Weitere ähnliche Inhalte
Ähnlich wie สามัคคีเภทคำฉันท์ (20)
Mehr von A'waken P'Kong (10)
สามัคคีเภทคำฉันท์
- 2. อุป ชาติ ฉัน ท์ ๑๑
๏ เราคิดจะใคร่ยก พยุห์พล
สกลไกร
ประชุมประชิดชัย รณรัฐวัชชี
๏ ฉะนี้แหละเสนา บดิฐาน
มนตรี
คือใครจะใคร่มี พจค้าน
ประการไร
๏ ฝ่ายพราหมณ์ก็กราบทูล อดิศูรนรา
ศัย
นยาธิบายใน วจนัตถทัดทาน
๏ พระราชปรารม ภนิยมมิ
ควรการณ์
ขอองคภูบาล พิเคราะห์ถ่อง ณ
- 3. ๏ มิแผกมิผิดพา กยข้า
พระองค์ทาย
ไป่ได้สะดวกดาย และ
จะแพ้เพราะไพรี
๏ พวกลิจฉวีขัต ติยรัฐวัชชี
ละองค์ละองค์ม
ี มิตร
พันธมั่นคง
๏ อนึงสิสามารถ
่ รณอาจ
กระทำาสง
ครามยุทธยรรยง มิ
ระย่อมิเยงใคร
๏ เราน้อยจะย่อยยับ พล
ทัพปราชัย
- 4. ๏ เราน้อยจะย่อยยับ พลทัพ
ปราชัย
กระนี้แหละแน่ใน มนข้า
พยากรณ์
๏ และอีกประการเล่า ผิวเขา
คะนึงคลอน
แคลนพาลระรานรอน
ทุจริตผจญเรา
๏ เป็นก่อนกระนั้นชอบ ทุษ
ตอบก็ทำาเนา
มิมีคดีเอา ธุระเห็น บ
เป็นธรรม
- 5. ถอดความอุป ชาติฉ ัน ท์ ๑๑
เมื่อพระเจ้าอชาตศัตรูเสด็จออกว่าราชการ ท่ามกลางเหล่า
เสนาบดีและอมาตย์ทั้งหลาย ทีเข้าเฝ้าฯเรียงรายตามฐานันดร
่
ศักดิ์ ณ ท้องพระโรงเพื่อคอยรับฟังพระราชโองการเรืองต่างๆ
่
พระองค์จึงมีพระราชดำารัสว่า พระองค์มีพระประสงค์จะยกกองทัพ
อันเกรียงไกรไปทำาสงครามกับแคว้นวัชชี ด้วยเหตุนี้บรรดา
เสนาบดีและอมาตย์ทั้งหลายมีผู้ใดจะคัดค้านอย่างไรหรือไม่
วัสสการพราหมณ์จึงกราบทูลพระมหากษัตริย์ แสดงความคิดเห็น
ส่วนตัวว่า ในข้อที่จะทรงกรีธาทัพอันเกรียงไกรไปตีเมืองกษัตริย์
แห่งแคว้นวัชชีนั้นคงจะไม่สมดังประราชประสงค์ จะมิผิดไปจาก
คำากราบทูลของข้าพระพุทธเจ้าที่ถวายทำานายไว้ จะไม่ได้แคว้น
วัชชีอย่างสะดวกสบาย ทั้งยังจะต้องพ่ายแพ้ศัตรู เพราะกษัตริย์
แห่งแคว้นวัชชีนั้นแต่ละองค์ทรงมีความสามัคคีกันอย่างมั่นคง
นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการทำาสงครามไม่เกรงกลัวผู้ใด
พวกของเราน้อยกว่าจะเป็นฝ่ายแพ้ ข้าพระพุทธเจ้ามั่นใจจึงขอ
ทำานายเช่นนี้ อีกประการหนึ่งนั้นถ้าหากพวกเขาคิดร้ายกลั่นแกล้ง
ให้เราเดือดร้อนก่อน ก็เป็นการสมควรที่จะตอบโต้กลับไปบ้าง แต่
- 6. อีท ิส ัง ฉัน ท์ ๒๐
๏ ภูบดีสดับอุปายะตาม
