More Related Content
Similar to เรื่อง ไฟฟ้า (20)
เรื่อง ไฟฟ้า
- 1. รายงาน วิชา วิทยาศาสตร์ เรื่อง ไฟฟ้า จัดทำโดย 1. นายรัฐพงษ์ หล่อวงค์ เลขที่ 7 2. นายอภิวัฒน์ สวยสด เลขที่ 13 3. นางสาวชฎาพร ฟูแสง เลขที่ 15 4. นางสาวมลิวัลย์ โนนตาสี เลขที่ 26 5. นางสาวอัญธิกา บุญเลิศ เลขที่ 35 เสนอต่อ ครูจิราภรณ์ ไชยมงคล โรงเรียนฟากกว๊านวิทยาคม
- 2. การค้นพบไฟฟ้า ก่อนคริสต์ศักราช 600 ปี ทาลีส นักวิทยาศาสตร์ชาวกรีกได้ค้นพบไฟฟ้าขึ้น โดยเขาได้นำเอาแท่งอำพันธ์ขนสัตว์ แท่งอำนาจดูดสิ่งของเบาๆได้ เช่นเส้นผม เป็นต้นเขาจึงใช้ชื่ออำนาจนี้ว่า ไฟฟ้า อิเล็กตรอน electron ต่อมา พ . ศ . 2143 นักวิทย์ยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ชื่อ ด . ร . วิลเลียม กัลเบิร์ต ได้ทดลองโดยนำเอาแท่งแก้ว แท่ฝยางสนมาถูกับผ้าเพรช หรือ ผ้าขนสัตว์ นำมาทดลองกับวัตถุ ได้ผลทดลองเหมือน ทาลีส ใช้ชื่อไฟฟ้าที่เกิดขึ้นว่า อิเล็กโทรไลต์
- 3. ชนิดของไฟฟ้า แบ่ง ออก เป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1. ไฟฟ้าสถิต ( Staic lcctricty ) คือไฟฟ้าที่อนุภาคประจุไฟฟ้าไม่มีการเคลื่อนที่ แต่สามารถส่งพลังงานไฟฟ้าออกมาโดยรอบหากเกิดการเสียดสีของวัตถุ 2 ชนิดประจุไฟฟ้าจะเคลื่อนที่หรือถ่ายเทให้กับวัตถุอีกชนิดหนึ่ง ทำให้เกิดพลังงาน ที่เรียกว่า ประจุไฟฟ้าสถิต ประจุไฟฟ้าที่เกิดขึ้นมี 2 ชนิด คือ ประจุไฟฟ้าบวก ( Positive ) และประจุไฟฟ้าลบ ( Negative ) มีอำนาจดูดวัตถุที่เล็กและเบาได้
- 4. 2.) ไฟฟ้ากระแส คือไฟฟ้าจากการหมุนของขดลวดตัดกับสนามแม่เหล็กถาวรเป็นเวลานานจนเกิดเป็นกระแสไฟฟ้าขึ้น เราเรียกไฟฟ้าแบบนี้ว่า ไฟฟ้ากระแสสลับ มีไฟฟ้าอีกชนิดหนึ่งที่เกิดจากเซลล์ไฟฟ้า หรือเรียกอีกอย่างว่าแบตเตอรี่ ซึ่งเกิดจากการทำปฏิกิริยาของสารเคมีกับโลหะจนเกิดไฟฟ้ขึ้น เซลล์ไฟฟ้าอีกชนิดหนึ่งคือเซลล์ไฟฟ้าแห้งทำจากสารเคมีหลายชนิดบรรจุไว้ในก้อนเมื่อใช้งานจะเกิดกระแสไฟฟ้าขึ้น เช่นถ่านไฟฉาย เราเรียกไฟฟ้าชนิดนี้ว่าไฟฟ้ากระแสตรง แหล่งกำเนิดไฟฟ้เกิดจาก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ไฟฟ้ากระแสตรง และไฟฟ้ากระแสสลับ
- 5. 2.1 เกิดจากปฏิกิริยาทางเคมี เช่น ไฟฟ้าจากถ่านไฟฉาย แบตเตอรี่รถยนตร์ภายในมีสารเคมีบรรจุอยุ่ทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีกับโลหะจนเกิดกระแสไฟฟ้าขึ้น 2.2 เกิดจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าหรือไดนาโม โดยอาศัยหลักการทำงานของขดลวดทองแดงเคลื่อนที่ตัดผ่านสนามแม่เหล็ก หรือแม่เหล็กเคลื่อนที่ในทองแดง
