Weitere ähnliche Inhalte
Ähnlich wie เทคนิคการสอนการฟังภาษาอังกฤษเบื้องต้น1 (20)
เทคนิคการสอนการฟังภาษาอังกฤษเบื้องต้น1
- 2. ทักษะการฟัง หมายถึงความสามารถในการจับประเด็นใจความหลัก จาก
สิ่งที่ฟังได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน ซึ่งเป็นกระบวนการที่สลับซับซ้อน
เพราะผู้เรียนต้องเข้าใจสาระสาคัญจากสิ่งที่พูด อารมณ์และความคิดเห็น
ของผู้พูด และสามารถตอบสนองระบุความสัมพันธ์ระหว่างผู้พูด หรือ
บริบทของการพูดได้
ทักษะการฟังภาษาอังกฤษ เป็นสิ่งสาคัญที่ต้องฝึกฝนให้ผู้เรียนเกิดความ
ชานาญ และมีความสามารถในการฟังอย่างเข้าใจในสารที่ได้รับฟัง
ครูผู้สอนควรมีความรู้และเทคนิคในการสอนทักษะการฟังอย่างไร จึงจะ
สามารถจัดการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนได้ประสบผลสาเร็จ
- 3. การสื่อสารในชีวิตประจาวันนั้น การฟังนับว่าเป็นทักษะรับสารที่สาคัญ
ทักษะหนึ่ง เป็นทักษะที่ใช้กันมากและเป็นทักษะแรกที่ต้องทาการสอน
เพราะผู้พูดจะต้องฟังให้เข้าใจเสียก่อนจึงจะสามารถพูดโต้ตอบ อ่านหรือ
เขียนได้ ทักษะการฟังจึงเป็นทักษะพื้นฐานที่สาคัญในการเรียนรู้ทักษะอื่นๆ
ดังนั้นในการเรียนการสอนนักเรียนจึงควรได้รับการฝึกฝนทักษะการฟัง
อย่างเพียงพอ และจริงจัง
คุณค่าของการฟัง เป็นเรื่องสาคัญมากที่เด็กๆ จะต้องฟังภาษาอังกฤษที่
เหมาะกับระดับของตนให้มากที่สุดเท่าที่จะทาได้ ภาษาควรจะง่ายสาหรับ
เด็กและอยู่ในระดับปัจจุบัน หรือเหนือระดับที่เข้าใจได้แล้วเล็กน้อย ถ้า
ระดับยากเกินไป เด็กอาจสูญเสียความมั่นใจและทัศนคติด้านบวกไปก็ได้
- 4. การฟังในชีวิตประจาวันของคนเราจะเกิดขึ้นได้ใน 2 กรณี คือ
การฟังที่ได้ยินโดยมิได้ตั้งใจในสถานการณ์รอบตัวทั่วๆ ไป
(Casual Listening)
การฟังอย่างตั้งใจและมีจุดมุ่งหมาย (Focused Listening)
จุดมุ่งหมาย หรือวัตถุประสงค์ของการฟัง คือ การรับรู้และทา
ความเข้าใจใน “สาร” ที่ผู้อื่นสื่อความมาสู่เรา
- 6. 2. กิจกรรมในการสอนฟัง ซึ่งแบ่งเป็น 3 กิจกรรม
คือ กิจกรรมนาเข้าสู่การฟัง ( Pre-listening)
กิจกรรมระหว่างการฟัง หรือ ขณะที่สอนฟัง ( While-listening)
กิจกรรมหลังการฟัง (Post-listening) แต่ละกิจกรรมอาจใช้เทคนิค
ดังนี้
- 7. 1. กิจกรรมนาเข้าสู่การฟัง (Pre-listening)
