ภาษาอังกฤษ

4. Reading Poems
Poem เป็นงานเขียนประเภทหนึ่งที่มีรูปร่าง
ลักษณะเฉพาะแบบ นอกจากจะมีจุดมุ่งหมายที่มุ่งให้
ความบันเทิงใจแก่ผู้อ่านแล้ว ยังสะท้อนความรู้สึก
นึกคิดหรือปฏิกิริยาของผู้เขียน หรือกวีที่มีต่อ
ประสบการณ์บางอย่าง

5. ลักษณะสำคัญ
ในการอ่านกวีนิพนธ์หรือโคลงกลอน
ภาษาอังกฤษให้เป็นที่เข้าใจ และสามารถตีความได้
ถูกต้อง ควรสังเกตลักษณะบางอย่างที่เกี่ยวกับงาน
เขียนประเภทนี้ไว้ด้วย

6. 1. ถ้อยคำสำนวน การเรียบเรียงและการเลือกใช้
ถ้อยคาสานวนหรือ คาศัพท์ของกวี ( Poet) มักทา
ให้บทกลอนเกิดความไพเราะน่าฟัง

7. 2. เสียงและจังหวะ
2.1 เสียง( Sound) หมายถึงระดับเสียงสูงต่า
รวมทั้งเสียงสระและ พยัญชนะ

8. 2.2. จังหวะ( Rhythm) เกิดจากการเน้นเสียงหนัก
เบาของพยางค์ในแต่ละ บรรทัดหรือช่วงของ
การหยุดออกเสียงในตอนท้ายของแต่ละบรรทัด

9. 2.3 หน่วยเสียงหนึ่งๆในบทกลอนเรียกว่า
foot ประกอบขึ้นด้วยพยางค์ที่ออกเสียงหนัก
และเสียงเบา

10. 2.4 การแบ่งคาภายในบรรทัดออกเป็นหน่วยเสียง
พร้อมพยางค์ที่ออกเสียงหนักและเบาเรียกว่า
Scansion

11. 3. กำรสัมผัส ( Rhyming ) การสัมผัสคาได้แก่
3.1 การสัมผัสโดยการซ้าเสียงพยัญชนะ
ภายในบรรทัด เรียกว่า Alliteration เช่น pretty
pink pills for pale people

12. 3.2 การสัมผัสเสียงสระที่เหมือนกันภายใน
บรรทัด เรียกว่า Assonance เช่น lady baby
free tree

13. 3.3 การสัมผัสคาสุดท้ายระหว่างบรรทัด
เรียกว่า Rhyme เช่น
I was angry with my friend.
I told my wrath, my wrath did end.
I was angry with my foe.
I told it not, my wrath did grow.

14. จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่าคาสุดท้ายของบรรทัดที่
1 คือ “friend” สัมผัสกับคาว่า “end” ในบรรทัด
ที่ 2 และ “foe “คาสุดท้ายของบรรทัดที่ 3 จะ
สัมผัสกับคาว่า “grow” ซึ่งเป็นคาสุดท้าย ของ
บรรทัดที่ 4 ตามลาดับ

15. 4. รูปแบบและชนิดของกวีนิพนธ์ภำษำอังกฤษ
4.1 Dramatic poetry มีลักษณะคล้ายกับบทละคร
4.2 Narrative poetry มีลักษณะเป็นเรื่องเล่า
4.3 Lyric poetry เป็นการบรรยายถึงธรรมชาติ หรือ
อารมณ์ ความ สะเทือนใจ หรือความรู้สึกนึกคิด

16. 5. บทตอนในคำกลอน
จะแบ่งออกเป็นบทๆหรือตอนเรียกว่า Stanza
มักจะมีรูปแบบการสัมผัสและจังหวะเพื่อ
ความไพเราะสละสลวยในการเขียนจะมีการ
เว้นช่องระหว่างบทให้เห็นชัดเจน บทที่
ค่อนข้างจะเป็นที่
รู้จักดี โดยทั่วๆไป ได้แก่

17. 5.1 Couplet คือ บทที่ประกอบไปด้วย 2 บรรทัด เช่น
I think that I shall never see.
A poem lovely as a tree.

18. 5.2 Triplet หรือ Tercet เป็นบทที่มี 3 บรรทัด เช่น
Rain, sun, and rain ! and the tree blossom blows;
Sun,rain, and sun and where is he who knows?
From the great deep to the great deep he goes

19. 5.3 Quatrain คือบทที่ประกอบขึ้นด้วย 4 บรรทัด
เช่น
“Get out of bed, you silly fool!
Get up right now, it’s time for school.
If you don’t dress without a fuss,
I’ll throw you naked on the bus!”

21. I wish you love me only
I miss you when I lonely
Are you really thinks like me.
ฉันรักเธอนะคนดี
ฉันขอให้เธอมีฉันเพียงคนเดียว
ฉันคิดถึงเธอเวลำที่ฉันโดดเดี่ยว
เธอเคยคิดเหมือนฉันบ้ำงเหรอเปล่ำ

22. To love is to help and encourage
With smiles and sincere words of praise
To take time to share
To listen and care
In tender, affectionate ways.

23. ควำมรักคือกำรช่วยเหลือและให้กำลังใจ
ด้วยรอยยิ้มและคำชมที่เต็มไปด้วยควำมจริงใจ
เพื่อที่จะใช้ช่วงเวลำในกำรแบ่งปัน รับฟัง และเอำใจใส่
ด้วยควำมเสน่หำและอ่อนโยน