- 6. 1. ไฟฟ้ากระแสตรง ไฟฟ้ากระแสตรง direct current หรือ D.C. เป็นไฟฟ้าที่มีทิศทางการไหลทางเดียวตลอดระยะเวลาที่วงจรไฟฟ้าปิด กล่าวคือ กระแสไฟฟ้า จะไหลจากขั้วบวกไปขั้วลบ ภายในแหล่งกำเนิด และแหล่งกำเนิดไฟฟ้าที่เรารู้จัก เช่น ถ่านไฟฉาย แบตเตอรรี่ ไดนาโม เป็นต้น
- 7. ไฟฟ้ากระแสสลับหมายถึงกระแสไฟฟ้าที่มีการสลับสับเปลี่ยนขั้วอยู่ตลอดเวลาอย่างสม่ำเสมอ ทิศทางการไหลของกระแสไฟฟ้าก็จะเปลี่ยนสลับไปมาจากบวก - ลบและจากลบ - บวก อยู่ตลอดเวลา ซึ่งไฟฟ้ากระแสสลับเป็นไฟฟ้าที่ใช้กันตามบ้านเรือนและโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไปเมื่อเรานำไฟฟ้ากระแสสลับมาเขียนเป็นกราฟความสัมพันธ์ระหว่างแรงดันไฟฟ้ากับมุมที่เปลี่ยนไปเมื่อเวลาผ่านไปในขณะที่เกิดการไหลของกระแสไฟฟ้าจะได้ความสัมพันธ์ของกราฟเป็นเส้นโค้งสลับขึ้นลงไปมาซึ่งหมายถึงเมื่อเวลาผ่านไปแรงดันไฟฟ้าจะสลับการไหลตลอดเวลา การไหลของกระแสสลับกลับไปกลับมาครบ 1 รอบ เรียกว่า 1 ไซเคิล ( cycle) หรือ 1 รูปคลื่นและจำนวนรูปคลื่นทั้งหมดในเวลาที่ผ่านไป 1 วินาที เรียกว่า ความถี่ ( frequency) ซึ่งความถี่ไฟฟ้ามีหน่วยวัดเป็นรอบต่อวินาทีหรือรูปคลื่นต่อวินาทีหรือไซเคิลต่อวินาทีมีหน่วยย่อเป็น " เฮิรตซ์ "( Hertz) สำหรับความถี่ไฟฟ้าในประเทศไทยเท่ากับ 50 เฮิรตซ์ ไฟฟ้ากระแสสลับ
- 8. การเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าไปเป็นพลังงานกล ก็คือการนำพลังงานไฟฟ้ามาทำให้ สิ่งต่างๆที่จับต้องได้ เกิดแรงชนิดกล่าว กระทำต่อกัน อุปกรณ์ไฟฟ้าที่สามารถเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล ก็คือ มอเตอร์ไฟฟ้า กับ แม่เหล็กไฟฟ้า ( ไดนาโม เป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงานกลเป็นพลังงานไฟฟ้า ) เพราะฉะนั้น เครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรก็ตามที่มีส่วนประกอบเป็น มอเตอร์ และหรือ แม่เหล็กไฟฟ้า ก็คือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล ส่วนจะนำพลังงานกลที่ได้ไปทำอะไรต่อ ก็แล้วแต่ชนิดของเครื่องไฟฟ้านั้น เช่น พัดลมไฟฟ้า , เครื่องปรับอากาศ , เครื่องซักผ้า , ตู้เย็น , รถยนต์ไฟฟ้า , รถไฟฟ้า BTS, รถไฟใต้ดินของ รฟม ฯลฯ คิดต่อเองแล้วกัน แต่หม้อหุงข้าว , เตารีด ไม่ใช่นะครับ เพราะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อน หลอดไฟ ก็ไม่ใช่ เพราะเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานแสง การเปลี่ยนพลังงาน
- 9. อุปกรณ์สำคัญที่ทำให้เกิดการทำงานคืออะไร 1. หม้อแปลงไฟฟ้า 2. มอเตอร์ไฟฟ้า - มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง - มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ - มอเตอร์สปลิทเฟส - มอเตอร์คาปาซิเตอร์ - มอเตอร์เชดเดคโปล - มอเตอร์ยูนิเวอร์เซล 3. สายไฟฟ้า 4. เบรกเกอร์ไฟฟ้า 5. หลอดไฟฟ้า 6. สวิตซ์ไฟฟ้า