การที่ผู้เรียนจะฟังสารได้อย่างเข้าใจ ควรต้องมีข้อมูลบางส่วน
เกี่ยวกับสารที่ได้รับฟัง โดยครูผู้สอนอาจใช้กิจกรรมนาให้ผู้เรียนได้มี
ข้อมูลบางส่วนเพื่อช่วยสร้างความเข้าใจในบริบท ก่อนการรับฟังสาร
ที่กาหนดให้ เช่น การทบทวนคาศัพท์ที่เกี่ยวข้อง อาจทบทวน
คาศัพท์จากความรู้เดิมที่มีอยู่แล้ว ซึ่งจะปรากฏอีกในสารที่จะได้รับ
ฟัง เป็นการช่วยทบทวนข้อมูลส่วนหนึ่งของสารที่จะได้เรียนรู้ใหม่
จากการฟัง
- 8. 2. กิจกรรมระหว่างการฟัง หรือ กิจกรรมขณะที่สอนฟัง
(While-listening)
เป็นกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติในขณะที่รับฟังสารนั้น
กิจกรรมนี้มิใช่การทดสอบการฟัง แต่เป็นการ “ฝึกทักษะการฟัง
เพื่อความเข้าใจ” กิจกรรม ระหว่างการฟังนี้ ไม่ควรจัดกิจกรรมให้
ผู้เรียนได้ปฏิบัติทักษะอื่นๆ เช่น อ่าน หรือ เขียน หรือ พูด มากนัก
ตัวอย่างเช่น การจัดกิจกรรมประเภทต่อไปนี้
- 9. ฟังแล้วจับคู่ภาพกับประโยคที่ได้ฟัง ผู้เรียนมีภาพคนละหลายภาพ ครูอ่าน
ประโยคทีละประโยค ผู้เรียนเลือกจับคู่ภาพที่สอดคล้องกับประโยคที่ได้ฟัง โดย
การเขียนหมายเลขลาดับที่ของประโยคลงใต้ภาพแต่ละภาพ
ฟังแล้วปฏิบัติตาม ผู้สอนพูดประโยคคาสั่งให้ผู้เรียนฟัง ผู้เรียนปฏิบัติตามคาสั่ง
ที่ได้ฟังแต่ละประโยค
ฟังแล้วแสดงบทบาท ผู้สอนพูดประโยคหรือข้อความเกี่ยวกับบทบาทให้ผู้เรียน
ฟัง ผู้เรียนแสดงบทบาทตามประโยคที่ได้ฟังแต่ละประโยค หรือข้อความนั้น
ฟังแล้วเขียนเส้นทาง ทิศทาง ผู้เรียนมีภาพสถานที่ต่างๆ คนละ 1 ภาพ ผู้สอน
พูดประโยคหรือข้อความเกี่ยวกับเส้นทาง ทิศทาง ที่จะไปสู่สถานที่ต่างๆ ในภาพ
นั้นให้ผู้เรียนฟัง ผู้เรียนลากเส้นทางจากตาแหน่งสถานที่แห่งหนึ่งไปสู่ตาแหน่ง
ต่างๆ ตามที่ได้ฟัง เป็นต้น
- 10. 3. กิจกรรมหลังการฟัง (Post-listening)
เป็นกิจกรรมที่มุ่งให้ผู้เรียนได้ฝึกการใช้ภาษา ภายหลังที่ได้ฝึก
ปฏิบัติกิจกรรมระหว่างการฟังแล้ว เช่น อาจฝึกทักษะการเขียน
สาหรับผู้เรียนระดับต้น โดยให้เขียนตามคาบอกจากประโยคที่ได้ฟัง
มาแล้ว เป็นการตรวจสอบความรู้ ความถูกต้องของการเขียน
คาศัพท์ สานวน โครงสร้างไวยากรณ์ของประโยคนั้น หรือฝึกทักษะ
การพูดสาหรับผู้เรียนระดับสูง โดยการให้อภิปรายเกี่ยวกับสารที่ได้
ฟัง หรืออภิปรายเกี่ยวกับอารมณ์หรือเจตคติของผู้พูด เป็นต้น