1. XM 603 Industrial Analysis and Competition
5302010011 Suthida Archadech
5302010151 Onjira Rayathong
5302010193 Sarawut Jaturongkachok

2. ภัยคุกคามจากคู่แข่งรายใหม่
(New Entrants)
High Investment
Very High High Technology
Auto mobile Industry
ผู้จัดหาวัตถุดิบ ลูกค้า
(Suppliers) (Buyers)
Low->High? High
Controlled by relationship
But High
Scarcity Problem
Recycle Technology are
concerned. Commodity Transportation
ภัยคุกคามจากสินค้าทดแทน -Train
(Substitutes)
-Helicopter
High Personal Vehicle
-Motorcycle

3. Zero Emission Short Product Life Cycle
Affordable Price
Non Combustion system Durability High Safety
Environment Friendly Low Fuel Consumption High Technology

4. โครงสร้างอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน
จานวนผู้ประกอบการ จานวนบุคคลากร
กลุ่มผู้ประกอบ ผู้ประกอบรถจักรยานยนต์ ผู้ประกอบรถยนต์นั่งกระบะ ผู้ประกอบรถยนต์ 50,000คน
7 บริษัท 15 บริษัท, ตัวแทนจาหน่าย, ศูนย์บริการ
200,000คน
7 โรงงาน 19 โรงงาน
กลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนลาดับที่ 1
ผู้ผลิตชิ้นส่วน
(Tier 1) ยานยนต์
Engines, Drive trains, Steering, Suspension, 350,000คน
Brake Wheel, Tire, Bodyworks,
Interiors, Electronics and Elec Systems
อุตสาหกรรม
ผู้ผลิตชิ้นส่วนขนาดกลางและขนาดเล็ก
กลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนลาดับที่ 2 (1,100 บริษัท)
สนับสนุน
และ รองลงมา Stamping, plastics, rubber, machining, 100,000 คน
(Tier 2 & 3) casting, forging, function, electrical,
trimming

5. Motorcycle
Passenger car
Pick up Summit in
Thailand
Truck
Bus
Special vehicle
Matl' Supplier Tier 3 Supplier Tier 2 Supplier Tier 1 Supplier Car Assembly Dealer
Low Matl’ Cost Matl’ & Process Cost Affordable Price
Light weight Eng. Design Low fuel consumption
High Performance Eng. Design Durability
Knowhow High Safety
Knowhow High Technology
R&D & Flexible Production Process Short Product Life Cycle
Light weight Zero Emission
Non Combustion system
Reuse/Recyclable Matl’ Light weight Environment Friendly
Good Financial

6. Matl’ & Process Cost Connection or Relation of Matl’
Knowhow of Matl’ usage
Light weight Knowhow of Foaming & Process
Eng. Design
Knowhow
Knowledge Engineer R&D
- Engineering Design
- Fit w/ Environment
- Legal & Standardize
Communication skill Flexible Production
Process
Skilled Worker
Large no. of workers
Flexible Process
Financial
Good Financial Support
Government Support

7. Thailand
Oversea Plant
- India
- Vietnam
- China
Thailand

8. THAILAND
1. ศักยภาพในการผลิตรถยนต์ของไทยที่อยู่ในระดับมาตรฐานจนเป็นทียอมรับ
่ 1. ความไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนและ
โดยเฉพาะการผลิตรถปิกอัพ การดาเนินธุรกิจ
2. ระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่ดี มีความพร้อมของเครือข่ายอุตสาหกรรม 2. นโยบายของภาครัฐในการสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์และ
สนับสนุนโดยเฉพาะในส่วนของชิ้นส่วนยานยนต์ระดับต่างๆในไทยมากเพียงพอ พลังงานในระยะยาวยังไม่มีความชัดเจน ขณะที่ต้องเผชิญกับทิศทางการ
3. นโยบายการสนับสนุนอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลตลอดระยะเวลา ขยายตัวของการทาข้อตกลงการค้าเสรีก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กว่า 40 ปี 3. ไม่มีวัตถุดิบในประเทศ
4. ฝีมือแรงงานทีเ่ ป็นทียอมรับในระดับค่าจ้างต่า และขนาดตลาดรถยนต์ใน
่ 4. ไทยยังต้องพึ่งพิงเทคโนโลยีและบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญจาก
ประเทศที่ใหญ่พอ ต่างประเทศอยู่มากซึ่งส่งผลต่อต้นทุนการดาเนินงานและการพัฒนาการผลิต
5. มีข้อตกลงเขตเสรีการค้าที่เป็นประโยชน์ต่อการทาตลาดต่างประเทศ ในระดับสูงต่อไป
โดยเฉพาะกับภูมิภาคอาเซียนและออสเตรเลีย ทาให้การลงทุนในอุตสาหกรรม
ยานยนต์ในไทยมีความน่าสนใจอยูมาก ่
1. การย้ายฐานการผลิตของอุตสาหกรรม ไปสู่ที่ที่มีค่าแรงต่ากว่า 1. ผลสืบเนื่องมาจากวิกฤตราคาน้ามันที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
2. การ transfer technology 2. วิกฤตการเงินซึ่งส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังอุตสาหกรรม
หลายประเภททาให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย
3. การเติบโตของทางเลือกในการคมนาคม และ สาธารณูปโภคต่างๆ

