SlideShare ist ein Scribd-Unternehmen logo
1 von 6
Downloaden Sie, um offline zu lesen
วิธีจัดการเรียนการสอนแบบ 4 MAT
1. แนวคด/ทฤษฎการเรยนการสอนแบบ 4 MAT
       ิ     ี    ี
     ทฤษฎีการสรางความรูดวยตนเอง (Constructivsm)
     ทฤษฎีพัฒนาการทางเชาวนปญญาของเพียเจตและขแงไวกอตสกี้เปนรากฐานที่สําคัญของทฤษฎีการ
สรางความรูดวยตนเอง (Constructivsm) เพียเจตอธิบายวา พัฒนาการทางเชาวนปญญาของบุคคลมีการ
ปรับตัวผานทางกระบวนการซึมซับหรือดูดซึม (assimilation) และกระบวนการปรับโครงสรางทางเชาวน
ปญญา (assommodation) พัฒนาการเกิดขึ้นเมื่อบุคคลรับและซึมซับขอมูลหรือประสบการณใหมเขาไป
 
สัมพันธกับความรูหรือโครงสรางทางปญญาที่มีอยูเดิม หากไมสามารถสัมพันธไดจะเกิดภาวะไมสมดุลขึ้น
(disequilibrium) บุคคลจะพยายามปรับสภาวะใหอยูในภาวะสมดุล (equilibrium) โดยใชกระบวนการปรบ
                                                                                       ั
โครงสรางทางเชาวนปญญา (assommodation) สวนไวก็อตสกี้ใหความสําคัญกับวัฒนธรรมและสังคมมาก
เขาอธิบายวามนุษยไดรับอิทธิพลมาจากสิ่งแวดลอมตั้งแตแรกเกิด ซึ่งนอกจากสิ่งแวดลอมทางธรรมชาติแลว
ก็ยังมีสิ่งแวดลอมทางสังคมซึ่งก็คือวัฒนธรรมที่แตละสังคมสรางขึ้น ดังนั้นสถาบันสังคมตางๆเริ่มตั้งแต
สถาบันครอบครัวจะมีอิทธิพลตอพัฒนาการทางเชาวนปญญาของแตละบุคคล และไวก็อตสกี้ มีความเชื่อวา
การใหความชวยเหลือชี้แนะแกเด็กซึ่งอยูในลักษณะของ “assisted learning” หรอ “scaffolding” เปนสิ่ง
                                                                          ื
สําคัญมาก เพราะสามารถชวยพัฒนาเด็กใหไปถึงระดับที่อยูในศักยภาพของเด็กได(อางในทิศนา แขมมณี,
2547)
     การประยุกตใชทฤษฎีในการเรียนการสอน
     1. ตามทฤษฎีการสรางความรู ผลของการเรียนรูจะมุงเนนไปที่กระบวนการสรางความรู (process of
knowledge construction) และการตระหนกรในกระบวนการนน (reflexive awareness of that process)
                                   ั ู          ้ั
เปาหมายการเรียนรูจะตองมาจากการปฏิบัติจริง (authentic tasks) ครูจะตองเปนตัวอยางและฝกฝน
กระบวนการเรียนรูใหผูเรียนเห็น ผูเรียนจะตองฝกฝนการสรางความรูดวยตนเอง
     2. เปาหมายของการสอนจะเปลี่ยนจากการถายทอดใหผูเรียนไดรับสาระความรูที่แนนนอนตายตัว
ไปสูการสาธิตกระบวนการแปลและสรางความหมายที่หลากหลาย และเรียนรูทักษะตางๆ จะตองมี
ประสิทธิภาพถึงขั้นทําไดและแกปญหาจริงได
     3. ในการเรียนการสอน ผูเรียนจะเปนผูมีบทบาทในการเรียนรูอยางตื่นตัว (active) ผูเรียนจะตองเปนผู
จัดกระทํากับขอมูลหรือประสบการณตางๆ และจะตองสรางความหมายใหกับสิ่งนั้นดวยตนเอง โดยการให
ผูเรียนอยูในบริบทจริง ซึ่งไมไดหมายความวาผูเรียนจะตองออกไปยังสถานที่จริงเสมอไป แตอาจจัดเปน
กิจกรรมที่เรียกวา “physical knowledge activities” ซึ่งเปนกิจกรรมที่เปดโอกาสใหผูเรียนมีปฏิสัมพันธกับ
สื่อ วัสดุอุปกรณสิ่งของหรือขอมูลตางๆที่เปนของจริง และมีความสอดคลองกับความสนใจของผูเรียน โดย
ผูเรียนสามารถจัดกระทํา ศึกษา สํารวจ วิเคราะห ทดลอง ลองผิดลองถูกกับสิ่งนั้นๆ จนเกิดเปนความรูความ
เขาใจขึ้น ดังนั้นความเขาใจเปนสิ่งที่เกิดขึ้นจากกระบวนการคิดการจัดกระทําขอมูล มิใชเกิดขึ้นไดงายๆจาก
การไดรับขอมูลหรือมีขอมูลเพียงเทานั้น
     
