Weitere ähnliche Inhalte
Ähnlich wie เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (20)
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
- 3. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and
Communication Technology) หมายถึง เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับข่าวสาร
ข้อมูลและการสื่อสาร นับตั้งแต่การสร้าง การนามาวิเคราะห์หรือ
ประมวลผล การรับและส่งข้อมูล การจัดเก็บและการนาไปใช้งานใหม่
เทคโนโลยีเหล่านี้มักจะหมายถึง คอมพิวเตอร์ ซึ่งประกอบด้วยส่วน
อุปกรณ์ (hardware) ส่วนคาสั่ง (software) และส่วนข้อมูล (data) และ
ระบบการสื่อสารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ ระบบสื่อสารข้อมูล
ดาวเทียมหรือเครื่องมือสื่อสารใด ๆ ทั้งมีสายและไร้สาย (ความหมาย
ตามที่ให้ไว้ในแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของ
ประเทศไทย พ.ศ. 2545-2549) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมี
ความจาเป็นต่อชีวิตประจาวันอย่างยิ่ง จึงมีการจัดตั้งตั้งหน่วยงานขึ้น
รองรับและบริการ เกิดเป็นกระทรวงใหม่ชื่อ "กระทรวงเทคโนโลยี
สารสนเทศและการสื่อสาร (Ministry of Information and Communication
Technology)" หรือกระทรวงไอซีที (ICT)
- 4. จากความหมายข้างต้น สรุปได้ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสื่อสาร หมายถึง ข้อมูลที่ได้ถูกผ่านกระบวนการต่างๆ
กลั่นกรองมาเป็นข้อมูลสารสนเทศ ซึ่งเป็นทั้งเทคโนโลยีและการ
สื่อสาร อาจเรียกได้ว่าเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
นับตั้งแต่การสร้าง การนามาวิเคราะห์หรือประมวลผล การรับ
และส่งข้อมูล การจัดเก็บและการนาไปใช้งานใหม่
- 6. I. ฮาร์ดแวร์ (hardware) หมายถึง ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์
และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ เช่น คีย์บอร์ด (keyboard) เมาส์
(mouse) จอภาพ (monitor) เป็นต้น รวมทั้งอุปกรณ์สื่อสาร
สาหรับเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เข้าเป็นเครือข่าย เช่น โมเด็ม
(modem) และ สายสัญญาณ
- 7. II. ชอฟต์แวร์ ( soflware ) หมายถึง โปรแกรมหรือชุดคาสั่ง (
instruction ) ที่ใช่ควบคุมการทางานของเครื่องคอมพิวเตอร์และ
อุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ ชุดคาสั่งจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1. ระบบปฏิบัติการ ( Operating System: OS ) เป็นซอฟต์แวร์ที่ทา
หน้าที่ควบคุมการทางานของอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ทั้งหมดภายใน
คอมพิวเตอร์ ตัวอย่างระบบปฏิบัติการ เช่น วินโดวส์( Windowns ) ลิ
นุกซ์ ( Linux ) และ แมคโอเอส ( Mac OS )
- 8. 2. โปรแกรมอรรถประโยชน์ ( utilities program ) เป็น
โปรแกรมที่ช่วยเสริมการทางานของคอมพิวเตอร์ หรือ
ช่วยเสริมการทางานอื่นๆให้มีความสามารถใช่วานได้
สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
- 11. III.ข้อมูล (data) ข้อมูลจะถูกรวบรวมและป้ อนเข้าสู่เครื่อง
คอมพิวเตอร์โดยผ่านอุปกรณ์ของหน่วยรับเข้า เช่น คีย์บอร์ด
เมาส์ และสแกนเนอร์ (scanner) ข้อมูลต้องมีโครงสร้างในการ
จัดเก็บที่เป็นระบบเพื่อการสืบค้นที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ข้อมูลจะถูกจัดเก็บอยู่ในหน่วยความจา (memory unit) ก่อนที่จะ
ถูกย้ายไปเก็บที่หน่วยเก็บข้อมูล (storage unit) เช่น ฮาร์ดดิสก์
และแผ่นซีดี (Compact Disc: CD)
- 12. IV. บุคลากร (people) บุคลากรเป็นองค์ประกอบที่สาคัญที่สุดของ
ระบบสารสนเทศ ในที่นี้หมายถึงบุคลากรที่เป็นผู้ใช้ระบบ บุคลากรที่
เป็นผู้พัฒนาระบบสารสนเทศ จะต้องมีความรู้ความสามารถในการ
พัฒนาระบบสารสนเทศให้มีประสิทธิภาพให้สามารถทางานได้ตาม
ความต้องการของผู้ใช้ใช้ง่ายและสะดวก ส่วนผู้ใช้ต้องมีความรู้ ความ
เข้าใจ และมีความสามารถในการใช้งานระบบสารสนเทศและการ
สื่อสารต่างๆ ได้อย่างถูกต้องจึงจะเกิดสารสนเทศที่เป็นประโยชน์
- 13. V. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน (procedure) ระบบสารสนเทศต้องมี
ขั้นตอนการปฏิบัติงานที่เป็นลาดับขั้นชัดเจน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจ
ได้ง่าย และดาเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในสถานการณ์ปกติ
และสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น ขั้นตอนการบันทึกข้อมูล ขั้นตอนการทา