9. China
1. ตลาดที่ใหญ่ทั้งทางด้านปริมาณและมูลค่า โดยปัจจุบันมีปริมาณ 1. ประสิทธิภาพการใช้ปัจจัยการผลิตยังอยู่ในระดับต่า
การผลิตและจาหน่ายรถยนต์เป็นอันดับ 1 ของโลก 2. สาธารณูปโภคพื้นฐานของจีนยังไม่ครอบคลุมพื้นที่ เนื่องจากพื้นที่ของ
2. ความพร้อมของปัจจัยการผลิตโดยเฉพาะอุตสาหกรรมยายนต์ เช่น มี ประเทศที่มีขนาดใหญ่และครอบคลุมพื้นที่มีภูมิศาสตร์แตกต่างกัน
จานวนแรงงานมาก ค่าแรงที่ยังอยู่ในระดับแข่งขันได้ 3. ภาพลักษณ์ของสินค้าอุตสาหกรรมของจีนยังอยู่ในระดับต่าในสายตา
3. ศักยภาพของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ที่ปัจจุบันมีการพัฒนาด้าน ชาวโลก
เทคโนโลยีในการผลิตที่มีความซับซ้อนมากขึ้น 4. ปัญหาข้อพิพาทระหว่างประเทศ ทั้งในด้านการทุ่มตลาดของจีน
4. ฐานการผลิต”Production Network”ที่มีขนาดใหญ่ และ 5. ปัญหาด้านการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา
ได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาล
1. ความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและประเทศจีน 1. การส่งเสริม FDI ของจีนนั้นมุ่งเน้นการนาเทคโนโลยีเข้าประเทศ ซึ่งนั้น
2. การที่จีนเปิดเสรีทางการค้าในระดับต่างๆ ทาให้การเจรจาเพื่อ หมายถึงอาจไม่ได้รับความร่วมมือที่ดีถ้าไม่มีความพร้อมทางด้านเทคฯ
ข้อได้เปรียบ การแลกเปลี่ยนสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อที่สามารถ 2. การตอบโต้การทุ่มตลาดจากประเทศอื่นๆ
เจาะตลาดชิ้นสวนยานยนต์ 3. การสื่อสารที่ใช้ภาษาจีนกลาง (กว่า80%)
3. การเปลี่ยนถ่ายการลงทุนจากโลกตะวันตก มายังโลกตะวันออก 4. วัฒนธรรมและสังคมของประชาชนที่ไม่ค่อยเป็นระเบียบเรียบร้อย
รวมถึงการที่ประเทศสหรัฐอเมริกา 5. จีนมีการวางกฎระเบียบต่างๆ ในการทาธุรกิจที่ค่อนข้างปกป้องอุตสาหกรรม
4. รัฐบาลจีนมีนโยบายสนับสนุนยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และคนในประเทศ ทาให้ประเทศต่างๆ ที่เข้ามาลงทุนในจีนต่างพบกับ
โดยแสวงหาพลังงานทางเลือกอื่นๆ ปัญหาในการดาเนินธุรกิจ
5. นโยบายในการลดการใช้พลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้
เน้นการใช้เทคโนโลยีในระดับสูง