     4. ในการจัดการเรียนการสอนครูจะตองพยายามสรางบรรยากาศทางสังคมจริยธรรม (socialmoral) ให
เกิดขึ้น กลาวคือ ผูเรียนจะตองมีโอกาสเรียนรูในบรรยากาศที่เอื้อตอการปฏิสัมพันธทางสังคม ซึ่งทางสังคม
ถือวาเปนปจจัยสําคัญของการสรางความรู เพราะลําพังกิจกรรมและวัสดุอุปกรณทั้งหลายที่ครูจัดเตรียมให
หรือผูเรียนแสวงหามาเพื่อการเรียนรู ไมเปนการเพียงพอ ปฏิสัมพันธทางสังคม การรวมมือ และการ
แลกเปลี่ยนความรู ความคิด และประสบการณระหวางผูเรียนกับผูเรียนและบุคคลอื่นๆ จะชวยใหการเรียนรู
ของผูเรียนกวางขึ้น ซับซอนขึ้น และหลากหลายขึ้น
     5. ในการเรียนการสอนผูเรียนมีบทบาทในการเรียนรูอยางเต็มที่ (Deveries อางในทิศนา แขมมณี,
2547) โดยผูเรียนจะนําตนเองและควบคุมตัวเองในการเรียนรู เชน ผูเรียนจะเปนผูเลือกสิ่งที่ตองการเรียนเอง
ตั้งกฎระเบียบเอง แกปญหาที่เกิดขึ้นเอง ตกลงกันเองเมื่อเกิดความขัดแยงหรือมีความคิดเห็นที่แตกตางกัน
เลือกผูรวมงานไดเอง และรับผิดชอบในการดูแลรักษาหองเรียนรวมกัน
     6. ในการเรียนการสอนแบบสรางความรู ครูจะมีบทบาทแตกตางกันไปจากเดิม ( Deveries อางในทิศ
นา แขมมณี, 2547) คือ จากการเปนผูถายทอดความรูและควบคุมการเรียนรู เปลี่ยนไปเปนการใหความ
รวมมือ อํานวยความสะดวก และชวยเหลือผูเรียนในการเรียนรู คือการเรียนการสอนจะตองเปลี่ยนจาก
“instruction” ไปเปน “construction” คือ เปลี่ยนจาก “การใหความรู” ไปเปน “การใหผูเรียนสรางความรู”
บทบาทของครูก็คือจําตองทําหนาที่ชวยสรางแรงจูงใจภายในใหเกิดแกผูเรียน จดเตรยมกจกรรมการเรยนรู
                                                                           ั ี ิ            ี
ตรงกับความสนใจของผูเรียน ดําเนินกิจกรรมใหเปนไปในทางที่สงเสริมพัฒนาการของของเรียน ให
คําปรึกษาแนะนําทั้งทางดานวิชาการและดานสังคมแกผูเรียน ดูแลใหความชวยเหลือผูที่มีปญหา และ
ประเมินการเรียนรูของผูเรียน นอกจากนั้นครูยังตองมีความเปนประชาธิปไตยและมีเหตุผลในการสัมพันธ
กับผูเรียนดวย
     7. ในดานการประเมนผลการเรยนการสอน (Jonassen อางในทิศนา แขมมณี, 2547) เนื่องจากการ
                    ิ       ี
เรียนรูตามทฤษฎีการสรางความรูดวยตนเองนี้ขึ้นกับความสนใจและการสรางความหมายที่แตกตางกันของ
บุคคล ผลการเรียนรูที่เกิดขึ้นจึงมีลักษณะหลากหลาย ดังนั้นการประเมินผลจึงจําเปนตองมีลักษณะเปน
“goal free evaluation” ซึ่งก็หมายถึงการประเมินตามจุดมุงหมายในลักษณะที่ยืดหยุนกันไปในแตละบุคคล
                                                                                        
หรืออาจใชวิธีการเรียกวา “socially negotiated goal” และการประเมนตนเองดวย นอกจากนนการวดผล
                                                                ิ               ้ั   ั
จําเปนตองอาศัยปริบทจริงที่มีความซับซอนเชนเดียวกับการจัดการเรียนการสอนที่ตองอาศัยบริบท กิจกรรม
และงานที่เปนจริง การจัดผลจะตองใชกิจกรรมหรืองานในบริบทจริงดวย ซึ่งในกรณีที่จําเปนตองจําลองของ
จริงมาก็สามารถทําได แตเกณฑที่ใชควรเปนเกณฑที่ใชในโลกของความจริง (real world criteria) ดวย
                                                                                             
2. วิธีการจัดการเรียนการสอนแบบ 4 MAT
     แม็คคารธี (McCarthy, อางในทิศนา แขมมณี, 2547) เปนผูพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนนี้ขึ้นจาก
แนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรูของโคลบ (Kolb) โดยวธการจดการเรยนการสอนดงน้ี
                                              ิี ั       ี        ั
     ขั้นที่1 การสรางประสบการณ ผูสอนเริ่มตนจากการจัดประสบการณใหผูเรียนเห็นคุณคาของเรื่องที่
                   
