวโดบมี LC50 2,089.30 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร
่
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
การสกัดสารจากเมล็ด และใบน้อยหน่า
1. นาเมล็ดและใบน้อยหน่ามาตาหรื อบดให้ละเอียด โดยแยกกันตา หรื อบด
2. นาเมล็ด และใบน้อยหน่าที่ตา หรื อบดละเอียดแยกกันหมักกับน้ ามันมะกอก ในอัตราส่ วนเมล็ดและใบ
น้อยหน่าบดละเอียด ต่อน้ ามะกอก 2 : 1 และหมักทิงไว้ 10-15 นาที
้
- 4. 4
3. นาเมล็ด และใบน้อยหน่าที่หมักไว้ได้เวลาแล้วไปคั้น
4. นาสารที่สกัดจากเมล็ด และใบน้อยหน่า ไปใส่ ขวดมีฝาปิ ด
เครื่ องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1. ใบน้อยหน่า 7. เมล็ดน้อยหน่า
2. น้ ามันมะกอก 8. เครื่ องปั่ นหรื อครก
3. ผ้าขาวบาง 9. กระชอน
4. บีคเกอร์ 10.ถุงมือยาง
5. ที่คลุมผม 11.ยาสระผม
6. ผ้าสาหรับเช็ดผม 12.หวีซี่ถี่
งบประมาณ
ไม่เสี ยค่าใช้จ่ายเพราะหาวัสดุอุปกรณ์ที่มีอยูในบ้าน
่
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดั ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผูรับผิดชอบ
้
บ 1 1 1 1 1 1 1
1 2 3 4 5 6 7 8 9 12
ที่ 0 1 3 4 5 6 7
1 คิดหัวข้อโครงงาน / / สมาชิกใน
กลุ่ม
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล / / / นายศรันย์
3 จัดทาโครงร่ างงาน / / / นายธีรภัทร
4 ปฏิบติการสร้าง
ั / / / สมาชิกใน
โครงงาน กลุ่ม
5 ปรับปรุ งทดสอบ / / นายพงศกร
6 การทาเอกสารรายงาน / / นายศรันย์
7 ประเมินผลงาน / นายธีรภัทร
8 นาเสนอโครงงาน / สมาชิกใน
กลุ่ม
- 5. 5
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ตองการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้ นสุ ดการทาโครงงาน)
้
1. สามารถทายาฆ่าเหาจากสมุนไพรธรรมชาติใกล้ตวใช้เองได้ ั
2. เป็ นการนาสมุนไพรธรรมชาติ ใกล้ตวมาใช้ประโยชน์เป็ นการประหยัดรายจ่ายที่จะต้องซื้ อสารเคมีกาจัดเหา
ั
3. ทายาขึ้นเพื่อช่วยเหลือผูที่เป็ นเหา ที่ขดสนไม่สามารถซื้ อยาฆ่าเหามารักษาได้
้ ั
4. ได้ยาสาหรับการกาจัดเหา ที่ไม่มีสารเคมีที่เป็ นสารตกค้างที่เป็ นอันตรายต่อสุ ขภาพและร่ างกาย
5. เป็ นการนาเอาภูมิปัญญาท้องถิ่น มาปรับปรุ งประโยชน์และอย่างมีประสิ ทธิ ภาพ
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรี ยนปรามที่มีเด็กเป็ นเหา
กลุ่มสาระการเรี ยนรู ้ท่ีเกี่ยวข้อง
วิทยาศาสตร์
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรื อแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8
%99%E0%B9%88%E0%B8%B2
http://healthfood.muslimthaipost.com/main/index.php?page=sub&category=23&id=19029