10. India
1. มีการวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่ง ปรับเข้ากับความต้องการของ 1. ความแตกต่างด้านกฎเกณฑ์ระหว่างรัฐและรัฐบาลกลาง
ผู้บริโภค 2. Labor Union ทาให้การเลิกหรือย้ายกิจการเป็นไปได้
2. วัตถุดิบมีปริมาณมากพอ รวมถึงอุตสาหกรรมทีเ่ กียวข้องที่
่ ยาก
แข็งแกร่ง 3. การปกป้องสินค้าต้นน้าและการควบคุมราคา
3. ความต้องการในประเทศทีสูงทาให้สามารถใช้ Economy of
่ 4. ขาดความชานาญในด้านการตลาดและการบริหาร
Scale มีผลต่อต้นทุนการผลิตและความชานาญ 5. ปัญหาการ Corruption
4. แรงงานคุณภาพราคาถูกในปริมาณทีเ่ พียงพอ 6. ระบบ Logistics ที่ยังล้าหลัง
5. การส่งเสริมจากภาครัฐอย่างจริงจัง โดยเฉพาะ Special
Economic Zone และด้าน R&D
6. ความร่วมมือใกล้ชิดกับบริษัทข้ามชาติ
1. คุณภาพโดยทั่วไปของอินเดียทียังต่าอยูและความแตกต่างของ
่ ่ 1. กฎกติกาทีไม่แน่นอน การบังคับใช้กฎหมาย และการ
่
ผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่น้อย Corruption
2. มีความต้องการยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศทีเ่ พิม ่ 2. ความแตกต่างด้านวัฒนธรรมและการดาเนินธุรกิจ
สูงขึ้นมาก 3. ปัญหาที่เกียวข้องกับสหภาพแรงงาน
่
3. การเปิดประเทศและการใช้นโยบายการค้าเสรีมากขึน ้ 4. การย้ายการลงทุนไปยังจีนและอาเซียน
4. วัตถุดิบและแรงงานคุณภาพราคาถูกทียังไม่ถกใช้อย่างเต็มที่
่ ู
5. Brand name มีความสาคัญเพิ่มขึน้

11. ตารางเปรียบเทียบปัจจัยการลงทุน
Material Engineering Labor Facility Production Government
Technology Ability Technology Support
China ++ ++ ++ ++ + 0
India ++ ++ ++ 0 + ++
Thailand + 0 + + + ++

12. อุตสาหกรรมรถยนต์ในอินเดีย
เติบโตปีละกว่า 18%ตอบรับกับการเติบโตของ ตลาดยานยนต์ของอินเดียทีเ่ ติบโตสูงเป็นอันดับต้นๆ
ของโลกและคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดสูงถึง 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2010 ซึ่งสาเหตุสาคัญ ได้แก่
1) นโยบายรัฐฯ : การเปิดเสรีทางเศรษฐกิจของอินเดีย เปิดโอกาสให้ต่างชาติถือหุ้นได้ 100% ในอุตสาหกรรมต่างๆ นับแต่ปี
1993 เป็นต้นมา ส่งผลให้เกิดการไหลเข้าของ FDI ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น IT อิเล็คทรอนิกส์ และ ยานยนต์อย่างรวดเร็ว
2) อุปสงค์ในประเทศ : กาลังซื้อที่สูงขึ้นของแรงงานในอุตสาหกรรม Software/ IT (เงินเดือนเริมต้นที่ 30,000 -100,000 รูป)
่ ี
และยานยนต์เอง ซึ่งเป็นคนชั้นกลางของอินเดีย จากผลการศึกษาของบริษัท McKinsey กลุ่มคนชั้นกลางจะเติบโตจาก 300
ล้านคนเป็น 550 ล้านคนในปี 2025
3) อุปสงค์ในประเทศ : Lifestyle ที่เปลี่ยนไปตามรายได้ที่สูงขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายขึ้นตามไป
ด้วย ซึ่งรถยนต์เป็นสิ่งแรกๆ ที่คนอินเดียรุ่นใหม่ต้องการเป็นเจ้าของ
4) อุปสงค์ในประเทศ : โอกาสทางการตลาดรถยนต์ยังมีสูงมากเมือเทียบกับกาลังซื้อที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วของประชากร อีกทั้ง
่
อัตราการเป็นเจ้าของรถยนต์ยังต่าอยู่ (8 คัน/ประชากร1000 คน)
5) นโยบายรัฐฯ ,ปัจจัยการผลิตในประเทศ : ปรัปปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้วยงบประมาณ 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 5-6
ปีหน้า โดยเฉพาะรัฐบาลได้เร่งให้มีการสร้างเครือข่ายถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชือมเมืองสาคัญทั่วประเทศ ปรับปรุง ขยาย สร้าง
่
ทางแยกต่างระดับและทางยกระดับในเมือง ทาให้คนชั้นกลางเริ่มหันมาใช้รถส่วนตัวมากขึ้นกว่าการใช้บริการขนส่ง
สาธารณะ ที่แออัดและล่าช้า
6) ปัจจัยสนับสนุน : การเข้าถึงสินเชื่อรถยนต์จากบริษัทไฟแนนซ์ทาได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะในเมืองที่มอุตสาหกรรมไอที
ี
และรถยนต์ตั้งอยูซึ่งประชาชนมีกาลังซือสูง
่ ้
7) อุปสงค์ในประเทศ : การขยายตัวทางเศรษฐกิจของอินเดียประมาณร้อยละ 9 ต่อปีของอินเดีย
8) FDI เล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาดอินเดียที่มีประชากรกว่า 1 พันล้านคน ซึ่งเป็นคนชั้นกลางถึงประมาณ 300 ล้านคน
9) อุปสงค์นอกประเทศ : การขยายตัวของการส่งออกรถยนต์ อาทิเช่น ฮุนไดมีการขยายตัวของการส่งออกในปี 2007 ถึง 50%