เรียนดวยตนเอง ซึ่งจะชวยใหผูเรียนสามารถตอบคําถามไดวาทําไมตนจึงตองเรียนรู เรื่องนี้
     ขั้นที่2 การวิเคราะหประสบการณหรือสะทอนความคิดจากประสบการณ ชวยใหผูเรียนเกิดความ
ตระหนักรู และยอมรับความสําคัญของเรื่องที่เรียน
     ขั้นที่3 การพัฒนาประสบการณเปนความคิดรวบยอดหรือแนวคิด เมื่อผูเรียนเห็นคุณคาของเรื่องที่เรียน
แลว ผูเรียนจึงจัดกิจกรรมการเรียนรูที่ชวยใหผูเรียนสามารถสรางความคิดรวบยอดขั้นดวยตนเอง
     ขั้นที่4 การพัฒนาความรูความคิด เมื่อผูเรียนมีประสบการณและเกิดความคิดรวบยอดหรือแนวคิด
พอสมควรแลว ผูสอนจึงกระตุนใหผูเรียนพัฒนาความรูความคิดของตนใหกวางขวางและลึกซึ้งขึ้น โดยการ
ใหผูเรียนศึกษาคนควาเพิ่มเติมจากแหลงความรูที่หลากหลาย การเรียนรูขั้นที่ 3 และ 4 นี้ คือการตอบคําถาม
วา สิ่งที่ไดเรียนรูคืออะไร
     ขั้นที่ 5 การปฏิบัติตามแนวคิดที่ไดเรียนรู ในขั้นนี้ผูสอนเปดโอกาสใหผูเรียนนําความรูความคิดที่ได
จากการเรียนรูในขั้นที่ 3-4 มาทดลองปฏิบัติจริง และศึกษาผลที่เกิดขึ้น
     ขั้นที่ 6 การสรางสรรคชนงานของตนเอง จากการปฏิบัติตามแนวคิดที่ไดเรียนรูในขั้นที่ 5 ผูเรียนจะเกิด
                          ้ิ
การเรียนรูถึงจุดเดนจุดดอยของแนวคิด ความเขาใจแนวคิดนั้นจะกระจางขึ้น ในขั้นนี้ผูสอนควรกระตุนให
ผูเรียนพัฒนาความสามารถของตน โดยการนําความรูความเขาใจนั้นไปใชหรือปรับประยุกตใชในการสราง
ชิ้นงานที่เปนความคิดสรางสรรคของตนเอง ดังนั้นคําถามหลัก ที่ใชในขั้นที่ 5-6 ก็คือจะทําอยางไร
     ขั้นที่ 7 การวิเคราะหผลงานและแนวทางการนําไปประยุกตใช เมื่อผูเรียนไดสรางสรรคชิ้นงานของตน
ตามความถนัดแลว ผูสอนควรเปดโอกาสใหผูเรียนไดแสดงผลงานของตน ชื่นชมกับความสําเร็จ และเรียนรู
ที่จะวิพากษวิจารณอยางสรางสรรค รวมทั้งรับฟงขอวิพากษวิจารณ เพื่อการปรับปรุงงานของตนใหดีขึ้น
และการนําไปประยุกตใชตอไป
ขั้นที่ 8 การแลกเปลี่ยนความรูความคิด ขั้นนี้เปนขั้นของการขยายขอบขายของความรูโดยการ
แลกเปลยนความรความคดแกกนและกน และรวมกนอภิปรายเพื่อการนําการเรียนรูไปเชื่อมโยงกับชีวิตจริง
      ่ี     ู   ิ ั     ั      ั
และอนาคต คําถามหลักในการอภิปรายก็คือ ถา....? ซึ่งอาจนําไปสูการเปดประเด็นใหมสําหรับผูเรี ยนในการ
เริ่มตนวัฏจักรของการเรียนรูในเรื่องใหมตอไป
สรุปการเรียนรูแบบ 4 MAT มีทั้งหมด 8 ขั้น
ขั้นที่1 การสรางประสบการณ
              
ขั้นที่2 การวิเคราะหประสบการณหรือสะทอนความคิดจากประสบการณ
ขั้นที่3 การพัฒนาประสบการณเปนความคิดรวบยอดหรือแนวคิด
ขั้นที่4 การพัฒนาความรูความคิด
ขั้นที่ 5 การปฏิบัติตามแนวคิดที่ไดเรียนรู
ขั้นที่ 6 การสรางสรรคชนงานของตนเอง
                     ้ิ
ขั้นที่ 7 การวิเคราะหผลงานและแนวทางการนําไปประยุกตใช
ขั้นที่ 8 การแลกเปลี่ยนความรูความคิด

Weitere ähnliche Inhalte

Was ist angesagt?

การสร้างกรอบแนวคิด
การสร้างกรอบแนวคิดการสร้างกรอบแนวคิด
การสร้างกรอบแนวคิดPrachyanun Nilsook
 
แบบประเมินผู้เชี่ยวชาญ
แบบประเมินผู้เชี่ยวชาญแบบประเมินผู้เชี่ยวชาญ
แบบประเมินผู้เชี่ยวชาญPitchayaporn Sukrarassamee
 
การบริหารแบบมีส่วนร่วม
การบริหารแบบมีส่วนร่วมการบริหารแบบมีส่วนร่วม
การบริหารแบบมีส่วนร่วมPhakawat Owat
 
7 พฤติกรรมศาสตร์
7 พฤติกรรมศาสตร์7 พฤติกรรมศาสตร์
7 พฤติกรรมศาสตร์Watcharin Chongkonsatit
 
นำเสนอวิทยานิพนธ์
นำเสนอวิทยานิพนธ์นำเสนอวิทยานิพนธ์
นำเสนอวิทยานิพนธ์Jutatip Ni
 
ขออนุญาตใช้แผน
ขออนุญาตใช้แผนขออนุญาตใช้แผน
ขออนุญาตใช้แผนkrudennapa2519
 
ความหมาย ความสำคัญของหลักสูตร
ความหมาย ความสำคัญของหลักสูตรความหมาย ความสำคัญของหลักสูตร
ความหมาย ความสำคัญของหลักสูตรmaturos1984
 
สรุปการวัดประเมินผล
สรุปการวัดประเมินผลสรุปการวัดประเมินผล
สรุปการวัดประเมินผลTupPee Zhouyongfang
 
การเขียนระเบียบวิธีวิจัย
การเขียนระเบียบวิธีวิจัยการเขียนระเบียบวิธีวิจัย
การเขียนระเบียบวิธีวิจัยDr.Krisada [Hua] RMUTT
 
แผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการทักษะชีวิต
แผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการทักษะชีวิตแผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการทักษะชีวิต
แผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการทักษะชีวิตWichai Likitponrak
 
แบบสอบถามความคิดเห็นสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาเกี่ยวกับ
แบบสอบถามความคิดเห็นสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาเกี่ยวกับแบบสอบถามความคิดเห็นสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาเกี่ยวกับ
แบบสอบถามความคิดเห็นสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาเกี่ยวกับบุญรักษา ของฉัน
 