ณ วาทวัสสการะพราหมณ ณ บังอาจ
๏ เกินประมาณเพราะการณ์ละเมิดประมาท
บ ควรจะขัดบรมราช วโรงการ
๏ ท้าวก็ทรงแสดงพระองค์ ธ ปาน
ประหนึ่งพระราชหทัยลุดาล
พิโรธจึง
๏ ผันพระกายกระทืบพระบาทและอึง
พระศัพทสีหนาทพึง สยองภัย
๏ เอออุเหม่นะมึงชิช่างกระไร
ทุทาสสถุลฉะนี้ไฉน ก็มาเป็น
- 7. ๏ ศึก บ ถึงและมึงก็ยังมิเห็น
จะน้อยจะมากจะยากจะเย็น
ประการใด
๏ อวดฉลาดและคาดแถลงเพราะใจ
ขยาดขยั้นมิทันอะไร ก็หมิ่นกู
๏ กลละกากะหวาดขมังธนู
บ ห่อนจะเห็นธวัชริป
ู สิลา
่
ถอย
๏ พ่ายเพราะภัยพะตัวและกลัวจะพลอย
พินาศชิพิตประดิดประดอย ประเด็น
ขัด
๏ กูก็เอกอุดมบรมกษัตริย์
วิจาระถ้วน บ ควรจะทัด จะ
ทานคำา
๏ นี่นะเห็นเพราะเป็นอมาตย์กระทำา
- 10. ถอดความอีท ิส ัง ฉัน ท์ ๒๐
พระเจ้าอชาตศัตรูทรงฟังกลอุบายตามคำากราบทูล
ของวัสสการพราหมณ์ที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพและขัด
คำาสังพระองค์ จึงทรงกระทำาเสมือนหนึ่งว่าทรงขัดเคือง
่
พระราชหฤทัย ขยับพระองค์กระทืบพระบาทและทรง
ตวาดด้วยเสียงที่ดังน่าเกรงขาม เจ้าช่างเป็นทาสที่ชั่วช้า
เลวทราม เหตุใดจึงตำาหนิข้าถึงเพียงนี้ ศึกสงครามก็ยัง
ไม่ทันมีมา มึงก็ยงไม่เห็นว่าข้าศึกจะมากหรือน้อยเพียง
ั
ใด และการทำาสงครามจะยากจะง่ายประการใด กลับมา
ทำาอวดฉลาดคาดคะเนเอาก็เพราะใจมีหวาดกลัวอยู่
ไม่ทันอะไรเลยก็มาหมิ่นกูเสียแล้ว เสมือนหนึ่งกาที่หวาด
เกรงพรานผู้ชำานาญ นี่ยงไม่ทันเห็นธงของศัตรูเลยก็สั่ง
ั
ถอยเสียแล้ว พ่ายแพ้เพราะเกรงภัยจะมาถึงตัว กลัวว่าจะ
พลอยเสียชีวิตจึงคิดหาประเด็นมาขัดแย้ง เราเป็นถึง
กษัตริย์ผู้สูงส่ง มีวิจารณญาณถี่ถ้วนไม่สมควรจะมา
ทัดทาน นี่เราเห็นว่าเป็นอมาตย์รับราชการมาหลายปี ไม่
เช่นนั้นเราจะสั่งประหารชีวิตตัดหัวเสียบประจานทันที
นคราภิบาลและราชบุรุษจะรีรออยู่ทำาไม จงรีบลากตัวคน
ชั่วร้ายออกไปโดยไม่ต้องเห็นอกเห็นใจกับคนคด เอาตัว
- 11. คุณ ค่า ด้า นวรรณศิล ป์
เรื่องสามัคคีเภทคำาฉันท์ มีที่มาจากหนังสือ
ธรรมจักษุ ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวง
วชิรญาณวงศ์ (ม.ร.ว.ชื่น นภวงศ์) นายชิต บุร
ทัต ได้อ่านนิทานแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีมีคติจึง
แต่งเป็นฉันท์ นายชิต บุรทัต มีฝีมือเชียวชาญ
่
ในการแต่งคำาประพันธ์ประเภทฉันท์เป็นอย่าง
มาก โดยเฉพาะการเลือกฉันท์ชนิดต่างๆ มาใช้
สลับกันอย่างเหมาะสมกับเนื้อเรื่องและลีลาของ
แต่ละตอน จนได้รับการยกย่องว่ามีความ
ไพเราะ งดงาม เป็นที่นิยมอ่านแล้วจดจำาตลอด
มา นายชิต บุรทัต แต่งเรื่องสามัคคีเภทคำา
- 12. ๑. การสรรหาคำา เป็นการเลือกใช้คำาในลักษณะ
ต่างๆ เพื่อความคิดและความรู้สกได้แก่
ึ
๑.๑) การเลือกใช้คำาได้ถูกต้อง มีความหมาย
ชัดเจน สันแต่ได้ใจความ เช่น
้
๏ เราคิดจะใคร่ยก พยุห์พล
สกลไกร
ประชุมประชิดชัย รณรัฐวัชชี
๏ ฉะนี้แหละเสนา บดิฐาน
มนตรี
คือใครจะใคร่มี พจค้าน
ประการไร
- 13. ๑.๒) การเลือกใช้คำาเหมาะสมกับฐานะของบุคคล
ในเรื่อง เช่น
- พระเจ้าอชาตศตรูกับวัสสการพราหมณ์
๏ เอออุเหม่นะมึงชิชางกระไร
่
ทุทาสสถุลฉะนี้ไฉน ก็มาเป็น
๏ ศึก บ ถึงและมึงก็ยังมิเห็น
จะน้อยจะมากจะยากจะเย็น ประการ
ใด
๏ อวดฉลาดและคาดแถลงเพราะใจ
ขยาดขยั้นมิทันอะไร ก็หมินกู
่
- 15. ๑.๔) การเลือกใช้คำาโดยคำานึงเสียง
(๑.) มีการเล่นคำาสัมผัสคล้องจอง เช่น
๏ ใช่กระนั้นละไซร้จะให้ประหาร
ชิวาตม์และหัวจะเสียบประจาน
ณ ทันที
๏ นาคราภิบาลสภาบดี
และราชบุรุษแน่ะเฮ้ยจะรี จะ
รอไย
๏ ฉุดกระชากกลีอปรีย์เถอะไป
บ พักจะต้องกรุณอะไร กะ
คนคด
- 17. ๒. การใช้โวหาร ดังนี้
๒.๑) บรรยายโวหาร เป็นการใช้ถ้อยคำาเล่าเรื่อง
ราวต่างๆ ตามลำาดับเหตุการณ์จนเห็นภาพ
ชัดเจน ดังตัวอย่าง
๏ ภูบดีสดับอุปายะตาม
ณ วาทวัสสการะพราหมณ ณ
บังอาจ
๏ เกินประมาณเพราะการณ์ละเมิดประมาท
บ ควรจะขัดบรมราช วโรงการ
- 18. ๏ ท้าวก็ทรงแสดงพระองค์ ธ ปาน
ประหนึ่งพระราชหทัยลุดาล พิโรธจึง
๏ ผันพระกายกระทืบพระบาทและอึง
พระศัพทสีหนาทพึง สยองภัย
๏ เอออุเหม่นะมึงชิชางกระไร
่
ทุทาสสถุลฉะนี้ไฉน ก็มาเป็น
- 19. ๒.๒) อุปมาโวหาร เป็นโวหารที่กวีนำามาใช้
ประกอบเรื่องโดยการเล่าแบบเปรียบเทียบ เพื่อ
ให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ดังตัวอย่าง
๏ กลละกากะหวาดขมังธนู
บ ห่อนจะเห็นธวัชริปู สิล่า
ถอย
๏ พ่ายเพราะภัยพะตัวและกลัวจะ
พลอย
พินาศชิพิตประดิดประดอย
ประเด็นขัด
๏ กูก็เอกอุดมบรมกษัตริย์