13. Global Automotive overview

14. Diamond Diagram
กลยุทธ์ : Cost Leadership
เหตุสุดวิสัย : ความไม่ โครงสร้าง : Minimizing Money,
แน่นอนของสภาวะ Manpower, Minutes (Time),
เศรษฐกิจโลก, การเมือง, Material and Machinery
ความขัดแย้งที่ชายแดน
อุปสงค์ในประเทศ :
มีความต้องการเพิ่มมากขึ้น
ปัจจัยการผลิตในประเทศ: สืบเนื่องจากการขยายตัวของ
แรงงานมีคุณภาพ, ค่าแรงถูก, เศรษฐกิจ, มีการตัดถนนเพิ่ม
ไม่มี language barrier, มี มากขึ้นจะdrive ให้ demand
วัตถุดิบในประเทศ เพิ่มมากขึ้นด้วย
อุตสาหกรรมสนับสนุนและ รัฐบาล :
เกี่ยวเนื่องในประเทศ : ครบวงจร เหล็ก,
แม่พิมพ์, การขนส่ง, พลาสติก, การเงิน นโยบายรัฐ
และตลาด สนับสนุน

15. Parts production in Thailand
Engines Transmissions
- Diesels, Motorcycles - Gears, Casings, Rear Axles, Drive
Engine Components Shafts, Propeller Shafts
- Starters, Alternators, Pumps, Filters, Electrical/Electronics
Hoses, Gears, Flywheels - Alternators, Starters, Speedometers,
Body Parts Lamps, Motors, Flasher Relays
- Chassis, Bumpers, Fenders, Hoods, Interiors/Exteriors
Door Panels - Seats, Mats, Weather Strips, Console
Brake Systems Boxes
- Master Cylinders, Drums, Discs, Pads, Others
Linings, - Windshields, Seat Belts, Radiators,
Steering Systems Wheels, Compressors
- Steering Wheels, Gears, Columns,
Pumps, Linkages
Suspensions
- Shocks, Coils, Ball Joints **แหล่งข้อมูล : สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ http://www.thaiautoparts.or.th/

16. World ranking of Automotive
Production by Country
India Production ranking No.6
globally

17. Auto Parts Export (by country)
Jan.-Aug. 2010
Million ($) Growth rate

18. ฐานการผลิตรถยนต์ที่สาคัญในอินเดีย
เหนือ นิวเดลี
ตะวันตก มุมไบ
ตะวันออก โกลกัตตา
ใต้ เชนไน

19. วิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย – ความเสี่ยง
ความเสี่ยงจากการพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่
• หากได้รับยอดสั่งซือสินค้าและบริการจากกลุมลูกค้ารายใหญ่ จะเป็นการลดมูลค่าการสั่งซือสินค้าและบริการ ส่งผล
้ ่ ้
กระทบต่อยอดขายของบริษัทฯ
• การสั่งซื้อในแต่ละรอบเพื่อระยะยาว ซึ่งมักจะใช้เวลาประมาณ 3 – 8 ปี หากบริษัทฯ ใดได้รับการสั่งซื้อจากลูกค้าก็จะ
มีอานาจการแข่งขันอยูในระดับสูง เป็นผลมาจากการกาหนดราคาทีแข่งขันในตลาดคุณภาพที่ได้มาตรฐาน และการ
่ ่
ส่งมอบสินค้าที่ตรงต่อเวลา
• การใช้กลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อหาลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ในกรณีที่สดส่วนยอดขายจากลูกค้ารายใหญ่จึงมี
ั
แนวโน้มลดลงในอนาคต
• การสั่งซื้อวัตถุดบของธุรกิจ หากมีความสัมพันธ์อันดีกับคู่ค้าหลัก และบริษัทฯ ยังมีคู่ค้าสารองอีกหลายรายก็จะไม่มี
ิ
ปัญหาในการสั่งซื้อ
ความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก
• ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ ซึ่งมีราคาผันแปรไปตามราคาซื้อขายของตลาดโลก โดยเฉพาะเหล็กที่บริษัทฯ ต้อง
นาเข้าจากต่างประเทศซึ่งมีความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลียน
่
ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย
• อัตราดอกเบี้ยทีเ่ พิ่มขึ้นอาจส่งผลต่อภาคการบริโภคภายในประเทศที่ หดตัวลงซึ่งอาจส่งผลต่อยอดขายยานยนต์ด้วย

20. วิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย – ความเสี่ยง
ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงในนโยบายของรัฐบาล
• อาจได้รับผลกระทบทั้งในเชิงบวกและในเชิงลบจากการเปลี่ยนแปลงของภาษีศุลกากรและการกีดกันทางการค้า เช่น
การลดภาษีนาเข้าเหล็กจะสามารถลดต้นทุนวัตถุดิบของบริษัทได้โดยตรง (ราคาเหล็ก) และการเปลี่ยนแปลงภาษี
นาเข้าของชิ้นส่วนรถยนต์จะกระทบความสามารถของบริษัทในการแข่งขันกับผูผลิตจากต่างประเทศ เช่น การลดภาษี
้
นาเข้าชิ้นส่วนอาจทาให้คู่แข่งต่างประเทศสามารถแข่งขันกับบริษัทฯ ทางด้านราคาและต้นทุนได้มากขึ้น
• ในปัจจุบันรัฐบาลได้มีการตกลงกับประเทศในอาเซียน เกี่ยวกับการเปิดเสรีของอุตสาหกรรมรถยนต์ภายใต้
สนธิสญญาการเปิดเสรีทางการค้า AFTA ภายใต้ขอตกลงสิทธิพเิ ศษทางภาษีปกติ (CEPT) ทาให้ภาษีศุลกากร
ั ้
สาหรับชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผลิตภายในอาเซียน ลดเหลือร้อยละ 0-5 และคาดว่าจะทาให้ประเทศคู่ค้าภายในอาเซียนใช้
ประโยชน์ทางภาษีนี้เพือเพิ่มการค้าระหว่างกัน ช่วยบริษัทฯ ในด้านการส่งออกสินค้า
่
• แม้การเปิดเสรีจะทาให้ไทยมีโอกาสในการส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ไปยังต่างประเทศได้มากขึ้น แต่อีกด้านหนึ่ง ก็เป็น
โอกาสให้ชิ้นส่วนจากประเทศคู่แข่งมีโอกาสเข้ามาทาตลาดในไทยได้มากขึ้นเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในส่วนของ
ชิ้นส่วนที่ไทยมีความชานาญ หรือมีต้นทุนในการผลิตที่สูงกว่าประเทศคู่แข่งบริษัทควรมีนโยบายในการพัฒนา
เครื่องหมายสินค้าของตนเอง และดาเนินการลดต้นทุนการผลิตอย่างต่อเนือง เพื่อให้ราคาสินค้าของบริษัทฯ สามารถ
่
แข่งขันได้ในตลาดโลก