ตัวอย่างคำกล่าวรายงาน
ตัวอย่างคำกล่าวรายงานตัวอย่างคำกล่าวรายงาน
ตัวอย่างคำกล่าวรายงานJitiya Purksametanan
 
โครงงานคณิตศาสตร์กับวิถีชีวิตชาวนา
โครงงานคณิตศาสตร์กับวิถีชีวิตชาวนาโครงงานคณิตศาสตร์กับวิถีชีวิตชาวนา
โครงงานคณิตศาสตร์กับวิถีชีวิตชาวนาจักรพงษ์ แผ่นทอง
 
4สารบัญตารางวิจัย
4สารบัญตารางวิจัย4สารบัญตารางวิจัย
4สารบัญตารางวิจัยkrupornpana55
 

Was ist angesagt? (20)

การสร้างกรอบแนวคิด
การสร้างกรอบแนวคิดการสร้างกรอบแนวคิด
การสร้างกรอบแนวคิด
 
แบบประเมินผู้เชี่ยวชาญ
แบบประเมินผู้เชี่ยวชาญแบบประเมินผู้เชี่ยวชาญ
แบบประเมินผู้เชี่ยวชาญ
 
การบริหารแบบมีส่วนร่วม
การบริหารแบบมีส่วนร่วมการบริหารแบบมีส่วนร่วม
การบริหารแบบมีส่วนร่วม
 
7 พฤติกรรมศาสตร์
7 พฤติกรรมศาสตร์7 พฤติกรรมศาสตร์
7 พฤติกรรมศาสตร์
 
O-NET ม.6-สถิติ
O-NET ม.6-สถิติO-NET ม.6-สถิติ
O-NET ม.6-สถิติ
 
นำเสนอวิทยานิพนธ์
นำเสนอวิทยานิพนธ์นำเสนอวิทยานิพนธ์
นำเสนอวิทยานิพนธ์
 
ขออนุญาตใช้แผน
ขออนุญาตใช้แผนขออนุญาตใช้แผน
ขออนุญาตใช้แผน
 
อนุกรมเรขาคณิต
อนุกรมเรขาคณิตอนุกรมเรขาคณิต
อนุกรมเรขาคณิต
 
ความหมาย ความสำคัญของหลักสูตร
ความหมาย ความสำคัญของหลักสูตรความหมาย ความสำคัญของหลักสูตร
ความหมาย ความสำคัญของหลักสูตร
 
สรุปการวัดประเมินผล
สรุปการวัดประเมินผลสรุปการวัดประเมินผล
สรุปการวัดประเมินผล
 
การเขียนระเบียบวิธีวิจัย
การเขียนระเบียบวิธีวิจัยการเขียนระเบียบวิธีวิจัย
การเขียนระเบียบวิธีวิจัย
 
แผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการทักษะชีวิต
แผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการทักษะชีวิตแผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการทักษะชีวิต
แผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการทักษะชีวิต
 
แบบสอบถามความคิดเห็นสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาเกี่ยวกับ
แบบสอบถามความคิดเห็นสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาเกี่ยวกับแบบสอบถามความคิดเห็นสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาเกี่ยวกับ
แบบสอบถามความคิดเห็นสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาเกี่ยวกับ
 
ตัวอย่างคำกล่าวรายงาน
ตัวอย่างคำกล่าวรายงานตัวอย่างคำกล่าวรายงาน
ตัวอย่างคำกล่าวรายงาน
 
โครงงานคณิตศาสตร์กับวิถีชีวิตชาวนา
โครงงานคณิตศาสตร์กับวิถีชีวิตชาวนาโครงงานคณิตศาสตร์กับวิถีชีวิตชาวนา
โครงงานคณิตศาสตร์กับวิถีชีวิตชาวนา
 
4สารบัญตารางวิจัย
4สารบัญตารางวิจัย4สารบัญตารางวิจัย
4สารบัญตารางวิจัย
 
023 qualitative research
023 qualitative research023 qualitative research
023 qualitative research
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
 
ตัวอย่างแผนเศรษฐกิจพอเพียง
ตัวอย่างแผนเศรษฐกิจพอเพียงตัวอย่างแผนเศรษฐกิจพอเพียง
ตัวอย่างแผนเศรษฐกิจพอเพียง
 
Constructivism
Constructivism Constructivism
Constructivism
 

Andere mochten auch

เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการสอนแบบ 4 mat
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการสอนแบบ 4 matเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการสอนแบบ 4 mat
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการสอนแบบ 4 matSiriphan Kristiansen
 
บรรยากาศที่ห่อหุ้มโลก
บรรยากาศที่ห่อหุ้มโลกบรรยากาศที่ห่อหุ้มโลก
บรรยากาศที่ห่อหุ้มโลกSukanya Burana
 
กระบวนการจัดการเรียนรู้ทักษะเผชิญสถานการณ์
กระบวนการจัดการเรียนรู้ทักษะเผชิญสถานการณ์กระบวนการจัดการเรียนรู้ทักษะเผชิญสถานการณ์
กระบวนการจัดการเรียนรู้ทักษะเผชิญสถานการณ์จารุ โสภาคะยัง
 
Applied cognitive psych Pooja
Applied cognitive psych Pooja Applied cognitive psych Pooja
Applied cognitive psych Pooja JassaniPooja
 
การเรียนรู้แบบร่วมมือ
การเรียนรู้แบบร่วมมือการเรียนรู้แบบร่วมมือ
การเรียนรู้แบบร่วมมือSukanya Burana
 
MarketeerLand Introduction
MarketeerLand IntroductionMarketeerLand Introduction
MarketeerLand IntroductionMarketeerLand
 
Toronto Housing Market Feb '13
Toronto Housing Market Feb '13Toronto Housing Market Feb '13
Toronto Housing Market Feb '13jwtoronto
 