สาเนาข้อมูล ขั้นตอนการปฏิบัติเมื่อข้อมูลได้รับความเสียหาย หรือเมื่อ
เครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่างๆ เกิดการชารุดเสียหาย ขั้นตอน
ต่างๆ เหล่านี้ควรได้รับการรวบรวมและจัดทาให้เป็นรูปเล่ม
- 17. V. ด้านความมั่นคง มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกันอย่างแพร่หลาย เช่น ใช้ใน
การควบคุมประสานงานวงจรสื่อสารทหาร การแปลรหัสลับในงานจารกรรมระหว่างประเทศ
การส่งดาวเทียมและการคานวณวิถีโคจรของจรวดไปสู่อวกาศ สานักงานตารวจแห่งชาติของ
ประเทศไทยมีศูนย์ประมวลข่าวสาร มีระบบจัดทาทะเบียนปืน ทะเบียนประวัติอาชญากร ทาให้
เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการสืบค้นข้อมูลเพื่อการสืบสวนคดีต่างๆ
VI. ด้านการคมนาคม มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในส่วนที่เกี่ยวกับการ
เดินทาง เช่น การเดินทางโดยรถไฟ มีการเชื่อมโยงข้อมูลการจองที่นั่งไปยังทุกสถานี ทาให้
สะดวกต่อผู้โดยสาร การเช็คอินของสายการบิน ได้จัดทาเครื่องมือที่สะดวกต่อลูกค้า ในรูปแบบ
ของการเช็คอินด้วยตนเอง
- 24. I. ด้านสังคม สภาพเสมือนจริง การใช้อินเตอร์เน็ตเชื่อมโยงการ
ทางานต่างๆ จนเกิดเป็นสังคมที่ติดต่อผ่านทางอินเตอร์เน็ต หรือที่
รู้จักกีนว่า ไซเบอรฺ์สเปช (cyber space) ซึ่งมีกิจกรรมต่างๆ เช่นการ
พูด การชื้อสินค้า และบริการ การทางานผ่านเครื่อข่ายคอมพิวเตอร์
ทาให้เกิดสภาพที่เสมือนจริง (virtual) เช่น เกมส์เสมือนจริง
ห้องเรียนเสมือนจริง ซึ่งทาให้ลดเวลาในการเดินทางและสามารถใช้
งานได้ทุกที่ทุกเวลา
- 25. II. ด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารส่งผลให้เกิดสังคม
โลกาภิวัตน์(globalization) เพราะสามารถชมข่าว ชมรายการโทรทัศนที่ส่ง
กระจายผ่านดาวเทียมของประเทศต่างๆ ได้ทั่วโลก สามารถรับรู้ข่าวสารได้
ทันที ใช้อินเทอร์เน็ตในการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน ระบบเศรษกิจซึ่งแต่เดิมมี
ขอบเขตจากัดภายในประเทศ ก็กระจายเป็นเศรษฐกิจโลก เกิดกระแสการ
หมุนเวียนแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ระบบ
เศรษฐกิจของทุกประเทศในโลกจึงเชื่อมโยงและผูกพันกันมากขึ้น
- 26. III. ด้านสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มี
ประโยชน์ในด้านธรรมชาติและและสิ่งแวดล้อม เช่น ระบบป้ องกัน
การกัดเซาะชายฝั่ง โดยใช้ภาพถ่ายดาวเทียม หรือภาพถ่ายทางอากาศ
ร่วมกับการจัดเก็บรักษาข้อมูลระดับน้าทะเล ความสูงของคลื่นจาก
ระบบเรดาร์ เป็นการศึกษาเพื่อหาสาเหตุ และนาข้อมูลมาวางแผน
และสร้างระบบเพื่อป้ องกันการกัดเซาะชายฝั่งแต่ละแห่งได้อย่าง
เหมาะสม
- 29. II. นักวิเคราะห์ระบบ (system analyst) ทาหน้าที่ในการศึกษา
วิเคราะห์และพัฒนาระบบสารสนเทศ นักวิเคราะห์ระบบจะทา
การวิเคราะห์ระบบงานและออกแบบระบบสารสนเทศให้ตรงกับ
ความต้องการของผู้ใช้งาน ซึ่งอาจรวมถึงงานด้านการออกแบบ
ฐานข้อมูลด้วย
- 30. III. ผู้ดูแลและบริหารฐานข้อมูล (database administrator) ทาหน้าที่บริหาร
และจัดการฐานข้อมูล (database) รวมถึงการออกแบบ บารุงรักษาข้อมูล
และการดูแลระบบความปลอดภัยของฐานข้อมูล เช่น การกาหนดบัญชีผู้ใช้
การกาหนดสิทธิ์ผู้ใช้
IV. ผู้ดูแลและบริหารระบบ(system administrator) ทาหน้าที่บริหารและ
จัดการระบบคอมพิวเตอร์ในองค์กร โดยดูแลการติดตั้งและบารุงรักษาระบบ
ปฎิบัติการ การติดตั้งฮาร์ดแวร์ สร้าง ออกแบบและบารุงรักษาบัญชีผู้ใช้
สาหรับองค์กรขนาดเล็กเจ้าหน้าที่ความคุมระบบอาจต้องดูแลและบริหาร
ระบบเครือข่ายด้วย
V. ผู้ดูแลและบริหารระบบเครือข่าย (network administrator) ทาหน้าที่
บริหารและจัดการออกแบบระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และดูแลรักษา
ความปลอดภัยของระบบเครือข่ายขององค์กร เช่น ตรวจสอบการใช้งาน
เครือข่ายของพนักงานและติดตั้งโปรแกรมป้องกันผู้บุกรุกเครือข่าย
- 32. VII. เจ้าหน้าที่เทคนิค (technician) ทาหน้าที่ซ่อมบารุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์
ติดตั้งโปรแกรม หรือติดตั้งฮาร์ดแวร์ต่างๆและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดจากการใช้
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในองค์กร
VIII. นักเขียนเกม (game maker) ทาหน้าที่เขียนหรือพัฒนาโปรแกรมเกม
คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันนี้การเขียนโปรมแกรมคอมพิวเตอร์เป็นอาชีพได้รับความ
นิยมอย่างสูงในประเทศไทย