21. วิเคราะห์แรงขับดันหรือปัจจัยที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
1. การขยายตัวของสินเชือเป็นปัจจัยสนับสนุนการบริโภคและ
่
ลงทุนให้ขยายตัวดี แม้ขณะนี้มแนวโน้มการปรับตัวเพิ่มขึ้น
ี
ของเงินเฟ้อและอัตราดอกเบีย แต่คาดว่าจะไม่กระทบต่อ
้
ความต่อเนื่องของการกู้ยืมและการลงทุน เพราะแม้จะขยับขึน ้
อัตราดอกเบี้ยก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ต่า การลงทุนเพื่อขยายฐาน
การผลิตและการตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะใน
ภูมิภาคเอเชียที่เติบโตเป็นแรงขับเคลือนเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะ
่
เปิดโอกาสให้ธนาคารสามารถปล่อยกูสินเชื่อธุรกิจ
้
2. วิกฤติเศรษฐกิจส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ทาให้เกิดการปฏิรูปโครงสร้างอุตสาหกรรมรถยนต์ 2 ประการคือ 1. การลด
ค่าเงินบาทและกาลังซือในประเทศทีตกต่าอย่างมาก (ยอดขายรถยนต์ในประเทศลดลงจากเกือบ 6 แสนคันในปี 1996 ก่อน
้ ่
วิกฤติเหลือยอดขายเพียงไม่ถึง 3 แสนคันในปี 1998) ผลักดันให้อตสาหกรรมต้องหันมาเน้นการส่งออกเพื่อการฟื้นฟู
ุ
ยอดขายและ 2. วิกฤติเศรษฐกิจทาให้หุ้นส่วนคนไทยในบริษัทประกอบรถยนต์ต้องขายสัดส่วนของตน ออกไปหมด ทาให้
ต่างชาติเป็นเจ้าของอย่างเต็มที่ สาหรับผู้ผลิตชิ้นส่วนที่เจ้าของเป็นคนไทยก็ต้องเลิกกิจการหรือขายให้ต่าง ชาติเป็นส่วน
ใหญ่ เหลืออยูแต่ผผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ระดับล่าง (ชิ้นส่วนที่ใช้เทคโนโลยีพื้นฐาน) หมายความว่าชิ้นส่วนที่ใช้เทคโนโลยีขั้น
่ ู้
สูงนั้นเป็นของต่างชาติเกือบหมด

22. วิเคราะห์แรงขับดันหรือปัจจัยที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
3. การลดภาษีภายใต้กรอบ AFTA
นอกเหนือจากสภาพตลาดรถยนต์ทเี่ ริ่มมีทศทางการฟื้นตัวที่ดีขึ้นในหลายๆประเทศซึ่งจะส่งผลกระตุ้นความต้องการใช้
ิ
รถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ให้เพิ่มขึ้นแล้ว ไทยและกลุมประเทศก่อตังอาเซียนอีก 5 ประเทศ ได้แก่มาเลเซีย สิงคโปร์
่ ้
อินโดนีเซีย บรูไนและฟิลิปปินส์ จะมีการลดภาษีนาเข้าสินค้า 8 พันกว่ารายการลงเหลือร้อยละ 0 ภายใต้กรอบอาฟต้า
(AFTA) ในกลุ่มสินค้าที่มีการลดภาษีตามปกติ (Normal Track) ทุกรายการ โดยสินค้าในกลุ่มรถยนต์และชินส่วนของ
้
ไทยจัดอยู่ในกลุ่มสินค้าประเภทนี้ ซึงมีผลทาให้ภาษีนาเข้าสินค้าในกลุ่มนี้ของไทยและประเทศคู่เจรจาลดลง
่
เหลือร้อยละ 0 ซึ่งการยกเลิกอุปสรรคทางภาษีระหว่างไทยและประเทศคูเ่ จรจาย่อมจะก่อให้เกิดทั้งโอกาสและความท้า
ทายครั้งใหม่ทางการค้าระหว่างประเทศของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอกาสในการขยายการ
ส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ของไทยในปี 2553 นี้ ทั้งในส่วนของชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ (OEM) และชิ้นส่วนอะไหล่ (REM) ไปสู่
ตลาดที่มีขนาดใหญ่ขนมาก ทั้งตลาดผู้ผลิตรถยนต์ และตลาดผู้บริโภครถยนต์
ึ้
4. ไทยมีการเกินดุลในสินค้าส่วนตลาดชิ้นส่วนรถยนต์อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการชะลอตัวลงมากตามทิศทางตลาดรถยนต์
โลก อย่างไรก็ตามการเกินดุลในสัดส่วนที่สูงมากนี้แสดงให้เห็นถึงขนาดและศักยภาพในการแข่งขันที่สูงกว่าของ
อุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ไทยในภูมิภาคได้เป็นอย่างดี