Ap105 presentation 3
Ap105 presentation 3Ap105 presentation 3
Ap105 presentation 3JassaniPooja
 
การเรียนรู้แบบร่วมมือ
การเรียนรู้แบบร่วมมือการเรียนรู้แบบร่วมมือ
การเรียนรู้แบบร่วมมือSukanya Burana
 
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง Proud N. Boonrak
 
2. capacitación-y-desarrollo-talento-humano
2. capacitación-y-desarrollo-talento-humano2. capacitación-y-desarrollo-talento-humano
2. capacitación-y-desarrollo-talento-humanoGINGER NEIRA VALIENTE
 
การ เรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด
การ เรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิดการ เรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด
การ เรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิดSununtha Putpun
 
การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน
การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน
การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน0901326013
 
การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญอรรถกร ใจชาย
 
บทความการสอนแบบเป็นทีม
บทความการสอนแบบเป็นทีมบทความการสอนแบบเป็นทีม
บทความการสอนแบบเป็นทีมPom Pom Insri
 

Andere mochten auch (20)

เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการสอนแบบ 4 mat
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการสอนแบบ 4 matเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการสอนแบบ 4 mat
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการสอนแบบ 4 mat
 
4 mat
4 mat4 mat
4 mat
 
Expand
ExpandExpand
Expand
 
บรรยากาศที่ห่อหุ้มโลก
บรรยากาศที่ห่อหุ้มโลกบรรยากาศที่ห่อหุ้มโลก
บรรยากาศที่ห่อหุ้มโลก
 
กระบวนการจัดการเรียนรู้ทักษะเผชิญสถานการณ์
กระบวนการจัดการเรียนรู้ทักษะเผชิญสถานการณ์กระบวนการจัดการเรียนรู้ทักษะเผชิญสถานการณ์
กระบวนการจัดการเรียนรู้ทักษะเผชิญสถานการณ์
 
Applied cognitive psych Pooja
Applied cognitive psych Pooja Applied cognitive psych Pooja
Applied cognitive psych Pooja
 
การเรียนรู้แบบร่วมมือ
การเรียนรู้แบบร่วมมือการเรียนรู้แบบร่วมมือ
การเรียนรู้แบบร่วมมือ
 
MarketeerLand Introduction
MarketeerLand IntroductionMarketeerLand Introduction
MarketeerLand Introduction
 
Toronto Housing Market Feb '13
Toronto Housing Market Feb '13Toronto Housing Market Feb '13
Toronto Housing Market Feb '13
 
Ap105 presentation 3
Ap105 presentation 3Ap105 presentation 3
Ap105 presentation 3
 
การเรียนรู้แบบร่วมมือ
การเรียนรู้แบบร่วมมือการเรียนรู้แบบร่วมมือ
การเรียนรู้แบบร่วมมือ
 
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
 
2. capacitación-y-desarrollo-talento-humano
2. capacitación-y-desarrollo-talento-humano2. capacitación-y-desarrollo-talento-humano
2. capacitación-y-desarrollo-talento-humano
 
การ เรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด
การ เรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิดการ เรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด
การ เรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด
 
การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน
การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน
การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน
 
Alveolar Bone
Alveolar Bone Alveolar Bone
Alveolar Bone
 
การเรียนรู้เพื่อพัฒนาการคิด
การเรียนรู้เพื่อพัฒนาการคิดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการคิด
การเรียนรู้เพื่อพัฒนาการคิด
 
Cirrhosis
CirrhosisCirrhosis
Cirrhosis
 
การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
 
บทความการสอนแบบเป็นทีม
บทความการสอนแบบเป็นทีมบทความการสอนแบบเป็นทีม
บทความการสอนแบบเป็นทีม
 

Ähnlich wie การเรียนรู้แบบ4 mat

ครูมือใหม่
ครูมือใหม่ครูมือใหม่
ครูมือใหม่Pitsiri Lumphaopun
 
Presentation 5
Presentation 5Presentation 5
Presentation 5tyehh
 
ครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วยครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วยKorakob Noi
 
ภารกิจระดับครูมือใหม่
ภารกิจระดับครูมือใหม่ภารกิจระดับครูมือใหม่
ภารกิจระดับครูมือใหม่Vachii Ra
 
ครูมือใหม่
ครูมือใหม่ครูมือใหม่
ครูมือใหม่panggoo
 
ภารกิจระดับครูผู้ช่วย
ภารกิจระดับครูผู้ช่วยภารกิจระดับครูผู้ช่วย
ภารกิจระดับครูผู้ช่วยนภสร ยั่งยืน
 
ครูผู้ช่วย ภารกิจ
ครูผู้ช่วย ภารกิจครูผู้ช่วย ภารกิจ
ครูผู้ช่วย ภารกิจShe's Kukkik Kanokporn
 
ภารกิจครูมือใหม่
ภารกิจครูมือใหม่ภารกิจครูมือใหม่
ภารกิจครูมือใหม่Beeby Bicky
 
ภารกิจการเรียนรู้ระดับครูผู้ช่วย
ภารกิจการเรียนรู้ระดับครูผู้ช่วยภารกิจการเรียนรู้ระดับครูผู้ช่วย
ภารกิจการเรียนรู้ระดับครูผู้ช่วยPamkritsaya3147
 
หลักสูตร Is คำอธิบายรายวิชา ม.ปลายdoc
หลักสูตร Is คำอธิบายรายวิชา ม.ปลายdocหลักสูตร Is คำอธิบายรายวิชา ม.ปลายdoc
หลักสูตร Is คำอธิบายรายวิชา ม.ปลายdockrupornpana55
 
รูปแบบการสอนบูรณาการ
รูปแบบการสอนบูรณาการรูปแบบการสอนบูรณาการ
รูปแบบการสอนบูรณาการcomputer1437
 