23. โอกาสการส่งออกของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์
•โรงงานรถยนต์ของอินเดียเร่งผลิตรถออกขายทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศอย่างเต็มที่ เพื่อตอบรับกับความ
ต้องการรถยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรถขนาดเล็ก ส่งผลให้การส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ของ
ไทยไปอินเดียเติบโตตามไปด้วยถึงร้อยละ 31 ต่อปี
านการผลิตรถยนต์สาคั ของโลก
แนวโน้มของการผลิตรถยนต์ระดับโลกนับจากทศวรรษ 70 ตลาดรถยนต์ของอินเดีย แบ่งเป็น 2 ส่วน โดย
เริ่มย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่มีประชากรมากแต่ต้นทุนต่า รถยนต์มีสดส่วน 30% ส่วนรถจักรยานยนต์
ั
70% ในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลมีมารูต-ซูซู
ิ
กิ และฮีโรฮอนดาเป็นผูนาตลาดอันดับ 1และ2
้
ตามลาดับ อินเดียเป็นตลาดรถยนต์นั่งส่วน
บุคคลใหญ่เป็นอันดับ 11 ของโลก และเป็น
ตลาดรถเพือการพาณิชย์ (Commercial
่
vehicle) ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก และคาด
ว่าในปี 2030 อินเดียจะกลายเป็นตลาดรถยนต์
ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก

24. โอกาสการส่งออกของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์
อินเดียกาลังกลายเป็นประเทศผูนาเข้าชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ของโลก
้
นาเข้าส่วนใหญ่ เป็น wheel rims, ball bearings, gears และ gearing components นอกจากนั้นก็เป็นชิ้นส่วนฯ ที่ไม่มี
การผลิตในประเทศ เช่น airbag และ ชิ้นส่วนที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง หากพิจารณาการค้ารายประเทศแล้ว ประเทศคู่ค้า
หลักๆ เช่น ประเทศไทย จีน ญีปุ่น เกาหลี (ยกเว้นสหรัฐและแคนาดา) ล้วนได้ดุลการค้าในสินค้าชิ้นส่วนยานยนต์ทั้งสิ้น โดย
่
มีการนาเข้าจากเกาหลีใต้สูงเป็นอันดับ 1 รองลงมาคือ ญี่ปน จีน และไทย
ุ่

25. เสนอบทวิเคราะห์
 ตลาดเป้าหมายของชิ้นส่วนยานยนต์ไทยในอินเดีย คือรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อมารูติ-ซูซูกิ ฮุนได ฮอนดา
โตโยตา และตาต้า (ใช้เครื่องยนต์นิสสัน) ซึ่งเน้นรถขนาดเล็กเป็นหลัก โดยเฉพาะซูซูกิ และฮุนได เนื่องจากทั้ง
สองบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดรวมกันถึง74%
 เป้าหมายการตลาดของชิ้นส่วนจักรยานยนต์ของไทยในตลาดอินเดีย คือ รถจักรยานยนต์ฮีโร-ฮอนดาซึ่งเป็น
โรงงานฯ ผลิตจัรกยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
 การส่งออกไปชิ้นส่วนฯ ไปตลาดอินเดียควรเน้นทั้ง
 ป้อนสายการผลิต เช่น ป้อนโรงงานฮุนไดที่เชนไน โรงงานมารูติ-ซูซูกิที่กูกอน และมาเนซา
ใกล้กรุงนิวเดลี และโรงงานฮีโร่-ฮอนดาที่ Dharuhera และGurgaon
 ป้อนศูนย์บริการทั่วประเทศ เช่น หน่วยบริการซ่อมด่วน (Express Service Station)
2,628 แห่งของมารูติ-ซูซูกิที่กระจายอยู่ตามทางหลวงทั่วประเทศ
 คู่แข่งสาคัญของไทยในตลาดนี้คือจีน แต่ไทยมีข้อได้เปรียบ คือ อาเซียน-อินเดียมี ความตกลง FTA
ระหว่างกัน จะทาให้ไทยเข้าสู่ตลาดอินเดียได้ง่ายกว่า ขณะเดียวกัน ผู้ส่งออกควรทาตลาดเชิงรุก โดยการ
เป็น Strategic alliance กับผู้ผลิตยานยนต์อินเดียเพื่อป้อนชิ้นส่วนฯ เข้าสู่สายการผลิตและศูนย์บริการ
แบบทันเวลา (Just-In-Time) เพื่อลดต้นทุนการผลิต/การดาเนินการให้กับผู้ผลิตยานยนต์ในอินเดีย พร้อม
กับช่วงชิงความได้เปรียบทางการแข่งขันจากจีน