Presentation 5
Presentation 5Presentation 5
Presentation 5moohmed
 

Ähnlich wie การเรียนรู้แบบ4 mat (20)

ครูมือใหม่
ครูมือใหม่ครูมือใหม่
ครูมือใหม่
 
ครูมือใหม่
ครูมือใหม่ครูมือใหม่
ครูมือใหม่
 
Presentation 5
Presentation 5Presentation 5
Presentation 5
 
Teacher1
Teacher1Teacher1
Teacher1
 
ครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วยครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วย
 
ภารกิจระดับครูมือใหม่
ภารกิจระดับครูมือใหม่ภารกิจระดับครูมือใหม่
ภารกิจระดับครูมือใหม่
 
ครูมือใหม่
ครูมือใหม่ครูมือใหม่
ครูมือใหม่
 
ภารกิจระดับครูผู้ช่วย
ภารกิจระดับครูผู้ช่วยภารกิจระดับครูผู้ช่วย
ภารกิจระดับครูผู้ช่วย
 
งาน8และ construcionvism
งาน8และ construcionvismงาน8และ construcionvism
งาน8และ construcionvism
 
ครูผู้ช่วย ภารกิจ
ครูผู้ช่วย ภารกิจครูผู้ช่วย ภารกิจ
ครูผู้ช่วย ภารกิจ
 
ภารกิจครูมือใหม่
ภารกิจครูมือใหม่ภารกิจครูมือใหม่
ภารกิจครูมือใหม่
 
ภารกิจการเรียนรู้ระดับครูผู้ช่วย
ภารกิจการเรียนรู้ระดับครูผู้ช่วยภารกิจการเรียนรู้ระดับครูผู้ช่วย
ภารกิจการเรียนรู้ระดับครูผู้ช่วย
 
ครุผู้ช่วยช่วยTtg
ครุผู้ช่วยช่วยTtgครุผู้ช่วยช่วยTtg
ครุผู้ช่วยช่วยTtg
 
ครูมืออาชีพ
ครูมืออาชีพครูมืออาชีพ
ครูมืออาชีพ
 
หลักสูตร Is คำอธิบายรายวิชา ม.ปลายdoc
หลักสูตร Is คำอธิบายรายวิชา ม.ปลายdocหลักสูตร Is คำอธิบายรายวิชา ม.ปลายdoc
หลักสูตร Is คำอธิบายรายวิชา ม.ปลายdoc
 
ครูมือใหม่
ครูมือใหม่ครูมือใหม่
ครูมือใหม่
 
ครูมือใหม่
ครูมือใหม่ครูมือใหม่
ครูมือใหม่
 
รูปแบบการสอนบูรณาการ
รูปแบบการสอนบูรณาการรูปแบบการสอนบูรณาการ
รูปแบบการสอนบูรณาการ
 
Teacher1
Teacher1Teacher1
Teacher1
 
Presentation 5
Presentation 5Presentation 5
Presentation 5
 

การเรียนรู้แบบ4 mat

  • 1. วิธีจัดการเรียนการสอนแบบ 4 MAT 1. แนวคด/ทฤษฎการเรยนการสอนแบบ 4 MAT ิ ี ี ทฤษฎีการสรางความรูดวยตนเอง (Constructivsm) ทฤษฎีพัฒนาการทางเชาวนปญญาของเพียเจตและขแงไวกอตสกี้เปนรากฐานที่สําคัญของทฤษฎีการ สรางความรูดวยตนเอง (Constructivsm) เพียเจตอธิบายวา พัฒนาการทางเชาวนปญญาของบุคคลมีการ ปรับตัวผานทางกระบวนการซึมซับหรือดูดซึม (assimilation) และกระบวนการปรับโครงสรางทางเชาวน ปญญา (assommodation) พัฒนาการเกิดขึ้นเมื่อบุคคลรับและซึมซับขอมูลหรือประสบการณใหมเขาไป  สัมพันธกับความรูหรือโครงสรางทางปญญาที่มีอยูเดิม หากไมสามารถสัมพันธไดจะเกิดภาวะไมสมดุลขึ้น (disequilibrium) บุคคลจะพยายามปรับสภาวะใหอยูในภาวะสมดุล (equilibrium) โดยใชกระบวนการปรบ  ั โครงสรางทางเชาวนปญญา (assommodation) สวนไวก็อตสกี้ใหความสําคัญกับวัฒนธรรมและสังคมมาก เขาอธิบายวามนุษยไดรับอิทธิพลมาจากสิ่งแวดลอมตั้งแตแรกเกิด ซึ่งนอกจากสิ่งแวดลอมทางธรรมชาติแลว ก็ยังมีสิ่งแวดลอมทางสังคมซึ่งก็คือวัฒนธรรมที่แตละสังคมสรางขึ้น ดังนั้นสถาบันสังคมตางๆเริ่มตั้งแต สถาบันครอบครัวจะมีอิทธิพลตอพัฒนาการทางเชาวนปญญาของแตละบุคคล และไวก็อตสกี้ มีความเชื่อวา การใหความชวยเหลือชี้แนะแกเด็กซึ่งอยูในลักษณะของ “assisted learning” หรอ “scaffolding” เปนสิ่ง ื สําคัญมาก เพราะสามารถชวยพัฒนาเด็กใหไปถึงระดับที่อยูในศักยภาพของเด็กได(อางในทิศนา แขมมณี, 2547) การประยุกตใชทฤษฎีในการเรียนการสอน 1. ตามทฤษฎีการสรางความรู ผลของการเรียนรูจะมุงเนนไปที่กระบวนการสรางความรู (process of knowledge construction) และการตระหนกรในกระบวนการนน (reflexive awareness of that process) ั ู ้ั เปาหมายการเรียนรูจะตองมาจากการปฏิบัติจริง (authentic tasks) ครูจะตองเปนตัวอยางและฝกฝน กระบวนการเรียนรูใหผูเรียนเห็น ผูเรียนจะตองฝกฝนการสรางความรูดวยตนเอง 2. เปาหมายของการสอนจะเปลี่ยนจากการถายทอดใหผูเรียนไดรับสาระความรูที่แนนนอนตายตัว ไปสูการสาธิตกระบวนการแปลและสรางความหมายที่หลากหลาย และเรียนรูทักษะตางๆ จะตองมี ประสิทธิภาพถึงขั้นทําไดและแกปญหาจริงได 3. ในการเรียนการสอน ผูเรียนจะเปนผูมีบทบาทในการเรียนรูอยางตื่นตัว (active) ผูเรียนจะตองเปนผู จัดกระทํากับขอมูลหรือประสบการณตางๆ และจะตองสรางความหมายใหกับสิ่งนั้นดวยตนเอง โดยการให ผูเรียนอยูในบริบทจริง ซึ่งไมไดหมายความวาผูเรียนจะตองออกไปยังสถานที่จริงเสมอไป แตอาจจัดเปน กิจกรรมที่เรียกวา “physical knowledge activities” ซึ่งเปนกิจกรรมที่เปดโอกาสใหผูเรียนมีปฏิสัมพันธกับ
  • 2. สื่อ วัสดุอุปกรณสิ่งของหรือขอมูลตางๆที่เปนของจริง และมีความสอดคลองกับความสนใจของผูเรียน โดย ผูเรียนสามารถจัดกระทํา ศึกษา สํารวจ วิเคราะห ทดลอง ลองผิดลองถูกกับสิ่งนั้นๆ จนเกิดเปนความรูความ เขาใจขึ้น ดังนั้นความเขาใจเปนสิ่งที่เกิดขึ้นจากกระบวนการคิดการจัดกระทําขอมูล มิใชเกิดขึ้นไดงายๆจาก การไดรับขอมูลหรือมีขอมูลเพียงเทานั้น  4. ในการจัดการเรียนการสอนครูจะตองพยายามสรางบรรยากาศทางสังคมจริยธรรม (socialmoral) ให เกิดขึ้น กลาวคือ ผูเรียนจะตองมีโอกาสเรียนรูในบรรยากาศที่เอื้อตอการปฏิสัมพันธทางสังคม ซึ่งทางสังคม ถือวาเปนปจจัยสําคัญของการสรางความรู เพราะลําพังกิจกรรมและวัสดุอุปกรณทั้งหลายที่ครูจัดเตรียมให หรือผูเรียนแสวงหามาเพื่อการเรียนรู ไมเปนการเพียงพอ ปฏิสัมพันธทางสังคม การรวมมือ และการ แลกเปลี่ยนความรู ความคิด และประสบการณระหวางผูเรียนกับผูเรียนและบุคคลอื่นๆ จะชวยใหการเรียนรู ของผูเรียนกวางขึ้น ซับซอนขึ้น และหลากหลายขึ้น 5. ในการเรียนการสอนผูเรียนมีบทบาทในการเรียนรูอยางเต็มที่ (Deveries อางในทิศนา แขมมณี, 2547) โดยผูเรียนจะนําตนเองและควบคุมตัวเองในการเรียนรู เชน ผูเรียนจะเปนผูเลือกสิ่งที่ตองการเรียนเอง ตั้งกฎระเบียบเอง แกปญหาที่เกิดขึ้นเอง ตกลงกันเองเมื่อเกิดความขัดแยงหรือมีความคิดเห็นที่แตกตางกัน เลือกผูรวมงานไดเอง และรับผิดชอบในการดูแลรักษาหองเรียนรวมกัน 6. ในการเรียนการสอนแบบสรางความรู ครูจะมีบทบาทแตกตางกันไปจากเดิม ( Deveries อางในทิศ นา แขมมณี, 2547) คือ จากการเปนผูถายทอดความรูและควบคุมการเรียนรู เปลี่ยนไปเปนการใหความ รวมมือ อํานวยความสะดวก และชวยเหลือผูเรียนในการเรียนรู คือการเรียนการสอนจะตองเปลี่ยนจาก “instruction” ไปเปน “construction” คือ เปลี่ยนจาก “การใหความรู” ไปเปน “การใหผูเรียนสรางความรู” บทบาทของครูก็คือจําตองทําหนาที่ชวยสรางแรงจูงใจภายในใหเกิดแกผูเรียน จดเตรยมกจกรรมการเรยนรู ั ี ิ ี ตรงกับความสนใจของผูเรียน ดําเนินกิจกรรมใหเปนไปในทางที่สงเสริมพัฒนาการของของเรียน ให คําปรึกษาแนะนําทั้งทางดานวิชาการและดานสังคมแกผูเรียน ดูแลใหความชวยเหลือผูที่มีปญหา และ ประเมินการเรียนรูของผูเรียน นอกจากนั้นครูยังตองมีความเปนประชาธิปไตยและมีเหตุผลในการสัมพันธ กับผูเรียนดวย 7. ในดานการประเมนผลการเรยนการสอน (Jonassen อางในทิศนา แขมมณี, 2547) เนื่องจากการ  ิ ี เรียนรูตามทฤษฎีการสรางความรูดวยตนเองนี้ขึ้นกับความสนใจและการสรางความหมายที่แตกตางกันของ บุคคล ผลการเรียนรูที่เกิดขึ้นจึงมีลักษณะหลากหลาย ดังนั้นการประเมินผลจึงจําเปนตองมีลักษณะเปน “goal free evaluation” ซึ่งก็หมายถึงการประเมินตามจุดมุงหมายในลักษณะที่ยืดหยุนกันไปในแตละบุคคล  หรืออาจใชวิธีการเรียกวา “socially negotiated goal” และการประเมนตนเองดวย นอกจากนนการวดผล ิ  ้ั ั
  • 3. จําเปนตองอาศัยปริบทจริงที่มีความซับซอนเชนเดียวกับการจัดการเรียนการสอนที่ตองอาศัยบริบท กิจกรรม และงานที่เปนจริง การจัดผลจะตองใชกิจกรรมหรืองานในบริบทจริงดวย ซึ่งในกรณีที่จําเปนตองจําลองของ จริงมาก็สามารถทําได แตเกณฑที่ใชควรเปนเกณฑที่ใชในโลกของความจริง (real world criteria) ดวย  2. วิธีการจัดการเรียนการสอนแบบ 4 MAT แม็คคารธี (McCarthy, อางในทิศนา แขมมณี, 2547) เปนผูพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนนี้ขึ้นจาก แนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรูของโคลบ (Kolb) โดยวธการจดการเรยนการสอนดงน้ี ิี ั ี ั ขั้นที่1 การสรางประสบการณ ผูสอนเริ่มตนจากการจัดประสบการณใหผูเรียนเห็นคุณคาของเรื่องที่  เรียนดวยตนเอง ซึ่งจะชวยใหผูเรียนสามารถตอบคําถามไดวาทําไมตนจึงตองเรียนรู เรื่องนี้ ขั้นที่2 การวิเคราะหประสบการณหรือสะทอนความคิดจากประสบการณ ชวยใหผูเรียนเกิดความ ตระหนักรู และยอมรับความสําคัญของเรื่องที่เรียน ขั้นที่3 การพัฒนาประสบการณเปนความคิดรวบยอดหรือแนวคิด เมื่อผูเรียนเห็นคุณคาของเรื่องที่เรียน แลว ผูเรียนจึงจัดกิจกรรมการเรียนรูที่ชวยใหผูเรียนสามารถสรางความคิดรวบยอดขั้นดวยตนเอง ขั้นที่4 การพัฒนาความรูความคิด เมื่อผูเรียนมีประสบการณและเกิดความคิดรวบยอดหรือแนวคิด พอสมควรแลว ผูสอนจึงกระตุนใหผูเรียนพัฒนาความรูความคิดของตนใหกวางขวางและลึกซึ้งขึ้น โดยการ ใหผูเรียนศึกษาคนควาเพิ่มเติมจากแหลงความรูที่หลากหลาย การเรียนรูขั้นที่ 3 และ 4 นี้ คือการตอบคําถาม วา สิ่งที่ไดเรียนรูคืออะไร ขั้นที่ 5 การปฏิบัติตามแนวคิดที่ไดเรียนรู ในขั้นนี้ผูสอนเปดโอกาสใหผูเรียนนําความรูความคิดที่ได จากการเรียนรูในขั้นที่ 3-4 มาทดลองปฏิบัติจริง และศึกษาผลที่เกิดขึ้น ขั้นที่ 6 การสรางสรรคชนงานของตนเอง จากการปฏิบัติตามแนวคิดที่ไดเรียนรูในขั้นที่ 5 ผูเรียนจะเกิด   ้ิ การเรียนรูถึงจุดเดนจุดดอยของแนวคิด ความเขาใจแนวคิดนั้นจะกระจางขึ้น ในขั้นนี้ผูสอนควรกระตุนให ผูเรียนพัฒนาความสามารถของตน โดยการนําความรูความเขาใจนั้นไปใชหรือปรับประยุกตใชในการสราง ชิ้นงานที่เปนความคิดสรางสรรคของตนเอง ดังนั้นคําถามหลัก ที่ใชในขั้นที่ 5-6 ก็คือจะทําอยางไร ขั้นที่ 7 การวิเคราะหผลงานและแนวทางการนําไปประยุกตใช เมื่อผูเรียนไดสรางสรรคชิ้นงานของตน ตามความถนัดแลว ผูสอนควรเปดโอกาสใหผูเรียนไดแสดงผลงานของตน ชื่นชมกับความสําเร็จ และเรียนรู ที่จะวิพากษวิจารณอยางสรางสรรค รวมทั้งรับฟงขอวิพากษวิจารณ เพื่อการปรับปรุงงานของตนใหดีขึ้น และการนําไปประยุกตใชตอไป
  • 4. ขั้นที่ 8 การแลกเปลี่ยนความรูความคิด ขั้นนี้เปนขั้นของการขยายขอบขายของความรูโดยการ แลกเปลยนความรความคดแกกนและกน และรวมกนอภิปรายเพื่อการนําการเรียนรูไปเชื่อมโยงกับชีวิตจริง ่ี ู ิ ั ั  ั และอนาคต คําถามหลักในการอภิปรายก็คือ ถา....? ซึ่งอาจนําไปสูการเปดประเด็นใหมสําหรับผูเรี ยนในการ เริ่มตนวัฏจักรของการเรียนรูในเรื่องใหมตอไป
  • 5.
  • 6. สรุปการเรียนรูแบบ 4 MAT มีทั้งหมด 8 ขั้น ขั้นที่1 การสรางประสบการณ  ขั้นที่2 การวิเคราะหประสบการณหรือสะทอนความคิดจากประสบการณ ขั้นที่3 การพัฒนาประสบการณเปนความคิดรวบยอดหรือแนวคิด ขั้นที่4 การพัฒนาความรูความคิด ขั้นที่ 5 การปฏิบัติตามแนวคิดที่ไดเรียนรู ขั้นที่ 6 การสรางสรรคชนงานของตนเอง   ้ิ ขั้นที่ 7 การวิเคราะหผลงานและแนวทางการนําไปประยุกตใช ขั้นที่ 8 การแลกเปลี่ยนความรูความคิด